fbpx
วิกิพีเดีย

วันลอยกระทง

วันลอยกระทง เป็นเทศกาลของกลุ่มชาติพันธุ์ไทตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งประเทศไทย ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12

วันลอยกระทง
เทศกาลลอยกระทงที่จังหวัดเชียงใหม่
จัดขึ้นโดยไทย, ลาว, พม่า, กัมพูชา, ตอนเหนือของมาเลเซีย, เขตสิบสองปันนาของจีน, ศรีลังกา
ประเภทการสะเดาะเคราะห์, การขอขมา, การบูชา
วันที่วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติไทย
การถือปฏิบัติการบูชาและขอขมาพระแม่คงคา
ความถี่เทศกาลประจำปี

ประเพณีนี้กำหนดขึ้นเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์และขอขมาต่อพระแม่คงคาซึ่งเป็นเทวดาในคติฮินดู แต่เทศกาลนี้มีร่องรอยหลักฐานย้อนไปถึงจีนและอินเดียโบราณ ในประเทศพม่า ใช้ชื่อว่า "เทศกาลตาซองได" (Tazaungdaing) ในประเทศจีน ใช้ว่า "เทศกาลโคมลอย" (Lantern festival, 猜灯谜)

วันลอยกระทงในปฏิทินสุริยคติ

ปี วันที่ วันที่ วันที่
ปีชวด 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 31 ตุลาคม พ.ศ. 2563
ปีฉลู 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
ปีขาล 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2541 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565
ปีเถาะ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2542 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566
ปีมะโรง 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567
ปีมะเส็ง 31 ตุลาคม พ.ศ. 2544 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ปีมะเมีย 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2545 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2569
ปีมะแม 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2570
ปีวอก 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2571
ปีระกา 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2572
ปีจอ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2573
ปีกุน 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2574

ประวัติ

 
พลุเฉลิมฉลองในเทศกาลวันลอยกระทงริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ประเพณีลอยกระทงเป็นประเพณีโบราณของอินเดียที่ประเทศไทยรับเข้ามาปฏิบัติ แต่ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าทำกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เท่าที่ปรากฏกล่าวได้ว่ามีมาตั้งสมัยสุโขทัยเป็นราชธานี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสันนิษฐานว่า เดิมทีเดียวเห็นจะเป็นพิธีของพราหมณ์กระทำเพื่อบูชาพระผู้เป็นเจ้าทั้งสาม คือ พระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม ต่อมาได้ถือตามแนวทางพระพุทธศาสนามีการชักโคมเพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุพระจุฬามณีในชั้นดาวดึงส์ และลอยโคมเพื่อบูชารอยพระพุทธบาท ซึ่งประดิษฐาน ณ หาดทรายแม่น้ำนัมมทา (แม่น้ำนัมมทา เป็นแม่น้ำที่คู่ขนานกับทิวเขาวินธัย ไหลลงภาคตะวันตกของอินเดียแบ่งเขตอินเดียออกเป็นภาคเหนือและภาคใต้)

ตำนานที่หาหลักฐานยืนยันมิได้ กล่าวไว้ว่าในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง มีนางนพมาศหรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์ เป็นผู้ประดิษฐ์กระทงขึ้นครั้งแรก โดยแต่เดิมเรียกว่าพิธีจองเปรียง ที่ลอยเทียนประทีป และนางนพมาศได้นำดอกโคทม ซึ่งเป็นดอกบัวที่บานเฉพาะวันเพ็ญเดือนสิบสองมาใช้ใส่เทียนประทีป[ต้องการอ้างอิง] ดังปรากฏในตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์กล่าวถึงพระดำรัสของพระร่วงว่า "แต่นี้สืบไปเบื้องหน้า โดยลำดับกษัตริย์ในสยามประเทศ ถึงกาลกำหนดนักขัตฤกษ์ วันเพ็ญเดือน 12 ให้ทำโคมลอยเป็นรูปดอกบัว อุทิศสักการบูชาพระพุทธบาทนัมมทานทีตราบเท่ากัลปาวสาน แต่ปัจจุบันมีหลักฐานว่าไม่น่าจะเก่ากว่าสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยอ้างอิงหลักฐานจากภาพจิตรกรรมการสร้างกระทงแบบต่าง ๆ ในสมัยรัชกาลที่ 1 จากนั้นในสมัยรัชกาลที่ 2 ได้เปลี่ยนแปลงจากการทำจากดอกบัวเป็นต้นกล้วยเพราะดอกบัวดังกล่าวหายากและมีน้อย จึงใช้ต้นกล้วยทำแทนแล้วดูไม่สวยจึงใช้ใบตองมาพับแต่งจนสวยสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน

ประเพณีในแต่ละท้องถิ่น

 
โคมลอย
  • ภาคเหนือ นิยมทำโคมลอย เรียกว่า "ลอยโคม" หรือ "ว่าวลม" หรือ "ว่าวไฟ" ทำจากผ้าบาง ๆ แล้วสุมควันข้างใต้ให้ลอยขึ้นไปในอากาศอย่างบัลลูนประเพณีของชาวเหนือนี้เรียกว่า ยี่เป็ง หมายถึงการทำบุญในวันเพ็ญเดือนยี่ (ซึ่งนับวันตามแบบล้านนา ตรงกับวันเพ็ญเดือนสิบสองในแบบไทย) หรือโคมลอยบนน้ำรูปทรงต่าง ๆ
    • จังหวัดเชียงใหม่ มีประเพณี"ยี่เป็ง"เชียงใหม่ ในทุก ๆ ปีจะมีการจัดงานขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา และมีการปล่อยโคมลอยขึ้นเต็มท้องฟ้า
    • จังหวัดลำปาง มีประเพณี"ล่องสะเปา"(สะเปาหมายถึงกระทง) ซึ่งจะมีการประกวดอยู่สองวันด้วยกัน ได้แก่วันแรก"สะเปาน้ำ"จัดขึ้นในแม่น้ำวังและวันที่สองจะมี"สะเปาบก" ซึ่งการประกวดในที่นี้ จะมีตั้งแต่ระดับกลุ่มหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ โรงเรียน มหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษาต่างๆ รวมไปถึงหน่วยการของภาครัฐ แต่ละขบวนจะมีการแสดงต่างๆไม่ว่าจะเป็นฟ้อนรำ ดนตรีพื้นเมือง ความสวยงามของขบวน รวมไปถึงประกวดนางนพมาส ทั้งนี้ ชาวบ้านคนเมืองลำปาง ค่อนข้างให้ความสำคัญแก่ประเพณีล่องสะเปา เนื่องจากเป็นวันที่ทุกคนจะร่วมสนุกสนานครื้นเคร้ง พบปะเพื่อนฝูงที่กลับมาจากการทำงานในต่างจังหวัด และที่สำคัญเป็นเทศกาลกลางแจ้งที่จัดขึ้นท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายในทุกๆปี
    • จังหวัดตาก จะลอยกระทงขนาดเล็กทยอยเรียงรายไปเป็นสาย เรียกว่า "กระทงสาย"
    • จังหวัดสุโขทัย ขบวนแห่โคมชักโคมแขวน การเล่นพลุตะไล ไฟพะเนียง
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในอดีตมีการเรียกประเพณีลอยกระทงในภาคอีสานว่า สิบสองเพ็ง หมายถึงวันเพ็ญเดือนสิบสองซึ่งจะมีเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป เช่น
    • จังหวัดร้อยเอ็ด ถือเป็นตัวแทนจัดงานลอยกระทงของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีชื่องานประเพณีว่า " สมมาน้ำคืนเพ็ง เส็งประทีป " ตามภาษาถิ่นมีความหมายถึงการขอขมาพระแม่คงคาในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง ความพิเศษของงานมีการแสดง แสงสีเสียง ตำนานเมืองร้อยเอ็ด จัดให้มีการตกแต่งบริเวณเกาะบึงพลาญชัย (สถานที่จัดงาน) ให้เป็นเกาะสวรรค์ ตกแต่งสวยงาม ยิ่งใหญ่ มีขบวนกระทงอาเซียน มีการประกวดกระทงประทีปใหญ่ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การประกวดกระทงอนุรักษ์ธรรมชาติ การประกวดขบวนแห่กระทงประทีป 12 หัวเมือง ตามตำนานเมืองร้อยเอ็ด การประกวดรำวงสมมาน้ำคืนเพ็งเส็งประทีป การประกวดธิดาสาเกตนคร และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย
    • จังหวัดสกลนคร ในอดีตจะมีการลอยกระทงจากกาบกล้วย ลักษณะคล้ายกับการทำปราสาทผึ้งโบราณ เรียกงานนี้ว่าเทศกาลลอยพระประทีปพระราชทาน สิบสองเพ็งไทสกล
  • ภาคกลาง มีการจัดประเพณีลอยกระทงขึ้นทั่วทุกจังหวัด
    • กรุงเทพมหานคร จะมีงานภูเขาทอง เป็นรูปแบบงานวัด เฉลิมฉลองราว 7-10 วัน ก่อนงานลอยกระทง และจบลงในช่วงหลังวันลอยกระทง
    • จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีการจัดงานประเพณีลอยกระทงกรุงเก่าขึ้นอย่างยิ่งใหญ่บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ภายในงานมีการจัดแสดงแสง สี เสียง อย่างงดงามตระการตา
  • ภาคใต้ อย่างที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ก็มีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ นอกจากนั้น ในจังหวัดอื่น ๆ ก็จะจัดงานวันลอยกระทงด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ในแต่ละท้องถิ่นยังอาจมีประเพณีลอยกระทงที่แตกต่างกันไป และสืบทอดต่อกันเรื่อยมา

