เทียนนกแก้ว (ชื่อวิทยาศาสตร์: Impatiens psittacina; อังกฤษ: parrot flower) อยู่ในวงศ์ Balsaminaceae อันดับ Ericales เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่นพบได้ในรัฐมณีปุระของอินเดีย, พม่า และภาคเหนือของไทย แถบจังหวัดเชียงใหม่ จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับวงศ์เทียน มีรูปทรงของดอกที่สวยงามเหมือนนกแก้วที่โดนแมวกัดไปครึ่งตัว เรียกชื่อตามลักษณะรูปทรงว่า “ดอกเทียนนกแก้ว” จัดอยู่ในกลุ่มพืชล้มลุกและเป็นพรรณไม้เมืองหนาว
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลำต้น
- ลำต้นอวบน้ำ สูง 0.5-1.5 เมตร ไม้ล้มลุกมีอายุหลายปี สูง 30-150 ซม. ลำต้นกลวงและเป็นข้อปล้อง แตกกิ่งก้านมากมาย ลำต้นอ่อนสีม่วงอมแดงและอวบน้ำ ลำต้นแก่สีเขียวอ่อนสลับสีเขียวแก่
ใบ
- ใบเดี่ยว ออกเรียงสลับเวียนรอบลำต้นเป็นเกลียว รูปใบหอก หรือรูปไข่กว้าง กว้าง 2-4 ซม. ยาว 4-6 ซม. ปลายใบแหลม ขอบใบหยักเป็นหนามแหลมสั้น โคนใบมน ผิวใบเรียบ
ดอก
- ออกดอกเดี่ยวตามก้านใบและปลายยอด ดอกมีรูปร่างคล้ายนกแก้วกำลังกางปีกบินดูสวยงามสะดุดตา ขนาดดอก 2-3 ซม. ดอกสีม่วงแกมแดงและขาว หรือสีชมพูเข้มแกมแดงและขาว กลางดอกมีแต้มสีเหลือง ดอกเป็นรูปหลอดกว้าง ปลายแยกเป็น 5 กลีบ ขนาดไม่เท่ากัน สีชมพูอมขาวและมีจุดประสีม่วงแดง กลีบบนรูปขอบขนานมีขนาดยาวที่สุด ปลายกลีบแยกลึกเป็น 2 แฉก กลีบข้าง 2 กลีบแผ่เป็นปีกแคบ กลีบล่างแผ่เป็นปีกกว้าง ปลายกลีบเว้าเป็น 2 พู เกสรตัวผู้มัดรวมกันลักษณะม้วนงอ กลีบรองกลีบดอกเป็นรูปถ้วยปากบาน ส่วนโค้งเป็นถุง มีงวงน้ำหวานขนาดสั้นอยู่ท้ายสุด บริเวณที่ติดกับก้านดอกพองออกเป็นปีกโค้งกลม ๆ 2 ปีก ก้านดอกยาวได้ถึง 6 ซม. ออกดอกในราวเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนธันวาคม
ผล
- เป็นฝักยาวรูปกระสวย มีเมล็ดเป็นจำนวนมาก
แหล่งกำเนิดและแพร่กระจาย - เป็นพันธุ์ไม้หายากชนิดหนึ่ง พบขึ้นตามใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ในป่าดิบเขาหรือบริเวณโขดหินปูนที่อยู่สูง จากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1,500-1,800 เมตร และพบได้เพียงที่เดียวคือที่ดอยหลวงเชียงดาว ดอกจะบานราวเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน คนทั่วไปจึงไม่มีโอกาสได้เห็นเพราะอยู่บนภูเขาสูง และดอกเทียนนกแก้วมักขึ้นในพื้นที่ที่เป็นโขดหิน ใกล้ ๆกับต้นหานช้างร้องที่เป็นพิษ
การเพาะปลูก - เทียนนกแก้ว เป็นพืชหายาก สวยงาม ค่อนข้างหายากสำหรับบ้านเราพบได้ทางเหนือ อาทิ ดอยเชียงดาว ไม่ควรนำมาเพาะปลูกเอง เนื่องจากเป็นดอกไม้ป่าที่จะหาเมล็ดปลูกได้ยากมาก
ความงาม - การพบเจอนั้นค่อนข้างลำบาก พบเทียนนกแก้วได้ที่ดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีลักษณะเป็นเทือกเขา ซึ่งเทือกเขาเหล่านี้ประกอบไปด้วยยอดเขาสูงหลายยอด ยอดเขาที่สูงที่สุดเรียกว่าดอยหลวงเชียงดาว มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,220 เมตรครอบคลุมพื้นที่ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง ตำบลเมืองงาย ตำบลเมืองคอง ตำบลเชียงดาวและตำบลแม่นะ จังหวัดเชียงใหม่
- การเดินทางไปดูดอกเทียนนกแก้วนั้นจะต้องเดินไปตามป่า ขึ้นไปยังยอดดอย ซึ่งเป็นเป็นเทือกเขาหินปูน มีแนวทอดยาวรวมทั้งพืชพันธ์ดอกไม้ประเภทกึ่งอัลไพน์ เป็นพืชเฉพาะถิ่น หายากมีอยู่ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนธันวาคมดอกไม้ชนิดแรกที่จะเจอคือเทียนนกแก้วที่มีให้เห็นเฉพาะช่วงที่มีฝนหรือมีความชื้นสูงเท่านั้น นอกจากนี้ยังพบ ชมพูพิมพ์ใจ นางจอย หรีดเชียงดาว ฟองหินเหลือง ฟ้าคราม เหยื่อจง ขาวปั้น เป็นต้น
ดอกเทียนนกแก้วกำลังเริงระบำท่ามกลางแสงแดด
- เทียนนกแก้วยังเป็นพืชที่ชอบอากาศหนาวเย็นอีกด้วย ซึ่งไม่ค่อยได้พบต้นพืชนี้ทางภาคอื่นนัก เพราะด้วยอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม อากาศร้อนจัดในเวลากลางวัน และเป็นดอกไม้เมืองหนาวที่มีเฉพาะประเทศไทยอย่างเดียว
อ้างอิงแหล่งข้อมูลอื่น - Botanical Authorship
- Parrot Flower
- Exotic RainForest
- Le Jardin (1902)
- Scans of the original description
- [3]
- [4]
- [5]
- [6]
- [7]
- [8]
เท, ยนนกแก, ดอกการจำแนกช, นทางว, ทยาศาสตร, อาณาจ, กร, plantaeไม, ได, ดลำด, angiospermsไม, ได, ดลำด, eudicotsไม, ได, ดลำด, asteridsอ, นด, ericalesวงศ, balsaminaceaeสก, impatiensสป, psittacinaช, อทว, นามimpatiens, psittacinahook, อว, ทยาศาสตร, impatiens, psittac. ethiynnkaekwdxkethiynnkaekwkarcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Plantaeimidcdladb Angiospermsimidcdladb Eudicotsimidcdladb Asteridsxndb Ericaleswngs Balsaminaceaeskul Impatiensspichis I psittacinachuxthwinamImpatiens psittacinaHook f ethiynnkaekw chuxwithyasastr Impatiens psittacina xngkvs parrot flower xyuinwngs Balsaminaceae xndb Ericales epnphrrnimechphaathinphbidinrthmnipurakhxngxinediy phma aelaphakhehnuxkhxngithy aethbcnghwdechiyngihm 1 cdxyuinklumediywkbwngsethiyn mirupthrngkhxngdxkthiswyngamehmuxnnkaekwthiodnaemwkdipkhrungtw eriykchuxtamlksnarupthrngwa dxkethiynnkaekw 2 cdxyuinklumphuchlmlukaelaepnphrrnimemuxnghnaw 3 enuxha 1 lksnathangphvkssastr 1 1 latn 1 2 ib 1 3 dxk 1 4 phl 2 aehlngkaenidaelaaephrkracay 3 karephaapluk 4 khwamngam 5 dxkimaehngemuxnghnaw 6 xangxing 7 aehlngkhxmulxunlksnathangphvkssastr aekikhlatn aekikh latnxwbna sung 0 5 1 5 emtr imlmlukmixayuhlaypi sung 30 150 sm latnklwngaelaepnkhxplxng aetkkingkanmakmay latnxxnsimwngxmaedngaelaxwbna latnaeksiekhiywxxnslbsiekhiywaek 4 ib aekikh ibediyw xxkeriyngslbewiynrxblatnepnekliyw rupibhxk hruxrupikhkwang kwang 2 4 sm yaw 4 6 sm playibaehlm khxbibhykepnhnamaehlmsn okhnibmn phiwiberiybdxk aekikh xxkdxk 5 ediywtamkanibaelaplayyxd dxkmiruprangkhlaynkaekwkalngkangpikbinduswyngamsadudta khnaddxk 2 3 sm dxksimwngaekmaedngaelakhaw hruxsichmphuekhmaekmaedngaelakhaw klangdxkmiaetmsiehluxng dxkepnruphlxdkwang playaeykepn 5 klib khnadimethakn sichmphuxmkhawaelamicudprasimwngaedng klibbnrupkhxbkhnanmikhnadyawthisud playklibaeyklukepn 2 aechk klibkhang 2 klibaephepnpikaekhb kliblangaephepnpikkwang playklibewaepn 2 phu eksrtwphumdrwmknlksnamwnngx klibrxngklibdxkepnrupthwypakban swnokhngepnthung mingwngnahwankhnadsnxyuthaysud briewnthitidkbkandxkphxngxxkepnpikokhngklm 2 pik kandxkyawidthung 6 sm xxkdxkinraweduxnsinghakhmthungtneduxnthnwakhmphl aekikh epnfkyawrupkraswy miemldepncanwnmakaehlngkaenidaelaaephrkracay aekikhepnphnthuimhayakchnidhnung phbkhuntamitrmengaimihyinpadibekhahruxbriewnokhdhinpunthixyusung cakradbnathaeltngaet 1 500 1 800 emtr aelaphbidephiyngthiediywkhuxthidxyhlwngechiyngdaw dxkcabanraweduxntulakhm phvscikayn khnthwipcungimmioxkasidehnephraaxyubnphuekhasung aeladxkethiynnkaekwmkkhuninphunthithiepnokhdhin ikl kbtnhanchangrxngthiepnphis 6 karephaapluk aekikhethiynnkaekw epnphuchhayak swyngam khxnkhanghayaksahrbbaneraphbidthangehnux xathi dxyechiyngdaw imkhwrnamaephaaplukexng enuxngcakepndxkimpathicahaemldplukidyakmakkhwamngam aekikhkarphbecxnnkhxnkhanglabak phbethiynnkaekwidthidxyhlwngechiyngdaw cnghwdechiyngihm sungepnbriewnthimilksnaepnethuxkekha sungethuxkekhaehlaniprakxbipdwyyxdekhasunghlayyxd yxdekhathisungthisuderiykwadxyhlwngechiyngdaw mikhwamsungcakradbnathael 2 220 emtrkhrxbkhlumphunthitablemuxngaehng xaephxewiyngaehng tablemuxngngay tablemuxngkhxng tablechiyngdawaelatablaemna cnghwdechiyngihm karedinthangipdudxkethiynnkaekwnncatxngediniptampa khunipyngyxddxy sungepnepnethuxkekhahinpun miaenwthxdyawrwmthngphuchphnthdxkimpraephthkungxliphn epnphuchechphaathin hayakmixyu inchwngeduxnphvscikayn thungeduxnthnwakhmdxkimchnidaerkthicaecxkhuxethiynnkaekwthimiihehnechphaachwngthimifnhruxmikhwamchunsungethann nxkcakniyngphb chmphuphimphic nangcxy hridechiyngdaw fxnghinehluxng fakhram ehyuxcng khawpn epntn dxkethiynnkaekwkalngeringrabathamklangaesngaedddxkimaehngemuxnghnaw aekikhethiynnkaekwyngepnphuchthichxbxakashnaweynxikdwy 7 sungimkhxyidphbtnphuchnithangphakhxunnk ephraadwyxunhphumithiimehmaasm xakasrxncdinewlaklangwn aelaepndxkimemuxnghnawthimiechphaapraethsithyxyangediywxangxing aekikh Morgan P Raymond 2007 Impatiens the vibrant world of Busy Lizzies Balsams and Touch me nots Timber Press p 205 ISBN 0881928526 Plant Latin Dictionary khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 2015 07 10 subkhnemux 2015 08 08 dxkimemuxnghnaw lksnakhxnglatnethiynnkaekw lksnadxkethiynnkaekw 1 cakewb http www archive lib kmutt ac th index php option com joomgallery amp func detail amp id 8108 amp Itemid 55 2 cakewb http www thaigoodview com node 101678aehlngkhxmulxun aekikhBotanical Authorship Parrot Flower Exotic RainForest Le Jardin 1902 Scans of the original description 3 4 5 6 7 8 ekhathungcak https th wikipedia org w index php title ethiynnkaekw amp oldid 9052865, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,
บทความ
, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม
