สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ที่ 2
สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ที่ 2 (Second Philippine Republic) หรือสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (ภาษาญี่ปุ่น: フィリピン共和国, ภาษาฟิลิปิโน: Republika ng Pilipinas) หรือสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ที่ญี่ปุ่นสนับสนุน (Japanese-sponsored Philippine Republic) เป็นรัฐหุ่นเชิด จัดตั้งเมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2486 ในช่วงที่ญี่ปุ่นเข้ายึดครอง ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล เกซอน ได้ประกาศที่มะนิลา เมืองหลวงให้เป็นเมืองเปิด ปกครองโดยจอร์จ บี วาร์กัส ญี่ปุ่นเข้าเมืองได้เมื่อ 2 มกราคม พ.ศ. 2485 และตั้งมะนิลาเป็นเมืองหลวง ญี่ปุ่นเข้าสู่ฟิลิปปินส์อย่างเต็มที่เมื่อ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2485 หลังจากยุทธการคอร์เรกิดอร์ นายพลมาซาฮารุ ฮอมมา ได้ประกาศสลายเครือจักรภพฟิลิปปินส์และจัดตั้งคณะกรรมการสูงสุดฟิลิปปินส์ (Komisyong Tagapagpaganap ng Pilipinas) และให้จอร์จ วาร์กัสเป็นประธานคนแรกในเดือนมกราคม พ.ศ. 2485 กาลิบาปีซึ่งเป็นตัวย่อในภาษาตากาล็อกขององค์กรบริหารแห่งฟิลิปปินส์ใหม่ (Kapisanan sa Paglilingkod sa Bagong Pilipinas) ก่อตั้งขึ้นโดยประกาศหมายเลข 109 ของคณะกรรมการสูงสุดฟิลิปปินส์ และประกาศเป็นกฎหมายเมื่อ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2485 คว่ำบาตรพรรคการเมืองทั้งหมดที่มีอยู่ และจัดตั้งพันธมิตรของรัฐบาลใหม่ พรรคกานับซึ่งเป็นพรรคนิยมญี่ปุ่นได้รวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกาลิบาปี
สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
พ.ศ. 2486–พ.ศ. 2488 | |||||||||
คำขวัญ:
| |||||||||
เพลงชาติ: Diwa ng Bayan (Spirit of the Nation) Awit sa Paglikha ng Bagong Pilipinas (Hymn of the Birth of the New Philippines) | |||||||||
Location of the Philippines in Southeast Asia. | |||||||||
สถานะ | รัฐหุ่นเชิด | ||||||||
เมืองหลวง | มะนิลา (พ.ศ. 2485 - 2488) บากิโอ (พ.ศ. 2485) | ||||||||
ภาษาทั่วไป | ภาษาฟิลิปิโน, ภาษาสเปน, ภาษาญี่ปุ่น | ||||||||
การปกครอง | รัฐเดี่ยว รัฐพรรคการเมืองเดียว สาธารณรัฐลัทธิอำนาจนิยม | ||||||||
ประธานาธิบดี | |||||||||
โฆษก | |||||||||
สภานิติบัญญัติ | สมัชชาแห่งชาติ | ||||||||
ยุคประวัติศาสตร์ | สงครามโลกครั้งที่ 2 | ||||||||
• เริ่มการยึดครอง | 14 ตุลาคม พ.ศ. 2486 | ||||||||
• ญี่ปุ่นยอมแพ้ | 17 สิงหาคม พ.ศ. 2488 | ||||||||
พื้นที่ | |||||||||
พ.ศ. 2489 | 300,000 ตารางกิโลเมตร (120,000 ตารางไมล์) | ||||||||
ประชากร | |||||||||
• พ.ศ. 2489 | 18846800 | ||||||||
สกุลเงิน | เปโซฟิลิปปินส์สมัยญี่ปุ่นยึดครอง | ||||||||
|
เอกราช
ก่อนการจัดตั้งคณะกรรมการเตรียมการณ์ ญี่ปุ่นให้ทางเลือกที่จะให้ฟิลิปปินส์อยู่ภายใต้การปกครองของอาร์เตมีโอ รีการ์เต ผู้ที่ญี่ปุ่นพากลับมาจากโยโกฮามาเพื่อช่วยในการโฆษณาชวนเชื่อ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการสูงสุดของฟิลิปปินส์ปฏิเสธทางเลือกนี้ และเลือกที่จะเป็นสาธารณรัฐ เมื่อนายกรัฐมนตรีฮิเดกิ โตโก มาเยือนฟิลิปปินส์เมื่อ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2486 เขาได้ให้สัญญาว่าจะให้เอกราชแก่ฟิลิปปินส์ในฐานะส่วนหนึ่งของวงไพบูลย์แห่งมหาเอเชียบูรพา
