เมขลา
เมขลา หรือ มณีเมขลา เป็นเทพธิดาประจำทะเล และเป็นนางผู้ถือดวงแก้วล่อให้รามสูรขว้างขวานจนทำให้เกิดฟ้าร้อง แต่นางก็โยนแก้วล่อไปล่อมาทำให้เกิดฟ้าแลบแสบตา ทั้งนี้ท้าวโลกบาลทั้งสี่ได้มอบหมายให้คอยช่วยเหลือผู้มีบุญญาที่ตกน้ำ โดยปรากฏในชาดกเรื่อง พระมหาชนก ซึ่งเมขลาเข้าช่วยเหลือเจ้าชายมหาชนกจากเรืออัปปาง และปรากฏใน สมุทรโฆษคำฉันท์ ฉบับสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ก็มีการกล่าวถึงเมขลาเข้าช่วยพระสมุทรโฆษที่ลอยคออยู่กลางทะเลเจ็ดวัน
ทั้งนี้ฉากรามสูรไล่จับเมขลาไม่ปรากฏในวรรณคดีอินเดียใด ๆ แต่ในประเทศไทยมีการประดิษฐ์ฉากดังกล่าวให้เป็นท่าระบำที่มีลักษณะสนุกสนานสำหรับการแสดงเบิกโรง
ที่มาของชื่อ
เมขลา เป็นภาษาบาลี แปลว่า "สายรัดเอว" หรือ "เข็มขัดสตรี" บ้างว่าหมายถึงจับปิ้ง อันเป็นเครื่องประดับอวัยวะเพศหญิง ประเทศไทยใช้ชื่อ "เมขลา" มาตั้งเป็นชื่อของพายุหมุนเขตร้อนในปี พ.ศ. 2548 และ 2551 ตามลำดับ นอกจากนี้ยังใช้เป็นชื่อรางวัลผลงานดีเด่นทางโทรทัศน์ และศูนย์ป้องกันวิกฤตน้ำ
ประวัติ
ในอรรถกถาสังขชาดกระบุว่าเมขลาเป็นเทพธิดาที่ได้รับมอบหมายจากท้าวโลกบาลทั้ง 4 เพื่ออารักขาทะเล โดยสั่งว่าถ้าเรือมาแตกลง มนุษย์ที่ถือไตรสรณคมน์ก็ดี มีศีลสมบูรณ์ก็ดี ปฏิบัติชอบในมารดาบิดาก็ดี มาตกทุกข์ในสมุทรนี้ พึงพิทักษ์รักษาเขาไว้
ตามนิยายพื้นบ้านของไทย ได้ยกเรื่องเมขลามาอธิบายเกี่ยวกับปรากฏการณ์ฟ้าแลบและฟ้าร้อง โดยเล่าว่าเมขลามีแก้ววิเศษประจำตัว รามสูรเห็นดังนั้นก็พอใจในดวงแก้วและความงามของเมขลาจึงเที่ยวไล่จับ เมื่อจับไม่ทันก็เอาขวานขว้างแต่ไม่ถูก เนื่องจากนางใช้แก้วล่อจนมีแสงเป็นฟ้าแลบทำให้รามสูรตาพร่ามัวขว้างขวานไม่ถูก บ้างว่าเป็นเพราะรามสูร เมขลา และพระประชุนมาชุมนุมรื่นเริงกัน พระประชุนคือพระอินทร์ในสมัยพระเวทที่มีหน้าที่ทำให้เกิดพายุฝน พระอินทร์ในหน้าที่นี้เรียกว่า ปรรชันยะ หรือ ปรรชัยนวาต ไทยเรียกเป็นพระประชุน เมื่อมีการชุมนุมรื่นเริงกันของเทพแห่งฝน เมขลาผู้มีดวงแก้วและรามสูรผู้มีขวานจึงทำให้เกิดฟ้าแลบ ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า เข้าใจว่าเดิมคงเป็นมุขปาฐะเล่าเรื่องดินฟ้าอากาศของคนสมัยก่อน โดยให้เสียงฟ้าร้องเป็นยักษ์ถือขวาน นางฟ้าถือดวงมณี และให้สภาพอากาศเป็นเทวดา ภายหลังจึงแผลงให้เป็นอินเดียด้วยการใส่ชื่อเทวดาที่มีลักษณะคล้ายกันคือ รามสูร เมขลา และอรชุน ตามลำดับ
