fbpx
วิกิพีเดีย

เซสก์ ฟาเบรกัส

สิงหาคม 12, 2021

ฟรันเซสก์ "เซสก์" ฟาเบรกัส ซูเลร์ (กาตาลา: Francesc "Cesc" Fàbregas Soler; ภาษากาตาลา: [ˈsɛsk ˈfaβɾəɣəs]; เกิดวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 1987) เป็นนักฟุตบอลชาวสเปน ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองกลางให้กับมอนาโก และทีมชาติสเปน

เซสก์ ฟาเบรกัส
ฟาเบรกัสขณะเล่นให้กับเชลซี ในปี ค.ศ. 2015
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม ฟรันเซสก์ ฟาเบรกัส ซูเลร์
วันเกิด 4 พฤษภาคม ค.ศ. 1987 (34 ปี)
สถานที่เกิด อาเรญส์ดามาร์ สเปน
ส่วนสูง 1.75 ม. (5 ฟุต 9 นิ้ว)
ตำแหน่ง กองกลาง
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
 มอนาโก
หมายเลข 4
สโมสรเยาวชน
1995–1997 Mataró
1997–2003 บาร์เซโลนา
2003 อาร์เซนอล
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2003–2011 อาร์เซนอล 212 (35)
2011–2014 บาร์เซโลนา 96 (28)
2014–2019 เชลซี 138 (15)
2019– มอนาโก 41 (2)
ทีมชาติ‡
2002–2003 สเปน อายุไม่เกิน 16 ปี 8 (0)
2003–2004 สเปน อายุไม่เกิน 17 ปี 14 (7)
2005 สเปน อายุไม่เกิน 20 ปี 5 (0)
2004–2005 สเปน อายุไม่เกิน 21 ปี 12 (8)
2006– สเปน 110 (15)
2004– กาตาลุญญา 3 (0)
* นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 2019
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 2017

ฟาเบรกัสเริ่มต้นอาชีพฟุตบอลด้วยการเป็นเด็กฝึกของสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา แต่กลับเซ็นสัญญากับสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลเมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 2003 เมื่ออายุได้ 16 ปี หลังจากที่ตัวสำคัญในตำแหน่งกองกลางบาดเจ็บหลายรายในฤดูกาล 2004-05 เขาก็แจ้งเกิด โดยเริ่มเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวกลางและตัวทำเกม เขายังสร้างสถิติหลายสถิติให้กับสโมสร และตัวเขาเองยังได้เป็นหนึ่งในนักเตะดาวรุ่งสำหรับในตำแหน่งกองกลาง

สำหรับในการแข่งขันฟุตบอลระหว่างประเทศ เขาร่วมกับฟุตบอลทีมชาติสเปนอายุไม่เกิน 17 ปี โดยลงแข่งในฟุตบอลโลกรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ในปี ค.ศ. 2003 ที่ฟินแลนด์ ผลงานกับสโมสรเขาพ้นจากผู้เล่นเยาวชนในปี ค.ศ. 2006 เขาเล่นในฟุตบอลโลก 2006 ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008 ฟุตบอลโลก 2010 ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012ได้ทำให้ทีมชาติสเปนได้รับชัยชนะ สำหรับฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008 ฟุตบอลโลก 2010 และฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012

ก่อนเส้นทางอาชีพ

ฟาเบรกัสเกิดที่เมืองอาเรญส์ดามาร์ แคว้นกาตาลุญญา ประเทศสเปน เป็นบุตรชายของฟรันเซสก์ ฟาเบรกัส ซีเนียร์ ที่เปิดบริษัทอสังหาริมทรัพย์ และนูรีอา ซูเลร์ เจ้าของบริษัทขนมอบ ฟาเบรกัสได้ร่วมกับสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาตั้งแต่ยังเด็ก และลงแข่งขันนัดแรกเมื่อเขาอายุเพียง 9 เดือนกับปู่ของเขา เขาเริ่มอาชีพกับสโมสรฟุตบอลกับสโมสรกีฬามาตาโร ก่อนที่จะเซ็นสัญญากับสโมสรเยาวชนลาซีอาของบาร์เซโลนา เมื่อเขาอายุได้ 10 ปี โดยมีโค้ชคนแรกคือ เซนอร์ ไบย์ โดยมีรายงานว่าเขาไม่เลือกฟาเบรกัสลงแข่งขันกับสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา เพื่อพยายามซ้อนเขาจากผู้สอดแนม แต่ก็ทำได้ไม่ได้นานกับบาร์เซโลนา มาตาโรให้เขาร่วมฝึกกับทีมบาร์เซโลนา 1 วันต่อสัปดาห์ จนในที่สุดฟาเบรกัสก็ร่วมกับสถาบันบาร์เซโลนาเต็มเวลา

ในการฝึกเบื้องต้นเขารับตำแหน่งเป็นกองกลางรับ แต่เขาก็ยังเป็นตัวทำประตูได้มาก จนบางครั้งทำได้มากกว่า 30 ประตูใน 1 ฤดูกาลให้กับสโมสรเยาวชน ถึงอย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้ร่วมแข่งกับทีมนัดแรกที่สนามกีฬากัมนอว ในช่วงเวลาที่เขาเล่นให้กับทีมเยาวชนบาร์เซโลนา เฟเบรกัสได้สร้างความประทับใจกับจูเซป กวาร์ดีโอลา ที่ต่อมาเป็นกัปตันทีมบาร์เซโลนา เขาได้มอบเสื้อให้กับฟาเบรกัสเป็นเครื่องปลอบขวัญหลังจากที่พ่อแม่ของเขาหย่ากัน

สโมสรอาชีพ

อาร์เซนอล

ปรับตัวกับประเทศอังกฤษ

 
ฟาเบรกัส (ซ้าย) ในนัดแข่งกับสโมสรฟุตบอลเชฟฟิลด์ยูไนเต็ด ในปี ค.ศ. 2006

เขามีความรู้สึกว่าจะได้รับโอกาสจำกัดถ้าอยู่กับบาร์เซโลนา เขาได้เซ็นสัญญากับสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล สโมสรในลอนดอนเมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 2003 เริ่มแรกเขารู้สึกว่าการใช้ชีวิตในเมืองหลวงลอนดอนเป็นเรื่องลำบาก แต่ในที่สุดเขาก็พบมิตรสหาย เพื่อนร่วมทีมที่พูดภาษาสเปน คือ ฟิลิปป์ เซ็นเดอรอส ที่ช่วยเขาได้มาก ด้วยวัย 16 ปี ฟาเบรกัสไม่ได้รับการพิจารณาให้ร่วมเล่นกับทีมแรกโดยทันที แต่ทีมได้หาผู้เล่นอาวุโสอย่าง ปาทริค วิเอร่า และชิลเบร์ตู ซิลวา โดยเขามุ่งความสนใจไปที่การฝึกซ้อมและการเรียนภาษาอังกฤษ จนในที่สุดเขาก็ได้เปิดตัวกับสโมสรอาร์เซนอลหลังจากนั้นไม่นาน เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 2003 ในลีกคัพที่บ้านของตัวเอง พบกับสโมสรฟุตบอลร็อทเทอร์แฮมยูไนเต็ด ทำให้เขาเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดของอาร์เซนอล ด้วยอายุเพียง 16 ปี กับ 177 วัน และยังเป็นผู้ทำประตูที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของอาร์เซนอล ในรอบถัดมาในลีกคัป โดยทำประตูชัย 5–1 เอาชนะสโมสรฟุตบอลวูล์ฟเวอร์แฮมป์ตันแวนเดอร์เรอร์ส ถึงแม้ว่าอาร์เซนอลจะชนะในลีกนี้ในฤดูกาล 2003-04 แต่ฟาเบรกัสก็ไม่ได้รับเหรียญรางวัลผู้ชนะเพราะไม่ได้ร่วมเล่นกับลีกแต่ต้น

จนเริ่มในฤดูกาล 2004-05 เขาได้ร่วมเล่นในทีมแรกในนัดการแข่งขันนอกเหนือจากลีกคัป เขาลงแข่งนัดแรกกับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดที่สนามกีฬาคอมมูนิตีชิลด์ หลังจากที่วิเอร่าบาดเจ็บ ทำให้เขาได้เล่นในพรีเมียร์ลีกนี้ 4 ครั้งติดต่อกัน เขาได้รับคำชมเชยในการเล่นในเกมเหล่านี้ด้วย โดยสามารถทำประตูชนะสโมสรฟุตบอลแบล็กเบิร์นโรเวิร์สไปได้ 3–0 และทำให้เป็นผู้เล่นอาร์เซนอลที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูในพรีเมียร์ลีก และจากการบาดเจ็บของเอดู และชิลเบร์ตู ซิลวา ทำให้เขาได้ลงแข่งในทุกการแข่งขัน เขาได้เซ็นสัญญาอาชีพกับสโมสรอาร์เซนอลเมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 2004 ในการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2004-05 เขากลายเป็นผู้ทำประตูที่อายุน้อยที่สุดอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์การแข่งขันหลังจากทำประตูที่ 3 ในนัดแข่งกับสโมสรฟุตบอลโรเซนบอร์ก ไปได้ 5–1 เมื่อจบฤดูกาล เขาได้สร้างชื่อเสียงให้กับสโมสร ด้วยชัยชนะแรกของเขา เมื่อเขาลงสนามเป็นตัวจริงกับอาร์เซนอล และสามารถเอาชนะสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกับการดวลจุดโทษที่ เอฟเอคัป 2005 รอบตัดสิน

ตัวจริงลงสนาม

หลังจากที่วิเอร่า ออกจากทีมไปสู่สโมสรฟุตบอลยูเวนตุส ฟาเบรกัสได้สวมเสื้อเบอร์ 4 แทนและได้ลงเล่นประจำกับอาร์เซนอล ในตำแหน่งกองกลางตัวกลาง ร่วมไปกับชิลเบร์ตู ซิลวา เขาลงสนาม 49 ครั้งในการแข่งขันในฤดูกาล 2005-06 ถึงอย่างไรก็ตาม เพราะด้วยอายุยังน้อย จากการลงแข่งของเขาทำให้การพิสูจน์ในตัวเขายากไปยิ่งขึ้น เนื่องจากเขาได้มีส่วนร่วมในทีมตัวจริงมากขึ้น มากไปกว่านั้นความสามารถของเขาก็ถูกจำกัดให้น้อยลงไปและด้วยการเล่นที่รุกน้อยกว่าวิเอร่า จึงเกิดการตั้งคำถามในเรื่องความสามารถในการอุดช่องโหว่หลังจากที่วิเอร่าออกไป แต่อย่างไรก็ตาม ฟาเบรกัสยังคงใช้สไตล์การเล่นในแบบฉบับของเขาและได้สร้างความประทับใจในการแข่งยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในครั้งที่แข่งกับสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดและยูเวนตุส ต่อมาเขาทำประตูแรก และเธียร์รี อองรีกับประตูที่ 2 ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่าเขาสามารถรุก เข้าแย่งลูกอย่างดุดันในแบบกองกลางได้อย่างวิเอร่า จากนั้นเขาได้แข่งในนัดสุดท้ายกับอดีตทีมของเขาบาร์เซโลนา แต่อาร์เซนอลแพ้ไป 2–1 พลาดการคว้าถ้วยรางวัลไปในฤดูกาล 2005-06 ให้กับอาร์เซนอล

 
ฟาเบรกัส ฉลองชัยหลังจากทำประตูได้ กับเพื่อนร่วมทีมอาร์เซนอล

เรอัลมาดริดแสดงความต้องการที่จะเซ็นสัญญากับฟาเบรกัส ทั้ง ๆ ที่เขาเซ็นสัญญายาวกับอาร์เซนอล แต่ผู้จัดการทีมอาร์เซนอล อาร์แซน แวงแกร์ กล่าวว่าอาร์เซนอลจะไม่ฟังการเสนออะไรทั้งสิ้น ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2006 เป็นเวลา 6 ปีหลังเซ็นสัญญา อาร์เซนอลยื่นข้อเสนอสัญญา 5 ปี (มีสัญญาตัวเลือก ขยายเวลาไปอีก 3 ปี) ให้กับฟาเบรกัส ซึ่งเขาก็เซ็นสัญญาเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ค.ศ. 2006 ในขณะที่สัญญาปกติจะไม่ยาวขนาดนี้ ฟาเบรกัสกล่าวเกี่ยวกับการเซ็นสัญญา คือเรื่องสไตล์การเล่นของอาร์เซนอล และแวงแกร์ เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาตกลงเซ็นสัญญาระยะยาวกับสโมสร

