fbpx
วิกิพีเดีย

จอมผีดิบมันตรัย

จอมผีดิบมันตรัย เป็นตอนที่สามของเพชรพระอุมาจำนวน 4 เล่ม ได้แก่จอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 - 4

จอมผีดิบมันตรัย
ภาพปกเพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1
รายละเอียด
ผู้ประพันธ์นายฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ
จำนวนเล่ม4 เล่ม
ความยาว1,640 หน้า
ออกแบบปกสามารถ จงเจษฎากุล
ภาพประกอบปกสมชาย ปานประชา
ศิลปกรรมฝ่ายศิลปกรรม
ณ บ้านวรรณกรรม กรุ๊ป
บรรณาธิการรักษ์ชนก นามทอน
สำนักพิมพ์สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม
ปีที่พิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2538
ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2541
ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2544
ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2547
เล่มก่อนหน้าดงมรณะ
เล่มถัดไปอาถรรพณ์นิทรานคร

เนื้อเรื่องย่อ

จอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1

ภายหลังจากที่แงซายทดลองทางปืน.460 เวเธอร์บีแม็กนั่ม ตกตอนเย็นพรานบุญคำที่แอบไปปลดทุกข์บริเวณต้นไม้ใหญ่ที่ถูกใช้เป็นเป้าทดลองกระสุน วิ่งกระหืดกระหอบกลับมาแจ้งแก่รพินทร์ถึงรอยปืนบนต้นไม้ มียางไหลซึมออกมาสีแดงสดคล้ายกับเลือด รพินทร์รับรู้ถึงความผิดปกติในสีหน้าและแววตาตื่นตระหนกของพรานบุญคำ และเมื่อย้อนกลับไปยังต้นไม้ใหญ่ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นต้นตะเคียน พบรอยยางไม้ไหลซึมออกมาเป็นสีแดงคล้ายเลือดจริงตามที่พรานบุญคำบอก แต่รพินทร์สั่งให้เก็บเรื่องยางตะเคียนสีแดงคล้ายเลือดไว้ ห้ามแพร่งพรายให้คณะนายจ้างรู้โดยเด็ดขาด ช่วงระยะเวลาประมาณหัวค่ำ ในขณะที่คณะนายจ้างรับประทานอาหารและสนทนากัน ดารินเกิดมีอาการหน้ามืดเป็นลม

พรานบุญคำเริ่มรู้สึกไม่ดีกับความผิดปกติรอบบริเวณปางพักรวมถึงอาการของหน้ามืดของดาริน แต่รพินทร์พยายามทำสีหน้าและท่าทางให้เป็นปกติ ทั้งที่ภายในใจก็เริ่มวิตกกังวลตามคำบอกเล่าของยางตะเคียนสีแดงของพรานบุญคำ ก่อนกำหนดเวรยามในแต่ละจุดรอบปางพักก่อนแยกตัวไปพักผ่อน แต่เกิดเสียงเอะอะโวยวายของส่างป่าที่ฝันร้ายเห็นเสือขนาดใหญ่เท่าม้าจะทำร้าย คะหยิ่นที่นอนห่างไปไม่ไกลนักฝันเห็นช้างงายาวไล่แทงเช่นกัน พรานจันฝันเห็นเปรตตัวสูงเท่าต้นตาล พรานเกิดฝันเห็นงูเหลือมขนาดใหญ่แต่มีส่วนหัวเป็นผู้หญิง พรานเส่ยฝันเห็นภูติผีปีศาจจำนวนมากรายรอบล้อมปางพัก พรานบุญคำพยายามทำตัวเป็นปกติตามที่รพินทร์สั่งทั้งที่ตัวเองฝันร้ายเช่นกัน แงซายซึ่งเป็นต้นเหตุของเหตุการณ์ผิดปกติครั้งนี้ โดนอาถรรพณ์ของป่ามากกว่าคนอื่น เพราะมองเห็นนางตะเคียนและบริวารที่ชายป่ารอบปางพักด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด

ตกดึกเกิดเหตุการณ์ประหลาดรอบบริเวณปางพัก ก้อนหินขนาดใหญ่เท่าลูกมะพร้าวจำนวนมากถูกมือที่มองไม่เห็นขว้างปาใส่ราวกับห่าฝน รพินทร์แจ้งให้คณะนายจ้างทราบถึงต้นเหตุของเหตุการณ์ผิดปกติและเตรียมพร้อมรับมือกับอำนาจเร้นลับเหนือธรรมชาติที่รายล้อมรอบปางพัก ไชยยันต์ตะโกนท้าทายอำนาจเร้นลับด้วยความโกรธ ทำให้เกิดลมพายุพัดกระหน่ำพร้อมกับเสียงหัวเราะของผู้หญิง รพินทร์แก้เหตุการณ์เฉพาะหน้าด้วยการนำของขลังในไถ้ที่ได้รับมอบจากคอของหนานไพร มาบรรจุลงในปลอกกระสุนปืนลูกซองก่อนเหนี่ยวไกยิงใส่ ซึ่งสามารถทำให้ลมพายุสงบลงทันทีพร้อมกับเสียงโหยหวนราวกับป่าแตก หลังพายุสงบดารินกลับหายตัวไปจากปางพัก โดยทิ้งร่องรอยเพียงอย่างเดียวคือรอยเท้าบนพื้นดินอย่างชัดเจน บ่ายหน้าขึ้นสู่ตลิ่งไปยังป่าฝั่งตรงข้าม

รพินทร์ เชษฐา แงซายและคนอื่นออกติดตามรอยเท้าของดารินจนพบที่ต้นตะเคียนใหญ่ ดารินถูกนางตะเคียนเข้าสิงนำตัวมาจากปางพัก เพื่อใช้เป็นข้อแลกเปลี่ยนกับการขอขมาจากเชษฐาและแงซาย โดยนำตัวดารินขึ้นไปบนต้นตะเคียนและแสดงอิทธิฤทธิ์ให้เห็น รพินทร์พยายามเจรจาด้วยภาษาชาวเขาแขนงหนึ่งกับนางตะเคียนในร่างดาริน ที่ยินยอมคืนตัวดารินให้เพื่อแลกกับการขอขมาจากเชษฐาและเลือดสามหยดจากแงซาย ซึ่งทั้งสองคนยอมปฏิบัติแต่โดยดีและได้ตัวดารินกลับคืนมา หลังจากฟื้นคืนสติ ดารินกลับจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้แม้แต่น้อย มีความรู้สึกเหมือนไม่สบายและหลับไปเท่านั้น พร้อมกับเล่าความฝันแปลกประหลาดให้ทุกคนฟัง