อ้างอิง

  1. Constance Jones 2011, pp. 252–253.
  • ปฏิทิน100ปี

นลอยกระทง, บทความน, งต, องการเพ, มแหล, งอ, างอ, งเพ, อพ, จน, ความถ, กต, อง, ณสามารถพ, ฒนาบทความน, ได, โดยเพ, มแหล, งอ, างอ, งตามสมควร, เน, อหาท, ขาดแหล, งอ, างอ, งอาจถ, กลบออก, เป, นเทศกาลของกล, มชาต, นธ, ไทตะว, นออกเฉ, ยงใต, รวมท, งประเทศไทย, ตรงก, บว, นข, เด. bthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxng khunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxkwnlxykrathng epnethskalkhxngklumchatiphnthuithtawnxxkechiyngitrwmthngpraethsithy trngkbwnkhun 15 kha eduxn 12wnlxykrathngethskallxykrathngthicnghwdechiyngihmcdkhunodyithy law phma kmphucha txnehnuxkhxngmaelesiy ekhtsibsxngpnnakhxngcin srilngkapraephthkarsaedaaekhraah karkhxkhma karbuchawnthiwnkhun 15 kha eduxn 12 tamptithincnthrkhtiithykarthuxptibtikarbuchaaelakhxkhmaphraaemkhngkhakhwamthiethskalpracapipraephninikahndkhunephuxepnkarsaedaaekhraahaelakhxkhmatxphraaemkhngkhasungepnethwdainkhtihindu aetethskalnimirxngrxyhlkthanyxnipthungcinaelaxinediyobran 1 inpraethsphma ichchuxwa ethskaltasxngid Tazaungdaing inpraethscin ichwa ethskalokhmlxy Lantern festival 猜灯谜 enuxha 1 wnlxykrathnginptithinsuriykhti 2 prawti 3 praephniinaetlathxngthin 4 xangxingwnlxykrathnginptithinsuriykhti aekikhpi wnthi wnthi wnthipichwd 24 phvscikayn ph s 2539 12 phvscikayn ph s 2551 31 tulakhm ph s 2563pichlu 14 phvscikayn ph s 2540 2 phvscikayn ph s 2552 19 phvscikayn ph s 2564pikhal 3 phvscikayn ph s 2541 21 phvscikayn ph s 2553 8 phvscikayn ph s 2565piethaa 22 phvscikayn ph s 2542 10 phvscikayn ph s 2554 27 phvscikayn ph s 2566pimaorng 11 phvscikayn ph s 2543 28 phvscikayn ph s 2555 16 phvscikayn ph s 2567pimaesng 31 tulakhm ph s 2544 17 phvscikayn ph s 2556 5 phvscikayn ph s 2568pimaemiy 19 phvscikayn ph s 2545 6 phvscikayn ph s 2557 24 phvscikayn ph s 2569pimaaem 8 phvscikayn ph s 2546 25 phvscikayn ph s 2558 13 phvscikayn ph s 2570piwxk 26 phvscikayn ph s 2547 14 phvscikayn ph s 2559 1 phvscikayn ph s 2571piraka 16 phvscikayn ph s 2548 3 phvscikayn ph s 2560 20 phvscikayn ph s 2572picx 5 phvscikayn ph s 2549 22 phvscikayn ph s 2561 9 phvscikayn ph s 2573pikun 24 phvscikayn ph s 2550 11 phvscikayn ph s 2562 28 phvscikayn ph s 2574prawti aekikh phluechlimchlxnginethskalwnlxykrathngrimaemnaecaphraya praephnilxykrathngepnpraephniobrankhxngxinediythipraethsithyrbekhamaptibti aetimprakthlkthanchdecnwathaknmatngaetemuxihr ethathipraktklawidwamimatngsmysuokhthyepnrachthani phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw thrngsnnisthanwa edimthiediywehncaepnphithikhxngphrahmnkrathaephuxbuchaphraphuepnecathngsam khux phraxiswr phranarayn aelaphraphrhm txmaidthuxtamaenwthangphraphuththsasnamikarchkokhmephuxbuchaphrabrmsaririkthatuphraculamniinchndawdungs aelalxyokhmephuxbucharxyphraphuththbath sungpradisthan n hadthrayaemnanmmtha aemnanmmtha epnaemnathikhukhnankbthiwekhawinthy ihllngphakhtawntkkhxngxinediyaebngekhtxinediyxxkepnphakhehnuxaelaphakhit tananthihahlkthanyunynmiid klawiwwainrchsmyphxkhunramkhaaehng minangnphmashruxthawsriculalksn epnphupradisthkrathngkhunkhrngaerk odyaetedimeriykwaphithicxngepriyng thilxyethiynprathip aelanangnphmasidnadxkokhthm sungepndxkbwthibanechphaawnephyeduxnsibsxngmaichisethiynprathip txngkarxangxing dngpraktintarbthawsriculalksnklawthungphradarskhxngphrarwngwa aetnisubipebuxnghna odyladbkstriyinsyampraeths thungkalkahndnkkhtvks wnephyeduxn 12 ihthaokhmlxyepnrupdxkbw xuthisskkarbuchaphraphuththbathnmmthanthitrabethaklpawsan aetpccubnmihlkthanwaimnacaekakwasmyrtnoksinthrtxntn odyxangxinghlkthancakphaphcitrkrrmkarsrangkrathngaebbtang insmyrchkalthi 1 caknninsmyrchkalthi 2 idepliynaeplngcakkarthacakdxkbwepntnklwyephraadxkbwdngklawhayakaelaminxy cungichtnklwythaaethnaelwduimswycungichibtxngmaphbaetngcnswysubthxdmacnthungpccubnpraephniinaetlathxngthin aekikh okhmlxy phakhehnux niymthaokhmlxy eriykwa lxyokhm hrux wawlm hrux wawif thacakphabang aelwsumkhwnkhangitihlxykhunipinxakasxyangbllunpraephnikhxngchawehnuxnieriykwa yiepng hmaythungkarthabuyinwnephyeduxnyi sungnbwntamaebblanna trngkbwnephyeduxnsibsxnginaebbithy hruxokhmlxybnnarupthrngtang cnghwdechiyngihm mipraephni yiepng echiyngihm inthuk picamikarcdngankhunxyangyingihytrakarta aelamikarplxyokhmlxykhunetmthxngfa cnghwdlapang mipraephni lxngsaepa saepahmaythungkrathng sungcamikarprakwdxyusxngwndwykn idaekwnaerk saepana cdkhuninaemnawngaelawnthisxngcami saepabk sungkarprakwdinthini camitngaetradbklumhmuban tabl xaephx orngeriyn mhawithyaly sthabnkarsuksatang rwmipthunghnwykarkhxngphakhrth aetlakhbwncamikaraesdngtangimwacaepnfxnra dntriphunemuxng khwamswyngamkhxngkhbwn rwmipthungprakwdnangnphmas thngni chawbankhnemuxnglapang khxnkhangihkhwamsakhyaekpraephnilxngsaepa enuxngcakepnwnthithukkhncarwmsnuksnankhrunekhrng phbpaephuxnfungthiklbmacakkarthanganintangcnghwd aelathisakhyepnethskalklangaecngthicdkhunthamklangxakasthieynsbayinthukpi cnghwdtak calxykrathngkhnadelkthyxyeriyngrayipepnsay eriykwa krathngsay cnghwdsuokhthy khbwnaehokhmchkokhmaekhwn karelnphlutail ifphaeniyng phakhtawnxxkechiyngehnux inxditmikareriykpraephnilxykrathnginphakhxisanwa sibsxngephng hmaythungwnephyeduxnsibsxngsungcamiexklksnaetktangknxxkip echn cnghwdrxyexd thuxepntwaethncdnganlxykrathngkhxngphakhtawnxxkechiyngehnux odymichuxnganpraephniwa smmanakhunephng esngprathip tamphasathinmikhwamhmaythungkarkhxkhmaphraaemkhngkhainkhunwnephyeduxnsibsxng khwamphiesskhxngnganmikaraesdng aesngsiesiyng tananemuxngrxyexd cdihmikartkaetngbriewnekaabungphlaychy sthanthicdngan ihepnekaaswrrkh tkaetngswyngam yingihy mikhbwnkrathngxaesiyn mikarprakwdkrathngprathipihy chingthwyphrarachthansmedcphraethphrtnrachsuda syambrmrachkumari karprakwdkrathngxnurksthrrmchati karprakwdkhbwnaehkrathngprathip 12 hwemuxng tamtananemuxngrxyexd karprakwdrawngsmmanakhunephngesngprathip karprakwdthidasaektnkhr aelakickrrmxun xikmakmay cnghwdsklnkhr inxditcamikarlxykrathngcakkabklwy lksnakhlaykbkarthaprasathphungobran eriyknganniwaethskallxyphraprathipphrarachthan sibsxngephngithskl phakhklang mikarcdpraephnilxykrathngkhunthwthukcnghwd krungethphmhankhr caminganphuekhathxng epnrupaebbnganwd echlimchlxngraw 7 10 wn kxnnganlxykrathng aelacblnginchwnghlngwnlxykrathng cnghwdphrankhrsrixyuthya mikarcdnganpraephnilxykrathngkrungekakhunxyangyingihybriewnxuthyanprawtisastrphrankhrsrixyuthya phayinnganmikarcdaesdngaesng si esiyng xyangngdngamtrakarta phakhit xyangthixaephxhadihy cnghwdsngkhla kmikarcdnganxyangyingihy nxkcaknn incnghwdxun kcacdnganwnlxykrathngdwyechnknnxkcakniinaetlathxngthinyngxacmipraephnilxykrathngthiaetktangknip aelasubthxdtxkneruxymaxangxing aekikh Constance Jones 2011 pp 252 253 ptithin100piekhathungcak https th wikipedia org w index php title wnlxykrathng amp oldid 9631237, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม