งูสมิงทะเลปากเหลือง
งูสมิงทะเลปากเหลือง | |
---|---|
งูสมิงทะเลปากเหลืองที่เกาะซูลาเวซี | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Reptilia |
อันดับ: | Squamata |
อันดับย่อย: | Serpentes |
วงศ์: | Elapidae |
วงศ์ย่อย: | Hydrophiinae |
สกุล: | Laticauda |
สปีชีส์: | L. colubrina |
ชื่อทวินาม | |
Laticauda colubrina (Schneider, 1799) | |
ชื่อพ้อง | |
|
งูสมิงทะเลปากเหลือง (อังกฤษ: Yellow-lipped sea krait; ชื่อวิทยาศาสตร์: Laticauda colubrina) เป็นงูทะเลชนิดหนึ่งในวงศ์Elapidae ที่พบได้ในประเทศไทย ซึ่งมีพิษร้ายแรงต่อระบบกล้ามเนื้อ
มีรูปร่างคล้ายงูสมิงทะเลปากดำ (L. laticaudata) ที่เป็นงูในสกุลเดียวกัน แต่ว่างูสมิงทะเลปากเหลืองนั้นจะมีลำตัวสีที่อ่อนกว่า ส่วนหัวและหางมีขนาดเล็กและมีลายรูปเกือกม้าสีเหลือง ตัวผู้ขนาดเมื่อโตเต็มที่มีความยาวประมาณ 2 ฟุต ขณะที่ตัวเมียจะมีความยาวกว่า 1.5 เมตร ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า น้ำหนักหนักได้ถึง 2 กิโลกรัม มีอุปนิสัยชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง 5-6 ตัว บางครั้งอาจมีลูกงูตัวเล็ก ๆ ตามงูตัวใหญ่หรือแม่งูด้วย วางไข่บนบกเช่นเดียวกับงูสมิงทะเลปากดำ
มักอาศัยอยู่ในแนวปะการังน้ำตื้นใกล้ชายฝั่ง ในเขตน่านน้ำไทยพบได้ทั้งฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ในต่างประเทศพบได้ถึงที่ทะเลญี่ปุ่น, อ่าวเบงกอล, อินโดนีเซีย, หมู่เกาะโซโลมอน ทางตอนเหนือของออสเตรเลีย ตลอดจนบางส่วนของอเมริกากลางด้วย
จากการศึกษา นักวิทยาศาสตร์พบว่า งูสมิงทะเลปากเหลืองนั้นที่มีหัวขนาดเล็กดูแลคล้ายหาง เพื่อลวงตาจากสัตว์นักล่าที่จับมันกินเป็นอาหาร เช่น ปลาฉลามหรือนกทะเลชนิดต่าง ๆ งูสมิงทะเลปากเหลืองที่แนวปะการังในอินโดนีเซีย มีพฤติกรรมรวมตัวกันเป็นฝูงใหญ่ เพื่อหาอาหารในซอกหลีบปะการัง เนื่องจากเป็นงูว่ายน้ำช้าจึงไม่สามารถที่จะจับปลาที่ว่ายไปมากินได้ จึงรอปลาเล็กหรือสัตว์น้ำขนาดเล็กที่ถูกปลาขนาดใหญ่ เช่น ปลากะมง ไล่มา ดักรอเป็นอาหาร และถ้าปลาตัวไหนหลุดรอดออกไปก็จะตกเป็นอาหารของปลาใหญ่ทันที
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: Laticauda colubrina |
อ้างอิง
- [ลิงก์เสีย] Laticauda colubrina {{en}]
- ศูนย์ข้อมูลพิษวิทยา คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- [1]
- Yellow-Lipped Sea Krait Species Profile
- ไขเล่ห์งูทะเลเล่นกลหลอกศัตรู ทำเป็น 2 หัวในตัวเดียว จากผู้จัดการออนไลน์
- Shallow Seas, "Planet Earth" . สารคดีทางบีบีซี: 2006