fbpx
วิกิพีเดีย

สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8

พระเจ้าสุริเยนทราธิบดี (คำให้การชาวกรุงเก่า) ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงวินิจฉัยพระนามว่าเป็นสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 เป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 29 แห่งอาณาจักรอยุธยา และเป็นพระองค์ที่สองแห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง ราชวงศ์สุดท้ายของอาณาจักรอยุธยา ทรงครองราชย์ พ.ศ. 2246 — พ.ศ. 2251

พระเจ้าสุริเยนทราธิบดี
พระเจ้ากรุงศรีอยุธยา
ครองราชย์6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2246–2251
ก่อนหน้าสมเด็จพระเพทราชา
ถัดไปสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9
พระราชบุตรสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
เจ้าฟ้าหญิงไม่ปรากฏพระนาม
เจ้าฟ้าหญิงแก้ว
พระองค์เจ้าทับทิม
ราชวงศ์บ้านพลูหลวง
พระราชบิดาสมเด็จพระเพทราชา
พระราชมารดานางกุสาวดี
พระราชสมภพพ.ศ. 2204
ตำบลโพธิ์ประทับช้าง เมืองพิจิตร อาณาจักรอยุธยา
สวรรคต9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2251 (47 พรรษา)
กรุงศรีอยุธยา อาณาจักรอยุธยา

ผู้คนในสมัยพระองค์มักเรียกขานพระองค์ว่า พระเจ้าเสือ เพื่อเปรียบว่า พระองค์มีพระอุปนิสัยโหดร้ายดังเสือ พระองค์ทรงมีพระปรีชาด้านมวยไทย โดยทรงเป็นผู้คิดท่าแม่ไม้มวยไทย ซึ่งมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ปรากฏชัดเจน และได้มีการถ่ายทอดเป็นตำราให้ชาวไทยรุ่นหลังได้เรียนรู้ฝึกฝนจนถึงปัจจุบัน

สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้ระบุในหนังสือ ศิลปะมวยไทย ถึงพระองค์ในการปลอมพระองค์เป็นชาวบ้านมาชกมวยกับนักมวยฝีมือดีจากเมืองวิเศษชัยชาญ และสามารถชนะนักมวยเอกได้ถึง 3 คน ซึ่งได้แก่ นายกลาง หมัดตาย, นายใหญ่ หมัดเหล็ก และนายเล็ก หมัดหนัก ปัจจุบัน กระทรวงวัฒนธรรม ได้กำหนดให้วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ซึ่งตรงกับวันที่พระองค์ได้ขึ้นครองราชย์ตามหลักฐานในประวัติศาสตร์เป็นวันมวยไทย

นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงฝึกเจ้าฟ้าเพชรและเจ้าฟ้าพรผู้เป็นพระราชโอรส ให้มีความสามารถในด้านมวยไทย, กระบี่กระบอง และมวยปล้ำ

พระราชประวัติ

พระราชพงศาวดาร ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ระบุว่าพระเจ้าเสือเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอในสมเด็จพระเพทราชา

ส่วนพระราชพงศาวดาร ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน ฉบับตัวเขียน ระบุว่าเป็นพระราชโอรสลับในสมเด็จพระนารายณ์มหาราชกับพระสนมซึ่งเป็นพระราชธิดาในพญาแสนหลวง เจ้าเมืองเชียงใหม่ โดยคำให้การขุนหลวงหาวัดออกพระนามว่า พระราชชายาเทวี หรือ เจ้าจอมสมบุญ ส่วนในคำให้การชาวกรุงเก่าเรียกว่า นางกุสาวดี ต่อมาสมเด็จพระนารายณ์มหาราชได้พระราชทานพระสนมดังกล่าวให้แก่พระเพทราชา เมื่อครั้งที่ดำรงตำแหน่ง (เจ้ากรมช้าง) โดยในคำให้การขุนหลวงหาวัดและคำให้การชาวกรุงเก่า มีเนื้อหาสอดคล้องกัน กล่าวคือนางเป็นสนมลับของพระนารายณ์แต่แตกต่างกันเพียงชื่อของนาง และเหตุผลในการพระราชทานพระโอรสแก่พระเพทราชา แต่พระราชพงศาวดาร ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ กลับให้ข้อมูลเกี่ยวกับพระชาติกำเนิดแตกต่างไปจากคำให้การของขุนหลวงหาวัดและคำให้การชาวกรุงเก่า โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงทำศึกสงครามกับเมืองเชียงใหม่แล้วได้ราชธิดาเจ้าเมืองเชียงใหม่เป็นสนม แต่นางสนมเกิดตั้งครรภ์ พระองค์ได้ละอายพระทัยด้วยเธอเป็นนางลาว พระองค์จึงได้พระราชทานแก่พระเพทราชา ดังความในพระราชพงศาวดารฯ ฉบับพระพนรัตน์ ความว่า

"แล้วเมื่อพระองค์เสด็จพระราชดำเนินมาจากเมืองเชียงใหม่นั้น พระองค์เสด็จทรงสังวาสด้วยพระราชธิดาเจ้าเมืองเชียงใหม่ และนางนั้นก็ทรงครรภ์ขึ้นมา ทรงพระกรุณาละอายพระทัย จึงพระราชทานนางนั้นให้แก่พระเพทราชา แล้วดำรัสว่านางลาวนี้มีครรภ์ขึ้นมา เราจะเอาไปเลี้ยงไว้ในพระราชวังก็คิดละอายแก่พระสนมทั้งปวง และท่านจงรับเอาไปเลี้ยงไว้ ณ บ้านเถิด และพระเพทราชาก็รับพระราชทานเอานางนั้นไปเลี้ยงไว้ ณ บ้าน"

โดยเหตุผลของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชได้ปรากฏในคำให้การชาวกรุงเก่าว่า พระองค์ทรงเกรงว่าพระราชโอรสองค์นี้จะคิดกบฏชิงราชสมบัติอย่างเมื่อคราวพระศรีศิลป์ ส่วนคำให้การของขุนหลวงหาวัดว่า พระองค์ทรงต้องรักษาราชบัลลังก์ให้กับพระราชโอรสที่ประสูติแต่พระอัครมเหสีเท่านั้น

พระราชพงศาวดาร ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ ระบุว่าพระนามเดิมของพระองค์คือ มะเดื่อ ส่วนในหนังสือปฐมวงศ์ของ ก.ศ.ร. กุหลาบ เรียกว่า ดอกเดื่อ เนื่องจากประสูติใต้ต้นมะเดื่อในแขวงเมืองพิจิตร ขณะพระมารดาเสด็จติดตามออกพระเพทราชาโดยเสด็จสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 3 (สมเด็จพระนารายณ์) เสด็จขึ้นไปนมัสการพระพุทธชินราชและพระพุทธชินสีห์ที่เมืองพิษณุโลก

จดหมายเหตุเอนเยลเบิร์ต แกมป์เฟอร์ (Engelbert Kaempfer) นายแพทย์ชาวเยอรมันประจำคณะทูตของบริษัทอีสต์อินเดียของฮอลันดาที่เข้ามาเจริญพระราชไมตรีราชสำนักสยามในปี พ.ศ. 2233 ได้ให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับปีประสูติของออกหลวงสรศักดิ์ว่า เมื่อ พ.ศ. 2233 พระสรศักดิ์ (Peja Surusak) พระมหาอุปราชมีพระชนม์ 20 พรรษา แสดงว่าพระองค์ประสูติในปี พ.ศ. 2213

ทัศนะ

อย่างไรก็ตาม สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ มิทรงเชื่อว่าหลวงสรศักดิ์จะเป็นพระราชโอรสลับในสมเด็จพระนารายณ์ ทรงวินิจฉัยว่าในเมื่อหลวงสรศักดิ์รู้อยู่เต็มอกว่าสมเด็จพระนารายณ์คือพระราชบิดา เหตุไฉนจึงร่วมมือกับพระเพทราชาบิดาบุญธรรมปราบดาภิเษกชนกแท้ ๆ ของตน แทนที่จะประจบเอาใจขอราชสมบัติกับพระราชบิดาเมื่อครั้งยังประชวร ส่วนเพ็ญสุภา สุขคตะ ใจอินทร์ ว่า "พระยาแสนหลวง" เจ้าผู้ครองเชียงใหม่ที่ตกเป็นเชลยมายังกรุงศรีอยุธยานั้นก็มิได้มีฐานะต่ำต้อยอันใด ซ้ำยังจะดูมีหน้ามีตาเพราะสามารถต่อโคลงกับศรีปราชญ์ กวีในรัชกาลได้ ถ้าหากพระยาแสนหลวงเป็นพระสัสสุระของสมเด็จพระนารายณ์จริง ก็น่าจะเป็นที่ความภาคภูมิมากกว่าอับอาย และยังสามารถใช้การเสกสมรสดังกล่าวเป็นเหตุผลทางการเมืองเข้าครอบครองล้านนาผ่านพระชายาได้

ครองราชย์

ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมเด็จพระเจ้าเสือได้ถวายตัวเป็นมหาดเล็กรับราชการเป็นที่ โปรดปรานของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ต่อมาได้ตำแหน่งเป็นหลวงสรศักดิ์ สมัยสมเด็จพระเพทราชา หลวงสรศักดิ์ให้รับสถาปนาเป็นพระมหาอุปราช กรมพระราชวังบวรสถานมงคลซึ่งหวังจะได้ขึ้นครองราชสมบัติต่อจากสมเด็จพระเพทราชา แต่สมเด็จพระเพทราชากลับทรงโปรดปรานเจ้าพระขวัญ พระราชโอรสของพระองค์และกรมหลวงโยธาทิพ (หลักฐานร่วมสมัยว่ากรมหลวงโยธาเทพ) แถมมีผู้คนมากมายต่างพากันนับถือ ทำให้กรมพระราชวังบวรฯ เกิดความหวาดระแวงว่าราชสมบัติจะตกไปอยู่กับเจ้าพระขวัญ จึงเกิดเหตุการณ์นำเจ้าพระขวัญมาสำเร็จโทษด้วยไม้ท่อนจันทร์

เมื่อสมเด็จพระเพทราชาซึ่งทรงประชวรทรงทราบทรงพระพิโรธกรมพระราชวังบวรฯ เป็นอันมากแลตรัสว่าจะไม่ยกราชสมบัติให้แก่กรมพระราชวังบวรฯ แล้วทรงพระกรุณาตรัสเวนราชสมบัติให้ "เจ้าพระพิไชยสุรินทร" พระราชนัดดา หลังจากนั้นสมเด็จพระเพทราชาทรงสวรรคต เจ้าพระพิไชยสุรินทรทรงเกรงกลัวกรมพระราชวังบวรฯจึงไม่กล้ารับ และน้อมถวายราชสมบัติแด่กรมพระราชวังบวรฯ

เมื่อกรมพระราชวังบวรฯ ได้ขึ้นครองราชสมบัติในปี พ.ศ. 2246 มีพระราชโอรส 2 พระองค์ คือ เจ้าฟ้าเพชร (สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ) และเจ้าฟ้าพร (สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ) มีพระสมัญญานามว่า “เสือ” ตั้งแต่สมัยที่ยังดำรงตำแหน่งเป็น หลวงสรศักดิ์ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชมาแล้ว

ทรงมีความเด็ดขาดในการมีรับสั่งให้ผู้ที่ปฏิบัติงานใดต้องสำเร็จผลเป็นอย่างดี หากบกพร่องพระองค์จะมีรับสั่งให้ลงโทษ ไม่เฉพาะข้าราชบริพารเท่านั้น แม้พระราชโอรสทั้งสองก็เช่นกัน อย่างเช่น ในการเสด็จไปคล้องช้างที่เมืองนครสวรรค์ มีรับสั่งให้เจ้าฟ้าเพชรและเจ้าฟ้าพรตัดถนนข้าม"บึงหูกวาง" โดยถมบึงส่วนหนึ่งให้เสร็จภายในหนึ่งคืน พระราชโอรสดำเนินงานเสร็จตามกำหนด แต่เมื่อเสด็จพระราชดำเนิน ช้างทรงตกหลุม ทรงลงพระราชอาญาเจ้าฟ้าเพชร แต่ภายหลังก็ได้รับพระราชทานอภัยโทษ

พระอุปนิสัย

พระราชพงศาวดาร ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ระบุว่า

"สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพอพระทัยเสวยน้ำจัณฑ์ แล้วเสพสังวาสด้วยดรุณีอิตถีสตรีเด็กอายุ 11-12 ปี ถ้าสตรีใดเสือกดิ้นโครงไป ให้ขัดเคือง[ต้องการอ้างอิง] จะลงพระราชอาชญาถองยอดอกตายกับที่ ถ้าสตรีใด ไม่ดิ้นเสือกโครงนิ่งอยู่ ชอบพระอัชฌาสัย พระราชทานบำเหน็จรางวัล

"ประการหนึ่ง ถ้าเสด็จไปประพาสมัจฉาชาติฉนากฉลามในชลมารคทางทะเลเกาะสีชังเขาสามมุขแลประเทศที่ใด ย่อมเสวยน้ำจัณฑ์พลาง ถ้าหมู่พระสนมนิกรนางในแลมหาดเล็ก ชาวที่ทำให้เรือพระที่นั่งโคลงไหวไป มิได้มีพระวิจารณะ ปราศจากพระกรุณาญาณ ลุอำนาจแก่พระโทโส ดำรัสสั่งให้เอาผู้นั้นเกี่ยวเบ็ดทิ้งลงไปกลางทะเล ให้ปลาฉนากฉลามกินเป็นอาหาร

"ประการหนึ่ง ปราศจากพระเบญจางคิกศีล มักพอพระทัยทำอนาจารเสพสังวาสกับภรรยาขุนนาง แต่นั้นมาพระนามปรากฏเรียกว่า พระเจ้าเสือ"

ขณะที่พระราชพงศาวดารกรุงสยาม จากต้นฉบับของบริติชมิวเซียมบันทึกไว้ทำนองเดียวกันว่า

"ครั้งนั้น สมเด็จพระเจ้าแผ่นดินมีพระราชหฤทัยกักขฬะ หยาบช้า ทารุณ ร้ายกาจ ปราศจากกุศลสุจริต ทรงพระประพฤติผิดพระราชประเพณี มิได้มีหิริโอตัปปะ และพระทัยหนาไปด้วยอกุศลลามก มีวิตกในโทสโมหมูลเจือไปในพระสันดานเป็นนิรันดร์มิได้ขาด แลพระองค์เสวยน้ำจัณฑ์ขาวอยู่เป็นนิจ แล้วมักยินดีในการอันสังวาสด้วยนางกุมารีอันยังมิได้มีระดู ถ้าและนางใดอุตส่าห์อดทนได้ ก็พระราชทานรางวัลเงินทองผ้าแพรพรรณต่าง ๆ แก่นางนั้นเป็นอันมาก ถ้านางใดอดทนมิได้ไซร้ ทรงพระพิโรธ และทรงประหารลงที่ประฉิมุราประเทศให้ถึงแก่ความตาย แล้วให้เอาโลงเข้ามาใส่ศพนางนั้นออกไปทางประตูพระราชวังข้างท้ายสนมนั้นเนือง ๆ และประตูนั้นก็เรียกว่า ประตูผีออก มีมาตราบเท่าทุกวันนี้

"อยู่มาครั้งหนึ่ง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จด้วยพระชลพาหนะออกไปประพาส ณ เมืองเพชรบุรี และเสด็จไปประทับแรมอยู่ ณ พระราชนิเวศน์ตำบลโตนดหลวง ใกล้ฝั่งพระมหาสมุทร และที่พระตำหนักนี้เป็นที่พระตำหนักเคยประพาสมหาสมุทรมาแต่ก่อนครั้งแผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรบรมราชาธิราชบพิตรเป็นเจ้านั้น และสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินก็เสด็จด้วยพระที่นั่งมหานาวาท้ายรถ แล่นไปประพาสในท้องพระมหาสมุทรตราบเท่าถึงตำบลเขาสามร้อยยอด และทรงเบ็ดตกปลาฉลามและปลาอื่นเป็นอันมาก แล้วเสด็จกลับมา ณ ตำหนักโตนดหลวง และเสด็จเที่ยวประพาสอยู่ดังนั้นประมาณ 15 เวร จึ่งเสด็จกลับยังกรุงเทพมหานคร"

พระราชกรณียกิจ

ด้านศาสนา

  1. ทรงปฏิสังขรณ์มณฑปสวมรอยพระพุทธบาทสระบุรี สร้างมาแต่ครั้งสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ซึ่งทำเป็นยอดเดียวชำรุด โปรดฯ ให้สร้างใหม่เป็น 5 ยอด รวมทั้งปฏิสังขรณ์ทั่วทั้งอาราม
  2. ปี พ.ศ. 2249 เกิดอัสนีบาตต้องยอดมณฑปพระมงคลบพิตร เครื่องบนมณฑป ทรุดโทรมพังลงมาต้องพระศอพระมงคลบพิตรหัก โปรดฯ ให้รื้อเครื่องบนออก ก่อสร้างใหม่แปลงเป็นมหาวิหาร
  3. เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกที่เสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการพระพุทธฉายและสันนิษฐานว่าค้นพบในสมัยพระองค์
  4. พระราชกรณียกิจที่สำคัญอันเกี่ยวเนื่องเมืองพิจิตร เพื่อเป็นการรำล......าบริเวณวัดกว้างขวางใหญ่โต ใช้เวลาสร้าง 2 ปี จึงสำเร็จ เสด็จพระราชดำเนินมาทำการฉลองด้วยพระองค์เอง มีการฉลอง สามวันสามคืน มีมหรสพครึกครื้น และมีผู้คนมากมายมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทและ ดูมหรสพ ฉลองเสร็จแล้วทรงพระราชอุทิศถวายเลขข้าพระไว้สำหรับอุปฐากพระอารามถึง 200 ครัวเรือน นับว่าครั้งนั้นวัดโพธิ์ประทับช้างเป็นวัดที่เด่นที่สุดในเมืองพิจิตร

สมเด็จพระเจ้าเสือทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา โปรดฯ ให้สมเด็จเจ้าแตงโม (พระสุวรรณมุนี) เป็นพระอาจารย์สอนวิชาความรู้แก่พระราชโอรสและพระราชนัดดา ทรง......

  1. บดีมีพระราชโอรสด้วยพระมเหษีใหญ่ ๓ องค์ องค์ที่ ๑ พระนาม สุรินทกุมาร องค์ที่ ๒ พระนามวรราชกุมาร ​องค์ที่ ๓ พระนามว่า อนุชากุมาร ๆ นี้กล้าหาญดุร้ายมาก วัน ๑ รับสั่งให้พวกมหาดเล็กเด็ก ๆ ด้วยกันว่ายข้ามแม่น้ำ พวกมหาดเล็กเกรงอาญาก็พากันว่ายไป ที่มีกำลังน้อยจมตายบ้างก็มี กิติศัพท์ทราบถึงพระเจ้าสุริเยนทราธิบดี ๆ ทรงพระพิโรธ รับสั่งให้เอาอนุชากุมารไปสำเร็จโทษเสียดังเด็กที่จมน้ำตายนั้นซึ่งคดเคี้ยวให้ตรง และขุดลัดคลองอ้อมเกร็ด[ต้องการอ้างอิง]
  2. ทรงให้มีการปรับปรุงเส้นทางทางไปพระพุทธบาทสระบุรี ให้เดินทางมาสะดวกยิ่งขึ้น

สวรรคต

พระเจ้าเสืออยู่ในพระราชสมบัติ พ.ศ. 2246 – 2251 เป็นเวลา 5 ปี สวรรคตเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2251 พระชนมายุ 47 พรรษา

พงศาวลี

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
สมเด็จพระเพทราชา
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ท้าวศรีสัจจา (พระนมเปรม)
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
พระเจ้าเสือ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
พญาหลวงทิพเนตร
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
พญาแสนหลวง
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
นางกุสาวดี
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
พระชายาในพญาแสนหลวง
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

เชิงอรรถ
  1. "6 กุมภาพันธ์ "วันมวยไทย" เทิดไท้ "พระเจ้าเสือ"". พีพีทีวี. 5 กุมภาพันธ์ 2559. สืบค้นเมื่อ 9 กันยายน 2559. Check date values in: |accessdate=, |date= (help)
  2. ราชอาณาจักรสยาม
  3. สุจิตต์ วงษ์เทศ. กรุงเทพฯ มาจากไหน?. กรุงเทพฯ:มติชน, 2548, หน้า 70
  4. ถิ่นประสูติพระเจ้าเสือ - จังหวัดพิจิตร
  5. ทรงวิจารณ์เรื่องพระราชพงศาวดารกับเรื่องประเพณีการตั้งพระมหาอุปราช, หน้า 42-59
  6. พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ, หน้า 328
  7. ประวัติความเป็นมาของมวยไทย - สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ
  8. ประวัติมวยไทย[ลิงก์เสีย]
  9. พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) และเอกสารอื่น หน้า 318, 333
  10. พระราชพงศาวดาร ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน ตรวจสอบชำระจากเอกสารตัวเขียน, หน้า 239-240
  11. สุทธิศักดิ์ ระบอบ สุขสุวานนท์. "พงศาวดารกระซิบเรื่องโอรสลับพระนารายณ์". ในศิลปวัฒนธรรม ปีที่ 30 ฉบับที่ 11 กันยายน 2552 กรุงเทพ:สำนักพิมพ์มติชน,2552. หน้า 109
  12. พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุทธยา และพงศาวดารเหนือ. เล่ม 2. กรุงเทพฯ:องค์การค้าของคุรุสภา, 2504. หน้า 91-94
  13. พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุทธยา และพงศาวดารเหนือ. เล่ม 2. กรุงเทพฯ:องค์การค้าของคุรุสภา, 2504. หน้า 183
  14. ปฐมวงศ์ ฉบับของ ก.ศ.ร. กุหลาบ, ในอภินิหารบรรพบุรุษและปฐมวงศ์. สุจิตต์ วงษ์เทศ บรรณาธิการ. กรุงเทพฯ:มิตชน, 2545, หน้า 68
  15. เอนเยลเบิร์ต แกมป์เฟอร์ เขียน, อัมพร สายสุวรรณ แปล. ไทยในจดหมายเหตุแกมป์เฟอร์. กรุงเทพฯ:กรมศิลปากร, 2545, หน้า 64
  16. เพ็ญสุภา สุขคตะ ใจอินทร์. (17 กุมภาพันธ์ 2555). "พระปีย์ vs พระเจ้าเสือ ใครคือโอรสลับของพระนารายณ์?". มติชนสุดสัปดาห์. 32:1644, หน้า 76
  17. จุลลดา ภักดีภูมินทร์. พระบัณฑูรใหญ่ พระบัณฑูรน้อย[ลิงก์เสีย]. สกุลไทย ฉบับที่ ...2...ท 47 ประจำวันอังคารที่ 26 มิถุนายน 2544
บรรณานุกรม
  • พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว. ทรงวิจารณ์เรื่องพระราชพงศาวดารกับเรื่องประเพณีการตั้งพระมหาอุปราช. พระนคร : โรงพิมพ์พระจันทร์, 2479. 95 หน้า.
  • พระราชพงศาวดาร ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน ตรวจสอบชำระจากเอกสารตัวเขียน. กรุงเทพฯ : อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง, 2558. 558 หน้า. ISBN 978-616-92351-0-1 [จัดพิมพ์โดยเสด็จพระราชกุศลในการพระราชทานเพลิงศพพระธรรมปัญญาบดี (ถาวร ติสฺสานุกโร ป.ธ.๔)]
  • พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) และเอกสารอื่น. นนทบุรี : ศรีปัญญา, 2553. 800 หน้า. ISBN 978-616-7146-08-9


ก่อนหน้า สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 ถัดไป
สมเด็จพระเพทราชา
(พ.ศ. 2231-2246)
   
พระเจ้ากรุงศรีอยุธยา
(พ.ศ. 2246-2251)
  สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9
(พ.ศ. 2251-2275)


สมเด, จพระสรรเพชญ, พระเจ, าส, เยนทราธ, บด, คำให, การชาวกร, งเก, งพระบาทสมเด, จพระจ, ลจอมเกล, าเจ, าอย, วทรงว, จฉ, ยพระนามว, าเป, เป, นพระมหากษ, ตร, ไทยร, ชกาลท, แห, งอาณาจ, กรอย, ธยา, และเป, นพระองค, สองแห, งราชวงศ, านพล, หลวง, ราชวงศ, ดท, ายของอาณาจ, กรอย, ธย. phraecasurieynthrathibdi khaihkarchawkrungeka sungphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwthrngwinicchyphranamwaepnsmedcphrasrrephchythi 8 5 epnphramhakstriyithyrchkalthi 29 aehngxanackrxyuthya aelaepnphraxngkhthisxngaehngrachwngsbanphluhlwng rachwngssudthaykhxngxanackrxyuthya thrngkhrxngrachy ph s 2246 ph s 2251phraecasurieynthrathibdiphraecakrungsrixyuthyakhrxngrachy6 kumphaphnth 1 ph s 2246 2251kxnhnasmedcphraephthrachathdipsmedcphrasrrephchythi 9phrarachbutrsmedcphraecaxyuhwthaysrasmedcphraecaxyuhwbrmoksecafahyingimpraktphranamecafahyingaekw 2 phraxngkhecathbthim 3 rachwngsbanphluhlwngphrarachbidasmedcphraephthrachaphrarachmardanangkusawdiphrarachsmphphph s 2204tablophthiprathbchang emuxngphicitr xanackrxyuthya 4 swrrkht9 kumphaphnth ph s 2251 47 phrrsa krungsrixyuthya xanackrxyuthyaphukhninsmyphraxngkhmkeriykkhanphraxngkhwa phraecaesux ephuxepriybwa phraxngkhmiphraxupnisyohdraydngesux 6 phraxngkhthrngmiphraprichadanmwyithy odythrngepnphukhidthaaemimmwyithy sungmihlkthanthangprawtisastrpraktchdecn aelaidmikarthaythxdepntaraihchawithyrunhlngideriynrufukfncnthungpccubnsankngankhnakrrmkarwthnthrrmaehngchati idrabuinhnngsux silpamwyithy thungphraxngkhinkarplxmphraxngkhepnchawbanmachkmwykbnkmwyfimuxdicakemuxngwiesschychay aelasamarthchnankmwyexkidthung 3 khn sungidaek nayklang hmdtay nayihy hmdehlk aelanayelk hmdhnk 7 pccubn krathrwngwthnthrrm idkahndihwnthi 6 kumphaphnth sungtrngkbwnthiphraxngkhidkhunkhrxngrachytamhlkthaninprawtisastrepnwnmwyithy 1 nxkcakni phraxngkhyngthrngfukecafaephchraelaecafaphrphuepnphrarachoxrs ihmikhwamsamarthindanmwyithy krabikrabxng aelamwypla 8 enuxha 1 phrarachprawti 1 1 thsna 2 khrxngrachy 3 phraxupnisy 4 phrarachkrniykic 4 1 dansasna 5 swrrkht 6 phngsawli 7 duephim 8 xangxingphrarachprawti aekikhphrarachphngsawdar chbbphncnthnumas ecim rabuwaphraecaesuxepnsmedcphraecalukyaethxinsmedcphraephthracha 9 swnphrarachphngsawdar chbbsmedcphraphnrtn wdphraechtuphn chbbtwekhiyn rabuwaepnphrarachoxrslbinsmedcphranaraynmharachkbphrasnmsungepnphrarachthidainphyaaesnhlwng ecaemuxngechiyngihm 10 odykhaihkarkhunhlwnghawdxxkphranamwa phrarachchayaethwi hrux ecacxmsmbuy swninkhaihkarchawkrungekaeriykwa nangkusawdi 11 txmasmedcphranaraynmharachidphrarachthanphrasnmdngklawihaekphraephthracha emuxkhrngthidarngtaaehnng ecakrmchang odyinkhaihkarkhunhlwnghawdaelakhaihkarchawkrungeka mienuxhasxdkhlxngkn klawkhuxnangepnsnmlbkhxngphranaraynaetaetktangknephiyngchuxkhxngnang aelaehtuphlinkarphrarachthanphraoxrsaekphraephthracha aetphrarachphngsawdar chbbsmedcphraphnrtn klbihkhxmulekiywkbphrachatikaenidaetktangipcakkhaihkarkhxngkhunhlwnghawdaelakhaihkarchawkrungeka odymienuxhaekiywkbsmedcphranaraynmharach thrngthasuksngkhramkbemuxngechiyngihmaelwidrachthidaecaemuxngechiyngihmepnsnm aetnangsnmekidtngkhrrph phraxngkhidlaxayphrathydwyethxepnnanglaw phraxngkhcungidphrarachthanaekphraephthracha 11 dngkhwaminphrarachphngsawdar chbbphraphnrtn khwamwa 12 aelwemuxphraxngkhesdcphrarachdaeninmacakemuxngechiyngihmnn phraxngkhesdcthrngsngwasdwyphrarachthidaecaemuxngechiyngihm aelanangnnkthrngkhrrphkhunma thrngphrakrunalaxayphrathy cungphrarachthannangnnihaekphraephthracha aelwdarswananglawnimikhrrphkhunma eracaexaipeliyngiwinphrarachwngkkhidlaxayaekphrasnmthngpwng aelathancngrbexaipeliyngiw n banethid aelaphraephthrachakrbphrarachthanexanangnnipeliyngiw n ban odyehtuphlkhxngsmedcphranaraynmharachidpraktinkhaihkarchawkrungekawa phraxngkhthrngekrngwaphrarachoxrsxngkhnicakhidkbtchingrachsmbtixyangemuxkhrawphrasrisilp swnkhaihkarkhxngkhunhlwnghawdwa phraxngkhthrngtxngrksarachbllngkihkbphrarachoxrsthiprasutiaetphraxkhrmehsiethann 11 phrarachphngsawdar chbbsmedcphraphnrtn rabuwaphranamedimkhxngphraxngkhkhux maedux 12 13 swninhnngsuxpthmwngskhxng k s r kuhlab eriykwa dxkedux 14 enuxngcakprasutiittnmaeduxinaekhwngemuxngphicitr khnaphramardaesdctidtamxxkphraephthrachaodyesdcsmedcphraramathibdithi 3 smedcphranarayn esdckhunipnmskarphraphuththchinrachaelaphraphuththchinsihthiemuxngphisnuolkcdhmayehtuexneylebirt aekmpefxr Engelbert Kaempfer nayaephthychaweyxrmnpracakhnathutkhxngbristhxistxinediykhxnghxlndathiekhamaecriyphrarachimtrirachsanksyaminpi ph s 2233 idihkhxmulsakhyekiywkbpiprasutikhxngxxkhlwngsrskdiwa emux ph s 2233 phrasrskdi Peja Surusak phramhaxuprachmiphrachnm 20 phrrsa 15 aesdngwaphraxngkhprasutiinpi ph s 2213 11 thsna aekikh xyangirktam smedcphraecabrmwngsethx krmphrayadarngrachanuphaph mithrngechuxwahlwngsrskdicaepnphrarachoxrslbinsmedcphranarayn thrngwinicchywainemuxhlwngsrskdiruxyuetmxkwasmedcphranaraynkhuxphrarachbida ehtuichncungrwmmuxkbphraephthrachabidabuythrrmprabdaphieskchnkaeth khxngtn aethnthicapracbexaickhxrachsmbtikbphrarachbidaemuxkhrngyngprachwr swnephysupha sukhkhta icxinthr wa phrayaaesnhlwng ecaphukhrxngechiyngihmthitkepnechlymayngkrungsrixyuthyannkmiidmithanatatxyxnid sayngcadumihnamitaephraasamarthtxokhlngkbsriprachy kwiinrchkalid thahakphrayaaesnhlwngepnphrasssurakhxngsmedcphranarayncring knacaepnthikhwamphakhphumimakkwaxbxay aelayngsamarthichkaresksmrsdngklawepnehtuphlthangkaremuxngekhakhrxbkhrxnglannaphanphrachayaid 16 khrxngrachy aekikhinsmysmedcphranaraynmharach smedcphraecaesuxidthwaytwepnmhadelkrbrachkarepnthi oprdprankhxngsmedcphranaraynmharach txmaidtaaehnngepnhlwngsrskdi smysmedcphraephthracha hlwngsrskdiihrbsthapnaepnphramhaxuprach krmphrarachwngbwrsthanmngkhlsunghwngcaidkhunkhrxngrachsmbtitxcaksmedcphraephthracha aetsmedcphraephthrachaklbthrngoprdpranecaphrakhwy phrarachoxrskhxngphraxngkhaelakrmhlwngoythathiph hlkthanrwmsmywakrmhlwngoythaethph aethmmiphukhnmakmaytangphaknnbthux thaihkrmphrarachwngbwr ekidkhwamhwadraaewngwarachsmbticatkipxyukbecaphrakhwy cungekidehtukarnnaecaphrakhwymasaercothsdwyimthxncnthremuxsmedcphraephthrachasungthrngprachwrthrngthrabthrngphraphiorthkrmphrarachwngbwr epnxnmakaeltrswacaimykrachsmbtiihaekkrmphrarachwngbwr aelwthrngphrakrunatrsewnrachsmbtiih ecaphraphiichysurinthr phrarachndda hlngcaknnsmedcphraephthrachathrngswrrkht ecaphraphiichysurinthrthrngekrngklwkrmphrarachwngbwrcungimklarb aelanxmthwayrachsmbtiaedkrmphrarachwngbwremuxkrmphrarachwngbwr idkhunkhrxngrachsmbtiinpi ph s 2246 miphrarachoxrs 2 phraxngkh khux ecafaephchr smedcphraecaxyuhwthaysra aelaecafaphr smedcphraecaxyuhwbrmoks miphrasmyyanamwa esux 4 tngaetsmythiyngdarngtaaehnngepn hlwngsrskdiinsmysmedcphranaraynmharachmaaelw 17 thrngmikhwameddkhadinkarmirbsngihphuthiptibtinganidtxngsaercphlepnxyangdi hakbkphrxngphraxngkhcamirbsngihlngoths imechphaakharachbripharethann aemphrarachoxrsthngsxngkechnkn xyangechn inkaresdcipkhlxngchangthiemuxngnkhrswrrkh mirbsngihecafaephchraelaecafaphrtdthnnkham bunghukwang odythmbungswnhnungihesrcphayinhnungkhun phrarachoxrsdaeninnganesrctamkahnd aetemuxesdcphrarachdaenin changthrngtkhlum thrnglngphrarachxayaecafaephchr aetphayhlngkidrbphrarachthanxphyoths 17 phraxupnisy aekikhphrarachphngsawdar chbbphncnthnumas ecim rabuwa 6 smedcphraecaxyuhwphxphrathyeswynacnth aelwesphsngwasdwydrunixitthistriedkxayu 11 12 pi thastriidesuxkdinokhrngip ihkhdekhuxng txngkarxangxing calngphrarachxachyathxngyxdxktaykbthi thastriid imdinesuxkokhrngningxyu chxbphraxchchasy phrarachthanbaehncrangwl prakarhnung thaesdcippraphasmcchachatichnakchlaminchlmarkhthangthaelekaasichngekhasammukhaelpraethsthiid yxmeswynacnthphlang thahmuphrasnmnikrnanginaelmhadelk chawthithaiheruxphrathinngokhlngihwip miidmiphrawicarna prascakphrakrunayan luxanacaekphraothos darssngihexaphunnekiywebdthinglngipklangthael ihplachnakchlamkinepnxahar prakarhnung prascakphraebycangkhiksil mkphxphrathythaxnacaresphsngwaskbphrryakhunnang aetnnmaphranamprakteriykwa phraecaesux khnathiphrarachphngsawdarkrungsyam caktnchbbkhxngbritichmiwesiymbnthukiwthanxngediywknwa khrngnn smedcphraecaaephndinmiphrarachhvthykkkhla hyabcha tharun raykac prascakkuslsucrit thrngphrapraphvtiphidphrarachpraephni miidmihirioxtppa aelaphrathyhnaipdwyxkusllamk miwitkinothsomhmulecuxipinphrasndanepnnirndrmiidkhad aelphraxngkheswynacnthkhawxyuepnnic aelwmkyindiinkarxnsngwasdwynangkumarixnyngmiidmiradu thaaelanangidxutsahxdthnid kphrarachthanrangwlenginthxngphaaephrphrrntang aeknangnnepnxnmak thanangidxdthnmiidisr thrngphraphiorth aelathrngpraharlngthiprachimurapraethsihthungaekkhwamtay aelwihexaolngekhamaissphnangnnxxkipthangpratuphrarachwngkhangthaysnmnnenuxng aelapratunnkeriykwa pratuphixxk mimatrabethathukwnni xyumakhrnghnung smedcphraecaxyuhwesdcdwyphrachlphahnaxxkippraphas n emuxngephchrburi aelaesdcipprathbaermxyu n phrarachniewsntablotndhlwng iklfngphramhasmuthr aelathiphratahnkniepnthiphratahnkekhypraphasmhasmuthrmaaetkxnkhrngaephndinsmedcphranerswrbrmrachathirachbphitrepnecann aelasmedcphraecaaephndinkesdcdwyphrathinngmhanawathayrth aelnippraphasinthxngphramhasmuthrtrabethathungtablekhasamrxyyxd aelathrngebdtkplachlamaelaplaxunepnxnmak aelwesdcklbma n tahnkotndhlwng aelaesdcethiywpraphasxyudngnnpraman 15 ewr cungesdcklbyngkrungethphmhankhr phrarachkrniykic aekikhdansasna aekikh thrngptisngkhrnmnthpswmrxyphraphuththbathsraburi srangmaaetkhrngsmedcphraecathrngthrrm sungthaepnyxdediywcharud oprd ihsrangihmepn 5 yxd rwmthngptisngkhrnthwthngxaram pi ph s 2249 ekidxsnibattxngyxdmnthpphramngkhlbphitr ekhruxngbnmnthp thrudothrmphnglngmatxngphrasxphramngkhlbphitrhk oprd ihruxekhruxngbnxxk kxsrangihmaeplngepnmhawihar epnphramhakstriyphraxngkhaerkthiesdcphrarachdaeninipnmskarphraphuththchayaelasnnisthanwakhnphbinsmyphraxngkh phrarachkrniykicthisakhyxnekiywenuxngemuxngphicitr ephuxepnkarral abriewnwdkwangkhwangihyot ichewlasrang 2 pi cungsaerc esdcphrarachdaeninmathakarchlxngdwyphraxngkhexng mikarchlxng samwnsamkhun mimhrsphkhrukkhrun aelamiphukhnmakmaymaefathullaxxngthuliphrabathaela dumhrsph chlxngesrcaelwthrngphrarachxuthisthwayelkhkhaphraiwsahrbxupthakphraxaramthung 200 khrweruxn nbwakhrngnnwdophthiprathbchangepnwdthiednthisudinemuxngphicitrsmedcphraecaesuxthrngeluxmisinphraphuththsasna oprd ihsmedcecaaetngom phrasuwrrnmuni