อิมโนเดเรียโก
อิมโนเดเรียโก (สเปน: El Himno de Riego) เป็นบทเพลงปลุกใจของสเปนที่มีต้นกำเนิดในช่วงสงครามกลางเมืองสเปนระหว่าง พ.ศ. 2363–พ.ศ. 2366 โดยชื่อของเพลงนี้มาจากนายพันโทราฟาเอล เดล เรียโก นายทหารและนักการเมืองสายเสรีนิยมของสเปนที่บทบาทสำคัญในสงครามกลางเมืองครั้งนั้น เพลงนี้ต่อมาได้กลายเป็นเพลงชาติของราชอาณาจักรสเปน (พ.ศ. 2365–พ.ศ. 2366) และสาธารณรัฐสเปนที่ 2 (พ.ศ. 2474–พ.ศ. 2482)
ราฟาเอล เดล เรียโกผู้เป็นที่มาของชื่อเพลง "อิมโนเดเรียโก" | |
เนื้อร้อง | เอวาริสโต เด ซาน มิเกล วาลเลดอร์ (ฉบับทางการ) |
---|---|
ทำนอง | ฟรันซิสโก แกร์ตา, พ.ศ. 2363 |
รับไปใช้ | 7 เมษายน พ.ศ. 2365 29 ธันวาคม พ.ศ. 2474 |
เลิกใช้ | 28 มกราคม พ.ศ. 2366 1 เมษายน พ.ศ. 2482 |
ตัวอย่างเสียง | |
อิมโนเดเรียโก (ข้บร้อง) |
หลังการล่มสลายของสาธารณรัฐสเปนครั้งที่ 2 เพลงนี้ได้กลายเพลงต้องห้ามตลอดสมัยการปกครองอย่างเผด็จการของจอมพลฟรันซิสโก ฟรังโก
ประวัติ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ข้อขัดแย้ง
ในประวัติของเพลงอิมโนเดเรียโก มีเรื่องราวของความขัดแย้งที่สำคัญเกิดขึ้นดังนี้
กุสโก ค.ศ. 1951
ในบันทึกเรื่อง The Motorcycle Diaries (สเปน: Diarios de motocicleta) หรือบันทึกการเดินทางไปทั่วทวีปอเมริกาใต้ของเออร์เนสโต "เช" เกบารา ซึ่งเขียนขึ้นในช่วงก่อนที่เขาจะเป็นนักปฏิวัติ เขาได้บรรยายถึงเหตุการณ์หนึ่งเกี่ยวกับเพลงนี้ที่เขาพบในเมืองกุสโก ประเทศเปรู ว่า ชาวเมืองกุสโกต้องการที่จะบรรเลงเพลงชาติสเปนเพื่อแสดงความขอบคุณจอมพลฟรันซิสโก ฟรังโก ผู้ปกครองประเทศสเปนขณะนั้น ที่ช่วยเหลือในการบูรณะโบสถ์คริสต์แห่งหนึ่งที่เสียหายจากภัยธรรมชาติ แต่ด้วยความเข้าใจผิด แทนที่วงดนตรีจะบรรเลงเพลงมาร์ชากราเดนารา (ชื่อเดิมของเพลงมาร์ชาเรอัล เพลงชาติสเปนในปัจจุบัน) พวกเขากลับบรรเลงเพลงอิมโนเดเรียโก ซึ่งเป็นเพลงต้องห้ามของสเปนเวลานั้น สร้างความไม่พอใจต่อชาวสเปนที่อยู่ในที่นั้นด้วย
การแข่งขันเทนนิสเดวิสคัพ 2003
ก่อนเริ่มการแข่งขันเทนนิสเดวิสคัพ 2003 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่างสเปนกับออสเตรเลีย ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546 ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ได้เกิดเหตุผิดพลาดขึ้นจากการบรรเลงเพลงอิมโนเดเรียโกในฐานะเพลงชาติสเปน แทนที่จะเป็นเพลงมาร์ชาเรอัล ซึ่งเป็นเพลงชาติของราชอาณาจักรสเปนปัจจุบัน จากเหตุการณ์นี้ทำให้รัฐมนตรีกระทรวงกีฬาของสเปนยื่นหนังสือประท้วงต่อคณะกรรมการจัดการแข่งขัน พร้อมเรียกร้องให้มีการขอโทษจากฝ่ายออสเตรเลีย ด้วยเห็นว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็น "การคุกคามชาติสเปน" ซึ่งภายหลังได้มีคำชี้แจงและขอโทษจากฝ่ายจัดการแข่งขันว่าเกิดจากความเข้าใจผิดของนักดนตรีผู้บรรเลงเพลง อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายสเปนเห็นว่ายังไม่เป็นการเพียงพอ และต้องการให้รัฐบาลออสเตรเลียทำหนังสือชี้แจงอย่างเป็นทางการด้วย
เนื้อร้อง
เนื้อร้องดังกล่าวนี้ถือเป็นเนื้อร้องฉบับทางการ ประพันธ์โดย เอวาริสโต เด ซาน มิเกล วาลเลดอร์ (Evaristo de San Miguel Valledor)
Serenos y alegres, valientes y osados, Cantemos, soldados, el himno a la lid. De nuestros acentos el orbe se admire Y en nosotros mire los hijos del Cid.
¡Blandamos el hierro que el tímido esclavo del libre, del bravo, la faz no osa ver! Sus huestes cual humo veréis disipadas, y a nuestras espadas fugaces correr.
¿El mundo vio nunca, más noble osadía? Ni vio nunca un día más grande el valor, Que aquel, inflamados, nos vimos del fuego, Excitar a Riego de Patria el amor?
Honor al caudillo, honor al primero que el cívico acero osó fulminar. La patria afligida oyó sus acentos y vio sus tormentos en gozo tornar.
Su voz fue seguida, su voz fue escuchada, tuvimos en nada, soldados, morir. Y osados quisimos romper la cadena que de afrenta llena del bravo el vivir.
Ya la alarma tocan; las armas tan sólo el crimen o el dolo podrán abatir. ¡Que tiemblen, que tiemblen, que tiemble el malvado, al ver al soldado la lanza esgrimir!
La trompa guerrera sus ecos al viento, Horror al sediento, ya ruge el cañón. A Marte sañudo la audacia provoca Y el ingenio invoca de nuestra nación.
Se muestran: ¡volemos, volemos, soldados! ¿Los veis aterrados la frente bajar? ¡Volemos, que el libre por siempre ha sabido al siervo rendido la frente humillar | คำแปล ด้วยความสงบและความสุข ด้วยความกล้าหาญและองอาจ ทหารทั้งหลาย จงร่วมขับขานเพลงศึกกันเถิด เสียงของเราจะยังความพิศวงแก่โลก ซึ่งมองเราในฐานะลูกหลานของเอลซิด
เสียงแตรศึกดังก้องในสายลม ก่อความตระหนกแก่พวกคนโลภ ทั้งบัดนี้ปืนใหญ่ได้คำรามแล้ว นักรบผู้องอาจของเราเรียกร้องไปข้างหน้า ต่อความกล้า และความชาญฉลาดของชาติเรา
|
อ้างอิง
- ข้อความในบันทึกมีดังนี้
Los campanarios de la catedral, derribados por el terremoto de 1950, había sido reconstruidos por cuenta del gobierno del general Franco y en prueba de gratitud se ordenó a la banda ejecutar el himno español. Sonaron los primeros acordes y se vio el bonete rojo del obispo encarnarse más aún mientras sus brazos se movían como los de una marioneta: “Paren, paren, hay un error”, decía, mientras se oía la indignada voz de un gaita: “dos años trabajando, ¡para esto!”. La banda -no sé si bien o mal intencionada-, había iniciado la ejecución del himno republicano.
คัดจาก Diarios de motocicleta, capítulo El Señor de los Temblores, Ernesto Che Guevara - Diario AS, 28 de noviembre de 2003
- Fragmento de cobertura informativa en CNN+ (video)
- El País, 28 de noviembre de 2003
- Libertad Digital, 28 de noviembre de 2003
- BBC Sport: Spain demands Davis Cup apology. Friday, 28 November, 2003, 14:22 GMT
- Himne de la República a la Copa Davis (บันทึกการรายงานข่าวของสำนักข่าว CNN)
แหล่งข้อมูลอื่น
- Himnos de Riego 2008-12-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน de IR, disponibles distintos formatos informáticos del himno (formato mp3, midi)
- Bazar Tricolor 2007-09-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน de IR, disponible hasta nueve versiones del himno, con partitura y otros.
- Fonoteca republicana española Más versiones del himno
- MP3 file
- Partitur
- Ursprüngliche Version von 1820