มาเรีย ฮอฟมันแทบไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้จะเห็นด้วยตาของตนเองที่ดารินสามารถพูดจาโต้ตอบกับรพินทร์ด้วยภาษาชาวเขาเช่นขมุและกะเหรี่ยง ทั้งที่ความจริงแล้วไม่สามารถพูดได้แม้แต่คำเดียว เช้าวันรุ่งขึ้นรพินทร์นำคณะนายจ้างออกเดินทางต่อโดยบ่ายหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเขาหัวแร้ง มุ่งหน้าขึ้นเหนือไปยังทุ่งมรณะ โดยที่รพินทร์แจ้งตำแหน่งปัจจุบันคือเหนือรัฐกะยา ทางตอนใต้ของรัฐไทยใหญ่ให้แก่คณะนายจ้างทราบ รพินทร์นำคณะนายจ้างเดินทางมาสร้างปางพักในหุบเขากองกอย ในช่วงเวลาประมาณใกล้ค่ำ รพินทร์ขออนุญาตดารินล่าสัตว์สำหรับเป็นอาหารเย็นจากสัญญาที่เคยให้ไว้ เนื่องจากเสบียงและอาหารกระป๋องที่นำติดตัวมา สามารถใช้ยังชีพได้ไม่เกินเช้าวันรุ่งขึ้น แต่ทั้งคณะเดินทางต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงปืนดังขึ้น พร้อมกับเสียงโวยวายตื่นตระหนกของส่างปาและคะหยิ่นที่ออกล่าสัตว์

รพินทร์สอบถามจนได้ความว่าทั้งสองพบกับงูใหญ่มีหงอนเหมือนกับตัวที่ออกอาละวาดในหมู่บ้านหล่มช้าง จึงนำคณะนายจ้างออกค้นหาจนพบกับคราบของงูขนาดใหญ่ที่ลอกคราบทิ้งไว้บริเวณปากถ้ำแห่งหนึ่ง คืนนั้นเชษฐายิงกวางที่มากินดินโป่งได้ตัวหนึ่ง มีพรานบุญคำช่วยส่องไฟให้แต่ไม่ตาม โดยตั้งใจจะตามซากในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น ตกดึกประมาณตีสอง ทั้งปางพักได้ยินเสียงร้องแปลกประหลาดเหมือนเสียงนกกวักดังก๋อง ๆ ก๋อย ๆ ไปทั่ว แงซายแนะให้รพินทร์ตามซากกวางพร้อมกับเล่าเรื่องราวที่มาของเสียงประหลาด จากที่เคยผ่านหุบเขาลูกนี้ในอดีตให้รพินทร์และคณะนายจ้างฟัง เช้าตรู่รพินทร์รู้เรื่องกวางที่เชษฐายิงได้เมื่อคืนแต่เหลือเพียงแค่โครงกระดูก จึงรีบนำคณะนายจ้างตรงไปยังซากกวางที่เชษฐายิงได้เมื่อวาน พบกลายเป็นโครงกระดูกจริงตามคำบอกเล่าของแงซาย

รพินทร์บอกแก่คณะนายจ้างถึงตัวการที่รุมกินซากกวางด้วยความหิวโหยคือกองกอย ที่เป็นภูติไพรชนิดหนึ่ง มีฟันแหลมและคมกริบราวกับมีดโกน สร้างความฉงนให้แก่คณะนายจ้างซึ่งเคยได้ยินชื่อกองกอยจากเรื่องเล่าขานเท่านั้น เชษฐาเตือนให้ทั้งหมดคอยระวังตัวจากกองกอย จากเหตุการณ์เมื่อคืนถ้าเชษฐาไม่ยิงกวางล้มแล้วปล่อยทิ้งเอาไว้ไม่ตามซาก เหยื่อเคราะห์ร้ายอาจจะกลายเป็นใครคนหนึ่งหรือทุกคนในปางพักแทน รพินทร์นำคณะนายจ้างและพรานพื้นเมืองออกเดินทางต่อไต่สันเขาไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมกับหาแหล่งน้ำสำหรับดื่มกิน มาเรียคาดคะเนถึงแหล่งน้ำที่อาจอยู่เลยไปไม่ไกลนัก จากประสบการณ์ในการเดินป่าทำให้รู้ว่าภายหลังจากที่ถูกยิง กวางอาจมุ่งหน้ามายังแหล่งน้ำแต่เกิดตายเสียก่อนที่จะไปถึง

ซึ่งเป็นจริงดังที่คาดการณ์ไว้ แงซายและพรานพื้นเมืองทั้งหมดก็สามารถหาแหล่งน้ำพร้อมกับบรรจุในกระบอกไม้ไผ่จนเต็มกลับมายังที่พัก รพินทร์สั่งให้หยุดพักชั่วคราวก่อนออกเดินทางต่อ โดยนำคณะนายจ้างไต่เนินขึ้นลงและหยุดพักเที่ยงที่ชายเนินริมทุ่ง ก่อนตัดทางขึ้นเนินลูกเล็ก ๆ ทางทิศใต้เพื่อหาแหล่งน้ำมวก ตลอดระยะทางไม่พบแม้แต่สัตว์แม้แต่ตัวเดียว จนประมาณบ่ายสามโมงเย็นจึงถึงพื้นราบบนไหล่ดอย มาเรียออกไปหาเนื้อไว้สำหรับเป็นเสบียงโดยมีส่างปาติดตามไปด้วย รพินทร์และบุญคำตามรอยของมาเรียไป แต่แยกไปคนละเส้นทางได้เพียงชั่วครู่ก็ได้ยินเสียงไรเฟิล .357 ของส่างปาลั่นขึ้นหนึ่งนัดพร้อมกับเสียงตะโกนโหวกเหวก จึงรู้ว่ามาเรียเกิดปะทะกับกระทิงขนาดใหญ่กลางทุ่งโล่ง รพินทร์ พรานบุญคำ ไชยยันต์ ดารินและคนอื่น ๆ ช่วยกันยิงสมทบช่วยเหลือมาเรียที่พยายามเอาตัวรอดจากการพุ่งเข้าใส่ของกระทิง รพินทร์ยิงด้วยไรเฟิล 30/60 แต่จับเป้าหมายที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วไม่ได้ พรานบุญคำช่วยยิงซ้ำด้วย .375 แต่ก็พลาดไม่โดนอีกเช่นกัน

เชษฐาใช้ปืน .458 ยิงสกัดแต่กระสุนผ่านหน้าขาไปไม่ถูกเป้า มาเรียทำศึกกับกระทิงใหญ่จนสามารถหยิบไรเฟิล .357 ที่ส่างปาทำหล่นไว้มาได้สำเร็จก่อนจะเหนี่ยวไกยิง กระสุน .357 จากไรเฟิลพุ่งเข้าตัดก้านคอของกระทิงใหญ่ล้มทันที กลายเป็นอาหารมื้อเย็นอย่างดีให้แก่คณะเดินทาง ภายหลังล้มกระทิงสำเร็จและล้อมวงรับประทานอาหารเย็นด้วยกันแล้ว ต่างพากันแยกย้ายไปพักผ่อนตามอัธยาศัย ตกดึกทั้งปางพักเงียบสงัดอย่างผิดปกติ ดารินรู้สึกตัวตื่นเนื่องจากมีอะไรบางอย่างกระทบบริเวณปลายเท้า และเมื่อฉายไฟส่องดูก็ทำให้ทั้งปางพักแตกตื่นชุลมุนวุ่นวายด้วยเสียงปืน .357 ติดต่อกัน 3 - 4 นัดซ้อน รพินทร์สอบถามดารินถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกับสั่งให้ก่อกองไฟที่มอดขึ้นทันที ในขณะที่ทั้งหมดกำลังหาร่องรอยของตัวประหลาดที่บุกเข้ามาภายในที่พัก เสียงตะโกนโหวกเหวกพร้อมเสียงปืนก็ลั่นขึ้นสนั่นหวั่นไหว ทางปางพักถูกกองกอยจำนวนโอบล้อมเอาไว้และบุกเข้ามาทำร้าย ไชยยันต์และเชษฐาช่วยกันยิงปืนขึ้นฟ้าขู่ไล่กองกอยจนถอยร่นไปไม่เป็นกระบวน พรานพื้นเมืองของรพินทร์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มีพรานเกิดเพียงคนเดียวที่ถูกกัดขาเป็นแผลเหวอะหวะ

