fbpx
วิกิพีเดีย

สมเด็จพระไชยเชษฐาธิราช

บทความนี้เกี่ยวกับพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ 1 ในประวัติศาสตร์ลาว สำหรับคำอธิบายเพิ่มเติม ดูที่ พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช (แก้ความกำกวม)

พระอุปภัยพุทธบวรไชยเชษฐาธิราช หรือที่รู้จักกันดีในพระนาม สมเด็จพระไชยเชษฐาธิราช (ลาว: ໄຊເສດຖາ, ເສດຖາທິຣາດ; คำเมือง: ) ถือเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดพระองค์หนึ่งของชาติลาว ทรงเป็นผู้นำแห่งอาณาจักรล้านช้าง ผู้สถาปนากรุงเวียงจันทน์ให้เป็นศูนย์กลางอารยธรรม และเป็นศูนย์รวมศิลปะวัฒนธรรมต่าง ๆ ของอาณาจักรล้านช้างเข้าไว้ด้วยกัน ประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าพระองค์เป็นพระญาติหรือพระนัดดาในพระนางจิรประภาเทวีเจ้านางหลวงแห่งอาณาจักรล้านนา

สมเด็จพระไชยเชษฐาธิราช
พระเจ้าเชียงใหม่
ครองราชย์พ.ศ. 2089 - 2090
ราชาภิเษกพ.ศ. 2089
ก่อนหน้าพระนางจิรประภาเทวี
ถัดไปพระเมกุฏิสุทธิวงศ์
พระเจ้าล้านช้าง
ครองราชย์พ.ศ. 2091 - 2114
ราชาภิเษกพ.ศ. 2093
ก่อนหน้าพระยาโพธิสาลราช
ถัดไปพระยาสุมังคละโพธิสัตว์
มเหสีพระตนทิพย์
พระตนคำ
พระราชบุตรพระหน่อแก้วกุมาร
พระนามเต็ม
พระอุปภัยพุทธบวรไชยเชษฐาธิราช
ราชวงศ์ล้านช้าง
พระราชบิดาพระยาโพธิสาลราช
พระราชมารดาพระนางยอดคำทิพย์
พระราชสมภพพ.ศ. 2077
หลวงพระบาง อาณาจักรล้านช้าง
สวรรคตพ.ศ. 2114
อัตตะปือ อาณาจักรล้านช้าง
ศาสนาศาสนาพุทธ
สมเด็จพระไชยเชษฐาธิราช

ในรัชสมัยพระยาโพธิสาลราช (พ.ศ. 2063-2090) พระองค์เป็นผู้เคร่งครัดทางศาสนาพุทธเป็นอย่างยิ่ง ได้มีพระราชโองการให้พลเมืองเลิกนับถือผีสางเทวดา เลิกการทรงเจ้าเข้าผีทั่วพระราชอาณาจักร ให้รื้อศาลหลวง ศาลเจ้าผีเสื้อเมืองทรงเมือง และให้หันมานับถือพระพุทธศาสนาแทน ทรงสร้างวัดสุวรรณเทวโลกเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งพระพุทธศาสนา แต่เนื่องจากประเพณีการนับถือผีนั้นมีมาช้านาน และได้ฝังเข้าไปในจิตใจของประชาชนทั่วไป จึงยากที่จะเลิกอย่างเด็ดขาดได้

ครั้นต่อมาทางอาณาจักรล้านนาว่างกษัตริย์ปกครอง จึงได้อัญเชิญเจ้าไชยเชษโฐหรือเชษฐวังโส พระโอรสของพระเจ้าโพธิสาร หรือเจ้าชายแห่งเมืองหลวงพระบาง(เสด็จพระราชสมภพและเติบโตอยู่ที่เมืองหลวงพระบาง) ไปครองนครล้านนา เมื่อปี พ.ศ. 2089 ทรงครองราชเป็นกษัตย์เป็นพระองค์ที่ 15 สาเหตุที่ท่านทรงมีอำนาจในแคว้นล้านนาหรือนครเชียงใหม่ เนื่องด้วยอำนาจของบิดาที่เคยเข้าไปแทรกแซงในล้านนาเป็นสำคัญ เมื่อพระเจ้าโพธิสารเสด็จสวรรคต พ.ศ. 2090 ด้วยถูกช้างล้มทับขณะประพาสป่า ทรงกลับนครได้เพียง 3 สัปดาห์ก็สวรรคต เมื่อสวรรคตแล้ว พระโอรสทั้งหลายต่างแย่งชิงราชสมบัติกัน อาณาจักรล้านช้างได้แตกเป็น 2 ฝ่ายคืออาณาจักรฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้ ได้แก่ เจ้าศรีวรวงษาราชกุมาร (เจ้ามหาอุปราชศรีวรวงษา) และเจ้ากิจธนวราธิราช (เจ้าท่าเรือ) ผู้เป็นพระราชโอรสองค์รองต่างพยายามจะขึ้นครองราชย์สมบัติเป็นกษัตริย์องค์ใหม่ ในที่สุดเจ้าท่าเรือสามารถยึดครองเมืองหลวงพระบางไว้ได้ ขุนนางล้านช้างและเจ้าศรีวรวงษาราชกุมารจึงเชิญพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชเสด็จกลับมานครหลวงพระบางเพื่อรับเถลิงถวัลยราชสมบัติระงับเหตุวุ่นวายที่จะเกิดขึ้น และได้อัญเชิญพระแก้วมรกตที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดบุปผาราม เชียงใหม่ รวมทั้งพระพุทธสิหิงค์และพระแก้วขาวไปด้วย เมื่อเสด็จถึงล้านช้าง ทรงยึดราชสมบัติจากเจ้าท่าเรือไว้ได้ โดยการสนับสนุนของเจ้าศรีวรวงษาราชกุมาร(ภายหลังได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้ามหาอุปราชศรีวรวงษาในรัชสมัยของพระไชยเชษฐาธิราช และได้รับแต่งตั้งเป็นกษัตริย์องค์แรกในยุคล้านช้างตกเป็นเมืองขึ้นของพม่าซึ่งได้รับการสนับสนุนและแต่งตั้งจากบุเรงนอง)เป็นสำคัญซึ่งทั้งช่วยเป็นทัพร่วมตีขนาบยึดเมืองหลวงพระบางจากเจ้าท่าเรือและเสนอชื่อให้พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชทรงดำรงตำแหน่งกษัตริย์ ภายหลังได้รับแต่งตั้ง เมืองหลวงพระบางได้เปลี่ยนชื่อเป็น "กรุงศรีสัตนาคตหุต" พระองค์จึงขึ้นครองราชสมบัติ นับเป็นมหาราชองค์ที่ 2 ของลาว ที่ทรงพระปรีชาสามารถ ทรงพระนามว่า "พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช"

พระพุทธศาสนาในยุคของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช นับว่ามีความเจริญถึงขั้นขีดสุด ทรงได้สร้างวัดสำคัญมากมาย ที่สำคัญที่สุดคือ การสร้างองค์พระธาตุหลวงขึ้นมาใหม่ให้ใหญ่โตมโหฬารสมกับที่เป็นปูชนียสถานคู่แผ่นดินพระราชอาณาจักร และได้สร้างวัดในกำแพงเมืองอยู่ประมาณ 120 วัด และยังได้สร้างวัดพระแก้ว ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกต ที่นำมาจากเมืองเชียงใหม่ ในสมัยนี้ได้มีการแต่งวรรณกรรมหลายเรื่อง เช่น สังสินชัย การเกต พระลักพระราม เป็นต้น

สมัยนี้ราชอาณาจักรไทยได้มีความสัมพันธ์ลาวอย่างแน่นแฟ้น ได้ร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับพม่า ได้สร้างเจดีย์ "พระธาตุศรีสองรัก" ในอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย เพื่อเป็นอนุสรณ์ แห่งความเป็นพี่เป็นน้องกัน ของสองอาณาจักร

พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชได้ทรงย้ายเมืองหลวงจากเมืองเชียงทองมาอยู่ที่เวียงจันทน์ ได้ประดิษฐานพระแก้วมรกต และพระแซกคำ (พระพุทธสิหิงค์ หรือพระสิงค์) ไว้ที่เวียงจันทน์ เรียกว่าเวียงจันทน์ล้านช้างส่วนพระบางประดิษฐานไว้ที่เมืองเชียงทอง จึงได้ชื่อว่าหลวงพระบางมาจนถึงบัดนี้ บางครั้งก็เรียกชื่อว่าล้านช้างหลวงพระบาง และได้สร้างวัดเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตขึ้นเป็นพิเศษ พระองค์ได้ทรงสร้างพระธาตุหลวง ซึ่งถือเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นยอดเยี่ยมของลาวเมื่อ พ.ศ. 2109 ซึ่งต่อมาได้ถูกพวกปล้นจากยูนนานทำลายเสียหายไปมาก

นอกจากพระองค์จะได้ทรงสร้างพระธาตุ อื่น ๆ และพระพุทธรูปสำคัญ ๆ อีกมากมาย เช่น พระเจ้าองค์ตื้อ ที่เวียงจันทน์ พระเจ้าองค์ตื้อ ที่อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย พระเสริม พระสุก พระใส พระอินทร์แปลง พระองค์แสน ทรงสร้างวัดพระธาตุ ที่จังหวัดหนองคาย และพระธาตุที่จมน้ำโขงอยู่ พระธาตุบังพวน อำเภอเมืองหนองคาย สร้างวัดศรีเมือง จังหวัดหนองคาย และพระประธานในโบสถ์ นามว่า พระไชยเชษฐา พระศรีโคตรบูร ที่แขวงคำม่วน พระธาตุอิงรัง ที่แขวงสุวรรณเขต (สุวรรณเขต) พระธาตุศรีสองรัก อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และทรงปฏิสังขรณ์พระธาตุพนม เป็นต้น

พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชทรงประคับประคองนำราชอาณาจักรล้านช้างผ่านพ้นภัยการเป็นเมืองขึ้นของพม่าไปได้ ตลอดรัชสมัยของพระองค์ แม้ว่าในขณะนั้นอาณาจักรล้านนา (เสียแก่พม่า พ.ศ. 2101) และอาณาจักรอยุธยา (เสียแก่พม่า พ.ศ. 2107) ต้องตกเป็นเมืองขึ้นของพม่าแล้ว แต่หลังจากพระองค์สวรรคตในปี พ.ศ. 2114 เนื่องจากท่านต้องไปปราบกบฎที่เมืองโองการหรือเมืองอัตปือแต่ท่านกลับเสียท่าให้กับหัวหน้ากบฎชาวกูยที่แข็งเมืองซ้อนกลจนทัพของมหาราชแห่งล้านช้างต้องแตกพ่ายและท่านถูกสำเร็จโทษในเวลาต่อมา พอมาถึง พ.ศ. 2117-2118 พระเจ้าบุเรงนองได้ยกทัพมาตีลาวและได้รับชัยชนะ และทรงนำโอรสองค์เดียวของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชซึ่งประสูติในปีที่สวรรคต ไว้เป็นประกันที่หงสาวดีด้วย ต่อจากนั้นมาหลายปีแผ่นดินลาวก็วุ่นวายด้วยเรื่องราชสมบัติ

จน พ.ศ. 2134 พระเถระเจ้าอาวาสวัดต่าง ๆ จึงได้ประชุมกันลงมติให้ส่งทูตไปเชิญพระหน่อแก้วกุมาร ซึ่งเป็นตัวประกันอยู่ประเทศพม่ากลับมาครองราชย์ และในเวลานั้นพระเจ้าบุเรงนองสวรรคตลง พม่าเริ่มอ่อนแอลง และพระหน่อแก้วกุมารขึ้นครองราชย์สมบัติ พ.ศ. 2135 และประกาศอิสรภาพไม่ขึ้นกับพม่าต่อไป

อ้างอิง

เชิงอรรถ
  1. ลำดับกษัตริย์ลาว, หน้า 103
  2. ลำดับกษัตริย์ลาว, หน้า 96
บรรณานุกรมม
  • ชำนาญ สัจจะโชติ, ศรีวิชัย กับพระแก้วมรกต, บริษัท งานดี จำกัด (ในเครือมติชน) , กรุงเทพมหานคร, กันยายน 2548
  • สุรศักดิ์ ศรีสำอาง. ลำดับกษัตริย์ลาว. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : สำนักโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร, 2545. 368 หน้า. ISBN 974-418-118-4



สมเด, จพระไชยเชษฐาธ, ราช, บทความน, เก, ยวก, บพระเจ, าไชยเชษฐาธ, ราชท, ในประว, ศาสตร, ลาว, สำหร, บคำอธ, บายเพ, มเต, พระเจ, าไชยเชษฐาธ, ราช, แก, ความกำกวม, พระอ, ปภ, ยพ, ทธบวรไชยเชษฐาธ, ราช, หร, อท, กก, นด, ในพระนาม, ลาว, ໄຊເສດຖາ, ເສດຖາທ, ຣາດ, คำเม, อง, อเป, นพร. bthkhwamniekiywkbphraecaichyechsthathirachthi 1 inprawtisastrlaw sahrbkhaxthibayephimetim duthi phraecaichyechsthathirach aekkhwamkakwm phraxupphyphuththbwrichyechsthathirach 1 hruxthiruckkndiinphranam smedcphraichyechsthathirach 2 law ໄຊເສດຖາ ເສດຖາທ ຣາດ khaemuxng thuxepnphramhakstriyphuyingihythisudphraxngkhhnungkhxngchatilaw thrngepnphunaaehngxanackrlanchang phusthapnakrungewiyngcnthnihepnsunyklangxarythrrm aelaepnsunyrwmsilpawthnthrrmtang khxngxanackrlanchangekhaiwdwykn prawtisastrsnnisthanwaphraxngkhepnphrayatihruxphranddainphranangcirpraphaethwiecananghlwngaehngxanackrlannasmedcphraichyechsthathirachphraecaechiyngihmkhrxngrachyph s 2089 2090rachaphieskph s 2089kxnhnaphranangcirpraphaethwithdipphraemkutisuththiwngsphraecalanchangkhrxngrachyph s 2091 2114rachaphieskph s 2093kxnhnaphrayaophthisalrachthdipphrayasumngkhlaophthistwmehsiphratnthiphyphratnkhaphrarachbutrphrahnxaekwkumarphranametmphraxupphyphuththbwrichyechsthathirachrachwngslanchangphrarachbidaphrayaophthisalrachphrarachmardaphranangyxdkhathiphyphrarachsmphphph s 2077hlwngphrabang xanackrlanchangswrrkhtph s 2114xttapux xanackrlanchangsasnasasnaphuththsmedcphraichyechsthathirach inrchsmyphrayaophthisalrach ph s 2063 2090 phraxngkhepnphuekhrngkhrdthangsasnaphuththepnxyangying idmiphrarachoxngkarihphlemuxngeliknbthuxphisangethwda elikkarthrngecaekhaphithwphrarachxanackr ihruxsalhlwng salecaphiesuxemuxngthrngemuxng aelaihhnmanbthuxphraphuththsasnaaethn thrngsrangwdsuwrrnethwolkephuxepnsylksnaehngphraphuththsasna aetenuxngcakpraephnikarnbthuxphinnmimachanan aelaidfngekhaipincitickhxngprachachnthwip cungyakthicaelikxyangeddkhadidkhrntxmathangxanackrlannawangkstriypkkhrxng cungidxyechiyecaichyechsothhruxechsthwngos phraoxrskhxngphraecaophthisar hruxecachayaehngemuxnghlwngphrabang esdcphrarachsmphphaelaetibotxyuthiemuxnghlwngphrabang ipkhrxngnkhrlanna emuxpi ph s 2089 thrngkhrxngrachepnkstyepnphraxngkhthi 15 saehtuthithanthrngmixanacinaekhwnlannahruxnkhrechiyngihm enuxngdwyxanackhxngbidathiekhyekhaipaethrkaesnginlannaepnsakhy emuxphraecaophthisaresdcswrrkht ph s 2090 dwythukchanglmthbkhnapraphaspa thrngklbnkhridephiyng 3 spdahkswrrkht emuxswrrkhtaelw phraoxrsthnghlaytangaeyngchingrachsmbtikn xanackrlanchangidaetkepn 2 faykhuxxanackrfayehnuxaelafayit idaek ecasriwrwngsarachkumar ecamhaxuprachsriwrwngsa aelaecakicthnwrathirach ecathaerux phuepnphrarachoxrsxngkhrxngtangphyayamcakhunkhrxngrachysmbtiepnkstriyxngkhihm inthisudecathaeruxsamarthyudkhrxngemuxnghlwngphrabangiwid khunnanglanchangaelaecasriwrwngsarachkumarcungechiyphraecaichyechsthathirachesdcklbmankhrhlwngphrabangephuxrbethlingthwlyrachsmbtirangbehtuwunwaythicaekidkhun aelaidxyechiyphraaekwmrktthipradisthanxyuthiwdbuppharam echiyngihm rwmthngphraphuththsihingkhaelaphraaekwkhawipdwy emuxesdcthunglanchang thrngyudrachsmbticakecathaeruxiwid odykarsnbsnunkhxngecasriwrwngsarachkumar phayhlngidrbaetngtngepnecamhaxuprachsriwrwngsainrchsmykhxngphraichyechsthathirach aelaidrbaetngtngepnkstriyxngkhaerkinyukhlanchangtkepnemuxngkhunkhxngphmasungidrbkarsnbsnunaelaaetngtngcakbuerngnxng epnsakhysungthngchwyepnthphrwmtikhnabyudemuxnghlwngphrabangcakecathaeruxaelaesnxchuxihphraecaichyechsthathirachthrngdarngtaaehnngkstriy phayhlngidrbaetngtng emuxnghlwngphrabangidepliynchuxepn krungsristnakhthut phraxngkhcungkhunkhrxngrachsmbti nbepnmharachxngkhthi 2 khxnglaw thithrngphraprichasamarth thrngphranamwa phraecaichyechsthathirach phraphuththsasnainyukhkhxngphraecaichyechsthathirach nbwamikhwamecriythungkhnkhidsud thrngidsrangwdsakhymakmay thisakhythisudkhux karsrangxngkhphrathatuhlwngkhunmaihmihihyotmohlarsmkbthiepnpuchniysthankhuaephndinphrarachxanackr aelaidsrangwdinkaaephngemuxngxyupraman 120 wd aelayngidsrangwdphraaekw sungepnthipradisthankhxngphraaekwmrkt thinamacakemuxngechiyngihm insmyniidmikaraetngwrrnkrrmhlayeruxng echn sngsinchy karekt phralkphraram epntnsmynirachxanackrithyidmikhwamsmphnthlawxyangaennaefn idrwmmuxknephuxtxsukbphma idsrangecdiy phrathatusrisxngrk inxaephxdansay cnghwdely ephuxepnxnusrn aehngkhwamepnphiepnnxngkn khxngsxngxanackrphraecaichyechsthathirachidthrngyayemuxnghlwngcakemuxngechiyngthxngmaxyuthiewiyngcnthn idpradisthanphraaekwmrkt aelaphraaeskkha phraphuththsihingkh hruxphrasingkh iwthiewiyngcnthn eriykwaewiyngcnthnlanchangswnphrabangpradisthaniwthiemuxngechiyngthxng cungidchuxwahlwngphrabangmacnthungbdni bangkhrngkeriykchuxwalanchanghlwngphrabang aelaidsrangwdepnthipradisthanphraaekwmrktkhunepnphiess phraxngkhidthrngsrangphrathatuhlwng sungthuxepnsthaptykrrmchinyxdeyiymkhxnglawemux ph s 2109 sungtxmaidthukphwkplncakyunnanthalayesiyhayipmaknxkcakphraxngkhcaidthrngsrangphrathatu xun aelaphraphuththrupsakhy xikmakmay echn phraecaxngkhtux thiewiyngcnthn phraecaxngkhtux thixaephxthabx cnghwdhnxngkhay phraesrim phrasuk phrais phraxinthraeplng phraxngkhaesn thrngsrangwdphrathatu thicnghwdhnxngkhay aelaphrathatuthicmnaokhngxyu phrathatubngphwn xaephxemuxnghnxngkhay srangwdsriemuxng cnghwdhnxngkhay aelaphraprathaninobsth namwa phraichyechstha phrasriokhtrbur thiaekhwngkhamwn phrathatuxingrng thiaekhwngsuwrrnekht suwrrnekht phrathatusrisxngrk xaephxdansay cnghwdely aelathrngptisngkhrnphrathatuphnm epntnphraecaichyechsthathirachthrngprakhbprakhxngnarachxanackrlanchangphanphnphykarepnemuxngkhunkhxngphmaipid tlxdrchsmykhxngphraxngkh aemwainkhnannxanackrlanna esiyaekphma ph s 2101 aelaxanackrxyuthya esiyaekphma ph s 2107 txngtkepnemuxngkhunkhxngphmaaelw aethlngcakphraxngkhswrrkhtinpi ph s 2114 enuxngcakthantxngipprabkbdthiemuxngoxngkarhruxemuxngxtpuxaetthanklbesiythaihkbhwhnakbdchawkuythiaekhngemuxngsxnklcnthphkhxngmharachaehnglanchangtxngaetkphayaelathanthuksaercothsinewlatxma phxmathung ph s 2117 2118 phraecabuerngnxngidykthphmatilawaelaidrbchychna aelathrngnaoxrsxngkhediywkhxngphraecaichyechsthathirachsungprasutiinpithiswrrkht iwepnpraknthihngsawdidwy txcaknnmahlaypiaephndinlawkwunwaydwyeruxngrachsmbticn ph s 2134 phraethraecaxawaswdtang cungidprachumknlngmtiihsngthutipechiyphrahnxaekwkumar sungepntwpraknxyupraethsphmaklbmakhrxngrachy aelainewlannphraecabuerngnxngswrrkhtlng phmaerimxxnaexlng aelaphrahnxaekwkumarkhunkhrxngrachysmbti ph s 2135 aelaprakasxisrphaphimkhunkbphmatxipxangxing aekikhechingxrrth ladbkstriylaw hna 103 ladbkstriylaw hna 96 brrnanukrmmchanay sccaochti sriwichy kbphraaekwmrkt bristh ngandi cakd inekhruxmtichn krungethphmhankhr knyayn 2548 surskdi srisaxang ladbkstriylaw phimphkhrngthi 2 krungethph sankobrankhdiaelaphiphithphnthsthanaehngchati krmsilpakr 2545 368 hna ISBN 974 418 118 4 kxnhna smedcphraichyechsthathirach thdipphranangcirpraphaethwi phraecaechiyngihm ph s 2089 2090 phraemkutisuththiwngsphrayaophthisalrach phraecalanchang ph s 2091 2114 phrayasumngkhlaophthistwekhathungcak https th wikipedia org w index php title smedcphraichyechsthathirach amp oldid 9493422, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม