ซูซูกิ อัลโต้
ซูซูกิ อัลโต้ | |
---|---|
ผู้ผลิต: | ซูซูกิ |
ปี: | พ.ศ. 2522 - ปัจจุบัน |
ประเภท: | {{{ประเภท}}} |
ลักษณะ: | คูเป้ 2 ประตู แฮทช์แบค 3 ประตู รถตู้ 3 ประตู แฮทช์แบค 5 ประตู |
เครื่องยนต์: | |
รุ่นก่อนหน้า: | ซูซูกิ ฟรอนเต |
รุ่นต่อไป: | {{{รุ่นต่อไป}}} |
รุ่นที่ใกล้เคียง: | ไดฮัทสุ มิร่า มาสด้า คารอล ซูบารุ พลีโอ มิตซูบิชิ มินิกา/อีเค นิสสัน พิโน ฮอนด้า เอ็นวัน |
ซูซูกิ อัลโต้ (อังกฤษ: Suzuki Alto) เป็นรถยนต์นั่งเคคาร์ (Kei Car) ผลิตโดย ซูซูกิ ผู้ผลิตรถยนต์ขนาดเล็กและรถยนต์เอนกประสงค์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น เปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2522 และถูกส่งออกไปจำหน่ายในหลายประเทศ โดยมีตลาดหลักอยู่ที่ญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่นิยมใช้รถยนต์ขนาดเล็ก เนื่องจากถนนในญี่ปุ่นค่อนข้างแคบ อัลโต้จึงได้รับความนิยมมากในประเทศญี่ปุ่น
รุ่นที่ 1 (พ.ศ. 2522-2527)
ซูซูกิ อัลโต้ รุ่นที่ 1 เปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคมปี พ.ศ. 2522 ออกมาแทนรุ่นเก่า คือ ซูซูกิ ฟรอนเต (อังกฤษ: Suzuki Fronte) ซึ่งเปิดตัวมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505 และเลิกผลิตไปในปี พ.ศ. 2533 โดยอัลโต้ มีเครื่องยนต์ 0.5 ลิตร แต่ซีซีต่างกัน มีรุ่น 539 และ 543 ซีซี มีตัวถังแฮทช์แบค 3 และ 5 ประตู ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ในช่วงแรกที่เปิดตัวมีเฉพาะรุ่นเกียร์ธรรมดา 4 สปีด จนในปี พ.ศ. 2523 จึงได้เปิดตัวรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 2 สปีด และฐานการประกอบอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น
อัลโต้รุ่นที่ 1 นี้ เป็นรถที่สร้างปรากฏการณ์ต่อตลาดยานยนต์ญี่ปุ่น ด้วยการเป็นรถยนต์ที่ราคาถูกที่สุดในสมัยนั้น เพียงแค่ 470,000 เยน หากเทียบกับรถยนต์และสินค้าอื่นๆ จะพบว่าราคาขายของอัลโต้นั้นถูกมาก เช่น โตโยต้า โคโรลล่า ราคาในขณะนั้น 924,000 เยน โตโยต้า สตาร์เลท ราคาในขณะนั้น 823,000 เยน ซูซูกิ ฟรอนเต ราคาในขณะนั้น 655,000 เยน คอมพิวเตอร์ ราคาในขณะนั้น 123,000 เยน โทรทัศน์สี ราคาในขณะนั้น 140,000 เยน เครื่องเล่นวีดีโอ ราคาในขณะนั้น 280,000 เยน วิทยุกระเป๋าหิ้ว ราคาในขณะนั้น 72,500 เยน จากการที่ราคาขายถูกมาก ทำให้สามารถเป็นอันดับ 1 ของตลาด K-Car ญี่ปุ่นได้ในเวลาอันรวดเร็ว
ในประเทศไทย Suzuki Motor ประเทศไทยเคยสั่ง Alto รุ่นนี้เข้ามาประกอบขายในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2524 ในชื่อ Suzuki Fronte ได้รับความนิยมแบบพอขายได้ และเลิกผลิตและจำหน่ายในปี พ.ศ. 2528 เนื่องจากยอดขายเริ่มต่ำลงไปเรื่อยๆ ราคาของรถยนต์ในสมัยนั้นถือว่าไม่แพงมากนัก ผู้บริโภคคิดว่าจ่ายเงินเพิ่มอีกนิดเพื่อซื้อรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่กว่าดีกว่า ทำให้ Fronte ต้องยุติบทบาทลงไปในที่สุด
รุ่นที่ 2 (พ.ศ. 2527-2531)
ซูซูกิ อัลโต้ รุ่นที่ 2 เปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2527 ใช้โครงสร้างวิศวกรรมร่วมกับ ซูซูกิ เซอร์โว ยังคงมีฐานการประกอบที่ญี่ปุ่นเช่นเดิม แต่ได้ขยายฐานการประกอบไปที่ประเทศจีน ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า นอกจากนี้ เป็นรุ่นแรกที่มีตัวถังคูเป้ 2 ประตู มีเครื่องยนต์ 0.5 และ 0.8 ลิตร ใช้เกียร์ธรรมดา 4 และ 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 2 และ 3 สปีด เลิกผลิตในปี พ.ศ. 2531 และเลิกผลิตในตลาดยุโรปเมื่อปี พ.ศ. 2536