 
ฟาเบรกัสในตำแหน่งกัปตันทีมในฤดูกาล 2008–09

ในฤดูกาล 2006-07 ผลงานของอาร์เซนอลและฟาเบรกัส ถึงแม้ว่าอาร์เซนอลจะพ่ายแพ้อีกครั้งให้กับสโมสรฟุตบอลเชลซี ในลีกคัพ แต่อย่างไรก็ตาม ฟาเบรกัสก็ได้แจ้งเกิดในฐานะหนึ่งในผู้เล่นสำคัญที่มีความคิดสร้างสรรค์ให้กับทีม เขาได้ร่วมเล่นในทุกนัดของลีก ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2006-07 เขาทำคะแนนให้กับอาร์เซนอล 3–0 ชนะสโมสรฟุตบอลดินาโมซาเกร็บในรอบคัดเลือก ในพรีเมียร์ลีก เขาเป็นตัวจ่ายบอลทำประตู 13 ครั้ง ซึ่งถือว่ามากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในลีก เมื่อจบฤดูกาลเขาได้รับรางวัลส่วนตัว อาทิ รางวัลโกลเดนบอย มอบโดยหนังสือพิมพ์อิตาลีที่ชื่อ TuttoSport จัดโดยแบบสำรวจของผู้อ่านจากทั่วยุโรป เขายังได้รับรางวัล ทีมแห่งปีจากยูฟ่า ร่วมกับทีมในปี 2006 และยังเป็นผู้เล่นพรีเมียร์ลีกแห่งเดือนมกราคม ค.ศ. 2007 นอกจากนั้นเขายังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง ทั้งรางวัลนักฟุตบอลและนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ แต่ทั้ง 2 รางวัล ผู้ได้รับไปในปีนั้นคือคริสเตียโน โรนัลโด จากสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2007 เขาได้เป็นผู้แหล่งอาร์เซนอลประจำฤดูกาล ด้วยคะแนน 60%

ในฤดูกาล 2007-08 เริ่มต้นด้วยความไม่แน่นอนสำหรับทีมอาร์เซนอล อย่างแรก เดวิด ดีน รองประธานสโมสร ออกไปกลางคันจากปัญหาภายใน ตามมาด้วยการจากไปของผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของสโมสรและกัปตันทีม เธียร์รี อองรี ที่เซ็นสัญญากับบาร์เซโลนา ทำให้ฟาเบรกัสกลายเป็นผู้เล่นที่สำคัญที่สุดของอาร์เซนอล แต่เขาก็พร้อมสำหรับการท้าทายนี้ โดยเขาเริ่มฤดูกาลได้ดี ทั้งทำประตูและจ่ายบอลทำประตู นอกจากนั้นเขายังได้รางวัลผู้เล่นแห่งเดือนจากแฟน ๆ ของอาร์เซนอล ในเดือนสิงหาคม กันยายน และตุลาคม ทั้งยังได้ผู้เล่นพรีเมียร์ลีกประจำเดือนสิงหาคม และกับคะแนนหัวตารางของอาร์เซนอลจนถึงเดือนมีนาคม ฟาเบรกัสเป็นเครื่องมือสำหรับสโมสรในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2007-08 โดยในนัดแข่งกับเอซี มิลาน เขาทำประตูในท้ายการแข่งขันและส่งผลให้ทีมเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ และถึงแม้ว่าอาร์เซนอลจะไม่ได้ถ้วยรางวัลไป แต่ฟาเบรกัสก็ได้รับรางวัลส่วนตัวไปหลายรางวัล เมื่อวันที่ 11 เมษายน ค.ศ. 2008 เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักฟุตบอลและนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ อีกครั้งเป็นปีที่ 2 ซึ่งเขาก็ได้รับรางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีไป และยังได้รับรางวัลทีมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพนี้ไปอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นผู้เล่นแห่งฤดูกาล 2007-08 จากเว็บไซต์อาร์เซนอล.คอม

กัปตันทีม

 
ฟาเบรกัสกับตำแหน่งกัปตันทีม ในรอบรองชนะเลิศแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2008–09

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ค.ศ. 2008 กับ 14 นัดในฤดูกาล 2008-09 ฟาเบรกัสเป็นผู้สืบทอดกัปตันทีมต่อจากวีลียาม กาลัส อย่างไรก็ตาม อาร์เซนอลเริ่มต้นฤดูกาลได้ไม่ค่อยดีนัก ฟาเบรกัสไม่สามารถลงสนามได้เป็นเวลา 4 เดือนหลังจากบาดเจ็บที่หัวเข่าในนัดพบกับสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล จนจบฤดูกาลอาร์เซนอลก็ไม่สามารถรับเหรียญใด ได้อันดับ 4 ของพรีเมียร์ลีกและตกรอบในรอบรองชนะเลิศในแชมเปียนส์ลีกฤดูกาล 2008–09 ในเวลาต่อมากับนโยบายของอาร์เซนอลต่อการเตรียมการกับผู้เล่นวัยหนุ่ม ทีมที่นำโดยฟาเบรกัสในฤดูกาลใหม่ประกอบด้วยผู้เล่นวัยหนุ่มเกือบทั้งหมด อย่างเช่น นิคลาส เบนท์เนอร์, กาแอล กลีชี, อาบู ดียาบี, เดนีลซง เปเรย์รา เนวิส, อเล็กซานเดอร์ ซง และ ธีโอ วัลคอตต์

เปิดฤดูกาล 2009-10 ฟาเบรกัสทำประตูและยังช่วยจ่ายบอลยิง 2 ประตูในนัดที่อาร์เซนอลชนะเอฟเวอร์ตัน 6–1 ในรอบคัดเลือกแชมเปียนส์ลีก 2009-10 อาร์เซนอลชนะสโมสรฟุตบอลเคลติก 2 ครั้ง แต่ตอนต้นฤดูกาลก็ถูกรบกวนด้วยการพ่ายให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและแมนเชสเตอร์ซิตี ติดต่อกัน ทีมได้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งหลังจากทรุดลงไป โดยฟาเบรกัสทำคะแนนกับทีมได้ และไม่พ่ายใคร 13 เกม และจากความที่พ่ายใน 4 ลีกก่อนกลางฤดูกาล อาร์เซนอลสามารถนำขึ้นสู่ลีกหลังผ่านไป 22 เกม เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 2010 ในแชมเปียนส์ลีกนัดแรกในรอบก่อนชิงชนะเลิศที่แข่งกับบาร์เซโลนา ฟาเบรกัสบาดเจ็บขาหักก่อนทำประตูเสมอในนัดนี้ จบลงด้วยประตู 2–2 อาร์เซนอลที่มีคะแนนตามผู้นำอย่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 4 คะแนน โดยปราศจากกัปตันทีมในอีก 6 นัดของฤดูกาล ท้ายสุดอาร์เซนอลก็ตกรอบไปในแชมเปียนส์ลีกหลังพ่ายบาร์เซโลนา แต่ฟาเบรกัสก็ได้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ

ก่อนเริ่มฤดูกาล 2010-11 เขาได้แรงกดดันจากสื่อเกี่ยวกับอนาคต และในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2010 อาร์เซนอลปฏิเสธการเสนอซื้อตัวเขาจากบาร์เซโลนา 35 ล้านเหรียญยูโรไป ในฤดูกาล 2010–11 เป็นฤดูกาลแห่งการแข่งขันสูงในพรีเมียร์ลีก ถึงแม้ว่าอาร์เซนอลจะแพ้ 5 นัดก่อนกลางฤดูกาล แต่อาร์เซนอลก็เบียดอยู่ในผู้นำในลีก พอ ๆ กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและแมนเชสเตอร์ซิตี จนมาถึงช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ อาร์เซนอลก็ยังเป็นหนึ่งในสี่ของผู้นำ แต่ภายในเวลา 2 สัปดาห์หลังจากที่แพ้ในนัดชิงชนะเลิศลีกคัพ และแพ้ตกรอบในนัดรอบ 16 ทีมสุดท้ายในแชมเปียนส์ลีกเมื่อเจอกับบาร์เซโลนา และยังแพ้ในเอฟเอคัพรอบก่อนชิงชนะเลิศ ฟาเบรกัสไม่ได้ลงแข่งในนัดตัดสินลีกคัพ ที่เกิดจากอาการบาดเจ็บเมื่อเขาตอกส้นผิดจังหวะในนัดที่ 2 ของแชมเปียนส์ลีก กับทีมบาร์เซโลนา ส่วนในลีกอาร์เซนอลยังคงเป็นคู่แข่งที่สำคัญ แต่เมื่อเหลืออีก 1 ใน 3 ของฤดูกาล อาร์เซนอลก็มีผลเสมออย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุทำให้คะแนนตามหลังผู้นำลีก แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด อยู่มาก จนเมื่อจบฤดูกาลอาร์เซนอล ตกมาอยู่อันดับ 4 ของลีก

บาร์เซโลนา

ฤดูกาล 2011–12

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 2011 ฟาเบรกัสเซ็นสัญญากับสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา เป็นเวลา 5 ปี ด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์ ที่อาจเพิ่มอีก 5 ล้าน ขึ้นอยู่กับความสำเร็จ ฟาเบรกัสลงตัวนัดแรกกับบาร์เซโลนา ในนัดที่ 2 ของการแข่งขันซูเปร์โกปาเดเอสปัญญาแข่งกับเรอัลมาดริด ลงในฐานะผู้เล่นสำรอง บาร์เซโลนาชนะ 3–2 ผลประตูรวม 5–4 เขายิงประตูแรกในนัดที่บาร์เซโลนาชนะปอร์ตู 2–0 ในการแข่งขันยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2011 และประตูแรกของเขาในลีก คือนัดเปิดตัวที่แข่งกับสโมสรฟุตบอลบิยาร์เรอัล

ฤดูกาล 2012–13

ฤดูกาล 2013–14

เชลซี

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ค.ศ. 2014 ฟาเบรกัสเซ็นสัญญากับเชลซี เป็นระยะเวลา 5 ปี ด้วยค่าตัว 33 ล้านปอนด์ โดยสวมใส่เบอร์ 4 ซึ่งเป็นเบอร์เดิมของดาวิด ลุยซ์

ทีมชาติ

ชุดเยาวชน

ในการลงแข่งฟุตบอลทีมชาติสเปน ฟาเบรกัสเริ่มลงแข่งขันในระดับเยาวชน ในฟุตบอลโลกเยาวชนอายุไม่เกิน 17 ปี ปี ค.ศ. 2003 ที่จัดขึ้นที่ฟินแลนด์ จบลงด้วยการเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในการแข่งขัน แม้ว่าเขาจะเล่นตำแหน่งกองกลาง และได้รับลงคะแนนเป็น ผู้เล่นแห่งการแข่งขันนี้ด้วย จบลงด้วยสเปนได้ตำแหน่งรองชนะเลิศ พ่ายให้บราซิลไป ต่อมาเขาร่วมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปเยาวชนอายุไม่เกิน 17 ปี ค.ศ. 2008 ซึ่งสเปนก็ได้ตำแหน่งรองชนะเลิศเช่นกัน เขาได้รับตำแหน่งเป็น "ผู้เล่นทองคำ" (Golden Player) ของการแข่งขัน

ชุดใหญ่

หลังจากที่เขาเป็นผู้เล่นสำคัญของอาร์เซนอลในเพียงฤดูกาลที่ 2 ของเขากับสโมสร ไม่นานนักฟาเบรกัสก็ถูกเรียกตัวเข้าทีมชาติรุ่นใหญ่ โค้ชชาวสเปน ลุยส์ อาราโกเนสประทับใจในฝีมือการเล่นของฟาเบรกัสในแชมเปียนส์ลีก 2006 กับทีมอาร์เซนอล ลุยส์ อาราโกเนสได้ให้เขาเล่นในนัดกระชับมิตรกับทีมโกตดิวัวร์ ในนัดนั้นฟาเบรกัสถือเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดของทีมชาติสเปนในรอบ 70 ปี ทำลายสถิติของเซร์คีโอ ราโมส เขาได้รับเสียงวิจารณ์ชมชอบในผลงานเปิดตัว และได้ทำประตูแรกให้กับสเปนโดยชนะทีมโกตดิวัวร์ไป 3–2

ฟุตบอลโลก 2006

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ. 2006 ฟาเบรกัสได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นทีมชาติสเปนชุดฟุตบอลโลก 2006 ในระหว่างการแข่งขัน เขาได้รับการเปลี่ยนตัว ลงเล่นในครึ่งหลังของ 2 นัดแรกในรอบแบ่งกลุ่ม ได้ช่วยจ่ายบอลให้เฟร์นันโด ตอร์เรส ในนัดแข่งกับทีมชาติตูนิเซีย ทำประตู 3–1 จากนั้นเขาได้เป็นตัวสำรอง (เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมทีมในอาร์เซนอล โคเซ อันโตเนียว เรเยส) ในนัดที่ 3 ของรอบแบ่งกลุ่มที่เจอกับทีมชาติซาอุดิอาระเบีย เขาได้ลงเล่นกับทีมชาติสเปนอีกในนัดแรกของรอบคัดออก ที่เจอกับทีมชาติฝรั่งเศส แทนการเล่นของ มาร์กอส เซนนา แต่สเปนก็แพ้ฝรั่งเศสไป 3–1 ฟาเบรกัสถือเป็นผู้เล่นของทีมชาติสเปนที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ร่วมเข้าแข่งขันฟุตบอลโลก โดยเขาลงเล่นเปลี่ยนตัวแทน ลุยส์ การ์ซีอา ในนาทีที่ 77 ในนัดที่สเปนชนะทีมชาติยูเครน ไป 4–0 เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ค.ศ. 2006 เมื่อเขาอายุ 19 ปีกับ 41 วัน ต่อมาเขายังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลผู้เล่นดาวรุ่งฟุตบอลโลก แต่ลูคัส โพดอลสกี จากเยอรมนีได้รับรางวัลนี้ไป

ยูโร 2008

 
ฟาเบรกัสฉลองชัยในการเป็นแชมป์ยูโร 2008 ของสเปน

ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008 ฟาเบรกัสได้ลงทีมชาติหมายเลข 10 แทนหมายเลข 18 เมื่อครั้งก่อน ทั้ง ๆ ที่เขาจะได้เป็นตัวสำรองโดยเกือบตลอด แต่กองกลางผู้นี้ก็ยังสามารถทำประตูให้กับทีมชาติสเปนได้ โดยเป็นประตูแรกในการแข่งขันระหว่างประเทศของเขา ในนัดแข่งกับทีมชาติรัสเซีย ที่ชนะ 4–1 เขายังได้ช่วยส่งลูกทำประตูด้วยในนัดนี้ สเปนชนะทุกทีมในรอบแบ่งกลุ่มและได้เจอกับทีมชาติอิตาลี ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ในนัดนี้ฟาเบรกัสยิงลูกโทษ หลังจากที่ทีมชะงักอยู่ที่ 0–0 ในการต่อเวลาพิเศษ ในรอบรองชนะเลิศ สเปนชนะทีมชาติรัสเซีย 3–0 โดยฟาเบรกัสได้ช่วยส่งลูกทำประตู 2 ลูก ฟาเบรกัสเป็น 1 ใน 11 คนที่ลงสนามในนัดตัดสินที่เจอกับทีมชาติเยอรมนี โดยสเปนชนะไป 1–0 ถือเป็นแชมเปียนครั้งที่ 2 ของสเปน โดยครั้งก่อนหน้านั้นคือปี ค.ศ. 1964 และทีมชาติสเปนได้รับรางวัลทีมยอดเยี่ยมแห่งฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008 โดยคัดเลือกโดยทีมเทคนิคของยูฟ่า

คอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2009

 
ฟาเบรกัส (หมายเลข 10) ร่วมกับเพื่อนร่วมทีมชาติสเปน ในนัดเจอกับทีมชาติออสเตรีย ในคอนเฟเดอเรชันส์คัป 2009

หลังจากบาดเจ็บไปหลายเดือน ฟาเบรกัสยังคงเป็นผู้เล่นในทีมการแข่งขันของผู้จัดการทีมชาติสเปน บีเซนเต เดล โบสเก ในเดือนมิถุนายน เขาติดอยู่ในรายชื่อทีมการแข่งขันคอนเฟเดอเรชันส์คัป 2009 เขาทำประตูในการแข่งขันระหว่างประเทศเป็นลูกที่ 2 ในนัดเจอกับทีมชาตินิวซีแลนด์ โดยชนะไป 5–0 ในรอบแบ่งกลุ่ม ในรอบรองชนะเลิศที่แข่งกับทีมชาติสหรัฐอเมริกา (โดยฟาเบรกัสได้เป็น 1 ในผู้เล่น 11 คนลงสนาม) สเปนได้สร้างความประหลาดใจจากการพ่ายแพ้ 2–0 ทำให้สถิติทีมชาติสเปนที่ชนะใน 15 เกมรวดต้องหยุดไป

ฟุตบอลโลก 2010

ฟาเบรกัสได้รับเลือกโดยเดล โบสเกให้เป็นส่วนหนึ่งของผู้เล่น 23 คนของทีมชาติสเปนในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 แต่เดล โบสเกพึงพอใจที่จะเลือกกองกลางอย่าง เซร์คีโอ บุสเกตส์, ชาบี อาลอนโซ, ชาบี, เปโดร และอันเดรส อีเนียสตา ในขณะที่ฟาเบรกัสไม่ได้เป็น 1 ในผู้เล่น 11 คนลงสนาม เขาเป็นตัวสำรอง 4 จาก 7 นัด ที่สเปนพ่ายในนัดแรก ก่อนที่จะนำชัยชนะต่อมาอีก 6 ครั้ง โดยในนัดตัดสิน ในการต่อเวลาพิเศษ ฟาเบรกัสได้ส่งลูกให้อีเนียสตาทำประตูให้สเปน เป็นผู้ชนะเลิศครั้งแรกของทีมชาติสเปนในการแข่งขันฟุตบอลโลก

ยูโร 2012

ฟาเบรกัสได้รับเลือกเป็นส่วนหนึ่งในชุด 23 คนของเดล โบสเก ในการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 เริ่มการแข่งขันกับทีมชาติอิตาลีในกลุ่มซี ในรูปแบบการเล่น 4–3–3 ซึ่งเขาเป็นหนึ่งในกองหน้า 3 คน ในนาทีที่ 64 เขายิงประตูตีเสมอหลังจากที่อิตาลีนำอยู่ก่อนหน้านี้ในนาทีที่ 61 จบเกมด้วยผลเสมอ 1–1 จากนั้นเขาได้ยิงประตูที่ 2 ในรอบแบ่งกลุ่มในนัดแข่งกับไอร์แลนด์ เมื่อสเปนพบกับโปรตุเกสในรอบรองชนะเลิศ ในขณะที่ยังไม่มีใครทำประตูได้ แม้ต้องต่อเวลาออกไปแล้ว จึงต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ ฟาเบรกัสได้ยิงจุดโทษสุดท้ายทำให้สเปนชนะ 4–2 ในรอบตัดสินพบกับอิตาลีอีกครั้ง ฟาเบรกัสช่วยส่งลูกให้ดาบิด ซิลบายิงเปิดประตูแรก ท้ายสุดสเปนชนะอิตาลี 4–0

คอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2013

ฟุตบอลโลก 2014

ยูโร 2016

ตารางทำประตูในการแข่งขันระหว่างประเทศ

คะแนนและผล โดยตัวเลขประตูของฟาเบรกัสแสดงเป็นตัวหนา
# วันที่ สถานที่ คู่แข่ง ประตู ผล การแข่งขัน
1. 10 มิถุนายน ค.ศ. 2008 ทีโวลีนอย, อินน์บรัค, ออสเตรีย   รัสเซีย 4–1 4–1 ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008
2. 14 มิถุนายน ค.ศ. 2009 สนามกีฬารอยัลบาโฟเกง, รุสเทนเบิร์ก, แอฟริกาใต้   นิวซีแลนด์ 4–0 5–0 คอนเฟเดอเรชันส์คัป 2009
3. 9 กันยายน ค.ศ. 2009 สนามกีฬาโรมาโน, เมรีดา, สเปน   เอสโตเนีย 1–0 3–0 รอบคัดเลือกการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010
4. 10 ตุลาคม ค.ศ. 2009 สนามกีฬาฮันราเพทากัน, เยเรวาน, อาร์มีเนีย   อาร์มีเนีย 1–0 2–1 รอบคัดเลือกการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010
5. 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2009 สนามกีฬาเอิร์นสต์-ฮัพเพิล, เวียนนา, ออสเตรีย   ออสเตรีย 1–1 5–1 นัดกระชับมิตร
6. 8 มิถุนายน ค.ศ. 2010 นวยบากอนโดมีนา, เมอร์เซีย, สเปน   โปแลนด์ 4–0 6–0 นัดกระชับมิตร
7. 2 กันยายน ค.ศ. 2011 เอเอฟจีอารีนา, ซังค์กัลเลิน, สวิตเซอร์แลนด์   ชิลี 2–2 3–2 นัดกระชับมิตร
8. 2 กันยายน ค.ศ. 2011 เอเอฟจีอารีนา, ซังค์กัลเลิน, สวิตเซอร์แลนด์   ชิลี 3–2 3–2 นัดกระชับมิตร
9. 10 มิถุนายน ค.ศ. 2012 แปกีแยแออาแรนากดัญสก์, กดัญสก์, โปแลนด์   อิตาลี 1–1 1–1 ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012
10. 14 มิถุนายน ค.ศ. 2012 แปกีแยแออาแรนากดัญสก์, กดัญสก์, โปแลนด์   สาธารณรัฐไอร์แลนด์ 4–0 4–0 ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012

รูปแบบการเล่น

 
ฟาเบรกัสและอันเดอร์สันจากสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในเกมฤดูกาล 2007–08

เขาได้เข้าสู่ทีมอาร์เซนอลมาตั้งแต่วัยรุ่น และค่อย ๆ พัฒนากับการเล่นในลีกคัพ ฟาเบรกัสเคยเป็นกองกำลังที่อาร์เซนอลไม่ได้คาดหวังเท่าใดนัก โดยเริ่มจากการเป็นกองกลางตัวกลางของอาร์เซนอล แต่หลังจากที่กองกลางอย่าง ปาทริค วิเอร่า, ชิลเบร์ตู ซิลวา และ เอดู บาดเจ็บในการแข่งขันฤดูกาล 2004–05 ทำให้การทำหน้าที่ของฟาเบรกัสถือได้ว่าเป็นตัวทำเกมและตัวส่งผ่าน เขาได้กลายเป็นผู้เล่นที่เป็นที่ต้องการตัวและดาวรุ่งที่มีความสามารถในเกม จนเขาได้เป็นผู้เล่นประจำให้กับอาร์เซนอล ยังได้รับการเรียกว่าเป็น แกนหลักของทีมแรกของอาร์เซนอล นำมาซึ่ง วิสัยทัศน์ ความคิดสร้างสรรค์ และเข้าใจถึงเวลาและสถานที่โดยแต่กำเนิดในการผ่านเกมอันซับซ้อนของอาร์เซนอล และแสดงให้เห็นวุฒิภาวะที่เกินกว่าอายุ เขามักได้รับผิดชอบในการเตะเซ็ตพีซ เตะมุม ฟรีคิก และ ยิงลูกโทษ

ฟาเบรกัสเคยให้สัมภาษณ์ว่า วิเอร่าเป็นตัวอย่างและให้คำปรึกษาของเขา ขณะที่รูปแบบการเล่นตามฮีโรในวัยเด็กของเขาและสัญชาติเดียวกับเขา คือ ชูเซบ กวาร์ดีโอลา แต่เขาก็มีความแตกต่างจากผู้เล่นในตำแหน่งเดียวกับเขาก่อนหน้า โดยเขามีทักษะเหนือความแข็งแกร่ง ซึ่งแต่เดิมเป็นเหตุให้เกิดเสียงวิจารณ์ถึงน้ำหนักตัวที่เบาและการเล่นที่ดุดันน้อยกว่า กับอดีตเพื่อนร่วมทีม แอชลีย์ โคล วิจารณ์เขาไว้ในหนังสืออัตชีวประวัติว่า "ไม่อาจบอกได้ว่าเบา"

อย่างไรก็ตาม จากสถิติของฟาเบรกัสที่พิสูจน์ในหลายฤดูกาล เขาได้รับความดุดันในการเล่นมากขึ้น ความสำคัญในทีมในฐานะพลังแห่งความสร้างสรรค์เกมก็อาจสะท้อนให้เห็นได้จากการเป็นผู้ช่วยส่งทำประตู 16 ประตูในการแข่งในฤดูกาล 2006–07 และจากการยอมรับจากตัวเขาเอง การทำประตูเป็นจุดอ่อนของเขาในช่วงฤดูกาลแรก ๆ กับอาร์เซนอล การจบสกอร์เป็นปัญหาใหญ่ของอาร์เซนอลในฤดูกาล 2005–06 และ 2006–07 และก็เปลี่ยนไป เมื่อเริ่มฤดูกาล 2007–08 เขายิงประตูได้ 11 ประตูใน 16 เกม จนผู้จัดการทีมอาร์เซนอล แวงแกร์ กล่าวว่า "การไม่สามารถทำประตูเมื่อก่อนนั้นได้หายไปพร้อมกับสภาพจิตใจที่ดีขึ้น" หรือแม้กระทั่งเปรียบเทียบเขากับ มิเชล พลาตินี กองกลางที่มีชื่อเสียงด้านการทำประตู อีกเรื่องที่พูดถึงคือจำนวนนัดการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ฟาเบรกัสได้ลงแข่งให้กับสโมสรและทีมชาติสเปนในหลายฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเขาได้พยายามหลีกเลี่ยงงานพิเศษอื่น

สถิติ

(ข้อมูลวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 2012)
สโมสร ฤดูกาล ลีก คัป ยุโรป รวม
ลงแข่ง ประตู ช่วยทำประตู ลงแข่ง ประตู ช่วยทำประตู ลงแข่ง ประตู ช่วยทำประตู ลงแข่ง ประตู ช่วยทำประตู
อาร์เซนอล 2003–04 0 0 0 3 1 0 0 0 0 3 1 0
2004–05 33 2 4 8 0 0 5 1 0 46 3 4
2005–06 35 3 5 2 1 0 13 1 2 50 5 7
2006–07 38 2 13 6 0 2 10 2 1 54 4 16
2007–08 32 7 19 3 0 1 10 6 2 45 13 22
2008–09 22 3 10 1 0 0 10 0 5 33 3 15
2009–10 27 15 15 1 0 1 8 4 3 36 19 19
2010–11 20 3 10 6 3 1 5 3 2 29 9 13
รวม 212 35 80 30 5 5 61 17 15 303 57 100
บาร์เซโลนา 2011–12 28 9 10 8 3 6 11 3 4 47 15 23
รวม 28 9 10 8 3 6 11 3 4 47 15 23
รวมทั้งหมด 240 44 92 38 8 12 72 20 19 350 72 126
ประเทศ ทีมชาติ
ปีลงเล่นประตู
2006 14 0
2007 8 0
2008 15 1
2009 10 4
2010 11 1
2011 4 2
2012 7 2
รวม 69 10

เกียรติประวัติ

 
ฟาเบรกัส (กลาง) ในปี ค.ศ. 2011 ร่วมกับ โคเซ ลุยส์ โรดรีเกซ ซาปาเตโร นายกรัฐมนตรีของสเปน(ซ้าย) และเดวิด แคเมอรอน นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร

สโมสร

อาร์เซนอล
บาร์เซโลนา
เชลซี

ทีมชาติ

สเปน

งานอื่น

ฟาเบรกัสได้ร่วมในรายการโทรทัศน์พิเศษของเขาเอง ซึ่งออกอากาศเพียงตอนเดียว ชื่อรายการ "The Cesc Fàbregas Show: Nike Live" ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2008 รายการมีผู้สนับสนุนคือไนกี้ ทางช่องสกายสปอร์ตส เป็นรายการปกิณกะ ที่มีเพื่อนร่วมทีมอาร์เซนอลอย่าง ฟิลิปป์ เซ็นเดอรอส และนิคลาส เบนท์เนอร์ รวมถึงโค้ช อาร์แซน แวงแกร์ และพ่อแม่ของฟาเบรกัส รวมถึงดาราจากรายการลิตเทิลบริเตน แมตต์ ลูคัส มาร่วมในรายการนี้ด้วย

ฟาเบรกัสยังเป็นผู้อุปถัมภ์กิตติมศักดิ์ของโครงการการเหยียดเชื้อชาติในฟุตบอลและสังคม ทีชื่อโครงการว่า Show Racism the Red Card

อ้างอิง

  1. ↑ . FC Barcelona. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 15 January 2013.
  2. "Player Profile: Cesc Fàbregas". Chelsea F.C.
  3. ↑ Francesc Fabregas profile, ESPNsoccernet, accessed 27 June 2009.
  4. ↑ Cesc Fàbregas profile, Arsenal F.C., accessed 27 June 2009.
  5. Francesc Fabregas: Spanish marvel blossoms out of the world of his mentors, The Independent, accessed 31 August 2010.
  6. Cesc Fábregas faces the Barcelona Dream Team he left behind, The Guardian, 31 March 2010, accessed 18 September 2010.
  7. ↑ Cesc Fabregas, UEFA, accessed 23 May 2007.
  8. The one that got away, BBC Sport, accessed 1 June 2010.
  9. ↑ The Young Gunner, , accessed 4 Jan 2011.
  10. ↑ Marcotti, Gabriele and Balague, Guillem, "From Barcelona to Barnet: how a rising star learnt his trade", The Times, 28 February 2007, accessed 23 May 2007.
  11. Cesc Fabregas becomes Arsenal's youngest ever player, Arsenal F.C., 27 January 2006, accessed 22 May 2007.
  12. Arsenal youngsters thump Wolves, BBC Sport, 2 December 2003, accessed 22 May 2007.
  13. Record Scorelines, Arsenal F.C., accessed 23 May 2007.
  14. ↑ Francesc Fabregas history, ESPNsoccernet, accessed 18 December 2007.
  15. Hughes, Ian, "Fabregas the fabulous", BBC Sport, 27 August 2004, accessed 22 May 2007.
  16. Arsenal 3–0 Blackburn, ESPNsoccernet, 25 August 2004, accessed 23 May 2007.
  17. "Fabregas commits to Arsenal". BBC Sport. 2004-09-17. สืบค้นเมื่อ 2010-06-03.
  18. Haylett, Trevor, "Awesome Arsenal progress in style, UEFA, 7 December 2004, accessed 22 May 2007.
  19. Arsenal 0–0 Man Utd (aet), BBC Sport, 21 May 2005, accessed 23 May 2007.
  20. ↑ Hubbard, Norman, "Arsenal's midfield muddle", ESPNsoccernet, 22 August 2005, accessed 23 May 2007.
  21. ↑ Arsenal 2–0 Juventus, BBC Sport, 28 March 2006, accessed 23 May 2007.
  22. Sheringham, Sam, "Spain Teenager Fabregas Sparks World Cup Rally, Wows Maradona", Bloomberg, 20 June 2006, accessed 23 May 2007.
  23. ↑ Harrold, Michael, "Fabregas plots Arsenal revival", UEFA, 13 April 2007, accessed 23 May 2007. 2007-05-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
  24. Haslam, Andrew, "Barca comeback denies Arsenal", UEFA, 17 May 2006, accessed 23 May 2007.
  25. Kendall, Mark, 00.html "Real confident of securing Cesc's signature", Sky Sports, 4 July 2006, accessed 22 May 2007.
  26. Wenger: Fàbregas is not for sale, he is Arsenal's future, Arsenal F.C., 12 July 2006, accessed 22 May 2007.
  27. Fàbregas signs new Arsenal deal, BBC Sport, 19 October 2006, accessed 22 May 2007.
  28. Harris, Chris, "Fabregas – Our style of play makes me so happy", Arsenal F.C., 22 October 2006, accessed 23 May 2007.
  29. Adams, Tom, 00.html "Cesc staying grounded", Sky Sports, 27 October 2006, accessed 24 May 2007.
  30. Chelsea 2–1 Arsenal, BBC Sport, 21 February 2007, accessed 23 May 2007.
  31. ↑ Arsenal are the ultimate 'second half' team, Arsenal F.C., accessed 23 May 2007.
  32. Dinamo Zagreb 0–3 Arsenal, BBC Sport, 8 June 2006, accessed 7 September 2008.
  33. Lipton, Martin, "HE'S FAB IN POLL", Daily Mirror, 2 December 2006, accessed 22 May 2007.
  34. Your Team of 2006 revealed, UEFA, 19 January 2006, accessed 22 May 2007.
  35. Benitez and Fabregas scoop awards, BBC Sport, 9 February 2007, accessed 22 May 2007.
  36. Arsenal 3–1 Man City: Fabregas inspires revival, ESPNsoccernet, 17 April 2007, accessed 18 April 2007.
  37. ↑ 'He showed he is the ultimate midfield player', Arsenal F.C., accessed 28 June 2007.
  38. ↑ ,2156108, 00.html How Fabregas plans to save Arsenal[ลิงก์เสีย], The Guardian, 25 August 2007, accessed 17 September 2007.
  39. Fabregas scoops O2 Player of the Month award, Arsenal F.C., 5 October 2007, accessed 6 October 2007.
  40. ,12306~107729, 00.pdf GUNNERS DUO CELEBRATE AWARDS DOUBLE, Premier League, 19 October 2007, accessed 5 March 2008.
  41. AC Milan 0 – Arsenal 2, BBC Sport, 5 March 2008, accessed 5 March 2008.
  42. Season Review Week: The highlights and the lowlights, Arsenal F.C., accessed 24 May 2008.
  43. Ronaldo heads shortlist for players' awards, ESPNsoccernet, 11 April 2008, accessed 12 April 2008.
  44. Fabregas is O2/Arsenal.com Player of the Season, Arsenal F.C., accessed 8 July 2008.
  45. Fabregas replaces Gallas as Arsenal skipper, ESPNsoccernet, 24 November 2008, accessed 25 November 2008.
  46. Captain Cesc's appointment is no surprise, The Sport Review, 26 November 2008, accessed 22 May 2009.
  47. Injured Fabregas ruled out for 3–4 months, ESPNsoccernet, 23 December 2008, accessed 24 December 2008.
  48. 2008/2009 English Premier League: Statistics, ESPNsoccernet, accessed 1 July 2009.
  49. Arsenal 1 – 3 Manchester United, ESPNsoccernet, 29 April 2009, accessed 1 July 2009.
  50. Gunners crush Toffees, ESPNsoccernet, 15 August 2009, accessed 18 August 2009.
  51. ↑ Fabregas out for six weeks with leg fracture, ESPNsoccernet, 1 April 2010, accessed 2 April 2010.
  52. Rooney scoops PFA Player of the Year Award, ESPNsoccernet, 25 April 2010, accessed 26 April 2010.
  53. Arsenal reject Barcelona's bid for Cesc Fabregas, BBC Sport, 2 June 2010, accessed 15 June 2010.
  54. Barcelona switch tactics over Cesc Fabregas in bid to get Arsenal to the negotiating table, The Daily Mail, 28 May 2010, accessed 22 June 2010.
  55. Laporta: Lines of communication open over Cesc, fcbarcelona.cat, 4 June 2010, accessed 27 June 2010.
  56. Roger, Martins, "EPL midseason surprises and disappointments", Yahoo! Sports, 29 December 2010, accessed 20 January 2011.
  57. Wenger not questioning steel, ESPNsoccernet, 14 March 2011, accessed 15 March 2011.
  58. Arsenal agree Cesc deal with Barca, ESPN Soccernet, 14 August 2011, accessed 15 August 2011.
  59. Messi wins Super Cup, ESPNsoccernet, 17 August 2011, accessed 17 August 2011.
  60. Ashby, Kevin, "Barcelona breeze to fourth UEFA Super Cup", UEFA, 26 August 2011, accessed 27 August 2011.
  61. "Cesc Fabregas: Chelsea sign ex-Arsenal midfielder from Barcelona". BBC Sport. 12 June 2014. สืบค้นเมื่อ 12 June 2014.
  62. "FABREGAS SIGNS FOR CHELSEA". Chelsea FC. 12 June 2014. สืบค้นเมื่อ 13 June 2014.
  63. Brazil roar past brave Spain, Argentina take third, FIFA, 30 August 2003, accessed 23 May 2007.
  64. ↑ Haslam, Andrew, "2004: Cesc Fabregas", UEFA, accessed 9 July 2008. 2008-05-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
  65. ↑ Harris, Chris, "Fabregas – Why I feel part of the Spain 'family'", Arsenal F.C., 28 March 2007, accessed 24 May 2007.
  66. Ivory Coast suffer defeat, BBC Sport, 2 March 2006, accessed 23 May 2007.
  67. Spain 3–1 Tunisia, BBC Sport, 19 June 2006, accessed 23 May 2007.
  68. Saudi Arabia 0–1 Spain, BBC Sport, 23 June 2006, accessed 23 May 2007.
  69. Spain 1–3 France, BBC Sport, 27 June 2006, accessed 23 May 2007.
  70. Spain 4–0 Ukraine, BBC Sport, 14 June 2006, accessed 22 May 2007.
  71. Germany's Podolski named top young player, CBC.ca, 7 July 2006, accessed 22 May 2007.
  72. Veysey, Wayne, "Cesc Fabregas ready to talk tough with Arsenal" 2008-06-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, The Daily Telegraph, 28 May 2008, accessed 10 June 2008.
  73. ↑ Cesc in Euro 2008 Team of the Tournament, Arsenal F.C., accessed 6 August 2008.
  74. Spain beat Italy in penalty shootout 2008-06-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, ESPNsoccernet, 22 June 2008, accessed 23 June 2008.
  75. Germany 0–1 Spain: Torres ends Spain's pain, ESPNsoccernet, 30 June 2008, accessed 30 June 2008.
  76. Torres stars in Spanish stroll, FIFA, accessed 15 June 2009.
  77. Altidore's goal leads U.S. to stunning upset, ESPNsoccernet, 24 June 2009, accessed 26 June 2009.
  78. Spain omit Marcos Senna from 2010 World Cup squad, BBC Sport, 20 May 2010, accessed 22 May 2010.
  79. Iniesta sinks Dutch with late strike, ESPNsoccernet, 11 July 2010, accessed 13 July 2010.
  80. "Spain name Fernando Torres in 23-man squad". BBC Sport. 27 May 2012. สืบค้นเมื่อ 11 June 2012.
  81. "Spain 1–1 Italy". BBC Sport. 10 June 2012. สืบค้นเมื่อ 11 June 2012.
  82. ↑ Smith, Alan, "Fabregas puts his skates on in chase for perfection" 2007-10-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, The Daily Telegraph, 20 January 2007, accessed 23 May 2007.
  83. McIlvanney, Hugh, ,2094-2104071, 00.html "Fàbregas a leader in waiting", The Times, 26 March 2006, accessed 22 May 2007.
  84. Townsend, Nick, "Spanish marvel blossoms", The Independent, 2 October 2005, accessed 17 September 2007. 2013-05-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
  85. Macintosh, Iain, "Completely Fab", The New Paper, 29 September 2007.
  86. Wenger: Fabregas has the vision of Platini, Arsenal F.C., 19 September 2007, accessed 4 January 2008.
  87. Wenger: 'This team is blossoming and growing', Arsenal F.C., 15 September 2007, accessed 17 September 2007.
  88. van Wijk, Jim, "Fabregas in need of rest after season of hard work" 2007-09-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, The Independent, 29 March 2007, accessed 24 May 2007.
  89. รวมถึง เอฟเอคัป, ลีกคัป และ เอฟเอ คอมมูนิตีชีลด์
  90. "Barça comeback denies Arsenal". UEFA. 18 May 2006. สืบค้นเมื่อ 5 July 2015.
  91. NIKELIVE 2011-07-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, NikeLiveFabregas.com, accessed 19 April 2008.

แหล่งข้อมูลอื่น

คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ:
เซสก์ ฟาเบรกัส


สิงหาคม 12, 2021
เซสก, ฟาเบรก, ฟร, นเซสก, เซสก, ฟาเบรก, เลร, กาตาลา, francesc, cesc, fàbregas, soler, ภาษากาตาลา, ˈsɛsk, ˈfaβɾəɣəs, เก, ดว, นท, พฤษภาคม, 1987, เป, นน, กฟ, ตบอลชาวสเปน, จจ, นเล, นในตำแหน, งกองกลางให, บมอนาโก, และท, มชาต, สเปนฟาเบรก, สขณะเล, นให, บเชลซ, ในป, 2015. frnessk essk faebrks suelr katala Francesc Cesc Fabregas Soler phasakatala ˈsɛsk ˈfabɾeɣes ekidwnthi 4 phvsphakhm kh s 1987 epnnkfutbxlchawsepn pccubnelnintaaehnngkxngklangihkbmxnaok aelathimchatisepnessk faebrksfaebrkskhnaelnihkbechlsi inpi kh s 2015khxmulswntwchuxetmfrnessk faebrks suelr 1 wnekid4 phvsphakhm kh s 1987 34 pi 1 sthanthiekidxaerysdamar sepnswnsung1 75 m 5 fut 9 niw 2 taaehnngkxngklangkhxmulsomsrsomsrpccubnmxnaokhmayelkh4somsreyawchn1995 1997Mataro1997 2003baresolna2003xaresnxlsomsrxachiph pithimlngeln pratu 2003 2011xaresnxl212 35 2011 2014baresolna96 28 2014 2019echlsi138 15 2019 mxnaok41 2 thimchati 2002 2003sepn xayuimekin 16 pi8 0 2003 2004sepn xayuimekin 17 pi14 7 2005sepn xayuimekin 20 pi5 0 2004 2005sepn xayuimekin 21 pi12 8 2006 sepn110 15 2004 kataluyya3 0 ndthilngelnaelapratuthiyingihaeksomsrechphaalikinpraethsethann khxmullasud n wnthi 2 mkrakhm kh s 2019 khxmulkarlngelnaelapratuihaekthimchatilasud n wnthi 27 singhakhm kh s 2017faebrkserimtnxachiphfutbxldwykarepnedkfukkhxngsomsrfutbxlbaresolna aetklbesnsyyakbsomsrfutbxlxaresnxlemuxeduxnknyayn kh s 2003 emuxxayuid 16 pi hlngcakthitwsakhyintaaehnngkxngklangbadecbhlayrayinvdukal 2004 05 ekhakaecngekid odyerimelnintaaehnngkxngklangtwklangaelatwthaekm ekhayngsrangsthitihlaysthitiihkbsomsr aelatwekhaexngyngidepnhnunginnketadawrungsahrbintaaehnngkxngklangsahrbinkaraekhngkhnfutbxlrahwangpraeths ekharwmkbfutbxlthimchatisepnxayuimekin 17 pi odylngaekhnginfutbxlolkrunxayuimekin 17 pi inpi kh s 2003 thifinaelnd phlngankbsomsrekhaphncakphuelneyawchninpi kh s 2006 ekhaelninfutbxlolk 2006 futbxlchingaechmpaehngchatiyuorp 2008 futbxlolk 2010 futbxlchingaechmpaehngchatiyuorp 2012idthaihthimchatisepnidrbchychna sahrbfutbxlchingaechmpaehngchatiyuorp 2008 futbxlolk 2010 aelafutbxlchingaechmpaehngchatiyuorp 2012 enuxha 1 kxnesnthangxachiph 2 somsrxachiph 2 1 xaresnxl 2 1 1 prbtwkbpraethsxngkvs 2 1 2 twcringlngsnam 2 1 3 kptnthim 2 2 baresolna 2 2 1 vdukal 2011 12 2 2 2 vdukal 2012 13 2 2 3 vdukal 2013 14 2 3 echlsi 3 thimchati 3 1 chudeyawchn 3 2 chudihy 3 2 1 futbxlolk 2006 3 2 2 yuor 2008 3 2 3 khxnefedxerchnskhph 2009 3 2 4 futbxlolk 2010 3 2 5 yuor 2012 3 2 6 khxnefedxerchnskhph 2013 3 2 7 futbxlolk 2014 3 2 8 yuor 2016 3 3 tarangthapratuinkaraekhngkhnrahwangpraeths 4 rupaebbkareln 5 sthiti 6 ekiyrtiprawti 6 1 somsr 6 2 thimchati 7 nganxun 8 xangxing 9 aehlngkhxmulxunkxnesnthangxachiph aekikhfaebrksekidthiemuxngxaerysdamar aekhwnkataluyya praethssepn 3 4 epnbutrchaykhxngfrnessk faebrks sieniyr thiepidbristhxsngharimthrphy aelanurixa suelr ecakhxngbristhkhnmxb faebrksidrwmkbsomsrfutbxlbaresolnatngaetyngedk aelalngaekhngkhnndaerkemuxekhaxayuephiyng 9 eduxnkbpukhxngekha 5 ekhaerimxachiphkbsomsrfutbxlkbsomsrkilamataor kxnthicaesnsyyakbsomsreyawchnlasixakhxngbaresolna emuxekhaxayuid 10 pi odymiokhchkhnaerkkhux esnxr iby odymiraynganwaekhaimeluxkfaebrkslngaekhngkhnkbsomsrfutbxlbaresolna ephuxphyayamsxnekhacakphusxdaenm 6 aetkthaidimidnankbbaresolna mataorihekharwmfukkbthimbaresolna 1 wntxspdah cninthisudfaebrkskrwmkbsthabnbaresolnaetmewlainkarfukebuxngtnekharbtaaehnngepnkxngklangrb aetekhakyngepntwthapratuidmak cnbangkhrngthaidmakkwa 30 pratuin 1 vdukalihkbsomsreyawchn thungxyangirktamekhakimidrwmaekhngkbthimndaerkthisnamkilakmnxw 7 inchwngewlathiekhaelnihkbthimeyawchnbaresolna efebrksidsrangkhwamprathbickbcuesp kwardioxla thitxmaepnkptnthimbaresolna ekhaidmxbesuxihkbfaebrksepnekhruxngplxbkhwyhlngcakthiphxaemkhxngekhahyakn 8 somsrxachiph aekikhxaresnxl aekikh prbtwkbpraethsxngkvs aekikh faebrks say inndaekhngkbsomsrfutbxlechffildyuinetd inpi kh s 2006 ekhamikhwamrusukwacaidrboxkascakdthaxyukbbaresolna 9 ekhaidesnsyyakbsomsrfutbxlxaresnxl somsrinlxndxnemuxeduxnknyayn kh s 2003 4 erimaerkekharusukwakarichchiwitinemuxnghlwnglxndxnepneruxnglabak aetinthisudekhakphbmitrshay ephuxnrwmthimthiphudphasasepn khux filipp esnedxrxs thichwyekhaidmak 10 dwywy 16 pi faebrksimidrbkarphicarnaihrwmelnkbthimaerkodythnthi aetthimidhaphuelnxawuosxyang pathrikh wiexra aelachilebrtu silwa odyekhamungkhwamsnicipthikarfuksxmaelakareriynphasaxngkvs 10 cninthisudekhakidepidtwkbsomsrxaresnxlhlngcaknnimnan emuxwnthi 23 tulakhm kh s 2003 inlikkhphthibankhxngtwexng phbkbsomsrfutbxlrxthethxraehmyuinetd thaihekhaepnphuelnxayunxythisudkhxngxaresnxl dwyxayuephiyng 16 pi kb 177 wn 11 aelayngepnphuthapratuthixayunxythisudinprawtisastrkhxngxaresnxl inrxbthdmainlikkhp odythapratuchy 5 1 exachnasomsrfutbxlwulfewxraehmptnaewnedxrerxrs 12 thungaemwaxaresnxlcachnainlikniinvdukal 2003 04 13 aetfaebrkskimidrbehriyyrangwlphuchnaephraaimidrwmelnkblikaettn 14 cneriminvdukal 2004 05 ekhaidrwmelninthimaerkinndkaraekhngkhnnxkehnuxcaklikkhp ekhalngaekhngndaerkkbsomsrfutbxlaemnechsetxryuinetdthisnamkilakhxmmunitichild hlngcakthiwiexrabadecb thaihekhaidelninphriemiyrlikni 4 khrngtidtxkn ekhaidrbkhachmechyinkarelninekmehlanidwy odysamarththapratuchnasomsrfutbxlaeblkebirnorewirsipid 3 0 aelathaihepnphuelnxaresnxlthixayunxythisudthithapratuinphriemiyrlik 15 16 aelacakkarbadecbkhxngexdu aelachilebrtu silwa thaihekhaidlngaekhnginthukkaraekhngkhn 3 9 ekhaidesnsyyaxachiphkbsomsrxaresnxlemuxeduxnknyayn kh s 2004 17 inkaraekhngkhnyufaaechmepiynslik vdukal 2004 05 ekhaklayepnphuthapratuthixayunxythisudxndb 2 inprawtisastrkaraekhngkhnhlngcakthapratuthi 3 inndaekhngkbsomsrfutbxloresnbxrk ipid 5 1 18 emuxcbvdukal ekhaidsrangchuxesiyngihkbsomsr dwychychnaaerkkhxngekha emuxekhalngsnamepntwcringkbxaresnxl aelasamarthexachnasomsraemnechsetxryuinetdkbkardwlcudothsthi exfexkhp 2005 rxbtdsin 19 twcringlngsnam aekikh hlngcakthiwiexra xxkcakthimipsusomsrfutbxlyuewntus faebrksidswmesuxebxr 4 aethnaelaidlngelnpracakbxaresnxl intaaehnngkxngklangtwklang rwmipkbchilebrtu silwa ekhalngsnam 49 khrnginkaraekhngkhninvdukal 2005 06 14 thungxyangirktam ephraadwyxayuyngnxy cakkarlngaekhngkhxngekhathaihkarphisucnintwekhayakipyingkhun enuxngcakekhaidmiswnrwminthimtwcringmakkhun makipkwannkhwamsamarthkhxngekhakthukcakdihnxylngipaeladwykarelnthiruknxykwawiexra cungekidkartngkhathamineruxngkhwamsamarthinkarxudchxngohwhlngcakthiwiexraxxkip 20 aetxyangirktam faebrksyngkhngichsitlkarelninaebbchbbkhxngekhaaelaidsrangkhwamprathbicinkaraekhngyufaaechmepiynslik inkhrngthiaekhngkbsomsrfutbxlerxlmadridaelayuewntus 21 22 23 txmaekhathapratuaerk aelaethiyrri xxngrikbpratuthi 2 21 sungepnkhxphisucnidwaekhasamarthruk ekhaaeynglukxyangdudninaebbkxngklangidxyangwiexra 23 caknnekhaidaekhnginndsudthaykbxditthimkhxngekhabaresolna aetxaresnxlaephip 2 1 24 phladkarkhwathwyrangwlipinvdukal 2005 06 ihkbxaresnxl faebrks chlxngchyhlngcakthapratuid kbephuxnrwmthimxaresnxl erxlmadridaesdngkhwamtxngkarthicaesnsyyakbfaebrks thng thiekhaesnsyyayawkbxaresnxl 25 aetphucdkarthimxaresnxl xaraesn aewngaekr klawwaxaresnxlcaimfngkaresnxxairthngsin 26 ineduxnknyayn kh s 2006 epnewla 6 pihlngesnsyya xaresnxlyunkhxesnxsyya 5 pi misyyatweluxk khyayewlaipxik 3 pi ihkbfaebrks sungekhakesnsyyaemuxwnthi 19 tulakhm kh s 2006 27 inkhnathisyyapkticaimyawkhnadni faebrksklawekiywkbkaresnsyya khuxeruxngsitlkarelnkhxngxaresnxl aelaaewngaekr epnehtuphlthithaihekhatklngesnsyyarayayawkbsomsr 28 29 faebrksintaaehnngkptnthiminvdukal 2008 09 invdukal 2006 07 phlngankhxngxaresnxlaelafaebrks thungaemwaxaresnxlcaphayaephxikkhrngihkbsomsrfutbxlechlsi inlikkhph 30 aetxyangirktam faebrkskidaecngekidinthanahnunginphuelnsakhythimikhwamkhidsrangsrrkhihkbthim ekhaidrwmelninthukndkhxnglik 14 31 inyufaaechmepiynslik vdukal 2006 07 ekhathakhaaennihkbxaresnxl 3 0 chnasomsrfutbxldinaomsaekrbinrxbkhdeluxk 32 inphriemiyrlik ekhaepntwcaybxlthapratu 13 khrng sungthuxwamakthisudepnxndb 2 inlik 14 31 emuxcbvdukalekhaidrbrangwlswntw xathi rangwloklednbxy mxbodyhnngsuxphimphxitalithichux TuttoSport cdodyaebbsarwckhxngphuxancakthwyuorp 33 ekhayngidrbrangwl thimaehngpicakyufa rwmkbthiminpi 2006 34 aelayngepnphuelnphriemiyrlikaehngeduxnmkrakhm kh s 2007 35 nxkcaknnekhayngidrbkaresnxchuxekhaching thngrangwlnkfutbxlaelankfutbxldawrungyxdeyiymaehngpikhxngsmakhmnkfutbxlxachiph aetthng 2 rangwl phuidrbipinpinnkhuxkhrisetiyon ornlod caksomsrfutbxlaemnechsetxryuinetd 36 ineduxnmithunayn kh s 2007 ekhaidepnphuaehlngxaresnxlpracavdukal dwykhaaenn 60 37 invdukal 2007 08 erimtndwykhwamimaennxnsahrbthimxaresnxl xyangaerk edwid din rxngprathansomsr xxkipklangkhncakpyhaphayin tammadwykarcakipkhxngphuthapratusungsudtlxdkalkhxngsomsraelakptnthim ethiyrri xxngri thiesnsyyakbbaresolna thaihfaebrksklayepnphuelnthisakhythisudkhxngxaresnxl aetekhakphrxmsahrbkarthathayni 38 odyekhaerimvdukaliddi thngthapratuaelacaybxlthapratu 14 nxkcaknnekhayngidrangwlphuelnaehngeduxncakaefn khxngxaresnxl ineduxnsinghakhm knyayn aelatulakhm 39 thngyngidphuelnphriemiyrlikpracaeduxnsinghakhm 40 aelakbkhaaennhwtarangkhxngxaresnxlcnthungeduxnminakhm faebrksepnekhruxngmuxsahrbsomsrinyufaaechmepiynslik 2007 08 odyinndaekhngkbexsi milan ekhathapratuinthaykaraekhngkhnaelasngphlihthimekhasurxbkxnrxngchnaelis 41 aelathungaemwaxaresnxlcaimidthwyrangwlip 42 aetfaebrkskidrbrangwlswntwiphlayrangwl emuxwnthi 11 emsayn kh s 2008 ekhaidrbkaresnxchuxekhachingrangwlnkfutbxlaelankfutbxldawrungyxdeyiymaehngpikhxngsmakhmnkfutbxlxachiph xikkhrngepnpithi 2 43 sungekhakidrbrangwlnkfutbxldawrungyxdeyiymaehngpiip aelayngidrbrangwlthimaehngpikhxngsmakhmnkfutbxlxachiphniipxikdwy nxkcakniyngepnphuelnaehngvdukal 2007 08 cakewbistxaresnxl khxm 44 kptnthim aekikh faebrkskbtaaehnngkptnthim inrxbrxngchnaelisaechmepiynslik vdukal 2008 09 emuxwnthi 24 phvscikayn kh s 2008 kb 14 ndinvdukal 2008 09 faebrksepnphusubthxdkptnthimtxcakwiliyam kals 45 46 xyangirktam xaresnxlerimtnvdukalidimkhxydink faebrksimsamarthlngsnamidepnewla 4 eduxnhlngcakbadecbthihwekhainndphbkbsomsrfutbxlliewxrphul 47 cncbvdukalxaresnxlkimsamarthrbehriyyid idxndb 4 khxngphriemiyrlikaelatkrxbinrxbrxngchnaelisinaechmepiynslikvdukal 2008 09 48 49 inewlatxmakbnoybaykhxngxaresnxltxkaretriymkarkbphuelnwyhnum thimthinaodyfaebrksinvdukalihmprakxbdwyphuelnwyhnumekuxbthnghmd xyangechn nikhlas ebnthenxr kaaexl klichi xabu diyabi ednilsng eperyra enwis xelksanedxr sng aela thiox wlkhxttepidvdukal 2009 10 faebrksthapratuaelayngchwycaybxlying 2 pratuinndthixaresnxlchnaexfewxrtn 6 1 50 inrxbkhdeluxkaechmepiynslik 2009 10 xaresnxlchnasomsrfutbxlekhltik 2 khrng aettxntnvdukalkthukrbkwndwykarphayihkbaemnechsetxryuinetdaelaaemnechsetxrsiti tidtxkn thimidklbmaaekhngaekrngxikkhrnghlngcakthrudlngip odyfaebrksthakhaaennkbthimid aelaimphayikhr 13 ekm aelacakkhwamthiphayin 4 likkxnklangvdukal xaresnxlsamarthnakhunsulikhlngphanip 22 ekm emuxwnthi 31 minakhm kh s 2010 inaechmepiynslikndaerkinrxbkxnchingchnaelisthiaekhngkbbaresolna faebrksbadecbkhahkkxnthapratuesmxinndni cblngdwypratu 2 2 51 xaresnxlthimikhaaenntamphunaxyangaemnechsetxryuinetd 4 khaaenn odyprascakkptnthiminxik 6 ndkhxngvdukal 51 thaysudxaresnxlktkrxbipinaechmepiynslikhlngphaybaresolna aetfaebrkskidepnnkfutbxlyxdeyiymaehngpikhxngsmakhmnkfutbxlxachiph 52 kxnerimvdukal 2010 11 ekhaidaerngkddncaksuxekiywkbxnakht aelaineduxnmithunayn kh s 2010 xaresnxlptiesthkaresnxsuxtwekhacakbaresolna 35 lanehriyyyuorip 53 54 55 invdukal 2010 11 epnvdukalaehngkaraekhngkhnsunginphriemiyrlik thungaemwaxaresnxlcaaeph 5 ndkxnklangvdukal aetxaresnxlkebiydxyuinphunainlik phx kbaemnechsetxryuinetdaelaaemnechsetxrsiti 56 cnmathungchwngplayeduxnkumphaphnth xaresnxlkyngepnhnunginsikhxngphuna aetphayinewla 2 spdahhlngcakthiaephinndchingchnaelislikkhph aelaaephtkrxbinndrxb 16 thimsudthayinaechmepiynslikemuxecxkbbaresolna aelayngaephinexfexkhphrxbkxnchingchnaelis 57 faebrksimidlngaekhnginndtdsinlikkhph thiekidcakxakarbadecbemuxekhatxksnphidcnghwainndthi 2 khxngaechmepiynslik kbthimbaresolna swninlikxaresnxlyngkhngepnkhuaekhngthisakhy aetemuxehluxxik 1 in 3 khxngvdukal xaresnxlkmiphlesmxxyangtxenuxng epnehtuthaihkhaaenntamhlngphunalik aemnechsetxryuinetd xyumak cnemuxcbvdukalxaresnxl tkmaxyuxndb 4 khxnglik baresolna aekikh vdukal 2011 12 aekikh emuxwnthi 15 singhakhm kh s 2011 faebrksesnsyyakbsomsrfutbxlbaresolna epnewla 5 pi dwykhatw 35 lanpxnd thixacephimxik 5 lan khunxyukbkhwamsaerc 58 faebrkslngtwndaerkkbbaresolna inndthi 2 khxngkaraekhngkhnsueprokpaedexspyyaaekhngkberxlmadrid lnginthanaphuelnsarxng baresolnachna 3 2 phlpraturwm 5 4 59 ekhayingpratuaerkinndthibaresolnachnapxrtu 2 0 inkaraekhngkhnyufasuepxrkhph 2011 60 aelapratuaerkkhxngekhainlik khuxndepidtwthiaekhngkbsomsrfutbxlbiyarerxl vdukal 2012 13 aekikh swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidvdukal 2013 14 aekikh swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidechlsi aekikh emuxwnthi 12 mithunayn kh s 2014 faebrksesnsyyakbechlsi epnrayaewla 5 pi dwykhatw 33 lanpxnd odyswmisebxr 4 sungepnebxredimkhxngdawid luys 61 62 thimchati aekikhchudeyawchn aekikh inkarlngaekhngfutbxlthimchatisepn faebrkserimlngaekhngkhninradbeyawchn infutbxlolkeyawchnxayuimekin 17 pi pi kh s 2003 thicdkhunthifinaelnd cblngdwykarepnphuthapratusungsudinkaraekhngkhn aemwaekhacaelntaaehnngkxngklang aelaidrblngkhaaennepn phuelnaehngkaraekhngkhnnidwy 7 cblngdwysepnidtaaehnngrxngchnaelis phayihbrasilip 63 txmaekharwmkaraekhngkhnfutbxlchingaechmpaehngchatiyuorpeyawchnxayuimekin 17 pi kh s 2008 sungsepnkidtaaehnngrxngchnaelisechnkn 64 ekhaidrbtaaehnngepn phuelnthxngkha Golden Player khxngkaraekhngkhn 64 chudihy aekikh hlngcakthiekhaepnphuelnsakhykhxngxaresnxlinephiyngvdukalthi 2 khxngekhakbsomsr imnannkfaebrkskthukeriyktwekhathimchatirunihy okhchchawsepn luys xaraokensprathbicinfimuxkarelnkhxngfaebrksinaechmepiynslik 2006 kbthimxaresnxl luys xaraokensidihekhaelninndkrachbmitrkbthimoktdiwwr 65 inndnnfaebrksthuxepnphuelnthixayunxythisudkhxngthimchatisepninrxb 70 pi thalaysthitikhxngesrkhiox raoms 3 ekhaidrbesiyngwicarnchmchxbinphlnganepidtw aelaidthapratuaerkihkbsepnodychnathimoktdiwwrip 3 2 3 66 futbxlolk 2006 aekikh emuxwnthi 18 phvsphakhm kh s 2006 faebrksidrbeluxkihepnphuelnthimchatisepnchudfutbxlolk 2006 inrahwangkaraekhngkhn ekhaidrbkarepliyntw lngelninkhrunghlngkhxng 2 ndaerkinrxbaebngklum idchwycaybxlihefrnnod txrers inndaekhngkbthimchatituniesiy thapratu 3 1 67 caknnekhaidepntwsarxng echnediywkbephuxnrwmthiminxaresnxl okhes xnoteniyw ereys inndthi 3 khxngrxbaebngklumthiecxkbthimchatisaxudixaraebiy 68 ekhaidlngelnkbthimchatisepnxikinndaerkkhxngrxbkhdxxk thiecxkbthimchatifrngess aethnkarelnkhxng markxs esnna aetsepnkaephfrngessip 3 1 69 faebrksthuxepnphuelnkhxngthimchatisepnthixayunxythisudinprawtisastrthirwmekhaaekhngkhnfutbxlolk odyekhalngelnepliyntwaethn luys karsixa innathithi 77 inndthisepnchnathimchatiyuekhrn ip 4 0 emuxwnthi 13 mithunayn kh s 2006 emuxekhaxayu 19 pikb 41 wn 70 txmaekhayngidrbkaresnxchuxekhachingrangwlphuelndawrungfutbxlolk aetlukhs ophdxlski cakeyxrmniidrbrangwlniip 71 yuor 2008 aekikh faebrkschlxngchyinkarepnaechmpyuor 2008 khxngsepn inkaraekhngkhnfutbxlchingaechmpaehngchatiyuorp 2008 faebrksidlngthimchatihmayelkh 10 aethnhmayelkh 18 emuxkhrngkxn 72 thng thiekhacaidepntwsarxngodyekuxbtlxd aetkxngklangphunikyngsamarththapratuihkbthimchatisepnid odyepnpratuaerkinkaraekhngkhnrahwangpraethskhxngekha inndaekhngkbthimchatirsesiy thichna 4 1 ekhayngidchwysnglukthapratudwyinndni 73 sepnchnathukthiminrxbaebngklumaelaidecxkbthimchatixitali inrxbkxnrxngchnaelis inndnifaebrksyinglukoths hlngcakthithimchangkxyuthi 0 0 inkartxewlaphiess 74 inrxbrxngchnaelis sepnchnathimchatirsesiy 3 0 odyfaebrksidchwysnglukthapratu 2 luk 73 faebrksepn 1 in 11 khnthilngsnaminndtdsinthiecxkbthimchatieyxrmni odysepnchnaip 1 0 thuxepnaechmepiynkhrngthi 2 khxngsepn odykhrngkxnhnannkhuxpi kh s 1964 75 aelathimchatisepnidrbrangwlthimyxdeyiymaehngfutbxlchingaechmpaehngchatiyuorp 2008 odykhdeluxkodythimethkhnikhkhxngyufa 73 khxnefedxerchnskhph 2009 aekikh faebrks hmayelkh 10 rwmkbephuxnrwmthimchatisepn inndecxkbthimchatixxsetriy inkhxnefedxerchnskhp 2009 hlngcakbadecbiphlayeduxn faebrksyngkhngepnphuelninthimkaraekhngkhnkhxngphucdkarthimchatisepn biesnet edl obsek ineduxnmithunayn ekhatidxyuinraychuxthimkaraekhngkhnkhxnefedxerchnskhp 2009 ekhathapratuinkaraekhngkhnrahwangpraethsepnlukthi 2 inndecxkbthimchatiniwsiaelnd odychnaip 5 0 inrxbaebngklum 76 inrxbrxngchnaelisthiaekhngkbthimchatishrthxemrika odyfaebrksidepn 1 inphueln 11 khnlngsnam sepnidsrangkhwamprahladiccakkarphayaeph 2 0 thaihsthitithimchatisepnthichnain 15 ekmrwdtxnghyudip 77 futbxlolk 2010 aekikh faebrksidrbeluxkodyedl obsekihepnswnhnungkhxngphueln 23 khnkhxngthimchatisepninkaraekhngkhnfutbxlolk 2010 78 aetedl obsekphungphxicthicaeluxkkxngklangxyang esrkhiox busekts chabi xalxnos chabi epodr aelaxnedrs xieniysta inkhnathifaebrksimidepn 1 inphueln 11 khnlngsnam ekhaepntwsarxng 4 cak 7 nd thisepnphayinndaerk kxnthicanachychnatxmaxik 6 khrng odyinndtdsin inkartxewlaphiess faebrksidsnglukihxieniystathapratuihsepn epnphuchnaeliskhrngaerkkhxngthimchatisepninkaraekhngkhnfutbxlolk 79 yuor 2012 aekikh faebrkskhnaaekhngkhnfutbxlchingaechmpaehngchatiyuorp 2012 ndchingchnaelis faebrksidrbeluxkepnswnhnunginchud 23 khnkhxngedl obsek inkaraekhngkhnfutbxlyuor 2012 80 erimkaraekhngkhnkbthimchatixitaliinklumsi inrupaebbkareln 4 3 3 sungekhaepnhnunginkxnghna 3 khn innathithi 64 ekhayingpratutiesmxhlngcakthixitalinaxyukxnhnaniinnathithi 61 cbekmdwyphlesmx 1 1 81 caknnekhaidyingpratuthi 2 inrxbaebngkluminndaekhngkbixraelnd emuxsepnphbkboprtueksinrxbrxngchnaelis inkhnathiyngimmiikhrthapratuid aemtxngtxewlaxxkipaelw cungtxngtdsindwykardwlcudoths faebrksidyingcudothssudthaythaihsepnchna 4 2 inrxbtdsinphbkbxitalixikkhrng faebrkschwysnglukihdabid silbayingepidpratuaerk thaysudsepnchnaxitali 4 0 khxnefedxerchnskhph 2013 aekikh swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidfutbxlolk 2014 aekikh swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidyuor 2016 aekikh swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidtarangthapratuinkaraekhngkhnrahwangpraeths aekikh khaaennaelaphl odytwelkhpratukhxngfaebrksaesdngepntwhna wnthi sthanthi khuaekhng pratu phl karaekhngkhn1 10 mithunayn kh s 2008 thiowlinxy xinnbrkh xxsetriy rsesiy 4 1 4 1 futbxlchingaechmpaehngchatiyuorp 20082 14 mithunayn kh s 2009 snamkilarxylbaofekng rusethnebirk aexfrikait niwsiaelnd 4 0 5 0 khxnefedxerchnskhp 20093 9 knyayn kh s 2009 snamkilaormaon emrida sepn exsoteniy 1 0 3 0 rxbkhdeluxkkaraekhngkhnfutbxlolk 20104 10 tulakhm kh s 2009 snamkilahnraephthakn eyerwan xarmieniy xarmieniy 1 0 2 1 rxbkhdeluxkkaraekhngkhnfutbxlolk 20105 18 phvscikayn kh s 2009 snamkilaexirnst hphephil ewiynna xxsetriy xxsetriy 1 1 5 1 ndkrachbmitr6 8 mithunayn kh s 2010 nwybakxnodmina emxresiy sepn opaelnd 4 0 6 0 ndkrachbmitr7 2 knyayn kh s 2011 exexfcixarina sngkhklelin switesxraelnd chili 2 2 3 2 ndkrachbmitr8 2 knyayn kh s 2011 exexfcixarina sngkhklelin switesxraelnd chili 3 2 3 2 ndkrachbmitr9 10 mithunayn kh s 2012 aepkiaeyaexxaaernakdysk kdysk opaelnd xitali 1 1 1 1 futbxlchingaechmpaehngchatiyuorp 201210 14 mithunayn kh s 2012 aepkiaeyaexxaaernakdysk kdysk opaelnd satharnrthixraelnd 4 0 4 0 futbxlchingaechmpaehngchatiyuorp 2012rupaebbkareln aekikh faebrksaelaxnedxrsncaksomsrfutbxlaemnechsetxryuinetd inekmvdukal 2007 08 ekhaidekhasuthimxaresnxlmatngaetwyrun aelakhxy phthnakbkarelninlikkhph faebrksekhyepnkxngkalngthixaresnxlimidkhadhwngethaidnk odyerimcakkarepnkxngklangtwklangkhxngxaresnxl aethlngcakthikxngklangxyang pathrikh wiexra chilebrtu silwa aela exdu badecbinkaraekhngkhnvdukal 2004 05 thaihkarthahnathikhxngfaebrksthuxidwaepntwthaekmaelatwsngphan ekhaidklayepnphuelnthiepnthitxngkartwaeladawrungthimikhwamsamarthinekm cnekhaidepnphuelnpracaihkbxaresnxl yngidrbkareriykwaepn aeknhlkkhxngthimaerkkhxngxaresnxl namasung wisythsn khwamkhidsrangsrrkh aelaekhaicthungewlaaelasthanthiodyaetkaenidinkarphanekmxnsbsxnkhxngxaresnxl aelaaesdngihehnwuthiphawathiekinkwaxayu 3 4 7 9 37 38 82 83 ekhamkidrbphidchxbinkaretaestphis etamum frikhik aela yinglukothsfaebrksekhyihsmphasnwa wiexraepntwxyangaelaihkhapruksakhxngekha 84 khnathirupaebbkarelntamhiorinwyedkkhxngekhaaelasychatiediywkbekha khux chuesb kwardioxla 10 aetekhakmikhwamaetktangcakphuelnintaaehnngediywkbekhakxnhna odyekhamithksaehnuxkhwamaekhngaekrng 10 20 sungaetedimepnehtuihekidesiyngwicarnthungnahnktwthiebaaelakarelnthidudnnxykwa 20 23 kbxditephuxnrwmthim aexchliy okhl wicarnekhaiwinhnngsuxxtchiwprawtiwa imxacbxkidwaeba 85 xyangirktam caksthitikhxngfaebrksthiphisucninhlayvdukal ekhaidrbkhwamdudninkarelnmakkhun khwamsakhyinthiminthanaphlngaehngkhwamsrangsrrkhekmkxacsathxnihehnidcakkarepnphuchwysngthapratu 16 pratuinkaraekhnginvdukal 2006 07 14 aelacakkaryxmrbcaktwekhaexng karthapratuepncudxxnkhxngekhainchwngvdukalaerk kbxaresnxl karcbskxrepnpyhaihykhxngxaresnxlinvdukal 2005 06 aela 2006 07 82 aelakepliynip emuxerimvdukal 2007 08 ekhayingpratuid 11 pratuin 16 ekm cnphucdkarthimxaresnxl aewngaekr klawwa karimsamarththapratuemuxkxnnnidhayipphrxmkbsphaphciticthidikhun hruxaemkrathngepriybethiybekhakb miechl phlatini kxngklangthimichuxesiyngdankarthapratu 86 87 xikeruxngthiphudthungkhuxcanwnndkaraekhngkhnthiephimkhunxyangmak faebrksidlngaekhngihkbsomsraelathimchatisepninhlayvdukalthiphanma 65 88 odyekhaidphyayamhlikeliyngnganphiessxunsthiti aekikh khxmulwnthi 6 phvsphakhm kh s 2012 14 somsr vdukal lik khp 89 yuorp rwmlngaekhng pratu chwythapratu lngaekhng pratu chwythapratu lngaekhng pratu chwythapratu lngaekhng pratu chwythapratuxaresnxl 2003 04 0 0 0 3 1 0 0 0 0 3 1 02004 05 33 2 4 8 0 0 5 1 0 46 3 42005 06 35 3 5 2 1 0 13 1 2 50 5 72006 07 38 2 13 6 0 2 10 2 1 54 4 162007 08 32 7 19 3 0 1 10 6 2 45 13 222008 09 22 3 10 1 0 0 10 0 5 33 3 152009 10 27 15 15 1 0 1 8 4 3 36 19 192010 11 20 3 10 6 3 1 5 3 2 29 9 13rwm 212 35 80 30 5 5 61 17 15 303 57 100baresolna 2011 12 28 9 10 8 3 6 11 3 4 47 15 23rwm 28 9 10 8 3 6 11 3 4 47 15 23rwmthnghmd 240 44 92 38 8 12 72 20 19 350 72 126praeths thimchatipilngelnpratu2006 14 02007 8 02008 15 12009 10 42010 11 12011 4 22012 7 2rwm 69 10ekiyrtiprawti aekikh faebrks klang inpi kh s 2011 rwmkb okhes luys ordrieks sapaetor naykrthmntrikhxngsepn say aelaedwid aekhemxrxn naykrthmntriaehngshrachxanackr somsr aekikh xaresnxlexfexkhph 2004 05 exfexkhxmmiwnitichild 2004 yufaaechmepiynslik rxngchnaelis 2005 06 90 baresolnalalika 2012 13 okpaedlery 2011 12 sueprokpaedexspyya 2011 2013 yufasuepxrkhph 2011 futbxlchingaechmpsomsrolk 2011echlsiphriemiyrlik 2014 15 2016 17 likkhph 2014 15 exfexkhph 2017 18thimchati aekikh sepnfutbxlolk 2010 futbxlchingaechmpaehngchatiyuorp 2008 2012nganxun aekikhfaebrksidrwminraykarothrthsnphiesskhxngekhaexng sungxxkxakasephiyngtxnediyw chuxraykar The Cesc Fabregas Show Nike Live thixxkxakasemuxwnthi 19 phvsphakhm kh s 2008 raykarmiphusnbsnunkhuxinki thangchxngskayspxrts epnraykarpkinka thimiephuxnrwmthimxaresnxlxyang filipp esnedxrxs aelanikhlas ebnthenxr rwmthungokhch xaraesn aewngaekr aelaphxaemkhxngfaebrks rwmthungdaracakraykarlitethilbrietn aemtt lukhs marwminraykarnidwy 91 faebrksyngepnphuxupthmphkittimskdikhxngokhrngkarkarehyiydechuxchatiinfutbxlaelasngkhm thichuxokhrngkarwa Show Racism the Red Cardxangxing aekikh 1 0 1 1 Player Profile Cesc Fabregas FC Barcelona khlngkhxmuleka ekbcak aehlngedim emux 15 January 2013 Player Profile Cesc Fabregas Chelsea F C 3 0 3 1 3 2 3 3 3 4 Francesc Fabregas profile ESPNsoccernet accessed 27 June 2009 4 0 4 1 4 2 Cesc Fabregas profile Arsenal F C accessed 27 June 2009 Francesc Fabregas Spanish marvel blossoms out of the world of his mentors The Independent accessed 31 August 2010 Cesc Fabregas faces the Barcelona Dream Team he left behind The Guardian 31 March 2010 accessed 18 September 2010 7 0 7 1 7 2 Cesc Fabregas UEFA accessed 23 May 2007 The one that got away BBC Sport accessed 1 June 2010 9 0 9 1 9 2 The Young Gunner accessed 4 Jan 2011 10 0 10 1 10 2 10 3 Marcotti Gabriele and Balague Guillem From Barcelona to Barnet how a rising star learnt his trade The Times 28 February 2007 accessed 23 May 2007 Cesc Fabregas becomes Arsenal s youngest ever player Arsenal F C 27 January 2006 accessed 22 May 2007 Arsenal youngsters thump Wolves BBC Sport 2 December 2003 accessed 22 May 2007 Record Scorelines Arsenal F C accessed 23 May 2007 14 0 14 1 14 2 14 3 14 4 14 5 14 6 Francesc Fabregas history ESPNsoccernet accessed 18 December 2007 Hughes Ian Fabregas the fabulous BBC Sport 27 August 2004 accessed 22 May 2007 Arsenal 3 0 Blackburn ESPNsoccernet 25 August 2004 accessed 23 May 2007 Fabregas commits to Arsenal BBC Sport 2004 09 17 subkhnemux 2010 06 03 Haylett Trevor Awesome Arsenal progress in style UEFA 7 December 2004 accessed 22 May 2007 Arsenal 0 0 Man Utd aet BBC Sport 21 May 2005 accessed 23 May 2007 20 0 20 1 20 2 Hubbard Norman Arsenal s midfield muddle ESPNsoccernet 22 August 2005 accessed 23 May 2007 21 0 21 1 Arsenal 2 0 Juventus BBC Sport 28 March 2006 accessed 23 May 2007 Sheringham Sam Spain Teenager Fabregas Sparks World Cup Rally Wows Maradona Bloomberg 20 June 2006 accessed 23 May 2007 23 0 23 1 23 2 Harrold Michael Fabregas plots Arsenal revival UEFA 13 April 2007 accessed 23 May 2007 Archived 2007 05 18 thi ewyaebkaemchchin Haslam Andrew Barca comeback denies Arsenal UEFA 17 May 2006 accessed 23 May 2007 Kendall Mark 00 html Real confident of securing Cesc s signature Sky Sports 4 July 2006 accessed 22 May 2007 Wenger Fabregas is not for sale he is Arsenal s future Arsenal F C 12 July 2006 accessed 22 May 2007 Fabregas signs new Arsenal deal BBC Sport 19 October 2006 accessed 22 May 2007 Harris Chris Fabregas Our style of play makes me so happy Arsenal F C 22 October 2006 accessed 23 May 2007 Adams Tom 00 html Cesc staying grounded Sky Sports 27 October 2006 accessed 24 May 2007 Chelsea 2 1 Arsenal BBC Sport 21 February 2007 accessed 23 May 2007 31 0 31 1 Arsenal are the ultimate second half team Arsenal F C accessed 23 May 2007 Dinamo Zagreb 0 3 Arsenal BBC Sport 8 June 2006 accessed 7 September 2008 Lipton Martin HE S FAB IN POLL Daily Mirror 2 December 2006 accessed 22 May 2007 Your Team of 2006 revealed UEFA 19 January 2006 accessed 22 May 2007 Benitez and Fabregas scoop awards BBC Sport 9 February 2007 accessed 22 May 2007 Arsenal 3 1 Man City Fabregas inspires revival ESPNsoccernet 17 April 2007 accessed 18 April 2007 37 0 37 1 He showed he is the ultimate midfield player Arsenal F C accessed 28 June 2007 38 0 38 1 2156108 00 html How Fabregas plans to save Arsenal lingkesiy The Guardian 25 August 2007 accessed 17 September 2007 Fabregas scoops O2 Player of the Month award Arsenal F C 5 October 2007 accessed 6 October 2007 12306 107729 00 pdf GUNNERS DUO CELEBRATE AWARDS DOUBLE Premier League 19 October 2007 accessed 5 March 2008 AC Milan 0 Arsenal 2 BBC Sport 5 March 2008 accessed 5 March 2008 Season Review Week The highlights and the lowlights Arsenal F C accessed 24 May 2008 Ronaldo heads shortlist for players awards ESPNsoccernet 11 April 2008 accessed 12 April 2008 Fabregas is O2 Arsenal com Player of the Season Arsenal F C accessed 8 July 2008 Fabregas replaces Gallas as Arsenal skipper ESPNsoccernet 24 November 2008 accessed 25 November 2008 Captain Cesc s appointment is no surprise The Sport Review 26 November 2008 accessed 22 May 2009 Injured Fabregas ruled out for 3 4 months ESPNsoccernet 23 December 2008 accessed 24 December 2008 2008 2009 English Premier League Statistics ESPNsoccernet accessed 1 July 2009 Arsenal 1 3 Manchester United ESPNsoccernet 29 April 2009 accessed 1 July 2009 Gunners crush Toffees ESPNsoccernet 15 August 2009 accessed 18 August 2009 51 0 51 1 Fabregas out for six weeks with leg fracture ESPNsoccernet 1 April 2010 accessed 2 April 2010 Rooney scoops PFA Player of the Year Award ESPNsoccernet 25 April 2010 accessed 26 April 2010 Arsenal reject Barcelona s bid for Cesc Fabregas BBC Sport 2 June 2010 accessed 15 June 2010 Barcelona switch tactics over Cesc Fabregas in bid to get Arsenal to the negotiating table The Daily Mail 28 May 2010 accessed 22 June 2010 Laporta Lines of communication open over Cesc fcbarcelona cat 4 June 2010 accessed 27 June 2010 Roger Martins EPL midseason surprises and disappointments Yahoo Sports 29 December 2010 accessed 20 January 2011 Wenger not questioning steel ESPNsoccernet 14 March 2011 accessed 15 March 2011 Arsenal agree Cesc deal with Barca ESPN Soccernet 14 August 2011 accessed 15 August 2011 Messi wins Super Cup ESPNsoccernet 17 August 2011 accessed 17 August 2011 Ashby Kevin Barcelona breeze to fourth UEFA Super Cup UEFA 26 August 2011 accessed 27 August 2011 Cesc Fabregas Chelsea sign ex Arsenal midfielder from Barcelona BBC Sport 12 June 2014 subkhnemux 12 June 2014 FABREGAS SIGNS FOR CHELSEA Chelsea FC 12 June 2014 subkhnemux 13 June 2014 Brazil roar past brave Spain Argentina take third FIFA 30 August 2003 accessed 23 May 2007 64 0 64 1 Haslam Andrew 2004 Cesc Fabregas UEFA accessed 9 July 2008 Archived 2008 05 26 thi ewyaebkaemchchin 65 0 65 1 Harris Chris Fabregas Why I feel part of the Spain family Arsenal F C 28 March 2007 accessed 24 May 2007 Ivory Coast suffer defeat BBC Sport 2 March 2006 accessed 23 May 2007 Spain 3 1 Tunisia BBC Sport 19 June 2006 accessed 23 May 2007 Saudi Arabia 0 1 Spain BBC Sport 23 June 2006 accessed 23 May 2007 Spain 1 3 France BBC Sport 27 June 2006 accessed 23 May 2007 Spain 4 0 Ukraine BBC Sport 14 June 2006 accessed 22 May 2007 Germany s Podolski named top young player CBC ca 7 July 2006 accessed 22 May 2007 Veysey Wayne Cesc Fabregas ready to talk tough with Arsenal Archived 2008 06 30 thi ewyaebkaemchchin The Daily Telegraph 28 May 2008 accessed 10 June 2008 73 0 73 1 73 2 Cesc in Euro 2008 Team of the Tournament Arsenal F C accessed 6 August 2008 Spain beat Italy in penalty shootout Archived 2008 06 26 thi ewyaebkaemchchin ESPNsoccernet 22 June 2008 accessed 23 June 2008 Germany 0 1 Spain Torres ends Spain s pain ESPNsoccernet 30 June 2008 accessed 30 June 2008 Torres stars in Spanish stroll FIFA accessed 15 June 2009 Altidore s goal leads U S to stunning upset ESPNsoccernet 24 June 2009 accessed 26 June 2009 Spain omit Marcos Senna from 2010 World Cup squad BBC Sport 20 May 2010 accessed 22 May 2010 Iniesta sinks Dutch with late strike ESPNsoccernet 11 July 2010 accessed 13 July 2010 Spain name Fernando Torres in 23 man squad BBC Sport 27 May 2012 subkhnemux 11 June 2012 Spain 1 1 Italy BBC Sport 10 June 2012 subkhnemux 11 June 2012 82 0 82 1 Smith Alan Fabregas puts his skates on in chase for perfection Archived 2007 10 11 thi ewyaebkaemchchin The Daily Telegraph 20 January 2007 accessed 23 May 2007 McIlvanney Hugh 2094 2104071 00 html Fabregas a leader in waiting The Times 26 March 2006 accessed 22 May 2007 Townsend Nick Spanish marvel blossoms The Independent 2 October 2005 accessed 17 September 2007 Archived 2013 05 06 thi ewyaebkaemchchin Macintosh Iain Completely Fab The New Paper 29 September 2007 Wenger Fabregas has the vision of Platini Arsenal F C 19 September 2007 accessed 4 January 2008 Wenger This team is blossoming and growing Arsenal F C 15 September 2007 accessed 17 September 2007 van Wijk Jim Fabregas in need of rest after season of hard work Archived 2007 09 27 thi ewyaebkaemchchin The Independent 29 March 2007 accessed 24 May 2007 rwmthung exfexkhp likkhp aela exfex khxmmunitichild Barca comeback denies Arsenal UEFA 18 May 2006 subkhnemux 5 July 2015 NIKELIVE Archived 2011 07 14 thi ewyaebkaemchchin NikeLiveFabregas com accessed 19 April 2008 aehlngkhxmulxun aekikhkhxmmxns miphaphaelasuxekiywkb essk faebrksewbistthangkar Spanish FA Profile Archived 2012 12 18 thi archive today National team data Archived 2012 05 24 thi ewyaebkaemchchin sepn Transfermarkt profile 2010 FIFA World Cup profile essk faebrks sthitikarlngaekhngcakshphnthfutbxlrahwangpraeths FIFA xngkvs sthitikhxng essk faebrks thi Soccerbase Profile at Arsenal com Cesc Fabregas statistics essk faebrks thithwitetxrkxnhna essk faebrks thdipwiliyam kals kptnthimsomsrfutbxlxaresnxl 2008 2011 orbin fn aeprsiekhathungcak https th wikipedia org w index php title essk faebrks amp oldid 9549106, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม