fbpx
วิกิพีเดีย

อัลดริช เอมส์

สิงหาคม 05, 2021

อัลดริช เฮเซน เอมส์ (อังกฤษ: Aldrich Hazen Ames; เกิด 26 พฤษภาคม ค.ศ. 1941) เป็นอดีตเจ้าหน้าที่ต่อต้านการข่าวกรองและนักวิเคราะห์ของหน่วยสืบราชการลับกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (CIA) ซึ่งใน ค.ศ. 1994 ถูกตัดสินให้มีความผิดในข้อหาเป็นสายลับให้กับสหภาพโซเวียตและรัสเซีย จนกระทั่งการจับกุมตัวโรเบิร์ต แฮนเซ็นในอีก 7 ปีต่อมา เอมส์เป็นคนที่ทำให้สายของ CIA ต้องตกอยู่ในอันตรายมากกว่าสายลับโซเวียตทั้งหมดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา

Aldrich Ames
เกิด26 พฤษภาคม ค.ศ. 1941 (80 ปี)
ริเวอร์ฟอลส์, วิสคอนซิน, สหรัฐอเมริกา
อาชีพอดีตเจ้าหน้าที่ CIA และนักวิเคราะห์และสายลับของสหภาพโซเวียตและต่อมารัสเซีย
สถานะทางคดี
จำคุก
คู่สมรสแนนซี เซเกบาร์ท (หย่า)
โรซาริโอ ดูพุย
บิดามารดาคาร์ลตัน เซซิล เอมส์
เรเชล อัลดริช เอมส์
ข้อหา18 U.S.C. § 794(c) (รัฐบัญญัติจารกรรม)
บทลงโทษจำคุกตลอดชีวิต (โดยไม่มีทันฑ์บน)

ขณะที่ทำงานในแผนกต่อต้านข่าวกรองของ CIA เป็นเวลา 9 ปี เขาประกาศรายรับต่อปีไว้ที่ 60,000 ดอลลาร์ แต่กลับมีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตถึง 30,000 เหรียญต่อเดือน และมีชีวิตอย่างหรูหรา ซึ่งรวมไปถึงการซื้อรถจากัวร์คันใหม่และบ้านราคา 540,000 ดอลลาร์ ด้วยเงินสด

ประวัติ

ชีวิตและการทำงานในวัยเด็กและวัยหนุ่ม

อัลดริช เอมส์เกิดที่เมืองริเวอร์ฟอลส์ รัฐวิสคอนซิน เป็นบุตรของคาร์ลตัน เซซิล เอมส์ บิดา และเรเชล เมส์ (อัลดริช) มารดา บิดาของเขาเป็นอาจารย์วิทยาลัย ส่วนมารดาของเขาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษในไฮสคูล อัลดริชเป็นบุตรของโตจากทั้งหมดสามคนและเป็นบุตรชายเพียงคนเดียว ใน ค.ศ. 1952 คาร์ลตัน เอมส์ เริ่มทำงานให้กับหน่วยอำนวยการปฏิบัติการณ์ของ CIA ในเวอร์จิเนีย และใน ค.ศ. 1953 ได้รับมอบหมายให้ประจำการที่ภูมิภาคเอชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นเวลาสามปีพร้อมกับครอบครัว คาร์ลตันได้รับผลการประเมินการปฏิบัติงานในแง่ลบเป็นอย่างมาก ส่วนหนึ่งเนื่องจากปัญหาติดสุราเรื้อรัง ทำให้เขาถูกส่งกลับไปอยู่ที่สำนักใหญ่ CIA ตลอดอาชีพที่เหลือ

อัลดริช เอมส์เรียนไฮสคูลที่โรงเรียนไฮสคูลแม็คลีน ที่เมืองแม็คลีน รัฐเวอร์จิเนีย เริ่มต้นใน ค.ศ. 1957 ขณะที่เขาอยู่ปีสอง เอมส์ทำงานให้ CIA เป็นเวลาสามฤดูร้อน ในตำแหน่งนักวิเคราะห์บันทึกระดับต่ำ (GS-3) โดยมีหน้าที่ทำเครื่องหมายเอกสารลับเพื่อนำไปเก็บ ในปี 1959 เอมส์เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยชิคาโก โดยวางแผนที่จะเรียนวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ต่างชาติ แต่ความปรารถนาที่มีมาเนิ่นนานในการแสดงละครทำให้ผลการเรียนของเขาตกต่ำลง ทำให้เขาเรียนไม่จบปีสอง เอมส์ทำงานที่ CIA ในฤดูร้อนของปี 1960 ในตำแหน่งผู้ใช้แรงงานและช่างทาสี จากนั้นเขาก็ผันตัวเองมาเป็นผู้ช่วยผู้กำกับด้านเทคนิคที่โรงละครชิคาโกจนกระทั่งปี 1962 เขาก็กลับมายังละแวกวอชิงตัน แล้วทำงานเต็มเวลาให้กับ CIA อีกครั้ง ในตำแหน่งเชิงเสมียน ทำนองเดียวกับที่เขาทำสมัยไฮสคูล

อาชีพที่ CIA

ห้าปีต่อมา เอมส์สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาวิชาประวัติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน เริ่มแรกเอมส์ไม่ได้วางแผนที่จะใช้ชีวิตไปกับการทำงานให้ CIA แต่หลังจากได้เลื่อนขั้นมาเป็นระดับ GS-7 และได้รับผลการประเมินการปฏิบัติงานยอดเยี่ยม เอมส์ก็ได้รับการอนุมัติให้เข้าสู่โครงการฝึกอาชีพ แม้ว่าจะมีปัญหากับตำรวจเรื่องการเมาสุราหลายครั้ง

ในปี 1969 เอมส์แต่งงานกับเจ้าหน้าที่แนนซี เซเกบาร์ธ ที่เขาเจอที่โครงการฝึกอาชีพ เมื่อเอมส์ได้รับมอบหมายให้ไปประจำการที่กรุงอังคารา ประเทศตุรกี แนนซีจึงต้องลาออกจาก CIA เนื่องจากกฎที่ห้ามมิให้คู่สมรสทำงานในสำนักงานเดียวกัน

งานของเอมส์ที่ตุรกึคือการหาและเกณฑ์เจ้าหน้าที่ข่าวกรองของโซเวียต เขาประสบความสำเร็จในการแทรกซึมเข้าไปในองค์กรคอมมิวนิสต์ DEV-GENÇ โดยแทรกซึมผ่านนักศึกษาและนักปฏิบัติการหัวรุนแรง เดนิซ กิชมิช แม้ว่าจะประสบความสำเร็จ ผลการปฏิบัติงานของเอมส์กลับออกมาแค่ระดับน่าพึงพอใจ ทำให้เอมส์ ผู้ซึ่งถูกผลการประเมินบั่นทอนกำลังใจ คิดจะออกจาก CIA

ในปี 1972 เอมส์กลับไปที่สำนักงานใหญ่ CIA ที่ซึ่งเขาใช้เวลาสี่ปีต่อมาในแผนกโซเวียต-ยุโรปตะวันออก (Soviet-East Europe; SE) ผลการประเมินการปฏิบัติงานของเขาอยู่ในระดับกระตืนรือร้นดี เนื่องมาจากเขาเก่งในด้านการจัดการเอกสารและวางแผนปฏิบัติการภาคสนามมากกว่าการเกณฑ์สายลับ อย่างไรก็ตาม ปัญหาการดื่มสุรามากเกินไปได้รับการกล่าวถึง และมีเอกสารลับเพียงแค่สองฉบับเท่านั้นที่อยู่ในแฟ้มของเขา

ในปี 1976 เอมส์ได้รับมอบหมายให้ไปประจำอยู่ที่นิวยอร์กซิตีเพื่อดูแลสายลับคนสำคัญสองคนจากโซเวียต ผลงานของเขายอดเยี่ยมมาก ทำให้เอมส์ได้รับการเลื่อนตำแหน่งและโบนัสหลายขั้น และทำให้อันดับของเขาขึ้นมาอยู่เหนือกว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการในระดับเดียวกับเขา แต่นิสัยชอบเลื่อนส่งบัญชีการเงินของเขาถูกกล่าวถึง ความไม่ใส่ใจในรายละเอียดของเอมส์ทำให้เขาฝ่าฝืนกฎด้านความปลอดภัยขั้นร้ายแรงถึงสองครั้ง รวมถึงครั้งหนึ่งที่เขาทิ้งกระเป๋าใส่อุปกรณ์ทำภารกิจลับไว้บนรถไฟใต้ดิน แต่เอมส์แค่ถูกตักเตือนเท่านั้น

