เจเนอรัลแอดมิรัลอะพรักซิน รัสเซีย : Генералъ-Адмиралъ Апраксинъ ; อังกฤษ : General-Admiral Apraksin บางครั้งทับศัพท์ ว่า Apraxin แอดมิรัลอูชาคอฟ แห่งกองทัพเรือจักรวรรดิรัสเซีย มันได้รับการตั้งชื่อตามพลเรือเอกอาวุโส ฟิโอดอร์ มาตเวเยวิช อะพรักซิน ซึ่งเป็นผู้บัญชาการคนแรกของกองเรือบอลติก รัสเซีย มันเป็นหนึ่งในแปดเรือประจัญบานก่อนเดรดนอตรัสเซีย ที่ถูกเข้ายึดโดยกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น ในช่วงสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น ค.ศ. 1904–1905 ต่อมามันได้ประจำการในกองทัพเรือญี่ปุ่นในฐานะโอกิโนชิมะ
เจเนอรัลแอดมิรัลอะพรักซิน ซึ่งต่อมากลายเป็นโอกิโนชิมะ ของญี่ปุ่น ประวัติ (จักรวรรดิรัสเซีย ) ชื่อเรือ: เจเนอรัลแอดมิรัลอะพรักซิน ต่อขึ้นที่: นิวแอดมิแรลทีเวิกส์ เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย วางกระดูกงู: 24 ตุลาคม ค.ศ. 1894 ปล่อยลงน้ำ: 12 พฤษภาคม ค.ศ. 1896 ขึ้นระวาง: ค.ศ. 1899 จำหน่ายออก: 28 พฤษภาคม ค.ศ. 1905 จุดจบ: ตกเป็นทรัพย์เชลยของญี่ปุ่น ประวัติ (ประเทศญี่ปุ่น ) ชื่อเรือ: โอกิโนชิมะ ได้รับเรือ: ค.ศ. 1905 ขึ้นระวาง: 6 มิถุนายน ค.ศ. 1905 ปลดระวาง: 1 เมษายน ค.ศ. 1922 จุดจบ: ขาย ค.ศ. 1924 เป็นเรืออนุสรณ์ สถานะ: ทำให้เป็นเศษ เดือนกันยายน ค.ศ. 1939 ลักษณะเฉพาะ ชั้น: เรือป้องกันชายฝั่งชั้นแอดมิรัลอูชาคอฟ ขนาด (ระวางขับน้ำ): 4,165 ตัน (ปกติ); 4,270 ตัน (สูงสุด) ความยาว: 80.62 ม. (264.5 ฟุต) ที่เส้นน้ำลึกของเรือ ความกว้าง: 15.85 ม. (52.0 ฟุต) กินน้ำลึก: 5.18 ม. (17 ฟุต) ใบจักร: เครื่องจักรไอน้ำทูชาฟต์ วีทีอี , 6,000 แรงม้าเพลา (4,470 กิโลวัตต์); หม้อไอน้ำ 4 ตัว ความเร็ว: 15 นอต (28 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) พิสัยเชื้อเพลิง: 313 ตันเทียบเท่าถ่านหิน; 3,000 ไมล์ทะเล (6,000 กิโลเมตร) ที่ 10 นอต (19 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) อัตราเต็มที่: 406 นาย ยุทโธปกรณ์: ตามที่สร้างขึ้น:
ปืนขนาด 254 มม. (10 นิ้ว) จำนวน 3 กระบอก ปืนขนาด 120 มม. (4.7 นิ้ว) จำนวน 4 กระบอก ปืนขนาด 47 มม. (1.9 นิ้ว) จำนวน 10 กระบอก ปืนขนาด 37 มม. (1.5 นิ้ว) จำนวน 12 กระบอก ท่อยิงตอร์ปิโด ขนาด 450 มม. (18 นิ้ว) จำนวน 4 ท่อในฐานะโอกิโนชิมะ:
ปืนขนาด 254 มม. (10 นิ้ว) จำนวน 3 กระบอก ปืนขนาด 152 มม. (6 นิ้ว) จำนวน 6 กระบอก ปืนฮอท์ชคิส 47 มม. (1.9 นิ้ว) จำนวน 2 กระบอก สิ่งป้องกัน: เกราะช้าง: 250 มม. (9.8 นิ้ว) ดาดฟ้า: 75 มม. (3 นิ้ว) ป้อม: 200 มม. (7.9 นิ้ว)
มันมีปืนเพียงสามกระบอกเท่านั้น (ป้อมปืนทางส่วนท้ายเรือกระบอกเดียว ดังที่แสดงในรูป) แทนที่จะเหมือนเรือพี่น้องของมัน ซึ่งติดตั้งปืนสี่กระบอก
ประจำการรัสเซีย ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1899 ไม่นานหลังจากเข้าประจำการกับกองเรือบอลติก เจเนอรัลแอดมิรัลอะพรักซิน ได้แล่นเกยฝั่งบนเกาะฮอกแลนด์ในอ่าวฟินแลนด์ มันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการกู้เรือ เนื่องจากเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันในปี ค.ศ. 1897 มีเรือประจัญบานของกองทัพเรือรัสเซียได้รับความเสียหายอีกลำ นั่นคือแกงกุต พวกลูกเรือเจเนอรัลแอดมิรัลอะพรักซิน ได้รับคำสั่งให้อยู่บนเรือเพื่อประคับประคองเรือให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เมื่ออ่าวแข็งตัวในช่วงฤดูหนาว
ตามคำแนะนำของผู้บุกเบิกวิทยุ เอ.เอฟ. โพพอฟ ลูกเรือของเรือได้จัดตั้งสถานีวิทยุบนเกาะเพื่อประคับประคองการสื่อสารกับสำนักงานใหญ่ของกองเรือที่โครนชตัดท์ (ผ่านสถานีที่คีมิ ) ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1900 หลังจากล่าช้าหลายสัปดาห์ ในขณะเดียวกัน พลเรือตรี ซิโนวี รอเชสทเวนสกี ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้นำในการปฏิบัติการกู้เรือ ผลของการลงดินเป็นสิ่งที่พยายามชักลากเจเนอรัลแอดมิรัลอะพรักซิน ให้เป็นอิสระไม่สามารถแก้ไขได้ รวมถึงตกอยู่ในอันตรายจากการอัปปาง และได้แทนที่วิธีของรอเชสทเวนสกีด้วยการจ้างบริษัทเหมืองแร่พลเรือนเพื่อเอาก้อนหินที่ยึดเจเนอรัลแอดมิรัลอะพรักซิน ออกด้วยระเบิดเล็ก ๆ ความช่วยเหลือในการกอบกู้คือเรือตัดน้ำแข็งยิร์มาก ในตอนแรกรอเชสทเวนสกีมีข้อสงสัยเกี่ยวกับประโยชน์ของยิร์มาก แต่มันได้พิสูจน์คุณค่าของมันในระหว่างปฏิบัติการ ซึ่งได้ข้อสรุปที่ประสบความสำเร็จในช่วงแรกของเดือนพฤษภาคม หลังจากเจเนอรัลแอดมิรัลอะพรักซิน ได้เป็นอิสระ มันก็ถูกลากกลับไปที่โครนชตัดท์เพื่อทำการซ่อมแซมที่จำเป็น
ต่อมา เจเนอรัลแอดมิรัลอะพรักซิน และสองเรือพี่น้องของมัน แอดมิรัลอูชาคอฟ และแอดมิรัลเซเนียวิน
หมายเหตุ Constantine Pleshakov, The Tsar's Last Armada , pp. 50-51.
อ้างอิง Burt, R.A. Japanese Battleships, 1897–1945 . Gibbons, Tony. The Complete Encyclopedia of Battleships and Battlecruisers . Grove, Eric (1998). Big Fleet Actions . London: Brockhampton Press. Hore, Peter (2005). Battleships ISBN 0-7548-1407-6 Jentsura, Hansgeorg (1976). Warships of the Imperial Japanese Navy, 1869-1945 . Naval Institute Press. ISBN 0-87021-893-X Pleshakov, Constantine (2002). The Tsar's Last Armada: The Epic Voyage to the Battle of Tsushima . New York: Basic Books. ISBN 0-465-05792-6 Schencking, J. Charles (2005). Making Waves: Politics, Propaganda, And The Emergence Of The Imperial Japanese Navy, 1868-1922 . Stanford University Press. ISBN 0-8047-4977-9
แหล่งข้อมูลอื่น วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ เรือป้องกันชายฝั่งรัสเซียเจเนอรัลแอดมิรัลอะพรักซิน Nishidah, Hiroshi (2002). "Armoured ships prize of Russo-Japanese War". Materials of the Imperial Japanese Navy . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2013-01-04. สืบค้นเมื่อ 2020-04-19 .
เร, อป, องก, นชายฝ, งร, สเซ, ยเจเนอร, ลแอดม, ลอะพร, กซ, เจเนอร, ลแอดม, ลอะพร, กซ, สเซ, Генералъ, Адмиралъ, Апраксинъ, งกฤษ, general, admiral, apraksin, บางคร, งท, บศ, พท, apraxin, เป, นสมาช, กเร, อป, องก, นชายฝ, งช, นแอดม, ลอ, ชาคอฟแห, งกองท, พเร, อจ, กรวรรด, . ecenxrlaexdmirlxaphrksin rsesiy General Admiral Apraksin xngkvs General Admiral Apraksin bangkhrngthbsphthwa Apraxin epnsmachikeruxpxngknchayfngchnaexdmirlxuchakhxfaehngkxngthpheruxckrwrrdirsesiy mnidrbkartngchuxtamphleruxexkxawuos fioxdxr mateweywich xaphrksin sungepnphubychakarkhnaerkkhxngkxngeruxbxltikrsesiy mnepnhnunginaepderuxpracybankxnedrdnxtrsesiythithukekhayudodykxngthpheruxckrwrrdiyipuninchwngsngkhramrsesiy yipun kh s 1904 1905 txmamnidpracakarinkxngthpheruxyipuninthanaoxkionchima 沖ノ島 cnkrathngthukpldrawanginpi kh s 1922eruxpxngknchayfngrsesiyecenxrlaexdmirlxaphrksin sungtxmaklayepnoxkionchimakhxngyipunprawti ckrwrrdirsesiy chuxerux ecenxrlaexdmirlxaphrksintxkhunthi niwaexdmiaerlthiewiks esntpietxrsebirk praethsrsesiywangkradukngu 24 tulakhm kh s 1894plxylngna 12 phvsphakhm kh s 1896khunrawang kh s 1899cahnayxxk 28 phvsphakhm kh s 1905cudcb tkepnthrphyechlykhxngyipunprawti praethsyipun chuxerux oxkionchimaidrberux kh s 1905khunrawang 6 mithunayn kh s 1905pldrawang 1 emsayn kh s 1922cudcb khay kh s 1924 epneruxxnusrnsthana thaihepness eduxnknyayn kh s 1939lksnaechphaachn eruxpxngknchayfngchnaexdmirlxuchakhxfkhnad rawangkhbna 4 165 tn pkti 4 270 tn sungsud khwamyaw 80 62 m 264 5 fut thiesnnalukkhxngeruxkhwamkwang 15 85 m 52 0 fut kinnaluk 5 18 m 17 fut ibckr ekhruxngckrixnathuchaft withixi 6 000 aerngmaephla 4 470 kiolwtt hmxixna 4 twkhwamerw 15 nxt 28 kiolemtrtxchwomng phisyechuxephling 313 tnethiybethathanhin 3 000 imlthael 6 000 kiolemtr thi 10 nxt 19 kiolemtrtxchwomng xtraetmthi 406 nayyuthothpkrn tamthisrangkhun punkhnad 254 mm 10 niw canwn 3 krabxk punkhnad 120 mm 4 7 niw canwn 4 krabxk punkhnad 47 mm 1 9 niw canwn 10 krabxk punkhnad 37 mm 1 5 niw canwn 12 krabxk thxyingtxrpiodkhnad 450 mm 18 niw canwn 4 thxinthanaoxkionchima punkhnad 254 mm 10 niw canwn 3 krabxk punkhnad 152 mm 6 niw canwn 6 krabxk punhxthchkhis 47 mm 1 9 niw canwn 2 krabxksingpxngkn ekraachang 250 mm 9 8 niw dadfa 75 mm 3 niw pxm 200 mm 7 9 niw mnmipunephiyngsamkrabxkethann pxmpunthangswnthayeruxkrabxkediyw dngthiaesdnginrup aethnthicaehmuxneruxphinxngkhxngmn sungtidtngpunsikrabxk enuxha 1 pracakarrsesiy 2 hmayehtu 3 xangxing 4 aehlngkhxmulxunpracakarrsesiy aekikhineduxnphvscikayn kh s 1899 imnanhlngcakekhapracakarkbkxngeruxbxltik ecenxrlaexdmirlxaphrksinidaelnekyfngbnekaahxkaelndinxawfinaelnd mnhwngepnxyangyingwacaidrbkarkuerux enuxngcakehtukarnthikhlaykhlungkninpi kh s 1897 mieruxpracybankhxngkxngthpheruxrsesiyidrbkhwamesiyhayxikla nnkhuxaekngkut phwklukeruxecenxrlaexdmirlxaphrksinidrbkhasngihxyubneruxephuxprakhbprakhxngeruxihdithisudethathicathaidemuxxawaekhngtwinchwngvduhnawtamkhaaenanakhxngphubukebikwithyu ex exf ophphxf lukeruxkhxngeruxidcdtngsthaniwithyubnekaaephuxprakhbprakhxngkarsuxsarkbsanknganihykhxngkxngeruxthiokhrnchtdth phansthanithikhimi ineduxnmkrakhm kh s 1900 hlngcaklachahlayspdah inkhnaediywkn phleruxtri sionwi rxechsthewnski idrbmxbhmayihepnphunainkarptibtikarkuerux phlkhxngkarlngdinepnsingthiphyayamchklakecenxrlaexdmirlxaphrksinihepnxisraimsamarthaekikhid rwmthungtkxyuinxntraycakkarxppang aelaidaethnthiwithikhxngrxechsthewnskidwykarcangbristhehmuxngaerphleruxnephuxexakxnhinthiyudecenxrlaexdmirlxaphrksinxxkdwyraebidelk khwamchwyehluxinkarkxbkukhuxeruxtdnaaekhngyirmak intxnaerkrxechsthewnskimikhxsngsyekiywkbpraoychnkhxngyirmak aetmnidphisucnkhunkhakhxngmninrahwangptibtikar sungidkhxsrupthiprasbkhwamsaercinchwngaerkkhxngeduxnphvsphakhm hlngcakecenxrlaexdmirlxaphrksinidepnxisra mnkthuklakklbipthiokhrnchtdthephuxthakarsxmaesmthicaepn 1 txma ecenxrlaexdmirlxaphrksin aelasxngeruxphinxngkhxngmn aexdmirlxuchakhxf aelaaexdmirleseniywin idrbkarcdchnihminthanaeruxpxngknchayfnghmayehtu aekikh Constantine Pleshakov The Tsar s Last Armada pp 50 51 xangxing aekikhBurt R A Japanese Battleships 1897 1945 Gibbons Tony The Complete Encyclopedia of Battleships and Battlecruisers Grove Eric 1998 Big Fleet Actions London Brockhampton Press Hore Peter 2005 Battleships Anness Publishing Ltd ISBN 0 7548 1407 6 Jentsura Hansgeorg 1976 Warships of the Imperial Japanese Navy 1869 1945 Naval Institute Press ISBN 0 87021 893 X Pleshakov Constantine 2002 The Tsar s Last Armada The Epic Voyage to the Battle of Tsushima New York Basic Books ISBN 0 465 05792 6 Schencking J Charles 2005 Making Waves Politics Propaganda And The Emergence Of The Imperial Japanese Navy 1868 1922 Stanford University Press ISBN 0 8047 4977 9 aehlngkhxmulxun aekikh wikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb eruxpxngknchayfngrsesiyecenxrlaexdmirlxaphrksin Nishidah Hiroshi 2002 Armoured ships prize of Russo Japanese War Materials of the Imperial Japanese Navy khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 2013 01 04 subkhnemux 2020 04 19 ekhathungcak https th wikipedia org w index php title eruxpxngknchayfngrsesiyecenxrlaexdmirlxaphrksin amp oldid 9550961, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,
บทความ , อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม
