fbpx
วิกิพีเดีย

อาถรรพณ์นิทรานคร

อาถรรพณ์นิทรานคร เป็นตอนที่สี่ของเพชรพระอุมาจำนวน 4 เล่ม ได้แก่อาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 1 - 4

อาถรรพณ์นิทรานคร
ภาพปกเพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร
รายละเอียด
ผู้ประพันธ์นายฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ
จำนวนเล่ม4 เล่ม
ความยาว1,680 หน้า
ออกแบบปกสามารถ จงเจษฎากุล
ภาพประกอบปกสมชาย ปานประชา
ศิลปกรรมฝ่ายศิลปกรรม
ณ บ้านวรรณกรรม กรุ๊ป
บรรณาธิการรักษ์ชนก นามทอน
สำนักพิมพ์สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม
ปีที่พิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2538
ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2541
ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2544
ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2547
เล่มก่อนหน้าจอมผีดิบมันตรัย
เล่มถัดไปป่าโลกล้านปี

เนื้อเรื่องย่อ

อาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 1

ภายหลังจากที่ฝนหยุดตกและพบเจอปลอกกระสุนปืนลูกซองของพรานพื้นเมือง รวมทั้งก้นซิการ์ฮาวานาของเชษฐาลอยตามน้ำมา รพินทร์นำดารินและพรานบุญคำออกติดตามค้นหาต่อจนกระทั่งเย็นจึงพบซากปราสาทพันธุมวดีกลางป่าดงดิบ รพินทร์นำดารินเข้าไปภายในปราสาทที่สร้างด้วยศิลาแลงคล้ายปราสาทขอมในสมัยโบราณ โดยมีพรานบุญคำถือไม้เสี้ยมปลายแหลมที่ทาด้วยเลือดประจำเดือนไว้ตรงปลายตามไปติด ๆ เมื่อมาถึงใจกลางห้องโถงใหญ่ กึ่งกลางห้องมีครอบแก้วผลึกตั้งวางเด่นบนแท่นพื้นหินอ่อนสีดำ ภายในมีร่างของหญิงสาวนางหนึ่ง รูปพรรณสัณฐานรวมทั้งการแต่งกายเหมือนนางกษัตริย์ในสมัยโบราณ นอนเหยียดยาวลักษณะเหมือนคนนอนหลับบรรจุอยู่ รพินทร์ตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า ซึ่งร่างที่นอนสงบนิ่งกลางห้องโถง ตรงกับคำบอกเล่าเรื่องปราสาทนางพญาพันธุมวดีของแงซายทุกประการ

พรานบุญคำที่ติดตามรพินทร์และดารินมายังครอบแก้วกระตุกแขนรพินทร์ด้วยความกลัว พร้อมกับชี้ให้ดูท่อนไม้ที่ปักแน่นอยู่ระหว่างกลางทรวงอกของพันธุมวดี มีหยดเลือดจากบาดแผลไหลอาบลงมาเป็นทาง แห้งเกรอะกรังภายในครอบแก้ว ดารินสอบถามถึงท่อนไม้ภายในครอบแก้ว รพินทร์ยืนยันว่าเป็นไม้แหลมอันเดียวกันกับใช้แทงค้างคาวยักษ์เมื่อคืน ก่อนสำรวจรอบ ๆ แท่นพื้นหินอ่อนสีดำ พบโพรงที่ภายในใต้แท่นและคัมภีร์หนังมนุษย์ลักษณะเหมือนกับสมุดใบลาน มีกริชสีดำปักตรึงอยู่ ในขณะที่ทั้งหมดต่างตะลึงกับสิ่งที่พบเห็น ซากศพตายซากจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นตามช่องทางต่าง ๆ ภายในห้องโถง

เกิดการปะทะกันขึ้นอย่างชุลมุนวุ่นวาย รพินทร์และดารินช่วยกันยิงซากศพที่ดาหน้าเข้ามาอย่างประทุษร้าย แต่กระสุนกลับเจาะผ่านร่างกายที่แข็งเป็นหิน ไม่สร้างความเจ็บปวดและหยุดยั้งพวกมันได้แม้แต่น้อย พรานบุญคำใช้ไม้เสี้ยมปลายแหลมที่ทาด้วยเลือดประจำเดือน กวัดแกว่งต่อสู้กับซากศพตายซาก ที่เมื่อแกว่งไม้เสี้ยมไปทางใดก็พากันแตกฮือไปคนละทิศละทาง รพินทร์ ดารินและพรานบุญคำ พยายามต่อสู้กับซากศพตายซากที่พยายามเข้ามาทำร้ายและปิดล้อมทางออกจากห้องโถงใหญ่ ในขณะที่กำลังเสียท่าและเสียขวัญในการต่อสู้ เชษฐา พรานพื้นเมืองของรพินทร์ ได้เข้ามาภายในปราสาทธพันธุมวดีและช่วยเหลือทั้งสามคนเอาไว้ได้อย่างทันท่วงที

รพินทร์ตะโกนบอกให้ดารินดึงกริชสีดำออกจากคัมภีร์หนังมนุษย์ พร้อมกับช่วยเชษฐาและพรานพื้นเมืองยิงปะทะเปิดทางให้แก่ดาริน ที่พุ่งตรงไปยังแท่นหินอ่อนสีดำภายใต้ครอบแก้วของนางพญาพันธุมวดี พร้อมกับกระชากกริชออกอย่างแรง ทันทีที่กริชสีดำหลุดออกจากคัมภีร์หนังมนุษย์ ซากศพตายซากทั้งหมดที่เคลื่อนไหวราวกับมีชีวิตและถูกควบคุมบงการจากผู้มีเวทมนตร์คาถา ต่างสิ้นฤทธิ์หยุดนิ่งอยู่กับที่ กลายสภาพเป็นซากศพที่แห้งตายซากลักษณะเหมือนกันท่อนไม้อาบด้วยน้ำยาตามเดิม รพินทร์ ดาริน เชษฐาและพรานบุญคำ ต่างช่วยกันพิจารณาซากศพจำนวนมากภายในห้องโถงใหญ่ พร้อมกับกริชสีดำลงอัขระยันต์โบราณ และคัมภีร์หนังมนุษย์ที่เคยถูกกริชปักตรึงแน่นอยู่ ในขณะที่ทั้งหมดพิจารณาถึงเหตุการณ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้น ร่างสวยสง่างามราวกับมีชีวิตของพันธุมวดี ที่นอนสงบนิ่งอยู่ภายในครอบแก้ว กลับสลายกลายเป็นฝุ่นผงธุลีแทน

ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงปืนไรเฟิลดังขึ้นหนึ่งนัด เสียงปืนดังไม่ไกลจากภายในปราสาทพันธุมวดีมากนัก ดารินจึงยิงปืนสั้นประจำตัวตอบกลับไปพร้อมกับออกติดตามค้นหา ก่อนพบต้นเสียงของปืนไรเฟิลที่โผล่ปากกระบอกปืนออกมาจากภายใต้สุสานโดยฝีมือการยิงของไชยยันต์ ที่ติดอยู่ภายในสุสานกับมาเรีย รพินทร์ ดาริน เชษฐา ต่างพากันหาทางช่วยเหลือไชยยันต์และมาเรียออกจากใต้สุสานด้วยการระเบิดบริเวณปากสุสาน หลังจากนำตัวไชยยันต์และมาเรียออกมาจากใต้สุสานได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ได้รับอันตรายจากแรงระเบิด รพินทร์ก็ระเบิดปราสาทพันธุมวดี พร้อมกับฝังร่างของนางพญาพันธุมวะดีและซากปราสาท พร้อมกับซากศพตายซากภายในสุสาน ให้เหลือเพียงแต่ซากปรักหักพัง

ภายหลังจากกลับมายังปางพักแรมของเชษฐาพร้อมกับกริชสีดำและคัมภีร์หนังมนุษย์ ในตอนกลางคืนเชษฐานำกริชและคัมภีร์หนังมนุษย์มาพิจารณา รพินทร์แนะนำให้ทำลายแต่ดารินห้ามไว้เนื่องจากศึกษาคัมภีร์ให้ละเอียด ก่อนถอดพระเครื่องที่ได้รับไว้เพื่อป้องกันตัวจากจอมผีดิบมันตรัยคืนให้แก่รพินทร์ หลังจากคืนพระเครื่องให้รพินทร์ คืนนั้นดารินกลับต้องมนต์สะกดของมันตรัยทีส่งกระแสจิตเข้ามาภายในปางพัก ดารินถูกมันตรัยสะกดให้ออกจากปางพักโดยไม่มีอาวุธใด ๆ ติดตัวไปยังถ้ำแห่งหนึ่ง เพื่อใช้ตัวดารินเป็นข้อต่อรองแลกเปลี่ยนระหว่างกริชและคัมภีร์หนังมนุษย์หรือคัมภีร์มหามายาวินที่รพินทร์ได้นำออกมาจากปราสาทพันธุมวดี

รพินทร์ เชษฐา ไชยยันต์ พยายามต่อรองกับมันตรัยในการแลกเปลี่ยนตัวดารินกับคัมภีร์มหามายาวิน โดยรพินทร์จะเป็นผู้นำคัมภีร์ไปวางไว้ที่บริเวณซากปรักหักพังของปราสาทพันธุมวดีในวันรุ่งขึ้นก่อนตะวันตกดิน เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนตามข้อตกลงของมันตรัย ที่ได้คัมภีร์คืนไปไปแล้วจะปล่อยตัวดารินกลับคืนมา วันรุ่งขึ้นในขณะที่รพินทร์ เชษฐาและไชยยันต์ รอคอยการมาของมันตรัยเพื่อแลกเปลี่ยนคัมภีร์กับตัวดาริน วิญญาณของขุนพลวรมันต์ในร่างแงซาย ก็ช่วยเหลือและนำตัวดารินกลับคืนสู่ปางพักในตอนบ่าย ทำให้แผนการที่วางไว้กลับตาลปัตร ไชยยันต์เปลี่ยนแผนการโจมตีมันตรัย ด้วยการนำเอาระเบิดไนโตรกลีเซอรีนไปผูกที่คอของเสือโคร่งดำที่เป็นหิน ซึ่งเป็นอีกร่างของมันตรัยภายในถ้ำ ถ้าวิญญาณของมันตรัยย้ายมายังร่างของเสือโคร่งดำและมีการขยับตัว ระเบิดที่ผูกคอไว้จะระเบิดทันที

ตกดึกของคืนนั้น มันตรัยหวนกลับมาเอาคัมภีร์มหามายาวินตามที่ได้ตกลงกับรพินทร์ จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้นระหว่างฝ่ายรพินทร์ เชษฐา ไชยยันต์ พรานบุญคำและคะหยิ่น กับฝ่ายมันตรัย รพินทร์และคะหยิ่นติดตามมันตรัยที่หลบหนีขึ้นไปยังผาหินสูงรูปเจดีย์ ปลุกปล้ำไล่ต่อสู้กันชุลมุนวุ่นวาย ในขณะที่รพินทร์กำลังจะเสียท่านั้น มันตรัยก็ถูกกระสุนปืนอาคมของเชษฐาที่อยู่ด้านล่างยิงสวนขึ้นมา ทำให้ร่างคนของมันตรัยถูกทำลายจากอาถรรพณ์ของเลือดประจำเดือน วิญญาณของมันตรัยต้องหลบหนีไปสิงยังร่างเสือโคร่งดำแทน เมื่อวิญญาณมันตรัยเข้าสิงเสือโคร่งดำที่เป็นหินและขยับตัวก็เกิดระเบิดทันที

อาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 2

รพินทร์ทำลายร่างของมันตรัย กริชสีดำและคัมภีร์มหามายาวินด้วยการเผาไฟ แต่ไม่สามารถทำลายได้ พรานบุญคำจึงนำผ้าเปื้อนเลือดประจำเดือนของมาเรียโยนเข้าไปในกองไฟ จึงสามารถทำลายกริชและคำภีร์ได้สำเร็จ คืนนั้นดารินฝันเห็นขุนพลวรมันต์และประวัติอาณาจักรนิทรานครก่อนล่มสลายด้วยฝีมือของมันตรัย วิญญาณทุกดวงในอาณาจักรนิทรานครถูกจองจำกักขังด้วยกริชที่ปักตรึงกับคัมภีร์มหามายาวิน เมื่อกริชและคัมภีร์ถูกทำลายวิญาณทุกดวงจึงเป็นอิสระและขอคืนร่างแงซายให้ที่โคนต้นไม้แห่งหนึ่ง ใกล้รุ่งสาง ดารินเล่าความฝันตามที่ได้รับทราบจากวิญญาณของขุนพลวรมันต์ให้รพินทร์และเชษฐาได้รับรู้ และเร่งเร้าให้ออกติดตามค้นหาตัวแงซายให้พบ แต่รพินทร์และคนอื่น ๆ ในคณะเดินทางไม่เห็นด้วยกับการออกติดตามค้นหาแงซายทันทีตามที่ดารินต้องการ เนื่องจากอันตรายเกินไปที่จะออกตามหาในตอนที่ยังมืดๆเช่นนั้น

เมื่อเช้าเต็มที่ รพินทร์และคณะนายจ้างพร้อมด้วยพรานพื้นเมืองและคะหยิ่น ออกติดตามค้นหาแงซายตามความฝันของดาริน พบนั่งหลับพิงโคนต้นไม้ใหญ่อยู่ภายในป่า รพินทร์พบแงซายอยู่ในสภาพสลบ ชีพจรเต้นอ่อนเนื่องจากถูกแมงมุมหกขากัดที่แข้งข้างขวาเหนือข้อเท้า โดยนั่งขวางทางเข้าออกรูของแมงมุมหกขา ดารินโกรธจัดและโวยวายใส่รพินทร์ที่ไม่ยอมออกติดตามค้นหาตัวแงซาย จนกระทั่งถูกแมงมุมหกขากัดเกือบเสียชีวิต รพินทร์นึกถึงส่างปาซึ่งเป็นหมอถอนพิษที่มีวิชาสืบทอดกันมาแต่บรรพบุรุษ และเคยช่วยชีวิตของไชยยันต์ที่ถูกตะขาบดงกัดจนหายเป็นปกติ จึงนำตัวแงซายที่มีสภาพหายใจรวยรินกลับปางพักเพื่อให้ส่างปาช่วยชีวิตด้วยแท่งยาดูดพิษและพิษจากแมงมุมหกขาที่กัดแงซาย