ในปี 1981 เอมส์รับงานที่เม็กซิโกซิตี ในขณะที่ภรรยาของเขายังคงอาศัยอยู่ในนิวยอร์ก ผลการประเมินงานของเขาที่เม็กซิโกอยู่ในระดับมากสุดแค่พอใช้ และเขายังมีกิจกรรมเชิงชู้สาวนอกสมรสอย่างน้อยสามครั้ง ในเดือนตุลาคม ปี 1982 เอมส์เริ่มมีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับมาเรีย เดล โรซาริโอ คาซัส ดูพุย เจ้าหน้าที่ฝ่ายวัฒนธรรมของสถานทูตโคลัมเบีย และสายข่าวของ CIA ถึงจะมีการระบุไว้ในข้อบังคับของ CIA แต่เขาก็ไม่ยอมรายงานเรื่องความสัมพันธ์กับคนต่างชาติให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ แม้ว่าเพื่อนร่วมงานของเขาจะรู้เรื่องดังกล่าวดีก็ตาม ผลประเมินการปฏิบัติงานที่ไม่โดดเด่นของเอมส์ส่วนหนึ่งมีผลสืบเนื่องมาจากการดื่มสุราอย่างหนัก ในงานต้อนรับทูตที่เม็กซิโกซิติ เอมส์ผู้กำลังเมาสุราไปทะเลาะเสียงดังใส่เจ้าหน้าที่คิวบา ทำให้ผู้บังคับบัญชาของเขาตื่นตระหนก

อย่างไรก็ตาม ในเดือบกันยายน ปี 1983 CIA มอบหมายให้เอมส์กลับไปประจำที่แผนก SE ในวอชิงตัน ซึ่งทำให้เขาอยู่ในตำแหน่งที่ละเอียดอ่อนที่สุดในกรมปฏิบัติการเพราะเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบกิจกรรมต่อต้านข่าวกรองของโซเวียต เอมส์สามารถเข้าถึงแผนและปฏิบัติการณ์ของ CIA ที่มีต่อ KGB และ GRU หน่วยข่าวกรองทหารของโซเวียต

ในเดือนตุลาคม เขาแยกทางกับภรรยาอย่างเป็นทางการ และในเดือนพฤศจิกายน เขาจึงส่งรายงานถึงกิจกรรมนอกองค์กรว่าด้วยความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับโรซาริโอให้กับ CIA ในข้อตกลงหย่า เอมส์ตกลงที่จะรับภาระหนี้ของคู่สมรสและจ่ายเงินรายเดือนเพื่อสนับสนุนภรรยาเป็นเวลาสามปีครึ่ง รวมเป็นเงินประมาณ 46,000 ดอลลาร์ เอมส์คิดว่าการหย่าร้างอาจทำให้เขาต้องล้มละลาย ซึ่งเขาบอกว่าความกดดันด้านการเงินที่มาจากข้อตกลงนี้ทำให้เขาเริ่มพิจารณาการไปเป็นสายลับให้กับสหภาพโซเวียต นอกจากนี้ เขายังพบโรซาริโอเป็นคนใช้เงินเยอะ หลังจากที่เธอถูกจับกุม FBI ตรวจภาพกระเป๋าสตางค์กว่า 60 อันในบ้านของเอมส์ และยังมีรองเท้าอีกกว่า 500 คู่ กับถุงน่องที่ยังไม่ได้ใช้อีก 165 กล่อง

การจารกรรม

เอมส์ให้ความช่วยเหลือตามหน้าที่ กับสำนักงาน CIA ที่คอยประเมินเจ้าหน้าที่ทูตของโซเวียตว่ามีแนวโน้มว่าจะเป็นสายข่าวให้ได้ ส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบของเขาคือการสร้างช่องทางการติดต่อกับสถานทูตโซเวียต ซึ่งเป็นข้อมูลที่ทั้ง CIA และ FBI ทราบดี ในเดือนเมษายน ปี 1985 เอมส์นำข้อมูลที่เขาเชื่อว่า "โดยเนื้อแท้แล้วไม่มีคุณค่า" แต่ดีพอที่จะสร้างความน่าเชื่อถือในฐานะคนในของ CIA กับให้กับพวกโซเวียต เขายังขอเงิน 50,000 เหรียญเป็นค่าตอบแทน ซึ่งพวกโซเวียตยินดีจ่ายอย่างรวดเร็ว

เอมส์อ้างในภายหลังว่าเขาไม่ได้เตรียมตัวไปมากกว่า "การต้มตุ๋น" ในเริ่มแรกเพื่อล้างหนี้ที่เขามีอยู่ในตอนนั้น แต่เมื่อล้ำเส้นไปแล้ว เขาไม่สามารถย้อนกลับมาได้ เอมส์เริ่มชี้แหล่งข่าวระดับสูงสุดของ CIA และ FBI ที่รายงานกิจกรรมของโซเวียตมากกว่าสิบคน ไม่เพียงแต่เอมส์จะเชื่อว่าเขาจะมีเงินมากกว่าที่จะใช้หมด เพื่อแลกกับการทรยศสายข่าวกรองเหล่านี้ แต่การกำจัดสายข่าวเหล่านั้นจะช่วยลดโอกาสที่การจารกรรมของเขาจะถูกค้นพบอีกด้วย

เมื่อมาถึงปี 1985 เครือข่ายสายลับในฟากฝั่งโซเวียตเริ่มหายตัวไปในอัตราที่น่าตกใจ CIA รู้ว่ามีอะไรผิดปกติแต่ไม่อยากพิจารณาความเป็นไปได้ว่ามีหนอนบ่อนไส้อยู่ในองค์กร การสืบสวนเบื้องต้นมุ่งเน้นไปที่ช่องโหว่ที่อาจเกิดจากเครื่องดังฟังของโซเวียต หรือรหัสถูกถอดได้

จากนั้น CIA ก็โทษอดีตเจ้าหน้าที่ CIA เอ็ดเวิร์ด ลี ฮาวเวิร์ด ว่าเป็นคนที่ทำให้สูญเสียสายข่าว เนื่องจากเขาเป็นคนส่งข้อมูลไปให้พวกโซเวียตเช่นกัน แต่เมื่อ CIA สูญเสียแหล่งข่าวสำคัญอีกสามแหล่ง ซึ่งเป็นข้อมูลที่ฮาวเวิร์ดไม่มีทางทราบได้ จึงเป็นที่ประจักษ์ว่าการจับตัวสายข่าวมีที่มาจากต้นตออื่น

เจ้าหน้าที่ CIA คนหนึ่งกล่าวว่า "พวกโซเวียตจัดการเก็บสายของเราแบบล้างบาง" ซึ่งไม่ธรรมดาเป็นอย่างมากเพราะว่า "เป็นสิ่งที่รู้กันดีในหมู่ผู้จับสายลับขององค์กรว่าการกำจัดสายข่าวทั้งหมดในทันทีจะทำให้หนอนบ่อนไส้ตกอยู่ในอันตราย" ซึ่งทำให้คนดูแลสายข่าวของ KGB ขอโทษเอมส์ แต่กล่าวว่าการตัดสินใจที่จะกำจัดสายข่าวอเมริกันทั้งหมดมาจากนักการเมืองระดับสูงสุด

ในขณะเดียวกัน เอมส์ยังคงพบปะกับเซอร์เก ดิมิเทรวิช ชูวาคิน คนที่เขาติดต่อด้วยที่สถานทูตโซเวียต และในระยะเวลาหนึ่ง เขาได้รายงานสรุปให้ CIA และ FBI ถึงความคืบหน้าของเขาในการพยายามที่จะเกณฑ์เซอร์เกเป็นสาย แต่ที่จริงแล้ว ทุกครั้งที่พวกเขาพบกันเพื่อทานอาหารกลางวัน เอมส์จะได้รับเงิน 20,000 ถึง 50,000 ดอลลาร์ทุกครั้ง ท้ายที่สุดแล้ว เอมส์ได้รับเงินถึง 4.6 ล้านเหรียญจากพวกโซเวียต ซึ่งทำให้เขาสามารถใช้ชีวิตได้หรูหรากว่าเจ้าหน้าที่ CIA คนอื่นๆ

เมื่อเอมส์อยู่ในสถานะหย่าร้างอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม ปี 1985 เขาก็แต่งงานกับมาเรีย เดล โรซาริโอในทันที เขาเข้าใจว่าเงินจำนวนมากที่เขาเพิ่งได้มาจะทำให้มีพิรุธ เขาจึงแต่งเรื่องบังหน้าว่าทรัพย์สินที่เขาได้มานั้นมาจากครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวยของภรรยาชาวโคลับเบียนของเขา

เอมส์ได้ไปประจำการที่โรมในปี 1986 ซึ่งผลประเมินงานของเขาที่นั่นออกมาในระดับพอใช้หรือแย่อีกครั้ง และยังมีหลักฐานเกี่ยวกับปัญหาติดสุรา อย่างไรก็ตาม ในช่วงปี 1990 ถึง 91 เอมส์ถูกส่งกลับไปประจำแผนกวิเคราะห์ของศูนย์ต่อต้านข่าวกรองของ CIA ซึ่งทำให้เขาสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งรวมไปถึงข้อมูลเกี่ยวกับสายลับสองหน้าของสหรัฐฯ

การตอบโต้ของ CIA

 
กล่องจดหมายเลียนแบบกล่องที่เอมส์ใช้ โดยเอมส์จะใช้ชอล์กขีดเส้นขวางบนสัญลักษณ์ของการไปรษณีย์สหรัฐฯ เพื่อส่งสัญญาณว่าให้พบกัน ในรูปนี้ระบุว่าให้พบกันที่ถนน 37 ตัด R ตะวันตกเฉียงเหนือ (37th and R St. NW) กล่องที่ถูกใช้จริงๆ ปัจจุบันจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์สายลับ

ในปี 1990 CIA แน่ใจแล้วว่ามีหนอนบ่อนไส้อยู่ในองค์กรของตนเอง การเกณฑ์สายลับโซเวียตต้องหยุดลงเพราะกลัวว่าองค์กรจะไม่สามารถคุ้มกันสายข่าวที่มีอยู่ได้

ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤศจิกายน ปี 1989 เพื่อนร่วมงานของเอมส์รายงานว่าเขามีความเป็นอยู่ที่หรูหราเกินกว่าเจ้าหน้าที่ CIA ควรจะมี และครอบครัวภรรยาของเขาไม่ได้ร่ำรวยอย่างที่เขาอ้างไว้ แต่ถึงกระนั้น CIA ก็ไม่ได้เร่งรีบ เมื่อผู้สอบสวนการเงินของเอมส์ต้องไปเข้าโครงการฝึกงานเป็นเวลาสองเดือน ไม่มีใครมาแทนที่เขาในทันที ผู้สืบสวนยังถูกลวงด้วยเรื่องของเจ้าหน้าที่ CIA นอกประเทศที่อ้างว่าพวกโซเวียตสามารถเจาะเข้าไปใน CIA ด้วยลูกจ้างที่เกิดในสหภาพโซเวียต

ในปี 1986 และ 1991 เอมส์ผ่านการทดสอบโดยเครื่องโพลีกราฟ (เครื่องจับเท็จ) ระหว่างที่เขาเป็นสายลับให้กับสหภาพโซเวียตและรัสเซีย เริ่มแรกนั้นเอมส์กลัวที่จะต้องทำการทดสอบ แต่ KGB แนะนำว่าให้เขา "ทำตัวตามสบาย" การทดสอบของเอมส์แสดงให้เห็นถึงคำตอบหลอกในบางคำถาม แต่คนทดสอบปล่อยให้เขาผ่าน CIA ให้ความเห็นในภายหลังว่าเนื่องจากผู้ทดสอบ "เป็นมิตรมากเกินไป" ทำให้ผลการตอบสนองทางจิตไม่ไปในทางที่ควรจะเป็น

CIA เพ่งเล็งเอมส์ด้านการเงิน หลังจากที่รู้ว่าเอมส์ ผู้ได้รับรายได้ 60,000 เหรียญต่อปี สามารถซื้อ

  • บ้านราคา 540,000 ดอลลาร์ที่เมืองอาร์ลิงตัน, เวอร์จิเนีย ซึ่งเขาจ่ายด้วยเงินสด
  • รถยนต์จากัวร์ราคา 50,000 เหรียญ
  • ค่าตกแต่งและออกแบบบ้านใหม่ราคา 99,000 เหรียญ
  • ค่าโทรศัพท์มือถือมากกว่า 6,000 เหรียญ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการโทรของภรรยาของเอมส์ ไปหาครอบครัวของเธอในโบโกตา, โคลัมเบีย
  • ชุดสูทตัดเข้ารูป แทนเสื้อผ้าที่ "ซื้อมาจากกระบะลดราคาของห้างสรรพสินค้า" ของเขา ซึ่งมีคุณภาพดีกว่าเพื่อนร่วมงานที่ CIA ของเขาอย่างเห็นได้ชัด
  • ค่าใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตแบบพรีเมียมที่มากกว่าเงินเดือนของเขา

การจับกุม

 
รูปถ่ายหน้าตรงของเอมส์ ถูกถ่ายในวันที่เขาถูกจับ

ในที่สุด ในเดือนมีนาคม ปี 1993 CIA และ FBI เริ่มการสืบสวนเอมส์อย่างละเอียด ซึ่งวิธีการรวมไปถึงการสังเกตการณ์ผ่านทางอิเล็กโทรนิค, การคุ้ยขยะของเขา และการติดเครื่องติดตามที่รถของเขาเพื่อติดตามความเคลื่อนไหว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึงการจับกุมเขา เอมส์ตกอยู่ในการสอดส่องโดยคนแทบจะตลอดเวลา ในช่วงต้นปี 1994 เขามีตารางต้องไปร่วมการประชุมที่มอสโค FBI เชื่อว่าไม่สามารถรอได้อีกต่อไป ทำให้ตัวเขาและภรรยาถูกจับกุมในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ปี 1994 ขณะที่ถูกจับกุม เอมส์บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า "คุณกำลังทำผิดพลาดครั้งใหญ่ คุณต้องจับคนผิดแน่ๆ"

ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ปี 1994 เอมส์และภรรยาของเขาถูกตั้งข้อกล่าวหาโดยกระทรวงยุติธรรมแห่งสหรัฐอเมริกาในข้อหาเป็นสายลับให้กับสหภาพโซเวียตและรัสเซีย เอมส์อาจจะได้รับโทษประหารชีวิตเนื่องจากการทรยศของเขาทำให้สายข่าวของ CIA ตายไปหลายราย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเขารับสารภาพในวันที่ 28 เมษายน เขาจึงได้รับโทษแค่จำคุกตลอดชีวิต ส่วนภรรยาของเขาต้องโทษจำคุก 5 ปีในข้อหาหนีภาษีและสมคบคิดเพื่อทำการจารกรรม ซึ่งเอมส์ได้ตกลงเอาไว้เพื่อแลกกับคำสารภาพของเขา

ในศาล เอมส์ยอมรับว่าเขาทำให้ "สายลับชนชาติโซเวียต, อเมริกันและชาติอื่นๆ ซึ่งขึ้นตรงต่อ CIA แทบทุกคนที่เขารู้จักต้องตกอยู่ในอันตราย" และได้ให้ "ข้อมูลเป็นจำนวนมาก เกี่ยวกับนโยบายด้านการต่างประเทศ, การป้องกันประเทศและความมั่นคงของชาติสหรัฐอเมริกา ให้กับสหภาพโซเวียตและรัสเซีย เป็นที่ประมาณการณ์กันว่าข้อมูลที่เอมส์ให้กับโซเวียตทำให้ปฏิบัติการข่าวกรองของสหรัฐฯ อย่างน้อยหนึ่งร้อยปฏิบัติการต้องตกอยู่ในอันตราย และทำให้แหล่งข่าวของสหรัฐฯ อย่างน้อย 10 คนถูกประหารชีวิต

หลังได้รับโทษ

เอมส์เป็นนักโทษหมายเลข #40087-083 ของสำนักงานทันฑสถานกลาง รับโทษอยู่ที่ทันฑสถานสหรัฐอเมริกาอัลเลนวูด ใกล้กับเมืองอัลเลนวูด รัฐเพนซิลเวเนีย

CIA ถูกติที่ไม่เพ่งเล็งเอมส์ให้เร็วกว่านี้ ทั้งๆ ที่คุณภาพชีวิตของเขาดีขึ้นกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด และยังทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ขนานใหญ่ในรัฐสภา เมื่อผู้อำนวยการ CIA เจมส์ วูลซีตัดสินใจว่าจะไม่มีการปลดหรือลดขั้นเจ้าหน้าที่ในองค์กร วูซีประกาศว่า "คนบางคนร้องขอให้คนถูกทำโทษ เพื่อที่เราจะได้พูดว่ามีคนที่ถูกทำโทษแล้ว ขอโทษ แต่นั่นไม่ใช่ทางของผม" วูซีถูกบังคับให้ลาออกในเวลาต่อมา

เพลโต คาเคริส ทนายของเอมส์ ขู่ที่จะฟ้องร้อง FBI เรื่องการตรวจค้นและอายัติทรัพย์สินในบ้านและที่ทำงานของเอมส์โดยไม่มีหมายศาล แต่เนื่องจากเอมส์รับสารภาพผิด คำขู่นี้จึงหมดความสำคัญไป ต่อมารัฐสภาจึงผ่านกฎหมายใหม่เพื่อให้อำนาจนั้นกับศาลสอดส่องข่าวกรองต่างชาติ

เรื่องของเอมส์ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ Aldrich Aims: Traitor Within ในปี 1998 โดยทิโมธี ฮัตตัน รับบทเป็นเอมส์ เอมส์ยังถูกนำไปเป็นตัวละครในนิยายของเฟรเดอริค ฟอร์ไซท์ในปี 1997 เรื่อง Icon ซึ่งในเรื่องเขาทรยศสายลับโซเวียตหลายคนที่ถูกสหรัฐอเมริกาเกณฑ์เป็นสายให้

