นาริตะ
เมืองนาริตะ (ญี่ปุ่น: 成田市 โรมาจิ: Narita-shi) เป็นเมืองในจังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นที่ตั้งของท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ ซึ่งเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ให้บริการสำหรับพื้นที่ของกรุงโตเกียวและเมืองโดยรอบ
นาริตะ 成田市 | |
---|---|
นคร | |
บน: วัดชินโชนาริตะซัง, กลางซ้าย: สายนาริตะสกายแอคเซส, กลางขวา: วัดโทโช, ล่างซ้าย: ท่าอากาศยานนาริตะ, ล่างขวา: เขตเมืองใหม่คาราเบะ | |
ที่ตั้งของนาริตะในจังหวัดชิบะ | |
พิกัดภูมิศาสตร์: 35°46′36″N 140°19′6″E / 35.77667°N 140.31833°Eพิกัดภูมิศาสตร์: 35°46′36″N 140°19′6″E / 35.77667°N 140.31833°E | |
ประเทศ | ญี่ปุ่น |
ภูมิภาค | คันโต |
จังหวัด | ชิบะ |
การปกครอง | |
• นายกเทศมนตรี | คาซูนาริ โคอิซูมิ (小泉一成) |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 213.84 ตร.กม. (82.56 ตร.ไมล์) |
ประชากร (30 พฤศจิกายน 2020) | |
• ทั้งหมด | 131,852 คน |
• ความหนาแน่น | 620 คน/ตร.กม. (1,600 คน/ตร.ไมล์) |
เขตเวลา | UTC+09:00 (เวลามาตรฐานญี่ปุ่น) |
สัญลักษณ์ | |
- ต้นไม้ | บ๊วย (Rosaceae) |
- ดอกไม้ | ไฮเดรนเจีย |
โทรศัพท์ | 0476-22-1111 |
ที่อยู่ | 760 Hanasaki-cho, Narita-shi, Chiba-ken 286-8585 |
เว็บไซต์ | เว็บไซต์ทางการ |
ประวัติศาสตร์
มีสมมติฐานมากมายเกี่ยวกับที่มาของชื่อเมืองนาริตะ บางคนกล่าวว่ามีที่มาจากตัวอักษรคำว่า "กลายเป็น" (นาริ) และ "นาข้าว" (ทะ) บางคนกล่าวว่าชื่อเมืองมีที่มาจากเสียงดังสนั่น (นาริ) ของฟ้าผ่าในบริเวณนี้ บางคนกล่าวว่า นาริ มีที่มาจากคำที่เลิกใช้ไปแล้วที่มีความหมายว่า "อุดมสมบูรณ์" หรือบางคนอาจกล่าวว่า นาริ มีที่มาจากคำว่า "วิถีการดำรงชีวิต" (นาริวาอิ)
เป็นที่ทราบว่า พื้นที่ของเมืองนาริตะมีการตั้งถิ่นฐานมาตั้งแต่ยุคสมัยก่อนประวัติศาสตร์ โดยพบว่าเริ่มมีการเพาะปลูกข้าวมาตั้งแต่เมื่อ 100 ปีก่อนคริสตกาล เนื่องจากเมืองนี้ตั้งอยู่ห่างจากมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นระยะทางเกือบเท่ากับที่ห่างจากอ่าวโตเกียว และมีแม่น้ำสั้นๆอยู่บริเวณใกล้เคียงอีกจำนวนหนึ่ง ทำให้เมืองนี้เคยเป็นศูนย์กลางทางการปกครองและการค้าขายของภูมิภาค
ในช่วงยุคสมัยนาระ เริ่มมีการสร้างเมืองขึ้นในบริเวณนี้ และในปี พ.ศ. 1483 ได้มีการสร้างวัดนาริตาซังขึ้นมา จนในปี พ.ศ. 2432 เริ่มมีการรวมชุมชนต่างๆในบริเวณนี้เข้าด้วยกัน และก่อตั้งเป็นเมืองนาริตะขึ้นเมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2497 เมืองนี้เริ่มมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เมื่อนายกรัฐมนตรีเอซากุ ซาโต เริ่มวางแผนการก่อสร้างท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะในปี พ.ศ. 2509 การสร้างท่าอากาศยานและการเชื่อมต่อเส้นทางเข้าสู่ใจกลางกรุงโตเกียว ทำให้เกิดการพัฒนาทั้งด้านอาคารบ้านเรือน ธุรกิจ และอุตสาหกรรมภายในเมืองนาริตะอย่างรวดเร็ว
นาริตะเคยเป็นส่วนหนึ่งของอำเภออิมบะ จนเมื่อประกาศก่อตั้งเป็นเมืองจึงได้แยกตัวออกมา เมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2549 นาริตะได้ผนวกเอาตำบลไทเอและตำบลชิโมฟูซะจากอำเภอคาโตริเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเมือง และปัจจุบันนี้เมืองนาริตะก็กำลังขยายตัวเข้าไปถึงพื้นที่ของอำเภอคาโตริ
ภูมิอากาศ
ข้อมูลภูมิอากาศของเมืองนาริตะ (ค.ศ. 1981-2010) | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | 38.7 (101.7) | 38.7 (101.7) | |||||||||||
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 9.2 (48.6) | 9.7 (49.5) | 12.7 (54.9) | 18.0 (64.4) | 21.8 (71.2) | 24.2 (75.6) | 28.1 (82.6) | 30.0 (86) | 26.2 (79.2) | 21.1 (70) | 16.4 (61.5) | 11.8 (53.2) | 19.1 (66.4) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | -2.4 (27.7) | -1.5 (29.3) | 2.0 (35.6) | 7.2 (45) | 12.1 (53.8) | 16.3 (61.3) | 20.3 (68.5) | 21.8 (71.2) | 18.7 (65.7) | 12.3 (54.1) | 5.7 (42.3) | 0.0 (32) | 9.4 (48.9) |
อุณหภูมิต่ำสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | -10.7 (12.7) | −10.7 (12.7) | |||||||||||
หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) | 61.8 (2.433) | 62.9 (2.476) | 115.6 (4.551) | 116.6 (4.591) | 119.6 (4.709) | 144.9 (5.705) | 123.2 (4.85) | 117.2 (4.614) | 214.8 (8.457) | 202.1 (7.957) | 99.8 (3.929) | 50.7 (1.996) | 1,429.1 (56.264) |
แหล่งที่มา: ศูนย์บริการสภาพอากาศการบินนาริตะ |
พื้นที่ของเมือง
ใจกลางนาริตะ
พื้นที่ส่วนกลางของนาริตะเป็นพื้นที่ที่อยู่ระหว่างสถานีรถไฟนาริตะ สถานีรถไฟเคเซนาริตะ และวัดนาริตาซัง ถนนสายหลักของพื้นที่นี้คือถนนโอโมเตซันโดซึ่งมีร้านค้าเล็ก ๆ ราว 150 ร้านอยู่สองฝั่งถนน และเพิ่งมีการปรับปรุงถนนทั้งสายเมื่อไม่นานมานี้ ถนนสายนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในถนนที่แสดงเอกลักษณ์ของท้องถิ่นในดีที่สุดในญี่ปุ่น
เมืองใหม่นาริตะ
ย่านเมืองใหม่เป็นย่านที่อยู่อาศัยที่สร้างขึ้นใหม่ทางตะวันตกของสถานีรถไฟนาริตะ ในย่านนี้มีบ้านพักอาศัยราว 16,000 หลัง และมีผู้อยู่อาศัยประมาณ 60,000 คน การก่อสร้างย่านนี้เริ่มมีการวางแผนเมื่อปี พ.ศ. 2511 โดยอิงจากเมืองใหม่ที่อยู่รอบกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ปัจจุบันนี้เป็นย่านที่คนส่วนใหญ่ของเมืองอาศัยอยู่ แรกเริ่มนั้นผู้อาศัยส่วนใหญ่ในย่านเมืองใหม่จะต้องเดินทางเข้าไปในกรุงโตเกียวหรือตัวเมืองชิบะเพื่อทำงาน แต่ปัจจุบันมีคนจำนวนมากเริ่มหันไปทำงานในเมืองต่างๆทางตะวันตกเฉียงเหนือของชิบะ ซึ่งอยู่ใกล้กับย่านเมืองใหม่มากกว่า และมีนักธุรกิจ ผู้ประกอบการ และพนักงานบริษัท ที่อยู่ในส่วนกลางของนาริตะเริ่มย้ายมาอาศัยอยู่ในย่านเมืองใหม่มากขึ้น
โคซูโนโมริ
โคซูโนโมริ (Kozunomori) เป็นพื้นที่ชานเมืองนาริตะ ตั้งอยู่ทางใต้ของย่านเมืองใหม่ ใช้เวลาเดินทางด้วยรถไฟจากสถานีรถไฟเคเซนาริตะ ประมาณ 4 นาที มีจำนวนประชากรประมาณ 12,000 คน สถานีรถไฟโคซูโนโมริอยู่ติดกับห้างสรรพสินค้าอิโตโยกาโดะซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่เป็นที่นิยมในบรรดานักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่พักอาศัยอยู่ในเมืองนาริตะและพื้นที่โดยรอบ
ท่าอากาศยานและพื้นที่เกษตรกรรม
ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะตั้งอยู่ในส่วนตะวันออกของเมืองนาริตะ บนพื้นที่เกษตรกรรมเก่าแก่ที่มีชื่อว่าซันริซูกะ (Sanrizuka) การก่อสร้างและขยายท่าอากาศยานก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวายต่อผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ซันริซูกะเป็นอย่างมาก และเนื่องจากมีการเวนคืนที่ดิน และรายได้จากการเกษตรกรรมลดลงอันเป็นผลมาจากการก่อสร้างท่าอากาศยาน ทำให้จำนวนผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมลดลงเหลือเพียงหนึ่งในสามจากจำนวนก่อนมีการสร้างท่าอากาศยาน ปัจจุบันพื้นที่เกษตรกรรมที่ถูกทิ้งร้างบางพื้นที่ได้รับการปรับปรุงให้เป็นสนามกอล์ฟ ส่วนพื้นที่อื่นได้กลายเป็นที่ทิ้งขยะอย่างไม่เป็นทางการ
เมืองพี่น้อง
นาริตะได้มีข้อตกลงเป็นเมืองพี่น้องกับเมืองดังต่อไปนี้:
อ้างอิง
- "成田空港 1981-2010年". 成田航空地方気象台. สืบค้นเมื่อ 2012-02-06.
- "" (Archive), Consulate General of Japan, San Francisco