epnphraxacarysxnwichakhwamruaekphrarachoxrsaelaphrarachndda thrng bdimiphrarachoxrsdwyphramehsiihy 3 xngkh xngkhthi 1 phranam surinthkumar xngkhthi 2 phranamwrrachkumar xngkhthi 3 phranamwa xnuchakumar niklahayduraymak wn 1 rbsngihphwkmhadelkedk dwyknwaykhamaemna phwkmhadelkekrngxayakphaknwayip thimikalngnxycmtaybangkmi kitisphththrabthungphraecasurieynthrathibdi thrngphraphiorth rbsngihexaxnuchakumaripsaercothsesiydngedkthicmnataynnsungkhdekhiywihtrng 4 aelakhudldkhlxngxxmekrd txngkarxangxing thrngihmikarprbprungesnthangthangipphraphuththbathsraburi ihedinthangmasadwkyingkhunswrrkht aekikhphraecaesuxxyuinphrarachsmbti ph s 2246 2251 epnewla 5 pi swrrkhtemuxwnthi 9 kumphaphnth pi ph s 2251 phrachnmayu 47 phrrsaphngsawli aekikh smedcphraephthracha thawsriscca phranmeprm phraecaesux phyahlwngthiphentr phyaaesnhlwng nangkusawdi phrachayainphyaaesnhlwng duephim aekikhrayphranamphramhakstriyithy phnthaynrsinghxangxing aekikhechingxrrth 1 0 1 1 6 kumphaphnth wnmwyithy ethidith phraecaesux phiphithiwi 5 kumphaphnth 2559 subkhnemux 9 knyayn 2559 Check date values in accessdate date help rachxanackrsyam sucitt wngseths krungethph macakihn krungethph mtichn 2548 hna 70 4 0 4 1 4 2 thinprasutiphraecaesux cnghwdphicitr thrngwicarneruxngphrarachphngsawdarkberuxngpraephnikartngphramhaxuprach hna 42 59 6 0 6 1 phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbphncnthnumas hna 328 prawtikhwamepnmakhxngmwyithy saranukrmithysahrbeyawchn prawtimwyithy lingkesiy phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbphncnthnumas ecim aelaexksarxun hna 318 333 phrarachphngsawdar chbbsmedcphraphnrtn wdphraechtuphn trwcsxbcharacakexksartwekhiyn hna 239 240 11 0 11 1 11 2 11 3 suththiskdi rabxb sukhsuwannth phngsawdarkrasiberuxngoxrslbphranarayn insilpwthnthrrm pithi 30 chbbthi 11 knyayn 2552 krungethph sankphimphmtichn 2552 hna 109 12 0 12 1 phrarachphngsawdarkrungsrixyuththya aelaphngsawdarehnux elm 2 krungethph xngkhkarkhakhxngkhuruspha 2504 hna 91 94 phrarachphngsawdarkrungsrixyuththya aelaphngsawdarehnux elm 2 krungethph xngkhkarkhakhxngkhuruspha 2504 hna 183 pthmwngs chbbkhxng k s r kuhlab inxphiniharbrrphburusaelapthmwngs sucitt wngseths brrnathikar krungethph mitchn 2545 hna 68 exneylebirt aekmpefxr ekhiyn xmphr saysuwrrn aepl ithyincdhmayehtuaekmpefxr krungethph krmsilpakr 2545 hna 64 ephysupha sukhkhta icxinthr 17 kumphaphnth 2555 phrapiy vs phraecaesux ikhrkhuxoxrslbkhxngphranarayn mtichnsudspdah 32 1644 hna 76 17 0 17 1 cullda phkdiphuminthr phrabnthurihy phrabnthurnxy lingkesiy skulithy chbbthi 2 th 47 pracawnxngkharthi 26 mithunayn 2544 brrnanukrmphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw thrngwicarneruxngphrarachphngsawdarkberuxngpraephnikartngphramhaxuprach phrankhr orngphimphphracnthr 2479 95 hna phrarachphngsawdar chbbsmedcphraphnrtn wdphraechtuphn trwcsxbcharacakexksartwekhiyn krungethph xmrinthrphrinting aexnd phblichching 2558 558 hna ISBN 978 616 92351 0 1 cdphimphodyesdcphrarachkuslinkarphrarachthanephlingsphphrathrrmpyyabdi thawr tis sanukor p th 4 phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbphncnthnumas ecim aelaexksarxun nnthburi sripyya 2553 800 hna ISBN 978 616 7146 08 9 kxnhna smedcphrasrrephchythi 8 thdipsmedcphraephthracha ph s 2231 2246 phraecakrungsrixyuthya ph s 2246 2251 smedcphrasrrephchythi 9 ph s 2251 2275 ekhathungcak https th wikipedia org w index php title smedcphrasrrephchythi 8 amp oldid 9535853, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม