หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช
ศาสตราจารย์ พลตรี หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช (20 เมษายน พ.ศ. 2454 – 9 ตุลาคม พ.ศ. 2538) เป็นนักปราชญ์ นักเขียน นักการเมือง และศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ. 2528 เขาเป็นน้องชายแท้ ๆ ของ หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี
ศาสตราจารย์ พลตรี หม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช ป.จ., ม.ป.ช., ม.ว.ม. | |
---|---|
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ใน พ.ศ. 2517 ขณะดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภา | |
นายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 13 | |
ดำรงตำแหน่ง 14 มีนาคม 2518 – 12 มกราคม 2519 (0 ปี 304 วัน) | |
กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช |
รองนายกรัฐมนตรี | พลตรี ประมาณ อดิเรกสาร ทวิช กลิ่นประทุม บุญเท่ง ทองสวัสดิ์ |
ก่อนหน้า | หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช |
ถัดไป | หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช |
ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | |
ดำรงตำแหน่ง 29 ธันวาคม 2516 – 7 ตุลาคม 2517 (0 ปี 282 วัน) | |
กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช |
นายกรัฐมนตรี | สัญญา ธรรมศักดิ์ |
ก่อนหน้า | พลตรี ศิริ สิริโยธิน |
ถัดไป | ประภาศน์ อวยชัย |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย | |
ดำรงตำแหน่ง 8 มกราคม 2519 – 20 เมษายน 2519 | |
ก่อนหน้า | บุญเท่ง ทองสวัสดิ์ |
ถัดไป | หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช |
หัวหน้าพรรคก้าวหน้า | |
ดำรงตำแหน่ง 2488–2489 | |
หัวหน้าพรรคกิจสังคม | |
ดำรงตำแหน่ง 20 สิงหาคม 2525 – 22 มกราคม 2529 | |
ถัดไป | พลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา |
ดำรงตำแหน่ง 2 กันยายน 2533 – 9 มิถุนายน 2534 | |
ก่อนหน้า | พลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา |
ถัดไป | มนตรี พงษ์พานิช |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 20 เมษายน พ.ศ. 2454 จังหวัดสิงห์บุรี ประเทศสยาม |
เสียชีวิต | 9 ตุลาคม พ.ศ. 2538 (84 ปี) กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย |
พรรคการเมือง | พรรคก้าวหน้า (2488–2489) พรรคประชาธิปัตย์ (2489–2491) พรรคกิจสังคม (2518-2534) |
บิดา | พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าคำรบ |
มารดา | หม่อมแดง ปราโมช ณ อยุธยา |
คู่สมรส | หม่อมราชวงศ์พักตร์พริ้ง ทองใหญ่ (หย่า) (ถึงแก่กรรม) |
พระราชทานเพลิง | 23 ธันวาคม พ.ศ. 2538 เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย |
ลายมือชื่อ | |
การเข้าเป็นทหาร | |
สังกัด | กองทัพบกไทย |
ประจำการ | 2486-2538 |
ยศ | พลตรี นายกองใหญ่ |
ปลาย พ.ศ. 2551 กระทรวงวัฒนธรรมเสนอชื่อหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์เป็นบุคคลสำคัญของโลกต่อยูเนสโก โดยมีทั้งเสียงสนับสนุน และคัดค้าน ต่อมาในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2552 ยูเนสโกได้ประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์เป็นบุคคลสำคัญของโลก ใน 4 สาขา ได้แก่ การศึกษา วัฒนธรรม สังคมศาสตร์ และสื่อสารมวลชน ในวาระครบรอบ 100 ปี ชาตกาล พ.ศ. 2554 โดยได้รับการประกาศพร้อมกันกับเอื้อ สุนทรสนาน ซึ่งได้รับในวาระครบรอบ 100 ปี ชาตกาล พ.ศ. 2553
ประวัติ
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์เกิดวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2454 ในเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ณ ตำบลบ้านม้า อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เป็นโอรสคนสุดท้อง ในบรรดาโอรส-ธิดา ทั้ง 6 คน ของ พลโท พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าคำรบ กับหม่อมแดง (บุนนาค) ชื่อ "คึกฤทธิ์" นั้นมาจากการที่ชอบร้องไห้เสียงดังในวัยทารก จึงได้รับพระราชทานนามนี้จาก สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
เขาสมรสกับ หม่อมราชวงศ์พักตร์พริ้ง ทองใหญ่ เมื่อ พ.ศ. 2479 มีบุตรธิดา 2 คน คือ หม่อมหลวงรองฤทธิ์ ปราโมช และ หม่อมหลวงวิสุมิตรา ปราโมช ต่อมาได้แยกกันอยู่กับหม่อมราชวงศ์พักตร์พริ้ง
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์พักอยู่ที่บ้านในซอยพระพินิจ ซึ่งเป็นซอยย่อยอยู่ในซอยสวนพลู ถนนสาทรใต้ เขตสาทร บ้านหลังนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า "บ้านซอยสวนพลู"
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์เป็นบุคคลที่มีบุคลิกและบทบาทที่หลากหลาย มีชื่อเสียงในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะการประพันธ์ การแสดง และยังเป็นนักการเมือง เป็นผู้ก่อตั้งพรรคก้าวหน้า เมื่อ พ.ศ. 2488 ต่อมาได้ยุบรวมกับพรรคประชาธิปัตย์ในปีถัดมา ต่อมาก่อตั้งหนังสือพิมพ์สยามรัฐ เมื่อ พ.ศ. 2493 และก่อตั้งพรรคกิจสังคม เมื่อ พ.ศ. 2517 และได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 13 ของประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2518 โดยสามารถเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลทั้งที่มีจำนวน ส.ส. ในมือเพียง 18 คน รัฐบาลคึกฤทธิ์ในครั้งนั้นมี บุญชู โรจนเสถียร ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคกิจสังคม เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีนโยบาย "เงินผัน" เป็นที่รู้จักเลื่องลือทั่วไปในสมัยนั้น
ก่อนดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์เคยรับบทเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประเทศหนึ่ง ชื่อว่าประเทศสารขัณฑ์ ในภาพยนตร์เรื่อง The Ugly American (1963) คู่กับมาร์ลอน แบรนโด เมื่อ พ.ศ. 2506 และหลังพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เขาเคยรับบทเป็นนักแสดงรับเชิญในภาพยนตร์ ผู้แทนนอกสภา กำกับโดย สุรสีห์ ผาธรรม นำแสดงโดย สรพงศ์ ชาตรี เมื่อ พ.ศ. 2526
ระหว่างการเล่นการเมือง หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์มีบุคลิกที่โดดเด่นเป็นตัวของตัวเองที่ทุกคนรู้จักดี คือ วาทะศิลป์ และบทบาทเป็นที่ชวนให้จดจำ เช่น การผวนพูดเล่นชื่อของตัวเองเมื่อมีผู้ถามว่า หมายถึงอะไร โดยตอบว่า "คึกฤทธิ์ ก็คือ คิดลึก" เป็นต้น
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ได้รับฉายาจากนักการเมือง และสื่อมวลชนมากมาย เช่น "เฒ่าสารพัดพิษ" "ซือแป๋ซอยสวนพลู" ภายหลังเมื่อมีอายุ จนสามารถแสดงความเห็นทางการเมือง ได้อย่างตรงไปตรงมา โดยไม่ต้องเกรงกลัวอิทธิพลใด ๆ จึงได้รับฉายาว่า "เสาหลักประชาธิปไตย" นอกจากนี้ อีกฉายาหนึ่งที่ใช้เรียก หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ในบางแห่งคือ "หม่อมป้า"
ในด้านวรรณศิลป์ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ มีผลงานหนังสือที่มีชื่อเสียงระดับประเทศมากมาย ที่ได้รับการตีพิมพ์ซ้ำแล้วซ้ำอีก เช่น สี่แผ่นดิน, ไผ่แดง, กาเหว่าที่บางเพลง, หลายชีวิต, ซูสีไทเฮา, สามก๊กฉบับนายทุน และเรื่องสั้น "มอม" ซึ่งได้ใช้เป็นบทความประกอบแบบเรียนภาษาไทยในปัจจุบัน บางชิ้นมีผู้นำไปทำเป็นละครโทรทัศน์ เช่น สี่แผ่นดิน, หลายชีวิต และทำเป็นภาพยนตร์ เช่น กาเหว่าที่บางเพลง
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2538 ณ โรงพยาบาลสมิติเวช รวมอายุ 84 ปี 172 วัน ต่อมาเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2538 เวลา 17.15 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ พระราชทานเพลิงพระศพ ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 กระทรวงวัฒนธรรมได้เสนอชื่อต่อยูเนสโกให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก สาขา การศึกษา วัฒนธรรม สังคมศาสตร์และสื่อสารมวลชน เนื่องในโอกาสครบรอบชาตกาล 100 ปี ในวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554 นับเป็นคนไทยลำดับที่ 20
การศึกษา
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์เริ่มต้นเรียนหนังสือที่บ้าน กับหม่อมราชวงศ์บุญรับ พี่สาวคนโต จนอ่านภาษาไทยได้ตั้งแต่อายุ 4 ปี กระทั่งเมื่อ พ.ศ. 2458 เขาจึงเข้าศึกษาภาคบังคับ ที่โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย (วังหลัง) จากนั้นเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย และเดินทางไปศึกษาต่อในประเทศอังกฤษ ที่โรงเรียนเทรนต์วิทยาลัย (Trent College) จากนั้นสอบเข้าวิทยาลัยควีนส์ (The Queen's College) แห่งมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด (University of Oxford) เพื่อศึกษาวิชาการปรัชญา การเมือง และเศรษฐศาสตร์ โดยสำเร็จปริญญาตรีเกียรตินิยม และอีกสามปีต่อมา ก็สำเร็จการศึกษาปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน
ผลงานประพันธ์
นวนิยาย
- สี่แผ่นดิน
- ไผ่แดง
- กาเหว่าที่บางเพลง
- ซูสีไทเฮา
- สามก๊กฉบับนายทุน
- ราโชมอน
- ฮวนนั้ง
- โจโฉ นายกตลอดกาล
รวมเรื่องสั้น
- มอม
- เพื่อนนอน
- หลายชีวิต
สารคดี
- ฉากญี่ปุ่น
- ยิว
- เจ้าโลก
- สงครามผิว
- คนของโลก
- ชมสวน
- ธรรมคดี
- น้ำพริก
- ฝรั่งศักดินา
- สรรพสัตว์
- สัพเพเหระคดี
- ข้อคิดเรื่อง เกิด แก่ เจ็บ ตาย
- โครงกระดูกในตู้
- พม่าเสียเมือง
- ถกเขมร
- เก็บเล็กผสมน้อย
- เบ้งเฮ็ก ผู้ถูกกลืนทั้งเป็น
- เมืองมายา
- เรื่องขำขัน
- โจโฉ นายกฯ-ตลอดกาล
- กฤษฎาภินิหารอันบดบังมิได้
- คนรักหมา
- ตลาดนัด
- นิกายเซน
- บันเทิงเริงรมย์
- วัยรุ่น
- สงครามเย็น
- อโรคยา
- สยามเมืองยิ้ม
- ห้วงมหรรณพ
- ขุนช้าง ขุนแผน ฉบับอ่านใหม่
บทละครเวที
- ลูกคุณหลวง
- ราโชมอน
การทำงาน
บทความชีวประวัตินี้เขียนเหมือนประวัติสมัครงาน |
- รับราชการที่กรมสรรพากร
- เลขานุการที่ปรึกษากระทรวงการคลัง
- ผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด สาขาลำปาง (พ.ศ. 2478-2486)
- รับราชการทหาร (เมื่อเกิดสงครามอินโดจีนและสงครามมหาเอเชียบูรพา ได้รับยศ สิบตรี)
- หัวหน้าฝ่ายสำนักผู้ว่าการและหัวหน้าฝ่ายออกบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
- ประธานกรรมการ ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ
- เขียนบทความลงในคอลัมน์ "ซอยสวนพลู"
- อาจารย์พิเศษของคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ประจำ พ.ศ. 2528
- พ.ศ. 2531 เขาได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนยศจากสิบตรี เป็นพลตรี (ทหารราชองครักษ์พิเศษ)
บทบาททางการเมือง
- พ.ศ. 2488-2489 เป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งพรรคการเมืองพรรคแรกในเมืองไทย ชื่อ "พรรคก้าวหน้า"
- ได้ร่วมในคณะผู้ก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์คนแรก
- ได้ริเริ่มจัดตั้งพรรคกิจสังคม
- พ.ศ. 2516 เขาเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และได้รับเลือกเป็นประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
- ใน พ.ศ. 2518 เขาได้จัดตั้งรัฐบาลผสมขึ้น และได้เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
- ใน พ.ศ. 2519 เขาได้ตัดสินใจยุบสภาผู้แทนราษฎร บริหารประเทศประมาณ 9 เดือน
ผลงานที่สำคัญ
บทความชีวประวัตินี้เขียนเหมือนประวัติสมัครงาน |
- หลังเหตุการณ์ 14 ตุลา ขณะที่เป็นนายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการเปิดสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเดินทางไปเยือนกรุงปักกิ่งเมื่อปี พ.ศ. 2518 หลังจากที่ตัดขาดความสัมพันธ์ระดับรัฐบาลมาเป็นเวลานาน
การวิพากษ์วิจารณ์
สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ได้วิพากษ์วิจารณ์ผลงานของ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ โดยเฉพาะ สี่แผ่นดินว่า "ใช้เล่ห์เพทุบาย ในการมอมเมาผู้คนยิ่งกว่าให้ข้อเท็จจริงอย่างสุจริตใจ" ส่วน ไผ่แดง กาเหว่าที่บางเพลง ฮวนนั้ง และซูสีไทเฮา สุลักษณ์ กล่าวว่าเป็นบทประพันธ์ที่ลอกเลียนมาจากภาษาต่างประเทศระดับ "ขโมยหรือปล้นสะดมมาเลยทีเดียว" คำวิพากษ์วิจารณ์นี้อยู่บนพื้นฐานของการวิจัยปัญญาชนไทย 10 คน ซึ่งมีอิทธิพลกับการสร้างจิตสำนึกให้คนไทยร่วมสมัย ซึ่ง หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ และ หลวงวิจิตรวาทการ ก็อยู่ในรายชื่อปัญญาชนของการวิจัยดังกล่าวด้วย
รางวัลและเกียรติยศ
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ได้รับพระราชทานยศกองอาสารักษาดินแดนเป็น นายกองใหญ่ ในฐานะนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ดังนี้
- พ.ศ. 2518 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 1 ปฐมจุลจอมเกล้า (ป.จ.) (ฝ่ายหน้า)
- พ.ศ. 2517 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
- พ.ศ. 2518 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
- พ.ศ. 2528 – เหรียญชัยสมรภูมิ สงครามมหาเอเชียบูรพา (ช.ส.)
- พ.ศ. 2518 – เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ 1 (ส.ช.)
- พ.ศ. 2530 - เหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา สาขาวรรณศิลป์
- พ.ศ. 2530 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 9 ชั้นที่ 1 (ภ.ป.ร.1)
ลำดับสาแหรก
ลำดับสาแหรกของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา,ข่าวในพระราชสำนัก เล่ม 113 ตอนที่ 4 ง หน้า 137 11 มกราคม พ.ศ. 2539
- พระราชทานยศพลตรี
- ↑ ประกาศราชโองการรับตำแหน่งนายกองใหญ่
- วธ.เสนอยูเนสโก"คึกฤทธิ์"บุคคลดีเด่นโลกปี54, สยามรัฐออนไลน์, 16 ธ.ค. 2551
- บทบรรณาธิการ / มหาคุรุ - คึกฤทธิ์ , หนังสือพิมพ์สยามรัฐ
- กองบรรณาธิการ, คึกฤทธิ์คนสำคัญของโลก, คอลัมน์ บังอบายเบิกฟ้า, หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์, 4 ม.ค. 2552
- ชนิตร ภู่กาญจน์, เบื้องหน้า-เบื้องหลัง เสนอชื่อ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นบุคคลสำคัญของโลก (สกู๊ปพิเศษ), หนังสือพิมพ์แนวหน้า, 25 ธ.ค. 2551
- ‘ส.ศิวรักษ์’ ค้านเสนอ ‘ยูเนสโก’ ให้ ‘คึกฤทธิ์’ เป็นบุคคลสำคัญของโลก, หนังสือพิมพ์ประชาไท, 9 ม.ค. 2552
- ด่วน!! ยูเนสโก ยกย่อง “หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์–ครูเอื้อ” เป็นบุคคลสำคัญของโลกแล้ว
- พระบรมราชโองการ แต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญํติแห่งชาติ
- การวิจัยประวัติปัญญาชนไทย ๑๐ คน ซึ่งมีอิทธิพลกับการสร้างจิตสำนึกให้คนไทยร่วมสมัย โดย สายชล สัตยานุรักษ์
- ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ฉบับพิเศษ เล่ม ๙๒ ตอนที่ ๙๕ วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๑๘ หน้า ๑๒
- ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ฉบับพิเศษ เล่ม ๙๑ ตอนที่ ๒๒๙ วันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๑๗ หน้า ๓๘
- ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ฉบับพิเศษ เล่ม ๙๒ ตอน ๒๖๓ง วันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๑๘ หน้า ๔๗
- ราชกิจจานุเบกษา,แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญชัยสมรภูมิ, เล่ม ๑๐๒, ตอน ๑๗๔, ๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๘, หน้า ๒๔๗
- ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน ฉบับพิเศษ เล่ม ๙๓ ตอน ๘ วันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๑๘ หน้า ๑
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา ฉบับพิเศษ เล่ม ๑๐๔ ตอน ๙๙ วันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๓๐ หน้า ๖
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ เล่ม ๑๐๔, ตอน ๒๒๓ ๑๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๐ หน้า ๗๕๕๗
- ชมรมสายสกุลบุนนาค. เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษา (แพ บุนนาค). เรียกดูเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2556
- "หลวงอัครเทพฯ ทวิภพ ที่แท้ "ปู่ทวด" นีโน่!!" (Press release). ASTVผู้จัดการออนไลน์. 18 สิงหาคม 2554. สืบค้นเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2556. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help)
- ชีวประวัติ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่ ฐานข้อมูลภาพยนตร์ไทย
- ตัวอย่างภาพยนตร์ ผู้แทนนอกสภา (2526)
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช |
ก่อนหน้า | หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช | นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย (14 มีนาคม พ.ศ. 2518 – 12 มกราคม พ.ศ. 2519) | หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช | ||
พลตรี ศิริ สิริโยธิน | ประธานรัฐสภา (ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) (29 ธันวาคม พ.ศ. 2516 – 7 ตุลาคม พ.ศ. 2517) | ประภาศน์ อวยชัย | ||
บุญเท่ง ทองสวัสดิ์ | รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (8 มกราคม พ.ศ. 2519 – 20 เมษายน พ.ศ. 2519) | หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช |