เรือรบอวกาศยามาโตะ
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
เรือรบอวกาศยามาโตะ หรือ ในชื่อที่ใช้เมื่อครั้งที่เคยออกอากาศในเมืองไทยครั้งแรกโดยไทยทีวีสีช่อง 9 อ.ส.ม.ท. คือ "สตาร์เบลเซอร์ ตลุยอวกาศ" (ญี่ปุ่น: 宇宙戦艦ヤマト โรมาจิ: Uchū Senkan Yamato ทับศัพท์: Space Battleship Yamato) คืออะนิเมะแนววิทยาศาสตร์ของญี่ปุ่น ซึ่งชื่อของเรี่องนั้นเป็นชื่อของยานอวกาศ อะนิเมะเรื่องนี้มีอีกชื่อในภาษาอังกฤษคือ Space Cruiser Yamato (สเปซ ครุยเซอร์ ยามาโตะ) หรือStar Blazers (สตาร์ เบลเซอส์) สำหรับภาคภาษาอังกฤษ ซึ่งออกอากาศในอเมริกาเหนือและออสเตรเลีย สำหรับภาคภาษาอิตาลีก็ใช้ชื่อ สตาร์ เบลเซอส์
เรือรบอวกาศยามาโตะ | |
ไฟล์:Yamato title.jpg | |
ชื่อ | เรือรบอวกาศยามาโตะ |
ชื่อญี่ปุ่น | 宇宙戦艦ヤマト |
ชื่ออังกฤษ | Space Battleship Yamato Star Blazers (ในสหรัฐอเมริกา) |
แนว | นาฏกรรม, การทหาร, นิยายวิทยาศาสตร์ |
อนิเมะ | |
กำกับ | เลจิ มัตซึโมโตะ |
---|---|
สตูดิโอ | Academy Productions |
ฉายเมื่อ | 6 ตุลาคม, พ.ศ. 2517 – 30 มีนาคม, พ.ศ. 2518 |
จำนวนตอน | 26 |
การพัฒนา
แนวคิดในการสร้างเริ่มขึ้นในพ.ศ. 2516 โดยโปรดิวเซอร์นาม โยชิโนบุ นิชิซะกิ แต่เดิมทีโครงการนี้ถูกวางเรื่องให้เป็นยานอวกาศที่ดัดแปลงมาจากเรื่อง Lord of the Flies[ต้องการอ้างอิง] และแต่แรกสุดชื่อของโครงการนี้คือ "Asteroid Ship Icarus" (แอสเทรอยด์ ชิป อิคารัส) โดยลูกเรือเป็นวัยรุ่นจากนานาชาติเดินทางออกนอกเขตดาวพฤหัส เพื่อตามหาดาว อิสแกนดา (Iscandar) ในเนื้อเรื่องลูกเรือจะถกเถียงความเห็นกันหลายต่อหลายครั้งแต่พวกเขาก็มีจิตใจที่บริสุทธิ์ปราสจากความเห็นแก่ได้และประโยชน์ส่วนตัว[ต้องการอ้างอิง] ส่วนมนุษย์ต่างดาวที่เป็นศัตรูนั้นเรียกว่า ราเจนโดรา (Rajendora)[ต้องการอ้างอิง]
เมื่อลิวอิจิ มัสสุโมโตะ เข้ามาร่วมโครงการ แนวคิดบางอย่างก่อนหน้านี้ก็ถูกยกเลิกไป เขาเป็นผู้วางแนวคิด ออกแบบเรือ และรูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์จนทำให้แฟนๆมองว่าเขาคือผู้ให้กำเนิดเรือรบอวกาศยามาโตะตัวจริงถึงแม้ว่านิชิซะกิจะเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ตัวจริงก็ตาม
เนื้อเรื่อง
เนื้อหาส่วนนี้เป็นเรื่องแต่งที่เกิดขึ้นในอนาคต จึงอ้างอิงคริสต์ศตวรรษเพื่ออรรถรสของบทความ |
ค.ศ. 2192 มนุษย์ต่างดาว "กามิลัส" (ชื่อเรียกเต็มคือ จักรวรรดิอันยิ่งใหญ่แห่งกามิลัส (Great Empire of Gamilus) เดิมทางมาถึงระบบสุริยะและเข้าโจมตีโลกโดยบังคับให้ชาวโลกเลือกระหว่างยอมตกเป็นทาสหรือสูญพันธุ์มนุษย์เลือกที่จะต่อต้านจึงถูกระดมยิงด้วยระเบิดอุกกาบาต (Meteor bomb) ซึ่งบรรจุกัมมันตภาพรังสี จนเป็นเหตุให้ผิวโลกมีแต่ผืนดินแห้งแล้ง มนุษย์ต้องอพยพลงไปอยู่ใต้ดิน กองกำลังพิทักษ์โลก (Earth Defence Force) คือหน่วยงานที่ต่อกรกับกามิลัสแต่สู้ไม่ได้ จึงมีโครงการนำเรือประจัญบานยามาโตะที่ถูกยิงจมในสงครามโลกครั้งที่สองมาดัดแปลงใช้เป็นยานอวกาศเพื่อการอพยพ[ต้องการอ้างอิง] แต่หลังจากได้รับแบบแปลนเครื่องยนต์และข้อความจากสตาชาร์ แห่งดาวอิสแกนดา ยามาโตะจึงถูกดัดแปลงใหม่เพื่อภารกิจค้นหาดาวอิสแกนดาเพื่อนำเครื่องกำจัดรังสี ดาวอิสแกนดาอยู่ในเมฆแมเจลแลนใหญ่ห่างจากระบบสุริยะ 148,000 ปีแสง และยามาโตะมีเวลาปฏิบัติภารกิจเพียง 364 วันก่อนที่มนุษยชาติจะสูญพันธุ์เนื่องจากกัมมันตภาพรังสี ยามาโตะเริ่มออกเดินทางในวันที่ 9 ตุลาตม ค.ศ. 2199 (ตรงกับศักราชเดสเลอร์ที่ 103 (ศักราชสมมติในเรื่อง) )
ทางฝ่ายกามิลัส มีผู้นำสูงสุดชื่อ เดสเลอร์ วางฐานปฏิบัติการหน้าไว้ที่ดาวพลูโต ในวันออกเดินทางของยามาโตะ กามิลัสใช้ยามาโตะเป็นเป้าทดสอบอาวุธใหม่ มิซซายขนาดยักษ์ (Super Large Missile) แต่ล้มเหลว ยามาโตะทำการทดลองวาร์ปครั้งแรกในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ และประสบความสำเร็จในการเดินทางจากดวงจันทร์ถึงดาวอังคารได้ใน 1 วินาที หลักจากการต่อสู้จนสามารถกวาดล้างกองกำลังปฏิบัติการหน้าของข้าศึกได้แล้ว ยามาโตะสามารถเดินทางออกนอกระบบสุริยะได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
ตัวละคร
ฝ่ายชาวโลก
จูโซ โอคิตะ
จูโซ โอคิตะ นายทหารผู้มากประสบการณ์ของกองกำลังพิทักษ์โลก เขาเป็นผู้บัญชาการกองเรือรบที่เข้าร่วมยุทธการพลูโตซึ่งเป็นปฏิบัติการที่เขาต้องสูญเสียลูกชาย และโคได สุสุมุสูญเสียพี่ชาย โอคิตะเป็นคนใจเย็นและสุขุมในการตัดสินใจมากแม้ในยามคับขัน
เนื่องจากกัปตันโอคิตะเสียลูกชายคนเดียวในการรบที่พลูโต ส่วนโคไดเสียพี่ชายคนเดียว ดังนั้นเขาจึงมองโคไดเป็นเสมือนลูกชายคนหนึ่ง
ระหว่างการเดินทาง โอคิตะมีอาการป่วยเนื่องจากเคลื่อนรังสีอวกาศ แต่แรกเริ่มที่อาการแสดงออกมา หมอซาโตขอให้เขาเข้าไปฟังพื้นในห้องพยาบาลแต่ถูกปฏิเสธ ระหว่างการเดินทาง เขาล้มลงเนื่องจากอาการหลายครั้งจนในที่สุด เข้าถูกส่งเข้าห้องพยาบาลและเข้ารับการผ่าตัดในระหว่างที่เดินทางมาได้ครึ่งทาง
สุสุมุ โคได
โคได สุสุมุเป็นนักเรียนนายเรือของกองกำลังพิทักษ์โลก เกิดและโตที่แหลมมิอุระ ในวัยเด็ก เขาใฝ่ฝันที่จะเป็นนักกีฎวิทยา แต่แล้วความฝันของเขาก็เปลี่ยนไปเมื่อพ่อแม่ของเขาเสียชีวิตเนื่องจากระเบิดอุกกาบาตของกามิลัสระหว่างรอเขากลับบ้าน ทำให้เขาแค้นพวกกามิลัสอย่างมาก ในการตรวจสอบมนุษย์ต่างดาวที่ถูกยามาโตะจับมาได้ เขาพยายามจะฆ่าทหารกามิลัสนายนั้นทันทีหลังจากที่ทราบว่ากามิลัวนั้นมีลักษณะเหมือนมนุษย์ทุกประการ
เขาปรากฏตัวครั้งแรกในการฝึกพิเศษคู่กับชิมะ ไดสุเกะบนดาวศุกร์ เนื่องจากเหตุการณ์ยานอวกาศปริศนาตก ทั้งคู่จึงได้รับคำสั่งให้ไปสำรวจและพบแคปซูลข่าวสารจึงถูกเรียกตัวกลับ ต่อมาได้รับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายสรรพาวุธของยามาโตะ แต่เดิมทีเขาเกลียดกัปตันโอคิตะ เนื่องจากพี่ชายของเขาหายสาบสูญในยุทธการพลูโต แต่กัปตันโอคิตะรอด แต่เปลี่ยนความคิดเมื่อรู้ว่ากัปตันเองก็เสียลูกชายคนเดียวในการรบครั้งนั้นเช่นกัน
โคไดมักจะขับเครื่องคอสโม ซีโร ไฟเตอร์ (Cosmo Zero Fighter) นำฝูงบินคอสโมไทเกอร์ออกรบด้วยตัวเองเสมอ รักพวกพ้อง ในการทดลองวาร์ปครั้งแรกของยามาโตะ เครื่องบินแบล็ค ไทเกอร์ลำหนึ่งถูกยิงในการปฏิบัติการขับไล่อากาศยานข้าศึกยังไม่สามารถลงจอดในยามาโตะได้โคไดพยายามขอร้องกัปตันโอคิตะให้รอเครื่องบินลำนั้นและวิ่งไปที่ท้ายเรือเพื่อนำร่องเครื่องบินลำนั้นให้ลงจอดสำเร็จทันเวลา บางครั้ง เขาฝ่าฝืนคำสั่งของกัปตันโอคิตะเพื่อที่จะทำภารกิจที่ได้รับมอบให้สำเร็จเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เขามีนิสัยหัวดื้อ เมื่อคิดจะทำอะไรก็ลงมือทำโดยไม่ฟังใคร แต่ถึงแม้เขามักจะเป็นคนเลือดร้อน หัวดื้อ แต่เขาก็มีความสามารถในการสังเกตรายละเอียดเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ชนิดคาดไม่ถึงทีเดียว
โคได สุสุมุนั้นไม่มีญาติหลงเหลืออยู่บนโลกเลย เนื่องจากพ่อและแม่ของเขาเสียชีวิตจากการโจมตีของกามิลัส[ต้องการอ้างอิง] ส่วนพี่ชายที่หายสาบสูญของเขานั้น แท้จริงแล้วได้รับความช่วยเหลือและอาศัยอยู่บนดาวอิสแกนดา[ต้องการอ้างอิง] (แต่ ณ เวลานั้นไม่มีใครทราบจนเมื่อเขาเดินทางถึงอิสแกนดา[ต้องการอ้างอิง]) ด้วยเหตุนี้เอง กัปตันโอคิตะจึงเอ็นดูเขาเหมือนลูก
ถ้งแม้ว่าโคไดจะเคยฝึกร่วมกับชิมะบนฐานดาวอังคารด้วยกันก่อนจะเข้าประจำการบนยามาโตะ แต่ในช่วงแรกของการเดินทางทั้งคู่ก็มักจะทะเลาะกันจนเลยเถิดถึงขั้นชกต่อย แต่สุดท้ายทั้งสองก็กลายมาเป็นเพื่อนรักที่ทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี
โคไดเป็นผู้มีความเป็นผู้นำสูง ระหว่างที่โอคิตะเข้ารับการผ่าตัดไม่สามารถทำหน้าทีได้นั้น กามิลัสส่งพาราโนดอนเข้าโจมตี ในระหว่างที่ทุกคนกำลังสับสนว่าจะทำอย่างไรและไม่กล้าตัดสินใจนั้น เขาตัดสินใจบัญชาการรบด้วยตัวเองจนผ่านพ้นวิกฤตมาด้วยดีจนแม้แต่โอคิตะยังเอ่ยชม และมอบตำแหน่งรักษาการผู้บังคับการเรือให้เมื่อเขาป่วยจนม่สามารถทำหน้าที่ได้อีกต่อไป
ไดสุเกะ ชิมะ
ชิมะ ไดสุเกะเป็นนักเรียนนายเรือของกองกำลังพิทักษ์โลก ปรากฏตัวครั้งแรกในการฝึกพิเศษคู่กับโคได สุสุมุบนดาวศุกร์ เนื่องจากเหตุการณ์ยานอวกาศปริศนาตก ทั้งคู่จึงได้รับคำสั่งให้ไปสำรวจและพบแคปซูลข่าวสารจึงถูกเรียกตัวกลับต่อมาได้รับตำแหน่งต้นหนของยามาโตะ
ชิมะมีน้องชายชื่อจิโร ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของพ่อแม่ของพวกเขา
ถ้งแม้ว่าชิมะจะเคยฝึกร่วมกับโคไดบนฐานดาวอังคารด้วยกันก่อนจะเข้าประจำการบนยามาโตะ แต่ในช่วงแรกของการเดินทางทั้งคู่ก็มักจะทะเลาะกันจนเลยเถิดถึงขั้นชกต่อย แต่สุดท้ายทั้งสองก็กลายมาเป็นเพื่อนรักที่ทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี
ชิมะตกตะลึงในความงามของยูกิแต่แรกพบ แต่เนื่องจากยูกิและโคไดมีใจให้แก่กัน เขาจึงได้แต่เก็บความในใจเอาไว้จนกระทั่งเผยออกมาในวาระสุดท้ายก่อนสิ้นลมหายใจของเขา[ต้องการอ้างอิง]
มาโมรุ โคได
โดไค มาโมรุ พี่ชายของโคได สุสุมุ เป็นผู้บัญชาการเรือมิซซาย "ยูกิคาเสะ"ถูกเข้าใจว่าเสียชีวิตในการรบในยุทธการพลูโต เนื่องจากฝ่าฝืนคำสั่งถอยของโอคิตะจึงถูกเรือข้าศึกล้อมยิงจม ซึ่งเหตุผลที่เขาขัดขืนนั้นเพราะว่าเขาต้องการถ่วงเวลาข้าศึกให้โอคิตะถอยหนีได้อย่างปลอดภัยนั่นเอง
ระหว่างที่เขายังเป็นนักเรียนทหาร เขาเป็นคนที่ได้รับความนิยมสูง เขาเพื่อนร่วมชั้นและเพื่อนรักของซะนะดะ ซาโต หลังจบการศึกษาเขาได้รับการบรรจุเป็นนักบิน
ยูกิ โมริ
ยูกิ โมริคือนางพยาบาลคนสวยประจำโรงพยาบาลแห่งกองบัญชาการกลาง ต่อมาถูกย้ายขึ้นมาประจำการบนยามาโตะในฐานะหัวหน้าฝ่ายสืบสวน, วิเคราะห์และสนับสนุนชีวิต นอกจากนี้ เธอยังทำหน้าที่เป็นพลเรดาห์บนเรืออีกด้วย ณ เวลาที่เธอออกเดินทางพร้อมกับยามาโตะ เธอยังไม่มีคนรักหรือคู่หมั้นเลย แต่ในระหว่างการเดินทางเธอกับโคไดเริ่มมีความรู้สึกชอบพอกัน
ยูกิกับชาร์ชามีหน้าตาเหมือนกัน จนแม้แต่สตาร์ชาพี่สาวของชาร์ชายังนึกว่าเป็นคนๆเดียวกัน[ต้องการอ้างอิง]
ซาเกะโซ ซาโต
นายสัตวแพทย์ซาเกะโซ ซาโต สัตว์แพทย์ฝีมือเยี่ยมประจำโรงพยาบาลแห่งกองบัญชาการกลาง ถูกย้ายขึ้นมาประจำการในตำแหน่งหมอประจำเรือ
หมอซาโต้ชื่นชอบการดื่มสาเกมากและเป็นคนมีอารมณ์สุนทรีย์ ญาติเพียงหนึ่งเดียวของเขาก็คือแมวชื่อ มีจังอ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
เปิดผิดรูปหรือมีชื่อที่ใช้ไม่ได้ การที่เขาได้ขึ้นมาประจำการบนยามาโตะทำให้เขาได้มีโอกาสเป็นศึกษามนุษย์ต่างดาวเป็นคนแรกของโลก
อานาไลเซอร์
อานาไลเซอร์เป็นหุ่นยนต์ผู้ช่วยของยูกิประจำโรงพยาบาลแห่งกองบัญชาการกลาง มีนิสัยชอบลวนลามยูกิขณะที่เธอกำลังทำงานอยู่บ่อยๆ สามารถแยกร่างได้ 3 ส่วน ขออนุญาตกัปตันโอคิตะขึ้นมาทำงานบนยามาโตะเนื่องจากมองว่าตัวเองสามารถแสดงความสามารถที่แท้จริงได้มากกว่าการทำงานในโรงพยาบาล อานาไลเซอร์มีความสามารถในการวิเคราะห์หาส่วนประกอบของอากาศ , ความสามารถในการสำรวจและตรวจจับอ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
เปิดผิดรูปหรือมีชื่อที่ใช้ไม่ได้ สามารถแปลภาษาต่างดาว
อานาไลเซอร์มีพละกำลังมหาศาล มากกว่ามนุษย์ปกติ 10,000เท่าอ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
เปิดผิดรูปหรือมีชื่อที่ใช้ไม่ได้สามารถยกรถถังอวกาศได้ แต่อย่างไรก็ตามความสามารถที่พิเศษสุดของอานาไลเซอร์ที่เหนือหุ่นยนต์ทั่วไปก็คือการมีความสามารถในการเมาสุราได้อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
เปิดผิดรูปหรือมีชื่อที่ใช้ไม่ได้ อานาไลเซอร์เชื่อว่าตัวเองเป็นมนุษย์ และคิดที่จะแต่งงานกับยูกิด้วย เขาขอยูกิแต่งงานระหว่างที่ทั้งคู่ได้รับคำสั่งให้สำรวจดาวบีเมรา (Bemera Planet) จนเป็นเหตุให้ยูกิตกใจและเสียการควบคุมการบินจนเครื่องบินตกหัวทิ่มดิน อย่างไรก็ตาม อานาไลเซอร์ก็ตัดใจจากยูกิเมื่อเขาพบว่ายูกิแอบชอบโคไดอยู่
ซะบุโร คาโต
ซะบุโร คาโต้ หัวหน้าฝูงบิน "แบล็ค ไทเกอร์"ภายใต้การบังคับบัญชาของโคได
นัมบุ ยะซุโอะ
นัมบุ ยะซุโอะ ผู้ช่วยโคไดด้านอาวุธยิง
โยชิคะสุ ไอฮะระ
โยชิคะสุ ไอฮะระ นายทหารสื่อสาร ภายใต้การบังคับบัญชาของโคได ในระหว่างการเดินทางไอฮะระแอบใช้เครื่องมือสื่อสารซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของเขาติดต่อกับโลกจึงซึ่งเป็นเหตุให้ฝ่าย กามิลัสส่งสัญญาณปลอมหลอกเขาว่าสถานการณ์ในโลกนั้นสิ้นหวังเพื่อทำลายขวัญของยายะโตะ สุดท้ายไอฮะระเสียสติหนีออกจากยามาโตะตัวเปล่าและค้นพบดาวเทียมส่งสัญญาณเทียมโดยบังเอิญเขาจึงได้สติคืนมา
เคนจิโร โอตะ
เคนจิโร โอตะ เป็นเจ้าหน้าที่สนับสนุนนักบิน
ชิโร ซะนะดะ
ชิโร ซะนะดะ เป็นหัวหน้าฝ่ายสนับสนุนและพัฒนาทางวิศวกรรม เขาเป็นวิศวกรที่มีความสามารถสูง สร้างอุปกรณ์หลายๆอย่างเพื่อใช้งานบนยามาดตะหลายชิ้น
ซะนะดะเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของมาโมรุ โคได พี่ชายของสุสุมุ โคไดในโรงเรียนทหารและเป็นเพื่อนรักกัน แต่หลังจบการศึกษาทั้งคู่ต้องแยกการทำงาน ซะนะดะพบมาโมรุครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะออกไปรบบริเวณดาวพลูโต โดยซะนะดะเป็นผู้รับผิดชอบการซ่อมแซมยานรบของมาโมรุซึ่งเสียหายอย่างหนัก ซึ่งเป็นเที่ยวบินสุดท้ายของมาโมรุก่อนที่เขาจะสูญหายในการรบ ซึ่งนั่นทำให้เขาโทษตัวเองว่าซ่อมแซมยานของมาโมรุไม่ดีพอ
ซะนะดะในวัยเด็กฝันอยากจะเป็นจิตกร และเคยมีพี่สาวอยู่คนหนึ่งซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนเครื่องเล่นในสวนสนุกบนดวงจันทร์ระหว่างที่เขายังเป็นนักเรียนประถม ส่วนเขาก็เสียแขนขาทั้งสองข้าง แต่ต่อมาเขาประดิษฐ์แขนขาเทียมให้ตัวเองโดยแขนขาเทียบของเขาติดตั้งระเบิดเอาไว้ เนื่องจากการเสียพี่สาว เขาจึงเปลี่ยนความตั้งใจมาเป็นนักวิทยาศาสตร์เพื่อที่จะให้วิทยาศาตร์รับใช้มนุษยชาติ
ฮิโกซะเอะมอน โทกุกะวะ
ฮิโกซะเอะมอน โทกุกะวะ เป็นต้นกลประจำยามาโตะ เขาเป็นทหารช่างที่ติดตามกัปตันโอคิตะมีอายุมากแล้ว ครั้งหนึ่งเขาเคยถูกพ่อแม่ของยูกิเข้าใจผิดว่ายูกิเลือกที่จะคบเขา แต่แท้จริงแล้วเขามีลูกแล้ว และเขาก็รักหลานที่ชื่อ ไอโกะ มากด้วย
ฝ่ายชาวกามิลัส
ชาวกามิลัสนั้น ถึงแม้จะเป็นมนุษย์ต่างดาวแต่แท้จริงแล้ว มีลักษณะทางกายภาพเหมือนมนุษย์โลกทุกประการยกเว้นสีผิวที่เป็นสีน้ำเงิน
ลอร์ด เดสเลอร์
ลอร์ด เดสเลอร์ (Lord/ Leader Desler) ผู้นำสูงสุดของดาวกามิลัส แรกสุดเขาประเมินค่ายามาโตะไว้ต่ำ แต่หลังจากยามาโตะสามารถออกนอกระบบสุริยะได้ เขาจึงลงมาวางแผนการรบด้วยตัวเองอ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
เปิดผิดรูปหรือมีชื่อที่ใช้ไม่ได้
เดสเลอร์เป็นนักยุทธ์ศาสตร์ชั้นยอด เขาวางแผนทำลายยามาโตะหลายต่อหลายครั้ง ถึงแม้จะไม่สำเร็จแต่ก็ทำให้ยามาโตะเกือบจมหลายต่อหลายครั้ง ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้นำเผด็จการที่ยิ่งใหญ่ แต่เขาก็ไม่ชอบการประจบสอพล ครั้งหนึ่งเขาเคยตำหนิฮิสุที่เสนอความเห็นประจบเขาเกี่ยวกับยามาโตะด้วยการปฏิเสธว่า "ข้าฯไม่ต้องการความเห็นของเจ้า รายงานมาแต่ความจริง"อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
เปิดผิดรูปหรือมีชื่อที่ใช้ไม่ได้ แต่ถึงกระนั้นเขาก็เกลียดการเสียหน้าเป็นที่สุดเช่นกัน เขาตัดสินใจฆ่าคนที่ทำให้เขาเสียหน้าได้อย่างไม่ลังเลเลยอ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
เปิดผิดรูปหรือมีชื่อที่ใช้ไม่ได้
ฮิสุ
ฮิสุ (Hisu) เป็นรองประธานของฝ่ายกามิลัสและผู้ช่วยของเดสเลอร์
ชลุสส์
ชลุสส์ (Shlutz) ผู้บัญชาการฐานปฏิบัติการหน้าพลูโต พยายามวางแผนสกัดยามาโตะไม่ให้ออกนอกระบบสุริยะหลายครั้ง แต่ก็ล้มเหลว สุดท้ายเขาเสียฐานทัพไปเนื่องจากการลอบวางระเบิดของฝ่ายยามาโตะและหลบหนีไป ต่อมาเขาเข้าสู้กับยามาโตะอีกครั้ง ในบริเวณแถบดาวเคราะห์น้อยและเสียชีวิตในการรบด้วยการเอายานพุ่งชนใส่ยามาโตะ
แกนซ์
แกนซ์ (Gantz) เป็นผู้ช่วยของชลุสส์ และเสียชีวิตพร้อมชลุสส์
โดเมล
โดเมล (Domel) แม่ทัพผู้มีชื่อเสียงของกามิลัส และเคยได้รับเหรียญกล้าหาญขากเดสเลอร์ แต่เดิมเขาเป็นผู้บัญชากากองพลแม็คเจนแลน แต่เนื่องจากเขาต้องการจะสู้กับยามาโตะ เขาจึงขอเดสเลอร์ย้ายมาบัญชาการกองพลกาแล็กติก และเดสเลอร์ก็อนุญาตตามคำขอของเขาในฐานะของขวัญวันหยุด กองพลกาแล็กติกมีฐานอยู่ที่ดาวบาลันซึ่งเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างโลกกับดาวอิสแกนดา และเคยเป็นฐานลำเลียงในการรุกรานโลกอีกด้วย เขาเป็นคนหยิ่งผยอง ชอบวางก้าม แต่ก็เป็นแม่ทัพผู้ชาญฉลาด มีความสามารถในการวิเคราะห์ระดับสูง และมีความมุ่งมั่น
โดเมลเขียนไดอารีของตัวเอง และเข้าเขียนถึงการปะทะกับยามาโตะครั้งแรกว่า "ฉันเข้าปะทะกับยามาโตะและไม่ควรเลยที่จะประมาทมัน"
เขาเป็นนายทหารผู้มีความสามารถในการวางแผนสูง แต่เนื่องจากการวางแผนใช้ดวงอาทิตย์เทียมกำจัดยามาโตะโดยมีฐานทัพบูลานเป็นเครื่องสังเวยนั้นทำให้เขาต้องขึ้นศาลทหาร ศาลทหารมีมติให้ประหารเขาแต่เดสเลอร์ปฏิเสธเนื่องจากเห็นคุณค่าในตัวโดเมล และสั่งให้รับหน้าที่กำจัดยามาโตะก่อนที่ยามาโตะเดินทางเข้าสู่เมฆแมเจลแลนใหญ่ให้ได้
โดเมลส่งสารท้ารบไปยังยามาโตะที่จักรวาลสายรุ้ง (Rainbow Galexy) ในยุทธการที่จักรวาลสายรุ้งนี้ เป็นการรบที่สร้างความเสียหายให้แก่ยามาโตะอย่างที่สุดเนื่องด้วยโดเมลวางแผนอย่างรอบคอบและรัดกุม อย่างไรก็ตามโชคเป็นของยามาโตะเมื่อเกิดเหตุการณ์พลิกผันจนกองเรือของกามิลัมจมทั้งหมดยกเว้นเรือธง โดเมลตัดสินใจพลีชีพระเบิดตัวตายพร้อมยามาโตะ ก่อนตายเขาเปิดช่องสัญญาณสนทนากับกับตันโอคิตะ แสดงความชื่นชมในความสามารถของกันและกัน
เกล
เกล (Gale) เดิมทีเขาเป็นผู้บัญชาการกองพลกาแล๊กติก แต่เพราะการย้ายมาของโดเมลเขาจึงถูกลดขั้นลงเป็นรองผู้บัญชาการแทน ซึ่งเขาไม่พอใจอย่างมาก โดยเฉพาะท่าทางวางอำนาจของโดเมล ที่มาถึงก็ทำลายข้าวของเครื่องประดับของเขาและดูถูกเขาว่ามีรสนิยมแย่ที่สุดในกามิลัส ในยุทธการที่ดาวบูลาน เกลมิอาจทนเห็นโดเมลใช้ลูกน้องและฐานของเขาเป็นเครื่องสังเวยในการปราบยามาโตะได้จึงแอบแจ้งให้เดสเลอร์เข้าระงับโดเมลเสีย อันเป็นผลให้โดเมลถูกส่งขึ้นศาลทหาร แต่ถึงกระทั้นโดเมลก็ยังเลือกเขาเป็นผู้ช่วยในยุทธการที่จักรวาลสายรุ้ง และเสียชีวิตในปฏิบัติการพลีชีพพร้อมกับโดเมล
ฝ่ายชาวอิสแกนดา
สตาร์ชา
สตาชาร์คือชาวดาวอิสแกนดา มีตำแหน่งเป็นราชินี และเป็นผู้เสนอความช่วยเหลือมายังโลกโดยให้น้องสาวนั่งยานอวกาศมายังโลก
ซาชาร์
ซาชาร์คือชาวดาวอิสแกนดาน้องสาวของสตาร์ชาร์ เดินทางมายังโลกเพื่อเสนอความช่วยเหลือแต่ยานอวกาศที่โดยสารมาได้รับความเสียหายและถูกพบเห็นครั้งแรกในยุทธการพลูโต จากนั้นจึงตกลงบนดาวอังคารและถูกพบว่าเสียชีวิต
ยานรบและอาวุธที่ปรากฏในเรื่อง
ฝ่ายชาวโลก
ยามาโตะ
ยามาโตะ เดิมทีคือเรือประจัญบานของจักรวรรดินาวีญี่ปุ่นที่ถูกยิงจมที่คิวชู มานานถึง 260 ปีต่อมาได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์เวฟโมชัน (Wave Motion Engine) ซึ่งทำงานด้วยการสร้างอนุภาคเท็คฮอย
ยามาโตะมีปืนใหญ่หลักประจำเรือเป็นอาวุธหลัก มีอานุภาพรุนแรงสามารถยิงเรือบรรทุกเครื่องบินของกามิลัสจมได้ด้วยการยิงเพียงครั้งเดียว และมีปืนใหญ่เวฟโมชันเป็นอาวุธสังหารที่มีอานุภาพสูงสุด
ยามาโตะมีเครื่องมือที่สร้างได้ทุกอย่าง (All-purpose manufacturing tool) ภายใต้การดูแลของฝ่ายสนับสนุนและพัฒนาทางวิศวกรรม
บนยามาโตะมีส่วนสันทนาการสำหรับลูกเรือด้วยเช่นห้องนอนเย็น (Cold Sleep Room) ซึ่งมีไว้ลดระดับความเครียดของลูกเรือ ,ห้องรีสอร์ท ซึ่งเป็นห้องที่สามารถจำลองสถานที่เพื่อให้ลูกเรือได้ใช้พักผ่อน
เครื่องบินรบ แบล็ค ไทเกอร์
แบล็ค ไทเกอร์ (Black Tiger) คือเครื่องบินรบที่ประจำการในยามาโตะ มีโรงเก็บเครื่องบินอยู่ที่ท้ายยาน
ปืนใหญ่เวฟโมชัน
ปืนใหญ่เวฟโมชัน (Wave Motion Gun) เป็นอาวุธพิฆาตที่มีอานุภาพสูงสุดของยามาโตะ ทำงานด้วยการอาศัยพลังงานจากเครื่องยนต์เวฟโมชันซึ่งมีพลังงานเทียบเท่าดาราจักรขนาดย่อม อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการยิงนี้เป็นการยิงที่ดึงพลังงานมาจากเครื่องยนต์ หลังการยิงแล้ว ยามาโตะจะสูญเสียแรงขับเคลื่อนทั้งหมดไป เพื่อให้มีพลังงานพอในการเริ่มเดินเครื่องใหม่ ก่อนทำการยิงยามาโตะจึงต้องปิดระบบไฟฟ้าทั้งหมดลงและสำรองไว้ ยามาโตะยิงปืนใหญ่เวฟโมชันครั้งแรกบนดาวพฤหัส และส่งผลให้เกาะลอยฟ้าขนาดเท่าทวีปออสเตรเลียหายไปในการยิงเพียงครั้งเดียว แต่ทว่าความร้อนที่เกิดจากการยิงนั้นก็สูงมากจนท่อถ่ายเทความร้อนละลาย ลูกเรือยามาโตะจึงนำ "คอสโมไนท์" (วัสดุสมมติในเรื่อง) จากดวงจันทร์ไททันมาเปลี่ยนเพื่อแก้ปัญหานี้
วงแหวนดาวเคราะห์
วงแหวนดาวเคราะห์ (Asteroid Ring) เป็นความคิดสร้างสรรค์ของซานาดะ ทำงานด้วยการยิงตัวสร้างแรงดึงดูด (Anti-Gravity Inducer) ให้ไปยึดติดกับหินในแถบดาวเคราะห์น้อยหลายๆก้อน แล้วดึงเข้ามาปกคลุมยามาโตะ นอกจากจะมีประโยชน์ในการอำพรางตัวและการกำบังแล้ว ยังสามารถนำก้อนหินเหล่านี้มาหมุนรอบตัวเองเพื่อใช้เป็นม่านกำบังได้อีกด้วย
ฝ่ายชาวกามิลัส
ระเบิดอุกกาบาต
ระเบิดอุกกาบาต (Meteor Bomb) เป็นระเบิดที่มีลักษณะคล้ายดาวหาง ฝ่ายกามิลัสใช้ยิงใส่เป็นระลอกๆตั้งแต่ ค.ศ. 2199 นอกจากจะมีอำนาจทำลายล้างเทียบเท่ากับอุกกาบาตที่ตกสู่พื้นโลกแล้ว ระเบิดอุกกาบาตยังมีกัมมันตภาพรังสีอีกด้วย ฐานยิงระเบิดอุกกาบาตนั้นถูกตั้งอยู่บนดาวพลูโต และไม่ปรากฏในเรื่องอีกเลยหลังจากที่ฐานปฏิบัติการหน้าพลูโตถูกยามาโตะทำลายไป
ปืนใหญ่สะท้อนดาวเทียม
ปืนใหญ่สะท้อนดาวเทียม (Reflective Satelite Cannon) เป็นอาวุธพิฆาตของฝ่ายกามิลัสและประจำการอยู่ที่ฐานปฏิบัติการหน้าพลูโต มีอำนาจทำลายล้างสูงกว่ายามาโตะแต่ระยะยิงสั้นกว่า ฐานยิงของปืนใหญ่สะท้อนดาวเทียมถูกซ่อนเอาไว้ใต้ทะเลสาบที่มีน้ำแข็งปกคลุม สามารถยิงทะลุโดมกระจกใสโดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อกระจก นอกจากนี้ ลำแสงปืนใหญ่ยังสามารถสะท้อนกับดาวเทียมและฐานสะท้อนลำแสง ทหใสามารถยิงไปยังเป้าหมายได้ไม่ว่าจะเป้าหมายอยู่ในที่แห่งในภายใต้รัสมียิง อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าปืนใหญ่นี้จะไม่สามารถยิงใส่เป้าหมายใต้น้ำได้ เนื่องจากกามิลัสมิได้ยิงปืนใหญ่สะท้อนดาวเทียมใส่ยามาโตะที่พยายามหลบอยู่ใต้น้ำ แต่ใช้วิธีส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดไปบังคับให้ยามาโตะลอยลำขึ้นเหนือน้ำก่อนที่จะยิงใส่แทน
ปืนใหญ่สะท้อนดาวเทียมถูกทำลายจากการลอบเข้าไปวางระเบิดไฮโดรเจนจากภายใน ขณะที่ปืนใหญ่กำลังจะถูกยิง ซึ่งส่งผลให้ฐานปฏิบัติการหน้าพลูโตระเบิดไปพร้อมๆกัน
ทุ่นระเบิด เดสเลอร์
ทุ่นระเบิด เดสเลอร์ (Deslor Mine) คือแนวทุ่นระเบิดที่ตั้งตามชื่อของเดสเลอร์อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
เปิดผิดรูปหรือมีชื่อที่ใช้ไม่ได้ ถูกวางไว้ที่แนวรอบนอกสุดของระบบสุริยะอ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
เปิดผิดรูปหรือมีชื่อที่ใช้ไม่ได้ ความพิเศษของทุ่นระเบิดเดสเลอร์คือการที่มันสามารถเคลื่อนไหวติดตามเป้าหมายได้อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
เปิดผิดรูปหรือมีชื่อที่ใช้ไม่ได้ ซึ่งทำให้เป้าหมายไม่สามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าหรือไม่สามารถวาร์ปหนีได้เช่นกันอ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
เปิดผิดรูปหรือมีชื่อที่ใช้ไม่ได้ ถ้าเป้าหมายเคลื่อนที่ผ่าเข้ามาตามแนวช่องว่างของทุ่นระเบิด ทุ่นก็จะขยับชิดเข้าหากันเรื่อยๆจนกว่าจะกระทบเป้าหมายอ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
เปิดผิดรูปหรือมีชื่อที่ใช้ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ทุ่นนี้ทำงานได้ด้วยการบังคับของทุ่นส่งสัญญาณอ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
เปิดผิดรูปหรือมีชื่อที่ใช้ไม่ได้ กัปตันโอคิตะจึงสั่งให้ซะนะดะและอานาไลเซอร์ค้นหาและถอดตัวส่งสัญญาณทิ้งอ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
เปิดผิดรูปหรือมีชื่อที่ใช้ไม่ได้และย้ายทุ่นระเบิดให้พ้นทางด้วยมือเปล่าอ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
เปิดผิดรูปหรือมีชื่อที่ใช้ไม่ได้
ถึงแม้แผนการใช้ทุ่นระเบิดเดสเลอร์จะล้มเหลวแต่เดสเลอร์กลับไม่โกรธ อีกทั้งกล่าวว่าอ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
เปิดผิดรูปหรือมีชื่อที่ใช้ไม่ได้
ทุ่นระเบิดเดสเลอร์ถูกสร้างขึ้นด้วยวิทยาการอันเหนือล้ำของกามิลัสแต่ไม่ได้ถูกเตรียมไว้รับมือกับการกระทำโง่ๆ ฉันได้เรียนรู้อย่างมากจากการความคิดอันคร่ำครึของพวกป่าเถื่อน (ชาวโลก) พวกนี้
และส่งสารแสดงความยินดีไปยังยามาโตะในนามของตัวเองอ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
เปิดผิดรูปหรือมีชื่อที่ใช้ไม่ได้
พาราโนดอน
พาราโนดอน (Paranodon) เป็นสัตว์ท้องถิ่นของดาวบูลาน มีนิสัยอ่อนโยน มีลักษณะคล้ายเต่า ดวงตามีขนาดเล็กมากเนื่องจากอยู่ในสภาวะไร้แสง แต่ถูกเกลนำมาใช้เป็นสัตว์สงคราม ควบคุมพวกมันผ่านเครื่องควบคุมของเขาโดยตรง โดยให้พาราโนดอนหลายๆตัวรวมตัวกันเป็นรูปร่างขนาดใหญ่ตามแต่เขาจะจินตนาการ เกลต้องการใช้พาราโนดอนเข้าขยี้ยามาโตะให้เร็วทีสุดเท่าที่จะทำได้แต่โดเมลไม่เห็นด้วย เพราะโดเมลไม่ต้องการให้ยามาโตะทราบว่ากามิลัสมีฐานทัพบนดาวบูลานแต่เกลขัดคำสั่งนำพาราดอนโนออกไปสู้กับยามาโตะ
รูปแบการโจมตีของพาราโนดอนคือการพุ่งเข้าชน และเนื่องจากว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ประกอบเข้าเป็นรูปร่าง เมื่อถูกยิงด้วยปืนใหญ่มันจึงเพียงแค่กระจายตัวเองแต่ยังสามารถกลับมารวมตัวกันได้ใหม่ แต่อย่างไรก็ตามพาราโนดอนก็ถูกทำลายด้วยปืนใหญ่เวฟโมชั่น
ป้อมอวกาศหมายเลข 13
ป้อมอวกาศหมายเลข 13 (Space Fortess No. 13) เป็นป้อมอวกาศรูปไข่เรียบ ความยาว 1 กิโลเมตร ความสูง 300 เมตรโดยประมาณ ดูเหมือนขัดผิวขนาดยักษ์ที่ลอยอยู่ในอวกาศ บนผิวมีรูจำนวนมากสำหรับการปล่อยแม็กนิตรอน เวฟ (Magnetron Wave) ซึ่งเป็นอาวุธที่ยิงคลื่นแม่เหล็กเข้าใส่เป้าหมายที่เป็นโลหะจนแยกออกเป็นชิ้นๆ รูแต่ละรูมีประตูปิดเพื่อป้องกันการโจมตีจากภายนอก ทำงานด้วยการจับการสั่นสะเทือน
อย่างไรก็ตาม ซานาดะวางแผนแก้ไขด้วยการสร้างยานอวกาศไร้รอยต่อเข้าใกล้และทำลายจากภายใน โดยมีโคไดเป็นผู้ร่วมปฏิบัติการ ลักษณะภายในของฐานซับซ้อนเหมือนเขาวงกต จัดเรียงเหมือนวงจรคอมพิวเตอร์ และเฝ้าดูแลโดยหุ่นยนต์ ณ ใจกลางของระบบ มีการวางระบบป้องกันสุดท้ายด้วยคลื่นเสียงหลอนประสาทและเส้นใยที่คล้ายหนวดปลาหมึกเพื่อการทำร้ายผู้บุกรุก
ดวงอาทิตย์เทียมแห่งบูลาน
ดวงอาทิตย์เทียม (Artificial Sun) เป็นสิ่งประดิษฐ์ของชาวกามิลัส แต่เดิมถูกใช้เพื่อเป็นแหล่งให้แสงสว่างบนดาวบูลาน แต่ทว่านายพลโดเมลวางแผนจะใช้ดวงอาทิตย์เทียมในการทำลายยามาโตะโดยให้ฐานบนดาวบูลาโจมตีล่อเพื่อดึงความสนใจจากยามาโตะในขณะที่ดวงอาทิตย์เทียมเคลื่อนที่เข้าหายามาโตะจากทางด้านหลัง ถึงแม้ว่าโคไดจะสามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้าถึงความผิดปกติของดวงอาทิตย์เทียมนี้และสั่งให้จับตามองดวงอาทิตย์แต่ก็ยังไม่อาจจะดิ้นหลุดจากกับดักนี้ได้
แผนการนี้ยอดเยี่ยมมากจนกัปตันโอคิตะถึงกับเอ่ยว่า "สุดยอด!" แต่ในวินาทีที่ยามาโตะจนมุมได้แต่รอความตายนั้นเอง เดสเลอร์ที่ได้รับข่าวนี้จากนายกลเกลที่ไม่สามารถทนดูการสังเวยลูกต้องตัวเองได้ เข้ามาสั่งให้โดเมลหยุดแผนของเขาเสีย ยามาโตะจึงทำลายดวงอาทิตย์เทียมด้วยปืนใหญ่เวฟโมชันในที่สุด
เครื่องย้ายมวลสารฉับพลัน
เครื่องย้ายมวลสารฉับพลัน เป็นเครื่องมือที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของโดเมล สามารถใช้เคลื่อนย้ายวัตถุที่อยู่ในพื้นที่ ๆ หนึ่งบริเวณหน้าเครื่องย้ายมวลสารไปยังอีกที่หนึ่งที่อยู่ห่างไกลได้ โดเมลใช้เครื่องย้ายมวลสารฉับพลันนี้เพื่อการโจมตีแบบไม่ให้ข้าศึกตั้งตัว (Surprise Attack) เครื่องย้ายมวลสารฉับพชันนี้ถูกนำมาใช้ครั้งแรกในยุทธการแห่งจักรวาลสายรุ้ง
อ้างอิง
- เพลงไตเติ้ลเปิดตัว "สตาร์เบลเซอร์ ตลุยอวกาศ" ที่เคยฉายในเมืองไทยครั้งแรก โดย ไทยทีวีสีช่อง 9 อ.ส.ม.ท.
- https://www.youtube.com/watch?v=0C4uaxWf57c
- https://www.youtube.com/watch?v=IOW8uJxLlUQ
- ↑ "1973-1976 Timeline". StarBlazers.com. สืบค้นเมื่อ 2008-09-06.
- "A Rainbow of Threads". StarBlazers.com. สืบค้นเมื่อ 2008-09-10.
- ↑ "Space Battleship Yamato" Episode 13
- ↑ " Space Battleship Yamato" Episode 1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "ep01" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน - ↑ " Space Battleship Yamato" Episode 2
- ↑ " Space Battleship Yamato" Episode 3
- ↑ " Space Battleship Yamato" Episode 6
- ↑ "Space Battleship Yamato", Episode 10
- "Space Battleship Yamato" ตอนที่11
- ↑ " Space Battleship Yamato" Episode 4
- ↑ "Space Battleship Yamato" Episode9
- ↑ " Space Battleship Yamato" Episode 10
- ↑ "Space Battleship Yamato", Episode 17
- ↑ Space Battleship Yamato, Episode 20
- ↑ "Space Battleship Yamato", Episode 18
- ↑ Space Battleship Yamato ตอนที่ 5
- "Space Battleship Yamato" ตอนที่12
- ↑ "Space Battleship Yamato", Episode 16
- ↑ Space Battleship Yamato, Episode 19
- ↑ "Space Battleship Yamato" Episode 8
- ↑ "Space Battleship Yamato", Episode 15
- ↑ "Space Battleship Yamato", Episode 21
- ↑ "Space Battleship Yamato", Episode 22
- ↑ "Space Battleship Yamato" Episode 7
แหล่งข้อมูลอื่น
- Dot Anime 2009-05-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน(ญี่ปุ่น)
- Star Blazers ที่ออลมูวี
- Uchû senkan Yamato ที่อินเทอร์เน็ตมูวีเดตาเบส
- Star Blazers ที่ ทีวีดอตคอม