แหล่งข่าวของ CIA ที่ถูกทรยศ

  • วิทาลี เยอร์เชนโกเป็นเจ้าหน้าที่ KGB ในแผนกที่ 5 ของหน่วยอำนวยการ K ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ KGB ระดับชั้นสูงสุดที่หนีมาเข้าข้างสหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคม ปี 1985 เขาหลบหนีออกนอกประเทศผ่านโรมมายังสหรัฐฯ ก่อนที่จะถูกส่งกลับประเทศเดิมในอีกสามเดือนต่อมา เอมส์เป็นผู้เดียวที่ทราบถึงข้อมูลทั้งหมดที่เยอร์เชนโกให้กับ CIA และสามารถส่งต่อข้อมูลดังกล่าวไปให้ KGB ทำให้สามารถปกปิดข้อมูลที่หายไปได้อย่างง่ายดาย เมื่อกลับไปถึงสหภาพโซเวียต เยอร์เชนโกถูกย้ายให้ไปทำงานนั่งโต๊ะในหน่วยอำนวยการบังคับบัญชาที่ 1 (FCD) เพื่อเป็นรางวัลที่ช่วยรักษาสถานภาพสายลับของเอมส์ได้
  • ในช่วงกลางทศวรรษที่ 80 พลตรีดิมิทรี โพลยาคอฟเป็นสายข่าวของ CIA ที่ดำรงตำแหน่งระดับสูงสุดในหน่วยข่าวกรองโซเวียต (GRU) เขาถูกประหารชีวิตในปี 1988 หลังจากที่เอมส์เปิดโปงเขา เขาน่าจะเป็นสายข่าวที่มีค่าที่สุดที่เอมส์ทำให้ตกอยู่ในอันตราย เจ้าหน้าที่ CIA คนหนึ่งพูดถึงโพลยาคอฟว่า "เขาไม่ได้ทำเพื่อเงิน เขายืนยันที่จะอยู่ในตำแหน่งเดิมเพื่อช่วยเรา"
  • พันเอกโอเลก กอร์เดียฟสกี เป็นหัวหน้า rezidentura (ผู้อาศัย) ในลอนดอนและเป็นสายลับให้กับหน่วยข่าวกรองราชการลับแห่งสหราชอาณาจักร (MI6) เอมส์ส่งข้อมูลเกี่ยวกับกอร์เดียฟสกีที่ทำให้สามารถระบุตัวกอร์เดียฟสกีว่าเป็นผู้ทรยศได้ แต่กอร์เดียฟสกีสามารถหลบหนีไปยังชายแดนของฟินแลนด์ ที่ซึ่งเขาถูกส่งตัวไปยังสหราชอาณาจักรผ่านนอร์เวย์โดย MI6 ก่อนที่เขาจะถูกควบคุมตัวในรัสเซีย
  • วาเลรี มาร์ทินอฟ เป็นเจ้าหน้าที่สาย X (ข่าวกรองวิทยาศาสตร์และเทคนิค) ของวอชิงตันเรซิเดนทูรา มาร์ทินอฟเปิดเผยตัวตนของเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของโซเวียตกว่า 50 นายที่ปฏิบัติการนอกสถานทูต และยังให้ชื่อของเป้าหมายด้านวิทยาศาสตร์และเทคนิคที่ KGB สามารถเจาะเข้าไปได้ เอมส์ส่งชื่อมาร์ทินอฟให้ KGB และเขาถูกประหารชีวิต เอมส์ส่งชื่อมาร์ทินอฟให้ KGB ทำให้เขาถูกประหารชีวิต
  • พันตรีเซอร์เก โมโทรินเป็นเจ้าหน้าที่สาย PR (ข่าวกรองการเมือง) ของวอชิงตันเรซิเดนทูราที่ FBI ขู่กรรโชกให้เป็นสายลับให้สหรัฐฯ ในที่สุดแล้ว เขาให้ความร่วมมือด้วยเหตุผลส่วนตัว โมโทรินเป็นหนึ่งในสองสายข่าวที่เรซิเดนทูราที่ถูกทรยศโดยเอมส์ และถูกประหารอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา
  • พันเอกลีโอนิด โพลิชชุคเป็นเจ้าหน้าที่สาย KR (ต่อต้านข่าวกรอง) ในไนจีเรีย เขาก็เป็นอีกคนที่ถูกเอมส์ทรยศ เขาถูกจับกุมด้วยความบังเอิญเมื่อสายลับ KGB ที่ไปเฝ้าสังเกตการทิ้งข้อมูล (dead drop) ของสายลับ CIA เห็นโพลิชชุคมารับข้อมูล
  • เซอร์เก เฟดอเรนโกเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธนิวเคลียร์ที่ได้รับมอบหมายให้ไปเป็นตัวแทนของโซเวียตในองค์การสหประชาชาติ ในปี 1987 เอมส์ได้รับมอบหมายให้ดูแลเขา และเฟเดอเรนโกก็ทรยศโดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการขีปนาวุธของโซเวียตให้กับเอมส์ ทั้งสองคนกลายเป็นเพื่อนที่ดี ถึงกระทั่งกอดกันเมื่อเฟเดอเรนโกกำลังจะกลับมอสโค เอมส์กล่าวว่า "เรากลายเป็นเพื่อนสนิทกัน เราเชื่อใจกันอย่างสนิทใจ" ในตอนแรกเอมส์ลังเลที่จะทรยศเพื่อน แต่หลังจากที่ส่งข้อมูลแทบทั้งหมดไปให้โซเวียตแล้ว เขาได้ตัดสินใจที่จะทรยศเฟเดอเรนโกเพื่อสร้างผลงานให้ KGB ได้เห็น แต่เฟเดอเรนโกสามารถใช้เส้นสายทางการเมืองเพื่อเอาตัวรอดจากปัญหาดังกล่าวได้ หลายปีต่อมา เฟเดอเรนโกพบกับเอมส์อีกครั้ง โดยไปรับประทานอาหารเที่ยงด้วยกัน โดยที่เฟเดอเรนโกสัญญาว่าจะย้ายมาที่สหรัฐฯ อย่างถาวร หลังจากอาหารมื้อนั้นไม่นาน เอมส์ก็ทรยศเขาให้ KGB เป็นครั้งที่สอง เฟเดอเรนโกสามารถหลบหนีการจับกุม และหนีออกนอกประเทศมาได้ และปัจจุบันอาศัยอยู่ที่โรดไอแลนด์

อ้างอิง

  1. "Aldrich Ames Criminal Complaint". jya.com. สืบค้นเมื่อ 2011-03-19.
  2. Robinson, Stephen. Books:The disreputable drunk who betrayed America, The Sunday Telegraph 2 กรกฎาคม 1995
  3. An Assessment of the Aldrich H. Ames Espionage Case and Its Implications for U.S. Intelligence: Report Prepared by the Staff of the Select Committee on Intelligence, United States Senate [84-046] (Washington: U. S. Government Printing Office, 1994), 4.
  4. "Assessment," 4.
  5. "Assessment," 5; "Ames, Aldrich Hazen Biography". S9.com. สืบค้นเมื่อ 2010-05-07.
  6. "Assessment," 5. ถึงกระนั้น แนนซี เอมส์ก็ทำงานเชิงจัดการนอกเวลาที่ สนง. ของสามีของเธอ
  7. Suzal, Savas (1997-03-02). "Disislerinde CIA Köstebegi". Sabah. สืบค้นเมื่อ 2008-10-13. เอมส์ทำการจ่ายเงินแลกข้อมูลซึ่งมีชื่อของสมาชิก DEV-GENÇ ที่กิชมิชรู้จักรวมไปถึงรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมของพวกเขา
  8. "Assessment," 6.
  9. "Assessment," 6. ที่งานเลี้ยงคริสต์มาสในปี 1974 เอมส์ถูกพบว่ามีอาการเมาสุรา และอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมกับลูกจ้างหญิง CIA
  10. "Assessment," 6-7.
  11. "Assessment," 8.
  12. ↑ "Assessment," 8-9.
  13. Maas, 222-23.
  14. "Assessment," 11-13.
  15. "Assessment," 13-14.
  16. ↑ Powell, Bill (2002-11-01), Treason: How a Russian Spy Led an American Journalist to a U.S. Double Agent, Simon & Schuster, ISBN 0-7432-2915-0
  17. "Assessment," 14-15.
  18. "Assessment," 15-16.
  19. "Assessment," 18-19. เพื่อฝากเงิน เอมส์เปิดบัญชีไว้ในหลายๆ ธนาคารและแบ่งเงินสดออกเป็นทีละ 10,000 เหรียญ เพื่อหลีกเลี่ยงการแจ้งต่อธนาคารตามข้อกำหนด
  20. "Assessment," 19.
  21. "Assessment," 33-35. ผู้บังคับบัญชาของเอมส์ในเวลานั้นทราบดีถึงปัญหาติดสุราของเขา และนิสัยชอบหลับที่โต๊ะทำงาน แต่ผลประเมินการปฏิบัติงานประจำปีแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่มีประสิทธิภาพอย่างสม่ำเสมอ
  22. "Assessment," 40-41.
  23. "Analysis," 48. การสืบสวนเรื่องนี้ได้ผลสรุปออกมาว่า ปลอมแปลงด้วยเหตุผลด้านการเสริมภาพลักษณ์อาชีพและด้านการเงิน
  24. "Assessment," 44-45; Weiner, Johnston & Lewis 1995, pp. 89–90 KGB แนะนำให้เอมส์นอนพักผ่อนให้เต็มอิ่ม ทำตัวให้สดชื่นและพักผ่อนให้เต็มที่ ให้ความร่วมมือกับผู้ทดสอบ เป็นมิตรกับผู้ทดสอบ และพยายามสงบจิตใจให้สบายที่สุดเท่าที่จะเป็นได้
  25. "Assessment," 45-46. พีท เออร์ลีอธิบายว่าเอมส์สามารถโน้มน้าวตัวเองให้เชื่อว่าคำตอบที่ตัวเองให้เป็นความจริง นอกจากนี้ CIA (ยกเว้นเจ้าหน้าที่แค่ไม่กี่คน) ไม่ได้พยายามที่จะไขคดีอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นเครดิตการคลี่คลายคดีควรจะเป็นของ FBI Christopher Lehmann-Haupt, "Aldrich Ames: Brilliant or Bumbling?" New York Times, 24 กุมภาพันธ์ 1997, review of Pete Early, Confessions of a Spy.
  26. Weiner, Johnston & Lewis 1995, p. 144
  27. Weiner, Johnston & Lewis 1995, p. 145
  28. www.crimelibrary.com
  29. "Assessment," 50-51. เครื่องติดตามใช้ไม่ได้ในบางครั้ง ทำให้ FBI ไม่สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของเขาได้ในหลายโอกาส
  30. "Assessment," 51-52.
  31. (Weiner,Johnston,Lewis 1995, p. 9)
  32. Bromwich, Michael R. (April 1997). "A Review of the FBI's Performance in Uncovering the Espionage Activities of Aldrich Hazen Ames". สืบค้นเมื่อ 2011-04-26.
  33. "FBI History: Famous Cases". FBI.gov. สืบค้นเมื่อ 2010-01-12.[ลิงก์เสีย]. โรซาริโอได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำกลางหลังจากที่เธอรับโทษครบตามกำหนด
  34. "An Assessment of the Aldrich H. Ames Espionage Case and Its Implications for U.S. Intelligence - Senate Select Committee on Intelligence - 01 November 1994 - Part One". Fas.org. สืบค้นเมื่อ 2015-10-14.[ลิงก์เสีย]
  35. "Federal Bureau of Prisons". Bop.gov. สืบค้นเมื่อ 2015-10-14.
  36. Maas, 242.
  37. Maas, 242
  38. "Icon by Frederick Forsyth - Books - Random House". Randomhouse.com. สืบค้นเมื่อ 2008-10-14.
  39. Weiner, Johnston & Lewis 1995, p. 45
  40. Weiner, Johnston & Lewis 1995, pp. 44–45
  41. Weiner, Johnston & Lewis 1995, pp. 69–70
  42. Cherkashin & Feifer 2005, p. 219
  43. Cherkashin & Feifer 2005, p. 174
  44. "Key Players". Math.ucsd.edu. สืบค้นเมื่อ 2008-10-14.
  45. Wise, David. Nightmover: How Aldrich Ames sold the CIA to the KGB for $4.6 Million, HarperCollins, 1995, ISBN 0-06-017198-7. Excerpted in Time: Victims Of Aldrich Ames
  46. Cherkashin & Feifer 2005, pp. 179,180
  47. Maas, 6.
  48. ↑ Cherkashin & Feifer 2005, p. 187
  49. [1][ลิงก์เสีย]
  50. ↑ "CIA Traitor Aldrich Ames". Crimelibrary.com. สืบค้นเมื่อ 2008-10-14.
  51. Cherkashin & Feifer 2005, pp. 191,192
  52. "CIA Traitor Aldrich Ames". Crimelibrary.com. สืบค้นเมื่อ 2008-10-14.
  53. "videofact". Videofact.com. สืบค้นเมื่อ 2008-10-14.

ดูเพิ่ม

(ภาษาอังกฤษ)

  • "An Assessment of the Aldrich H. Ames Espionage Case and Its Implications for U.S. Intelligence" (PDF). United States Government Printing Office. 1 November 1994. สืบค้นเมื่อ July 12, 2010.
  • Cherkashin, Victor; Feifer, Gregory (2005). Spy Handler: Memoir of a KGB Officer: the True Story of the Man Who Recruited Robert Hanssen and Aldrich Ames. New York: Basic Books. ISBN 0-465-00968-9.CS1 maint: ref=harv (link)
  • Weiner, Tim; Johnston, David; Lewis, Neil A. (1995). Betrayal: The Story of Aldrich Ames, An American Spy. New York: Random House. ISBN 000-0-000-00000-0 Check |isbn= value: invalid prefix (help).CS1 maint: ref=harv (link)
  • Earley, Pete. Confessions of a Spy: The Real Story of Aldrich Ames, New York: G. P. Putnam's Sons, 1997. ISBN 0-399-14188-X.
  • Maas, Peter. Killer Spy: The Inside Story of the FBI's Pursuit and Capture of Aldrich Ames, America's Deadliest Spy, Warner, 1995, ISBN 0-446-51973-1.
  • Doyle, David W. Inside Espionage: A Memoir of True Men and Traitors, 2000, ISBN 000-0-0000000-0-0.

แหล่งข้อมูลอื่น

สิงหาคม 05, 2021
ลดร, เอมส, งก, ามภาษา, ในบทความน, ไว, ให, านและผ, วมแก, ไขบทความศ, กษาเพ, มเต, มโดยสะดวก, เน, องจากว, เด, ยภาษาไทยย, งไม, บทความด, งกล, าว, กระน, ควรร, บสร, างเป, นบทความโดยเร, วท, ดอ, ลดร, เฮเซน, เอมส, งกฤษ, aldrich, hazen, ames, เก, พฤษภาคม, 1941, เป, นอด, ต. lingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisudxldrich ehesn exms xngkvs Aldrich Hazen Ames ekid 26 phvsphakhm kh s 1941 epnxditecahnathitxtankarkhawkrxngaelankwiekhraahkhxnghnwysubrachkarlbklangaehngshrthxemrika CIA sungin kh s 1994 thuktdsinihmikhwamphidinkhxhaepnsaylbihkbshphaphosewiytaelarsesiy cnkrathngkarcbkumtworebirt aehnesninxik 7 pitxma exmsepnkhnthithaihsaykhxng CIA txngtkxyuinxntraymakkwasaylbosewiytthnghmdinprawtisastrkhxngxemrikaAldrich Amesekid26 phvsphakhm kh s 1941 80 pi riewxrfxls wiskhxnsin shrthxemrikaxachiphxditecahnathi CIA aelankwiekhraahaelasaylbkhxngshphaphosewiytaelatxmarsesiysthanathangkhdicakhukkhusmrsaennsi esekbarth hya orsariox duphuybidamardakharltn essil exmserechl xldrich exmskhxha18 U S C 794 c 1 rthbyyticarkrrm bthlngothscakhuktlxdchiwit odyimmithnthbn khnathithanganinaephnktxtankhawkrxngkhxng CIA epnewla 9 pi ekhaprakasrayrbtxpiiwthi 60 000 dxllar aetklbmikarichcayphanbtrekhrditthung 30 000 ehriyytxeduxn aelamichiwitxyanghruhra sungrwmipthungkarsuxrthcakwrkhnihmaelabanrakha 540 000 dxllar dwyenginsd 2 enuxha 1 prawti 1 1 chiwitaelakarthanganinwyedkaelawyhnum 1 2 xachiphthi CIA 1 3 karcarkrrm 1 4 kartxbotkhxng CIA 1 5 karcbkum 1 6 hlngidrboths 2 aehlngkhawkhxng CIA thithukthrys 3 xangxing 4 duephim 5 aehlngkhxmulxunprawti aekikhchiwitaelakarthanganinwyedkaelawyhnum aekikh xldrich exmsekidthiemuxngriewxrfxls rthwiskhxnsin epnbutrkhxngkharltn essil exms bida aelaerechl ems xldrich marda bidakhxngekhaepnxacarywithyaly swnmardakhxngekhaepnkhrusxnphasaxngkvsinihskhul xldrichepnbutrkhxngotcakthnghmdsamkhnaelaepnbutrchayephiyngkhnediyw in kh s 1952 kharltn exms erimthanganihkbhnwyxanwykarptibtikarnkhxng CIA inewxrcieniy aelain kh s 1953 idrbmxbhmayihpracakarthiphumiphakhexchiytawnxxkechiyngitepnewlasampiphrxmkbkhrxbkhrw kharltnidrbphlkarpraeminkarptibtinganinaenglbepnxyangmak swnhnungenuxngcakpyhatidsuraeruxrng thaihekhathuksngklbipxyuthisankihy CIA tlxdxachiphthiehlux 3 xldrich exmseriynihskhulthiorngeriynihskhulaemkhlin thiemuxngaemkhlin rthewxrcieniy erimtnin kh s 1957 khnathiekhaxyupisxng exmsthanganih CIA epnewlasamvdurxn intaaehnngnkwiekhraahbnthukradbta GS 3 odymihnathithaekhruxnghmayexksarlbephuxnaipekb inpi 1959 exmsekhasuksathimhawithyalychikhaok odywangaephnthicaeriynwthnthrrmaelaprawtisastrtangchati aetkhwamprarthnathimimaeninnaninkaraesdnglakhrthaihphlkareriynkhxngekhatktalng thaihekhaeriynimcbpisxng exmsthanganthi CIA invdurxnkhxngpi 1960 intaaehnngphuichaerngnganaelachangthasi caknnekhakphntwexngmaepnphuchwyphukakbdanethkhnikhthiornglakhrchikhaokcnkrathngpi 1962 ekhakklbmaynglaaewkwxchingtn aelwthanganetmewlaihkb CIA xikkhrng intaaehnngechingesmiyn thanxngediywkbthiekhathasmyihskhul 4 xachiphthi CIA aekikh hapitxma exmssaerckarsuksaradbpriyyatriinsakhawichaprawtisastrthimhawithyalycxrc wxchingtn erimaerkexmsimidwangaephnthicaichchiwitipkbkarthanganih CIA aethlngcakideluxnkhnmaepnradb GS 7 aelaidrbphlkarpraeminkarptibtinganyxdeyiym exmskidrbkarxnumtiihekhasuokhrngkarfukxachiph aemwacamipyhakbtarwceruxngkaremasurahlaykhrng 5 inpi 1969 exmsaetngngankbecahnathiaennsi esekbarth thiekhaecxthiokhrngkarfukxachiph emuxexmsidrbmxbhmayihippracakarthikrungxngkhara praethsturki aennsicungtxnglaxxkcak CIA enuxngcakkdthihammiihkhusmrsthanganinsanknganediywkn 6 ngankhxngexmsthiturkukhuxkarhaaelaeknthecahnathikhawkrxngkhxngosewiyt ekhaprasbkhwamsaercinkaraethrksumekhaipinxngkhkrkhxmmiwnist DEV GENC odyaethrksumphannksuksaaelankptibtikarhwrunaerng ednis kichmich 7 aemwacaprasbkhwamsaerc phlkarptibtingankhxngexmsklbxxkmaaekhradbnaphungphxic thaihexms phusungthukphlkarpraeminbnthxnkalngic khidcaxxkcak CIA 8 inpi 1972 exmsklbipthisanknganihy CIA thisungekhaichewlasipitxmainaephnkosewiyt yuorptawnxxk Soviet East Europe SE phlkarpraeminkarptibtingankhxngekhaxyuinradbkratunruxrndi enuxngmacakekhaekngindankarcdkarexksaraelawangaephnptibtikarphakhsnammakkwakareknthsaylb xyangirktam pyhakardumsuramakekinipidrbkarklawthung aelamiexksarlbephiyngaekhsxngchbbethannthixyuinaefmkhxngekha 9 inpi 1976 exmsidrbmxbhmayihippracaxyuthiniwyxrksitiephuxduaelsaylbkhnsakhysxngkhncakosewiyt phlngankhxngekhayxdeyiymmak thaihexmsidrbkareluxntaaehnngaelaobnshlaykhn aelathaihxndbkhxngekhakhunmaxyuehnuxkwaecahnathiptibtikarinradbediywkbekha aetnisychxbeluxnsngbychikarenginkhxngekhathukklawthung khwamimisicinraylaexiydkhxngexmsthaihekhafafunkddankhwamplxdphykhnrayaerngthungsxngkhrng rwmthungkhrnghnungthiekhathingkraepaisxupkrnthapharkiclbiwbnrthifitdin aetexmsaekhthuktketuxnethann 10 inpi 1981 exmsrbnganthiemksioksiti inkhnathiphrryakhxngekhayngkhngxasyxyuinniwyxrk phlkarpraeminngankhxngekhathiemksiokxyuinradbmaksudaekhphxich aelaekhayngmikickrrmechingchusawnxksmrsxyangnxysamkhrng ineduxntulakhm pi 1982 exmserimmismphnthechingchusawkbmaeriy edl orsariox khass duphuy ecahnathifaywthnthrrmkhxngsthanthutokhlmebiy aelasaykhawkhxng CIA thungcamikarrabuiwinkhxbngkhbkhxng CIA aetekhakimyxmraynganeruxngkhwamsmphnthkbkhntangchatiihphubngkhbbycharbthrab aemwaephuxnrwmngankhxngekhacarueruxngdngklawdiktam phlpraeminkarptibtinganthiimoddednkhxngexmsswnhnungmiphlsubenuxngmacakkardumsuraxyanghnk inngantxnrbthutthiemksioksiti exmsphukalngemasuraipthaelaaesiyngdngisecahnathikhiwba thaihphubngkhbbychakhxngekhatuntrahnk 11 xyangirktam ineduxbknyayn pi 1983 CIA mxbhmayihexmsklbippracathiaephnk SE inwxchingtn sungthaihekhaxyuintaaehnngthilaexiydxxnthisudinkrmptibtikarephraaepnhnwynganthirbphidchxbkickrrmtxtankhawkrxngkhxngosewiyt exmssamarthekhathungaephnaelaptibtikarnkhxng CIA thimitx KGB aela GRU hnwykhawkrxngthharkhxngosewiyt 12 ineduxntulakhm ekhaaeykthangkbphrryaxyangepnthangkar aelaineduxnphvscikayn ekhacungsngraynganthungkickrrmnxkxngkhkrwadwykhwamsmphnthechingchusawkborsarioxihkb CIA inkhxtklnghya exmstklngthicarbpharahnikhxngkhusmrsaelacayenginrayeduxnephuxsnbsnunphrryaepnewlasampikhrung rwmepnenginpraman 46 000 dxllar exmskhidwakarhyarangxacthaihekhatxnglmlalay sungekhabxkwakhwamkddndankarenginthimacakkhxtklngnithaihekhaerimphicarnakaripepnsaylbihkbshphaphosewiyt 12 nxkcakni ekhayngphborsarioxepnkhnichengineyxa hlngcakthiethxthukcbkum FBI trwcphaphkraepastangkhkwa 60 xninbankhxngexms aelayngmirxngethaxikkwa 500 khu kbthungnxngthiyngimidichxik 165 klxng 13 karcarkrrm aekikh exmsihkhwamchwyehluxtamhnathi kbsankngan CIA thikhxypraeminecahnathithutkhxngosewiytwamiaenwonmwacaepnsaykhawihid swnhnungkhxngkhwamrbphidchxbkhxngekhakhuxkarsrangchxngthangkartidtxkbsthanthutosewiyt sungepnkhxmulthithng CIA aela FBI thrabdi ineduxnemsayn pi 1985 exmsnakhxmulthiekhaechuxwa odyenuxaethaelwimmikhunkha aetdiphxthicasrangkhwamnaechuxthuxinthanakhninkhxng CIA kbihkbphwkosewiyt ekhayngkhxengin 50 000 ehriyyepnkhatxbaethn sungphwkosewiytyindicayxyangrwderw 14 exmsxanginphayhlngwaekhaimidetriymtwipmakkwa kartmtun inerimaerkephuxlanghnithiekhamixyuintxnnn aetemuxlaesnipaelw ekhaimsamarthyxnklbmaid exmserimchiaehlngkhawradbsungsudkhxng CIA aela FBI thirayngankickrrmkhxngosewiytmakkwasibkhn imephiyngaetexmscaechuxwaekhacamienginmakkwathicaichhmd ephuxaelkkbkarthryssaykhawkrxngehlani aetkarkacdsaykhawehlanncachwyldoxkasthikarcarkrrmkhxngekhacathukkhnphbxikdwy 15 emuxmathungpi 1985 ekhruxkhaysaylbinfakfngosewiyterimhaytwipinxtrathinatkic CIA ruwamixairphidpktiaetimxyakphicarnakhwamepnipidwamihnxnbxnisxyuinxngkhkr karsubswnebuxngtnmungennipthichxngohwthixacekidcakekhruxngdngfngkhxngosewiyt hruxrhsthukthxdid 16 caknn CIA kothsxditecahnathi CIA exdewird li hawewird waepnkhnthithaihsuyesiysaykhaw enuxngcakekhaepnkhnsngkhxmulipihphwkosewiytechnkn aetemux CIA suyesiyaehlngkhawsakhyxiksamaehlng sungepnkhxmulthihawewirdimmithangthrabid cungepnthiprackswakarcbtwsaykhawmithimacaktntxxun 17 ecahnathi CIA khnhnungklawwa phwkosewiytcdkarekbsaykhxngeraaebblangbang sungimthrrmdaepnxyangmakephraawa epnsingthirukndiinhmuphucbsaylbkhxngxngkhkrwakarkacdsaykhawthnghmdinthnthicathaihhnxnbxnistkxyuinxntray sungthaihkhnduaelsaykhawkhxng KGB khxothsexms aetklawwakartdsinicthicakacdsaykhawxemriknthnghmdmacaknkkaremuxngradbsungsud 18 inkhnaediywkn exmsyngkhngphbpakbesxrek dimiethrwich chuwakhin khnthiekhatidtxdwythisthanthutosewiyt aelainrayaewlahnung ekhaidrayngansrupih CIA aela FBI thungkhwamkhubhnakhxngekhainkarphyayamthicaeknthesxrekepnsay aetthicringaelw thukkhrngthiphwkekhaphbknephuxthanxaharklangwn exmscaidrbengin 20 000 thung 50 000 dxllarthukkhrng 19 thaythisudaelw exmsidrbenginthung 4 6 lanehriyycakphwkosewiyt sungthaihekhasamarthichchiwitidhruhrakwaecahnathi CIA khnxun 16 emuxexmsxyuinsthanahyarangxyangepnthangkarineduxnsinghakhm pi 1985 ekhakaetngngankbmaeriy edl orsarioxinthnthi ekhaekhaicwaengincanwnmakthiekhaephingidmacathaihmiphiruth ekhacungaetngeruxngbnghnawathrphysinthiekhaidmannmacakkhrxbkhrwthimithanararwykhxngphrryachawokhlbebiynkhxngekha 20 exmsidippracakarthiorminpi 1986 sungphlpraeminngankhxngekhathinnxxkmainradbphxichhruxaeyxikkhrng aelayngmihlkthanekiywkbpyhatidsura xyangirktam inchwngpi 1990 thung 91 exmsthuksngklbippracaaephnkwiekhraahkhxngsunytxtankhawkrxngkhxng CIA sungthaihekhasamarthekhathungkhxmulthilaexiydxxnepnxyangying sungrwmipthungkhxmulekiywkbsaylbsxnghnakhxngshrth 21 kartxbotkhxng CIA aekikh klxngcdhmayeliynaebbklxngthiexmsich odyexmscaichchxlkkhidesnkhwangbnsylksnkhxngkariprsniyshrth ephuxsngsyyanwaihphbkn inrupnirabuwaihphbknthithnn 37 td R tawntkechiyngehnux 37th and R St NW klxngthithukichcring pccubncdaesdngthiphiphithphnthsaylb inpi 1990 CIA aenicaelwwamihnxnbxnisxyuinxngkhkrkhxngtnexng kareknthsaylbosewiyttxnghyudlngephraaklwwaxngkhkrcaimsamarthkhumknsaykhawthimixyuid 16 kxnhnaniineduxnphvscikayn pi 1989 ephuxnrwmngankhxngexmsraynganwaekhamikhwamepnxyuthihruhraekinkwaecahnathi CIA khwrcami aelakhrxbkhrwphrryakhxngekhaimidrarwyxyangthiekhaxangiw aetthungkrann CIA kimiderngrib emuxphusxbswnkarenginkhxngexmstxngipekhaokhrngkarfuknganepnewlasxngeduxn immiikhrmaaethnthiekhainthnthi 22 phusubswnyngthuklwngdwyeruxngkhxngecahnathi CIA nxkpraethsthixangwaphwkosewiytsamarthecaaekhaipin CIA dwylukcangthiekidinshphaphosewiyt 23 inpi 1986 aela 1991 exmsphankarthdsxbodyekhruxngophlikraf ekhruxngcbethc rahwangthiekhaepnsaylbihkbshphaphosewiytaelarsesiy erimaerknnexmsklwthicatxngthakarthdsxb aet KGB aenanawaihekha thatwtamsbay 24 karthdsxbkhxngexmsaesdngihehnthungkhatxbhlxkinbangkhatham aetkhnthdsxbplxyihekhaphan CIA ihkhwamehninphayhlngwaenuxngcakphuthdsxb epnmitrmakekinip thaihphlkartxbsnxngthangcitimipinthangthikhwrcaepn 25 CIA ephngelngexmsdankarengin hlngcakthiruwaexms phuidrbrayid 60 000 ehriyytxpi samarthsux banrakha 540 000 dxllarthiemuxngxarlingtn ewxrcieniy sungekhacaydwyenginsd 26 rthyntcakwrrakha 50 000 ehriyy 27 khatkaetngaelaxxkaebbbanihmrakha 99 000 ehriyy khaothrsphthmuxthuxmakkwa 6 000 ehriyy sungswnihyepnkarothrkhxngphrryakhxngexms iphakhrxbkhrwkhxngethxinobokta okhlmebiy chudsuthtdekharup aethnesuxphathi suxmacakkrabaldrakhakhxnghangsrrphsinkha khxngekha sungmikhunphaphdikwaephuxnrwmnganthi CIA khxngekhaxyangehnidchd khaichcaydwybtrekhrditaebbphriemiymthimakkwaengineduxnkhxngekha 28 karcbkum aekikh rupthayhnatrngkhxngexms thukthayinwnthiekhathukcb inthisud ineduxnminakhm pi 1993 CIA aela FBI erimkarsubswnexmsxyanglaexiyd sungwithikarrwmipthungkarsngektkarnphanthangxielkothrnikh karkhuykhyakhxngekha aelakartidekhruxngtidtamthirthkhxngekhaephuxtidtamkhwamekhluxnihw 29 tngaeteduxnphvscikaynipcnthungkarcbkumekha exmstkxyuinkarsxdsxngodykhnaethbcatlxdewla inchwngtnpi 1994 ekhamitarangtxngiprwmkarprachumthimxsokh FBI echuxwaimsamarthrxidxiktxip thaihtwekhaaelaphrryathukcbkuminwnthi 21 kumphaphnth pi 1994 30 khnathithukcbkum exmsbxkkbecahnathiwa khunkalngthaphidphladkhrngihy khuntxngcbkhnphidaen 31 inwnthi 22 kumphaphnth pi 1994 exmsaelaphrryakhxngekhathuktngkhxklawhaodykrathrwngyutithrrmaehngshrthxemrikainkhxhaepnsaylbihkbshphaphosewiytaelarsesiy exmsxaccaidrbothspraharchiwitenuxngcakkarthryskhxngekhathaihsaykhawkhxng CIA tayiphlayray 32 xyangirktam enuxngcakekharbsarphaphinwnthi 28 emsayn ekhacungidrbothsaekhcakhuktlxdchiwit swnphrryakhxngekhatxngothscakhuk 5 piinkhxhahniphasiaelasmkhbkhidephuxthakarcarkrrm sungexmsidtklngexaiwephuxaelkkbkhasarphaphkhxngekha 33 insal exmsyxmrbwaekhathaih saylbchnchatiosewiyt xemriknaelachatixun sungkhuntrngtx CIA aethbthukkhnthiekharucktxngtkxyuinxntray aelaidih khxmulepncanwnmak ekiywkbnoybaydankartangpraeths karpxngknpraethsaelakhwammnkhngkhxngchatishrthxemrika ihkbshphaphosewiytaelarsesiy 34 epnthipramankarnknwakhxmulthiexmsihkbosewiytthaihptibtikarkhawkrxngkhxngshrth xyangnxyhnungrxyptibtikartxngtkxyuinxntray aelathaihaehlngkhawkhxngshrth xyangnxy 10 khnthukpraharchiwit hlngidrboths aekikh exmsepnnkothshmayelkh 40087 083 khxngsanknganthnthsthanklang rbothsxyuthithnthsthanshrthxemrikaxlelnwud iklkbemuxngxlelnwud rthephnsileweniy 35 CIA thuktithiimephngelngexmsiherwkwani thng thikhunphaphchiwitkhxngekhadikhunkwapktixyangehnidchd 16 aelayngthaihekidkarwiphakswicarnkhnanihyinrthspha emuxphuxanwykar CIA ecms wulsitdsinicwacaimmikarpldhruxldkhnecahnathiinxngkhkr wusiprakaswa khnbangkhnrxngkhxihkhnthukthaoths ephuxthieracaidphudwamikhnthithukthaothsaelw khxoths aetnnimichthangkhxngphm wusithukbngkhbihlaxxkinewlatxma 36 ephlot khaekhris thnaykhxngexms khuthicafxngrxng FBI eruxngkartrwckhnaelaxaytithrphysininbanaelathithangankhxngexmsodyimmihmaysal aetenuxngcakexmsrbsarphaphphid khakhunicunghmdkhwamsakhyip txmarthsphacungphankdhmayihmephuxihxanacnnkbsalsxdsxngkhawkrxngtangchati 37 eruxngkhxngexmsthuknaipsrangepnphaphyntr Aldrich Aims Traitor Within inpi 1998 odythiomthi httn rbbthepnexms exmsyngthuknaipepntwlakhrinniyaykhxngefredxrikh fxristhinpi 1997 eruxng Icon sungineruxngekhathryssaylbosewiythlaykhnthithukshrthxemrikaeknthepnsayih 38 aehlngkhawkhxng CIA thithukthrys aekikhwithali eyxrechnokepnecahnathi KGB inaephnkthi 5 khxnghnwyxanwykar K sungthuxwaepnecahnathi KGB radbchnsungsudthihnimaekhakhangshrth 39 ineduxnsinghakhm pi 1985 ekhahlbhnixxknxkpraethsphanormmayngshrth 40 kxnthicathuksngklbpraethsediminxiksameduxntxma 41 exmsepnphuediywthithrabthungkhxmulthnghmdthieyxrechnokihkb CIA aelasamarthsngtxkhxmuldngklawipih KGB thaihsamarthpkpidkhxmulthihayipidxyangngayday 42 emuxklbipthungshphaphosewiyt eyxrechnokthukyayihipthangannngotainhnwyxanwykarbngkhbbychathi 1 FCD ephuxepnrangwlthichwyrksasthanphaphsaylbkhxngexmsid 43 inchwngklangthswrrsthi 80 phltridimithri ophlyakhxfepnsaykhawkhxng CIA thidarngtaaehnngradbsungsudinhnwykhawkrxngosewiyt GRU ekhathukpraharchiwitinpi 1988 hlngcakthiexmsepidopngekha 44 ekhanacaepnsaykhawthimikhathisudthiexmsthaihtkxyuinxntray ecahnathi CIA khnhnungphudthungophlyakhxfwa ekhaimidthaephuxengin ekhayunynthicaxyuintaaehnngedimephuxchwyera 45 phnexkoxelk kxrediyfski epnhwhna rezidentura phuxasy inlxndxnaelaepnsaylbihkbhnwykhawkrxngrachkarlbaehngshrachxanackr MI6 exmssngkhxmulekiywkbkxrediyfskithithaihsamarthrabutwkxrediyfskiwaepnphuthrysid 46 aetkxrediyfskisamarthhlbhniipyngchayaednkhxngfinaelnd thisungekhathuksngtwipyngshrachxanackrphannxrewyody MI6 kxnthiekhacathukkhwbkhumtwinrsesiywaelri marthinxf epnecahnathisay X khawkrxngwithyasastraelaethkhnikh khxngwxchingtnersiednthura marthinxfepidephytwtnkhxngecahnathikhawkrxngkhxngosewiytkwa 50 naythiptibtikarnxksthanthut aelayngihchuxkhxngepahmaydanwithyasastraelaethkhnikhthi KGB samarthecaaekhaipid exmssngchuxmarthinxfih KGB aelaekhathukpraharchiwit 47 exmssngchuxmarthinxfih KGB thaihekhathukpraharchiwit 48 phntriesxrek omothrinepnecahnathisay PR khawkrxngkaremuxng khxngwxchingtnersiednthurathi FBI khukrrochkihepnsaylbihshrth inthisudaelw ekhaihkhwamrwmmuxdwyehtuphlswntw 49 omothrinepnhnunginsxngsaykhawthiersiednthurathithukthrysodyexms aelathukpraharxyangrwderwinewlatxma 48 50 phnexklioxnid ophlichchukhepnecahnathisay KR txtankhawkrxng inincieriy ekhakepnxikkhnthithukexmsthrys ekhathukcbkumdwykhwambngexiyemuxsaylb KGB thiipefasngektkarthingkhxmul dead drop khxngsaylb CIA ehnophlichchukhmarbkhxmul 51 esxrek efdxernokepnphuechiywchaydanxawuthniwekhliyrthiidrbmxbhmayihipepntwaethnkhxngosewiytinxngkhkarshprachachati inpi 1987 exmsidrbmxbhmayihduaelekha aelaefedxernokkthrysodyihkhxmulekiywkbokhrngkarkhipnawuthkhxngosewiytihkbexms thngsxngkhnklayepnephuxnthidi thungkrathngkxdknemuxefedxernokkalngcaklbmxsokh exmsklawwa eraklayepnephuxnsnithkn eraechuxicknxyangsnithic 52 intxnaerkexmslngelthicathrysephuxn aethlngcakthisngkhxmulaethbthnghmdipihosewiytaelw ekhaidtdsinicthicathrysefedxernokephuxsrangphlnganih KGB idehn 50 aetefedxernoksamarthichesnsaythangkaremuxngephuxexatwrxdcakpyhadngklawid hlaypitxma efedxernokphbkbexmsxikkhrng odyiprbprathanxaharethiyngdwykn odythiefedxernoksyyawacayaymathishrth xyangthawr hlngcakxaharmuxnnimnan exmskthrysekhaih KGB epnkhrngthisxng efedxernoksamarthhlbhnikarcbkum aelahnixxknxkpraethsmaid aelapccubnxasyxyuthiordixaelnd 53 xangxing aekikh Aldrich Ames Criminal Complaint jya com subkhnemux 2011 03 19 Robinson Stephen Books The disreputable drunk who betrayed America The Sunday Telegraph 2 krkdakhm 1995 An Assessment of the Aldrich H Ames Espionage Case and Its Implications for U S Intelligence Report Prepared by the Staff of the Select Committee on Intelligence United States Senate 84 046 Washington U S Government Printing Office 1994 4 Assessment 4 Assessment 5 Ames Aldrich Hazen Biography S9 com subkhnemux 2010 05 07 Assessment 5 thungkrann aennsi exmskthanganechingcdkarnxkewlathi snng khxngsamikhxngethx Suzal Savas 1997 03 02 Disislerinde CIA Kostebegi Sabah subkhnemux 2008 10 13 exmsthakarcayenginaelkkhxmulsungmichuxkhxngsmachik DEV GENC thikichmichruckrwmipthungraylaexiydekiywkbkickrrmkhxngphwkekha Assessment 6 Assessment 6 thinganeliyngkhristmasinpi 1974 exmsthukphbwamixakaremasura aelaxyuinsthankarnlxaehlmkblukcanghying CIA Assessment 6 7 Assessment 8 12 0 12 1 Assessment 8 9 Maas 222 23 Assessment 11 13 Assessment 13 14 16 0 16 1 16 2 16 3 Powell Bill 2002 11 01 Treason How a Russian Spy Led an American Journalist to a U S Double Agent Simon amp Schuster ISBN 0 7432 2915 0 Assessment 14 15 Assessment 15 16 Assessment 18 19 ephuxfakengin exmsepidbychiiwinhlay thnakharaelaaebngenginsdxxkepnthila 10 000 ehriyy ephuxhlikeliyngkaraecngtxthnakhartamkhxkahnd Assessment 19 Assessment 33 35 phubngkhbbychakhxngexmsinewlannthrabdithungpyhatidsurakhxngekha aelanisychxbhlbthiotathangan aetphlpraeminkarptibtinganpracapiaesdngihehnwaekhaepnecahnathimiprasiththiphaphxyangsmaesmx Assessment 40 41 Analysis 48 karsubswneruxngniidphlsrupxxkmawa plxmaeplngdwyehtuphldankaresrimphaphlksnxachiphaeladankarengin Assessment 44 45 Weiner Johnston amp Lewis 1995 pp 89 90 KGB aenanaihexmsnxnphkphxnihetmxim thatwihsdchunaelaphkphxnihetmthi ihkhwamrwmmuxkbphuthdsxb epnmitrkbphuthdsxb aelaphyayamsngbciticihsbaythisudethathicaepnid Assessment 45 46 phith exxrlixthibaywaexmssamarthonmnawtwexngihechuxwakhatxbthitwexngihepnkhwamcring nxkcakni CIA ykewnecahnathiaekhimkikhn imidphyayamthicaikhkhdixiktxipaelw dngnnekhrditkarkhlikhlaykhdikhwrcaepnkhxng FBI Christopher Lehmann Haupt Aldrich Ames Brilliant or Bumbling New York Times 24 kumphaphnth 1997 review of Pete Early Confessions of a Spy Weiner Johnston amp Lewis 1995 p 144 Weiner Johnston amp Lewis 1995 p 145 www crimelibrary com Assessment 50 51 ekhruxngtidtamichimidinbangkhrng thaih FBI imsamarthtidtamkhwamekhluxnihwkhxngekhaidinhlayoxkas Assessment 51 52 Weiner Johnston Lewis 1995 p 9 Bromwich Michael R April 1997 A Review of the FBI s Performance in Uncovering the Espionage Activities of Aldrich Hazen Ames subkhnemux 2011 04 26 FBI History Famous Cases FBI gov subkhnemux 2010 01 12 lingkesiy orsarioxidrbkarplxytwcakeruxncaklanghlngcakthiethxrbothskhrbtamkahnd An Assessment of the Aldrich H Ames Espionage Case and Its Implications for U S Intelligence Senate Select Committee on Intelligence 01 November 1994 Part One Fas org subkhnemux 2015 10 14 lingkesiy Federal Bureau of Prisons Bop gov subkhnemux 2015 10 14 Maas 242 Maas 242 Icon by Frederick Forsyth Books Random House Randomhouse com subkhnemux 2008 10 14 Weiner Johnston amp Lewis 1995 p 45 Weiner Johnston amp Lewis 1995 pp 44 45 Weiner Johnston amp Lewis 1995 pp 69 70 Cherkashin amp Feifer 2005 p 219 Cherkashin amp Feifer 2005 p 174 Key Players Math ucsd edu subkhnemux 2008 10 14 Wise David Nightmover How Aldrich Ames sold the CIA to the KGB for 4 6 Million HarperCollins 1995 ISBN 0 06 017198 7 Excerpted in Time Victims Of Aldrich Ames Cherkashin amp Feifer 2005 pp 179 180 Maas 6 48 0 48 1 Cherkashin amp Feifer 2005 p 187 1 lingkesiy 50 0 50 1 CIA Traitor Aldrich Ames Crimelibrary com subkhnemux 2008 10 14 Cherkashin amp Feifer 2005 pp 191 192 CIA Traitor Aldrich Ames Crimelibrary com subkhnemux 2008 10 14 videofact Videofact com subkhnemux 2008 10 14 duephim aekikh phasaxngkvs An Assessment of the Aldrich H Ames Espionage Case and Its Implications for U S Intelligence PDF United States Government Printing Office 1 November 1994 subkhnemux July 12 2010 Cherkashin Victor Feifer Gregory 2005 Spy Handler Memoir of a KGB Officer the True Story of the Man Who Recruited Robert Hanssen and Aldrich Ames New York Basic Books ISBN 0 465 00968 9 CS1 maint ref harv link Weiner Tim Johnston David Lewis Neil A 1995 Betrayal The Story of Aldrich Ames An American Spy New York Random House ISBN 000 0 000 00000 0Check isbn value invalid prefix help CS1 maint ref harv link Earley Pete Confessions of a Spy The Real Story of Aldrich Ames New York G P Putnam s Sons 1997 ISBN 0 399 14188 X Maas Peter Killer Spy The Inside Story of the FBI s Pursuit and Capture of Aldrich Ames America s Deadliest Spy Warner 1995 ISBN 0 446 51973 1 Doyle David W Inside Espionage A Memoir of True Men and Traitors 2000 ISBN 000 0 0000000 0 0 aehlngkhxmulxun aekikhAldrich Ames Traitor Within thixinethxrentmuwiedtaebs U S Department of Justice Office of the Inspector General A Review of the FBI s Performance in Uncovering the Espionage Activities of Aldrich Hazen Ames April 1997 Unclassified Executive Summary Famous Cases David Howkins sankngansxbswnklangaehngshrthxemrika 27 mi kh 2548 khaxthibayodysrupekiywkbxachiphsaylbkhxngexms rabbtidtamnkoths aesdngthixyupccubnkhxngexmsinrabbthnthsthanklangkhxngshrthekhathungcak https th wikipedia org w index php title xldrich exms amp oldid 7543486, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม