fbpx
วิกิพีเดีย

อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์

อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ เป็นหนึ่งในอุทยานประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำแควน้อยทางทิศเหนือในเขตตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี แวดล้อมด้วยทิวเขาเป็นแนวยาวอยู่โดยรอบ ลักษณะผังเมืองเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กำแพงเมืองก่อด้วยศิลาแลง กว้างประมาณ 800 เมตร หมายถึงส่วนกว้างของเมือง ยาวประมาณ 850 เมตร และกำแพงสูง 7 เมตร มีประตูเข้าออก 4 ด้าน มีคูน้ำคันดินล้อมรอบ ภายในเมืองมีสระน้ำ 6 สระ

อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์
Mueang Sing Historical Park
ข้อมูลทั่วไป
ประเภทปราสาทหิน
สถาปัตยกรรมขอมโบราณ
เมืองอำเภอเมืองกาญจนบุรี, จังหวัดกาญจนบุรี
ประเทศประเทศไทย
เริ่มสร้างราวพุทธศตวรรษที่ 17
ปรับปรุง2478
ปรางค์ประธาน โบราณสถานหมายเลข 1

ประวัติ

ปราสาทเมืองสิงห์ มีจุดมุ่งหมายสร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธศาสนสถานในพุทธศาสนา นิกายมหายาน จากการขุดตกแต่งของกรมศิลปากรที่ค่อยทำค่อยไปตั้งแต่ พ.ศ. 2478 แต่มาเริ่มบุกเบิกกันจริงจังเมื่อ พ.ศ. 2517 แล้วเสร็จเป็นอุทยานประวัติศาสตร์เมื่อ พ.ศ. 2530 จึงสวยงามดังที่เห็นอยู่ในวันนี้ ปราสาทเมืองสิงห์นี้กล่าวว่าสถาปัตยกรรมและปฏิมากรรม คล้ายคลึงกับของสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 (พ.ศ. 1720 - 1780) กษัตริย์นักสร้างปราสาทแห่งขอม จากการขุดแต่งของกรมศิลปากร พบศิลปกรรมที่สำคัญยิ่งคือพระพุทธรูปนาคปรก พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร และ นางปรัชญาปารมิตา และยังพบรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเปล่งรัศมีอีกองค์หนึ่ง รูปลักษณ์คล้ายกับที่พบในประเทศกัมพูชา ปัจจุบันกรมศิลปากรได้นำไปเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร แล้ว คงเหลือแต่องค์จำลองไว้

จากศิลาจารึกปราสาทพระขรรค์ เมืองพระนคร ประเทศกัมพูชา ซึ่งจารึกโดย พระวีรกุมาร พระราชโอรสของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7[ต้องการอ้างอิง] จารึกชื่อเมือง 23 เมือง ที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทรงสร้างไว้ มีเมืองชื่อ ศรีชัยสิงห์บุรี ซึ่งสันนิษฐานกันว่าคือเมือง ปราสาทเมืองสิงห์ นี่เอง[ต้องการอ้างอิง] และยังมีชื่อของเมือง ละโวธยปุระ หรือ ละโว้ หรือลพบุรี ที่มีพระปรางค์สามยอด เป็นโบราณวัตถุร่วมสมัย

แต่ในเรื่องดังกล่าวรองศาสตราจารย์ศรีศักร วัลลิโภดม เห็นว่าการที่นำเอาชื่อเมืองที่คล้ายคลึงกันในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาไปเปรียบเทียบกับบรรดาเมืองในเส้นทางคมนาคมในจารึกปราสาทพระขรรค์อย่างง่ายๆ โดยไม่คำนึงถึงหลักภูมิศาสตร์ เท่ากับเป็นการบิดเบือนความจริงอย่างมักง่าย เพราะบรรดาปราสาทขอมที่เรียกว่าอโรคยาศาลนั้นมักพบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (มีพบบ้างในบางส่วนของจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งปัจจุบันได้แยกเป็นจังหวัดสระแก้ว) และมีรูปแบบแตกต่างจากปราสาทขอมที่พบในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างสิ้นเชิง ตรงข้ามกับบรรดาปราสาทของที่พบบนเส้นทางคมนาคมจากละโว้ถึงเพชรบุรีและปราสาทเมืองสิงห์ แต่ละแห่งก็มีรูปแบบที่แตกต่างออกไป จะมีความคล้ายคลึงกันแต่รูปเคารพพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร และนางปรัชญาปารมิตาที่บ่งชี้ว่าน่าจะแพร่หลายมาจากเมืองละโว้ และพระโพธิสัตว์บางองค์นำมาจากเมืองพระนครก็มี แต่หลักฐานทั้งหมดก็มิได้ปฏิเสธความสัมพันธ์ทั้งสังคมและวัฒนธรรมระหว่างละโว้กับเมืองพระนครในกัมพูชา

ในสมัย รัชกาลที่ 1 เมืองสิงห์ได้มีฐานะเป็นเมืองหน้าด่าน ในสมัยรัชกาลที่ 4 โปรดให้เจ้าเมืองสิงห์เป็น พระสมิงสิงห์บุรินทร์ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นแบบมณฑลเทศาภิบาล ดังนั้นจึงยุบเมืองสิงห์ให้เหลือเป็นฐานะเพียงตำบลหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี

โบราณสถาน

ปราสาทเมืองสิงห์ตั้งอยู่บริเวณที่ราบริมฝั่งทิศเหนือของแม่น้ำแควน้อย พื้นที่โดยรอบโอบรอบด้วยภูเขาขนาดไม่สูงมากนัก บริเวณโบราณสถานจะมีกำแพงและคูคันดินเป็นชั้นๆ แนวกำแพงดังกล่าวมีลักษณะเกือบเป็นรูปสี่เหลี่ยม คือแม่น้ำแควน้อยไหลผ่านด้านทิศใต้ ด้งนั้นพื้นที่ด้านนี้จึงขยายออกไปตามแนวแม่น้ำ สำหรับด้านทิศตะวันออก ทิศตะวันตก และทิศเหนือ แนวกำแพงต่อกันเป็นรูปสีเหลี่ยม รอบนอกกำแพงจะเป็นคูคันดินล้อมรอบอยู่ โดยเฉพาะด้านตะวันตกปรากฏซากคันดินอยู่ถึง 7 ชั้น กำแพงและคูดินนี้จะล้อมรอบกลุ่มโบราณสถานสำคัญ ซึ่งประกอบด้วยโบราณสถานหมายเลข 1 - 4 กำแพงและประตู คูคันดิน สระน้ำ และสิ่งก่อสร้างอื่นๆ

โบราณสถานในอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ สามารถแบ่งได้เป็นเช่นนี้

 
โบราณสถานหมายเลข 2

โบราณสถานหมายเลข 1

โบราณสถานหมายเลข 1 โบราณสถานหมายเลข 1 ตั้งอยู่บริเวณใจกลางกลุ่มโบราณสถาน องค์โบราณสถานหันหน้าไปทางทิศตะวันออกและประกอบด้วยสิงห์สำคัญคือ ปรางค์ประธาน ระเบียงคด โคปุระ บรรณศาลาหรือบรรณาลัย และกำแพงแก้ว

ปรางค์ประธานเป็นศูนย์กลางของโบราณสถานมีลักษณะเป็นปรางค์องค์เดียวทรงหอสูงคล้ายฝักข้าวโพด องค์ประธานตั้งอยู่บนฐานย่อมุมไม้ 20 ขนาดกว้างและยาวด้านละ 13.20 เมตร มีมุขยื่นออกไปรับกับมุขด้านในของโคปุระทั้งสี่ทิศ โดยมุขด้านตะวันออกยาวกว่าด้านอื่นๆ และระหว่างปรางค์ประธานกับโคปุระด้านตะวันออกมีลานศิลาแลงเชื่อมเป็นลานกว้าง ระเบียนคดเป็นอาคารที่ล้อมรอบองค์ปรางค์ประธาน ด้านเหนือและด้านใต้ยาวด้านละ 42.50 เมตร ด้านตะวันออกและด้านตะวันตกยาวด้านละ 36.40เมตร ตามมุมของระเบียนคดจะมีซุ้มทิศอยู่สี่มุม

