เรืออากาศโท เจ้าแก้วมงคล ณ เชียงใหม่ (26 ตุลาคม พ.ศ. 2446 – 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2528) เป็นบุตรของเจ้าราชวงศ์ (เลาแก้ว ณ เชียงใหม่) เจ้าราชวงศ์นครเชียงใหม่ โอรสองค์เดียวในเจ้าอินทวโรรสสุริยวงศ์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 8 ประสูติแต่เจ้าทิพเนตร สมรสกับเจ้าแสงดาว ณ เชียงใหม่ บุตรบุญธรรมในพระราชชายา เจ้าดารารัศมี
| เจ้าแก้วมงคล ณ เชียงใหม่ |
|---|
|
| ภริยา | เจ้าแสงดาว ณ เชียงใหม่
ศรีนวล ณ เชียงใหม่ |
|---|
| บุตร | เจ้าประกายแก้ว ณ เชียงใหม่ |
|---|
| ราชวงศ์ | ทิพย์จักร |
|---|
| เจ้าบิดา | เจ้าราชวงศ์ (เลาแก้ว ณ เชียงใหม่) |
|---|
| เจ้ามารดา | เจ้าจันทร์จร ณ เชียงใหม่ |
|---|
| เกิด | 26 ตุลาคม พ.ศ. 2446 |
|---|
| ถึงแก่กรรม | 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2528 (81 ปี) |
|---|
เจ้าแก้วมงคล เป็นเจ้านายฝ่ายเหนือคนหนึ่งที่ถูกมองว่าอาจจะได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 10 หากว่าการแต่งตั้งเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่สืบแทนเจ้ากาวิโรรสสุริยวงศ์ ให้สิทธิ์แก่โอรสองค์เดียว คือ เจ้าราชวงศ์ (เลาแก้ว ณ เชียงใหม่) แต่กลับเป็นเจ้าแก้วนวรัฐ อนุชาของเจ้าอินทวโรรสสุริยวงศ์
เจ้าแก้วมงคล ณ เชียงใหม่ เป็นบุตรเจ้าราชวงศ์ (เลาแก้ว) กับเจ้าจันทร์จร ณ เชียงใหม่ เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2446 เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนนายร้อย จากนั้นได้เข้ารับราชการเป็นทหารอากาศ ต่อมาถูกจับและคุมขังในข้อหากบฏ พร้อมกับคณะกบฏบวรเดช หลังจากพ้นโทษจึงกลับมาใช้ชีวิตที่อำเภอแม่ริมกับเจ้าแสงดาว มีธิดาคนเดียวคือเจ้าประกายแก้ว ณ เชียงใหม่ (19 กันยายน 2475 – 30 พฤษภาคม 2534)
ภายหลังเจ้าแก้วมงคล ณ เชียงใหม่ ได้ย้ายไปอยู่ที่ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน พร้อมทั้งแต่งงานใหม่กับนางศรีนวล ณ เชียงใหม่ (11 มกราคม 2459 - 4 สิงหาคม 2558)
เจ้าแก้วมงคล ณ เชียงใหม่ ถึงแก่อนิจกรรม ในปี พ.ศ. 2528 รวมอายุ 82 ปี
การรับมรดกของพระราชชายา เจ้าดารารัศมี ก่อนที่พระราชชายา เจ้าดารารัศมี จะสิ้นพระชนม์ได้ทรงทำพินัยกรรมแบ่งพื้นที่พระตำหนักดาราภิรมย์ และสวนเจ้าสบาย ให้แก่ทายาทออกเป็น 4 ส่วน ซึ่งเจ้าแก้ว มงคล กับเจ้าแสงดาว ณ เชีงใหม่ ได้รับจำนวน 1 ส่วน ต่อมาเจ้าแก้วมงคล ได้ขอซื้อที่ดินทั้ง 76 ไร่ เพื่อให้เป็นผืนเดียวกัน
กระทั่งในปี พ.ศ. 2490 กระทรวงศึกษาธิการ มีนโยบายขยายการศึกษาระดับอุดมศึกษาสู่ภูมิภาค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงได้ขอซื้อที่ดินดังกล่าว แต่ก็มิได้ดำเนินการจัดตั้งสถาบันการศึกษาแต่อย่างใด
การทำงาน เจ้าแก้วมงคล ณ เชียงใหม่ เคยรับราชการเป็นทหารอากาศ ต่อมาได้รับการทาบทามให้มารับตำแหน่งผู้จัดการบริษัท ขนส่งเรือเมล์ จำกัด (ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็นการบินไทย) จนกระทั่งเกษียณอายุในปี พ.ศ. 2507 หลังจากนั้นจึงหันมาทำสวนลำใย ที่บ้านเด่น ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ และทำกิจการเหมืองแร่ที่อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงขายกิจการและย้ายไปอาศัยอยู่ที่อำเภอสารภี
เครื่องราชอิสริยาภรณ์พงศาวลี | พงศาวลีของเจ้าแก้วมงคล ณ เชียงใหม่ |
|---|
| |
- คัมภีร์ คัมภีรญาณนนท์ , นาวาอากาศเอก. เจ้านายฝ่ายเหนือ.
- เบญจวรรณ บุญโทแสง. พัฒนาการการปรับตัวทางการเมืองของกลุ่มอำนาจท้องถิ่นภายหลังการผนวกดินแดนของสยาม (พ.ศ. 2442-2547): กรณีศึกษาตระกูล ณ เชียงใหม่. วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. 2550
- เชียงใหม่ พ.ศ. ๒๕๑๒
- อนุ เนินหาด, สังคมเมืองเชียงใหม่ เล่ม 9, นพบุรีการพิมพ์, 2547
เจ, าแก, วมงคล, เช, ยงใหม, เร, ออากาศโท, ลาคม, 2446, กรกฎาคม, 2528, เป, นบ, ตรของเจ, าราชวงศ, เลาแก, เช, ยงใหม, เจ, าราชวงศ, นครเช, ยงใหม, โอรสองค, เด, ยวในเจ, าอ, นทวโรรสส, ยวงศ, เจ, าผ, ครองนครเช, ยงใหม, องค, ประส, แต, เจ, าท, พเนตร, สมรสก, บเจ, าแสงดาว, เช,. eruxxakasoth ecaaekwmngkhl n echiyngihm 26 tulakhm ph s 2446 12 krkdakhm ph s 2528 epnbutrkhxngecarachwngs elaaekw n echiyngihm ecarachwngsnkhrechiyngihm oxrsxngkhediywinecaxinthworrssuriywngs ecaphukhrxngnkhrechiyngihm xngkhthi 8 prasutiaetecathiphentr smrskbecaaesngdaw n echiyngihm butrbuythrrminphrarachchaya ecadararsmi 1 ecaaekwmngkhl n echiyngihmphriyaecaaesngdaw n echiyngihmsrinwl n echiyngihmbutrecaprakayaekw n echiyngihmrachwngsthiphyckrecabidaecarachwngs elaaekw n echiyngihm ecamardaecacnthrcr n echiyngihmekid26 tulakhm ph s 2446thungaekkrrm12 krkdakhm ph s 2528 81 pi ecaaekwmngkhl epnecanayfayehnuxkhnhnungthithukmxngwaxaccaidrboprdekla aetngtngepnecaphukhrxngnkhrechiyngihm xngkhthi 10 2 hakwakaraetngtngecaphukhrxngnkhrechiyngihmsubaethnecakawiorrssuriywngs ihsiththiaekoxrsxngkhediyw khux ecarachwngs elaaekw n echiyngihm aetklbepnecaaekwnwrth xnuchakhxngecaxinthworrssuriywngs enuxha 1 prawti 2 karrbmrdkkhxngphrarachchaya ecadararsmi 3 karthangan 4 ekhruxngrachxisriyaphrn 5 phngsawli 6 xangxingprawti aekikhecaaekwmngkhl n echiyngihm epnbutrecarachwngs elaaekw kbecacnthrcr n echiyngihm ekidemuxpi ph s 2446 ekharbkarsuksathiorngeriynnayrxy caknnidekharbrachkarepnthharxakas txmathukcbaelakhumkhnginkhxhakbt phrxmkbkhnakbtbwredch 3 hlngcakphnothscungklbmaichchiwitthixaephxaemrimkbecaaesngdaw mithidakhnediywkhuxecaprakayaekw n echiyngihm 19 knyayn 2475 30 phvsphakhm 2534 phayhlngecaaekwmngkhl n echiyngihm idyayipxyuthitablxuomngkh xaephxemuxnglaphun cnghwdlaphun phrxmthngaetngnganihmkbnangsrinwl n echiyngihm 11 mkrakhm 2459 4 singhakhm 2558 ecaaekwmngkhl n echiyngihm thungaekxnickrrm inpi ph s 2528 rwmxayu 82 pikarrbmrdkkhxngphrarachchaya ecadararsmi aekikhkxnthiphrarachchaya ecadararsmi casinphrachnmidthrngthaphinykrrmaebngphunthiphratahnkdaraphirmy aelaswnecasbay ihaekthayathxxkepn 4 swn sungecaaekw mngkhl kbecaaesngdaw n echingihm idrbcanwn 1 swn txmaecaaekwmngkhl idkhxsuxthidinthng 76 ir ephuxihepnphunediywknkrathnginpi ph s 2490 krathrwngsuksathikar minoybaykhyaykarsuksaradbxudmsuksasuphumiphakh culalngkrnmhawithyaly cungidkhxsuxthidindngklaw aetkmiiddaeninkarcdtngsthabnkarsuksaaetxyangid 4 karthangan aekikhecaaekwmngkhl n echiyngihm ekhyrbrachkarepnthharxakas txmaidrbkarthabthamihmarbtaaehnngphucdkarbristh khnsngeruxeml cakd sungtxmaepliynepnkarbinithy cnkrathngeksiynxayuinpi ph s 2507 hlngcaknncunghnmathaswnlaiy thibanedn tablhnxnghxy xaephxemuxngechiyngihm aelathakickarehmuxngaerthixaephxli cnghwdlaphun aetimprasbkhwamsaerc cungkhaykickaraelayayipxasyxyuthixaephxsarphiekhruxngrachxisriyaphrn aekikhph s 2526 ekhruxngrachxisriyaphrnxnmiekiyrtiysyingmngkudithy chnsungsud mhawchirmngkud m w m ph s 2521 ekhruxngrachxisriyaphrnxnepnthiechidchuyingchangephuxk chnthi 1 prathmaphrnchangephuxk p ch ph s 2513 ekhruxngrachxisriyaphrnculcxmekla chnthi 2 thutiyculcxmekla th c fayhna ph s 2473 ehriyyrtnaphrn rchkalthi 7 chnthi 2 p p r 2 phngsawli aekikhphngsawlikhxngecaaekwmngkhl n echiyngihm 16 ecarachwngs mhaphrhmkhakhng 8 phraecaxinthwichyannth 17 ecakhahla 4 ecaxinthworrssuriywngs 18 ecahlwngichylngkaphisalosphakhykhun 9 ecarinkha 2 ecarachwngs elaaekw n echiyngihm 20 phraecamohtrpraeths 10 ecamhaethph n echiyngihm 21 ecasuwrrnkhaaephn 5 ecathiphentr 22 ecarachbutr thnychy 11 ecathiphosm n echiyngihm 1 ecaaekwmngkhl n echiyngihm 3 ecacnthrcr n echiyngihm xangxing aekikh khmphir khmphiryannnth nawaxakasexk ecanayfayehnux ebycwrrn buyothaesng phthnakarkarprbtwthangkaremuxngkhxngklumxanacthxngthinphayhlngkarphnwkdinaednkhxngsyam ph s 2442 2547 krnisuksatrakul n echiyngihm withyaniphnthrthsastrmhabnthit mhawithyalyechiyngihm 2550 echiyngihm ph s 2512 xnu eninhad sngkhmemuxngechiyngihm elm 9 nphburikarphimph 2547ekhathungcak https th wikipedia org w index php title ecaaekwmngkhl n echiyngihm amp oldid 9444098, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,
บทความ
, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม
_ribbon.svg.html){kind=link}
_ribbon.svg.html){kind=link}
_ribbon.svg.html){kind=link}
_ribbon.svg.html){kind=link}