fbpx
วิกิพีเดีย

รัฐเมืองยอง

มหิยังคะ (บาลี: มหิยงฺค) หรือ รัฐเมืองยอง (ไทใหญ่: မိူင်းယွင်း; พม่า: မိုင်းယောင်း) เป็นรัฐเจ้าฟ้าแห่งหนึ่งในกลุ่มสหพันธรัฐชาน ปัจจุบันอยู่ในเขตประเทศพม่า มีราชธานีคือเมืองยอง ตั้งอยู่บริเวณแคบ ๆ ทางตะวันออกสุดของรัฐเชียงตุงริมฝั่งแม่น้ำโขง ใกล้พรมแดนจีนและลาว เคยมีสถานะเป็นประเทศราชหรือลูกบ้านหางเมืองของอาณาจักรล้านนา ด้วยเป็นรัฐชายขอบ มีสภาพเป็นรัฐเกษตรกรรมขนาดน้อยในหุบเขา มีเทือกเขาล้อมรอบ ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวว้า แต่ในราชธานีประชากรส่วนใหญ่เป็นไทลื้อ

เมืองยอง
မိူင်းယွင်
รัฐเจ้าฟ้าของสหพันธรัฐชาน
พุทธศตวรรษที่ 19 – พ.ศ. 2358

ประวัตศาสตร์ 
• ก่อตั้ง
พุทธศตวรรษที่ 19
• ถูกผนวกเข้ากับรัฐเชียงตุง
พ.ศ. 2358

เมืองยองเป็นนครรัฐขนาดเล็กที่มีข้อจำกัดมาก เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าเขา ที่ราบค่อนข้างน้อย และเป็นรัฐเกษตรกรรมเพื่อยังชีพ รวมทั้งตั้งอยู่บนเส้นทางเดินทัพของรัฐอื่น ๆ ทำให้เมืองยองต้องเผชิญกับภัยสงครามบ่อยครั้ง

ประวัติ

รัฐเมืองยองเดิมเป็นที่ตั้งชุมชนของชาวว้าหรือลัวะ ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองของแถบนี้ ต่อมามีการขยายตัวของชุมชนชาวไทลื้อเมืองเชียงรุ่ง ส่งสุนันทะราชบุตรมาสร้างเมืองยองด้วยการปราบปรามชาวลัวะแล้วปราบดาภิเษกขึ้นเป็นเจ้าเมืองแทน และปกครองตนเองอย่างอิสระไม่ขึ้นกับใคร สรัสวดี อ๋องสกุล นักประวัติศาสตร์ สันนิษฐานว่าเมืองยองคงสถาปนาเมื่อพุทธศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา เจ้าสุนันทะและเชื้อสายครองเมืองยองได้ห้ารัชกาลก็สูญวงศ์ หาผู้สืบราชบัลลังก์มิได้ เพราะเชื้อสายเจ้าผู้ครองมีศรัทธาพระศาสนาออกผนวชเสียหมด ด้วยเหตุนี้จึงต้องตั้งขุนนางช่วยกันดูแลบ้านเมืองกันเอง เมืองยองว่างกษัตริย์นาน 65 ถึง 67 ปี

พญาสามฝั่งแกน กษัตริย์ล้านนาทรงกระทำสงครามปราบปรามเมืองยองสำเร็จ เพราะต้องการให้เมืองยองเป็นเมืองหน้าด่าน คอยป้องกันการโจมตีจากรัฐเชียงตุง เชียงรุ่ง และเมืองแลม เมืองยองยอมอ่อนน้อมต่อล้านนาในฐานะลูกเมือง ให้ทำนุบำรุงพระธาตุหลวงจอมยอง รวมทั้งมีการส่งช่างฟ้อนลงมาบูชากษัตริย์ล้านนา ต่อมาในรัชกาลพระเจ้าติโลกราชทรงยึดเมืองยองอีกครั้ง ทรงตั้งขุนนางปกครองกันเอง ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และกัลปนาผู้คนจากบ้านกอมเป็นข้าพระธาตุจอมยอง แล้วให้ช่างฟ้อนลงมาฟ้อนคารวะกษัตริย์ล้านนาปีละครั้ง

หลังพุทธศตวรรษที่ 22 เป็นต้นมา หลังอาณาจักรล้านนาล่มสลาย รัฐเมืองยองก็ตกเป็นเมืองขึ้นของพม่า แต่หากพม่าอ่อนแอ เมืองยองจะถูกรัฐอื่น ๆ แทรกแซง เช่น เชียงรุ่ง เชียงแขง และเชียงใหม่ ในช่วงสั้น ๆ

ต่อมาเมื่อพระยากาวิละฟื้นฟูบ้านเมือง ได้ทำการกวาดต้อนผู้คนจากเมืองยองไปไว้เมืองลำพูนที่ตั้งขึ้นใหม่ใน พ.ศ. 2348 ทำให้เมืองยองแทบเป็นเมืองร้าง สร้างความไม่พอใจแก่เจ้ามหาขนานเมืองเชียงตุง และเจ้าพุทธวงศาเจ้าเมืองยอง ทั้งสองจึงเอาใจออกหากไปเข้าฝ่ายพม่า เพราะมองว่าพม่าไม่มีนโยบายกวาดต้อนผู้คน และคิดว่าอย่างไรเสียพม่าก็ต้องขึ้นมาปราบเมืองยองอยู่แล้ว เจ้าพุทธวงศารวบรวมผู้คนได้ 150 ครัวเรือนเศษมาตั้งเมืองยองขึ้นใหม่ แล้วขอร่วมสวามิภักดิ์เข้ากับพม่ามาตั้งแต่นั้น ที่สุดเมืองยองถูกผนวกเข้ากับรัฐเชียงตุงใน พ.ศ. 2358

ประชากรศาสตร์

ชาติพันธุ์

จากการครองราชย์ของเจ้าสุนันทะ ทรงนำชาวไทลื้อจากเชียงรุ่งกลุ่มเล็ก ๆ เข้ามาด้วย เมืองยองจึงรับวัฒนธรรมไทลื้อไปด้วย ชาวลัวะเองก็รับวัฒนธรรมไทลื้อไปด้วยเช่นการแต่งกาย ส่วนชาวลื้อเมืองยองเองก็ต้องผสมกลมกลืนไปกับชาวลัวะซึ่งเป็นชนพื้นเมืองด้วย

ศาสนา

รัฐเมืองยองรับศาสนาพุทธจากเมืองเชียงรุ่ง ดังปรากฏความใน ตำนานเมืองยอง ความว่า "...สัพพัญญูพระพุทธเจ้าโคตมะแห่งเราเกิดมาโปรดโลกและจรเดินบิณฑบาตข้าวลุกแต่เมืองวิเทหราชลงมารอดเมืองมหิยังคะ..." และ ตำนานพระธาตุหลวงจอมยอง ก็ระบุว่าเมืองยองเพิ่งรับศาสนาพุทธหลังเจ้าสุนันทะสร้างเมืองยอง หลังจากนั้นเป็นต้นมาเจ้าผู้ครองเองก็มีศรัทธาในศาสนาพุทธ ออกผนวชกันหมดจนสิ้นวงศ์ ต่อมามีคณะสงฆ์จากอาณาจักรล้านนาเดินทางเข้าไปเผยแผ่ศาสนา ดังจะพบว่ามีการสถาปนาวัดนิกายสวนดอก (นิกายรามัญ) และนิกายป่าแดง (หรือนิกายสีหล) สู่เมืองยองตั้งแต่รัชสมัยพระเจ้าติโลกราชเป็นต้นมา ซึ่งเกิดขึ้นก่อนการเผยแผ่ศาสนาในรัชสมัยพระเจ้าบุเรงนองเสียอีก

งานพุทธศิลป์แบบล้านนาในคริสต์ศตวรรษที่ 15 ยังคงหลงเหลืออยู่ในเมืองยอง เช่น พระธาตุหลวงจอมยอง และพระเจ้าทิพย์ (องค์ยืน) พระพุทธรูปในวัดพระแก้วเมืองยอง

อ้างอิง

เชิงอรรถ
  1. "รู้จักประวัติศาสตร์ "ไทยอง" ที่กว่า 80% ของคนลำพูนล้วนสืบเชื้อสายมา". มติชนสุดสัปดาห์. 30 มีนาคม 2562. สืบค้นเมื่อ 7 กันยายน 2563. Check date values in: |accessdate=, |date= (help)
  2. "ตำนานเมืองยอง". สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. สืบค้นเมื่อ 7 กันยายน 2563. Check date values in: |accessdate= (help)
  3. "Gazetteer of Upper Burma and the Shan states"
  4. ประวัติศาสตร์ล้านนา, หน้า 192
  5. ประวัติศาสตร์ล้านนา, หน้า 231
  6. James B. Minahan, Encyclopedia of the Stateless Nations: p. 2024
  7. ประวัติศาสตร์ล้านนา, หน้า 234-235
  8. ประวัติศาสตร์ล้านนา, หน้า 237
  9. รัฐฉาน (เมืองไต) : พลวัติของชาติพันธุ์ในบริบทประวัติศาสตร์และการเมืองร่วมสมัย, หน้า 82
  10. ประวัติศาสตร์ล้านนา, หน้า 159
  11. รัฐฉาน (เมืองไต) : พลวัติของชาติพันธุ์ในบริบทประวัติศาสตร์และการเมืองร่วมสมัย, หน้า 80
  12. รัฐฉาน (เมืองไต) : พลวัติของชาติพันธุ์ในบริบทประวัติศาสตร์และการเมืองร่วมสมัย, หน้า 99
  13. Shan and Karenni States - World Statesmen
  14. Sanda Simms, The Kingdoms of Laos. p. 207
  15. "ทำไมคนยองเมืองลำพูน จึงไม่เรียกตัวเองว่า "ไทลื้อ"". มติชนสุดสัปดาห์. 19 ธันวาคม 2562. สืบค้นเมื่อ 7 กันยายน 2563. Check date values in: |accessdate=, |date= (help)
  16. พระสกาวุฒิ ยสวฑฺฒโน (ปริวรรต) (31 พฤษภาคม 2562). "ประวัติพระธาตุหลวงจอมยอง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองยอง". เชียงใหม่นิวส์. สืบค้นเมื่อ 7 กันยายน 2563. Check date values in: |accessdate=, |date= (help)
  17. ประวัติศาสตร์ล้านนา, หน้า 162
  18. รัฐฉาน (เมืองไต) : พลวัติของชาติพันธุ์ในบริบทประวัติศาสตร์และการเมืองร่วมสมัย, หน้า 95
บรรณานุกรม
  • สรัสวดี อ๋องสกุล. ประวัติศาสตร์ล้านนา. พิมพ์ครั้งที่ 7, กรุงเทพฯ : อมรินทร์, 2553. 660 หน้า. ISBN 978-974-8132-15-0
  • เสมอชัย พูลสุวรรณ. รัฐฉาน (เมืองไต) : พลวัติของชาติพันธุ์ในบริบทประวัติศาสตร์และการเมืองร่วมสมัย. กรุงเทพฯ : ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน), 2552. 222 หน้า. ISBN 9789746605694

ฐเม, องยอง, มห, งคะ, บาล, มห, ยง, หร, ไทใหญ, พม, เป, นร, ฐเจ, าฟ, าแห, งหน, งในกล, มสหพ, นธร, ฐชาน, จจ, นอย, ในเขตประเทศพม, ราชธาน, อเม, องยอง, งอย, บร, เวณแคบ, ทางตะว, นออกส, ดของร, ฐเช, ยงต, งร, มฝ, งแม, ำโขง, ใกล, พรมแดนจ, นและลาว, เคยม, สถานะเป, นประเทศราช. mhiyngkha 1 bali mhiyng kh hrux rthemuxngyxng ithihy မ င ယ င phma မ င ယ င epnrthecafaaehnghnunginklumshphnthrthchan pccubnxyuinekhtpraethsphma 2 mirachthanikhuxemuxngyxng tngxyubriewnaekhb thangtawnxxksudkhxngrthechiyngtungrimfngaemnaokhng iklphrmaedncinaelalaw 3 ekhymisthanaepnpraethsrachhruxlukbanhangemuxngkhxngxanackrlanna 4 dwyepnrthchaykhxb misphaphepnrthekstrkrrmkhnadnxyinhubekha miethuxkekhalxmrxb 5 prachakrswnihyepnchawwa 6 aetinrachthaniprachakrswnihyepnithlux 4 emuxngyxngမ င ယ င rthecafakhxngshphnthrthchanphuththstwrrsthi 19 ph s 2358prawtsastr kxtngphuththstwrrsthi 19 thukphnwkekhakbrthechiyngtungph s 2358thdiprthechiyngtungemuxngyxngepnnkhrrthkhnadelkthimikhxcakdmak ephraaphunthiswnihyepnpaekha thirabkhxnkhangnxy aelaepnrthekstrkrrmephuxyngchiph rwmthngtngxyubnesnthangedinthphkhxngrthxun thaihemuxngyxngtxngephchiykbphysngkhrambxykhrng 7 8 enuxha 1 prawti 2 prachakrsastr 2 1 chatiphnthu 2 2 sasna 3 xangxingprawti aekikhrthemuxngyxngedimepnthitngchumchnkhxngchawwahruxlwa sungepnchnphunemuxngkhxngaethbni txmamikarkhyaytwkhxngchumchnchawithluxemuxngechiyngrung sngsunntharachbutrmasrangemuxngyxngdwykarprabpramchawlwaaelwprabdaphieskkhunepnecaemuxngaethn aelapkkhrxngtnexngxyangxisraimkhunkbikhr 5 9 srswdi xxngskul nkprawtisastr snnisthanwaemuxngyxngkhngsthapnaemuxphuththstwrrsthi 19 epntnma 7 ecasunnthaaelaechuxsaykhrxngemuxngyxngidharchkalksuywngs haphusubrachbllngkmiid ephraaechuxsayecaphukhrxngmisrththaphrasasnaxxkphnwchesiyhmd dwyehtunicungtxngtngkhunnangchwyknduaelbanemuxngknexng emuxngyxngwangkstriynan 65 thung 67 pi 7 phyasamfngaekn kstriylannathrngkrathasngkhramprabpramemuxngyxngsaerc ephraatxngkarihemuxngyxngepnemuxnghnadan khxypxngknkarocmticakrthechiyngtung echiyngrung aelaemuxngaelm emuxngyxngyxmxxnnxmtxlannainthanalukemuxng ihthanubarungphrathatuhlwngcxmyxng rwmthngmikarsngchangfxnlngmabuchakstriylanna 10 txmainrchkalphraecatiolkrachthrngyudemuxngyxngxikkhrng thrngtngkhunnangpkkhrxngknexng thrngthanubarungphraphuththsasna aelaklpnaphukhncakbankxmepnkhaphrathatucxmyxng aelwihchangfxnlngmafxnkharwakstriylannapilakhrng 7 hlngphuththstwrrsthi 22 epntnma hlngxanackrlannalmslay rthemuxngyxngktkepnemuxngkhunkhxngphma aethakphmaxxnaex emuxngyxngcathukrthxun aethrkaesng echn echiyngrung echiyngaekhng aelaechiyngihm inchwngsn 8 9 txmaemuxphrayakawilafunfubanemuxng idthakarkwadtxnphukhncakemuxngyxngipiwemuxnglaphunthitngkhunihmin ph s 2348 11 thaihemuxngyxngaethbepnemuxngrang 12 srangkhwamimphxicaekecamhakhnanemuxngechiyngtung aelaecaphuththwngsaecaemuxngyxng thngsxngcungexaicxxkhakipekhafayphma ephraamxngwaphmaimminoybaykwadtxnphukhn aelakhidwaxyangiresiyphmaktxngkhunmaprabemuxngyxngxyuaelw ecaphuththwngsarwbrwmphukhnid 150 khrweruxnessmatngemuxngyxngkhunihm aelwkhxrwmswamiphkdiekhakbphmamatngaetnn 8 9 thisudemuxngyxngthukphnwkekhakbrthechiyngtungin ph s 2358 13 14 prachakrsastr aekikhchatiphnthu aekikh cakkarkhrxngrachykhxngecasunntha thrngnachawithluxcakechiyngrungklumelk ekhamadwy emuxngyxngcungrbwthnthrrmithluxipdwy chawlwaexngkrbwthnthrrmithluxipdwyechnkaraetngkay 7 swnchawluxemuxngyxngexngktxngphsmklmklunipkbchawlwasungepnchnphunemuxngdwy 15 sasna aekikh rthemuxngyxngrbsasnaphuththcakemuxngechiyngrung dngpraktkhwamin tananemuxngyxng khwamwa sphphyyuphraphuththecaokhtmaaehngeraekidmaoprdolkaelacredinbinthbatkhawlukaetemuxngwiethhrachlngmarxdemuxngmhiyngkha 7 aela tananphrathatuhlwngcxmyxng krabuwaemuxngyxngephingrbsasnaphuththhlngecasunnthasrangemuxngyxng 16 hlngcaknnepntnmaecaphukhrxngexngkmisrththainsasnaphuthth xxkphnwchknhmdcnsinwngs 7 txmamikhnasngkhcakxanackrlannaedinthangekhaipephyaephsasna dngcaphbwamikarsthapnawdnikayswndxk nikayramy aelanikaypaaedng hruxnikaysihl suemuxngyxngtngaetrchsmyphraecatiolkrachepntnma sungekidkhunkxnkarephyaephsasnainrchsmyphraecabuerngnxngesiyxik 17 nganphuththsilpaebblannainkhriststwrrsthi 15 yngkhnghlngehluxxyuinemuxngyxng echn phrathatuhlwngcxmyxng aelaphraecathiphy xngkhyun phraphuththrupinwdphraaekwemuxngyxng 18 xangxing aekikhechingxrrth ruckprawtisastr ithyxng thikwa 80 khxngkhnlaphunlwnsubechuxsayma mtichnsudspdah 30 minakhm 2562 subkhnemux 7 knyayn 2563 Check date values in accessdate date help tananemuxngyxng sankhxsmud mhawithyalyechiyngihm subkhnemux 7 knyayn 2563 Check date values in accessdate help Gazetteer of Upper Burma and the Shan states 4 0 4 1 prawtisastrlanna hna 192 5 0 5 1 prawtisastrlanna hna 231 James B Minahan Encyclopedia of the Stateless Nations p 2024 7 0 7 1 7 2 7 3 7 4 7 5 7 6 prawtisastrlanna hna 234 235 8 0 8 1 8 2 prawtisastrlanna hna 237 9 0 9 1 9 2 rthchan emuxngit phlwtikhxngchatiphnthuinbribthprawtisastraelakaremuxngrwmsmy hna 82 prawtisastrlanna hna 159 rthchan emuxngit phlwtikhxngchatiphnthuinbribthprawtisastraelakaremuxngrwmsmy hna 80 rthchan emuxngit phlwtikhxngchatiphnthuinbribthprawtisastraelakaremuxngrwmsmy hna 99 Shan and Karenni States World Statesmen Sanda Simms The Kingdoms of Laos p 207 thaimkhnyxngemuxnglaphun cungimeriyktwexngwa ithlux mtichnsudspdah 19 thnwakhm 2562 subkhnemux 7 knyayn 2563 Check date values in accessdate date help phraskawuthi yswth thon priwrrt 31 phvsphakhm 2562 prawtiphrathatuhlwngcxmyxng singskdisiththikhuemuxngyxng echiyngihmniws subkhnemux 7 knyayn 2563 Check date values in accessdate date help prawtisastrlanna hna 162 rthchan emuxngit phlwtikhxngchatiphnthuinbribthprawtisastraelakaremuxngrwmsmy hna 95 brrnanukrmsrswdi xxngskul prawtisastrlanna phimphkhrngthi 7 krungethph xmrinthr 2553 660 hna ISBN 978 974 8132 15 0 esmxchy phulsuwrrn rthchan emuxngit phlwtikhxngchatiphnthuinbribthprawtisastraelakaremuxngrwmsmy krungethph sunymanusywithyasirinthr xngkhkarmhachn 2552 222 hna ISBN 9789746605694ekhathungcak https th wikipedia org w index php title rthemuxngyxng amp oldid 9542901, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม