ปลาซีลาแคนท์
ปลาซีลาแคนท์ ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: ดีโวเนียน-ปัจจุบัน | |
---|---|
Latimeria chalumnae | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Sarcopterygii |
ชั้นย่อย: | Actinistia |
ชั้นฐาน: | Coelacanthimorpha |
อันดับ: | Coelacanthiformes Berg, 1937 |
วงศ์ | |
ดูในบทความ |
ซีลาแคนท์ (อังกฤษ: Coelacanth, เสียงอ่านภาษาอังกฤษ: /ˈsiːləkænθ/ ดัดแปลงมาจากคำละตินสมัยใหม่ Cœlacanthus เมื่อ cœl-us + acanth-us จากภาษากรีกโบราณ κοῖλ-ος [โพรง] + ἄκανθ-α [กระดูกสันหลัง]) เป็นชื่อสามัญของอันดับปลาที่รวมถึงสายพันธุ์ของปลาที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่รู้จักในปัจจุบันพวก gnathostomata นักวิทยาศาสตร์เคยเชื่อว่าปลาซีลาแคนท์มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับปลาปอดและเตตราพอดที่เคยเชื่อกันว่าสูญพันธุ์ไปเมื่อครั้งสิ้นสุดยุคครีเทเชียส จนกระทั่งมีการพบปลา แลติเมอเรีย ครั้งแรกที่นอกชายฝั่งด้านตะวันออกของแอฟริกาใต้เลยแม่น้ำชาลัมนาออกมาในปี ค.ศ. 1938 และปลาเหล่านั้นจึงเป็นพวกลาซูรัส ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1938 เป็นต้นมา ปลาซีลาแคนท์ Latimeria chalumnae ก็มีการถูกค้นพบในคอโมโรส เคนยา แทนซาเนีย โมซัมบิก มาดากัสการ์ และในอุทยานป่าชุ่มน้ำซิแมงกาลิโส กวาซูลู-นาทัล ในแอฟริกาใต้ สายพันธุ์ที่สอง Latimeria menadoensis พบที่เกาะซูลาเวซี อินโดนีเซีย ในปี ค.ศ. 1999 ทำให้ทราบว่าปลาซีลาแคนท์ไม่มีปอดและมีโครงสร้างที่ไม่เกี่ยวข้องกับเตตราพอดแต่อย่างใด ปลาซีลาแคนท์ไม่มีคุณค่าทางการค้าอย่างแท้จริงนอกเสียจากจะแปรสภาพเป็นวัตถุจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์และการเก็บสะสมส่วนตัว ในแง่ของการเป็นอาหารแล้ว ปลาซีลาแคนท์เกือบไม่มีค่าเอาเสียเลยด้วยเนื้อเยื่อของมันมีน้ำมันไหลซึมออกมาแม้ว่าจะตายไปแล้วก็ตาม และเนื้อของมันทั้งเหนียวและมีกลิ่นเหม็นด้วย
ประวัติธรรมชาติ
ปลาซีลาแคนท์พบเป็นฟอสซิลครั้งแรกในยุคดีโวเนียนตอนกลาง ปลาซีลาแคนท์ดึกดำบรรพ์อาศัยอยู่ในน้ำในช่วงปลายของมหายุคพาลีโอโซอิกและมีโซโซอิก
ซีลาแคนท์เป็นปลาที่มีครีบมีลักษณะเป็นพูอยู่ที่ทรวงอกและก้นอยู่บนแท่งก้านเนื้อเยื่อที่รองรับโดยกระดูกและมีครีบหางที่แตกออกแยกเป็น 3 พู โดยที่พูตรงกลางจะรวมถึงชุดของโนโตคอร์ด ปลาซีลาแคนท์มีเกล็ดที่บางกว่าเกล็ดของปลาพวกคอสมอยด์จริง ๆ ปลาซีลาแคนท์มีอวัยวะพิเศษสำหรับตอบรับทางไฟฟ้าที่เรียกกันว่าอวัยวะคล้ายตะขออยู่ทางด้านหน้าของกะโหลกที่อาจจะใช้ช่วยในการตรวจจับเหยื่อ อวัยวะเล็ก ๆ นี้อาจช่วยรักษาสมดุลของตัวปลาได้ด้วย การค้นหาตำแหน่งด้วยคลื่นเสียงสะท้อนก็อาจเป็นปัจจัยหนึ่งในวิถีทางการเคลื่อนที่ของตัวปลา
ซากดึกดำบรรพ์
แม้ว่าในปัจจุบันจะมีการค้นพบรู้จักปลาซีลาแคนท์ที่มีชีวิตอยู่เพียง 2 ชนิดเท่านั้น แต่พบว่าครั้งหนึ่งพวกมันกลับเคยประสบความสำเร็จด้วยการพบเป็นฟอสซิลที่หลากหลายสกุลและหลากหลายชนิดจากยุคดีโวเนียนจนถึงสิ้นสุดยุคครีเทเชียสซึ่งเป็นจุดช่วงเวลาที่พวกมันต้องเผชิญกับความยากลำบากจนเกือบต้องสูญพันธุ์ไปทั้งหมด มักจะมีความเข้าใจกันว่าปลาซีลาแคนท์แทบจะไม่มีลักษณะที่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ตลอดช่วงระยะเวลาหลายล้านปีมานี้ แต่ที่แท้จริงแล้วชนิดที่มีชีวิตทั้งสองชนิดหรือแม้แต่สกุลก็ตามไม่เคยพบในรูปของฟอสซิลเลย อย่างไรก็ตามสายพันธุ์ฟอสซิลบางชนิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งฟอสซิลยุคครีเทเชียสสกุล มาโครโปมา ที่มีลักษณะใกล้ชิดกันกับสกุลมีชีวิตในปัจจุบันมาก เหตุผลในเรื่องนี้เป็นไปได้ว่าพวกที่สูญพันธุ์ไปนั้นเป็นพวกที่อาศัยอยู่ในน้ำตื้น ขณะที่สายพันธุ์ฟอสซิลชนิดที่อาศัยอยู่ในน้ำลึกพบว่าเป็นการยากที่จะถูกยกตัวขึ้นมาให้นักบรรพชีวินวิทยาให้สามารถค้นพบเพื่อทำการศึกษาได้ ทำให้พวกที่เป็นปลาน้ำลึกไม่พบบันทึกเป็นฟอสซิลให้เห็น สิ่งเหล่านี้ยังคงอยู่ภายใต้การสำรวจและศึกษาต่อไปโดยนักวิทยาศาสตร์
อนุกรมวิธาน
บางทีชั้นย่อย Coelacanthimorpha (Actinistia) ก็ถูกจัดให้เป็นกลุ่มของปลา Sarcopterygian ด้วยที่รวมถึง Coelacanthiformes ด้านล่างนี้เป็นการจำแนกวงศ์และสกุลของปลาซีลาแคนท์
- ชั้น Sarcopterygii
- ชั้นย่อย Coelacanthimorpha
- อันดับ COELACANTHIFORMES
- วงศ์ Coelacanthidae (สูญพันธุ์)
- Axelia (สูญพันธุ์)
- Coelacanthus (สูญพันธุ์)
- Ticinepomis (สูญพันธุ์)
- Wimania (สูญพันธุ์)
- วงศ์ Diplocercidae (สูญพันธุ์)
- Diplocercides (สูญพันธุ์)
- วงศ์ Hadronectoridae (สูญพันธุ์)
- Allenypterus (สูญพันธุ์)
- Hadronector (สูญพันธุ์)
- Polyosteorhynchus (สูญพันธุ์)
- วงศ์ Mawsoniidae (สูญพันธุ์)
- Alcoveria (สูญพันธุ์)
- Axelrodichthys (สูญพันธุ์)
- Chinlea (สูญพันธุ์)
- Diplurus (สูญพันธุ์)
- Mawsonia (สูญพันธุ์)
- วงศ์ Miguashaiidae (สูญพันธุ์)
- Miguashaia (สูญพันธุ์)
- วงศ์ Latimeriidae
- Holophagus (สูญพันธุ์)
- Libys (สูญพันธุ์)
- Macropoma (สูญพันธุ์)
- Macropomoides (สูญพันธุ์)
- Megacoelacanthus (สูญพันธุ์)
- Latimeria (James Leonard Brierley Smith, 1939)
- L. chalumnae (Comorese coelacanth) (James Leonard Brierley Smith, 1939)
- L. menadoensis (Indonesian coelacanth) (Pouyaud, Wirjoatmodjo, Rachmatika, Tjakrawidjaja, et al., 1999)
- Undina (สูญพันธุ์)
- วงศ์ Laugiidae (สูญพันธุ์)
- Coccoderma (สูญพันธุ์)
- Laugia (สูญพันธุ์)
- วงศ์ Rhabdodermatidae (สูญพันธุ์)
- Caridosuctor (สูญพันธุ์)
- Rhabdoderma (สูญพันธุ์)
- วงศ์ Whiteiidae (สูญพันธุ์)
- Whiteia (สูญพันธุ์)
- วงศ์ Coelacanthidae (สูญพันธุ์)
ปลาซีลาแคนท์ในวัฒนธรรมสมัยนิยม
การตีพิมพ์เผยแพร่อย่างกว้างขวางของปลาซีลาแคนท์ในฐานะ “ฟอสซิลมีชีวิต” พบได้ในดนตรี วิดีโอเกมส์ นิยาย และโทรทัศน์
- “ซีลาแคนท์” ถูกนำไปตั้งชื่อเพลงและอัลบั้มของวงดนตรี ได้แก่ จอห์น ฟาเฮย์ เชรียกแบกค์ มิสเตอร์ชิลเดรน โพลีสิกส์ และโลตัสไชล์ด
- ปลาซีลาแคนท์ถูกนำไปเป็นตัวแสดงในวิดีโอเกมส์ ดังที่พบใน “แอนิมอลครอสซิง” ร็อคแมน X2 เซก้า มารีนฟิชชิ่ง อี วี โอ: เซิร์ชฟอร์อีเดน (ในฉายา "ซีลาฟิช") วีเลิฟคาตามาริ มีแอนด์มายคาตามาริ เอนด์เลสส์โอเชียน เมทัลเกียร์โซลิด 3: สเนกอีตเทอร์ และ อะคัวนอตฮอลิเดย์: ฮิดเดนเมโมรีส์ ยักษ์ตนหนึ่งซึ่งเป็นปลาซีลาแคนท์มีหน้าเป็นคนที่แสดงเป็นเจ้านายระดับสี่ใน คอนทรา: แชตเตอร์โซลด์เยอร์ ปลาซีลาแคนท์ยังถูกดลใจสำหรับโปเกมอน รีลิแคนท์ ดิจิมอน ซีลามอน (ปลาซีลาแคนท์บินได้) และ บอสส์ ในดาริอุสซีรีส์
- ในนิยายเรื่องออร์ริกซ์ และเครกของมาร์กาเร็ต แอตวูด ปลาซีลาแคนท์ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์สำหรับสมาคมวิทยาศาสตร์ใต้ดิน ใน Dirk Gently's Holistic Detective Agency ศาสตราจารย์โครโนติส ยอมรับว่าเป็นสาเหตุให้นกโดโดสูญพันธุ์เนื่องจากความพยายามที่จะรักษาปลาซีลาแคนท์เอาไว้ ใน Father Muerte and the Rain ของลี แบตเตอร์บี ปลาซีลาแคนท์ตกลงมาจากท้องฟ้าเมื่อผีเสื้อดึกดำบรรพ์ถูกขโมยไปจากบ้านของมัน การอ้างอิงถึงปลาซีลาแคนท์ ลาติเมอเรีย ชาลัมนี ก็ถูกอ้างถึงอีกในนิยายของแอนน์ แลนด์แมน
- ในนิยายเรื่อง “69” ของริอุ มูรากามิ วงดนตรีของเคนถูกตั้งชื่อว่า “ซีลาแคนท์”
- ผลงานเพลงของ อินเตอร์โรแบง คาร์เทลรวมถึงอัลบั้ม Bad Coelacanth และเพลง Prelude to the Afternoon of a Coelacanth.
- ซีลาแคนท์ได้มีบทบาทในภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์อย่างเช่น Atlantis: The Lost Empire Monster on the Campus และ Futurama
- ในซาโยนาระ คุณครูผู้สิ้นหวัง โนโซมุรำพึงรำพันว่าทำไมหนอทุกสิ่งทุกอย่างช่างไม่เหมือนกับสิ่งดั้งเดิมเลยมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา คะฟุกะอธิบายว่าทุกสิ่งทุกอย่างก็ย่อมมีการวิวัฒนาการเสมอ แต่ทันใดนั้นอะบิรุได้โต้แย้งเธอด้วยการกล่าวว่าเมื่อปลาซีลาแคนท์ถูกค้นพบครั้งแล้วครั้งเล่ามันก็ยังคงมีรูปแบบเหมือน ๆ เดิมและก็ไม่ต้องไปหาชนิดใหม่ ๆ ที่ไหนหรอกซึ่งอาจเป็นไปได้ว่ามันไม่มีการวิวัฒนาการอีกเลยหลังจากที่เข้าใจกันว่ามันได้สูญพันธุ์ไปแล้ว
- คำว่าซีลาแคนท์ถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ในวัตถุต่าง ๆ และใช้ตั้งชื่อเล่น อย่างชื่อ "Les Coelecantes" (หมายถึง Coelacanths) เป็นชื่อที่ใช้เรียกแบบลำลองของทีมฟุตบอลประจำชาติคอโมโรส และซีลาแคนท์ยังถูกตีพิมพ์บนดวงตราไปรษณียากร บนเหรียญ บนบัตรโทรศัพท์ และบนขวดเบียร์
- ในหนังสือภาพเรื่อง “ช่างตัดเสื้อน้อยผู้กล้าหาญ” โดยแอนเดรจ ดูกิ้น และโอลก้า ดูกิน่า มีรูปแสดงภาพของปลาซีลาแคนท์ในเกราะหุ้ม
- ในฉากหนึ่งของหนังสือเรื่อง “ตินติน” สหายรักของแคลคูลัส ตินตินและกัปตันแฮดดอกค์ได้หยุดรถที่เขาเชื่อว่าเพื่อนของเขา “ศาสตราจารย์แคลคูลัส” อยู่ในรถคันนั้นด้วย ผู้โดยสารรถคนหนึ่งได้เปิดกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ออกมาเพื่อแสดงว่าแคลคูลัสไม่ได้อยู่ในนั้น แล้วเอ่ยถามขึ้นว่า “แล้วไหนล่ะ ซีลาแคนท์ของคุณ” ซึ่งเป็นการออกเสียงชื่อแคลคูลัสที่ผิดเพี้ยน
เชิงอรรถ
- ฟอสซิลกรามปลาซีลาแคนท์พบในชั้นหินอายุ 410 ล้านปีมาแล้ว ถูกค้นพบใกล้ ๆ กับบูจันในวิกตอเรียกิปป์แลนด์ทางตะวันออกของออสเตรเลีย ซึ่งจนถึงปัจจุบันถือว่าเป็นปลาซีลาแคนท์ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด ได้รับการตั้งชื่อว่า Eoactinistia foreyi ที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2006
อ้างอิง
- Reference for divergence dated on mitochondrial genome
- Erdmann, Mark V. (April 1999). . Environmental Biology of Fishes. Springer Netherlands. 54 (4): 439–443. doi:10.1023/A:1007584227315. 0378-1909 (Print) 1573-5133 (Online). คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2019-09-11. สืบค้นเมื่อ 2007-05-18.
- Piper, Ross (2007), Extraordinary Animals: An Encyclopedia of Curious and Unusual Animals, Greenwood Press.
- Johanson, Z.; Long, J. A; Talent, J. A; Janvier, P.; Warren, J. W (2006). "Oldest coelacanth, from the Early Devonian of Australia". Biology Letters. 2 (3): 443–6. doi:10.1098/rsbl.2006.0470. PMC 1686207. PMID 17148426.
- Palmer, D., บ.ก. (1999). The Marshall Illustrated Encyclopedia of Dinosaurs and Prehistoric Animals. London: Marshall Editions. p. 44. ISBN 1-84028-152-9.
- Nelson, Joseph S. (2006). Fishes of the World. John Wiley & Sons. ISBN 0-471-25031-7.
- "Nintendocanth". Retrieved on 2007-01-13.
- "Relicanth". Retrieved on 2007-01-13.
- Cyber Coelacanth. Retrieved on 2007-01-13.
- Haller, Jacob, , คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2008-05-10, สืบค้นเมื่อ 2008-09-10
- Archipel des Comores-RF Postes.Retrieved on 2009-04-26.
- "Coincanth". Retrieved on 2007-01-13.
- "Coelaphone". 2007-01-13.
- "Beercanth". Retrieved on 2007-01-13.
- Olga Dugina & Andrej Dugin. the brave little taylor. watercolor on paper, 50 x 35.5 cm. Duginart.
แหล่งข้อมูลอื่น
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: ปลาซีลาแคนท์ |
วิกิสปีชีส์มีข้อมูลภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ Latimeria |
- Anatomy of the coelacanth โดย PBS (ต้องการ Adobe Flash)
- Dinofish.com (ต้องการ frame-capable browser)
- Butler, Carolyn (August 2012). "Der Quastenflosser: Ein Fossil taucht auf" [The Coelacanth: A fossil turns up]. National Geographic Deutschland (ภาษาเยอรมัน).
- Amemiya, Chris T.; Alföldi, Jessica; Lee, Alison P.; Fan, Shaohua; Philippe, Hervé; MacCallum, Iain; Braasch, Ingo; Manousaki, Tereza; Schneider, Igor; และคณะ (2013). "The African coelacanth genome provides insights into tetrapod evolution". Nature. 496 (7445): 311–6. Bibcode:2013Natur.496..311A. doi:10.1038/nature12027. PMC 3633110. PMID 23598338.
- BBC News Science & Environment (17 เมษายน 2013). 'Living fossil' coelacanth genome sequenced.