ขณะที่เสฐียรโกเศศและนาคะประทีปกล่าวถึงเมขลาว่านางสมุทรเทวี คือเทพธิดารักษาสมุทรไท และเทพธิดาสำหรับฝน ในวรรณคดี เฉลิมไตรภพ ได้อธิบายว่า มีพระยามังกรการตนหนึ่งอมแก้วไว้เสมอ จะไปไหนก็เอาดวงแก้วทูนศีรษะไว้ มังกรการได้แปลงเป็นเทวดาไปสมสู่กับนางฟ้ามีบุตรีชื่อ เมขลา เมื่อเจริญวัยขึ้นมีความงามยิ่ง มังกรการได้นำบุตรีและดวงแก้วไปมอบแก่พระอิศวร ครั้งหนึ่งเมขลาได้ขโมยดวงแก้ววิเศษนั้นไป ราหูผู้มีครึ่งตัวเพราะถูกจักรพระนารายณ์เมื่อครั้งแปลงเป็นเทวดาไปดื่มน้ำอมฤต ได้อาสาไปจับเมขลา และได้ชวนรามสูรผู้เพื่อนไปด้วย รามสูรได้ขว้างขวานจนกลายเป็นฟ้าลั่น ดังที่สุนทรภู่ได้แต่งกลอนอธิบายการล่อแก้วของเมขลาและการขว้างขวานของรามสูรไว้ ความว่า
๏ เมขลากล้าแกล้ว | ล่อแก้วแววไว | |
โยนสว่างเหมือนอย่างไฟ | ปลาบไนยเนตรมาร |
๏ หน้ามืดฮืดฮาด | เกรี้ยวกราดโกรธทยาน | |
แค้นนางขว้างขวาน | เปรี้ยงสท้านโลกา |
๏ ฤทธิ์แก้วแคล้วคลาศ | ยิ่งกริ้วกราดโกรธา | |
โลดไล่ไขว่คว้า | เมขลาล่อเวียน |
๏ ยักษ์โถมโจมโจน | นางก็โยนวิเชียร | |
หลีกลัดฉวัดเฉวียน | ล่อเวียนวงวล |
๏ เปรี้ยงเปรี้ยงเสียงขวาน | ก้องสท้านสากล | |
ไล่นางกลางฝน | มืดมนท์ในเมฆา |
๏ นวลนางนั้นช่างล่อ | รั้งรอร่อนรา | |
เวียนรไวไปมา | ในจักรราศีเอย ๚ |
ในวรรณคดีเรื่อง รามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชว่า เทศกาลวสันต์คราวหนึ่งนางอัปสรและเทวดาต่าง ๆ มาร่วมจับระบำกัน เมขลาเองก็ถือแก้วมณีไปร่วมจับระบำด้วย รามสูรเห็นดังนั้นจึงไล่จับนางเมขลา แต่พระอรชุนเหาะมาพอดี ด้วยความโกรธรามสูรจึงจับสองขาพระอรชุนไปฟาดเหลี่ยมเขาพระสุเมรุจนตาย
ลักษณะ
ในบทเห่กล่อมพระบรรทม เห่เรื่อง "จับระบำ" ที่แต่งโดยสุนทรภู่ ได้พรรณนาเกี่ยวกับลักษณะของเมขลาที่กำลังล่อแก้วอยู่บนท้องฟ้า และมีความงามดุจกินรี ความว่า
เห่เอยนางเอก | มณีเมขลา | |
ลอยเร่ในเมฆา | ถือจินดาดั่งดวงดาว |
โยนเล่นเห็นแก้ว | สว่างแวววามวาว | |
ลอยฟ้าเวหาหาว | รูปราวกับกินรี |
ทรงเครื่องเรืองจำรัส | อร่ามรัศมีฉวี | |
ชูช่วงดวงมณี | เลื่อนลอยลีลามา |
เลียบรอบขอบทวีป | อยู่กลางกลีบเมฆา | |
เชยชมยมนา | เฝ้ารักษาสินธุ |
เมขลาในประเทศต่าง ๆ
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เรื่องราวของเมขลา มักปรากฏตามจิตกรรมฝาผนังของวัดในประเทศอุษาคเนย์ที่นับถือพุทธศาสนาโดยภาพมาจากฉากในเรื่อง พระมหาชนก โดยในไทยและกัมพูชาได้มีการแสดง "เมขลาล่อแก้ว" ทั้งนี้ในราชสำนักกัมพูชาได้มีพิธีกรรมขอฝนด้วยการเต้นดังกล่าวเพื่อเป็นการบวงสรวงเทวดาเพื่อบังคับฝน ถือเป็นเรื่องสวัสดิมงคล โดยชาวเขมรเชื่อว่าแก้วของเมขลาคือไฟแลบ แต่ตามหลักปรณัมศาสตร์ ควรเป็นสัญลักษณ์ของพระจันทร์เสียมากกว่า ส่วนในไทยโดยมากเชื่อว่าเมขลาคือเทพธิดารักษาสมุทรไท
ในอดีตชนชั้นสูงในไทยมักระบำเบิกโรงเมขลารามสูรโดยถือเป็นมงคล มีหลักฐานว่ามีอยู่ในราชสำนักมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และเป็นต้นตำรับของละครใน ซึ่งตกทอดมาจนถึงยุครัตนโกสินทร์ ส่วนโรงละครเองก็ประดับประดารูปสลักหรือภาพวาดเมขลารามสูรล่อแก้วถือเป็นมงคลอีกเช่นกัน
ประเทศจีน
ตามคติจีน มีเทพที่ใกล้เคียงกับเมขลาอีกสององค์คือเง็กนึ้ง (จีน: 玉女; พินอิน: yùnǚ; แปลว่า "นางหยก") และอีกองค์คือเตียนบ๊อ (จีน: 電母; พินอิน: diàn mǔ; แปลว่า "เจ้าแห่งสายฟ้า") ต่างกับเมขลาคือถือธงหรือกระจกเงาให้มีแสงแวบวับเป็นสัญญาณให้ลุ่ยกง (จีน: 雷公; พินอิน: léi gōng; แปลว่า "เจ้าแห่งฟ้าร้อง") รู้ก่อนว่าผู้ใดมีใจชั่วควรลงโทษด้วยการใช้ฟ้าผ่า
ประเทศศรีลังกา
ปรากฏในกาพย์ของชาวทมิฬ เรื่อง มณิเมกะไล (ทมิฬ: மணிமேகலை) เป็นเทพธิดาแห่งท้องทะเล โดยถือเป็นเทพสตรีที่นอนหลับไหลอยู่บนเกาะมณีปัลลาวัม (ปัจจุบันคือ เกาะนยิณาตีวู) รจนาขึ้นโดยจิตตาไล จัตตานาร์ ถือเป็นมหากาพย์หนึ่งในห้าที่มีชื่อเสียงของชาวทมิฬ
ในวัฒนธรรมร่วมสมัย
เรื่องราวของเมขลา ได้รับการประพันธ์เป็นเพลง "เมขลาล่อแก้ว" ซึ่งเป็นจังหวะรำวง ขับร้องโดยเบญจมินทร์ โดยพรรณนาถึงฉากที่เมขลาล่อแก้วกับรามสูร ส่วนในเพลง "ปักตะไคร้" ของวงบุดดาเบลส ในมิวสิกวีดิโอมีฉากที่เมขลาล่อแก้วจนก่อให้เกิดฟ้าผ่า ส่วนเนื้อหาของเพลงมิได้กล่าวถึงเมขลา
นอกจากนี้ยังมีวรรณกรรมคือ พระมหาชนก พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่มีฉากนางมณีเมขลาเหาะลงมาช่วยพระมหาชนก ในปี พ.ศ. 2549 ได้มีการจัดการแสดง มหานาฏกรรมเฉลิมพระเกียรติ พระมหาชนก เพื่อเทิดพระเกียรติพระเจ้าอยู่หัว โดยนำเค้าโครงจากพระราชนิพนธ์ดังกล่าวมาจัดแสดงในรูปแบบนาฏกรรม
อ้างอิง
- กิเลน ประลองเชิง (24 มกราคม 2557). "เมขลาล่อแก้ว". ไทยรัฐ. สืบค้นเมื่อ 26 มกราคม 2557. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - G.P. Malalasekera. Dictionary of Pali Proper Names: Pali-English. Asian Educational Services, 2003
- ↑ Anne Elizabeth Monius. Imagining a place for Buddhism: literary culture and religious community in Tamil-speaking South India. Oxford University Press US, 2001, pages 111-112
- ↑ นาค ใจอารีย์. อันเนื่องมาแต่วรรณคดี. พระนคร : คุรุสภา, 2507, หน้า 250-251
- สุมาลี วีระวงศ์. "สมุทรโฆษคำฉันท์". นามานุกรรมวรรณคดีไทย. สืบค้นเมื่อ 22 พฤษภาคม 2563. Check date values in:
|accessdate=
(help) - ↑ "เมขลาล่อแก้ว ให้รามสูรขว้างขวาน". สุจิตต์ วงษ์เทศ. 8 ตุลาคม 2555. สืบค้นเมื่อ 12 พฤษภาคม 2559. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - ↑ "ระบำชุด เมขลารามสูร". นาฏศิลป์สัมพันธ์. สืบค้นเมื่อ 22 พฤษภาคม 2563. Check date values in:
|accessdate=
(help) - เอนก นาวิกมูล (12 พฤษภาคม 2563). "เมขลา-รามสูร กับ "ขวานรามสูร" ที่ "สนามหลวง 2"". ศิลปวัฒนธรรม. สืบค้นเมื่อ 22 พฤษภาคม 2563. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - อรรถกถาสังขชาดก, ชาตกัฏฐกถา
- ↑ "เมขลา รามสูร". Thai folk. สืบค้นเมื่อ 26 มกราคม 2557. Check date values in:
|accessdate=
(help) - ↑ เสฐียรโกเศศ และนาคะประทีป. เมขลา-รามสูร. พระนคร : กรมศิลปากร, 2507, หน้า 18
- ชานันท์ ยอดหงษ์. "รามเกียรติ์ : sex, ผู้หญิง, รัฐ และ อุษาคเนย์". The Southeast Asian Consortium on Gender, Sexual and Health. สืบค้นเมื่อ 26 พฤษภาคม 2557. Check date values in:
|accessdate=
(help) - พระสุนทรโวหาร (ภู่). "ลำนำเห่กล่อมเรื่องจับระบำ". ประชุมบทลำนำเล่ม 1 เห่กล่อมพระบรรทม. 2469, หน้า 15-16
- Cravath, Paul. Asian Theatre Journal, Vol. 3, No. 2 (Autumn, 1986), pp. 179-203 (The Ritual Origins of the Classical Dance Drama of Cambodia) University of Hawai'i Press
- ไมเคิล ไรท์. ฝรั่งคลั่งผี. กรุงเทพฯ : มติชน. 2550, หน้า 250
- ประเสริฐ สันติพงษ์ (2545). "กระบวนท่ารำของรามสูรในการแสดงเบิกโรงละครใน". Chulalongkorn University Intellectual Repository. สืบค้นเมื่อ 22 พฤษภาคม 2563. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - อุทัย สินธุสาร. สารานุกรมไทย. กรุงเทพฯ : อาศรมแห่งศิลป์และศาสตร์, 2520. หน้า 3500-3501
- Manimekalai - Original Text in Tamil
- Manimekalai - English transliteration of Tamil original
- Mukherjee, Sujit (1999). A Dictionary of Indian Literature: Beginnings-1850. New Delhi: Orient Longman Limited, p. 277
- ลูกทุ่งร้องมากว่า50 ปีแล้ว/ "เปิดปูมเพลงไทย-เกาหลี ลูกทุ่งร้องมากว่า 50 ปีแล้ว" Check
|url=
value (help). สนุกดอตคอม. 9 มีนาคม 2551. สืบค้นเมื่อ 26 มกราคม 2557. Check date values in:|accessdate=, |date=
(help) - "6 เพลงปัง! "Buddha Bless" ที่มาพร้อมแง่คิดศีลธรรมสุดลึกซึ้ง!". สนุกดอตคอม. 27 กุมภาพันธ์ 2560. สืบค้นเมื่อ 26 เมษายน 2560. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - จานีน ยโสวันต์. "มหานาฏกรรมเฉลิมพระเกียรติ พระมหาชนก". Scene4Magazine. สืบค้นเมื่อ 26 มกราคม 2557. Check date values in:
|accessdate=
(help)