หม่อมสุ่น คัคณางค์ ณ อยุธยา
หม่อมสุ่น คัคณางค์ ณ อยุธยา (13 สิงหาคม พ.ศ. 2402 — 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2492) เป็นหม่อมคนเดียวในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร และเป็นพระอัยยิกาฝ่ายพระราชชนนีในสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี
หม่อมสุ่น คัคณางค์ ณ อยุธยา | |
---|---|
เกิด | 13 สิงหาคม พ.ศ. 2402 ตำบลสะพานหัน จังหวัดพระนคร |
เสียชีวิต | 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2492 (89 ปี) ตำบลสีลม อำเภอบางรัก จังหวัดพระนคร |
คู่สมรส | พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร |
บุตร | 6 พระองค์ |
บิดามารดา | กิม เต่า |
ประวัติ
หม่อมสุ่น เป็นบุตรีของกิมและเต่า เกิดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2402 บิดาเป็นพ่อค้าผ้าลายและผ้าแพร เธอได้รับการศึกษาพอสมควรกับฐานะของกุลสตรีในสมัยนั้น ต่อมาได้ถวายตัวเป็นหม่อมในพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าคัคณางคยุคล พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4
หม่อมสุ่นเป็นที่เลื่องลือว่างามมากในสมัยที่ยังสาว กล่าวกันว่าผิวเธอเหมือนงาช้าง และหน้าตาเหมือนรูปปั้น หม่อมเจ้าฉวีวิลัย สวัสดิวัตน์ พระธิดาของหม่อมสุ่น ทรงเล่าประทานหม่อมราชวงศ์รสลิน คัคณางค์ ว่าเมื่อทรงชมพระสิริโฉมของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี เสด็จพ่อทรงเห็นด้วย แต่ตรัสว่า "ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่ถึงหญิงอาภา และหญิงอาภา ก็ยังไม่ถึงหม่อมสุ่น"
เมื่อหม่อมสุ่นถวายตัวกับพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าคัคณางคยุคลแล้ว เมื่อสามีเสด็จไปราชการทางภาคพายัพและอีสาน เธอก็ตามเสด็จไปด้วยทุกครั้ง เมื่อครั้งวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2436) ในเวลาที่สยามกับประเทศฝรั่งเศสเกิดผิดใจกันและสู้รบกันขึ้นตามริมแม่น้ำโขง ขณะนั้นพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร มีตำแหน่งเป็นข้าหลวงใหญ่มณฑลอีสาน ต้องทรงบัญชางาน หม่อมสุ่นอยู่แนวหลังทำหน้าที่เป็นผู้จัดเตรียมเสบียงและยาสำหรับส่งไปให้ทหาร และช่วยดูแลภรรยาและครอบครัวข้าราชการที่ไปราชการฉุกเฉินในครั้งนั้น
หม่อมสุ่นเล่าว่าเธอเป็นห่วงพระโอรสธิดามาก เพราะยังเยาว์อยู่ เกรงว่าหากเกิดฉุกเฉินจนถึงเสียชีวิตผู้ใหญ่ เด็กก็จะลำบาก แต่สามีตรัสปลอบว่า หากพระองค์ต้องสิ้นพระชนม์ในราชการแล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็จะทรงพระกรุณาเลี้ยงลูกพระราชทานเอง
ในครั้งนั้นเจ้านายฝ่ายใน หม่อมห้าม และภรรยาข้าราชการในพระนครชักชวนกันจัดตั้งสภาอุณาโลมแดง (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นสภากาชาดไทย) เพื่อช่วยรักษาพยาบาลทหารป่วยไข้ จัดยาและเครื่องอุปโภคบริโภคส่งไปมณฑลอีสานเพื่อแจกจ่ายต่อไป หม่อมสุ่นได้รับมอบหมายจากสภาอุณาโลมแดงให้เป็นผู้จัดการแจกจ่ายด้านจังหวัดนครจัมปาศักดิ์ ด้วยทำงานของสภาอุณาโลมแดงมาตั้งแต่ต้น ทำให้เธอมีใจผูกพันต่องานของสภากาชาดไทยและให้การอุปการะสงเคราะห์แก่ สภากาชาดไทยตามกำลังของเธอ ตลอดชีวิต
พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร ทรงสนพระทัยในการกสิกรรม และโปรดทดลองทำนา ทำสวน ทรงสั่งเครื่องจักรและปศุสัตว์พันธุ์ต่างประเทศซึ่งมีลักษณะดีกว่าพันธุ์พื้นเมืองมาทรงเลี้ยง เมื่อสามีโปรดเช่นนั้น หม่อมสุ่นก็สนองพระประสงค์ ไปควบคุมดูแลการทำนา ทำสวน และเลี้ยงสัตว์ด้วยตนเองตลอดพระชนม์ชีพของสามี
เมื่อพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2452 (แบบสากลคือ พ.ศ. 2453) หม่อมสุ่นก็วางมือจากภาระงาน และฝักใฝ่อยู่ในการกุศลสาธารณสงเคราะห์ และอุปการะลูกหลาน
หม่อมสุ่น คัคณางค์ ณ อยุธยา ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2492 ณ บ้านถนนประมวญ สิริอายุ 90 ปี ได้รับพระราชทานโกศเป็นเกียรติยศในงานพระราชทานเพลิงศพ
พระโอรส-พระธิดา และนัดดา
หม่อมสุ่น คัคณางค์ ณ อยุธยา มีพระโอรส-พระธิดากับพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร 6 พระองค์ ได้แก่
- พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภาพรรณี (28 มีนาคม พ.ศ. 2417 — 6 สิงหาคม พ.ศ. 2481) เสกสมรสกับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ มีพระโอรส-พระธิดา 9 องค์ ได้แก่
- หม่อมเจ้าเสรีสวัสดิกมล (6 กันยายน พ.ศ. 2445 — 7 มีนาคม พ.ศ. 2454)
- หม่อมเจ้าโสภณภราไดย สวัสดิวัตน์ (8 มกราคม พ.ศ. 2446 — 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2514) เสกสมรสกับพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ามยุรฉัตร, หม่อมแตงนวล และหม่อมประเทือง สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา
- สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี (20 ธันวาคม พ.ศ. 2447 — 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2527) พระบรมราชินีในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
- หม่อมเจ้าใหม่ (19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2448 — 17 มีนาคม พ.ศ. 2448)
- หม่อมเจ้าแดง (25 เมษายน พ.ศ. 2450 — 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2450)
- หม่อมเจ้านนทิยาวัด สวัสดิวัตน์ (25 เมษายน พ.ศ. 2452 — 18 ตุลาคม พ.ศ. 2501) เสกสมรสกับหม่อมเจ้าสุวภาพเพราพรรณ (ราชสกุลเดิม วุฒิชัย)
- หม่อมเจ้าอรชุนชิษณุ สวัสดิวัตน์ (15 มกราคม พ.ศ. 2453 — 26 ตุลาคม พ.ศ. 2512) เสกสมรสกับพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจันทรกานตมณี
- หม่อมเจ้ารอดรมาภัฎ (24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2458 — 4 สิงหาคม พ.ศ. 2460)
- หม่อมเจ้ายุธิษเฐียร สวัสดิวัตน์ (9 มีนาคม พ.ศ. 2460 — 24 กันยายน พ.ศ. 2528) เสกสมรสกับหม่อมราชวงศ์ภัทราตรีทศ (ราชสกุลเดิม เทวกุล)
- หม่อมเจ้าหญิงกลาง (พ.ศ. 2418 — พ.ศ. 2424)
- หม่อมเจ้าฉวีวลัย สวัสดิวัตน์ (29 มีนาคม พ.ศ. 2424 — 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2473) เสกสมรสกับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ มีพระโอรส-พระธิดา 11 องค์ ได้แก่
- หม่อมเจ้าพีรยศยุคล สวัสดิวัตน์ (16 มกราคม พ.ศ. 2451 — 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2519) เสกสมรสกับหม่อมเอสเตอร์
- หม่อมเจ้ารัสสาทิศ กฤดากร (21 กรกฎาคม พ.ศ. 2452 — 23 สิงหาคม พ.ศ. 2539) เสกสมรสกับหม่อมเจ้าสมัยเฉลิม กฤดากร
- หม่อมเจ้าผุสสดีวิลาส สวัสดิวัตน์ (5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2454 — 8 สิงหาคม พ.ศ. 2500)
- หม่อมเจ้าผ่องผัสมณี จักรพันธุ์ (2 ตุลาคม พ.ศ. 2455 — 26 มีนาคม พ.ศ. 2526) เสกสมรสกับหม่อมเจ้าการวิก จักรพันธุ์
- หม่อมเจ้ากอกษัตริย์ สวัสดิวัตน์ (27 มกราคม พ.ศ. 2457 — 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2513) เสกสมรสกับหม่อมเนลลี่ (สกุลเดิม วอง)
- หม่อมเจ้าผ่องศรีวิลัย สวัสดิวัตน์ (พระนามเดิม เหมวิลัย; 23 เมษายน พ.ศ. 2458 — 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2537)
- หม่อมเจ้าลอลิไตย (16 เมษายน พ.ศ. 2459 — พ.ศ. 2461)
- หม่อมเจ้าสีดาดำรวง ชุมพล (2 สิงหาคม พ.ศ. 2461 — 25 สิงหาคม พ.ศ. 2533) เสกสมรสกับหม่อมเจ้ากมลีสาณ ชุมพล
- มัทรีโสภนา ดุลยจินดา (เดิม หม่อมเจ้ามัทรีโสภนา สวัสดิวัตน์; 11 ธันวาคม พ.ศ. 2462 — 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2546) ลาออกจากฐานันดรศักดิ์เพื่อสมรสกับฟื้น ดุลยจินดา
- หม่อมเจ้าณางค์กูลสวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ (12 มีนาคม พ.ศ. 2464 — 12 กันยายน พ.ศ. 2507)
- วิสาขานุจฉวี อุตากาวา (เดิม หม่อมเจ้าวิสาขานุจฉวี สวัสดิวัตน์; 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2465 — 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555) ลาออกจากฐานันดรศักดิ์เพื่อสมรสกับโบชูกุ อุตากาวา
- หม่อมเจ้าน้อย (พ.ศ. 2427 — 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2428)
- หม่อมเจ้ากลาง (ถึงชีพิตักษัยเมื่อปี พ.ศ. 2431; ชันษา 9 เดือน)
- หม่อมเจ้าปรีดียากร (พ.ศ. 2432 — 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2453) เสกสมรสกับหม่อมวาด คัคณางค์ ณ อยุธยา มีธิดา 2 คน ได้แก่
- หม่อมราชวงศ์รสลิน คัคณางค์ (9 ธันวาคม พ.ศ. 2449 — 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547)
- หม่อมราชวงศ์รสมาลี เกษมสันต์ (เกิด 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2451; ถึงแก่กรรมแล้ว) สมรสกับหม่อมราชวงศ์มานพ เกษมสันต์
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 2 ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.)
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 5 เบญจมาภรณ์ช้างเผือก (บ.ช.)
- พ.ศ. 2470 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้า (ท.จ.) (ฝ่ายใน)
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 6 ชั้นที่ 1 (ว.ป.ร.1)
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 7 ชั้นที่ 3 (ป.ป.ร.3)
อ้างอิง
- ศุภวัฒย์ เกษมศรี, พลตรี หม่อมราชวงศ์, และรัชนี ทรัพย์วิจิตร. พระอนุวงศ์ชั้นหม่อมเจ้าในพระราชวงศ์จักรี. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์บรรณกิจ, พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2549. 360 หน้า. ISBN 974-221-818-8
- พิชิตปรีชากร, พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวง. ประชุมพระนิพนธ์. พระนคร : โรงพิมพ์ตีรณสาร, 2493. (หม่อมราชวงศ์หญิงรสริน คัคณางค์ พิมพ์สนองคุณคุณย่า หม่อมสุ่น คัคณางค์ ณ อยุยา วันที่ 5 มีนาคม พุทธศักราช 2493)
- "พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียญ" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 44 (0ง): 2567. 20 พฤศจิกายน 2470. Check date values in:
|date=
(help)