กาลิบาปีได้จัดตั้งคณะกรรมการเตรียมการณ์เพื่อเอกราชฟิลิปปินส์เมื่อ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2486 ร่างรัฐธรรมนูญที่เตรียมโดยคณะกรรมการที่มีสมาชิก 20 คน นำโดย โฮเซ พี ลอเรล ได้นำเสนอเมื่อ 4 กันยายน พ.ศ. 2486 และอีกสามวันต่อมา กาลิบาปีได้อนุมัติร่างนี้
ในวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2486 ได้เลือกตัวแทนกาลิบาปีระดับจังหวัดและเมืองเป็นสมาชิกสภาแห่งชาติฟิลิปปินส์จำนวน 45 คน โดยผู้บริหารจังหวัดและเมืองเป็นสมาชิกร่วม สามวันหลังจากจัดตั้งสภาแห่งชาติ สภาได้เปิดประชุมและเลือกเบนิกโน เอส อากีโนเป็นโฆษกรัฐบาล และลอเรลเป็นประธานาธบดี ซึ่งเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2486 ซึ่งถือเป็นการสถาปนาสาธารณรัฐ อดีตประธานาธิบดี เอเมลิโอ อากีนัลโด และนายพลอาร์เตมีโอ รีการ์เตได้ชักธงฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นธงเดียวกับที่ใช้ในสงครามฟิลิปปินส์-สหรัฐ ในวันเดียวกันนั้น ได้มีการลงนามระหว่างสาธารณรัฐใหม่กับญี่ปุ่น และสภาแห่งชาติได้ให้สัตยาบันในอีกสองวันต่อมา
วงไพบูลย์แห่งมหาเอเชียบูรพา
การประชุมวงไพบูลย์แห่งมหาเอเชียบูรพา (Greater East Asia Conference; 大東亜会議 Dai Tōa Kaigi?) เป็นการประชุมระดับนานาชาติ จัดขึ้นที่โตเกียวเมื่อ 5-6 กันยายน พ.ศ. 2486 ระหว่างรัฐที่เข้าร่วมในวงไพบูลย์แห่งมหาเอเชียบูรพา เนื้อหาหลักเป็นการแสดงแนวคิดของจักรวรรดิญี่ปุ่นในการสร้างวงไพบูลย์แห่งเอเชียและปลดปล่อยเอเชียจากระบอบอาณานิคมของตะวันตก การประชุมนี้เป็นจุดเปลี่ยนของนโยบายต่างประเทศและความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับชาติในเอเชีย ความพ่ายแพ้ของญี่ปุ่นที่กัวดาคะแนล เพิ่มความกังวลในการกำจัดบทบาททางทหารของญี่ปุ่น ทำให้ญี่ปุ่นหันมาสร้างความร่วมมือมากกว่าการปกครองแบบอาณานิคม แต่ความพยายามนี้ล่าช้าเกินไปในการรักษาจักรวรรดิ ซึ่งได้ล่มสลายภายในเวลาไม่ถึง 2 ปีหลังการประชุม
ปัญหาของสาธารณรัฐ
ในระหว่างที่เป็นประธานาธิบดี ลอเรลต้องเผชิญกับปัญหามากมาย เช่น การขาดแคลนอาหาร เสื้อผ้า น้ำมัน และของจำเป็นอื่นๆ กองทัพญี่ปุ่นประจำการอยู่ทั่วประเทศ ญี่ปุ่นเข้าควบคุมการคมนาคมขนส่ง สื่อ และการสื่อสาร ลอเรพยายามแสดงถึงเอกราชของรัฐในการจัดการกับปัญหาเหล่านั้น
การขาดแคลนอาหาร
ในการจัดการกับปัญหาการขาดแคลนอาหาร เขาจัดให้มีตัวแทนสำหรับแจกจ่ายข้าว แม้ว่าข้าวส่วนใหญ่ถูกทหารญี่ปุ่นริบ มะนิลาเป็นหนึ่งในหลายสถานที่ที่ขาดแคลนอาหาร โดยเฉพาะระหว่างพายุไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2486 ประชาชนถูกบังคับให้ใช้ที่ดินปลูกผัก เช่น ผักบุ้ง ญี่ปุ่นซึ่งต้องการเพิ่มผลผลิตข้าวในประเทศ ได้นำข้าวโฮไรซึ่งเป็นข้าวพันธุ์เบาที่เคยปลูกในไต้หวัน ข้าวโฮไรนี่คาดว่าจะทำให้ฟิลิปปินส์มีข้าวเพียงพอใน พ.ศ. 2486 แต่ฝนตกหนักใน พ.ศ. 2485 ทำให้ไม่เกิดขึ้น
เงินญี่ปุ่น
เริ่มใช้ใน พ.ศ. 2485 ในขนาด 1, 5, 10 และ 50 เกนตาโวส และ 1, 5, และ 10 เปโซ ในปีต่อมาได้ออกพันธบัตร 1, 5 และ 10 เปโซ ใน พ.ศ. 2487 ได้ออกขนาด 100 เปโซอีก และอีกไม่นานได้ออกขนาด 500 เปโซ ใน พ.ศ. 2488 ญี่ปุ่นได้ออกขนาด 1,000 เปโซ เงินเหล่านี้แม้จะพิมพ์ก่อนสงคราม แต่ก็เป็นที่รู้จักในฟิลิปปินส์ว่าเงินมิกกี้เมาส์เพราะมีคุณค่าต่ำ หนังสือพิมพ์ต่อต้านญี่ปุ่นได้ออกเรื่องล้อเลียนเกี่ยวกับการไปตลาดพร้อมขุดสูทแต่ใช้เงินญี่ปุ่น ใน พ.ศ. 2487 กล่องไม้ขีดมีต้นทุนมากกว่าเงิน 100 เปโซมิกกี้เมาส์ ใน พ.ศ. 2488 มันเทศ 1 กิโลกรัมมีราคาประมาณ 1000 เปโซมิกกี้เมาส์ เกิดเงินเฟ้อภายในประเทศถึง 60% ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2487
การศึกษา
ญี่ปุ่นยอมให้ใช้ภาษาตากาล็อกเป็นภาษาประจำชาติ มีการจัดทำคู่มือเรียนเร็ว มีการเปิดโรงเรียนขึ้นอีกครั้งหนึ่ง มีนักเรียนถึง 300,000 คน มีการเผยแพร่วัฒนธรรมญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์
สิ้นสุดสาธารณรัฐ
ลอเรลประกาศกฏอัยการศึกเมื่อ 22 กันยายน พ.ศ. 2487 ในวันที่ 23 กันยายน สาธารณรัฐประกาศสงครามกับสหรัฐและอังกฤษอย่างเป็นทางการ เมื่อสหรัฐยกทัพมาถึง รัฐบาลได้ย้ายฐานที่มั่นจากมะนิลาไปยังบากิโอ สาธารณรัฐได้ประกาศสลายตัวอย่างเป็นทางการเมื่อ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2488
อ้างอิง
- William J. Pomeroy, The Philippines: Colonialism, Collaboration, and Resistance, International Publishers Co, 1992, pp. 113-114
- ↑ Kasaysayan: History of the Filipino People, Volume 7. Reader's Digest. 1990.
- Aluit, Alphonso (1994). By Sword and Fire: The Destruction of Manila in World War II, 3 February-3 March 1945. Bookmark, Inc.
- ↑ "Jose P". Angelfire. สืบค้นเมื่อ 2007-10-21.
- "The Philippine Presidency Project". Manuel L. Quezon III, et al. สืบค้นเมื่อ 2007-10-21.
- Gordon, Andrew (2003). The Modern History of Japan: From Tokugawa Times to the Present. Oxford University Press. p. 211. ISBN 0-19-511060-9. สืบค้นเมื่อ 2008-04-13.
- Joaquin, Nick (1990). Manila,My Manila. Vera-Reyes, Inc.
- Howe, Christopher (1999-12-15). The Origins of Japanese Trade Supremacy: Development and Technology in Asia. ISBN 9780226354866. สืบค้นเมื่อ 17 January 2013.
- Halili, M. C. (2004). Philippine History' 2004 Ed. ISBN 9789712339349. สืบค้นเมื่อ 17 January 2013.
- Agoncillo, Teodoro A. & Guerrero, Milagros C., History of the Filipino People, 1986, R.P. Garcia Publishing Company, Quezon City, Philippines
- Ocampo, Ambeth (2010). Looking Back 3: Death by Garrote. Anvil Publishing, Inc. pp. 22–25.
- Hartendorp, A. (1958) History of Industry and Trade of the Philippines, Manila: American Chamber of Commerce on the Philippines, Inc.
- "Constitution of the Second Philippine Republic". คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2010-10-18. สืบค้นเมื่อ 17 January 2013.
- Agoncillo, Teodoro (1974). Introduction to Filipino History. Garotech Publishing. pp. 217–218.
- . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2013-01-27. สืบค้นเมื่อ 17 January 2013.
- JOSE P. LAUREL. "PROCLAMATION NO. 30". สืบค้นเมื่อ 25 January 2011.
- ↑ Ooi, Keat Gin (2004). Southeast Asia: a historical encyclopedia, from Angkor Wat to East Timor, Volume 1. Santa Barbara, California: ABC-CLIO. p. 776. ISBN 978-1-57607-770-2. สืบค้นเมื่อ 27 January 2011.