รุ่นที่ 3 (พ.ศ. 2531-2537)
ซูซูกิ อัลโต้ รุ่นที่ 3 เปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2531 รุ่นนี้ได้ยกเลิกการประกอบที่จีน และยกเลิกตัวถังคูเป้ 2 ประตู มีเครื่องยนต์ 0.5 และ 0.7 ลิตร ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าตามเดิม มีเกียร์ธรรมดา 4 และ 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีด
รุ่นที่ 4 (พ.ศ. 2537-2541)
ซูซูกิ อัลโต้ รุ่นที่ 4 เปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2537 ยังคงมีตัวถังแฮทช์แบค 3 และ 5 ประตูเหมือนเดิม ส่วนเครื่องยนต์มีเครื่องยนต์ขนาด 0.7 ลิตร (657 และ 658 ซีซี)
รุ่นที่ 5 (พ.ศ. 2541-2547)
ซูซูกิ อัลโต้ รุ่นที่ 5 เปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2541 เป็นรุ่นแรกที่มีการประกอบในปากีสถาน มีรุ่นแฮทช์แบค 3 และ 5 ประตู และรถตู้ 3 ประตู มีเครื่องยนต์ 0.7 (657 และ 658 ซีซี) และ 1.0 ลิตร ใช้เกียร์ธรรมดา 4 และ 5 สปีด เกียร์อัตโนมัติ 3 และ 4 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ระยะฐานล้อ 2,360 มม. ความยาว 3,395 มม. ความกว้าง 1,475 มม. ความสูง 1,440-1,455 มม. และน้ำหนักของตัวรถ 630-800 กก.
รุ่นที่ 6 (พ.ศ. 2547-2552)
ซูซูกิ อัลโต้ รุ่นที่ 6 เปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2547 รุ่นนี้มีตัวถังแบบเดียวคือแบบแฮทช์แบค 5 ประตู เป็นรุ่นแรกที่ซูซูกิประกอบไปให้มาสด้า ในชื่อ มาสด้า คารอล (อังกฤษ: Mazda Carol) และรุ่นนี้นิสสันก็ได้นำไปขายในชื่อ นิสสัน พิโนอีกด้วย
รุ่นที่ 7 (พ.ศ. 2552-2557)
ซูซูกิ อัลโต้ รุ่นที่ 7 เปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2552 เป็นรุ่นที่ผลิตอยู่ในปัจจุบัน มีเครื่องยนต์ 0.8 ลิตร (796 ซีซี) มีฐานการประกอบอยู่ที่ประเทศอินเดียและญี่ปุ่น มีตัวถังแฮทช์แบค 5 ประตู ระยะฐานล้อ 2,400 มม. ความยาว 3,395 มม. ความกว้าง 1,475 มม. และความสูง 1,535 มม. มีเกียร์ธรรมดา 5 สปีด เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ในอินเดียจะขายในชื่อ Maruti Suzuki Alto 800 เพื่อมาแทน Maruti Suzuki 800 ที่นำซูซูกิ อัลโตรุ่น ปี 2526 มาลากขายถึง 29 ปี และเป็น Alto สำหรับตลาดโลกอีกด้วย ซึ่งหน้าตาจะแตกต่างกับ Alto เวอร์ชันญี่ปุ่น จัดอยู่ในพิกัดรถ City Car เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร ระบบเกียร์เหมือนกับเวอร์ชันญี่ปุ่น แต่ไม่มีรุ่นเกียร์อัตโนมัติ CVT
รุ่นที่ 8 (พ.ศ. 2557-ปัจจุบัน)
หลังเปิดตัวเจนที่ 8 ไปได้สักพัก ทำให้ Suzuki Alto ยังคงจำหน่ายต่อไปและยังยืนหยัด ในฐานะรถเล็ก Kei Car ขวัญใจชาวยุ่น จนมียอดขายสูงจนถึงทุกวันนี้ ล่าสุดเว็บรถญี่ปุ่นที่ชื่อ Kakaku เผยข้อมูลมาว่าเตรียมที่จะปรับโฉมครั้งแรกในรอบ 3 ปี ให้กับ Suzuki Alto ป้องกันแชมป์ไม่ให้คู่แข่งแย่งยอดขายไป โดยการปรับครั้งนี้จะมีในส่วนภายนอก เริ่มต้นที่ ไฟหน้า กระจังหน้า กันชหน้าไปจนถึงด้านท้าย สำหรับภายในยังคงดีไซน์แผงคอนโซลหน้า เช่นเดิม แต่มีการปรับรายละเอียดทั้งสไตล์ตกแต่งและวัสดุหุ้มเบาะใหม่ เพื่อความทันสมัยมากขึ้น
อ้างอิง
- เปิดประตูสู่โลกของ SUZUKI กว่า 100 ปี ที่ Hamamatsu : Part 2 "The History of Suzuki Motor เปิดปูม ประวัติซูซูกิ" 2013-02-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Maruti Suzuki Alto 800 ราคาเพียง 115,000 บาท[ลิงก์เสีย]