อาณาจักรมอญ
อาณาจักรมอญ หรือ รามัญประเทศ เป็นอาณาจักรของชนชาติมอญซึ่ง อาจแบ่งได้เป็น 3 ยุค
อาณาจักรมอญ | |||||
---|---|---|---|---|---|
คริสต์ศตวรรษที่ 9–1757 | |||||
เมืองหลวง | เมาะตะมะ (คริสต์ศตวรรษที่ 9 -1383) พะโค (1383 - 1580) มะละแหม่ง(1580-1752) | ||||
ภาษาทั่วไป | ภาษามอญ | ||||
ศาสนา | พระพุทธศาสนา | ||||
การปกครอง | สมบูรณาญาสิทธิราชย์ (พฤตินัย) ราชาธิปไตย (นิตินัย) | ||||
ยุคประวัติศาสตร์ | ยุคกลาง | ||||
• ก่อตั้ง | คริสต์ศตวรรษที่ 9 | ||||
คริสต์ศตวรรษที่ 9 -1057 | |||||
ค.ศ. 1287–1539, 1550–1552 | |||||
ค.ศ. 1740–1757 | |||||
• ถูกราชวงศ์อลองพญาผนวกดินแดน | 1757 | ||||
|
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของ ชุดบทความประวัติศาสตร์พม่า |
---|
ประวัติศาสตร์พม่ายุคต้น |
นครรัฐปยู (ประมาณ พ.ศ. 443 – ประมาณ พ.ศ. 1383) |
อาณาจักรมอญ (พศว. 14 – 16, พศว. 18 – 21, พศว. 23) |
อาณาจักรพุกาม (พ.ศ. 1392 – 1830, อาณาจักรยุคที่ 1) |
อาณาจักรอังวะ (พ.ศ. 1907 – 2098) |
อาณาจักรมเยาะอู (พ.ศ. 1977 – 2327) |
ราชวงศ์ตองอู (พ.ศ. 2029 – 2295, อาณาจักรยุคที่ 2) |
ราชวงศ์คองบอง (พ.ศ. 2295 – 2428, อาณาจักรยุคที่ 3) |
สงครามพม่า-อังกฤษครั้งที่หนึ่ง (พ.ศ. 2367 – 2369) |
สงครามพม่า-อังกฤษครั้งที่สอง ( พ.ศ. 2395) |
สงครามพม่า-อังกฤษครั้งที่สาม (พ.ศ. 2428) |
พม่าของอังกฤษ (พ.ศ. 2367 – พ.ศ. 2485, พ.ศ. 2485 – 2491) |
อาระกันของอังกฤษ (พ.ศ. 2367 – 2395) |
ตะนาวศรีของอังกฤษ (พ.ศ. 2367 – 2395) |
พม่าตอนล่างของอังกฤษ (พ.ศ. 2395 – 2429) |
พม่าตอนบนของอังกฤษ (พ.ศ. 2428 – 2429) |
การยึดครองพม่าของญี่ปุ่น (พ.ศ. 2485 – 2488) |
ขบวนการชาตินิยมในพม่า (หลัง พ.ศ. 2429) |
บามอว์ |
ออง ซาน |
ยุคประชาธิปไตย (พ.ศ. 2491 - 2505) |
อู นุ และอู ถั่น |
รัฐบาลทหารครั้งที่ 1 (พ.ศ. 2505 – 2532) |
เน วิน |
การก่อการปฎิวัติ 8888 (พ.ศ. 2531) |
ออง ซาน ซูจี |
รัฐบาลทหารครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2532 – 2554) |
การปฏิวัติผ้ากาสาวพัสตร์ (พ.ศ. 2550) |
พายุหมุนนาร์กิส (พ.ศ. 2551) |
ความขัดแย้งภายในพม่า |
เหตุจลาจลในรัฐยะไข่ พ.ศ. 2555 |
รัฐประหารในประเทศพม่า พ.ศ. 2564 |
[แก้ไขแม่แบบนี้] |
ยุคแรกคือยุคราชวงศ์สะเทิม อาณาจักรสุธรรมวดี มีกษัตริย์ปกครอง 59 พระองค์ เริ่มจากสมัยพระเจ้าสีหราชา มาจนถึงสมัยพระเจ้ามนูหา เชื่อว่ายุคนี้ครอบครองพื้นที่ได้ ทั้งทวารวดีและสะเทิม ยุคแรกสิ้นสุดลงเมื่อพระเจ้าอโนรธาแห่งอาณาจักรพุกาม ยกทัพมาตีเมืองสะเทิมในสมัยพระเจ้ามนูหะ ซึ่งนักประวัติศาสตร์ไทยบางท่านเชื่อว่าพระเจ้าอโนรธาน่าจะยกมาตีถึงนครปฐม
ยุคที่สองคือยุคราชวงศ์เมาะตะมะ-หงสาวดี หรือยุคอาณาจักรหงสาวดี เริ่มจากสมัยที่พม่าซึ่งอ่อนแอจากการรุกรานของมองโกล พระเจ้าวาเรรูหรือพระเจ้าฟ้ารั่ว (มะกะโท) ได้ทรงกอบกู้เอกราชมอญจากพม่าและสถาปนาอาณาจักรหงสาวดี พระองค์มีมเหสีเป็นราชธิดาของพ่อขุนรามคำแหง กษัตริย์ของไทย มีศูนย์กลางการปกครองอยู่ที่เมาะตะมะ ต่อมาในสมัยพญาอู่ ได้ย้ายราชธานีมาอยู่ ณ เมืองพะโคหรือหงสาวดี ราชบุตรของพระองค์คือพญาน้อย ซึ่งต่อมาก็คือพระเจ้าราชาธิราช ผู้ทำสงครามยาวนานกับกษัตริย์พม่าอาณาจักรอังวะ ในสมัยพระเจ้าฝรั่งมังศรีชวา กับสมัย พระเจ้าฝรั่งมังฆ้อง ขุนพลสำคัญของพระเจ้าราชาธิราช คือ สมิงพระราม สมิงนครอินทร์ และแอมูน-ทยา ในสมัยของพระเจ้าราชาธิราชนั้นหงสาวดีกลายเป็นอาณาจักรที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ ครอบคลุมตั้งแต่ชายฝั่งทะเลอ่าวเบงกอลจากแม่น้ำอิรวดีขยายลงไปทางตะวันออกถึงแม่น้ำสาละวิน และเป็นศูนย์กลางทางการค้าที่ใหญ่โต มีเมืองท่าที่สำคัญหลายแห่งในหลายลุ่มน้ำ เช่น เมาะตะมะ สะโตง พะโค พะสิม อาณาจักรมอญยุคนี้เจริญสูงสุดในสมัยพระนางเชงสอบูและสมัยพระเจ้าธรรมเจดีย์ หลังจากนั้นในสมัยพระเจ้าสการะวุตพี หงสาวดีก็เสียแก่พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ ในปี พ.ศ. 2094
ยุคที่สามยุคฟื้นฟูหรือยุคอาณาจักรหงสาวดีใหม่ พ.ศ. 2283 สมิงทอพุทธกิตติ กู้เอกราชคืนมาจากพม่าได้สำเร็จและได้ยกทัพไปตีเมืองอังวะ ในปี พ.ศ. 2290 พญาทะละได้ครองอำนาจแทนสมิงทอพุทธกิตติและขยายอาณาเขตอย่างกว้างขวาง ทำให้อาณาจักรตองอูของพม่าสลายตัวลง จนในปี พ.ศ. 2300 พระเจ้าอลองพญา แห่งราชวงศ์คองบองก็กู้อิสรภาพของพม่ากลับคืนมาและได้โจมตีมอญ การล่มสลายของอาณาจักรหงสาวดีใหม่เป็นการสิ้นสุดเอกราชและอำนาจของชาวมอญที่เคยมีมาหลายร้อยปีในพม่าตอนล่าง กองทัพของราชวงศ์คองบองกดดันให้ชาวมอญต้องอพยพไปยังสยาม ในช่วงต้นพุทธศตวรรษที่ 24 การแต่งงานข้ามกลุ่มชาติพันธุ์ และการอพยพของชาวพม่าจากทางเหนือ ทำให้ชาวมอญกลายเป็นชนกลุ่มน้อย
อ้างอิง
- เชิงอรรถ
- Htin Aung 1967: 32–33
- Htin Aung 1967: 78–80
- Myint-U 2006: 64–65
- Harvey 1925: 153–157
- ↑ Lieberman 2003: 202–206
- Myint-U (2006): 97
- มอญ : ชนชาติเจ้าของอารยธรรมอันเก่าแก่ในแผ่นดินพม่า
- มอญ : ชนชาติบนแผ่นดินสุวรรณภูมิ
- มอญ : ต้นตออารยธรรมอุษาคเนย์ เรียบเรียงจากข้อเขียนของนายปันหละ พิมพ์ในสารานุกรมพม่า ฉบับที่ 10
- บรรณานุกรม
- Aung-Thwin, Michael (2005). The Mists of Rāmañña: the Legend that was Lower Burma. University of Hawaii Press. ISBN 978-0-8248-2886-8.
- Hall, D.G.E. (1960). Burma (3rd ed.). Hutchinson University Library. ISBN 978-1-4067-3503-1.
- Harvey, G. E. (1925). History of Burma: From the Earliest Times to 10 March 1824. London: Frank Cass & Co. Ltd.
- Htin Aung, Maung (1967). A History of Burma. New York and London: Cambridge University Press.
- Kyaw Thet (1962). History of Burma (ภาษาพม่า). Yangon: Yangon University Press.
- Lieberman, Victor B. (2003). Strange Parallels: Southeast Asia in Global Context, c. 800–1830, volume 1, Integration on the Mainland. Cambridge University Press. ISBN 978-0-521-80496-7.
- Myint-U, Thant (2006). The River of Lost Footsteps--Histories of Burma. Farrar, Straus and Giroux. ISBN 978-0-374-16342-6.
- Phayre, Lt. Gen. Sir Arthur P. (1883). History of Burma (1967 ed.). London: Susil Gupta.
- Shorto, H.L. (2002). "The 32 Myos in the medieval Mon Kingdom". ใน Vladimir I. Braginsky (บ.ก.). Classical civilisations of South East Asia: an anthology of articles. Routledge. ISBN 9780700714100.
- South, Ashley (2003). Mon nationalism and civil war in Burma: the golden sheldrake. Routledge. ISBN 978-0-7007-1609-8.