สโมสรฟุตบอลบีจี ปทุม ยูไนเต็ด
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
สโมสรฟุตบอลบีจี ปทุม ยูไนเต็ด เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพในประเทศไทยโดยตั้งอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี และบริหารโดยบริษัท บริษัท บีจี สปอร์ตส์ จำกัด โดยเป็นบริษัทในเครือบางกอกกล๊าสกรุ๊ป ปัจจุบันเล่นในไทยลีก
ชื่อเต็ม | สโมสรฟุตบอลบีจี ปทุม ยูไนเต็ด | |||
---|---|---|---|---|
ฉายา | เดอะ แรบบิท | |||
ก่อตั้ง | พ.ศ. 2549 | |||
สนาม | ลีโอ สเตเดียม | |||
ความจุ | 10,114 ที่นั่ง | |||
เจ้าของ | บริษัท บีจี สปอร์ตส์ จำกัด | |||
ประธาน | ปวิณ ภิรมย์ภักดี | |||
ผู้ฝึกสอน | ออเรลิโอ วิดมาร์ | |||
ลีก | ไทยลีก | |||
2563–64 | อันดับที่ 1 (ชนะเลิศ) | |||
เว็บไซต์ | เว็บไซต์สโมสร | |||
| ||||
ประวัติสโมสร
สโมสรบางกอกกล๊าสเริ่มต้นในช่วงก่อตั้งโรงงานบางกอกกล๊าส ในปี พ.ศ. 2522 โดยเป็นการรวมตัวกันเพื่อแข่งขันเป็นการภายในของพนักงาน และต่อมาจึงได้ส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันภายนอก ในช่วงปี พ.ศ. 2532 ซึ่งเป็นการแข่งขันกันในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ในเขตจังหวัดปทุมธานี จนเริ่มเป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไป
ปี พ.ศ. 2542 พนักงานและกลุ่มผู้บริหารได้รวมตัวกันจัดตั้งชมรมฟุตบอลอย่างเป็นรูปธรรมขึ้นมา และเมื่อชมรมมีความพร้อมในด้านต่างๆ ทั้งด้านอุปกรณ์ และสนาม จีงมีก่อตั้งสโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าสขึ้นในเดือน เมษายน พ.ศ. 2549 และเปิดคัดนักกีฬาในเดือนต่อมา โดยได้เข้าเป็นสมาชิกของ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในปีดังกล่าว
การแข่งขันอย่างเป็นทางการครั้งแรกของสโมสรคือการเข้าร่วมแข่งขัน ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ง. ประจำปี 2550/51 ซึ่งสโมสรประสบความสำเร็จเมื่อได้ตำแหน่งรองแชมป์ โดยในนัดชิงชนะเลิศแพ้สโมสรฟุตบอลเทศบาลเมืองคูคตไป 1-0 และได้สิทธิเลื่อนชั้นไปเล่นในฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ค.ในปีต่อมา
ปี พ.ศ. 2551 สโมสรได้จัดตั้งบริษัท บีจีเอฟซี สปอร์ต จำกัด เพื่อดำเนินการบริหารสโมสรและให้เป็นไปตามแนวทางที่เอเอฟซีกำหนด และลงแข่งขันใน ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ค. ประจำปี 2551/52 สามารถผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ โดยในรอบชิงชนะเลิศแพ้สโมสรฟุตบอลเจดับบลิว กรุ๊ป ไป 1-2 คว้าสิทธิเลื่อนชั้นไปเล่นในถ้วย ข.นอกจากนี้ทีมบางกอกกล๊าส ยังมีทีมฟุตซอลของตัวเอง ซึ่งลงแข่งในฟุตซอลไทยแลนด์ลีกอีกด้วย
ในช่วงเดือน มกราคม พ.ศ. 2552 สโมสรฟุตบอลธนาคารกรุงไทยจากศึก ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ได้ประกาศยุบทีม เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขที่เอเอฟซีกำหนดในเรื่องการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลได้ สโมสรบางกอกกล๊าสจากฟุตบอลถ้วย ข. จึงได้ทำการเทคโอเวอร์ สโมสรธนาคารกรุงไทย โดยจะได้ลงแข่งใน ไทยพรีเมียร์ลีก ปี พ.ศ. 2552 แทนที่ของสโมสรฟุตบอลธนาคารกรุงไทยที่ยุบทีม และได้ย้ายสนามไปเช่าสนามเฉลิมพระเกียรติ คลอง 6 เป็นการชั่วคราวเพื่อปรับปรุงสนามลีโอ สเตเดี้ยม ซึ่งในปีแรกของการแข่งขันของสโมสรฟุตบอลบางกองกล๊าสนั้นทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการจบอันดับที่ 3 ในไทยพรีเมียร์ลีก 2552 ส่วนทีมฟุตบอลที่พนักงานและกลุ่มผู้บริหารได้รวมตัวกันจัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2542 ยังคงดำเนินการส่งเข้าร่วมการแข่งขันในนามสโมสรฟุตบอลรังสิต
ปี พ.ศ. 2553 สโมสรบางกอกกล๊าส ได้รับความนิยมอย่างสูง และได้สร้างสนาม ลีโอ สเตเดี้ยม เสร็จสมบูรณ์หลังจากที่ทำการปรับปรุงครั้งใหญ่ จนได้กลับมาเล่นในสนามแห่งนี้อีกครั้ง หลังจากที่ปรับปรุงเกือบ 1 ปีในเดือน มกราคม สโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าส ได้ส่งทีมเข้าแข่งขันในฟุตบอล ควีนส์ คัพ ประสบความสำเร็จสามารถคว้าแชมป์มาได้สำเร็จด้วบการชนะอินทรีเพื่อนตำรวจ 4-1 และในปีเดียวกันนั้นเอง ได้ส่งทีมเข้าแข่งขันในศึกสิงคโปร์คัพในปีที่สองทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม คว้าแชมป์สิงค์โปร์คัพ 2010 ไปอีกรายการ
ปี พ.ศ. 2557 สโมสรบางกอกกล๊าส ได้แชมป์แรกในประวัติศาสตร์สโมสร คือ ไทยคม เอฟเอคัพ 2557 ชนะชลบุรี 1-0 โดยที่รอบผ่านมา ชนะเชียงราย ยูไนเต็ต, เมืองทอง ยูไนเต็ด, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ราชนาวี
ปี พ.ศ. 2558 สโมสรบางกอกกล๊าส ได้เข้าร่วมการแข่งขันระดับทวีปเอเชียเป็นครั้งแรก (AFC) ต่อมาปี พ.ศ. 2559 ได้ก่อตั้งศูนย์ฝึกฟุตบอล ยามาโอกะ ฮานาซากะ อะคาเดมี่ (YHA) และในปี พ.ศ. 2561 สโมสรบางกอกกล๊าสเปลี่ยนสัญลักษณ์สโมสรใหม่ และปรับปรุงสนามลีโอ สเตเดี้ยมมาใช้หญ้าจริง
ในการแข่งขันนัดสุดท้ายของไทยลีก ฤดูกาล 2561 ซึ่งทางสมาคมฯ ประกาศว่าจะมีทีมตกชั้น 5 ทีม บางกอกกล๊าสพ่ายแพ้ต่อนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ในขณะที่ทีมลุ้นหนีตกชั้นอีกสองทีม ได้แก่ สุโขทัย เอฟซี และชัยนาท ฮอร์นบิล ต่างคว้าชัยชนะได้ ทำให้ชัยนาทและบางกอกกล๊าสมีคะแนนเท่ากันที่ 42 คะแนน แต่ชัยนาทมีสถิติการพบกันที่ดีกว่า ทำให้บางกอกกล๊าสกลายเป็นทีมสุดท้ายที่ต้องตกชั้น โดยได้อันดับที่ 14 ทำให้ต้องตกชั้นลงไปเตะใน ไทยลีก 2 ในฤดูกาล 2562 เป็นครั้งแรกของสโมสรในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่ซื้อกิจการสโมสรธนาคารกรุงไทยเมื่อปี 2552
ต่อมาในปี 2562 บีจีเอฟซี ได้วางเป้าหมายให้สโมสรฟุตบอลเป็นทีมของชาวจังหวัดปทุมธานี สร้างความเป็นหนึ่งในการร่วมสนับสนุนทีมฟุตบอลของท้องถื่น ซึ่งมีฐานแฟนบอลอยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้เปลี่ยนแปลงชื่อสโมสรใหม่เป็น บีจี ปทุม ยูไนเต็ด หรือ บีจีพียู (BGPU) โดยเริ่มการใช้ชื่อสโมสรใหม่สู่สาธารณะอย่างเป็นทางการในฤดูกาล 2562
ต่อมาในไทยลีก ฤดูกาล 2563–64 หลังจบการแข่งขันที่บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ชนะสุโขทัย 2-0 เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2564 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด มีคะแนนห่างจากอันดับสอง ณ ขณะนั้นอย่างบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดถึง 19 คะแนน จึงทำให้บีจี ปทุม ยูไนเต็ดเป็นผู้ชนะเลิศการแข่งขันไทยลีกฤดูกาลนั้น ทั้งที่ยังเหลือการแข่งขันอีก 6 นัด นับเป็นการชนะเลิศครั้งแรกของสโมสรและเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทย นอกจากนี้ยังเป็นสโมสรฟุตบอลทีมแรกของไทยที่เคยตกชั้น แล้วกลับมาชนะเลิศลีกสูงสุดได้สำเร็จอีกด้วย
สัญลักษณ์สโมสร
สนามและสถานที่ตั้ง
สนามลีโอ สเตเดี้ยม สนามสำหรับใช้ในการแข่งขันฟุตบอลเกมเหย้าของสโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าส พร้อมเก้าอี้สนามกีฬามาตรฐาน สามารถรองรับผู้ชมได้ถึง 10,114 ที่นั่ง ตั้งอยู่ในบริเวณบริษัท ปทุมธานีกล๊าส โดยสนามฟุตบอลแห่งนี้เป็นสนามหญ้าจริง ขนาด 105 x 68 เมตร ได้รับการรับรองมาตรฐานจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) และจากสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (AFC) ในระดับ A Class
ที่ตั้ง | ที่ตั้ง | สนาม | ความจุ | ปี |
---|---|---|---|---|
14°00′02″N 100°40′45″E / 14.000649°N 100.679028°E | จังหวัดปทุมธานี | ลีโอ สเตเดี้ยม | 10,114 | 2010–ปัจจุบัน |
ชุดแข่งขัน
เหย้า
2016 | 2017 | 2019 | 2020 |
เยือน
2016 | 2017 | 2019 | 2020 |
ผู้เล่น
ผู้เล่นชุดปัจจุบัน
หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
|
|
ผู้เล่นที่ถูกยืมตัว
หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
|
|
ทีมงานผู้บริหารและสต๊าฟโค้ช
ทีมงานผู้บริหาร
ชื่อ | ตำแหน่ง | |
---|---|---|
จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี | ประธานสโมสร กิตติมศักดิ์ | |
สุรศักดิ์ เดชะรินทร์ | รองประธานสโมร กิตติมศักดิ์ | |
ปวิณ ภิรมย์ภักดี | ประธานสโมสร | |
ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ | รองประธานสโมสร | |
อัมรัตน์ ภูววีรานินทร์ | ที่ปรึกษา | |
กิตติศักดิ์ จิรภาสุขสกุล | ที่ปรึกษา | |
ปิยศักดิ์ ภูมิจิตร | กรรมการผู้จัดการ | |
ภาณุเดช วิศิษฏ์กุล | ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรบุคคล | |
สุทธิดา ทองจำรัส | ผู้อำนวยการสำนักการเงิน | |
วิรชาดา แสงชาติ | ผู้จัดการฝ่ายการเงินและบัญชี | |
สุรชัย จตุรภัทรพงษ์ | ผู้อำนวยการฟุตบอล | |
ผู้ช่วยผู้อำนวยการฟุตบอล | ||
ศุภิสรา ดวงแก้ว | ผู้จัดการฝ่ายการพาณิชย์ | |
ธนากร ปันทวังกูร | ผู้อำนวยการสำนักบริหารและการสื่อสาร / เลขาธิการสโมสร | |
วสันต์ ศานติวิวัฒน์กุล | ผู้จัดการฝ่ายกฎหมาย |
ทีมงานผู้ฝึกสอนและเจ้าหน้าที่
ชื่อ | ตำแหน่ง | |
---|---|---|
ออเรลิโอ วิดมาร์ | หัวหน้าผู้ฝึกสอน | |
ศุภชัย คมศิลป์ | ผู้ช่วยฝึกสอน | |
ผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตู | ||
ศรีศักดิ์ เกตุจันทรา | ฟิตเนส เทรนเนอร์ | |
อรรถพล บุญสรรค์ | ฟิตเนส เทรนเนอร์ | |
ยงศักดิ์ เลิศดำรงเกียรติ | นักกายภาพบำบัด | |
ศรัญญู เขียวเล็ก | นักกายภาพบำบัด | |
อนุพัฒน์ ไกรสังข์ | หมอนวดประจำทีม | |
อลงกรณ์ เอนกนวน | หมอนวดประจำทีม | |
สันติสุข สกุลดี | หมอนวดประจำทีม | |
สาโรจน์ เจริญสุข | เจ้าหน้าที่ทีม | |
ธวัชชัย ขำคล้อย | เจ้าหน้าที่ทีม | |
พรชัย พลกูร | เจ้าหน้าที่ทีม |
ตารางคะแนนในฟุตบอลลีก
ฤดูกาล | ดิวิชัน | อันดับที่ | นัด | W | D | L | F | A | +/- | แต้ม | เหย้า | W | D | L | F | A | +/- | แต้ม | เยือน | W | D | L | F | A | +/- | แต้ม | ดาวซัลโวสูงสุด | จำนวนประตู |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2563–64 | T1 | 1st | 30 | 24 | 5 | 1 | 54 | 13 | 41 | 77 | 15 | 12 | 3 | 0 | 28 | 8 | 20 | 39 | 15 | 12 | 2 | 1 | 26 | 5 | 21 | 38 | วิคเตอร์ คาโดโซ่ | 15 |
2562 | T2 | 1st | 34 | 24 | 6 | 4 | 76 | 27 | 49 | 78 | 17 | 15 | 1 | 1 | 43 | 9 | 34 | 46 | 17 | 9 | 5 | 3 | 33 | 18 | 15 | 32 | บาร์รอส ทาร์เดลลี | 18 |
2561 | T1 | 14th | 34 | 11 | 9 | 14 | 55 | 46 | 9 | 42 | 15 | 8 | 1 | 6 | 32 | 22 | 10 | 25 | 16 | 3 | 7 | 6 | 21 | 19 | 2 | 16 | สุรชาติ สารีพิมพ์ ดาวิด บาล่า | 8 |
2560 | T1 | 5th | 34 | 16 | 8 | 10 | 63 | 44 | 19 | 56 | 17 | 12 | 2 | 3 | 42 | 19 | 22 | 38 | 17 | 4 | 6 | 7 | 21 | 25 | -4 | 18 | สุรชาติ สารีพิมพ์ ยาสมานี่ คัมโปส | 10 |
2559 | TL | 3rd | 31 | 18 | 3 | 10 | 62 | 41 | 21 | 57 | 15 | 11 | 1 | 3 | 34 | 14 | 20 | 34 | 16 | 7 | 2 | 7 | 28 | 27 | 1 | 23 | อาเรียล โรดริเกวซ | 19 |
2558 | TPL | 6th | 34 | 15 | 11 | 8 | 47 | 38 | 9 | 56 | 17 | 11 | 5 | 1 | 37 | 19 | 18 | 38 | 17 | 4 | 6 | 7 | 10 | 19 | (-9) | 18 | ดาร์โก้ ทาเชฟสกี้ อริดาเน่ ซานตาน่า | 9 |
2557 | TPL | 10th | 38 | 14 | 7 | 17 | 70 | 65 | 5 | 49 | 19 | 9 | 3 | 7 | 40 | 30 | 10 | 30 | 19 | 5 | 4 | 10 | 30 | 35 | (-5) | 19 | ลาซารัส คาอิมบี้ | 12 |
2556 | TPL | 5th | 32 | 14 | 8 | 10 | 40 | 31 | 9 | 50 | 16 | 11 | 3 | 2 | 27 | 8 | 19 | 36 | 16 | 3 | 5 | 8 | 13 | 23 | (-10) | 14 | ชาตรี ฉิมทะเล | 10 |
2555 | TPL | 8th | 34 | 10 | 15 | 9 | 53 | 39 | 14 | 45 | 17 | 8 | 7 | 2 | 33 | 15 | 18 | 31 | 17 | 2 | 8 | 7 | 20 | 24 | (-4) | 14 | อาจายี่ เบงกา | 12 |
2554 | TPL | 5th | 34 | 15 | 8 | 11 | 55 | 41 | 14 | 53 | 17 | 11 | 3 | 3 | 36 | 15 | 21 | 36 | 17 | 4 | 5 | 8 | 19 | 26 | (-7) | 17 | ศรายุทธ ชัยคำดี | 15 |
2553 | TPL | 5th | 30 | 12 | 9 | 9 | 48 | 38 | 10 | 45 | 15 | 8 | 6 | 1 | 28 | 12 | 16 | 30 | 15 | 4 | 3 | 8 | 20 | 26 | (-6) | 15 | ชาตรี ฉิมทะเล | 10 |
2552 | TPL | 3rd | 30 | 16 | 8 | 6 | 45 | 31 | 14 | 56 | 15 | 11 | 4 | 0 | 25 | 11 | 14 | 37 | 15 | 5 | 4 | 6 | 20 | 20 | 0 | 19 | นันทวัฒน์ แทนโสภา | 11 |
แชมเปียนส์ | รองชนะเลิศ | อันดับที่ 3 | เลื่อนชั้น | ตกชั้น |
ฟุตบอลถ้วย
ปี | ถ้วย ก. | เอฟเอคัพ | ลีกคัพ | เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก |
---|---|---|---|---|
2564–65 | สมาคมฯ ยกเลิกการแข่งขัน | |||
2563–64 | รอบ 32 ทีม | สมาคมฯ ยกเลิกการแข่งขัน | ไม่ได้แข่งขัน | |
2562 | รอบ 32 ทีม | รอบก่อนรองชนะเลิศ | ไม่ได้แข่งขัน | |
2561 | รอบ 32 ทีม | รองชนะเลิศ | ไม่ได้แข่งขัน | |
2560 | รอบ 16 ทีม | รอบ 32 ทีม | ไม่ได้แข่งขัน | |
2559 | ไม่ได้แข่งขัน | รอบ 32 ทีม | รอบ 32 ทีม | ไม่ได้แข่งขัน |
2558 | รองชนะเลิศ | รอบ 16 ทีม | รอบ 16 ทีม | รอบคัดเลือกรอบ 3 |
2557 | ไม่ได้แข่งขัน | ชนะเลิศ | รอบ 8 ทีม | ไม่ได้แข่งขัน |
2556 | ไม่ได้แข่งขัน | รองชนะเลิศ | รอบ 64 ทีม | ไม่ได้แข่งขัน |
2555 | ไม่ได้แข่งขัน | รอบรองชนะเลิศ | รอบรองชนะเลิศ | ไม่ได้แข่งขัน |
2554 | ไม่ได้แข่งขัน | รอบ 4 | รอบ 32 ทีม | ไม่ได้แข่งขัน |
2553 | ไม่ได้แข่งขัน | รอบ 3 | รอบ 8 ทีม | ไม่ได้แข่งขัน |
2552 | ไม่ได้แข่งขัน | รอบก่อนรอง | ไม่ได้แข่งขัน | ไม่ได้แข่งขัน |
ชนะเลิศ | รองชนะเลิศ |
ผลงานระดับทวีป
ฤดูกาล | การแข่งขัน | รอบ | คู่แข่ง | เหย้า | เยือน | รวม |
---|---|---|---|---|---|---|
2015 | เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก | รอบคัดเลือกรอบ 2 | โจโฮร์ดารุลตักซิม | 3–0 | ||
รอบเพลย์ออฟ | เป่ย์จิงกั๋วอัน | 0–3 | ||||
2021 | เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก | กลุ่ม เอฟ | คายา–อีโลอีโล | 4–1 | 1–0 | อันดับที่ 2 |
อุลซันฮุนได | 0–2 | 0–2 | ||||
วิเอตเตล | 2–0 | 3–1 | ||||
รอบ 16 ทีมสุดท้าย | ช็อนบุกฮย็อนแดมอเตอส์ |
หัวหน้าผู้ฝึกสอน
รายชื่อหัวหน้าผู้ฝึกสอน (พ.ศ. 2552 - ปัจจุบัน)
ชื่อ | สัญชาติ | ระยะเวลา | เกียรติยศ |
---|---|---|---|
อ.ไนยะ บุญประสิทธิ์ | เม.ย. 2549 – ต.ค. 2551 | รองชนะเลิศถ้วยพระราชทานประเภท ง | |
Mr.Hans Rudolf Franz Emser | มี.ค. 2552 – มิ.ย. 2552 | ||
สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ | มิ.ย. 2552 – มิ.ย. 2553 | สิงค์โปร์คัพ รองชนะเลิศ 2552, ควีนส์คัพ ชนะเลิศ 2553 | |
การ์ลูส โรเบร์ตู จี การ์วัลยู | มิ.ย. 2553 – ต.ค. 2553 | ||
ศุภสิน ลีลาฤทธิ์/สาธิต เบ็ญโสะ | ต.ค. 2553 – มี.ค. 2554 | สิงค์โปร์คัพ ชนะเลิศ 2553 | |
อาจหาญ ทรงงามทรัพย์ | มี.ค. 2554 – ธ.ค. 2554 | ||
สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ | ม.ค. 2555 – ก.ย. 2555 | ||
ฟิล สตับบินส์ | ต.ค. 2555 – มี.ค. 2556 | ||
อนุรักษ์ ศรีเกิด | เม.ย. 2556 – พ.ค. 2556 | ||
อรรถพล บุษปาคม | พ.ค. 2556 – มิ.ย. 2557 | รองชนะเลิศ เอฟเอคัพ 2556 | |
อนุรักษ์ ศรีเกิด | ก.ค. 2557 – ธ.ค. 2557 | ชนะเลิศ เอฟเอคัพ 2557 | |
ริคาร์โด้ โรดริเกวซ | ม.ค. 2558 – พ.ย. 2558 | ||
อนุรักษ์ ศรีเกิด | ธ.ค. 2558 – มิ.ย. 2559 | ||
ออเรลิโอ วิดมาร์ | ส.ค. 2559 – ก.ค. 2560 | ||
สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ | ก.ค. 2560 – พ.ย. 2560 | ||
โจเซฟ เฟร์เร | พ.ย. 2560 – มี.ค. 2561 | ||
อนุรักษ์ ศรีเกิด | เม.ย. 2561 – ต.ค. 2561 | รองชนะเลิศ ลีกคัพ 2561 | |
ดุสิต เฉลิมแสน | ต.ค. 2561 – เม.ย. 2564 | ชนะเลิศ ไทยลีก 2 ฤดูกาล 2562, ชนะเลิศ ไทยลีก ฤดูกาล 2563–64 | |
ออเรลิโอ วิดมาร์ | พ.ค. 2564 – |
เกียรติยศ
เกียรติยศ | จำนวน | ฤดูกาล |
---|---|---|
ถ้วยภายในประเทศ | ||
ไทยลีก ชนะเลิศ | 1 | 2563–64 |
ไทยลีก 2 ชนะเลิศ | 1 | 2562 |
ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ค รองแชมป์ | 1 | 2551/52 |
ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ง รองแชมป์ | 1 | 2550/51 |
ไทยเอฟเอคัพ ชนะเลิศ | 1 | 2557 |
ไทยเอฟเอคัพ รองชนะเลิศ | 1 | 2556 |
ควีนส์คัพ ชนะเลิศ | 1 | 2553 |
ซูเปอร์คัพ ชนะเลิศ | 1 | 2552 |
ถ้วยนอกประเทศ | ||
สิงคโปร์คัพ ชนะเลิศ | 1 | 2553 |
สิงคโปร์คัพ รองชนะเลิศ | 1 | 2552 |
อะคาเดมี่ สโมสรบางกอกกล๊าส
สโมสรบางกอกกล๊าส ได้เปิดอะคาเดมี่ฟุตบอล สำหรับเยาวชน เพื่อคัดเลือกเยาวชนที่มีความสนใจด้านการฝึกทักษะความสามารถด้านฟุตบอลในระดับพื้นฐานจนถึงระดับสูงในหลักสูตรสากล โดยมีโค้ชผู้ฝึกสอนระดับมืออาชีพ สร้างให้ผู้เรียนได้มีความรู้ด้านฟุตบอลถูกต้องและสามารถทำให้ผู้เรียนเป็นนักกีฬาอย่างแท้จริง และสามารถนำไปปรับใช้เพื่อในอนาคตก้าวไปสู่ระดับอาชีพได้
สโมสร จึงเปิดศูนย์ฝึกสอนฟุตบอลบางกอกกล๊าส ได้เปิดสอนเยาวชนมาตั้งแต่ปี 2552 ทั้งนี้ - เปิดคลินิกฟุตบอล (เสาร์-อาทิตย์) เป็นประจำ - คัดเลือกนักเตะเยาวชน เข้ามาอยู่ในสังกัดอคาเดมี่ เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ของสโมสรต่อไป
ปี 2555 สโมสรบางกอกกล๊าส ได้เซ็นสัญญา ร่วมเป็นพันธมิตรกับโรงเรียนอัสสัมชัญ ในโครงการอัสสัมชัญ แคมปัส พระราม 2 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนนักเตะ บุคลากร ของโรงเรียน ให้มีความรู้ความสามารถด้านฟุตบอลมากยิ่งขึ้น และยังพัฒนานักเตะเยาวชนที่มีความรู้ความสามารถ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของนักเตะบางกอกกล๊าสในอนาคตต่อไป
ปี 2555 สโมสรบางกอกกล๊าส ได้สนับสนุนให้ ส.บางกอกกล๊าส (รังสิต เอฟซี) เข้าแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภทข. จนคว้าแชมป์ถ้วยพระราชทานได้สำเร็จ และได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่น ฟุตบอลลีกภูมิภาค โซนกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยสโมสรมีนโยบายจะให้ทีม สโมสรฟุตบอลรังสิต เอฟซี นั้นเป็นเวทีแจ้งเกิด ของนักฟุตบอลเยาวชนของสโมสร เป็นการสร้างโอกาส ฝึกฝน เรียนรู้การเป็นนักเตะอาชีพ ก่อนที่จะได้รับโอกาสขึ้นมาเล่นใน สโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าส ต่อไป
ปี 2556 สโมสรบางกอกกล๊าส ได้สนับสนุนให้ ส.บางกอกกล๊าส (รังสิต เอฟซี) เป็นพันธมิตร 2 ปี กับมหาวิทยาลัยธนบุรี ในการจับมือร่วมกันทำทีม สโมสรธนบุรี-บีจี ยูไนเต็ด ส่งทีมเข้าแข่งขันฟุตบอลลีกภูมิภาค โซนภาคกลางและภาคตะวันตก โดยมีโค้ชสาธิต เบ็ญโสะ เป็นหัวหน้าสต๊าฟโค้ช และมีนักเตะเยาวชนสโมสรบางกอกกล๊าสร่วมทีม
ปี 2559 สโมสรบางกอกกล๊าส ร่วมกับตั้งศูนย์ฝึกฟุตบอล ยามาโอกะ ฮานาซากะ อะคาเดมี่(YHA) ตั้งอยู่ที่ คลอง 4 รังสิต จ.ปทุมธานี และจัดโครงการสร้างเจ้าหนูนักเตะ โดยปัจจุบันเปิดรับเยาวชนเข้าร่วมฝึกฝนในอะคาเดมี่ด้วยกัน 3 รุ่น ได้แก่ ยู-12 ยู-15 และยู-18
โดยในปี 2560 ทีมเยาวชนของสโมสรในรุ่นอายุต่างๆ ได้สร้างผลงานให้กับทางสโมสรในการแข่งขันกีฬาฟุตบอลเยาวชนในระดับประเทศ ซึ่งสามารถทำผลงานให้เป็นที่ยอมรับในการแข่งขันรายการระดับเยาวชน อาทิเช่น
เยาวชนรุ่นอายุ ยู-13 ชนะเลิศ การแข่งขันรายการ "U-13 National Youth Football League" ระดับประเทศ
เยาวชนรุ่นอายุ ยู-15 ชนะเลิศ การแข่งขันรายการ "U-15 Asian Dream Football" ระดับประเทศ
เยาวชนรุ่นอายุ ยู-15 ชนะเลิศ การแข่งขันรายการ "U-15 Kingpower Cup" ระดับประเทศ
สโมสรพันธมิตร
อ้างอิง
- http://www.bangkokglass.co.th/index.php?page=content&id=4&sId=36&PHPSESSID=3f5e3e1c906b430039fd8c8f61724ad8
- ↑ บางกอกกล๊าส 1-2 โคราช : บีจีตกชั้นทีมสุดท้ายในรอบ 10 ปี, FourFourTwo, สืบค้นข้อมูลเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2561
- สุโขทัยเชือดแอร์ฟอร์ซ 3-2 รอดตกชั้น, Goal.com, สืบค้นข้อมูลเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2561
- ↑ H2Hดีกว่าบีจี! ชัยนาทซัดสุพรรณ2-1 รอดตกชั้น, Goal.com, สืบค้นข้อมูลเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2561
- ""บีจี ปทุม ยูไนเต็ด" คว้าแชมป์ไทยลีกเร็วสุดในประวัติศาสตร์". สำนักข่าวไทย. สืบค้นเมื่อ 5 March 2021.
- "9 ข้อต้องรู้! ความเป็น "ที่สุด" ของ บีจี ปทุมฯ กับแชมป์ไทยลีกประวัติศาสตร์". สยามสปอร์ต. สืบค้นเมื่อ 5 March 2021.
แหล่งข้อมูลอื่น
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: สโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าส |
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
- Facebook BGPATHUMUNITED
- youtube BGPATHUMUNITED
- tiktok BGPATHUMUNITED
- instagram BGPATHUMUNITED
- twitter BGPATHUMUNITED