ส่างปาช่วยชีวิตแงซายจากความตายได้สำเร็จ รพินทร์และคณะนายจ้างจึงหยุดพักการเดินทางชั่วคราว เพื่อให้แงซายได้พักฟื้นจนหายเป็นปกติ ตกตอนเย็นคะหยิ่นและส่างปารับหน้าที่ออกหาอาหารและไปขโมยเนื้อสมันได้จากเสือ แต่นำกลับมาไม่ได้เนื่องจากเนื้อมีขนาดใหญ่ พรานบุญคำจึงตามไปช่วยขนเนื้อกลับมายังปางพัก ระหว่างเดินทางเกิดยิงปะทะกับไดโนโทเรี่ยม ซึ่งเป็นช้างโบราณที่มีงางอกจากปากบนลงล่าง แทนที่จะงอกเสยขึ้นบนเช่นเดียวกับช้างปกติทั่วไป คะหยิ่นและพรานบุญคำหนีรอดมาได้แต่ทิ้งส่างปาไว้ในฝูงไดโนโทเรี่ยม เชษฐา รพินทร์และมาเรียออกติดตามเพื่อช่วยเหลือส่างปาทันทีที่ทราบข่าว ก่อนยิงถล่มโขลงช้างโบราณจนซากกองเกลื่อนกลาดไปทั่วบริเวณ และช่วยเหลือส่างปาที่หนีเอาตัวรอดจากโขลงช้างไดโนโทเรี่ยมเข้าไปในดงไผ่ได้สำเร็จ

เชษฐาอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งลักษณะของช้างโบราณให้ดารินและไชยยันต์ได้รับรู้ มาเรียและดารินวิเคราะห์ถึงลักษณะของช้างแปลกประหลาดตามคำบอกเล่าของส่างปาและคะหยิ่น พบว่าเป็นสัตว์ในยุคดึกดำบรรพ์ที่น่าจะสูญพันธุ์ไปจากโลกนี้แล้ว ทำให้เป็นที่อัศจรรย์ใจกันยิ่ง หลังจากนั้นเชษฐาสอบถามถึงวันเวลาในการเดินทาง ไชยยันต์ยืนยันด้วยวันที่ในไดอารี่คือวันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม (ขึ้น11 ค่ำ เดือน 11) และวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 12 ซึ่งเป็นวันท่ลายแทงกำหนดปริศนาไว้ว่าจะเกิดปรากฏการณ์ "ปิ่นพระศิวะจะฉายแสงเรืองรอง และถันพระอุมาจะปรากฏ" คือวันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พร้อมกับการยืนยันตำแหน่งในการเดินทางของคณะนายจ้างที่ผ่านเขตเหนือสุดของรัฐว้าจากรพินทร์

รพินทร์รับหน้าที่ยามเฝ้าดูแลปางพักในช่วงค่ำ และนำลายแทงขุมทรัพย์เพชรพระอุมาของมังมหานรธาออกมาพิจารณา ตกดึกแงซายที่หายจากการบาดเจ็บออกมาพูดคุยด้วยพร้อมกับใช้ดุ้นฟืนที่ติดไฟกลายเป็นถ่าน วาดภาพพระศิวะและปิ่น ทำให้รพินทร์โกรธจัดเนื่องจากคิดว่าดารินเล่าเรื่องแผนที่ลายแทงให้แงซายได้รับรู้ รุ่งขึ้นจึงอารมณ์เสียใส่ดารินก่อนจะปรับความเข้าใจกันภายหลัง เชษฐา ดาริน ไชยยันต์ชวนรพินทร์และแงซายไปตรวจสอบยังซากช้างไดโนเทเรี่ยมที่ถูกยิงเสียชีวิตในการปะทะกับคะหยิ่นและส่างปา แต่พบปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นเนื่องจากซากของไดโนเทเรี่ยมถูกสัตว์ที่มีขนาดใหญ่โตกว่ามากินซาก และทิ้งรอยเท้าขนาดมโหฬารเอาไว้ทั่วบริเวณ รพินทร์สังหรณ์ใจถึงภัยอันตรายที่จะตามภายหลัง จึงให้แงซายเตรียมธนูติดระเบิดทีเอ็นทีไว้ให้พร้อม

อาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 3

รุ่งเช้ารพินทร์ คณะนายจ้างและพรานพื้นเมือง ต่างพากันตกใจเสียงร้องคำรามกึกก้องราวกับฟ้าผ่าที่ลอยมากับสายลม มาเรียพิจารณาเหตุการณ์ทั้งหมดแล้วบอกว่า ทั้งคณธอาจต้องเผชิญกับไดโนเสาร์ แต่จะเป็นพันธุ์ใดไม่แน่ใจ

อุณหภูมิลดลงเหลือ 6 องศาและหมอกลงหนาจัดจนมองไม่เห็นเส้นทาง พอหมอกเริ่มจางรพินทร์ก็นำคณะนายจ้างออกเดินทางต่อโดยมุ่งหน้าเขาเกือกหน้าเป็นจุดแรกของการเดินทางซึ่งอยู่ทางตะวันออกของนิทรานคร ระหว่างทางพบรอยก้อนหินขนาดเท่ารถยนต์พลิกกลิ้ง และซากไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ถูกกินทิ้งไว้เป็นกองมหึมา ต่อมพบแรดอาสินอยด์สายตาสั้นและอารมณ์ร้อน ที่ต้องจบชีวิตด้วยปืน .600 ไนโตรเอกซ์เพรส ของไชยยันต์ และรพินทร์ยิงกวางดาว ด้วยปืน .30-06 ไว้สำหรับเป็นสเบียงในการเดินทาง ก่อนนำคณะนายจ้างมุ่งหน้าสู่ป่าหินในบริเวณเขาเกือกม้า ภายในป่าหินรพินทร์พบใบกระบองเพชรถูกรอยมีดเฉือน ซึ่งเป็นร่องรอยของพรานชดที่ทำทิ้งไว้

ระหว่างค้นหาร่องรอยของพรานชดในบริเวณนั้น แงซายได้ช่วยชีวิตของส่างปาจากเสือเขี้ยวดาบที่แอบซุ่มโจมตีหวังได้ส่างปาเป็นเหยื่อด้วยปืน .375 จำนวน 2 นัด และพบร่องรอยกระสุนปืนของพรานชดในกะโหลกของเสือเขี้ยวดาบอีกหัวหนึ่งใกล้ๆกัน มาเรียพบปลอกกระสุน .450 ไนโตรเอกซ์เพรสตกหล่นอยู่ พรานเส่ยและพรานเกิดพบปลอกกระสุนในบริเวณใกล้เคียงเช่นเดียวกัน เป็นปลอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 สองปลอก ซึ่งเป็นแบบกรังด์ปรีซ์ ทำด้วยกระดาษ เป็นรุ่นเก่าของอีลีย์ รพินทร์นำคณะนายจ้างออกจากป่าหินมุ่งหน้าทะเลสาบมรณะ ระหว่างทางเกิดพลัดหลงเข้าไปในดงเถาวัลย์กินคน ที่เต็มไปด้วยเถาวัลย์ขนาดใหญ่และเคลื่อนไหวได้ราวกับสัตว์มีชีวิต

ในระหว่างที่รพินทร์พยายามดิ้นรนเอาตัวรอดและช่วยเหลือทุกคน เกิดมีการลองเชิงซึ่งกันและกันระหว่างรพินทร์และแงซายในการกำจัดเถาวัลย์กินคนด้วยไฟ เป็นเหตุให้เมื่อหลุดรอดมาได้อย่างปลอดภัย แงซายก็โดนดารินตบหน้าเป็นการลงโทษ ฐานที่ลองเชิงกับรพินทร์โดยไม่ดูสถานการณ์ หลังจากผ่านดงเถาวัลย์กินคนมาได้ รพินทร์นำคณะนายจ้างออกเดินทางต่อก่อนหาที่หยุดพักแรมในช่วงเย็น ช่วงเวลาหัวค่ำเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อส่างปาทำปืนของจันลั่นขึ้น เป็นเหตุให้ทั้งหมดเกิดการประทะกันอย่างซึ่งหน้ากับไทรันโนซอรัส เร็กซ์ ไดโนเสาร์กินเนื้อที่ดุร้ายที่สุดในยุคดึกดำบรรพ์ ซึ่งเป็นตัวเดียวกันที่ไปกินซากของช้างโบราณไดโนโทเรี่ยมที่ถูกมาเรีย เชษฐาและรพินทร์ยิงตาย และกินซากไดโนเสาร์ที่พบระหว่างทาง

อาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 4

รพินทร์และคณะนายจ้างพากันแยกย้ายหลบหนีไทรันโนซอรัส เร็กซ์ โดยไชยยันต์หลบหนีไปกับมาเรีย เชษฐากับพรานบุญคำและคะหยิ่น เส่ยไปกับส่างปา และแงซายพลัดหลงไปคนเดียว ส่วนดารินหลบหนีเข้าไปซ่อนตัวในซอกหินพร้อมกับรพินทร์ที่สลบจากการปะทำระหว่างมนุษย์และไดโนเสาร์ โดยมีพรานจันและพรานเกิดติดตามไปด้วย ไชยยันต์ยิง .600 ไนโตรเอกซ์เพรสใส่หางไทรันโนซอรัส เร็กซ์เพื่อช่วยชีวิตส่างปากับเส่ยที่ทะเล่อทะล่าเข้าไปในบริเวณที่มันซุ่มอยู่ ไทรันโนซอรัส เร็กซ์อาละวาดจนป่าหินสะเทือน ดารินที่เข้าไปหลบซ่อนในซอกหินออกมาดูสถานการณ์ได้รพินทร์ส่องไฟให้และได้โอกาสยิงด้วยปืน .300 เข้าที่ดวงตาด้านซ้ายของไทรันโนซอรัส เร็กซ์ บอดสนิททันที สร้างความเจ็บปวดและโกรธแค้นให้แก่มันมากยิ่งขึ้นก่อนหลบหนีไป ไชยยันต์และมาเรียที่หลบหนีไทรันโนซอรัส เร็กซ์ ไปด้วยกันเมื่อคืน ต่างเผยความรู้สึกในใจและตกลงใช้ชีวิตเป็นสามีภรรยาร่วมกัน เช่นเดียวกับดารินและรพินทร์ที่เผยใจต่อกันเป็นครั้งแรก

รุ่งขึ้นหลังจากหลบซ่อนจากไทรันโนซอรัส เร็กซ์ รพินทร์นำคณะนายจ้างออกเดินทางต่อเพื่อค้นหาหาแหล่งน้ำ แต่กลับพบไทรันโนซอรัส เร็กซ์ ที่หวนย้อนกลับมาอีกครั้ง มาเรียบันดาลโทสะจนควบคุมสติไม่ได้ วิ่งเข้าใส่ไทรันโนซอรัส เร็กซ์ เป็นเหตุให้รพินทร์ออกติดตามมาเพื่อช่วยเหลือมาเรีย ในระหว่างที่ไทรันโนซอรัส เร็กซ์ ไล่กวดมาเรียและจวนเจียนที่จะพลาดท่าถูกจับได้ ขณะนั้นเอง ก็เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงทำให้รพินทร์และมาเรียหลุดเข้าไปในถ้ำ

รุ่งเช้ารพินทร์พยายามหาทางออกจากถ้ำด้วยการปีนขึ้นไปจนพบรังนกโกลเด้น อีเกิล เกิดการต่อสู้ระหว่างรพินทร์และนกโกลเด้น อีเกิล แต่ได้แงซายตามมาช่วยเหลือพร้อมกับตอกทอยขึ้นไปรับตัวรพินทร์และมาเรียลงสู่พื้นดิน รุ่งขึ้นก่อนออกเดินทาง สภาพแวดล้อมก็เปลี่ยนไปจากเดิม มีน้ำพุเกิดใหม่หลายจุดและแผ่นดินแยก ซึ่งต้องใช้สะพานเชือกแบบคอมมานโดเดี่ยวชักรอกข้ามกันไป รพินทร์นำคณะนายจ้างผ่านโอเอซิสและหยุกพักแรม ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่พรานชดเคยมาพักค้างแรมพร้อมกับหนามอิน

ตกดึกไทรันโนซอรัส เร็กซ์ แอบหวนย้อนกลับมาอีกครั้ง แต่ไม่กล้าเข้ามาใกล้เนื่องจากกลัวกองไฟที่ก่อไว้รอบปางพัก รพินทร์กับแงซายจะออกไปยิงไทรันโนซอรัส เร็กซ์ด้วธนูติดระเบิด แต่รพินทร์เกิดไข้จับสั่นขึ้นเสียก่อน จึงเสียโอกาสไป เช้ามืดของวันรุ่งขึ้น แงซายยิงกวางด้วยธนูสำหรับเป็นเสบียงในการเดินทาง รพินทร์ซึ่งหายไข้ดีแล้วและคณะนายจ้างต่างเตรียมตัวและเสบียงให้พร้อมก่อนออกเดินทาง คะหยิ่นแอบหลบไปปลดทุกข์บริเวณใกล้กับปางพัก และได้พบเจอร่องรอยของพรานชดที่บริเวณซากเก่าแก่ของต้นปาล์ม เป็นร่องรอยของมีดที่สลักข้อความว่า "เกาะแห่งชีวิต-อนุชา วราฤทธิ์-หนานอิน 30/9/25..." สร้างความตื่นเต้นและดีใจให้แก่คณะนายจ้างเป็นอย่างยิ่ง ที่พบว่าบุคคลที่ออกติดตามค้นหายังมีชีวิตอยู่ ภายหลังจากตรวจสอบ พบร่องรอยการเดินทางและการพักแรมของพรานชดและหนานอิน รพินทร์นำคณะนายจ้างออกเดินทางต่อโดยมุ่งหน้าสู่ช่องเขาขาด

ระหว่างทางมาเรียสังเกตเห็นนกแร้งตัวหนึ่งบินวนอยู่บนท้องฟ้าอย่างผิดสังเกต จนกระทั่งเกือบโพล้เพล้ รพินทร์จึงนำคณะนายจ้างเดินทางถึงบริเวณป่าหินใกล้ ๆ ช่องเขาขาด และสามารถมองเห็นช่องเขาขาดได้ในระยะทางไม่เกิน 3 กิโลเมตรอยู่เบื้องหน้า มาเรียมองเห็นนกแร้งบินวนบนท้องฟ้าในลักษณะเฝ้าติดตามการเดินทางของตนเองและทุกคนในคณะเดินทางตลอดเวลา นกแร้งเฝ้าติดตามคณะเดินทางอยู่สามวัน ก่อนจะผละหายไป และมาบินวนเวียนนำหน้าอยู่บริเวณช่องเขาขาด รพินทร์นำคณะนายจ้างมาหยุดพักที่บริเวณป่าหิน ก่อนสงสัยในพฤติกรรมการบินที่แปลกประหลาดของนกแร้ง จึงใช้กล้องส่องทางไกลส่องมองดูยังบริเวณช่องเขาหัวขาด ภาพจากกล้องส่องทางไกลที่มองเห็นคือไทรันโนซอรัส เร็กซ์ นอนเอาลำตัวขวางทางอยู่ที่ช่องเขาขาดซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 2.5 - 3 กิโลเมตร

อ้างอิง

  1. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 1 หน้า 5072, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 5074
  2. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 1 หน้า 5076, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 5076
  3. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 1 หน้า 5083, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 5083
  4. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 1 หน้า 5089, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 5089
  5. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 1 หน้า 5122, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 5122
  6. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 1 หน้า 5183, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 5183
  7. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 1 หน้า 5206, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 5206
  8. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 1 หน้า 5220, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 5220
  9. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 1 หน้า 5235-5254, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 5235-5254
  10. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 1 หน้า 5299, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 5299
  11. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 1 หน้า 5317, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 5317
  12. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 1 หน้า 5352, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 5352
  13. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 1 หน้า 5356, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 5356
  14. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 1 หน้า 5377, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 5377
  15. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 1 หน้า 5381, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 5381
  16. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 2 หน้า 5702, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 5702
  17. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 2 หน้า 5720, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 5720
  18. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 2 หน้า 5895, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 5895
  19. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 3 หน้า 6132, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 6132
  20. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 3 หน้า 6171-6172, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 6171-6172
  21. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 3 หน้า 6182-6183, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 6182-6183
  22. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 3 หน้า 6240, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 6240
  23. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 3 หน้า 6280, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 6280
  24. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 4 หน้า 6323-6328, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 6323-6328
  25. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 4 หน้า 6361, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 6361
  26. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 4 หน้า 6486, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 6486
  27. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 4 หน้า 6542-6560, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 6542-6560
  28. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 4 หน้า 8584, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 6584
  29. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 4 หน้า 6672, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 6672
  30. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 4 หน้า 6717, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 6717
  31. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 4 หน้า 6750, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 6750

อาถรรพณ, ทรานคร, เป, นตอนท, ของเพชรพระอ, มาจำนวน, เล, ได, แก, เล, 4ภาพปกเพชรพระอ, มา, ตอนรายละเอ, ยดผ, ประพ, นธ, นายฉ, ตรช, เศษส, วรรณภ, จำนวนเล, ม4, เล, มความยาว1, หน, าออกแบบปกสามารถ, จงเจษฎาก, ลภาพประกอบปกสมชาย, ปานประชาศ, ลปกรรมฝ, ายศ, ลปกรรม, านวรรณกรรม, . xathrrphnnithrankhr epntxnthisikhxngephchrphraxumacanwn 4 elm idaekxathrrphnnithrankhr elm 1 4xathrrphnnithrankhrphaphpkephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhrraylaexiydphupraphnthnaychtrchy wiesssuwrrnphumicanwnelm4 elmkhwamyaw1 680 hnaxxkaebbpksamarth cngecsdakulphaphprakxbpksmchay panprachasilpkrrmfaysilpkrrm n banwrrnkrrm krupbrrnathikarrkschnk namthxnsankphimphsankphimph n banwrrnkrrmpithiphimphkhrngthi 1 ph s 2538khrngthi 2 ph s 2541khrngthi 3 ph s 2544khrngthi 4 ph s 2547elmkxnhnacxmphidibmntryelmthdippaolklanpidkhk enuxha 1 enuxeruxngyx 1 1 xathrrphnnithrankhr elm 1 1 2 xathrrphnnithrankhr elm 2 1 3 xathrrphnnithrankhr elm 3 1 4 xathrrphnnithrankhr elm 4 2 xangxingenuxeruxngyx aekikhxathrrphnnithrankhr elm 1 aekikh phayhlngcakthifnhyudtkaelaphbecxplxkkrasunpunluksxngkhxngphranphunemuxng rwmthngknsikarhawanakhxngechsthalxytamnama rphinthrnadarinaelaphranbuykhaxxktidtamkhnhatxcnkrathngeyncungphbsakprasathphnthumwdiklangpadngdib rphinthrnadarinekhaipphayinprasaththisrangdwysilaaelngkhlayprasathkhxminsmyobran odymiphranbuykhathuximesiymplayaehlmthithadwyeluxdpracaeduxniwtrngplaytamiptid emuxmathungicklanghxngothngihy kungklanghxngmikhrxbaekwphluktngwangednbnaethnphunhinxxnsida phayinmirangkhxnghyingsawnanghnung rupphrrnsnthanrwmthngkaraetngkayehmuxnnangkstriyinsmyobran nxnehyiydyawlksnaehmuxnkhnnxnhlbbrrcuxyu 1 rphinthrtalungkbphaphthiehntrnghna sungrangthinxnsngbningklanghxngothng trngkbkhabxkelaeruxngprasathnangphyaphnthumwdikhxngaengsaythukprakarphranbuykhathitidtamrphinthraeladarinmayngkhrxbaekwkratukaekhnrphinthrdwykhwamklw phrxmkbchiihduthxnimthipkaennxyurahwangklangthrwngxkkhxngphnthumwdi mihydeluxdcakbadaephlihlxablngmaepnthang aehngekrxakrngphayinkhrxbaekw 2 darinsxbthamthungthxnimphayinkhrxbaekw rphinthryunynwaepnimaehlmxnediywknkbichaethngkhangkhawyksemuxkhun kxnsarwcrxb aethnphunhinxxnsida phbophrngthiphayinitaethnaelakhmphirhnngmnusylksnaehmuxnkbsmudiblan mikrichsidapktrungxyu inkhnathithnghmdtangtalungkbsingthiphbehn saksphtaysakcanwnmakkpraktkhuntamchxngthangtang phayinhxngothng 3 ekidkarpathaknkhunxyangchulmunwunway rphinthraeladarinchwyknyingsaksphthidahnaekhamaxyangprathusray aetkrasunklbecaaphanrangkaythiaekhngepnhin imsrangkhwamecbpwdaelahyudyngphwkmnidaemaetnxy phranbuykhaichimesiymplayaehlmthithadwyeluxdpracaeduxn kwdaekwngtxsukbsaksphtaysak thiemuxaekwngimesiymipthangidkphaknaetkhuxipkhnlathislathang 4 rphinthr darinaelaphranbuykha phyayamtxsukbsaksphtaysakthiphyayamekhamatharayaelapidlxmthangxxkcakhxngothngihy inkhnathikalngesiythaaelaesiykhwyinkartxsu echstha phranphunemuxngkhxngrphinthr idekhamaphayinprasaththphnthumwdiaelachwyehluxthngsamkhnexaiwidxyangthnthwngthirphinthrtaoknbxkihdarindungkrichsidaxxkcakkhmphirhnngmnusy phrxmkbchwyechsthaaelaphranphunemuxngyingpathaepidthangihaekdarin thiphungtrngipyngaethnhinxxnsidaphayitkhrxbaekwkhxngnangphyaphnthumwdi phrxmkbkrachakkrichxxkxyangaerng thnthithikrichsidahludxxkcakkhmphirhnngmnusy saksphtaysakthnghmdthiekhluxnihwrawkbmichiwitaelathukkhwbkhumbngkarcakphumiewthmntrkhatha tangsinvththihyudningxyukbthi klaysphaphepnsaksphthiaehngtaysaklksnaehmuxnknthxnimxabdwynayatamedim rphinthr darin echsthaaelaphranbuykha tangchwyknphicarnasaksphcanwnmakphayinhxngothngihy phrxmkbkrichsidalngxkhrayntobran aelakhmphirhnngmnusythiekhythukkrichpktrungaennxyu inkhnathithnghmdphicarnathungehtukarnaeplkprahladthiekidkhun rangswysngangamrawkbmichiwitkhxngphnthumwdi thinxnsngbningxyuphayinkhrxbaekw klbslayklayepnfunphngthuliaethnrahwangnnkidyinesiyngpunirefildngkhunhnungnd esiyngpundngimiklcakphayinprasathphnthumwdimaknk darincungyingpunsnpracatwtxbklbipphrxmkbxxktidtamkhnha kxnphbtnesiyngkhxngpunirefilthiophlpakkrabxkpunxxkmacakphayitsusanodyfimuxkaryingkhxngichyynt thitidxyuphayinsusankbmaeriy rphinthr darin echstha tangphaknhathangchwyehluxichyyntaelamaeriyxxkcakitsusandwykarraebidbriewnpaksusan 5 hlngcaknatwichyyntaelamaeriyxxkmacakitsusanidxyangplxdphyodyimidrbxntraycakaerngraebid rphinthrkraebidprasathphnthumwdi phrxmkbfngrangkhxngnangphyaphnthumwadiaelasakprasath phrxmkbsaksphtaysakphayinsusan ihehluxephiyngaetsakprkhkphng 6 phayhlngcakklbmayngpangphkaermkhxngechsthaphrxmkbkrichsidaaelakhmphirhnngmnusy intxnklangkhunechsthanakrichaelakhmphirhnngmnusymaphicarna rphinthraenanaihthalayaetdarinhamiwenuxngcaksuksakhmphirihlaexiyd kxnthxdphraekhruxngthiidrbiwephuxpxngkntwcakcxmphidibmntrykhunihaekrphinthr 7 hlngcakkhunphraekhruxngihrphinthr khunnndarinklbtxngmntsakdkhxngmntrythisngkraaescitekhamaphayinpangphk darinthukmntrysakdihxxkcakpangphkodyimmixawuthid tidtwipyngthaaehnghnung ephuxichtwdarinepnkhxtxrxngaelkepliynrahwangkrichaelakhmphirhnngmnusyhruxkhmphirmhamayawinthirphinthridnaxxkmacakprasathphnthumwdi 8 rphinthr echstha ichyynt phyayamtxrxngkbmntryinkaraelkepliyntwdarinkbkhmphirmhamayawin odyrphinthrcaepnphunakhmphiripwangiwthibriewnsakprkhkphngkhxngprasathphnthumwdiinwnrungkhunkxntawntkdin ephuxepnkaraelkepliyntamkhxtklngkhxngmntry 9 thiidkhmphirkhunipipaelwcaplxytwdarinklbkhunma wnrungkhuninkhnathirphinthr echsthaaelaichyynt rxkhxykarmakhxngmntryephuxaelkepliynkhmphirkbtwdarin wiyyankhxngkhunphlwrmntinrangaengsay kchwyehluxaelanatwdarinklbkhunsupangphkintxnbay 10 thaihaephnkarthiwangiwklbtalptr ichyyntepliynaephnkarocmtimntry dwykarnaexaraebidinotrkliesxrinipphukthikhxkhxngesuxokhrngdathiepnhin sungepnxikrangkhxngmntryphayintha thawiyyankhxngmntryyaymayngrangkhxngesuxokhrngdaaelamikarkhybtw raebidthiphukkhxiwcaraebidthnthi 11 tkdukkhxngkhunnn mntryhwnklbmaexakhmphirmhamayawintamthiidtklngkbrphinthr cungekidkartxsuknkhunrahwangfayrphinthr echstha ichyynt phranbuykhaaelakhahyin kbfaymntry rphinthraelakhahyintidtammntrythihlbhnikhunipyngphahinsungrupecdiy 12 plukplailtxsuknchulmunwunway 13 inkhnathirphinthrkalngcaesiythann mntrykthukkrasunpunxakhmkhxngechsthathixyudanlangyingswnkhunma thaihrangkhnkhxngmntrythukthalaycakxathrrphnkhxngeluxdpracaeduxn wiyyankhxngmntrytxnghlbhniipsingyngrangesuxokhrngdaaethn 14 emuxwiyyanmntryekhasingesuxokhrngdathiepnhinaelakhybtwkekidraebidthnthi 15 xathrrphnnithrankhr elm 2 aekikh rphinthrthalayrangkhxngmntry krichsidaaelakhmphirmhamayawindwykarephaif aetimsamarththalayid phranbuykhacungnaphaepuxneluxdpracaeduxnkhxngmaeriyoynekhaipinkxngif cungsamarththalaykrichaelakhaphiridsaerc khunnndarinfnehnkhunphlwrmntaelaprawtixanackrnithrankhrkxnlmslaydwyfimuxkhxngmntry wiyyanthukdwnginxanackrnithrankhrthukcxngcakkkhngdwykrichthipktrungkbkhmphirmhamayawin emuxkrichaelakhmphirthukthalaywiyanthukdwngcungepnxisraaelakhxkhunrangaengsayihthiokhntnimaehnghnung iklrungsang darinelakhwamfntamthiidrbthrabcakwiyyankhxngkhunphlwrmntihrphinthraelaechsthaidrbru aelaerngeraihxxktidtamkhnhatwaengsayihphb aetrphinthraelakhnxun inkhnaedinthangimehndwykbkarxxktidtamkhnhaaengsaythnthitamthidarintxngkar enuxngcakxntrayekinipthicaxxktamhaintxnthiyngmudechnnnemuxechaetmthi rphinthraelakhnanaycangphrxmdwyphranphunemuxngaelakhahyin xxktidtamkhnhaaengsaytamkhwamfnkhxngdarin phbnnghlbphingokhntnimihyxyuphayinpa rphinthrphbaengsayxyuinsphaphslb chiphcretnxxnenuxngcakthukaemngmumhkkhakdthiaekhngkhangkhwaehnuxkhxetha odynngkhwangthangekhaxxkrukhxngaemngmumhkkha darinokrthcdaelaowywayisrphinthrthiimyxmxxktidtamkhnhatwaengsay cnkrathngthukaemngmumhkkhakdekuxbesiychiwit rphinthrnukthungsangpasungepnhmxthxnphisthimiwichasubthxdknmaaetbrrphburus aelaekhychwychiwitkhxngichyyntthithuktakhabdngkdcnhayepnpkti cungnatwaengsaythimisphaphhayicrwyrinklbpangphkephuxihsangpachwychiwitdwyaethngyadudphisaelaphiscakaemngmumhkkhathikdaengsaysangpachwychiwitaengsaycakkhwamtayidsaerc rphinthraelakhnanaycangcunghyudphkkaredinthangchwkhraw ephuxihaengsayidphkfuncnhayepnpkti tktxneynkhahyinaelasangparbhnathixxkhaxaharaelaipkhomyenuxsmnidcakesux aetnaklbmaimidenuxngcakenuxmikhnadihy phranbuykhacungtamipchwykhnenuxklbmayngpangphk rahwangedinthangekidyingpathakbidonotheriym sungepnchangobranthimingangxkcakpakbnlnglang aethnthicangxkesykhunbnechnediywkbchangpktithwip khahyinaelaphranbuykhahnirxdmaidaetthingsangpaiwinfungidonotheriym echstha rphinthraelamaeriyxxktidtamephuxchwyehluxsangpathnthithithrabkhaw kxnyingthlmokhlngchangobrancnsakkxngekluxnkladipthwbriewn aelachwyehluxsangpathihniexatwrxdcakokhlngchangidonotheriymekhaipindngiphidsaercechsthaxthibayehtukarnthiekidkhun rwmthnglksnakhxngchangobranihdarinaelaichyyntidrbru maeriyaeladarinwiekhraahthunglksnakhxngchangaeplkprahladtamkhabxkelakhxngsangpaaelakhahyin phbwaepnstwinyukhdukdabrrphthinacasuyphnthuipcakolkniaelw thaihepnthixscrryicknying hlngcaknnechsthasxbthamthungwnewlainkaredinthang ichyyntyunyndwywnthiinidxarikhuxwnxathitythi 11 tulakhm khun11 kha eduxn 11 aelawnkhun 5 kha eduxn 12 sungepnwnthlayaethngkahndprisnaiwwacaekidpraktkarn pinphrasiwacachayaesngeruxngrxng aelathnphraxumacaprakt khuxwnxngkharthi 3 phvscikayn 16 phrxmkbkaryunyntaaehnnginkaredinthangkhxngkhnanaycangthiphanekhtehnuxsudkhxngrthwacakrphinthr 17 rphinthrrbhnathiyamefaduaelpangphkinchwngkha aelanalayaethngkhumthrphyephchrphraxumakhxngmngmhanrthaxxkmaphicarna tkdukaengsaythihaycakkarbadecbxxkmaphudkhuydwyphrxmkbichdunfunthitidifklayepnthan wadphaphphrasiwaaelapin thaihrphinthrokrthcdenuxngcakkhidwadarinelaeruxngaephnthilayaethngihaengsayidrbru rungkhuncungxarmnesiyisdarinkxncaprbkhwamekhaicknphayhlng echstha darin ichyyntchwnrphinthraelaaengsayiptrwcsxbyngsakchangidonetheriymthithukyingesiychiwitinkarpathakbkhahyinaelasangpa aetphbpyhaihythiekidkhunenuxngcaksakkhxngidonetheriymthukstwthimikhnadihyotkwamakinsak aelathingrxyethakhnadmohlarexaiwthwbriewn rphinthrsnghrnicthungphyxntraythicatamphayhlng cungihaengsayetriymthnutidraebidthiexnthiiwihphrxm 18 xathrrphnnithrankhr elm 3 aekikh rungecharphinthr khnanaycangaelaphranphunemuxng tangphakntkicesiyngrxngkharamkukkxngrawkbfaphathilxymakbsaylm maeriyphicarnaehtukarnthnghmdaelwbxkwa thngkhnthxactxngephchiykbidonesar aetcaepnphnthuidimaenicxunhphumildlngehlux 6 xngsaaelahmxklnghnacdcnmxngimehnesnthang phxhmxkerimcangrphinthrknakhnanaycangxxkedinthangtxodymunghnaekhaekuxkhnaepncudaerkkhxngkaredinthangsungxyuthangtawnxxkkhxngnithrankhr rahwangthangphbrxykxnhinkhnadetharthyntphlikkling aelasakidonesarkhnadihythukkinthingiwepnkxngmhuma txmphbaerdxasinxydsaytasnaelaxarmnrxn thitxngcbchiwitdwypun 600 inotrexksephrs khxngichyynt 19 aelarphinthryingkwangdaw dwypun 30 06 iwsahrbepnsebiynginkaredinthang kxnnakhnanaycangmunghnasupahininbriewnekhaekuxkma phayinpahinrphinthrphbibkrabxngephchrthukrxymidechuxn sungepnrxngrxykhxngphranchdthithathingiw 20 rahwangkhnharxngrxykhxngphranchdinbriewnnn aengsayidchwychiwitkhxngsangpacakesuxekhiywdabthiaexbsumocmtihwngidsangpaepnehyuxdwypun 375 canwn 2 nd 21 aelaphbrxngrxykrasunpunkhxngphranchdinkaohlkkhxngesuxekhiywdabxikhwhnungiklkn maeriyphbplxkkrasun 450 inotrexksephrstkhlnxyu phranesyaelaphranekidphbplxkkrasuninbriewniklekhiyngechnediywkn epnplxkkrasunpunluksxngebxr 12 sxngplxk sungepnaebbkrngdpris thadwykradas epnrunekakhxngxiliy 22 rphinthrnakhnanaycangxxkcakpahinmunghnathaelsabmrna rahwangthangekidphldhlngekhaipindngethawlykinkhn thietmipdwyethawlykhnadihyaelaekhluxnihwidrawkbstwmichiwitinrahwangthirphinthrphyayamdinrnexatwrxdaelachwyehluxthukkhn ekidmikarlxngechingsungknaelaknrahwangrphinthraelaaengsayinkarkacdethawlykinkhndwyif epnehtuihemuxhludrxdmaidxyangplxdphy aengsaykodndarintbhnaepnkarlngoths thanthilxngechingkbrphinthrodyimdusthankarn hlngcakphandngethawlykinkhnmaid rphinthrnakhnanaycangxxkedinthangtxkxnhathihyudphkaerminchwngeyn chwngewlahwkhaekidehtukarnimkhadfnkhunemuxsangpathapunkhxngcnlnkhun epnehtuihthnghmdekidkarprathaknxyangsunghnakbithrnonsxrs erks idonesarkinenuxthiduraythisudinyukhdukdabrrph sungepntwediywknthiipkinsakkhxngchangobranidonotheriymthithukmaeriy echsthaaelarphinthryingtay aelakinsakidonesarthiphbrahwangthang 23 xathrrphnnithrankhr elm 4 aekikh rphinthraelakhnanaycangphaknaeykyayhlbhniithrnonsxrs erks odyichyynthlbhniipkbmaeriy echsthakbphranbuykhaaelakhahyin esyipkbsangpa aelaaengsayphldhlngipkhnediyw swndarinhlbhniekhaipsxntwinsxkhinphrxmkbrphinthrthislbcakkarpatharahwangmnusyaelaidonesar odymiphrancnaelaphranekidtidtamipdwy 24 ichyyntying 600 inotrexksephrsishangithrnonsxrs erksephuxchwychiwitsangpakbesythithaelxthalaekhaipinbriewnthimnsumxyu ithrnonsxrs erksxalawadcnpahinsaethuxn darinthiekhaiphlbsxninsxkhinxxkmadusthankarnidrphinthrsxngifihaelaidoxkasyingdwypun 300 ekhathidwngtadansaykhxngithrnonsxrs erks bxdsniththnthi srangkhwamecbpwdaelaokrthaekhnihaekmnmakyingkhun 25 kxnhlbhniip ichyyntaelamaeriythihlbhniithrnonsxrs erks ipdwyknemuxkhun tangephykhwamrusukinicaelatklngichchiwitepnsamiphrryarwmkn echnediywkbdarinaelarphinthrthiephyictxknepnkhrngaerkrungkhunhlngcakhlbsxncakithrnonsxrs erks rphinthrnakhnanaycangxxkedinthangtxephuxkhnhahaaehlngna aetklbphbithrnonsxrs erks thihwnyxnklbmaxikkhrng maeriybndalothsacnkhwbkhumstiimid wingekhaisithrnonsxrs erks epnehtuihrphinthrxxktidtammaephuxchwyehluxmaeriy inrahwangthiithrnonsxrs erks ilkwdmaeriyaelacwneciynthicaphladthathukcbid khnannexng kekidaephndinihwxyangrunaerngthaihrphinthraelamaeriyhludekhaipintha 26 rungecharphinthrphyayamhathangxxkcakthadwykarpinkhunipcnphbrngnkokledn xiekil 27 ekidkartxsurahwangrphinthraelankokledn xiekil aetidaengsaytammachwyehluxphrxmkbtxkthxykhuniprbtwrphinthraelamaeriylngsuphundin 28 rungkhunkxnxxkedinthang sphaphaewdlxmkepliynipcakedim minaphuekidihmhlaycudaelaaephndinaeyk sungtxngichsaphanechuxkaebbkhxmmanodediywchkrxkkhamknip rphinthrnakhnanaycangphanoxexsisaelahyukphkaerm sungepncudediywkbthiphranchdekhymaphkkhangaermphrxmkbhnamxin 29 tkdukithrnonsxrs erks aexbhwnyxnklbmaxikkhrng aetimklaekhamaiklenuxngcakklwkxngifthikxiwrxbpangphk rphinthrkbaengsaycaxxkipyingithrnonsxrs erksdwthnutidraebid aetrphinthrekidikhcbsnkhunesiykxn cungesiyoxkasip echamudkhxngwnrungkhun aengsayyingkwangdwythnusahrbepnesbiynginkaredinthang rphinthrsunghayikhdiaelwaelakhnanaycangtangetriymtwaelaesbiyngihphrxmkxnxxkedinthang khahyinaexbhlbippldthukkhbriewniklkbpangphk aelaidphbecxrxngrxykhxngphranchdthibriewnsakekaaekkhxngtnpalm epnrxngrxykhxngmidthislkkhxkhwamwa ekaaaehngchiwit xnucha wravththi hnanxin 30 9 25 30 srangkhwamtunetnaeladiicihaekkhnanaycangepnxyangying thiphbwabukhkhlthixxktidtamkhnhayngmichiwitxyu phayhlngcaktrwcsxb phbrxngrxykaredinthangaelakarphkaermkhxngphranchdaelahnanxin rphinthrnakhnanaycangxxkedinthangtxodymunghnasuchxngekhakhadrahwangthangmaeriysngektehnnkaerngtwhnungbinwnxyubnthxngfaxyangphidsngekt cnkrathngekuxbophlephl rphinthrcungnakhnanaycangedinthangthungbriewnpahinikl chxngekhakhad aelasamarthmxngehnchxngekhakhadidinrayathangimekin 3 kiolemtrxyuebuxnghna maeriymxngehnnkaerngbinwnbnthxngfainlksnaefatidtamkaredinthangkhxngtnexngaelathukkhninkhnaedinthangtlxdewla nkaerngefatidtamkhnaedinthangxyusamwn kxncaphlahayip aelamabinwnewiynnahnaxyubriewnchxngekhakhad rphinthrnakhnanaycangmahyudphkthibriewnpahin kxnsngsyinphvtikrrmkarbinthiaeplkprahladkhxngnkaerng cungichklxngsxngthangiklsxngmxngduyngbriewnchxngekhahwkhad phaphcakklxngsxngthangiklthimxngehnkhuxithrnonsxrs erks nxnexalatwkhwangthangxyuthichxngekhakhadsungxyuhangxxkipraw 2 5 3 kiolemtr 31 xangxing aekikh phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 1 hna 5072 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 5074 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 1 hna 5076 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 5076 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 1 hna 5083 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 5083 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 1 hna 5089 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 5089 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 1 hna 5122 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 5122 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 1 hna 5183 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 5183 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 1 hna 5206 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 5206 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 1 hna 5220 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 5220 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 1 hna 5235 5254 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 5235 5254 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 1 hna 5299 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 5299 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 1 hna 5317 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 5317 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 1 hna 5352 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 5352 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 1 hna 5356 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 5356 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 1 hna 5377 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 5377 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 1 hna 5381 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 5381 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 2 hna 5702 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 5702 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 2 hna 5720 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 5720 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 2 hna 5895 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 5895 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 3 hna 6132 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 6132 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 3 hna 6171 6172 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 6171 6172 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 3 hna 6182 6183 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 6182 6183 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 3 hna 6240 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 6240 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 3 hna 6280 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 6280 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 4 hna 6323 6328 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 6323 6328 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 4 hna 6361 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 6361 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 4 hna 6486 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 6486 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 4 hna 6542 6560 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 6542 6560 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 4 hna 8584 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 6584 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 4 hna 6672 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 6672 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 4 hna 6717 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 6717 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 4 hna 6750 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 6750ekhathungcak https th wikipedia org w index php title xathrrphnnithrankhr amp oldid 9110108, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม