เฮอริเคนอิสมาเอล
เฮอริเคนอิสมาเอล (อังกฤษ: Hurricane Ismael) คือพายุเฮอริเคนขนาดอ่อน ซึ่งก่อตัวขึ้นในช่วงฤดูพายุเฮอริเคนแปซิฟิก พ.ศ. 2538 โดยพายุเริ่มก่อตัวในวันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) และกลายเป็นเฮอริเคนในวันที่ 14 กันยายนในระหว่างที่พายุอยู่ใกล้ชายฝั่งประเทศเม็กซิโก มีเส้นทางเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือ ทำให้เกิดดินถล่มในรัฐซีนาโลอา พายุอิสมาเอลได้อ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วเมื่อเคลื่อนตัวขึ้นฝั่ง และสลายตัวในวันที่ 16 กันยายน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเม็กซิโก
พายุเฮอริเคนระดับ 1 (SSHWS) | ||
---|---|---|
เฮอริเคนอิสมาเอลบริเวณคาบสมุทรบาฮากาลิฟอร์เนีย | ||
ก่อตัว | 12 กันยายน ค.ศ. 1995 | |
สลายตัว | 16 กันยายน ค.ศ. 1995 | |
ความเร็วลม สูงสุด |
| |
ความกดอากาศต่ำสุด | 983 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล; 29.04 นิ้วปรอท) | |
ผู้เสียชีวิต | เสียชีวิต 116 ราย | |
ความเสียหาย | 26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ค่าเงินปี 1995) 37.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2006) | |
พื้นที่ได้รับ ผลกระทบ | ตอนเหนือของเม็กซิโก | |
ส่วนหนึ่งของ ฤดูพายุเฮอริเคนแปซิฟิก พ.ศ. 2538 |
ในภาคพื้นมหาสมุทร พายุนี้ทำให้เกิดคลื่นขนาดความสูง 9 เมตร (30 ฟุต) และทำให้เรืออับปาง 52 ลำและคร่าชีวิตชาวประมง 57 ราย ส่วนบนภาคพื้นดิน พายุอิสมาเอลทำให้มีผู้เสียชีวิต 59 รายในเม็กซิโก ยังทำลายบ้านเรือนกว่าพันหลังและผู้คนไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 30,000 คน เมื่อพายุเคลื่อนตัวถึงประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้เกิดฝนตกหนักในบางส่วนของรัฐนิวเม็กซิโก ซึ่งพายุลูกนี้เป็นเฮอริเคนในปี ค.ศ. 1995 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด
ประวัติพายุ
ความกดอากาศต่ำได้กลายเป็นพายุชื่อว่าอิสมาเอลเมื่ออยู่ห่างจากชายฝั่งประเทศกัวเตมาลา ในวันที่ 9 กันยายน และได้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เคลื่อนที่จากตะวันตกสู่ตะวันตกเฉียงเหนือ ในตอนปลายวันที่ 12 กันยายนได้กลายเป็นดีเปรสชันเขตร้อน และได้เคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ แล้วเพิ่มกำลังเป็นพายุหมุนเขตร้อนเมื่อต้นวันที่ 13 กันยายน
อิทธิพลของสภาพอากาศเหนือคาบสมุทรบาฮากาลิฟอร์เนีย ทำให้พายุเปลี่ยนทิศขึ้นเหนืออย่างช้าๆ และได้เพิ่มกำลังเป็นเฮอริเคนเมื่อวันที่ 14 กันยายน
ตาของพายุเริ่มมองเห็นได้ชัดขึ้น และเมื่อผ่านไป 6 ชั่วโมงหลังจากกลายเป็นเฮอริเคน ช่วงนี้พายุจะมีความรุนแรงมากที่สุด เฮอริเคนอิสมาเอลก็ได้เร่งความเร็วและไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ได้ผ่านทางตะวันออกของเมืองกาโบซันลูกัสในวันที่ 15 กันยายน อิทธิพลจากพายุทำให้เกิดแผ่นดินถล่มในรัฐซีนาโลอาเมื่อวันที่ 15 กันยายน จากนั้นพายุได้อ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วเมื่อขึ้นฝั่ง และสลายตัวไปเมื่อวันที่ 16 กันยายน กลุ่มฝนที่เหลืออยู่ก็เคลื่อนไปทางเหนือต่อ ฝนจากพายุได้ไปถึงบางส่วนของประเทศสหรัฐอเมริกา
การเตรียมพร้อม
ในตอนแรก นักอุตุนิยมวิทยาคาดว่าเฮอริเคนอิสมาเอลจะเคลื่อนตัวอยู่ในมหาสมุทรเท่านั้น แต่ต่อมาก็ได้พบว่าพายุจะเคลื่อนขึ้นฝั่ง รัฐบาลของเม็กซิโกได้ออกประกาศเตือนภัยพายุหมุนเขตร้อนในพื้นที่เมืองมันซานิลโล รัฐโกลีมา จนถึงแหลมกาโบกอร์เรียนเตส์ ต่อมาได้ขยายไปถึงเมืองลอสโมชิส และพื้นที่ส่วนอื่นๆ ในรัฐบาฮากาลิฟอร์เนียซูร์ โดยได้ประกาศเตือนภัยครอบคลุมตั้งแต่เมืองมาซาทลัน ถึงเมืองลอสโมชิส ก่อนที่พายุจะมาถึง ได้มีการอพยพประชาชนจำนวน 1,572 คนไปยังที่พักพิงชั่วคราว
ผลกระทบ
ผลจากเฮอริเคนอิสมาเอลทำให้เกิดคลื่นขนาด 30 ฟุต (9 เมตร) ในอ่าวแคลิฟอร์เนีย ชาวประมงจำนวนมากไม่ได้เตรียมการสำหรับพายุ จึงทำให้มีเรือ 52 ลำเสียหายและ 20 ลำจม ชาวประมงประมาณ 57 รายเสียชีวิตบริเวณชายฝั่ง และมีชาวประมงประมาณ 150 รายรอดพ้นจากพายุโดยการรออยู่บนเกาะ ทีมกู้ภัยของทหารเรือได้ออกค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยนอกชายฝั่งเม็กซิโก
ผลจากพายุทำให้มีปริมาณฝนตกปานกลางถึงหนักมาก โดยวัดได้ 7.76 นิ้ว (197 มิลลิเมตร) ในรัฐซีนาโลอา ฝนที่ตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมในเทศบาลสี่แห่งของรัฐ พายุยังได้ทำลายบ้าน 373 หลังและเสียหายอีกกว่า 4,790 หลัง บ้าน 177 หลังไม่มีน้ำบริโภค และไม่มีไฟฟ้าใช้อีกหลายแห่ง นอกจากนี้พายุยังทำให้เกิดดินถล่ม ในเมืองลอสโมคิส เกิดลมพัดทำให้บ้านเรือนและเสาโทรศัพท์พังเสียหาย มีผู้เสียชีวิต 59 รายในรัฐซีนาโลอา
พายุอิสมาเอลทำให้เกิดฝนตกหนักมากขึ้นเมื่อขึ้นสู่ทิศเหนือ น้ำท่วมอย่างหนักในเมืองฮัวทาบัมโพ โดยตลอดรัฐโซโนรา ลมแรงได้ทำลายบ้าน 4,728 หลังและพัดหลังคาบ้าน 6,827 หลังปลิวกระจาย ทำลายโรงเรียน 107 แห่ง เส้นทางคมนาคมกว่า 100 ไมล์ (165 กิโลเมตร) และพื้นที่ปลูกพืชผลทางการเกษตรประมาณ 83 ตารางไมล์ (215 ตารางกิโลเมตร)
ฝนจากพายุได้เคลื่อนตัวตามพายุไปยังตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐแอริโซนาและ ทางใต้ของรัฐนิวเม็กซิโกของสหรัฐอเมริกา เกิดฝนตกหนักใกล้เขตรอยต่อของรัฐนิวเม็กซิโกและเท็กซัส ทำให้เกิดน้ำท่วมถนนและสถานที่หลายแห่ง เส้นทางถนนจำนวนมากเสียหายและต้องปิดบริการ ในเมืองลับโบค รัฐเท็กซัส ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ถนนส่วนใหญ่ถูกปิด และความชื่นจากพายุได้พัดไปถึงรัฐทางตะวันออกของสหรัฐอีกด้วย
หลังจากพายุสลายตัว
เนื่องจากมีความเสียหายจากพายุเป็นอย่างมาก ชื่อ อิสมาเอล (Ismael) จึงถูกถอดออก และได้แทนที่ด้วยชื่อ อิสราเอล (Israel) ซึ่งได้ใช้สำหรับพายุในฤดูพายุเฮอริเคนแปซิฟิก พ.ศ. 2544 หลังจากเฮอริเคนอิสมาเอลผ่านพ้นไป เจ้าหน้าที่ได้แจกผ้าปูจำนวน 4,800 ชิ้น หมอน 500 ใบและผ้าห่ม 1,500 ผืนให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ มีทีมนักประดาน้ำกู้เรือที่จมและผู้เคราะห์ร้ายที่จมน้ำ และมีการซ่อมแซมระบบการสื่อสารอย่างรวดเร็ว
อ้างอิง
- "1995 Pacific hurricane season". National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ 2009-05-11.
- ↑ Max Mayfield (1995). "Hurricane Ismael Tropical Cyclone Report". National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ 2009-05-11.
- Max Mayfield (1995). "Tropical Storm Ismael Discussion Six". NHC. สืบค้นเมื่อ 2006-11-04.
- ↑ El Presidente de la Comisión Nacional (1996). (ภาษาสเปน). Comisión Nacional de los Derechos Humanos. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2010-09-03. สืบค้นเมื่อ 2009-05-11.
- ↑ Daniel Bitrán Bitrán (2001). "Caracterásticas del Impacto Socioeconómico de los Principales Desastres Ocurridos en México en el Período 1980 – 99" (PDF) (ภาษาสเปน). Centro Nacional de Prevención de Desastres. สืบค้นเมื่อ 2009-05-11.
- ↑ Associated Press (1995). "Hurricane kills 91 in Mexico". สืบค้นเมื่อ 2009-05-11.
- Sun-Sentinel Wire Services (1995). "Hurricane Toll in Mexico Passes 100; Marilyn Fades". สืบค้นเมื่อ 2009-05-11.
- David Roth (2005). "Rainfall Summary for Hurricane Ismael". Hydrometerological Prediction Center. สืบค้นเมื่อ 2009-05-11.
- National Climatic Data Center (1995). "Event Report for New Mexico". สืบค้นเมื่อ 2009-05-11.
- NCDC (1995). . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2012-01-12. สืบค้นเมื่อ 2009-05-11.
- Hanna Rosin (2004). "Hurricane Names". The Washington Post. สืบค้นเมื่อ 2009-05-11.
แหล่งข้อมูลอื่น
- ข้อมูลพายุ จากศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐ
- Spanish Report 2010-09-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน