สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจุบัน (พ.ศ. 2560) ซึ่งร่างขึ้นโดย องค์กรซึ่งได้รับแต่งตั้งจากคณะผู้ยึดอำนาจการปกครองขณะนั้น ระบุไว้ในมาตรา 4 ว่า "ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคลย่อมได้รับความคุ้มครอง" มาตรา 25 ถึง 49 ได้บรรยายขอบเขตของสิทธิเฉพาะในบางด้าน เช่น ความยุติธรรมทางอาญา การศึกษา การไม่เลือกปฏิบัติ ศาสนา และเสรีภาพในการแสดงออก การก้าวก่ายชีวิตส่วนตัว ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว โดยจำนวนมาตรา ในเรื่องสิทธิลดลง 14 มาตรา เมื่อเทียบกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันกำหนดสิทธิต่าง ๆ โดยให้อยู่ในหมวด 3 และไม่มีส่วนของสิทธิ ซึ่งแตกต่างกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ที่กำหนดให้มีส่วนของสิทธิแบ่งเป็น 9 ส่วน บททั่วไป ความเสมอภาค สิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล สิทธิในกระบวนการยุติธรรม สิทธิในทรัพย์สิน สิทธิและเสรีภาพในการประกอบอาชีพ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของบุคคลและสื่อมวลชน สิทธิเสรีภาพในการศึกษา สิทธิในการได้รับบริการสาธารณสุขและสวัสดิการจากรัฐ
การรับรองในกฎหมาย
มีการริเริ่มสิทธิใหม่ ๆ ในรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ซึ่งรวมถึงสิทธิในการเข้าถึงการศึกษาแบบให้เปล่า สิทธิในชุมชนท้องถิ่น และสิทธิในการต่อต้านโดยสันติซึ่งการกระทำใด ๆ ที่เป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ สิทธิเด็ก คนชรา ผู้พิการ และความเสมอภาคทางเพศ เสรีภาพของสารสนเทศ สิทธิในสาธารณสุข การศึกษาและสิทธิผู้บริโภคก็ได้รับการรับรองเช่นกัน รวมแล้ว มีสิทธิที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 รับรอง 40 สิทธิ เปรียบเทียบกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475 ที่รับรองเพียง 9 สิทธิ
การละเมิดสิทธิมนุษยชน
ในรายงานของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลไทยเป็นต้นเหตุของการละเมิดสิทธิมนุษยชนในหลายกรณี โดยเฉพาะในจังหวัดชายแดนใต้ ในสงครามปราบปรามยาเสพติด ในการจับและจองจำผู้ต้องหา ในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังในเรือนจำ และในการจำกัดเสรีภาพการแสดงออก ในบางครั้งเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิดอาจถูกจับและลงโทษหรือปลดออก แต่สิทธิการได้รับยกเว้นโทษตามกฎอัยการศึก พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 เป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่ถูกลงโทษตามสมควร ส่วนการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยคนทั่วไปและอาชญากร ได้แก่ การค้ามนุษย์ การบังคับค้าบริการทางเพศ การเลือกปฏิบัติ โดยผู้ถูกละเมิด ได้แก่ ผู้ลี้ภัย แรงงานต่างชาติ แรงงานเด็ก สตรี กลุ่มชาติพันธุ์ ชนกลุ่มน้อย ผู้พิการ[ต้องการอ้างอิง]
การค้ามนุษย์
การค้ามนุษย์เป็นปัญหาสำคัญในประเทศไทย ซึ่งมีทั้งการล่อลวงและการลักพาชายจากกัมพูชาโดยนักค้ามนุษย์และขายให้แก่เรือประมงผิดกฎหมายซึ่งจับปลาในอ่าวไทยและทะเลจีนใต้ ชายเหล่านี้ได้รับสัญญาว่าจะได้ทำงานที่มีรายได้ดีกว่า แต่กลับถูกบังคับให้ทำงานเป็นทาสบนเรือนานถึง 3 ปี การค้าเด็กก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่สำคัญในประเทศไทยเช่นกัน โดยการบังคับให้เด็กที่ถูกลักพาซึ่งมีอาจมีอายุน้อยเพียง 4 ปีเป็นทาสเพื่อบริการทางเพศในนครใหญ่อย่างกรุงเทพมหานครและภูเก็ต กิจกรรมดังกล่าวแพร่กระจายมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชนบทของประเทศ อย่างไรก็ตามในวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 รัฐบาลประสบความสำเร็จในการพัฒนาสิทธิมนุษยชนด้านการประมง โดยคณะกรรมาธิการยุโรปได้ให้ใบเขียวแก่ประเทศไทย เพื่อยืนยันว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ให้ความร่วมมือในการต่อต้านการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม
สิทธิทางการเมือง
หลังการรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 ประชาชนถูกลิดรอนเสรีภาพในการแสดงออกและเดินทางอย่างรุนแรง มีบุคคลหนีคำสั่งเรียกให้มารายงานตัวและหมายจับของศาลทหารไปต่างประเทศหลายคน กองทัพสั่งห้ามการชุมนุมทางการเมืองและกิจกรรมของพรรคการเมือง พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 เป็นกฎหมายการชุมนุมฉบับใหม่ที่ออกมาหลังรัฐประหาร และมีเนื้อหาละเมิดสิทธิในการชุมนุมอย่างชัดเจน
ในการประท้วงในประเทศไทย พ.ศ. 2563–2564 มีการใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เพื่อจำกัดการชุมนุม ทั้งที่ก่อนหน้านี้อ้างว่าใช้เพื่อควบคุมการระบาดทั่วของโควิด-19 ในประเทศเท่านั้น
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เสรีภาพสื่อ
พันธมิตรสื่อเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAPA) หมายเหตุว่า สภาพแวดล้อมด้านสื่อของประเทศไทยก่อนเกิดรัฐประหารถือว่าเป็นสื่อที่เสรีและมีชีวิตชีวาที่สุดประเทศหนึ่งในเอเชีย แต่เสื่อมลงอย่างรวดเร็วหลังการยึดอำนาจของฝ่ายทหาร พันธมิตรสื่อเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ชี้ว่า มีการปิดสถานีวิทยุชุมชนราว 300 แห่งทั่วประเทศ การสกัดกั้นช่องข่าวเคเบิลเป็นระยะ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปรากฏข่าวเกี่ยวกับทักษิณ ชินวัตร หรือวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์) และการระงับเว็บไซต์ไทยบางเว็บที่อภิปรายถึงการเข้าแทรกแซงประชาธิปไตยไทยของกองทัพ SEAPA ยังชี้ว่า ขณะที่ดูเหมือนจะไม่มีการปราบปรามนักหนังสือพิมพ์ และผู้สื่อข่าวทั้งต่างชาติและชาวไทยเหมือนจะมีอิสระที่จะสัญจร สัมภาษณ์ และรายงานรัฐประหารตามที่เห็นสมควร แต่การเซ็นเซอร์ตัวเองยังเป็นปัญหาอยู่ในห้องข่าวของไทย สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ยังได้ออกกฎหมาย พระราชบัญญัติ การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 เพื่อควบคุมการชุมนุม ในปี พ.ศ. 2560 เอกชัย หงส์กังวาน ได้แสดงความจำนงผ่านเว็บไซด์เฟซบุ๊คว่าเขาจะใส่เสื้อสีแดง ในวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2560 ซึ่งตรงกับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ถูกควบคุมตัว ในปี พ.ศ. 2561 รัฐบาลประสบความสำเร็จในการห้ามการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ประชาชนชาวไทยส่วนหนึ่งแม้ไม่เห็นด้วยต่อสถาบันกษัตริย์แต่สื่อมวลชนในประเทศไทยเลือกที่จะไม่รายงานข่าวมากกว่ารายงานข่าวที่เป็น ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์อาทิทรงประทับอยู่ที่ต่างประเทศมากกว่าอยู่ภายในประเทศ นับตั้งแต่ทรงขึ้นครองราชย์[ต้องการอ้างอิง]
การใช้กำลังเกินกว่าเหตุของกำลังความมั่นคง
สงครามยาเสพติดของรัฐบาลเมื่อ พ.ศ. 2546 เป็นเหตุให้มีวิสามัญฆาตกรรมกว่า 2,500 คน ที่ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ค้ายาเสพติด สภาพเรือนจำและศูนย์กักกันผู้อพยพประจำจังหวัดบางแห่งมีคุณภาพไม่ดี ใน พ.ศ. 2547 กว่า 1,600 คนเสียชีวิตในเรือนจำหรือในการควบคุมตัวของตำรวจ ในจำนวนนี้ 131 คน เสียชีวิตเพราะการกระทำของตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารในภาคเหนืออาทิที่จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย ยังทำการวิสามัญฆาตกรรม คนร้ายที่ทำการขนส่งยาเสพติดมากกว่า 30 คน[ต้องการอ้างอิง]
มีการรายงานปัญหาต่าง ๆ ในจังหวัดภาคใต้ เกี่ยวกับความไม่สงบในภาคใต้ของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ได้รับความสนใจมาก ทนายความสิทธิมนุษยชนมุสลิม สมชาย นีละไพจิตร มีรายงานว่าถูกก่อกวน ขู่ จนหายสาบสูญโดยถูกบังคับไปในท้ายที่สุด เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2547 หลังเขากล่าวหาว่าถูกทรมานโดยกำลังความมั่นคงของรัฐ ในวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2547 ได้เกิดเหตุการณ์ทั่ว 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีผู้เสียชีวิตรวม 113 ศพ แบ่งเป็นประชาชนในพื้นที่หรือผู้ก่อความไม่สงบ 108 ศพ ทหารตำรวจ 5 ศพ ท่ามกลางการประกาศกฎอัยการศึกของกองทัพ แม้ว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 108 รายเป็นผู้ก่อการไม่สงบแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้สังหารพวกเขาในวันดังกล่าว[ต้องการอ้างอิง]
ใน พ.ศ. 2549 นายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า เขาเชื่อว่า สมชาย นีละไพจิตร เสียชีวิต และกำลังความมั่นคงของรัฐดูเหมือนจะมีส่วนรับผิดชอบ จนสุดท้ายมีตำรวจถูกกล่าวหาว่ามีส่วนในการเสียชีวิตของสมชาย นีละไพจิตร 5 นาย แม้ว่าการไต่สวนจะจบด้วยการพิพากษาลงโทษ 1 คน ซึ่งมีการกลับคำพิพากษาในชั้นอุทธรณ์ ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 คำตัดสินดังกล่าวถูกคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนเอเชียประณาม และอังคณา นีละไพจิตร ภรรยาของสมชาย ประกาศเจตนาของเธอว่าจะอุทธรณ์คดีต่อไปถึงชั้นฎีกา ต่อมาในวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ศาลฎีกาได้พิพากษา ยกฟ้อง
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
สิทธิของผู้ต้องหา
ผู้ต้องหาคดีความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทยเผชิญกับอุปสรรคในการขอประกันตัวก่อนการพิจารณาคดี ทำให้หลายคนถูกคุมขังเป็นเวลาหลายเดือนก่อนมีการพิจารณาคดี มีผู้ต้องขังเสียชีวิตในการคุมขัง ทั้งแขวนคอตัวเอง และอีกคนผลชันสูตรพลิกศพแจ้งว่าติดเชื้อในกระแสเลือด เช่น สุริยัน สุจริตพลวงศ์ (หมอหยอง) ผู้ต้องขังในคดีนี้มักพบเห็นว่าเดินเท้าเปล่าและมีโซ่ล่ามข้อเท้าเมื่อนำตัวมาศาล
สิทธิของบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ
ประเทศไทยขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่อดกลั้นและเป็นมิตรต่อกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศมากที่สุดประเทศหนึ่งในทวีปเอเชีย โดยที่กิจกรรมทางเพศของเพศเดียวกันนั้นชอบด้วยกฎหมายมาตั้งแต่ พ.ศ. 2500 รัฐบาลไทยยังส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติท่องเที่ยวในประเทศไทยเพราะเป็นประเทศที่ต้อนรับกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศอย่างดี ทว่า การเลือกปฏิบัติและการดูถูกเหยียดหยามกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศก็ยังปรากฏอยู่กว้างขวางในสังคมไทย
การปฏิบัติต่อทหารเกณฑ์
องค์การนิรโทษกรรมสากลออกรายงานในปี 2562 อ้างอดีตทหารเกณฑ์ชาวไทย ระบุว่า ในกองทัพไทยมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนทหารเกณฑ์หลายกรณีเป็นเรื่องปกติ เช่น การธำรงวินัยด้วยการทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธ การล่วงละเมิดทางเพศ การลงโทษที่ดูหมิ่นศักดิ์ศรี รวมทั้งการข่มขืนกระทำชำเราทหารที่เป็นเกย์ และในเดือนมีนาคม 2563 กล่าวหาว่าทหารเกณฑ์ของไทยเผชิญกับการละเมิดอย่างเป็นสถาบันแต่ถูกทางการทหารปิดปากอย่างเป็นระบบ
อ้างอิง
- Thanet Aphornsuvan, The Search for Order: Constitutions and Human Rights in Thai Political History, 2001 Symposium: Constitutions and Human Rights in a Global Age: An Asia Pacific perspective
- http://www.state.gov/j/drl/rls/hrrpt/humanrightsreport/index.htm?dlid=186310#wrapper
- "Forced to Fish: Cambodia's sea slaves". The Guardian Weekly, Jan. 30, 2009.
- " New York Review", 25 June 2008
- ไทยเฮ! อียูปลดใบเหลืองแล้ว หลังไทยแก้ปัญหาประมงตามหลักสากล
- "รายงานหน้า2 : พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ กับปัญหาสิทธิเสรีภาพ". มติชนออนไลน์. 22 November 2020. สืบค้นเมื่อ 5 June 2021.
- "ครบ 1 ปี ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินคุมโควิด-19 ควรไปต่อหรือพอแค่นี้". BBC ไทย. สืบค้นเมื่อ 7 April 2021.
- https://www.voicetv.co.th/read/534541
- ดู:
- "Thailand War on Drugs Turns Murderous, 600 Killed This Month -- Human Rights Groups Denounce Death Squads, Executions". Drug War Chronicle, Feb. 21, 2003.
- "A Wave of Drug Killings Is Linked to Thai Police". By Seth Mydans. April 8, 2003. New York Times. [1]
- Amnesty International report: Thailand: Grave developments - Killings and other abuses
- Human Rights Watch. Detailed report: Thailand: Not Enough Graves: IV. Human Rights Abuses and the War on Drugs
- Matthew Z Wheeler. "From Marketplace to Battlefield: Counting the Costs of Thailand's Drug War." [2] [3] [4]. May 28, 2003. ICWA Letters. Institute of Current World Affairs.
- "Thailand: Not Smiling on Rights". July 18, 2005. Asian Centre for Human Rights. See page 24, the section called "Killings in the war against drugs".
- "US-Thailand's 'License To Kill'. 2274 Extra-Judicial Killings In 90 Days". The Akha Journal of the Golden Triangle. By Matthew McDaniel. Vol. 1. No. 2. October 2003. Relevant section of journal 2: 2p6.pdf - Cover and first part of journal 2: 2p1.pdf - Link list for all parts of the journals.
- Timeline of Thailand's "War on Drugs". July 7, 2004. Human Rights Watch.
- "Letter from Asia; She Tilts Against Power, but Don't Call Her Quixotic." By Jane Perlez. July 7, 2004. New York Times.
- Thailand 2003. Extrajudicial drug-war killings of innocent people. Photo gallery. Press/media links, and human rights reports.
- "Institutionalised torture, extrajudicial killings & uneven application of law in Thailand". April 2005. See Annex 5 for a "Partial list of persons reported killed during the 'war on drugs' (revised)." Asian Legal Resource Centre. From Vol. 04 - No. 02: "Special Report: Rule of Law vs. Rule of Lords in Thailand".
- Bangkok Post, August 3, 2007. "Kanit to chair extrajudicial killings probe".
- "Most of those killed in war on drug not involved in drug". November 27, 2007. The Nation (an English-language newspaper in Thailand). [5]
- "Southeast Asia: Most Killed in Thailand's 2003 Drug War Not Involved With Drugs, Panel Finds". November 30, 2007. Drug War Chronicle.
- "Thailand's drug wars. Back on the offensive". January 24, 2008. The Economist.
- "Missing Thai lawyer 'harassed'". BBC News. 9 August 2005. สืบค้นเมื่อ 24 April 2011.
- "Missing Thai lawyer 'harassed'". BBC News. 13 January 2006. สืบค้นเมื่อ 24 April 2011.
- ↑ "Policeman acquitted in Somchai case". Bangkok Post. 12 March 2011. สืบค้นเมื่อ 24 April 2011. Italic or bold markup not allowed in:
|publisher=
(help) - "THAILAND: Verdict on Somchai's case--his wife, daughter could not be plaintiffs; not enough evidence to convict accused". Asian Human Rights Commission. 17 March 2011. สืบค้นเมื่อ 24 April 2011.
- ศาลฎีกายกฟ้อง 5 ตำรวจ คดีอุ้มทนายสมชายปี47
- World Report 2014: ประเทศไทย. Human Rights Watch.
- รมว.ยธ. แถลง'หมอหยอง'เสียชีวิตแล้ว ติดเชื้อในกระแสเลือด
- The Draconian Legal Weapon Being Used to Silence Thai Dissent. Time.
- Top gay-friendly destinations Lonely Planet
- Assessment of sexual health needs of males who have sex with males in Laos and Thailand หมายเหตุ: ในรายงานได้ระบุว่าโทษผิดธรรมดามนุษย์ (Offences against the human order) ที่ได้มีการบัญญัติไว้ในกฎหมายลักษณะอาญาฯ นั้นได้ถูกยกเลิกไปในปี พ.ศ. 2499 (ค.ศ. 1956) แต่ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2499 ซึ่งเป็นกฎหมายแทนที่กฎหมายลักษณะอาญาฯ เริ่มมีผลบังคับใช้จริงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2500 (ค.ศ. 1957) เป็นต้นไป
- Go Thai. Be Free.
- Rising LGBT discrimination challenges Thailand’s culture of tolerance Asian Correspondent
- ""เราก็แค่ของเล่นของพวกเขา" เปิดรายงานการล่วงละเมิดทหารเกณฑ์ในไทย". BBC ไทย. 23 March 2020. สืบค้นเมื่อ 27 March 2021.
- "Weeks after Korat massacre, Amnesty report describes conscript abuses". Bangkok Post. Reuters. 23 March 2020. สืบค้นเมื่อ 23 March 2020.
แหล่งข้อมูลอื่น
- Freedom of expression in Thailand - IFEX
- Asian Human Rights Commission - Thailand homepage
- Rule of Lords Weekly column on human rights & the rule of law in Thailand and Burma
- Royal Thai Police catalogue or torture and murder