ดารินขอให้มาเรียช่วยหยิบกล่องปฐมพยาบาลให้ แต่ทั้งหมดก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อมาเรียร้องลั่นขึ้นหลังจากพบกองกอยหลบซ่อนอยู่ภายใต้ผืนผ้าใบ รพินทร์ให้พรานบุญคำจับเป็นกองกอยที่ได้รับบาดเจ็บจนไส้ไหลและไม่คิดหลบหนี กองกอยสะกดจิตแงซายให้ถ่ายทอดความคิดทุกอย่างออกมาโดยใช้ร่างของแงซายเป็นสื่อ เรื่องราวของอาณาจักรโบราณที่ถูกฝังอยู่ภายใต้ผืนดิน นางพญาที่ถูกขังวิญญาณด้วยคัมภีร์มายาวิน และราชปุโรหิตจอมชั่วร้ายมันตรัยพรั่งพรูออกมาจากปากของแงซาย รวมทั้งขอร้องให้ทุกคนช่วยปลดปล่อยวิญญาณที่ถูกจองจำอยู่อย่างยาวนานให้เป็นอิสระ ทั้งหมดยกเว้นดารินไม่เชื่อในคำพูดของแงซายและจับกองกอยมัดไว้ รุ่งเช้ารพินทร์ตื่นนอนมาพบว่ากองกอยและแงซายหายไปพร้อมกับแผนที่ของมังมหานรธา การเดินทางต้องหยุดชะงักกลายเป็นการออกติดตามแงซายและแผนที่แทน รพินทร์ตามรอยเท้าของแงซายที่ทิ้งร่องรอยไว้เป็นระยะ ๆ เพื่อชักจูงให้ติดตามไปยังอาณาจักรนิทรานคร

รพินทร์นำคณะนายจ้างตัดเบี่ยงเส้นทางมาทางทิศตะวันตกประมาณ 45 องศา บ่ายหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ข้ามหุบเขาที่เป็นทิวต่ำลงไปยังเบื้องล่าง มองเห็นเป็นสามยอดเรียงกันเป็นทุ่งโล่งมีชื่อเรียกว่าทุ่งมรณะ ระหว่างทางพบเจอกับต้นพริกขี้หนูยักษ์และตะขาบยักษ์ที่โจมตีคณะเดินทางแตกกระจายกันไปคนละทิศละทาง รพินทร์เป็นคนยิงตะขาบยักษ์ตายด้วยปืน .460 เวเธอร์บี้แม็กนั่ม และทิ้งซากไว้บริเวณใกล้ต้นพริกขี้หนูยักษ์ ระหว่างทางทั้งหมดพบร่างของแงซายผลุบ ๆ โผล่ ๆ เป็นระยะ ไชยยันต์ตามรอยแงซายไปยังก้นหุบเขาแต่เกิดพลาดท่าโดนตะขาบกัดแทบเสียชีวิต ดารินพยายามปฐมพยาบาลช่วยชีวิตไชยยันต์อย่างสุดความสามารถแต่ก็ไม่สามารถแก้พิษของตะขาบดงได้ จนกระทั่งส่างปาเป็นคนเสนอให้ใช้วิธีรักษาด้วยการนำพริกขี้หนูดงและเนื้อตะขาบมาพอกบริเวณปากแผล

จอมผีดิบมันตรัย เล่ม 2

กองกอยที่เคยบุกปางพักจนถูกจับได้ก่อนหลบหนีหายไปกับแงซาย ย้อนกลับมาช่วยนำทางรพินทร์ไปยังต้นพริกขี้หนู เพื่อนำเม็ดพริกมาบดผสมกับเนื้อตะขาบยักษ์ใช้รักษาแก้อาการพิษตะขาบ แต่ถูกค้างคาวยักษ์โจมตีอย่างกะทันหันจนเกิดการยิงปะทะกันขึ้น เมื่อทำร้ายฝ่ายรพินทร์ไม่ได้ ค้างคาวยักษ์ตัวนั้นก็หวนกลับไปทางด้านปางพัก เชษฐาและดารินก็เกิดยิงต่อสู้กับค้างคาวยักษ์ที่โฉบลงมาหมายชิงซากตะขาบยักษ์เช่นกันจนหลบหนีไป รพินทร์นำพริกขี้หนูมาให้ส่างปาผสมกับเนื้อตะขาบช่วยให้ไชยยันต์รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์

รุ่งขึ้น รพินทร์นำคณะนายจ้างออกตามรอยของแงซายต่อ ท่ามกลางภาวะขาดแคลนน้ำดื่ม และพบกับเสือโคร่งสีดำที่มีขนาดใหญ่เท่าม้าลูกผสม ซึ่งรพินทร์เป็นคนพบรอยเท้าของมัน และเงยหน้าขึ้นมาปะทะหน้ากับมันก่อนที่มันจะกระโจนหนีไป คะหยิ่นใช้ความสามารถพิเศษในการใช้จมูกดมกลิ่นในอากาศ เพื่อหาแหล่งน้ำจนผ่านเข้าเขตดงมรณะ รพินทร์บุกนำทุกคนผ่านมาจนถึงป่าโปร่งในเวลาประมาณบ่ายสี่โมง พบซากละมั่งที่ถูกดูดเลือดจนตาย ก่อนหยุดพักแรม

คะหยิ่นได้กลิ่นเสน่ห์จันทร์ซึ่งเป็นแหล่งน้ำ จึงนำรพินทร์และคณะนายจ้างมุ่งหน้าขึ้นทางเหนือ ท่ามกลางความกระหายน้ำอย่างหนัก แงซายได้นำน้ำมวกใส่กระบอกไม้ไผ่มาช่วยเหลือโดยวางทิ้งไว้พร้อมกับรอยเท้า ขณะที่ดารินดื่มน้ำด้วยความกระหาย ก็พบเห็นมันตรัยซึ่งหลบแวบไวๆเข้าไปในดงเถาวัลย์ ก่อนจะพบซากศพแห้งตายซากแช่อยู่ในแอ่งน้ำ ดารินจำมันตรัยได้จากการที่ปรากฏตัวให้เห็นเมื่อครู่จึงร้องเอ็ดขึ้นลั่น ทุกคนไม่อยากจะเชื่อดารินเท่าไร แต่เมื่อผละจากแอ่งน้ำนั้นออกมา ก็พบว่าคะหยิ่นลืมปืนทิ้งไว้ที่แอ่งน้ำนั้น จึงย้อนกลับไป และพบว่าศพตายซากนั้นหายไปจากแอ่งน้ำ และทิ้งไว้แต่เพียงรอยเท้าเปียกน้ำเดินหายไป

รพินทร์นำคณะนายจ้างเดินทางมุ่งเข้าเขตดงเถาวัลย์กินคน พรานเกิด พรานเส่ย และไชยยันต์เกือบถูกเถาวัลย์รัดไปกิน เชษฐา ดาริน และรพินทร์ต้องช่วยกันแก้ออกมา คณะเดินทางพบบันทึกการเดินทางของ "แจน เครเมอร์" ซึ่งเป็นนักสำรวจที่ผ่านเข้ามาในบริเวณนี้เมื่อกว่า 40 ปีที่แล้ว ระบุเรื่องของเสือโคร่งดำ ตะขาบยักษ์ กองกอย ค้างคาวยักษ์ เหมือนอย่างที่คณะเจออยู่ตอนนี้ และพบเสือหินสลักในถ้ำที่มีขนาดและลักษณะเดียวกันกับเสือโคร่งดำที่ทั้งคณะพบทุกประการ ในตอนเย็นเสือโคร่งดำก็เข้ามาดื่มน้ำในแอ่งน้ำใกล้ที่พัก ในคืนนั้นเชษฐาได้ยินเสียงกลองมโหรีแว่วราวกับมีงานพระราชพิธี รพินทร์ได้ยินเสียงฆ้องใหญ่ ดารินฝันถึงเรื่องราวของอาณาจักรนิทรานคร และในเช้าของวันต่อมา ทุกคนก็พบว่าเสือหินในถ้ำนั้นหายไปแล้วอย่างไร้ร่องรอย

จอมผีดิบมันตรัย เล่ม 3

รุ่งขึ้นระหว่างตามร่องรอยของแงซายพบรอยเท้าช้างขนาดใหญ่ เชษฐาถูกเสือโคร่งดำแอบผลักหินกลิ้งลงมาถูกปืนพัง จึงเปลี่ยนมาใช้ปืน .460 ของแงซายที่ทิ้งไว้แทนซึ่งมีลูกกระสุนเหลืออยู่ 28 นัด และพบซากผีตายซากตัวเดียวกับที่ปรากฏในแอ่งน้ำในถ้ำจึงช่วยกันหากิ่งไม้มาทำฟืนเผา แต่มีเสือโคร่งดำตัวใหญ่กระโจนเข้าขัดขวางและคาบซากหลบหนีไป รพินทร์นำคณะนายจ้างตัดทางผ่านไปตามทุ่งแฝกและหญ้าคา ระหว่างทางเกิดไฟป่าลุกลามอย่างรวดเร็ว ทำให้ทั้งหมดต้องดิ้นรนเอาตัวรอด หลบหนีเข้าไปภายในถ้ำ จนพบหลักฐานคนโบราณเคยอาศัยอยู่ในถ้ำโดยมีโขลงช้างหลบหนีไฟป่าตามเข้ามาไปถ้ำด้วย ทำให้แต่ละคนพากันหลบหนีโขลงช้างจนพลัดตกลงไปในเหว รพินทร์ตกลงไปกับดาริน ไชยยันต์ตกลงไปกับมาเรีย ส่วนเชษฐาและพรานพื้นเมืองที่เหลือตกลงในปล่องบริเวณตื้น ๆ จึงสามารถคลานขึ้นมาเก็บสัมภาระทั้งหมดไว้ได้

รพินทร์และดารินตกลงไปในถ้ำ สลบจนบ่ายวันรุ่งขึ้นจึงรู้สึกตัว พบปืนวินเชสเตอร์ .458 และ .44 แมกนั่มยังอยู่ในเป้สนาม ส่วนปืน .300 ตกอยู่ใกล้ ๆ ดารินมี .357 ติดอยู่ในซองข้างเอว รพินทร์รอจนดารินฟื้นคืนสติจึงออกเดินทางต่อ โดยยึดเส้นทางตามลำธารใต้ภูเขาออกมาได้ในช่วงเวลาประมาณใกล้ค่ำ ตกดึกมันตรัยในร่างศพตายซากและเสือโคร่งดำมาก่อกวน ดารินยิงมันตรัยในร่างศพตายซากด้วย .300 ก่อนที่มันตรัยจะหลบหนีไป

ฝ่ายไชยยันต์ที่ตกลงไปพร้อมกับมาเรีย เมื่อฟื้นขึ้นมาก็พบข้อเท้าตนเองหลุด มาเรียช่วยเหลือด้วยการดึงจนเข้าที่ก่อนแยกย้ายกันสำรวจอาวุธปืนที่หล่นลงมาจนพบภายใต้ถ้ำใต้ภูเขา ไชยยันต์ออกสำรวจรอบ ๆ บริเวณพบปล่องลาวาและเสือหิน จนหาทางออกสู่โลกภายนอกได้สำเร็จในเวลาบ่าย ในช่วงเวลาใกล้ค่ำมาเรียยิงเลียงผาได้ตัวหนึ่งเป็นอาหารเย็นก่อนหลับไปด้วยความเพลีย ตกดึกค้างคาวยักษ์ออกอาละวาด แต่ถูกไชยยันต์ยิงบาดเจ็บสาหัสหลบหนีไป

จอมผีดิบมันตรัย เล่ม 4

เช้าวันรุ่งขึ้นไชยยันต์และมาเรียออกติดตามรอยค้างคาวเข้าไปในถ้ำ พบไฟเย็นที่ค้างคาวใช้รักษาบาดแผล แต่หลังจากนั้นถูกซากศพตายซากและเสือโคร่งดำออกตามล่า กองกอยตามมาช่วยเหลือโดยนำทางให้จนออกมานอกถ้ำได้ในตอนบ่ายราวสี่โมง ทั้งสองคนพลัดหลงเข้าไปในป่าดงดิบก่อนช่วยกันจับปลาในลำธารมาเป็นอาหารแต่กลับกลายไปปิ้งปลาบนหลังงูขนาดใหญ่แทน เมื่องูเลื้อยจากไป พบซากกำแพงเมืองโบราณจากจุดที่งูเคยนอนจำศีลอยู่ คืนนั้นมาเรียเป็นประจำเดือนและเกิดอาการปวดท้อง โดยมีไชยยันต์คอยดูแลด้วยความเป็นห่วง

รุ่งเช้าไชยยันต์และมาเรียออกเดินทางต่อจนพบปราสาทเก่าและสุสานโบราณ ระหว่างทางเกิดฝนตกหนัก ทั้งสองคนพากันเข้าไปหลบฝน และลงไปสำรวจในสุสาน ก่อนจะถูกมันตรัยปิดทางลงด้วยประตูกล ติดขังอยู่ในสุสานผีดิบนั้น

ทางด้านรพินทร์และดารินนั้น เมื่อเช้าขึ้นก็ผละจากที่พักริมลำธารออกเดินทางตามหาพรรคพวก และพบแงซายออกมาเดินลับๆล่อๆให้ตามอยู่ช่วงหนึ่งก่อนจะหลบหายไป ฝ่ายพรานบุญคำที่พลัดหลงกับเชษฐาและคนอื่น ออกติดตามค้นหาคณะเช่นกัน แต่กลับเจอโขลงช้างจนต้องปีนหนีขึ้นต้นไม้ พอตอนจะลงกลับลงไม่ได้เพราะช้างดึงเถาวัลย์ขาดหมด แงซายนำลูกทอยมาทิ้งไว้ให้ที่โคนต้นไม้ก่อนจากไป จนกระทั่งพรานบุญคำได้ยินเสีบงปืนจากดารินซึ่งยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อเป็นสัญญาณเรียกหาแงซายที่หายไป ก็กู่เรียกหา รพินทร์กับดารินตามเสียงมาจนกระทั่งพบกัน และรพินทร์ก็ตอกทอยขึ้นไปรับพรานบุญคำลงมาจากต้นกร่างใหญ่ ซึ่งเมื่อลงมาถึงพื้นดินพรานบุญคำก็เล่าถึงเมืองโบราณที่เห็นเมื่อคืนให้รพินทร์และดารินฟัง

หลังจากช่วยเหลือพรานบุญคำลงมาแล้วจึงออกเดินทางต่อ ช่วงเวลาประมาณบ่ายพบกับรอยของงูยักษ์ ซากกำแพงเมืองโบราณที่ปรักหักพัง ร่องรอยที่พักของไชยยันต์และมาเรีย พรานบุญคำเก็บผ้าซับเลือดประจำเดือนของมาเรียไว้ใช้สำหรับแก้อาถรรพณ์ของมันตรัย ช่วงใกล้ค่ำพบต้นพริกขี้หนูยักษ์และปะทะกับตะขาบยักษ์ที่ดงสักและหนีเข้าไปติดในซอกหิน กลางดึกค้างคาวยักษ์จู่โจม รพินทร์ใช้ไม้แหลมทาด้วยเลือดประจำเดือนของมาเรียแทงอกค้างคาวอย่างแรงจนไม้หักคาจนมันต้องบินหนีไปด้วยความเจ็บปวด รุ่งขึ้น รพินทร์ ดารินและพรานบุญคำพบมันเผาและเห็ดโคนวางไว้โดยแงซาย หลังรับประทานอาหารจึงออกติดตามค้นหาเชษฐาและพรานพื้นเมืองคนอื่น ๆ ต่อไป ตอนบ่ายเกิดฝนตกหนัก (เป็นขณะเดียวกับที่ไชยยันต์และมาเรียหลบฝนในสุสาน) ภายหลังฝนหยุดตกพบเจอปลอกกระสุนลูกซองของพรานพื้นเมืองและก้นซิการ์ฮาวานาของเชษฐาลอยตามน้ำมา รพินทร์นำดารินและพรานบุญคำออกค้นหาต่อจนเย็นจึงพบปราสาทของนางพญาพันธุมวดี

อ้างอิง

  1. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 หน้า 3381, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3381
  2. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 หน้า 3386, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3386
  3. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 หน้า 3390, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3390
  4. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 หน้า 3408, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3408
  5. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 หน้า 3425, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3425
  6. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 หน้า 3431, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3431
  7. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 หน้า 3487, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3487
  8. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 หน้า 3502, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3502
  9. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 หน้า 3524, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3524
  10. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 หน้า 3539, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3539
  11. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 หน้า 3548, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3548
  12. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 หน้า 3553, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3553
  13. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 หน้า 3559, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3559
  14. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 หน้า 3567, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3567
  15. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 หน้า 3631, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3631
  16. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 หน้า 3642, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3642
  17. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 หน้า 3664, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3664
  18. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 หน้า 3714, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3714
  19. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 2 หน้า 3872, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3872
  20. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 2 หน้า 3887 - 3889, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3887 - 3889
  21. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 2 หน้า 3928, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3928
  22. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 2 หน้า 3949, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3949
  23. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 2 หน้า 3994, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3994
  24. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 2 หน้า 4131 - 4133, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 4131 - 4133
  25. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 2 หน้า 4138 - 4139, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 4138 - 4139
  26. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 3 หน้า 4250 - 4257, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 4250 - 4257
  27. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 3 หน้า 4259, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 4259
  28. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 3 หน้า 4274, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 4274
  29. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 3 หน้า 4290, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 4290
  30. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 3 หน้า 4316, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 4316
  31. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 4 หน้า 4680 - 4681, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 4680 - 4681
  32. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 4 หน้า 4710, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 4710
  33. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 4 หน้า 4770, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 4770
  34. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 4 หน้า 4789, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 4789

จอมผ, บม, นตร, เป, นตอนท, สามของเพชรพระอ, มาจำนวน, เล, ได, แก, เล, 4ภาพปกเพชรพระอ, มา, ตอน, เล, 1รายละเอ, ยดผ, ประพ, นธ, นายฉ, ตรช, เศษส, วรรณภ, จำนวนเล, ม4, เล, มความยาว1, หน, าออกแบบปกสามารถ, จงเจษฎาก, ลภาพประกอบปกสมชาย, ปานประชาศ, ลปกรรมฝ, ายศ, ลปกรรม, านวร. cxmphidibmntry epntxnthisamkhxngephchrphraxumacanwn 4 elm idaekcxmphidibmntry elm 1 4cxmphidibmntryphaphpkephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 1raylaexiydphupraphnthnaychtrchy wiesssuwrrnphumicanwnelm4 elmkhwamyaw1 640 hnaxxkaebbpksamarth cngecsdakulphaphprakxbpksmchay panprachasilpkrrmfaysilpkrrm n banwrrnkrrm krupbrrnathikarrkschnk namthxnsankphimphsankphimph n banwrrnkrrmpithiphimphkhrngthi 1 ph s 2538khrngthi 2 ph s 2541khrngthi 3 ph s 2544khrngthi 4 ph s 2547elmkxnhnadngmrnaelmthdipxathrrphnnithrankhrdkhk enuxha 1 enuxeruxngyx 1 1 cxmphidibmntry elm 1 1 2 cxmphidibmntry elm 2 1 3 cxmphidibmntry elm 3 1 4 cxmphidibmntry elm 4 2 xangxingenuxeruxngyx aekikhcxmphidibmntry elm 1 aekikh phayhlngcakthiaengsaythdlxngthangpun 460 ewethxrbiaemknm tktxneynphranbuykhathiaexbippldthukkhbriewntnimihythithukichepnepathdlxngkrasun wingkrahudkrahxbklbmaaecngaekrphinthrthungrxypunbntnim miyangihlsumxxkmasiaedngsdkhlaykbeluxd rphinthrrbruthungkhwamphidpktiinsihnaaelaaewwtatuntrahnkkhxngphranbuykha aelaemuxyxnklbipyngtnimihysungthrabphayhlngwaepntntaekhiyn phbrxyyangimihlsumxxkmaepnsiaedngkhlayeluxdcringtamthiphranbuykhabxk 1 aetrphinthrsngihekberuxngyangtaekhiynsiaedngkhlayeluxdiw hamaephrngphrayihkhnanaycangruodyeddkhad chwngrayaewlapramanhwkha inkhnathikhnanaycangrbprathanxaharaelasnthnakn darinekidmixakarhnamudepnlm 2 phranbuykhaerimrusukimdikbkhwamphidpktirxbbriewnpangphkrwmthungxakarkhxnghnamudkhxngdarin aetrphinthrphyayamthasihnaaelathathangihepnpkti thngthiphayinickerimwitkkngwltamkhabxkelakhxngyangtaekhiynsiaedngkhxngphranbuykha kxnkahndewryaminaetlacudrxbpangphkkxnaeyktwipphkphxn aetekidesiyngexaxaowywaykhxngsangpathifnrayehnesuxkhnadihyethamacatharay 3 khahyinthinxnhangipimiklnkfnehnchangngayawilaethngechnkn phrancnfnehneprttwsungethatntal phranekidfnehnnguehluxmkhnadihyaetmiswnhwepnphuhying phranesyfnehnphutiphipisaccanwnmakrayrxblxmpangphk phranbuykhaphyayamthatwepnpktitamthirphinthrsngthngthitwexngfnrayechnkn aengsaysungepntnehtukhxngehtukarnphidpktikhrngni odnxathrrphnkhxngpamakkwakhnxun ephraamxngehnnangtaekhiynaelabriwarthichayparxbpangphkdwyxarmnekriywkradtkdukekidehtukarnprahladrxbbriewnpangphk kxnhinkhnadihyethalukmaphrawcanwnmakthukmuxthimxngimehnkhwangpaisrawkbhafn rphinthraecngihkhnanaycangthrabthungtnehtukhxngehtukarnphidpktiaelaetriymphrxmrbmuxkbxanacernlbehnuxthrrmchatithiraylxmrxbpangphk ichyynttaoknthathayxanacernlbdwykhwamokrth 4 thaihekidlmphayuphdkrahnaphrxmkbesiynghweraakhxngphuhying rphinthraekehtukarnechphaahnadwykarnakhxngkhlnginiththiidrbmxbcakkhxkhxnghnaniphr mabrrculnginplxkkrasunpunluksxngkxnehniywikyingis sungsamarththaihlmphayusngblngthnthiphrxmkbesiyngohyhwnrawkbpaaetk hlngphayusngbdarinklbhaytwipcakpangphk odythingrxngrxyephiyngxyangediywkhuxrxyethabnphundinxyangchdecn bayhnakhunsutlingipyngpafngtrngkhamrphinthr echstha aengsayaelakhnxunxxktidtamrxyethakhxngdarincnphbthitntaekhiynihy 5 darinthuknangtaekhiynekhasingnatwmacakpangphk ephuxichepnkhxaelkepliynkbkarkhxkhmacakechsthaaelaaengsay odynatwdarinkhunipbntntaekhiynaelaaesdngxiththivththiihehn rphinthrphyayamecrcadwyphasachawekhaaekhnnghnungkbnangtaekhiyninrangdarin thiyinyxmkhuntwdarinihephuxaelkkbkarkhxkhmacakechsthaaelaeluxdsamhydcakaengsay sungthngsxngkhnyxmptibtiaetodydiaelaidtwdarinklbkhunma 6 hlngcakfunkhunsti darinklbcaehtukarnthiekidkhunimidaemaetnxy mikhwamrusukehmuxnimsbayaelahlbipethann phrxmkbelakhwamfnaeplkprahladihthukkhnfngmaeriy hxfmnaethbimechuxkbsingthiekidkhun aemcaehndwytakhxngtnexngthidarinsamarthphudcaottxbkbrphinthrdwyphasachawekhaechnkhmuaelakaehriyng thngthikhwamcringaelwimsamarthphudidaemaetkhaediyw echawnrungkhunrphinthrnakhnanaycangxxkedinthangtxodybayhnaipthangthistawnxxkechiyngehnuxkhxngekhahwaerng munghnakhunehnuxipyngthungmrna 7 odythirphinthraecngtaaehnngpccubnkhuxehnuxrthkaya thangtxnitkhxngrthithyihyihaekkhnanaycangthrab rphinthrnakhnanaycangedinthangmasrangpangphkinhubekhakxngkxy inchwngewlapramaniklkha rphinthrkhxxnuyatdarinlastwsahrbepnxahareyncaksyyathiekhyihiw enuxngcakesbiyngaelaxaharkrapxngthinatidtwma samarthichyngchiphidimekinechawnrungkhun aetthngkhnaedinthangtxngtkicemuxidyinesiyngpundngkhun phrxmkbesiyngowywaytuntrahnkkhxngsangpaaelakhahyinthixxklastwrphinthrsxbthamcnidkhwamwathngsxngphbkbnguihymihngxnehmuxnkbtwthixxkxalawadinhmubanhlmchang cungnakhnanaycangxxkkhnhacnphbkbkhrabkhxngngukhnadihythilxkkhrabthingiwbriewnpakthaaehnghnung 8 khunnnechsthayingkwangthimakindinopngidtwhnung miphranbuykhachwysxngifihaetimtam odytngiccatamsakintxnechakhxngwnrungkhun tkdukpramantisxng thngpangphkidyinesiyngrxngaeplkprahladehmuxnesiyngnkkwkdngkxng kxy ipthw 9 aengsayaenaihrphinthrtamsakkwangphrxmkbelaeruxngrawthimakhxngesiyngprahlad cakthiekhyphanhubekhalukniinxditihrphinthraelakhnanaycangfng echatrurphinthrrueruxngkwangthiechsthayingidemuxkhunaetehluxephiyngaekhokhrngkraduk cungribnakhnanaycangtrngipyngsakkwangthiechsthayingidemuxwan phbklayepnokhrngkradukcringtamkhabxkelakhxngaengsayrphinthrbxkaekkhnanaycangthungtwkarthirumkinsakkwangdwykhwamhiwohykhuxkxngkxy thiepnphutiiphrchnidhnung mifnaehlmaelakhmkribrawkbmidokn 10 srangkhwamchngnihaekkhnanaycangsungekhyidyinchuxkxngkxycakeruxngelakhanethann echsthaetuxnihthnghmdkhxyrawngtwcakkxngkxy cakehtukarnemuxkhunthaechsthaimyingkwanglmaelwplxythingexaiwimtamsak ehyuxekhraahrayxaccaklayepnikhrkhnhnunghruxthukkhninpangphkaethn rphinthrnakhnanaycangaelaphranphunemuxngxxkedinthangtxitsnekhaipthangtawnxxkechiyngehnux phrxmkbhaaehlngnasahrbdumkin maeriykhadkhaenthungaehlngnathixacxyuelyipimiklnk cakprasbkarninkaredinpathaihruwaphayhlngcakthithukying kwangxacmunghnamayngaehlngnaaetekidtayesiykxnthicaipthungsungepncringdngthikhadkarniw aengsayaelaphranphunemuxngthnghmdksamarthhaaehlngnaphrxmkbbrrcuinkrabxkimiphcnetmklbmayngthiphk rphinthrsngihhyudphkchwkhrawkxnxxkedinthangtx 11 odynakhnanaycangiteninkhunlngaelahyudphkethiyngthichayeninrimthung kxntdthangkhuneninlukelk thangthisitephuxhaaehlngnamwk tlxdrayathangimphbaemaetstwaemaettwediyw cnpramanbaysamomngeyncungthungphunrabbnihldxy maeriyxxkiphaenuxiwsahrbepnesbiyngodymisangpatidtamipdwy rphinthraelabuykhatamrxykhxngmaeriyip aetaeykipkhnlaesnthangidephiyngchwkhrukidyinesiyngirefil 357 khxngsangpalnkhunhnungndphrxmkbesiyngtaoknohwkehwk cungruwamaeriyekidpathakbkrathingkhnadihyklangthungolng 12 rphinthr phranbuykha ichyynt darinaelakhnxun chwyknyingsmthbchwyehluxmaeriythiphyayamexatwrxdcakkarphungekhaiskhxngkrathing rphinthryingdwyirefil 30 60 aetcbepahmaythiekhluxnthixyangrwderwimid 13 phranbuykhachwyyingsadwy 375 aetkphladimodnxikechnknechsthaichpun 458 yingskdaetkrasunphanhnakhaipimthukepa 14 maeriythasukkbkrathingihycnsamarthhyibirefil 357 thisangpathahlniwmaidsaerckxncaehniywikying krasun 357 cakirefilphungekhatdkankhxkhxngkrathingihylmthnthi klayepnxaharmuxeynxyangdiihaekkhnaedinthang phayhlnglmkrathingsaercaelalxmwngrbprathanxahareyndwyknaelw tangphaknaeykyayipphkphxntamxthyasy tkdukthngpangphkengiybsngdxyangphidpkti darinrusuktwtunenuxngcakmixairbangxyangkrathbbriewnplayetha aelaemuxchayifsxngdukthaihthngpangphkaetktunchulmunwunwaydwyesiyngpun 357 tidtxkn 3 4 ndsxn rphinthrsxbthamdarinthungehtukarnthiekidkhunphrxmkbsngihkxkxngifthimxdkhunthnthi inkhnathithnghmdkalngharxngrxykhxngtwprahladthibukekhamaphayinthiphk esiyngtaoknohwkehwkphrxmesiyngpunklnkhunsnnhwnihw thangpangphkthukkxngkxycanwnoxblxmexaiwaelabukekhamatharay ichyyntaelaechsthachwyknyingpunkhunfakhuilkxngkxycnthxyrnipimepnkrabwn phranphunemuxngkhxngrphinthridrbbadecbelknxy miphranekidephiyngkhnediywthithukkdkhaepnaephlehwxahwadarinkhxihmaeriychwyhyibklxngpthmphyabalih aetthnghmdktxngtkicxikkhrngemuxmaeriyrxnglnkhunhlngcakphbkxngkxyhlbsxnxyuphayitphunphaib rphinthrihphranbuykhacbepnkxngkxythiidrbbadecbcnisihlaelaimkhidhlbhni 15 kxngkxysakdcitaengsayihthaythxdkhwamkhidthukxyangxxkmaodyichrangkhxngaengsayepnsux eruxngrawkhxngxanackrobranthithukfngxyuphayitphundin nangphyathithukkhngwiyyandwykhmphirmayawin aelarachpuorhitcxmchwraymntryphrngphruxxkmacakpakkhxngaengsay rwmthngkhxrxngihthukkhnchwypldplxywiyyanthithukcxngcaxyuxyangyawnanihepnxisra 16 thnghmdykewndarinimechuxinkhaphudkhxngaengsayaelacbkxngkxymdiw rungecharphinthrtunnxnmaphbwakxngkxyaelaaengsayhayipphrxmkbaephnthikhxngmngmhanrtha karedinthangtxnghyudchangkklayepnkarxxktidtamaengsayaelaaephnthiaethn rphinthrtamrxyethakhxngaengsaythithingrxngrxyiwepnraya ephuxchkcungihtidtamipyngxanackrnithrankhrrphinthrnakhnanaycangtdebiyngesnthangmathangthistawntkpraman 45 xngsa 17 bayhnaipthangthistawnxxkechiyngehnux khamhubekhathiepnthiwtalngipyngebuxnglang mxngehnepnsamyxderiyngknepnthungolngmichuxeriykwathungmrna rahwangthangphbecxkbtnphrikkhihnuyks 18 aelatakhabyksthiocmtikhnaedinthangaetkkracayknipkhnlathislathang rphinthrepnkhnyingtakhabykstaydwypun 460 ewethxrbiaemknm aelathingsakiwbriewnikltnphrikkhihnuyks rahwangthangthnghmdphbrangkhxngaengsayphlub ophl epnraya ichyynttamrxyaengsayipyngknhubekhaaetekidphladthaodntakhabkdaethbesiychiwit darinphyayampthmphyabalchwychiwitichyyntxyangsudkhwamsamarthaetkimsamarthaekphiskhxngtakhabdngid cnkrathngsangpaepnkhnesnxihichwithirksadwykarnaphrikkhihnudngaelaenuxtakhabmaphxkbriewnpakaephl cxmphidibmntry elm 2 aekikh kxngkxythiekhybukpangphkcnthukcbidkxnhlbhnihayipkbaengsay yxnklbmachwynathangrphinthripyngtnphrikkhihnu ephuxnaemdphrikmabdphsmkbenuxtakhabyksichrksaaekxakarphistakhab aetthukkhangkhawyksocmtixyangkathnhncnekidkaryingpathaknkhun emuxtharayfayrphinthrimid khangkhawykstwnnkhwnklbipthangdanpangphk echsthaaeladarinkekidyingtxsukbkhangkhawyksthiochblngmahmaychingsaktakhabyksechnkncnhlbhniip rphinthrnaphrikkhihnumaihsangpaphsmkbenuxtakhabchwyihichyyntrxdmaidxyangpatihariyrungkhun rphinthrnakhnanaycangxxktamrxykhxngaengsaytx thamklangphawakhadaekhlnnadum aelaphbkbesuxokhrngsidathimikhnadihyethamalukphsm sungrphinthrepnkhnphbrxyethakhxngmn aelaengyhnakhunmapathahnakbmnkxnthimncakraocnhniip 19 khahyinichkhwamsamarthphiessinkarichcmukdmklininxakas ephuxhaaehlngnacnphanekhaekhtdngmrna rphinthrbuknathukkhnphanmacnthungpaoprnginewlapramanbaysiomng phbsaklamngthithukdudeluxdcntay 20 kxnhyudphkaermkhahyinidklinesnhcnthrsungepnaehlngna 21 cungnarphinthraelakhnanaycangmunghnakhunthangehnux 22 thamklangkhwamkrahaynaxyanghnk aengsayidnanamwkiskrabxkimiphmachwyehluxodywangthingiwphrxmkbrxyetha khnathidarindumnadwykhwamkrahay kphbehnmntrysunghlbaewbiwekhaipindngethawly kxncaphbsaksphaehngtaysakaechxyuinaexngna darincamntryidcakkarthiprakttwihehnemuxkhrucungrxngexdkhunln 23 thukkhnimxyakcaechuxdarinethair aetemuxphlacakaexngnannxxkma kphbwakhahyinlumpunthingiwthiaexngnann cungyxnklbip aelaphbwasphtaysaknnhayipcakaexngna aelathingiwaetephiyngrxyethaepiyknaedinhayiprphinthrnakhnanaycangedinthangmungekhaekhtdngethawlykinkhn phranekid phranesy aelaichyyntekuxbthukethawlyrdipkin echstha darin aelarphinthrtxngchwyknaekxxkma khnaedinthangphbbnthukkaredinthangkhxng aecn ekhremxr sungepnnksarwcthiphanekhamainbriewnniemuxkwa 40 pithiaelw rabueruxngkhxngesuxokhrngda takhabyks kxngkxy khangkhawyks ehmuxnxyangthikhnaecxxyutxnni aelaphbesuxhinslkinthathimikhnadaelalksnaediywknkbesuxokhrngdathithngkhnaphbthukprakar intxneynesuxokhrngdakekhamadumnainaexngnaiklthiphk inkhunnnechsthaidyinesiyngklxngmohriaewwrawkbminganphrarachphithi rphinthridyinesiyngkhxngihy 24 darinfnthungeruxngrawkhxngxanackrnithrankhr 25 aelainechakhxngwntxma thukkhnkphbwaesuxhininthannhayipaelwxyangirrxngrxy cxmphidibmntry elm 3 aekikh rungkhunrahwangtamrxngrxykhxngaengsayphbrxyethachangkhnadihy echsthathukesuxokhrngdaaexbphlkhinklinglngmathukpunphng cungepliynmaichpun 460 khxngaengsaythithingiwaethn 26 sungmilukkrasunehluxxyu 28 nd 27 aelaphbsakphitaysaktwediywkbthipraktinaexngnainthacungchwyknhakingimmathafunepha aetmiesuxokhrngdatwihykraocnekhakhdkhwangaelakhabsakhlbhniip 28 rphinthrnakhnanaycangtdthangphaniptamthungaefkaelahyakha rahwangthangekidifpaluklamxyangrwderw thaihthnghmdtxngdinrnexatwrxd hlbhniekhaipphayintha cnphbhlkthankhnobranekhyxasyxyuintha 29 odymiokhlngchanghlbhniifpatamekhamaipthadwy 30 thaihaetlakhnphaknhlbhniokhlngchangcnphldtklngipinehw rphinthrtklngipkbdarin ichyynttklngipkbmaeriy swnechsthaaelaphranphunemuxngthiehluxtklnginplxngbriewntun cungsamarthkhlankhunmaekbsmpharathnghmdiwidrphinthraeladarintklngipintha slbcnbaywnrungkhuncungrusuktw phbpunwinechsetxr 458 aela 44 aemknmyngxyuinepsnam swnpun 300 tkxyuikl darinmi 357 tidxyuinsxngkhangexw rphinthrrxcndarinfunkhunsticungxxkedinthangtx odyyudesnthangtamlatharitphuekhaxxkmaidinchwngewlapramaniklkha tkdukmntryinrangsphtaysakaelaesuxokhrngdamakxkwn darinyingmntryinrangsphtaysakdwy 300 kxnthimntrycahlbhniipfayichyyntthitklngipphrxmkbmaeriy emuxfunkhunmakphbkhxethatnexnghlud maeriychwyehluxdwykardungcnekhathikxnaeykyayknsarwcxawuthpunthihlnlngmacnphbphayitthaitphuekha ichyyntxxksarwcrxb briewnphbplxnglawaaelaesuxhin cnhathangxxksuolkphaynxkidsaercinewlabay inchwngewlaiklkhamaeriyyingeliyngphaidtwhnungepnxahareynkxnhlbipdwykhwamephliy tkdukkhangkhawyksxxkxalawad aetthukichyyntyingbadecbsahshlbhniip cxmphidibmntry elm 4 aekikh echawnrungkhunichyyntaelamaeriyxxktidtamrxykhangkhawekhaipintha phbifeynthikhangkhawichrksabadaephl 31 aethlngcaknnthuksaksphtaysakaelaesuxokhrngdaxxktamla kxngkxytammachwyehluxodynathangihcnxxkmanxkthaidintxnbayrawsiomng 32 thngsxngkhnphldhlngekhaipinpadngdibkxnchwykncbplainlatharmaepnxaharaetklbklayippingplabnhlngngukhnadihyaethn emuxngueluxycakip phbsakkaaephngemuxngobrancakcudthinguekhynxncasilxyu khunnnmaeriyepnpracaeduxnaelaekidxakarpwdthxng odymiichyyntkhxyduaeldwykhwamepnhwngrungechaichyyntaelamaeriyxxkedinthangtxcnphbprasathekaaelasusanobran rahwangthangekidfntkhnk thngsxngkhnphaknekhaiphlbfn aelalngipsarwcinsusan kxncathukmntrypidthanglngdwypratukl tidkhngxyuinsusanphidibnnthangdanrphinthraeladarinnn emuxechakhunkphlacakthiphkrimlatharxxkedinthangtamhaphrrkhphwk aelaphbaengsayxxkmaedinlblxihtamxyuchwnghnungkxncahlbhayip fayphranbuykhathiphldhlngkbechsthaaelakhnxun xxktidtamkhnhakhnaechnkn aetklbecxokhlngchangcntxngpinhnikhuntnim phxtxncalngklblngimidephraachangdungethawlykhadhmd aengsaynalukthxymathingiwihthiokhntnimkxncakip cnkrathngphranbuykhaidyinesibngpuncakdarinsungyingpunkhunfaephuxepnsyyaneriykhaaengsaythihayip kkueriykha rphinthrkbdarintamesiyngmacnkrathngphbkn aelarphinthrktxkthxykhuniprbphranbuykhalngmacaktnkrangihy 33 sungemuxlngmathungphundinphranbuykhakelathungemuxngobranthiehnemuxkhunihrphinthraeladarinfng 34 hlngcakchwyehluxphranbuykhalngmaaelwcungxxkedinthangtx chwngewlapramanbayphbkbrxykhxngnguyks sakkaaephngemuxngobranthiprkhkphng rxngrxythiphkkhxngichyyntaelamaeriy phranbuykhaekbphasbeluxdpracaeduxnkhxngmaeriyiwichsahrbaekxathrrphnkhxngmntry chwngiklkhaphbtnphrikkhihnuyksaelapathakbtakhabyksthidngskaelahniekhaiptidinsxkhin klangdukkhangkhawykscuocm rphinthrichimaehlmthadwyeluxdpracaeduxnkhxngmaeriyaethngxkkhangkhawxyangaerngcnimhkkhacnmntxngbinhniipdwykhwamecbpwd rungkhun rphinthr darinaelaphranbuykhaphbmnephaaelaehdokhnwangiwodyaengsay hlngrbprathanxaharcungxxktidtamkhnhaechsthaaelaphranphunemuxngkhnxun txip txnbayekidfntkhnk epnkhnaediywkbthiichyyntaelamaeriyhlbfninsusan phayhlngfnhyudtkphbecxplxkkrasunluksxngkhxngphranphunemuxngaelaknsikarhawanakhxngechsthalxytamnama rphinthrnadarinaelaphranbuykhaxxkkhnhatxcneyncungphbprasathkhxngnangphyaphnthumwdixangxing aekikh phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 1 hna 3381 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3381 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 1 hna 3386 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3386 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 1 hna 3390 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3390 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 1 hna 3408 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3408 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 1 hna 3425 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3425 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 1 hna 3431 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3431 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 1 hna 3487 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3487 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 1 hna 3502 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3502 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 1 hna 3524 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3524 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 1 hna 3539 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3539 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 1 hna 3548 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3548 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 1 hna 3553 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3553 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 1 hna 3559 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3559 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 1 hna 3567 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3567 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 1 hna 3631 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3631 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 1 hna 3642 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3642 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 1 hna 3664 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3664 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 1 hna 3714 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3714 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 2 hna 3872 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3872 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 2 hna 3887 3889 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3887 3889 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 2 hna 3928 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3928 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 2 hna 3949 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3949 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 2 hna 3994 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3994 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 2 hna 4131 4133 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 4131 4133 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 2 hna 4138 4139 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 4138 4139 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 3 hna 4250 4257 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 4250 4257 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 3 hna 4259 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 4259 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 3 hna 4274 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 4274 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 3 hna 4290 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 4290 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 3 hna 4316 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 4316 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 4 hna 4680 4681 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 4680 4681 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 4 hna 4710 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 4710 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 4 hna 4770 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 4770 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 4 hna 4789 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 4789ekhathungcak https th wikipedia org w index php title cxmphidibmntry amp oldid 9110105, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม