พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2493
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2493 เป็นพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเป็นพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ระหว่างวันที่ 4-8 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ปรากฏบันทึกรายละเอียดไว้ ดังนี้
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงเครื่องขัตติยราชภูษิตาภรณ์ | |
วันที่ | 4-8 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 |
---|---|
สถานที่ | พระบรมมหาราชวัง |
ถ่ายทำโดย | หม่อมเจ้าศุกรวรรณดิศ ดิศกุล แก้วขวัญ วัชโรทัย |
การเตรียมพิธี
พราหมณ์ประกอบพิธีตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เช่น แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำราชบุรี สระเกษ สระแก้ว สระคงคา และสระยมนา ในจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นต้น มาทำพิธีเสกน้ำ สำหรับถวายเป็นน้ำอภิเษก และ น้ำสรงพระมูรธาภิเษก
นอกจากนี้ ยังมีการประกอบพิธีจารึกพระปรมาภิไธยลงบนพระสุพรรณบัฎ ดวงพระบรมราชสมภพ และแกะดวงตราพระราชลัญจกรประจำรัชกาล ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันที่ 21 เมษายน พุทธศักราช 2493 ตามเวลาพระมหามงคลฤกษ์
วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493
- พิธีประกาศการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และเจริญพระพุทธมนต์
วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 เวลา 10.00 น. เจ้าพนักงานอาลักษณ์เชิญพระสุพรรณบัฏ พร้อมด้วยดวงพระราชสมภพ และพระราชลัญจกรประจำรัชกาล ออกจากพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มาขึ้นพระราชยานกงที่เกยพลับพลาเปลื้องเครื่อง ประตูหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีกระบวนเครื่องสูง กลองชะนะและคู่แห่ แห่ไปตามถนนหน้าศาลาสหทัย เลี้ยวตามถนนจักรีจรัณย์เข้าประตูพิมานไชยศรี ไปตามถนนอมรวิถี ถึงหน้าประตูสนามราชกิจ แล้วเชิญไปประดิษฐาน ณ พระแท่นมณฑลในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ
เวลา 18.00 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเครื่องเต็มยศจอมพลทหารบก ประดับเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระราชินี โดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระตำหนักจิตรลดารโหฐานมายังพระบรมมหาราชวัง ทรงพระดำเนินเข้าสู่พระทวารเทเวศร์รักษา ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน ทรงเป็นองค์ประธานในพิธีประกาศการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และเจริญพระพุทธมนต์ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมีพระราชปฏิสันถารแล้ว เสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่พระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัย ทรงจุดธูปเทียนถวายนมัสการพระรัตนตรัย แล้วประทับพระราชอาสน์ พระยารามราชภักดี ปลัดกระทรวงมหาดไทย กราบบังคมทูลเบิกทายาทผู้สืบสกุลพระยาเมือง ข้าหลวงตรวจการกระทรวงมหาดไทย ข้าหลวงประจำจังหวัดเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท คือ
- เจ้าราชบุตร (วงษ์ตะวัน ณ เชียงใหม่) ผู้สืบสกุลเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่
- พระเพ็ชรคีรีศรีสงคราม (เจ้าแก้วเมืองไท ณ ลำปาง) ผู้สืบสกุลเจ้าผู้ครองนครลำปาง
- เจ้าพงศ์ธาดา ณ ลำพูน ผู้สืบสกุลเจ้าผู้ครองนครลำพูน
- เจ้าราชบุตร (หมอกฟ้า ณ น่าน) ผู้สืบสกุลเจ้าผู้ครองนครน่าน
- พระพิพิธภักดี (ตนกูมุกดา อับดุลบุตร) ผู้สืบสกุลพระยาเมืองปัตตานี สายที่ 2
- ตนกูมะ บินกูปูเต๊ะ ผู้สืบสกุลพระยาเมืองปัตตานี สายที่ 1
- ตนกู ตึงเงาะ ผู้สืบสกุลพระยาเมืองนราธิวาส
- ตนกู อับดุล เลาะรงโซะ ผู้สืบสกุลพระยาเมืองยะลา
- ตนกู อิบบราฮิม บินตนกูอหมัด ผู้สืบสกุลพระยาเมืองสตูล สายที่ 1
- กูฮาหมัด บิบตำมะหงง ผู้สืบสกุลพระยาเมืองสตูล สายที่ 2
- ข้าหลวงตรวจการกระทรวงมหาดไทย ภาค 5, 4, 3, 2, 1 ตามลำดับ
- ข้าหลวงประจำจังหวัด เชียงใหม่ ปัตตานี น่าน ลำพูน ยะลา นราธิวาส สตูล ตามลำดับ
พระดุลยพากย์สุวมัณฑ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นำข้าหลวงยุติธรรมประจำภาคทั้ง 5 ภาค เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชปฏิสันถารแล้ว ปลัดกระทรวงยุติธรรม นำข้าหลวงยุติธรรมออกจากที่เฝ้า
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงจุดเทียนชนวน พระราชทานแก่พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธานีนิวัต เพื่อทรงนำไปจุดเทียนที่เครื่องนมัสการบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร แล้วสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงจุดเทียนพระมหามงคลและเทียนเท่าพระองค์
จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จฯ ขึ้นยังพระที่นั่งไพศาลทักษิณทางพระทวารเทวราชมเหศวร์ ชาวพนักงานประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ สังฆการี อาราธนาพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 30 รูป มีสมเด็จพระสังฆราช เป็นประธาน ขึ้นสู่พระที่นั่งไพศาลทักษิณทางประตูสนามราชกิจ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการพระรัตนตรัย สมเด็จพระสังฆราชถวายศีล
ถึง เวลา 18.50 น. อันเป็นมหามงคลฤกษ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงจุดเทียนทองชนวน ทรงตั้งพระราชสัตยาธิษฐาน เสร็จแล้วถวายแด่สมเด็จพระสังฆราช จากนั้นสมเด็จพระสังฆราชเสด็จไปจุดเทียนชัยในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ พระสงฆ์ทั้งนั้นเจริญมงคลคาถา จุดเทียนชัย ชาวพนักงาน ประโคม ฆ้องชัย สังข์ บัณเฑาะว์ แตร ดุริยางค์ จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงจุดเทียนชนวนแก่มหาดเล็ก พร้อมด้วยธูปเงิน เทียนทอง และดอกไม้ ไปบูชาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ คือ
|
|
สมเด็จพระสังฆราชเสด็จกลับไปขึ้นนั่งอาสนะที่เดิม พระศาสนโสภณ (จวน อุฎฐายี) วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร อ่านประกาศการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จบแล้ว พระสงฆ์ในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ 30 รูป และในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย 45 รูป เจริญพระพุทธมนต์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระครูวามเทพมุนี ประธานพิธีพราหมณ์ ถวายน้ำพระมหาสังข์ พราหมณ์เป่าสังข์ แล้วถวายใบสมิตสำหรับทรงปัดพระองค์ ประกอบด้วย
- ใบมะม่วง 25 ใบ ได้แก่ ภยันตราย
- ใบทอง 32 ใบ ได้แก่ อุปัทวันตราย
- ใบตะขบ 56 ใบ ได้แก่ โรคันตราย
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงรับใบสมิตมาทรงปัดพระองค์ เสร็จแล้ว พระราชครูวามเทพมุนี รับพระราชทานกลับไป กระทำพิธีศาสตร์ปุณยา ชุบโหมเพลิง ณ ที่ทำพิธีพราหมณ์
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงจุดเทียนพระมหามงคล เทียนเท่าพระองค์ ธูปเทียนบูชา พระสยามเทวาธิราช พระแท่นอัฐทิศ และพระที่นั่งภัทรบิฐ
เจ้าพนักงานสังฆการี นิมนต์ พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ชั้นพระราชาคณะ จำนวน 5 รูป ขึ้นนั่งยังอาสนะบนพระแท่นบรรทมในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จฯ ขึ้นยังห้องพระบรรทม พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ทรงจุดธูปเทียน เครื่องนมัสการพระรัตนตรัย เสร็จแล้ว ประทับพระราชอาสน์ ณ ห้องกลาง ทรงพระมหามงคล พระสงฆ์ 5 รูป เจริญพระพุทธมนต์ พระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเทียรจบแล้ว ทรงเปลื้องพระมหามงคล พระสงฆ์ถวายบังคมลา
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเสด็จกลับไปประทับพระราชอาสน์ ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ จากนั้นเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงจุดธูปเทียนบูชาธรรมที่พระแท่นสวดภาณวาร พระราชาคณะ นั่งปรก และสวดภาณวารต่อไปตลอดคืน เสด็จพระราชดำเนินกลับ
วันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493
- การพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
เวลา 11.20 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเสด็จฯ ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกรับการสรงพระมูรธาภิเษกจากสหัสธารา พระสงฆ์ในมณฑลพระราชพิธี เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานประโคมสังข์ แตร มโหระทึก และเครื่องดุริยางค์ ทหารกองเกียรติยศ ถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหาปืนใหญ่ ยิงสลุตเฉลิมพระเกียรติ 21 นัด
จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเสด็จฯ สู่พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ประทับ พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ ภายใต้พระบวรเศวตฉัตร แปรพระพักตร์สู่ทิศบูรพาเป็นปฐม เพื่อรับน้ำอภิเษก จากสมาชิกรัฐสภา เมื่อผันพระองค์เวียนมาสู่ทิศบูรพาอีกครั้งแล้ว เจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ (จิตร ณ สงขลา) ประธานวุฒิสภา กราบบังคมทูลถวายชัยมงคล ด้วยภาษามคธ, นายเพียร ราชธรรมนิเทศ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กราบบังคมทูลเป็นภาษาไทย
เสร็จแล้ว พระราชครูวามเทพมุนี (สวาสดิ์ รังสิพราหมณกุล) ทำหน้าที่พระมหาราชครู กราบบังคมทูลถวายชัยมงคล ด้วยภาษามคธ และภาษาไทย แล้ว น้อมเกล้าฯ ถวาย พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ขณะนี้ ชาวพนักงาน ประโคมสังข์ แตร เครื่องดุริยางค์
จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุยเดชเสด็จฯ ประทับ ณ พระที่นั่งภัทรบิฐ ภายใต้ พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร พระราชครูวามเทพมุนี ร่ายเวทย์ สรรเสริญศิวาลัยไกรลาส จบแล้ว กราบบังคมทูลถวาย เครื่องราชกกุธภัณฑ์ เป็นภาษามคธ แล้วทูลเกล้าฯ ถวาย พระสุพรรณบัฎ จารึกพระปรมาภิไธยว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร” , เครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์, เครื่องบรมขัตติยราชวราภรณ์, เครื่องราชูปโภค และ พระแสงราชศัสตราวุธ ขณะนั้น พระสงฆ์ เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงาน ประโคมสังข์ แตรฯ กองทหารถวายความเคารพ แตรวงบรรเลง เพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารยิงปืนกองแก้วจินดา ตามกำลัง วันศุกร์ 21 นัด ทหารบก ทหารเรือ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 101 นัด พระสงฆ์ทั่วพระราชอาณาจักร ย่ำระฆังถวายชัยมงคล
เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชรับเครื่องราชกกุธภัณฑ์แล้วพระราชครูวามเทพมุนีกราบบังคมทูลถวายชัยมงคลด้วยภาษามคธและภาษาไทย จากนั้นจึงมี พระปฐมบรมราชโองการ พระราชทานอารักขาแก่พสกนิกรชาวไทยทั้งหลายว่า
เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม
พระราชครูวามเทพมุนี รับสนองพระปฐมบรมราชโองการ แล้วทรงหลั่งทักษิโณทก ตั้งพระราชสัตยาธิษฐานจะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ปกครองราชอาณาจักรไทยโดยทศพิธราชธรรมจรรยา ดังพระปฐมบรมราชโองการ ที่พระราชทานไว้ ทุกประการ
ต่อมา เวลา 14.00 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตรเสด็จพระราชดำเนินออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย มไหยศูรยพิมาน โดยมี คณะองคมนตรี คณะรัฐมนตรี คณะทูตานุทูต สมาชิกรัฐสภา ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายชัยมงคล
จากนั้น เวลา 14.40 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นองค์ประธานในพระราชพิธีสถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศ สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ พระอัครมเหสี ให้ทรงดำรงฐานันดรศักดิ์เป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี
จากนั้น เวลา 16.30 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จด้วยกระบวนพยุหยาตราสถลมารคทรงประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
วันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493
- พระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร
เวลา 19.54 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จฯ ในการพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร ณ พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี ทรงประทับแรม ในพระบรมมหาราชวัง รุ่งเช้า จึงเสด็จพระราชดำเนินกลับ
วันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493
เวลา 16.00 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จออกยังท้องพระโรงกลาง พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะทูตานุทูตและกงสุลต่างประเทศ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายชัยมงคล
ต่อมาเวลา 16.30 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลและสมาคมต่าง ๆ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายชัยมงคล ณ พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีเสด็จออกสีหบัญชร พระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้พสกนิกรเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระยารามราชภักดี ปลัดกระทรวงมหาดไทย กราบบังคมทูลถวายชัยมงคล ในนามพสกนิกรชาวไทย ทั่วพระราชอาณาจักร
เวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ ในพิธีเฉลิมพระนาม สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ และ พระราชทานสมณศักดิ์ แก่พระราชาคณะ เสร็จแล้ว ทรงสดับพระธรรมเทศนา มงคลสูตร รัตนสูตร และ เมตตสูตร รวมหนึ่งกัณฑ์ โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญานวโร)
วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493
- พิธีสถาปนาฐานันดรศักดิ์พระราชวงศ์
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี เสด็จฯ ทรงเป็นองค์ประธาน ในพิธีสถาปนาฐานันดรศักดิ์พระราชวงศ์ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ พระราชวงศ์ที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ สถาปนาฐานันดรศักดิ์ ได้แก่
- พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระชัยนาทนเรนทร
- พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร
- พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิวัฒนไชย
- พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้านักขัตรมงคล
จากนั้นทรงสดับพระธรรมเทศนาโดยสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ถวายพระธรรมเทศนา เทวตาทิสนกถา ทศพิธราชธรรม และจักรวรรดิวัตรรวมหนึ่งกัณฑ์
อ้างอิง
- ราชกิจจานุเบกษา, กำหนดการ ที่ ๑๑/๒๔๙๓ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สยามินทราธิราช และพระราชพิธีเฉลิมพระราชมนเทียร พุทธศักราช ๒๔๙๓, เล่ม ๖๗, ตอน ๒๗ , ๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ , หน้า ๑๙๓๗-๑๙๗๙
- พิธีถวายน้ำอภิเษกนี้ มีความหมายว่า เพื่ออัญเชิญสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชเจ้า ทรงแผ่พระราชอาณา ปกครองพสกนิกรทั้งหลาย ทั่วทิศทั้ง 8
- พระภิกษุที่ถวายพระธรรมเทศนา ในพระราชพิธี วันที่ 7 และ 8 พฤษภาคม ขึ้นนั่งบนพระแท่นมหาเศวตฉัตร มิใช่นั่งเทศน์ บนธรรมาสน์เทศน์ธรรมดา เช่นการพระราชพิธีอื่น
แหล่งข้อมูลอื่น
- พระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2007-03-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- พระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2007-09-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- บันทึกพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ๑
- บันทึกพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ๒
- บันทึกพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ๓
- ราชกิจจานุเบกษา, พระราชดำรัสตอบ อาณาประชาราษฎรชาวไทยในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก, เล่ม ๖๙, ตอน ๒๗, ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ , หน้า ๒๑๙๙-๒๒๐๐
- ราชกิจจานุเบกษา, คำถวายพระพรชัยมงคลของพระบรมวงศานุวงศ์ในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก, เล่ม ๖๙, ตอน ๒๗, ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ , หน้า ๒๑๙๐-๒๑๙๑
- ราชกิจจานุเบกษา, พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชตอบพระบรมวงศานุวงศ์ในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก, เล่ม ๖๙, ตอน ๒๗, ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ , หน้า ๒๑๙๑-๒๑๙๒
- ราชกิจจานุเบกษา, คำกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคลของนายกรัฐมนตรี (จอมพลแปลก พิบูลสงคราม) ในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก, เล่ม ๖๙, ตอน ๒๗, ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ , หน้า ๒๑๙๒-๒๑๙๓
- ราชกิจจานุเบกษา, พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชตอบข้าราชการฝ่ายหน้าในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก, เล่ม ๖๙, ตอน ๒๗, ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ , หน้า ๒๑๙๔
- ราชกิจจานุเบกษา, คำแปลคำถวายพระพรชัย ของคณะบดีแห่งคณะทูตานุทูตและกงสุลในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ๗ พฤษภาคม ๒๔๙๓, เล่ม ๖๙, ตอน ๒๗, ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ , หน้า ๒๒๐๐-๒๒๐๑
- ราชกิจจานุเบกษา, พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชตอบคำถวายพระพรชัยของคณะทูตานุทูตและกงสุล ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ๗ พฤษภาคม ๒๔๙๓, เล่ม ๖๙, ตอน ๒๗, ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ , หน้า ๒๒๐๑-๒๒๐๒
ก่อนหน้า | พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2493 | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2469 | พระราชพิธีบรมราชาภิเษกในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (4 พฤษภาคม-8 พฤษภาคม พ.ศ. 2493) | พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 (4-6 พฤษภาคม พ.ศ. 2562) |