นกโป่งวิด
นกโป่งวิด | |
---|---|
นกโป่งวิดตัวผู้ ในหนองน้ำ | |
นกโป่งวิดตัวเมีย | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Aves |
อันดับ: | Charadriiformes |
วงศ์: | Rostratulidae |
สกุล: | Rostratula |
สปีชีส์: | R. avosetta |
ชื่อทวินาม | |
Recurvirostra avosetta (Linnaeus, 1758) | |
แหล่งกระจายพันธุ์ของนกโป่งวิด (R. avosetta) | |
ชื่อพ้อง | |
|
นกโป่งวิด (อังกฤษ: greater painted-snipe; ชื่อวิทยาศาสตร์: Rostratula benghalensis) เป็นนกน้ำในอันดับนกชายเลนที่มีลักษณะแตกต่างไปจากนกส่วนมาก คือตัวเมียมีสีสันสวยงามกว่าตัวผู้ และไม่ช่วยตัวผู้ในการกกไข่และเลี้ยงดูลูก นกโป่งวิดจับคู่ทำรังในช่วงฤดูฝน มักพบนกโป่งวิดในหนองน้ำในแอฟริกา เอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อนุกรมวิธาน
นกโป่งวิด (Rostratula benghalensis) ได้รับการขึ้นทะเบียนชนิดโดยคาร์ล ลินเนียสในปี ค.ศ. 1758
ชื่อสามัญในภาษาอื่น
ภาษาเบงกอล: বাংলা রাঙাচ্যাগা –บันลา รานาชยากา
ภาษามลยาฬัม: കാളിക്കാട –คาลิกคาตา
ภาษาทมิฬ: Mayil Ullan –มายิลอุราน
ภาษามลายู: Burung Meragi –บุหรงเมลากี
ภาษาสวาฮีลี Swahili: Sululu Uzuri – ซุลุลุอูซูรี
ภาษามาลากาซี Malagasy: Tatoka – ทาโตกา
ภาษาเวียดนาม Vietnamese: Chim Nhát hoa, Nhát hoa –ฉิ่มงาดฮฺวา
ภาษาจีน 彩鹬 –ฉ่ายยู่
ลักษณะทางกายวิภาค
เป็นนกลุยน้ำขนาดกลาง ตัวอวบ จะงอยปากยาวหนาสีน้ำตาล คล้ายนกปากซ่อมแต่ปากสั้นกว่า ปลายแหลมงุ้มเล็กน้อย (decurved) สีแดง ลักษณะเด่นของนกโป่งวิดคือมีแถบตาโดดเด่นสีขาวและอาจแกมสีชมพู ปีกโค้งมนสีน้ำตาลอมเหลืองและหางสั้น อกสีขาวและแถบยาวรอบโคนปีก (ไหล่) ไปถึงหลังสองแถบ สีเหลืองในนกตัวเมียและสีขาวในนกตัวผู้ เห็นชัดเมื่อหุบปีก นกโป่งวิดมีลักษณะคล้ายกับนกปากซ่อม แต่แตกต่างกันจากพฤติกรรม การบิน และลักษณะที่มีสีสดกว่าและขาที่ยาวกว่านกปากซ่อม
ขนาด ความยาวปลายปากถึงโคนหาง 25 เซนติเมตร ความยาวปาก 4.4–5.0 เซนติเมตร ความยาวนิ้วตีน 4.2 เซนติเมตร หัวเล็ก ตาโต
นกโป่งวิดต่างจากนกทั่วไปคือ ตัวเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าและมีสีสดกว่าตัวผู้ มีแถบกลางหัวน้ำตาลเหลือง หัวตอนบนดำตัดกับแถบตาและวงรอบขาว หัว คอ อก และหลังตอนบนน้ำตาลแดงแกมเลือดหมู อกด้านล่างมีแถบดำต่อเนื่องกับลำตัวด้านล่างสีขาว ปีกน้ำตาลเข้มออกเขียว ด้านข้างของหัวและคอเป็นสีน้ำตาลแดง มีแถบสีดำเด่นชัดทั่วอก
ตัวผู้มีสีซีดกว่า ออกเทา ๆ และเป็นลายพราง กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมตามท้องทุ่งหนองน้ำมากกว่า มีแถบกลางหัวสีขาว แถบตาขาวแกมสีชมพูหรือส้ม และหนังรอบตาสีน้ำตาลเหลือง หัว อก และหลังน้ำตาลเข้มแกมเทา ปีกและลำตัวด้านบนมีลายสีน้ำตาลสลับน้ำตาลเข้ม ลำตัวด้านล่างขาว
พฤติกรรม
นกโป่งวิด (R. avosetta) มีอุปนิสัยขี้อาย ในเวลากลางวัน ชอบยืนหรือหมอบอยู่นิ่งๆ กลมกลืนกับพื้นดิน จึงไม่ค่อยได้มีโอกาสเห็นตัวกันบ่อยนักมักหลบซ่อนตามทุ่งหญ้า ชอบอาศัยบริเวณชายแหล่งน้ำ เช่น หนองบึง ทะเลสาบ พื้นที่ชุ่มน้ำ ทุ่งนา ที่ราบ ปกติร้องเสียง "อุก ๆ " หรือ "จุก ๆ "
มักอาศัยโดด ๆ หรือตัวผู้พาลูกนกออกมาเดินหากิน บางครั้งที่พบเป็นคู่หรือพบอยู่รวมกันเป็นฝูงได้ถึง 12 ตัว เมื่อถูกรบกวนจะเลือกหลบหนีไปในบริเวณที่มีพืชรกทึบ หรืออาจบินหนีไปใกล้ ๆ โดยยังห้อยขาอยู่ นกตัวผู้ที่บินหนีมักเลือกบินกลับรังโดยลงพื้นในจุดที่ห่างจากรัง 5–7 เมตร วิ่งกลับและหมอบลงห่างจากรังไม่มากประมาณ 2 เมตร ซุ่มดูก่อนเข้ารัง นกตัวเมียมักตื่นตกใจจากสิ่งรบกวนมากกว่าตัวผู้
อาหาร
กินแมลง กุ้ง ปู หอย ทาก และเมล็ดพืช
การผสมพันธุ์และการทำรัง
นกโป่งวิดและนกบางชนิดในอันดับนกชายเลน เช่น วงศ์นกลอยทะเล (Phalarope) และวงศ์นกคุ่มอืด (Buttonquail) เหล่านี้ตัวเมียมีสีสันสวยงามกว่า ในช่วงฤดูการผสมพันธุ์นกโป่งวิดตัวผู้ส่งเสียงดังเรียกคู่ ตัวเมียเป็นฝ่ายเริ่มต้นการเกี้ยวพาราสี ตัวเมียหนึ่งตัวจะจับคู่ผสมพันธุ์กับเพศผู้หลายตัว (เรียกว่า polyandry) และวางไข่หลายครั้งในหนึ่งฤดูกาล ตัวผู้ทำหน้าที่กกไข่และเลี้ยงลูกในรัง การสร้างรังมักจะขูดดินตื้น ๆ ในบริเวณที่มีดินอ่อนและภายในกลุ่มพืช หญ้ารกหรือกกริมน้ำ หรือพื้นที่น้ำตื้นที่มีหย่อมกอหญ้าเป็นเนิน มากกว่าการสุ่มพื้นที่ทำรัง ในประเทศอินเดีย นกโป่งวิดมักเลือกกอพืชที่ขึ้นแน่นและสูงเป็นพิเศษในบริเวณที่มีอินทรีย์วัตถุสูงจากมูลปศุสัตว์ วัสดุทำรังจากหญ้าและวัชพืช ถักหรือพับโดบการย่ำลงให้แน่นกับพื้น ตรงกลางต่ำกว่าขอบรังเล็กน้อยสำหรับวางไข่
ฤดูผสมพันธุ์ในฤดูฝน ระหว่างเดือนเมษายน–กรกฎาคม หรือ ปลายมิถุนายน–สิงหาคมในอินเดีย มักเลือกช่วงที่ฝนทิ้งช่วงกลางฤดู
ไข่สีเหลือง และแต้มจุดน้ำตาลดำโดยรอบ วางไข่ รังละประมาณ 4 ฟอง ระยะกกไข่ประมาณ 20 วัน ลูกนกมีสีเทาอมน้ำตาลและมีแถบดำหลาบแถบคาดตลอดแนวยาว มีแถบดำยาวคาดตาสองข้าง ตัวผู้มักใช้ปีกหอบลูกนกในขณะเดินหรือใช้ปีกคลุมพรางลูกนก มักพบตัวผู้พาลูกนกออกหาอาหารในเวลาพลบค่ำซึ่งมีแหล่งอาหารชุกชุมกว่าช่วงอื่น
นกรุ่นทั้งตัวผู้และตัวเมีย มีสีและลายคล้ายนกตัวผู้ที่โตเต็มที่แต่ไม่แถบดำที่อก
นกตัวเมียขณะบิน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า Manjira รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย
ภาพระยะใกล้ของนกตัวเมีย อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ ประเทศแอฟริกาใต้
นกตัวผู้พาลูกนกออกมาเดินหากิน ในฮ่องกง ประเทศจีน
นกตัวผู้โตเต็มวัย และนกรุ่น ที่บังคาลอร์
ถิ่นอาศัยและนิเวศวิทยา
ถิ่นอาศัยและแหล่งกระจายพันธุ์ของนกโป่งวิด (R. avosetta) คือ ในหนองน้ำและที่ชุ่มน้ำในทวีปแอฟริกาเช่นไนจีเรีย กานา แอฟริกาใต้ มาดากัสการ์ เอเชียใต้ได้แก่อินเดียและบังกลาเทศ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจีนตอนใต้รวมทั้งเกาะไต้หวัน อาจมีพื้นที่ผสมพันธุ์ในบางส่วนของประเทศจีนตอนเหนือเช่น ชานตง เหอเป่ย์ เหอหนาน
ประเทศไทย
นกโป่งวิด (R. avosetta) มีสถานภาพเป็นนกทั้งนกประจำถิ่นและนกอพยพนอกฤดูผสมพันธุ์ กระจายอยู่ตามทุ่งนาทั่วประเทศไทย หรือแหล่งน้ำได้แก่ พื้นที่ชายเลน และบึงบอระเพ็ด
ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ปี 2535 นกโป่งวิดได้รับการบรรจุเป็นสัตว์คุ้มครองบัญชีรายชื่อ ปี 2546 ในลำดับที่ 640
การอาศัยร่วมกับมนุษย์
ในการศีกษาในอินเดีย นกโป่งวิดมักเลือกทำรังในนาอนุบาลกล้า (แปลงเพาะกล้า) เนื่องจากมีความทึบแน่นของพืชสูงและดินอ่อน ทั้งช่วงนาปีและนาปรัง ทั้งนี้ยังได้รับการคุ้มครองโดยชาวนาด้วยการทำเครื่องหมายในแปลงตรงจุดที่นกทำรัง หรืออาศัยมัดกล้าเป็นที่หลบซ่อนตัว
ในปัจจุบัน การทำนามักใช้สารฆ่าแมลงอย่างเข้มข้น รวมทั้งการปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยกว่าข้าวแทน ส่งผลต่อประชากรของนกโป่งวิดให้ลดลง
อ้างอิง
- แม่แบบ:Url=https://www.iucnredlist.org/details/22735810/0
- ↑ "นกโป่งวิด (Greater Painted-snipe; Rostratula benghalensis) จากบล็อก โอเคเนชั่น oknation.net". oknation.nationtv.tv.
- ↑ "นกโป่งวิด Greater Painted-snipe ( Rostratula benghalensis (Linnaeus, 1758) )". www.lowernorthernbird.com.
- "นกโป่งวิด - eBird". ebird.org.
- ↑ C. K. Vishnudas, N. V. Krishnan (2013). Observations of breeding of Greater Painted-snipe Rostratula benghalensis in the rice paddies ofWayanad, Kerala)
- Yu-Hsun Hsu, Lucia Severinghaus (2011). Nest-site Selection of the Greater Painted Snipe (Rostratula benghalensis benghalensis) in Fallow Fields of I-Lan, Taiwan DOI:10.6165/tai.2011.56(3).195
- Wesley, H Daniel. "A male painted snipe and his chick". Newsletter for Birdwatchers. 30 (7&8): 3.
- Brinder Kumar (2019). Spotting of Rostratula benghalensis, Greater Painted Snipe at Village Sail Saloon, Tehsil Udhampur Jammu & Kashmir, India.
- Common Greater Painted-snipe Rostratula benghalensis (Linnaeus, 1758). Avibase, สืบค้นเมื่อ 2 พฤษภาคม 2564.
- "นกโป่งวิด (Rostratula benghalensis) :: xeno-canto". www.xeno-canto.org.
- อมรรัตน์ ว่องไว สีฟ้า ละออง และคณะ. 2562. การศึกษาประชากร และก้าหนดเวลาการอพยพของนกน้าอพยพ ในช่วงต้นฤดูกาลอพยพกรณีศึกษาฤดูกาลอพยพ 2556 - 2557. หน้า 51 72. ใน ผลงานวิจัย และรายงานความก้าวงานวิจัย ประจาปี 2562. กลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่า สานักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช. กรุงเทพฯ.
- ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 109 ตอนที่ 15.