โคปุระหรือซุ้มประตูเข้าเป็นอาคารอยู่ระหว่างระเบียงคดทั้ง 4 ด้าน ซึ่งอยู่ในแนวเดียวกับซุ้มขององค์ปรางค์ และมีทางเข้าเฉพาะซุ้มด้านทิศตะวันออกเท่านั้น

บรรณศาลาหรือบรรณาลัยเป็นอาคารเล็กๆ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้าง 4.50เมตร ยาว 5.50 เมตร ตั้งอยู่ที่มุมทิศตะวันออกเฉียงใต้ขององค์ปรางค์ประธาน ประตูบรรณศาลามีประตูเดียวอยู่ทางตะวันตก สันนิษฐานว่าบรรณลัยนี้เป็นที่เก็บตำราหรือคัมภีร์ต่างๆ ทางพระพุทธศาสนา กำแพงแก้วเป็นส่วนที่ล้อมรอบตัวปราสาทมีประตูเข้าทางตะวันออก กำแพงแก้วประกอบด้วยฐานกว้าง 2.40 เมตร มีด้านกว้าง 81.20 เมตร และยาว 97.60เมตร

โบราณสถานหมายเลข 2

โบราณสถานหมายเลข 2 ยังมีปรางค์ประธาน โคปุระ 4 ด้าน แต่พังลงมามาก บูรณะได้น้อย
โบราณสถานหมายเลข 2 โบราณสถานแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของโบราณสถานหมายเลข1 และมีลักษณะคล้ายคลึงกัน

เมตร ยาว 54.20 เมตร และสูง 80 เมตร โบราณสถานหมายเลข 2 ตั้งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก และประกอบด้วยปรางค์ประธาน ระเบียงคดโคปุระ และกำแพงแก้ว ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับโบราณสถานหมายเลข 1 แต่มีขนาดเล็กกว่า โบราณสถานกลุ่มนี้ยังสร้างไม่เสร็จเรียบร้อย

โบราณสถานหมายเลข 1 และโบราณสถานหมายเลข 2 เป็นอาคารที่สันนิษฐานว่า เป็นศาสนสถานที่สำคัญ มีองค์ปรางค์ประธานตั้งอยู่กลางอาคารและเป็นที่ตั้งของรูปเคารพที่สำคัญอีกด้วย การก่อสร้างใช้ศิลาแลงเป็นส่วนวัสดุสำคัญ วัสดุอืนๆที่ใช่ ประกอบอาคารคือ กระเบื้องดินเผา ไม้ ศิลาทราย เหล็ก และอิฐ เป็นต้น การตกแต่งตัวอาคารใช้ปูนฉาบและประดับด้วยลายปูนปั้นตามปรางค์ประธานและซุ้มทิศ ปูนปั้นใช้หินปูนและเปลือกหอยเผาบดแล้วผสมด้วยกาวหนังสัตว์หรือส่วนผสมที่มีความข้นเหนียวและคลุกเคล้ากับน้ำอ้อยเพื่อให้ปูนแข็งตัวช้าทำให้ง่ายต่อการปั้นแต่งเป็นลวดลาย เทคนิคในการก่อสร้าง การก่อสร้างปรางค์ประธาน ซุ้มทิศ ระเบียง ล้วนใช้สิลาแลงและเรียงซ้อนขึ้นไปโดยมิได้ใช้ปูนสอ แต่บางแห่งก็ใช้เหล็กรูป ตัวไอ หรือ ตัวที ช่วยยึดระหว่างก้อนศิลา

โบราณสถานหมายเลข 3

โบราณสถานหมายเลข 3 ตั้งอยู่นอกกำแพงแก้ว เป็นโบราณสถานขนาดเล็ก ก่อด้วยศิลาแลง
โบราณสถานหมายเลข3 โบราณสถานแห่งนี้อยู่บริเวณนอกกำแพงแก้วทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของโบราณสถานหมายเลข 1 องค์โบราณสถานมีลักษณะเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดเล็กสร้างด้วยอิฐและศิลาแลง ซึ่งอาจจะเป็นฐานของเจดี ดังที่กรมศิลปากรสันนิษฐานว่า สิ่งก่อสร้างสันนิษฐานว่าเป็นเจดี 2 องค์ ฐานแรกมีขนาด 5.20 คูณ 5.20 เมตร เป็นฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสสูง 1.43 เมตร ลักษณะเป็นฐานเขียงสี่เหลี่ยม ก่อขึ้นไปเป็นฐานปัทม์(บัวคว่ำหงาย) ทั้งหมดนี้ก่อสร้างด้วยอิฐโดยใช้เทคนิคการเรียงอิฐแบบ Header Bond คือใช้ด้านสันของอิฐโผล่ออกมาด้านนอก ชั้นบนของฐานปัทม์ขึ้นไปใช้ศิลาแลงก่อเป็นฐานเขียงอีกชั้นหนึ่ง...ฐานเจดีอีกองค์หนึ่งทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือใช้แลงก่อเป็นฐาน...ฐานเจดีอีกองค์นี้สภาพชำรุดมากจึงไม่สามารถบอกขนนาดและลักษณะที่แน่นอนได้

โบราณสถานหมายเลข 4

โบราณสถานหมายเลข 4 อยู่ใกล้หมายเลข 3 ยังบูรณะอยู่ เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าโบราณสถานหมายเลข4โบราณสถานแห่งนี้เป็นอาคารรูปสี่เหลียมผืนผ้าแบ่งเป็นส่วนเรียงเป็นแถวแนวเหนือใต้ แต่ละส่วนมีขนาดกว้าง 3.90 เมตร และยาว 6.65 เมตร โดยเว้นระยะห่าง กัน 0.50 เมตรในแต่ล่ะส่วนทำเป็นขอบสูงขึ้นมาประมาณ 40 เซนติเมตร บนฐานส่วนที่สองจากทิศของประติมากรรมตั้งอยู่ การก่อสร้างอาคารใช้ศิลาแลงเป็นวัสดุสำคัญ

อ้างอิง

  1. ศรีศักร วัลลิโภคม รองศาสตราจารย์. พัฒนาการทางสังคม-วัฒนธรรมไทย. กรุงเทพฯ:เมืองโบราณ, 2554. หน้า76

พิกัดภูมิศาสตร์: 14°2′9″N 99°14′23″E / 14.03583°N 99.23972°E / 14.03583; 99.23972

ทยานประว, ศาสตร, เม, องส, งห, เป, นหน, งในอ, ทยานประว, ศาสตร, ของประเทศไทย, งอย, บนฝ, งแม, ำแควน, อยทางท, ศเหน, อในเขตตำบลส, งห, อำเภอไทรโยค, งหว, ดกาญจนบ, แวดล, อมด, วยท, วเขาเป, นแนวยาวอย, โดยรอบ, กษณะผ, งเม, องเป, นร, ปส, เหล, ยมผ, นผ, กำแพงเม, องก, อด, วยศ. xuthyanprawtisastremuxngsingh epnhnunginxuthyanprawtisastrkhxngpraethsithy tngxyubnfngaemnaaekhwnxythangthisehnuxinekhttablsingh xaephxithroykh cnghwdkaycnburi aewdlxmdwythiwekhaepnaenwyawxyuodyrxb lksnaphngemuxngepnrupsiehliymphunpha kaaephngemuxngkxdwysilaaelng kwangpraman 800 emtr hmaythungswnkwangkhxngemuxng yawpraman 850 emtr aelakaaephngsung 7 emtr mipratuekhaxxk 4 dan mikhunakhndinlxmrxb phayinemuxngmisrana 6 sraxuthyanprawtisastremuxngsinghMueang Sing Historical Parkkhxmulthwippraephthprasathhinsthaptykrrmkhxmobranemuxngxaephxemuxngkaycnburi cnghwdkaycnburipraethspraethsithyerimsrangrawphuththstwrrsthi 17prbprung2478prangkhprathan obransthanhmayelkh 1 enuxha 1 prawti 2 obransthan 2 1 obransthanhmayelkh 1 2 2 obransthanhmayelkh 2 2 3 obransthanhmayelkh 3 2 4 obransthanhmayelkh 4 3 xangxingprawti aekikhprasathemuxngsingh micudmunghmaysrangkhunephuxepnphuththsasnsthaninphuththsasna nikaymhayan cakkarkhudtkaetngkhxngkrmsilpakrthikhxythakhxyiptngaet ph s 2478 aetmaerimbukebikkncringcngemux ph s 2517 aelwesrcepnxuthyanprawtisastremux ph s 2530 cungswyngamdngthiehnxyuinwnni prasathemuxngsinghniklawwasthaptykrrmaelaptimakrrm khlaykhlungkbkhxngsmyphraecachywrmnthi 7 ph s 1720 1780 kstriynksrangprasathaehngkhxm cakkarkhudaetngkhxngkrmsilpakr phbsilpkrrmthisakhyyingkhuxphraphuththrupnakhprk phraophthistwxwolkietswr aela nangprchyaparmita aelayngphbrupphraophthistwxwolkietswreplngrsmixikxngkhhnung ruplksnkhlaykbthiphbinpraethskmphucha pccubnkrmsilpakridnaipekbrksaxyuthiphiphithphnthsthanaehngchati phrankhr aelw khngehluxaetxngkhcalxngiwcaksilacarukprasathphrakhrrkh emuxngphrankhr praethskmphucha sungcarukody phrawirkumar phrarachoxrskhxngphraecachywrmnthi 7 txngkarxangxing carukchuxemuxng 23 emuxng thiphraecachywrmnthi 7 thrngsrangiw miemuxngchux srichysinghburi sungsnnisthanknwakhuxemuxng prasathemuxngsingh niexng txngkarxangxing aelayngmichuxkhxngemuxng laowthypura hrux laow hruxlphburi thimiphraprangkhsamyxd epnobranwtthurwmsmyaetineruxngdngklawrxngsastracarysriskr wlliophdm ehnwakarthinaexachuxemuxngthikhlaykhlungkninlumaemnaecaphrayaipepriybethiybkbbrrdaemuxnginesnthangkhmnakhmincarukprasathphrakhrrkhxyangngay odyimkhanungthunghlkphumisastr ethakbepnkarbidebuxnkhwamcringxyangmkngay 1 ephraabrrdaprasathkhxmthieriykwaxorkhyasalnnmkphbinphakhtawnxxkechiyngehnux miphbbanginbangswnkhxngcnghwdpracinburi 1 sungpccubnidaeykepncnghwdsraaekw aelamirupaebbaetktangcakprasathkhxmthiphbinlumaemnaecaphrayaxyangsineching 1 trngkhamkbbrrdaprasathkhxngthiphbbnesnthangkhmnakhmcaklaowthungephchrburiaelaprasathemuxngsingh aetlaaehngkmirupaebbthiaetktangxxkip camikhwamkhlaykhlungknaetrupekharphphraophthistwxwolkietswr aelanangprchyaparmitathibngchiwanacaaephrhlaymacakemuxnglaow aelaphraophthistwbangxngkhnamacakemuxngphrankhrkmi 1 aethlkthanthnghmdkmiidptiesthkhwamsmphnththngsngkhmaelawthnthrrmrahwanglaowkbemuxngphrankhrinkmphucha 1 insmy rchkalthi 1 emuxngsinghidmithanaepnemuxnghnadan insmyrchkalthi 4 oprdihecaemuxngsinghepn phrasmingsinghburinthr txmainsmyrchkalthi 5 mikarepliynaeplngkarpkkhrxngepnaebbmnthlethsaphibal dngnncungyubemuxngsinghihehluxepnthanaephiyngtablhnungincnghwdkaycnburiobransthan aekikhprasathemuxngsinghtngxyubriewnthirabrimfngthisehnuxkhxngaemnaaekhwnxy phunthiodyrxboxbrxbdwyphuekhakhnadimsungmaknk briewnobransthancamikaaephngaelakhukhndinepnchn aenwkaaephngdngklawmilksnaekuxbepnrupsiehliym khuxaemnaaekhwnxyihlphandanthisit dngnnphunthidannicungkhyayxxkiptamaenwaemna sahrbdanthistawnxxk thistawntk aelathisehnux aenwkaaephngtxknepnrupsiehliym rxbnxkkaaephngcaepnkhukhndinlxmrxbxyu odyechphaadantawntkpraktsakkhndinxyuthung 7 chn kaaephngaelakhudinnicalxmrxbklumobransthansakhy sungprakxbdwyobransthanhmayelkh 1 4 kaaephngaelapratu khukhndin srana aelasingkxsrangxunobransthaninxuthyanprawtisastremuxngsingh samarthaebngidepnechnni obransthanhmayelkh 2 obransthanhmayelkh 1 aekikh obransthanhmayelkh 1 obransthanhmayelkh 1 tngxyubriewnicklangklumobransthan xngkhobransthanhnhnaipthangthistawnxxkaelaprakxbdwysinghsakhykhux prangkhprathan raebiyngkhd okhpura brrnsalahruxbrrnaly aelakaaephngaekwprangkhprathanepnsunyklangkhxngobransthanmilksnaepnprangkhxngkhediywthrnghxsungkhlayfkkhawophd xngkhprathantngxyubnthanyxmumim 20 khnadkwangaelayawdanla 13 20 emtr mimukhyunxxkiprbkbmukhdaninkhxngokhpurathngsithis odymukhdantawnxxkyawkwadanxun aelarahwangprangkhprathankbokhpuradantawnxxkmilansilaaelngechuxmepnlankwang raebiynkhdepnxakharthilxmrxbxngkhprangkhprathan danehnuxaeladanityawdanla 42 50 emtr dantawnxxkaeladantawntkyawdanla 36 40emtr tammumkhxngraebiynkhdcamisumthisxyusimumokhpurahruxsumpratuekhaepnxakharxyurahwangraebiyngkhdthng 4 dan sungxyuinaenwediywkbsumkhxngxngkhprangkh aelamithangekhaechphaasumdanthistawnxxkethannbrrnsalahruxbrrnalyepnxakharelk milksnaepnrupsiehliymphunphakwang 4 50emtr yaw 5 50 emtr tngxyuthimumthistawnxxkechiyngitkhxngxngkhprangkhprathan pratubrrnsalamipratuediywxyuthangtawntk snnisthanwabrrnlyniepnthiekbtarahruxkhmphirtang thangphraphuththsasna kaaephngaekwepnswnthilxmrxbtwprasathmipratuekhathangtawnxxk kaaephngaekwprakxbdwythankwang 2 40 emtr midankwang 81 20 emtr aelayaw 97 60emtr obransthanhmayelkh 2 aekikh obransthanhmayelkh 2 yngmiprangkhprathan okhpura 4 dan aetphnglngmamak burnaidnxy obransthanhmayelkh 2 obransthanaehngnitngxyuthangthistawntkechiyngehnuxkhxngobransthanhmayelkh1 aelamilksnakhlaykhlungknemtr yaw 54 20 emtr aelasung 80 emtr obransthanhmayelkh 2 tnghnhnaipthangthistawnxxk aelaprakxbdwyprangkhprathan raebiyngkhdokhpura aelakaaephngaekw sungmilksnakhlaykbobransthanhmayelkh 1 aetmikhnadelkkwa obransthanklumniyngsrangimesrceriybrxyobransthanhmayelkh 1 aelaobransthanhmayelkh 2 epnxakharthisnnisthanwa epnsasnsthanthisakhy mixngkhprangkhprathantngxyuklangxakharaelaepnthitngkhxngrupekharphthisakhyxikdwy karkxsrangichsilaaelngepnswnwsdusakhy wsduxunthiich prakxbxakharkhux kraebuxngdinepha im silathray ehlk aelaxith epntn kartkaetngtwxakharichpunchabaelapradbdwylaypunpntamprangkhprathanaelasumthis punpnichhinpunaelaepluxkhxyephabdaelwphsmdwykawhnngstwhruxswnphsmthimikhwamkhnehniywaelakhlukekhlakbnaxxyephuxihpunaekhngtwchathaihngaytxkarpnaetngepnlwdlay ethkhnikhinkarkxsrang karkxsrangprangkhprathan sumthis raebiyng lwnichsilaaelngaelaeriyngsxnkhunipodymiidichpunsx aetbangaehngkichehlkrup twix hrux twthi chwyyudrahwangkxnsila obransthanhmayelkh 3 aekikh obransthanhmayelkh 3 tngxyunxkkaaephngaekw epnobransthankhnadelk kxdwysilaaelng obransthanhmayelkh3 obransthanaehngnixyubriewnnxkkaaephngaekwthangthistawntkechiyngitkhxngobransthanhmayelkh 1 xngkhobransthanmilksnaepnsingkxsrangkhnadelksrangdwyxithaelasilaaelng sungxaccaepnthankhxngecdi dngthikrmsilpakrsnnisthanwa singkxsrangsnnisthanwaepnecdi 2 xngkh thanaerkmikhnad 5 20 khun 5 20 emtr epnthansiehliymcturssung 1 43 emtr lksnaepnthanekhiyngsiehliym kxkhunipepnthanpthm bwkhwahngay thnghmdnikxsrangdwyxithodyichethkhnikhkareriyngxithaebb Header Bond khuxichdansnkhxngxithophlxxkmadannxk chnbnkhxngthanpthmkhunipichsilaaelngkxepnthanekhiyngxikchnhnung thanecdixikxngkhhnungthangdanthistawnxxkechiyngehnuxichaelngkxepnthan thanecdixikxngkhnisphaphcharudmakcungimsamarthbxkkhnnadaelalksnathiaennxnid obransthanhmayelkh 4 aekikh obransthanhmayelkh 4 xyuiklhmayelkh 3 yngburnaxyu epnxakharrupsiehliymphunphaobransthanhmayelkh4obransthanaehngniepnxakharrupsiehliymphunphaaebngepnswneriyngepnaethwaenwehnuxit aetlaswnmikhnadkwang 3 90 emtr aelayaw 6 65 emtr odyewnrayahang kn 0 50 emtrinaetlaswnthaepnkhxbsungkhunmapraman 40 esntiemtr bnthanswnthisxngcakthiskhxngpratimakrrmtngxyu karkxsrangxakharichsilaaelngepnwsdusakhyxangxing aekikh 1 0 1 1 1 2 1 3 1 4 sriskr wlliophkhm rxngsastracary phthnakarthangsngkhm wthnthrrmithy krungethph emuxngobran 2554 hna76 khxmmxns miphaphaelasuxekiywkb xuthyanprawtisastremuxngsinghphikdphumisastr 14 2 9 N 99 14 23 E 14 03583 N 99 23972 E 14 03583 99 23972ekhathungcak https th wikipedia org w index php title xuthyanprawtisastremuxngsingh amp oldid 9618900, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม