fbpx
วิกิพีเดีย

นครรัฐแพร่

นครรัฐแพร่ หรือ นครแพร่ เป็นนครรัฐอิสระขนาดเล็กในอดีตรัฐหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มแม่น้ำยม เดิมเรียกว่า “เมืองพล” นครพล, หรือพลนคร, “เวียงโกศัย” หรือโกศัยนคร, “เมืองแพล” มีชื่อเต็มว่า โกเสยุยธชุชพลวิชยแพร่แก้วเมืองมุร

นครรัฐแพร่
พ.ศ. 1371–2445
สถานะนครรัฐ
เมืองหลวงเมืองพลนคร หรือ เวียงแพร่
ศาสนา
ศาสนาพุทธ (เถรวาท)
การปกครองสมบูรณาญาสิทธิราชย์
เจ้าผู้ครองนคร 
• พ.ศ. 1371 – 1719
ราชวงศ์ขุนหลวงพล
• พ.ศ. 1825 - 2101
เวียงโกศัย
• พ.ศ. 2309 - 2313
พระยาศรีสุริยวงศ์ (มังไชย)
• พ.ศ. 2361 – 2445
ราชวงศ์เทพวงศ์
ประวัติศาสตร์ 
• สถาปนา
พ.ศ. 1371
• ถูกผนวกเข้ากับล้านนา
พ.ศ. 1986
• เป็นเมืองขึ้นของพม่า
พ.ศ. 2101 – 2310
• เป็นเมืองขึ้นของสยาม
พ.ศ. 2313
พ.ศ. 2437
• ยกเลิกระบบเจ้าผู้ครองนคร
2445
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย

จนกระทั่ง พ.ศ. 1655 - พ.ศ. 1773 พวกขอมมีอำนาจในแถบนี้เมืองแพร่จึงตกอยู่ภายใต้อำนาจของขอม ซึ่งภายหลังพวกขอมได้ถูกกองทัพของพ่อขุนบางกลางหาว และพ่อขุนผาเมืองขับไล่ออกไป แล้วตั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี อิทธิพลของขอมจึงหมดไปจากดินแดนแถบนี้

ประวัติ

การสถาปนา

นครรัฐแพร่ เริ่มตั้งแต่สร้างเมือง พ.ศ. 1307 - 1445 (หลักฐานจากหนังสือ ประวัติการสร้างวัดหลวง หรือวัดหลวงสมเด็จ) ปีพ.ศ. 1371 พญาพลราชนัดดาแห่งกษัตริย์น่านเจ้า ได้อพยพคนไทยลื้อ ไทยเขิน ส่วนหนึ่งจากเมืองเชียงแสน ไชยบุรี และเวียงพางคำ ลงมาสร้างเมืองบนที่ราบฝั่งแม่น้ำยมขนานนามว่า "เมืองพลนคร" พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดแพร่เริ่มขึ้นหลังจากชุมชนเมืองแพร่มีขนาดใหญ่ขึ้นจนก่อตั้งเป็นเมือง มีการสร้างคูเมือง กำแพงเมืองอย่างแน่นหนา สามารถป้องกันศัตรูภายนอก และป้องกันน้ำจากแม่น้ำยมเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มในเมือง ความโดดเดี่ยวจากสภาพภูมิศาสตร์ที่มีภูเขาสลับซับซ้อนรอบทุกทิศทำให้เมืองแพร่ระยะแรกเป็นนครรัฐอิสระที่ยากจะมีเมืองใดในยุคนั้นมารุกราน

นครรัฐแพร่ ชุมชนโบราณเมืองแพร่ได้เริ่มพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนครรัฐอิสระเช่นเดียวกับเมืองที่กล่าวข้างต้น ผู้มีบทบาทสำคัญในฐานนะผู้นำของเมืองคือ เจ้าผู้ครองนคร เป็นผู้มีอำนาจสิทธิ์ขาดในการปกครอง และเป็นที่เคารพนับถือของชาวเมือง ผู้นำของเมืองสืบเชื้อสายปกครองเมืองต่อกันมา ตำนานวัดหลวง ตำบลในเวียง ระบุนามเจ้าเมืองแพร่ในยุคที่เป็นนครรัฐ ได้แก่ พ่อขุนหลวงพล ท้าวพหุสิงห์ ขุนพนมสิงห์ ขุนวังสุพล พญาพรหมวงศ์หรือพญาพรหมวังโส และหญาพีระไชยวงศ์ ระยะช่วงนี้ประมาณ 348 ปี จนกระทั่งพวกขอมมีอำนาจในแถบนี้เมืองแพร่จึงตกอยู่ภายใต้อำนาจของขอม ซึ่งภายหลังพวกขอมได้ถูกกองทัพของพ่อขุนบางกลางหาว และพ่อขุนผาเมืองขับไล่ออกไป แล้วตั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี อิทธิพลของขอมจึงหมดไปจากดินแดนแถบนี้

การล่มสลาย

ราวพุทธศตวรรษที่ 21 นครรัฐแพร่ก็ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นล้านนา ภายใต้การนำของพระเจ้าติโลกราช ผู้ทรงทำสงครามกับสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถแห่งกรุงศรีอยุธยานั้นต้องผ่านนครรัฐแพร่ จนกระทั่งพ.ศ. 2101 – 2310 อาณาจักรล้านนา รวมทั้งนครแพร่ตกอยู่ในอำนาจของพม่าในฐานะประเทศราชบ้าง เป็นอิสระบ้าง ขึ้นอยู่กับกรุงศรีอยุธยาบ้าง พ.ศ. 2311 – 2313 เป็นเมืองขึ้นกรุงธนบุรี

พ.ศ. 2313 เป็นเมืองขึ้นของสยามประเทศ จนถึงรัชสมัยเจ้าพิริยเทพวงษ์ เจ้าผู้ครองนครแพร่องค์ที่ 22 ปีพ.ศ. 2445 ได้เกิดความไม่สงบขึ้นในเมืองนครแพร่ โดยพวกไทใหญ่หรือเงี้ยวได้ทำการก่อจลาจลในเมืองนครแพร่เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2445 จากเหตุการณ์ครั้งนี้ เจ้าหลวงนครแพร่ถูกกล่าวหาว่าคบกับพวกเงี้ยว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดให้ถอดจากยศตำแหน่ง ริบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งหมดคืน พระองค์จึงไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่เมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว และได้พำนักอยู่ที่นั่นจนกระทั่งพิราลัยในปี พ.ศ. 2455 แม้จนสุดท้ายแล้วพระพุทธเจ้าหลวงถึงจะทรงพิโรธการเรียกร้องความไม่เป็นธรรมของเจ้าหลวงเมืองแพร่อย่างไรพระองค์ก็ทรงออกมาปกป้องว่า เจ้าหลวงพิริยะเทพวงษ์นั้น แม้จะกลับมาชิงบ้านเมืองคืนจริง ก็ไม่ใช่ความคิดของเจ้าหลวงแต่เป็นนโยบายของฝรั่งเศส พระองค์ทรงให้เจ้านายทายาทเจ้าหลวงอยู่อย่างสงบสุขด้วยเจ้านายราชวงศ์จักรีที่ทรงวางใจคือสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ มือขวาของพระองค์นั่นเอง ส่วนเจ้านายที่ถูกคาดโทษพระองค์ก็ให้ทำหน้าที่ปราบโจรผู้ร้ายชดใช้ จึงถือเป็นการสิ้นสุดเจ้าผู้ครองนครแพร่

การปกครอง

การปกครองในสมัยนครแพร่ในรัชสมัยราชวงศ์เทพวงศ์ แม้นครแพร่และล้านนาจะเป็นประเทศราชของสยาม แต่สยามก็ไม่เคยเข้ามาปกครองล้านนาโดยตรง เมืองต่าง ๆ ของล้านนายังคงปกครองตนเองในลักษณะนครรัฐ รวมทั้งระยะทางที่ห่างไกลและยากลำบากจากกรุงเทพฯ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างล้านนาและสยามไม่ได้ใกล้ชิดนัก อีกทั้งในภาคเหนือ ยังมีเทือกเขา ทอดยาวจากทิศเหนือสู่ทิศใต้ ยอดเขาแต่ละแห่งสูงไม่ต่ำกว่า 1,000 เมตร ทำให้การเดินทางระหว่างเมืองต่าง ๆ ในล้านนา ไม่สะดวกนัก นครแพร่จึงมีอำนาจในการปกครองตนเอง เจ้านครประเทศราชออกกฎหมายภายในนครของตนเอง โดยมีลำดับขั้นในการบริหารในนครประเทศราชต่าง ๆ มีสามขั้น ได้แก่

  1. เจ้าห้าขัน หรือ เจ้าขันห้าใบ
  2. เค้าสนาม (สภาขุนนาง)
  3. นายบ้าน (หัวหน้าหมู่บ้าน)

เจ้าห้าขัน

การปกครองเจ้าห้าขัน หรือ เจ้าขันห้าใบ เป็นระบบการปกครองแบบคณาธิปไตย เป็นกลุ่มผู้ปกครองสูงสุด ประกอบด้วยเจ้าหลวงของนครประเทศราชนั้น ๆ เป็นประมุข และเจ้าอื่น ๆ อีก 4 ตำแหน่ง โดยเจ้าห้าขัน เป็นเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ ที่มีอำนาจและอิทธิพลสูง ทั้งการเมือง เศรษฐกิจและสังคม การสืบตำแหน่งเจ้าห้าขันนั้น จะขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ในวงศ์ตระกูลของเจ้านาย จะต้องเป็นเชื้อสายเจ้านายสำคัญ มีอิทธิพล มั่งคั่ง มีข้าทาสบริวารจำนวนมาก เป็นที่เคารพนับถือของราษฎร และมีราชสำนักสยามเป็นผู้รับรองการแต่งตั้ง แต่ในนครแพร่เจ้าขันห้าใบจะมีบรรดาศักดิ์เป็นชั้นพระยา และเจ้านายในตำแหน่งรองลงไปมีบรรดาศักดิ์เป็นพระ ต่อมามีการยกเจ้าผู้ครองนครแพร่ขึ้นเป็นเจ้า แต่ก็เป็นการยกขึ้นเฉพาะองค์ไม่ได้ยกขึ้นเป็นเจ้าทั้งหมดแบบนครเชียงใหม่ นครลำปาง นครลำพูน และนครน่าน

เจ้าขันห้า มีบรรดาศักดิ์เป็นพระยา ได้แก่

  1. พระยานคร (เจ้าหลวง) ศักดินา 8,000 ไร่ ต่อมามีเลื่อนเฉพาะองค์ขึ้นเป็นเจ้านคร คือ เจ้าพิริยเทพวงษ์ ศักดินา 10,000 ไร่
  2. พระยาอุปราช (พระยาหอหน้า) ศักดินา 3,000 ไร่
  3. พระยาราชวงศ์ (พระยาราชวงศาธิราชลือไชย) ศักดินา 2,500 ไร่
  4. พระยาบุรีรัตน์ (พระยารัตนหัวเมืองแก้ว หรือ พระยาหอหลัง) ศักดินา 2,000 ไร่
  5. พระยาราชบุตร ศักดินา 2,000 ไร่

เจ้าระดับรองลงมามีบรรดาศักดิ์เป็นพระ ได้แก่

  1. พระสุริยะจางวาง ศักดินา 1,000 ไร่
  2. พระอุตรการโกศล ศักดินา 1,000 ไร่
  3. พระไชยสงคราม ศักดินา 1,000 ไร่
  4. พระเมืองราชา ศักดินา 1,000 ไร่
  5. พระเมืองไชย ศักดินา 1,000 ไร่
  6. พระเมืองแก่น ศักดินา 1,000 ไร่
  7. พระอินทราชา ศักดินา 1,000 ไร่
  8. พระจันทราชา ศักดินา 1,000 ไร่
  9. พระภิไชยราชา ศักดินา 1,000 ไร่
  10. พระวิไชยราชา ศักดินา 1,000 ไร่
  11. พระไชยราชา ศักดินา 1,000 ไร่
  12. พระวังขวา ศักดินา 1,000 ไร่
  13. พระวังซ้าย ศักดินา 1,000 ไร่
  14. พระวังขวา ศักดินา 1,000 ไร่
  15. พระคำลือ ศักดินา 1,000 ไร่
  16. พระถาง ศักดินา 1,000 ไร่

เค้าสนามหลวง

โครงสร้างทางการเมืองที่รองจากเจ้าห้าขัน คือ เค้าสนามหลวง หรือ ที่ประชุมเสนาอำมาตย์ เป็นหน่วยบริหารราชการ มักเป็นเจ้านายชั้นรองและขุนนางที่แต่งตั้งโดยเจ้าห้าขัน มีหน้าที่ตัดสินคดีความ จัดเก็บภาษี และต้อนรับแขกเมือง กลุ่มขุนนางที่เข้ารับราชการซึ่งมีตำแหน่งเป็น พญา ท้าว แสน ประกอบด้วยสมาชิก 12 คน โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มดังต่อไปนี้

  1. กลุ่มเสนาอำมาตย์ผู้ใหญ่ซึ่งมีหน้าที่ดูแลงานทั่วทั้งเมือง มี 4 ตำแหน่ง เรียกว่า พ่อเมืองทั้ง 4 ได้แก่
  • พระยาแสนหลวง
  • พระยาจ่าบ้าน
  • พระยาสามล้าน
  • พระยาเหล็กชาย (อาจเรียกว่า พญาเด็กชาย)

โดยผู้ที่ได้รับตำแหน่งพ่อเมืองมีชื่อแตกต่างกันตามนามที่เจ้าหลวงตั้งให้และอาจมีคำนำหน้าเป็นท้าว พญา หรือแสนอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ แต่ชื่อของพระยาแสนหลวงจะมีคำว่าหลวงอยู่ด้วยเสมอเช่น แสนหลวงธนันไชย, ท้าวหลวงเมืองแพร่ พระยาหลวงคำพิมเมือง สำหรับพ่อเมืองในตำแหน่งอื่น ๆ อีกสามตำแหน่งนั้นไม่มีคำว่าหลวงนำหน้าเช่น พระยาไชยประเสริฐ แสนรามไชย พระยาแขก พระยาขัตติยะ พระยาอินทประสงค์ เป็นต้น

  1. กลุ่มเสนาอำมาตย์ผู้ใหญ่ซึ่งมีหน้าที่ดูแลเฉพาะทั่วไป มี 8 ตำแหน่ง เรียกว่า เสนาทั้ง 8 ได้แก่
  • แสนหนังสือ
  • ท้าวหมื่นวัดใหญ่
  • พระยาหัวเมืองแก้ว

ซึ่งสามารถค้นพบเพียง 3 ตำแหน่งเท่านั้นส่วนตำแหน่งอื่น ๆ พบแต่ชื่อไม่สามารถที่จะระบุตำแหน่งได้ ตัวอย่างของเสนาทั้ง 8 เช่น แสนอินทปัญญา แสนเทพสมศักดิ์ แสนจิตปัญญา แสนเสมอใจ ท้าวไชยยาวุธ ท้าวแสนพิง พระยาวังใน พระยาเมืองมูล พระยาสุพอาษา เป็นต้น


หมู่บ้าน

โครงสร้างระดับล่าง คือ หมู่บ้าน ในเมืองต่าง ๆ ประกอบด้วยหมู่บ้านจำนวนหนึ่ง มากบ้าง น้อยบ้าง ตามขนาดของเมือง การปกครองระดับหมู่บ้านมีความสำคัญมาก เพราะหมู่บ้านเป็นหน่วยการผลิตที่แท้จริงที่เลี้ยงดูเมืองและชนชั้นปกครอง ในแต่ละหมู่บ้าน มีผู้ปกครองเป็น ซึ่งผู้ปกครองหมู่บ้านมีตำแหน่งเป็น จ่า, หมื่น, แสน และ พญา อาจขึ้นตรงต่อเจ้านายองค์ใดองค์หนึ่งหรือเค้าสนาม นายบ้านทำหน้าที่ปกครองดูแลหมู่บ้านและเป็นตัวกลางระหว่างเจ้านายกับชาวบ้านในการเรียกเกณฑ์กำลังคน เมื่อมีคำสั่ง (อาดยา) จากเจ้านาย ซึ่งเป็นการเกณฑ์ไปเพื่อทำงาน หรือทำสงคราม ตลอดจนรวบรวมผลผลิตเพื่อส่งส่วยให้กับเจ้านาย ดูแลความสงบในพื้นที่ ตลอดจนตัดสินคดีความเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านหรือระหว่างหมู่บ้าน ในพื้นที่ห่างไกล

ศาสนา

ในนครแพร่ และนครประเทศราชล้านนา มีศาสนาหลักที่ประชาชนทั่วไปนับถือคือพุทธศาสนา นอกจากพุทธศาสนาแล้วประชาชนยังนับถือผี ซึ่งเป็นความเชื่อแต่โบราณของดินแดนแถบนี้ เป็นการแสดงความยำเกรงและเคารพ ต่อบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ

พุทธศาสนาในล้านนาถือว่ามีความแข็มแข็งมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเจ้านายล้านนา ที่โปรดการสร้างสมบุญบารมีด้วยการทำนุบำรุงศาสนาอย่างมาหมาย การทำนุบำรุงศาสนาไม่เพียงแต่แสดงถึงศรัทธาในศาสนาของเจ้านายและไพร่พลในบ้านเมือง ยังแสดงให้เห็นถึงความเข็มแข็งทางการเมืองและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของบ้านเมือง

หัวเมืองนครล้านนานั้น มีสังฆมณฑลเป็นของตนเองแยกจากพระนครกรุงเทพฯ มี พระสังฆราชา เป็นประมุข รองมาคือ สวามีสังฆราชา, มหาราชครู และ ราชครู

ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

นครรัฐแพร่มีความสัมพันธ์กับกษัตริย์สุโขทัย โดยเฉพาะพระมหาธรรมราชาที่ 1 และเมืองนครลำปาง จากตำนานเมืองเหนือฉบับใบลาน พ.ศ. 1824 กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า เจ้าเมืองลำปางได้ส่งคนมาติดต่อเจ้านครพลให้ไปร่วมงานนมัสการ และฉลองวัดพระธาตุลำปางหลวง

รายพระนามเจ้าผู้ครองนครรัฐแพร่

ลำดับ พระนาม
1 ท้าวพหุสิงห์ (โอรสพญาพล) พ.ศ. 1387
2 ขุนพนมสิงห์ พ.ศ. 1435
3 ขุนวังสุพล พ.ศ. 1525
4   พญาผาวังอินทร์ พ.ศ. 1613
5 พญาพรหมวงศ์ หรือ พญาพรหมวังโส พ.ศ. 1654
6 พญาพีระไชยวงศ์ พ.ศ. 1719
- เมืองแพร่ตกอยู่ในอำนาจการปกครองของขอม พ.ศ.  1654 –1773
7 พญาบอน พ.ศ. 1825
8 พญาแสงฟ้าคำวงศ์ พ.ศ. 1878
9   พญาศรีเมืองมูล พ.ศ. 1918
10 พญาเถร พ.ศ. 1944 รวมกับพญาอุ่นเรือนยกทัพตีนครรัฐน่าน
11 พญาศรีมิ่งเมือง พ.ศ. 1982
12   นางพญาท้าวแม่คุณ พ.ศ. 1986
13 พญาศรีบุญเรือง คำข่าย หรือหมื่นสามล้าน พ.ศ. 2023
14 พญาสร้อยสุริยะ หรือเจ้าเมืองแพร่สร้อย พ.ศ. 2051
15 เจ้าเมืองแพร่จันทรา พ.ศ. 2053
16 เจ้าเมืองแพร่คำยอดฟ้า พ.ศ. 2057
17 พญาสามล้าน (เชียงใหม่) พ.ศ. 2093
- เป็นเมืองขึ้นของพม่าบ้าง เป็นอิสระบ้างขึ้นอยู่กับกรุงศรีอยุธยาบ้าง พ.ศ. 2101 – 2310
18 พระยาศรีสุริยวงศ์ (มังไชย) (พญาเมืองชัย) เป็นเมืองขึ้นกรุงธนบุรี พ.ศ. 2311- พ.ศ. 2313
- เป็นเมืองขึ้นกรุงรัตนโกสินทร์ พ.ศ. 2313 – 2352
19 พระยาแสนซ้าย พ.ศ. 2330 - ก่อน พ.ศ. 2348
20 พระยาเทพวงศ์ (ลิ้นทอง) พ.ศ. 2348 - พ.ศ. 2359
21 พระยาอินทวิไชย (อินต๊ะวิชัย) พ.ศ. 2359 - พ.ศ. 2390
22 พระยาพิมพิสารราชา หรือพิมสาร (เจ้าหลวงขาเค) พ.ศ. 2390 - พ.ศ. 2429
23 เจ้าพิริยเทพวงษ์ พ.ศ. 2429 - พ.ศ. 2445

อ้างอิง

  1. แอ่วแป้แห่ระเบิด. ประวัติเมืองแพร่.แอ่วเมืองแป้ (แห่ระเบิด): ประวัติเมืองแพร่
  2. เจ้าเมืองแพร่ตอน1.หมู่บ้าน วังฟอน .เจ้าเมืองแพร่ตอนที่ ๑ - หมู่บ้าน วัง ฟ่อน
  3. ภูเดช แสนสา .ศักดิ์หัวเมืองในล้านนายุคราชวงศ์เจ้าเจ็ดตน(ทิพจักราธิวงศ์) ช่วงเป็นประเทศราชของสยาม พ.ศ. ๒๓๑๗ - ๒๔๔๒
  4. อำเภอเมืองแพร่ .ระเบียบการปกครองภายในเมืองแพร่
  5. รัตนาพร เศรษฐกุล และคณะ. การสำรวจทางชาติพันธุ์ของชนเผ่าไทในลุ่มแม่น้ำปิง จังหวัดเชียงใหม่. หน้า 50.
  6. U.K., Journal Kept by Captain Lowndes, Superintendent of Police. British Burmah. Whilst on Mission to the Zimme Court. F.O. 69/55. 27 March 1871.
  7. มูลนิธิเล็ก ประไพ วิริยะพันธุ์. นครแพร่ จากอดีตสู่ปัจจุบัน.http://lek-prapai.org/watch.php?id=832

นครร, ฐแพร, หร, นครแพร, เป, นนครร, ฐอ, สระขนาดเล, กในอด, ตร, ฐหน, งต, งอย, บนท, ราบล, มแม, ำยม, เด, มเร, ยกว, เม, องพล, นครพล, หร, อพลนคร, เว, ยงโกศ, หร, อโกศ, ยนคร, เม, องแพล, อเต, มว, โกเสย, ยธช, ชพลว, ชยแพร, แก, วเม, องม, รพ, 1371, 2445สถานะนครร, ฐเม, องหลว. nkhrrthaephr hrux nkhraephr epnnkhrrthxisrakhnadelkinxditrthhnung sungtngxyubnthirablumaemnaym edimeriykwa emuxngphl nkhrphl hruxphlnkhr ewiyngoksy hruxoksynkhr emuxngaephl michuxetmwa okesyuythchuchphlwichyaephraekwemuxngmurnkhrrthaephrph s 1371 2445sthanankhrrthemuxnghlwngemuxngphlnkhr hrux ewiyngaephrsasnasasnaphuthth ethrwath karpkkhrxngsmburnayasiththirachyecaphukhrxngnkhr ph s 1371 1719rachwngskhunhlwngphl ph s 1825 2101ewiyngoksy ph s 2309 2313phrayasrisuriywngs mngichy ph s 2361 2445rachwngsethphwngsprawtisastr sthapnaph s 1371 thukphnwkekhakblannaph s 1986 epnemuxngkhunkhxngphmaph s 2101 2310 epnemuxngkhunkhxngsyamph s 2313 cdtngepnmnthllawechiyngph s 2437 ykelikrabbecaphukhrxngnkhr2445thdip xanackrlanna pccubnepnswnhnungkhxngpraethsithycnkrathng ph s 1655 ph s 1773 phwkkhxmmixanacinaethbniemuxngaephrcungtkxyuphayitxanackhxngkhxm sungphayhlngphwkkhxmidthukkxngthphkhxngphxkhunbangklanghaw aelaphxkhunphaemuxngkhbilxxkip aelwtngkrungsuokhthyepnrachthani xiththiphlkhxngkhxmcunghmdipcakdinaednaethbni 1 enuxha 1 prawti 1 1 karsthapna 1 2 karlmslay 2 karpkkhrxng 2 1 ecahakhn 2 2 ekhasnamhlwng 2 3 hmuban 3 sasna 4 khwamsmphnthrahwangpraeths 5 rayphranamecaphukhrxngnkhrrthaephr 6 xangxingprawti aekikhkarsthapna aekikh nkhrrthaephr erimtngaetsrangemuxng ph s 1307 1445 hlkthancakhnngsux prawtikarsrangwdhlwng hruxwdhlwngsmedc piph s 1371 phyaphlrachnddaaehngkstriynaneca idxphyphkhnithylux ithyekhin swnhnungcakemuxngechiyngaesn ichyburi aelaewiyngphangkha lngmasrangemuxngbnthirabfngaemnaymkhnannamwa emuxngphlnkhr phthnakarthangprawtisastrkhxngcnghwdaephrerimkhunhlngcakchumchnemuxngaephrmikhnadihykhuncnkxtngepnemuxng mikarsrangkhuemuxng kaaephngemuxngxyangaennhna samarthpxngknstruphaynxk aelapxngknnacakaemnaymekhathwmphunthiluminemuxng khwamoddediywcaksphaphphumisastrthimiphuekhaslbsbsxnrxbthukthisthaihemuxngaephrrayaaerkepnnkhrrthxisrathiyakcamiemuxngidinyukhnnmarukrannkhrrthaephr chumchnobranemuxngaephriderimphthnakarthangprawtisastrdwykarepnnkhrrthxisraechnediywkbemuxngthiklawkhangtn phumibthbathsakhyinthannaphunakhxngemuxngkhux ecaphukhrxngnkhr epnphumixanacsiththikhadinkarpkkhrxng aelaepnthiekharphnbthuxkhxngchawemuxng phunakhxngemuxngsubechuxsaypkkhrxngemuxngtxknma tananwdhlwng tablinewiyng rabunamecaemuxngaephrinyukhthiepnnkhrrth idaek phxkhunhlwngphl thawphhusingh khunphnmsingh khunwngsuphl phyaphrhmwngshruxphyaphrhmwngos aelahyaphiraichywngs rayachwngnipraman 348 pi cnkrathngphwkkhxmmixanacinaethbniemuxngaephrcungtkxyuphayitxanackhxngkhxm sungphayhlngphwkkhxmidthukkxngthphkhxngphxkhunbangklanghaw aelaphxkhunphaemuxngkhbilxxkip aelwtngkrungsuokhthyepnrachthani xiththiphlkhxngkhxmcunghmdipcakdinaednaethbni 2 karlmslay aekikh rawphuththstwrrsthi 21 nkhrrthaephrkthukphnwkekhaepnswnhnungkhxngaekhwnlanna phayitkarnakhxngphraecatiolkrach phuthrngthasngkhramkbsmedcphrabrmitrolknathaehngkrungsrixyuthyanntxngphannkhrrthaephr cnkrathngph s 2101 2310 xanackrlanna rwmthngnkhraephrtkxyuinxanackhxngphmainthanapraethsrachbang epnxisrabang khunxyukbkrungsrixyuthyabang ph s 2311 2313 epnemuxngkhunkrungthnburiph s 2313 epnemuxngkhunkhxngsyampraeths cnthungrchsmyecaphiriyethphwngs ecaphukhrxngnkhraephrxngkhthi 22 piph s 2445 idekidkhwamimsngbkhuninemuxngnkhraephr odyphwkithihyhruxengiywidthakarkxclaclinemuxngnkhraephremuxwnthi 25 krkdakhm ph s 2445 cakehtukarnkhrngni ecahlwngnkhraephrthukklawhawakhbkbphwkengiyw phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwcungoprdihthxdcakystaaehnng ribekhruxngrachxisriyaphrnthnghmdkhun phraxngkhcungipichchiwitbnplaythiemuxnghlwngphrabang praethslaw aelaidphankxyuthinncnkrathngphiralyinpi ph s 2455 aemcnsudthayaelwphraphuththecahlwngthungcathrngphiorthkareriykrxngkhwamimepnthrrmkhxngecahlwngemuxngaephrxyangirphraxngkhkthrngxxkmapkpxngwa ecahlwngphiriyaethphwngsnn aemcaklbmachingbanemuxngkhuncring kimichkhwamkhidkhxngecahlwngaetepnnoybaykhxngfrngess phraxngkhthrngihecanaythayathecahlwngxyuxyangsngbsukhdwyecanayrachwngsckrithithrngwangickhuxsmedckrmphrayadarngrachanuphaph muxkhwakhxngphraxngkhnnexng swnecanaythithukkhadothsphraxngkhkihthahnathiprabocrphuraychdich cungthuxepnkarsinsudecaphukhrxngnkhraephrkarpkkhrxng aekikhkarpkkhrxnginsmynkhraephrinrchsmyrachwngsethphwngs aemnkhraephraelalannacaepnpraethsrachkhxngsyam aetsyamkimekhyekhamapkkhrxnglannaodytrng emuxngtang khxnglannayngkhngpkkhrxngtnexnginlksnankhrrth rwmthngrayathangthihangiklaelayaklabakcakkrungethph thaihkhwamsmphnthrahwanglannaaelasyamimidiklchidnk xikthnginphakhehnux yngmiethuxkekha thxdyawcakthisehnuxsuthisit yxdekhaaetlaaehngsungimtakwa 1 000 emtr thaihkaredinthangrahwangemuxngtang inlanna imsadwknk nkhraephrcungmixanacinkarpkkhrxngtnexng ecankhrpraethsrachxxkkdhmayphayinnkhrkhxngtnexng odymiladbkhninkarbriharinnkhrpraethsrachtang misamkhn idaek ecahakhn hrux ecakhnhaib ekhasnam sphakhunnang nayban hwhnahmuban ecahakhn aekikh karpkkhrxngecahakhn hrux ecakhnhaib epnrabbkarpkkhrxngaebbkhnathipity epnklumphupkkhrxngsungsud prakxbdwyecahlwngkhxngnkhrpraethsrachnn epnpramukh aelaecaxun xik 4 taaehnng odyecahakhn epnecanaychnphuihy thimixanacaelaxiththiphlsung thngkaremuxng esrsthkicaelasngkhm karsubtaaehnngecahakhnnn cakhunxyukbkhwamsmphnthinwngstrakulkhxngecanay catxngepnechuxsayecanaysakhy mixiththiphl mngkhng mikhathasbriwarcanwnmak epnthiekharphnbthuxkhxngrasdr aelamirachsanksyamepnphurbrxngkaraetngtng aetinnkhraephrecakhnhaibcamibrrdaskdiepnchnphraya aelaecanayintaaehnngrxnglngipmibrrdaskdiepnphra txmamikarykecaphukhrxngnkhraephrkhunepneca aetkepnkarykkhunechphaaxngkhimidykkhunepnecathnghmdaebbnkhrechiyngihm nkhrlapang nkhrlaphun aelankhrnanecakhnha mibrrdaskdiepnphraya idaek phrayankhr ecahlwng skdina 8 000 ir txmamieluxnechphaaxngkhkhunepnecankhr khux ecaphiriyethphwngs skdina 10 000 ir phrayaxuprach phrayahxhna skdina 3 000 ir phrayarachwngs phrayarachwngsathirachluxichy skdina 2 500 ir phrayaburirtn phrayartnhwemuxngaekw hrux phrayahxhlng skdina 2 000 ir phrayarachbutr skdina 2 000 irecaradbrxnglngmamibrrdaskdiepnphra idaek phrasuriyacangwang skdina 1 000 ir phraxutrkaroksl skdina 1 000 ir phraichysngkhram skdina 1 000 ir phraemuxngracha skdina 1 000 ir phraemuxngichy skdina 1 000 ir phraemuxngaekn skdina 1 000 ir phraxinthracha skdina 1 000 ir phracnthracha skdina 1 000 ir phraphiichyracha skdina 1 000 ir phrawiichyracha skdina 1 000 ir phraichyracha skdina 1 000 ir phrawngkhwa skdina 1 000 ir phrawngsay skdina 1 000 ir phrawngkhwa skdina 1 000 ir phrakhalux skdina 1 000 ir phrathang skdina 1 000 ir 3 ekhasnamhlwng aekikh okhrngsrangthangkaremuxngthirxngcakecahakhn khux ekhasnamhlwng hrux thiprachumesnaxamaty epnhnwybriharrachkar mkepnecanaychnrxngaelakhunnangthiaetngtngodyecahakhn mihnathitdsinkhdikhwam cdekbphasi aelatxnrbaekhkemuxng klumkhunnangthiekharbrachkarsungmitaaehnngepn phya thaw aesn prakxbdwysmachik 12 khn odyaebngxxkepn 2 klumdngtxipni klumesnaxamatyphuihysungmihnathiduaelnganthwthngemuxng mi 4 taaehnng eriykwa phxemuxngthng 4 idaekphrayaaesnhlwng phrayacaban phrayasamlan phrayaehlkchay xaceriykwa phyaedkchay odyphuthiidrbtaaehnngphxemuxngmichuxaetktangkntamnamthiecahlwngtngihaelaxacmikhanahnaepnthaw phya hruxaesnxyangidxyanghnungkid aetchuxkhxngphrayaaesnhlwngcamikhawahlwngxyudwyesmxechn aesnhlwngthnnichy thawhlwngemuxngaephr phrayahlwngkhaphimemuxng sahrbphxemuxngintaaehnngxun xiksamtaaehnngnnimmikhawahlwngnahnaechn phrayaichypraesrith aesnramichy phrayaaekhk phrayakhttiya phrayaxinthprasngkh epntn klumesnaxamatyphuihysungmihnathiduaelechphaathwip mi 8 taaehnng eriykwa esnathng 8 idaekaesnhnngsux thawhmunwdihy phrayahwemuxngaekwsungsamarthkhnphbephiyng 3 taaehnngethannswntaaehnngxun phbaetchuximsamarththicarabutaaehnngid twxyangkhxngesnathng 8 echn aesnxinthpyya aesnethphsmskdi aesncitpyya aesnesmxic thawichyyawuth thawaesnphing phrayawngin phrayaemuxngmul phrayasuphxasa epntn 4 hmuban aekikh okhrngsrangradblang khux hmuban inemuxngtang prakxbdwyhmubancanwnhnung makbang nxybang tamkhnadkhxngemuxng karpkkhrxngradbhmubanmikhwamsakhymak ephraahmubanepnhnwykarphlitthiaethcringthieliyngduemuxngaelachnchnpkkhrxng inaetlahmuban miphupkkhrxngepn sungphupkkhrxnghmubanmitaaehnngepn ca hmun aesn aela phya 5 xackhuntrngtxecanayxngkhidxngkhhnunghruxekhasnam naybanthahnathipkkhrxngduaelhmubanaelaepntwklangrahwangecanaykbchawbaninkareriykeknthkalngkhn emuxmikhasng xadya cakecanay sungepnkareknthipephuxthangan hruxthasngkhram tlxdcnrwbrwmphlphlitephuxsngswyihkbecanay duaelkhwamsngbinphunthi tlxdcntdsinkhdikhwamelk nxy thiekidkhuninhmubanhruxrahwanghmuban inphunthihangikl 6 sasna aekikhinnkhraephr aelankhrpraethsrachlanna misasnahlkthiprachachnthwipnbthuxkhuxphuththsasna nxkcakphuththsasnaaelwprachachnyngnbthuxphi sungepnkhwamechuxaetobrankhxngdinaednaethbni epnkaraesdngkhwamyaekrngaelaekharph txbrrphburusphulwnglbphuththsasnainlannathuxwamikhwamaekhmaekhngmak swnhnungepnphlmacakecanaylanna thioprdkarsrangsmbuybarmidwykarthanubarungsasnaxyangmahmay karthanubarungsasnaimephiyngaetaesdngthungsrththainsasnakhxngecanayaelaiphrphlinbanemuxng yngaesdngihehnthungkhwamekhmaekhngthangkaremuxngaelakarfuntwthangesrsthkickhxngbanemuxnghwemuxngnkhrlannann misngkhmnthlepnkhxngtnexngaeykcakphrankhrkrungethph mi phrasngkhracha epnpramukh rxngmakhux swamisngkhracha mharachkhru aela rachkhrukhwamsmphnthrahwangpraeths aekikhnkhrrthaephrmikhwamsmphnthkbkstriysuokhthy odyechphaaphramhathrrmrachathi 1 7 aelaemuxngnkhrlapang caktananemuxngehnuxchbbiblan ph s 1824 klawiwtxnhnungwa ecaemuxnglapangidsngkhnmatidtxecankhrphlihiprwmngannmskar aelachlxngwdphrathatulapanghlwngrayphranamecaphukhrxngnkhrrthaephr aekikhladb phranam1 thawphhusingh oxrsphyaphl ph s 13872 khunphnmsingh ph s 14353 khunwngsuphl ph s 15254 phyaphawngxinthr ph s 16135 phyaphrhmwngs hrux phyaphrhmwngos ph s 16546 phyaphiraichywngs ph s 1719 emuxngaephrtkxyuinxanackarpkkhrxngkhxngkhxm ph s 1654 17737 phyabxn ph s 18258 phyaaesngfakhawngs ph s 18789 phyasriemuxngmul ph s 191810 phyaethr ph s 1944 rwmkbphyaxuneruxnykthphtinkhrrthnan11 phyasrimingemuxng ph s 198212 nangphyathawaemkhun ph s 198613 phyasribuyeruxng khakhay hruxhmunsamlan ph s 202314 phyasrxysuriya hruxecaemuxngaephrsrxy ph s 205115 ecaemuxngaephrcnthra ph s 205316 ecaemuxngaephrkhayxdfa ph s 205717 phyasamlan echiyngihm ph s 2093 epnemuxngkhunkhxngphmabang epnxisrabangkhunxyukbkrungsrixyuthyabang ph s 2101 231018 phrayasrisuriywngs mngichy phyaemuxngchy epnemuxngkhunkrungthnburi ph s 2311 ph s 2313 epnemuxngkhunkrungrtnoksinthr ph s 2313 235219 phrayaaesnsay ph s 2330 kxn ph s 234820 phrayaethphwngs linthxng ph s 2348 ph s 235921 phrayaxinthwiichy xintawichy ph s 2359 ph s 239022 phrayaphimphisarracha hruxphimsar ecahlwngkhaekh ph s 2390 ph s 242923 ecaphiriyethphwngs ph s 2429 ph s 2445xangxing aekikh aexwaepaehraebid prawtiemuxngaephr aexwemuxngaep aehraebid prawtiemuxngaephr ecaemuxngaephrtxn1 hmuban wngfxn ecaemuxngaephrtxnthi 1 hmuban wng fxn phuedch aesnsa skdihwemuxnginlannayukhrachwngsecaecdtn thiphckrathiwngs chwngepnpraethsrachkhxngsyam ph s 2317 2442 xaephxemuxngaephr raebiybkarpkkhrxngphayinemuxngaephr rtnaphr esrsthkul aelakhna karsarwcthangchatiphnthukhxngchnephaithinlumaemnaping cnghwdechiyngihm hna 50 U K Journal Kept by Captain Lowndes Superintendent of Police British Burmah Whilst on Mission to the Zimme Court F O 69 55 27 March 1871 mulnithielk praiph wiriyaphnthu nkhraephr cakxditsupccubn http lek prapai org watch php id 832ekhathungcak https th wikipedia org w index php title nkhrrthaephr amp oldid 9159460, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม