เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอล-คลาส
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอล-คลาส (อังกฤษ: Mercedes-Benz SL-Class) เป็นชื่อสายการผลิตรถยนต์นั่งประเภทหรูหราสมรรถนะสูง เครื่องยนตร์หน้าลำ ขับเคลื่อนสองล้อท้าย (FMR) 2 ประตู 2 หรือ 4 ที่นั่ง ผลิตโดยบริษัทรถยนต์สัญชาติเยอรมัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1954 จนถึงปัจจุบัน โดยใช้ชื่อรุ่นว่า "เอสแอล" ซึ่งย่อมาจาก "สปอร์ต น้ำหนักเบา (Sport Leicht)" เอสแอล-คลาส 300เอสแอล เป็นคันแรกของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ใช้ "ประตูปีกนกนางนวล" (Gull-wing door) ซึ่งสามารถเปิดขึ้นลง แทนแบบปกติที่เปิดข้าง ซึ่งเป็นการใช้แค่โฉมแรกในรุ่นนั้นรุ่นเดียว และไม่เคยทำมาอีกเลย จนกระทั่งเมื่อเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ได้ออกรุ่น เอสแอลเอส เอเอ็มจี เมื่อปี ค.ศ. 2010 ก็ได้นำแบบประตูแบบนี้มาใช้อีกครั้งหนึ่ง
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอล-คลาส | |
---|---|
เอสแอล 350 โฉมที่หก (R231) | |
ภาพรวม | |
บริษัทผู้ผลิต | เมอร์เซเดส-เบนซ์ |
เริ่มผลิตเมื่อ | ค.ศ. 1954 – ปัจจุบัน |
แหล่งผลิต | เบรเมิน, ประเทศเยอรมนี ซันเตียโกเตียงกิสเตงโก, ประเทศเม็กซิโก |
ตัวถังและช่วงล่าง | |
ประเภท | รถยนต์นั่งประเภทหรูหราสมรรถนะสูง (Luxury grand tourer) |
รูปแบบตัวถัง | 2 ประตู คูเป 2 ประตู โรดสเตอร์ |
โครงสร้าง | เครื่องยนตร์หน้าลำ ขับเคลื่อนสองล้อท้าย (FMR) |
จำนวนประตู | 2 แบบกัลวิงตอร์ (Gull-wing doors; เฉพาะคูเปในโฉมแรก) 2 แบบบานเปิดธรรมดา |
รุ่นที่คล้ายกัน | เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาส เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลเค-คลาส |
ระยะเหตุการณ์ | |
รุ่นก่อนหน้า | เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสเอสเค เมอร์เซเดส-เบนซ์ 540เค |
ปัจจุบัน เอสแอล-คลาส ได้ออกโฉมต่าง ๆ มาทั้งหมดแล้ว 6 โฉม ดังต่อไปนี้
โฉมแรก (1954-1963)
แบ่งเป็นสองรุ่นคือ "300เอสแอล โรสเตอร์" (300SL roadster) ซึ่งใช้ ประตูปีกนกนางนวลเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1957 ส่วน 190เอสแอล (190SL) ซึ่งผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก ถึง 25,881 รถคันนี้ได้เริ่มการผลิต ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1955 จนถึงปี ค.ศ. 1963 ลักษณะตัวถังแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ ชนิดที่เป็นรถหลังคาแข็ง 2 ประตู ซึ่งเป็นประตู ปีกนกนางนวล (กัลวิง) และ ชนิดที่ 2 คือ โรสเตอร์ หลังคาผ้าใบ (Soft top) ในลักษณะประตูปกติ และหลังจากโฉมนี้เป็นต้นไป ประตูแบบกัลวิง ก็จะไม่มีให้เห็นอีกต่อไป ทำให้ โฉมแรกนี้ จึงดูเป็นโฉมที่มูลค่ามากกว่าโฉมไหนๆ ซึ่งปัจจุบัน ก็ได้จัดให้เป็นหนึ่งใน "รถยูโรคลาสสิก" และอยู่ในฐานะรถประมูลอีกด้วย
300เอสแอล กัลวิง ถือเป็นรถที่เร็วที่สุดในโลกในเวลานั้น และยังถือได้ว่าเป็นครั้งแรกที่มีการบัญญัติศัพท์ว่า "ซูเปอร์คาร์" ขึ้น ทำให้ 300เอสแอลกัลวิง ได้รับการยกย่องให้เป็นซูเปอร์คาร์คันแรกของโลก
รุ่นต่างๆ ของโฉมแรก
- 300SL ("กัลวิง"): ค.ศ. 1954–1957, 3.0 ลิตร I6, กำลัง 215 hp (160 kW)
- 300SL (Roadster): ค.ศ. 1957–1963 3.0 ลิตร I6, กำลัง 225 hp (168 kW)
- 190SL: ค.ศ. 1955–1963, 1.9 ลิตร I4, กำลัง 105 hp (78 kW)
โฉมที่สอง (ค.ศ. 1963-1971)
ต่อจากโฉมแรก เอสแอล-คลาส ก็ได้ใช้ชื่อโฉมใหม่นี้ว่า "230SL" และใช้รหัสว่า "W113" ได้รับการออกแบบโดย นักออกแบบรถชาวฝรั่งเศส Paul Bracq มาพร้อมกับการออกแบบใหม่ เครื่องยนต์ขนาด 2.3 ลิตร 6 สูบ (I6) และเปลี่ยนประตูจาก "กัลวิง" หรือที่เรียกว่า "ประตูปีกนกนางนวล" ไปเป็นรถเปิดประทุนหลังคาผ้าใบ (บางครั้งเรียกเป็นชื่อเล่นว่า Pagoda top) แทนทั้งหมด
รุ่นต่างๆ ของโฉมที่ 2
- 230SL: ค.ศ. 1963–1967, 2.3 ลิตร I6, กำลัง 150 hp (112 kW)
- 250SL: ค.ศ. 1966–1968, 2.5 ลิตร I6, กำลัง 150 hp (112 kW)
- 280SL: ค.ศ. 1967–1971, 2.8 ลิตร I6, กำลัง 170 hp (127 kW)
โฉมที่สาม (ค.ศ. 1972-1989)
โฉมที่สาม นับเป็นโฉมที่เปลี่ยนรูปลักษณ์ด้านนอกอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังเป็นโฉมที่มีรหัสรโฉมถึง 2 รหัส ได้แก่ R107 หรือ SL ซึ่งเป็นลักษณะรถ 2 ประตู เปิดประทุนด้วยหลังคาผ้าใบ และ C107 หรือ SLC ซึ่งเป็นลักษณะรถ 2 ประตู คูเป้ ผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ. 1972 จนถึง ปี ค.ศ. 1989 รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 300,175 คัน
รุ่นต่างๆ ของโฉมที่สาม
- 350SL: ค.ศ. 1971–1980, 3.5 ลิตร V8
- 450SL: ค.ศ. 1973–1980, 4.5 ลิตร V8
- 280SL: ค.ศ. 1974–1985, 2.8 ลิตร I6
- 300SL: ค.ศ. 1986–1989 เป็นรุ่นที่ใช้เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ แต่จำหน่ายน้อยมาก
- 380SL: ค.ศ. 1980–1986, 3.8 ลิตร V8
- 500SL: ค.ศ. 1980–1986, 5.0 ลิตร V8
- 420SL: ค.ศ. 1986–1989, 4.2 ลิตร V8
- 500SL: ค.ศ. 1986–1989, 5.0 ลิตร V8
- 560SL: ค.ศ. 1986–1989, 5.6 ลิตร V8
สำหรับรุ่น 560SL จำหน่ายที่สหรัฐอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น และ ออสเตรเลีย เพียงเท่านั้น แต่ถึงจะเรียก 560SL ก็ยังคง ขนาดเครื่องยนต์ไว้ที่ 5.0 ลิตร เช่นเดียวกับ 500SL เนื่องจากติดที่กฎหมายเกี่ยวกับอัตราปล่อยมลพิษ ในทั้ง 4 ประเทศ
โฉมที่สี่ (1989-2002)
โฉมที่สี่ ใช้รหัสว่า "R129" ได้รับการออกแบบโดย Johann Tomforde และ Bruno Sacco นับเป็นที่ไม่ต่างกับโฉมก่อนหน้านี้มากนัก แต่เป็นโฉมแรกของ เอสแอล-คลาส ที่ได้มีการติตตั้งเครื่องยนต์เสริม เอเอ็มจี (AMG) โฉมนี้ผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ. 1989 จนถึงปี ค.ศ. 2002 เป็นจำนวนทั้งสิ้น 213,089 คัน
รุ่นต่างๆ ของโฉมที่สี่
รุ่น | โครงรถยนต์ | เครื่องยนต์ | ปีที่ผลิต | ปีที่ยุติการผลิต |
---|---|---|---|---|
SL280 | 129.058 | 104.943 | 1993 | 1997 |
SL280 | 129.059 | 112.925 | 1998 | 200 |
300SL-24 | 129.061 | 104.981 | 1990 | 1993 |
SL320 | 129.063 | 104.991 | 1994 | 1998 |
SL320 | 129.064 | 112.943 | 1998 | 2002 |
500SL | 129.066 | 119.960 | 1990 | 1992 |
500SL | 129.067 | 119.972 | 1993 | 1993 |
SL500 | 129.067 | 119.972 | 1994 | 1995 |
SL500 | 129.067 | 119.982 | 1996 | 1998 |
SL500 | 129.068 | 113.961 | 1999 | 2002 |
600SL | 129.076 | 120.981 | 1993 | 1993 |
SL600 | 129.076 | 120.981 | 1994 | 1995 |
SL600 | 129.076 | 120.983 | 1996 | 2002 |
โฉมที่ห้า (2001-2008)
โฉมที่ 5 เอสแอล ได้ใช้ชื่อรหัสว่า "R230" เปิดตัวครั้งแรกที่งาน แฟรงเฟิร์ตมอเตอร์โชว์ ปี ค.ศ. 2002 ได้รับการออกแบบโดย Steve Mattin และ Bruno Sacco ในปี ค.ศ. 1997 เอสแอล โฉมที่ 5 นับเป็นโฉมที่มีการปรับเปลี่ยนเกือบๆทุกด้าน ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือตัวถัง การใช้หลังคาแบบฮาร์ดท็อป (Hardtop) หรือสไตล์คูเป้ ทั้งหมด รวมถึงเครื่องยนต์ขนาด 5.4 ลิตร V8 ซึ่งได้ติดตั้ง เอเอ็มจี เสริมเข้าไปด้วย โดยชื่อว่า "SL55 AMG" ส่วนเครื่องยนต์ V12 ใช้กับรุ่น "SL600" นอกจากนี้ยังมีรุ่นจำกัดจำนวน อย่าง เอสแอล65 เอเอ็มจี (SL65 AMG) ส่วน เอสแอล350 (SL350) จำหน่ายบางประเทศเท่านั้น จนในปี ค.ศ. 2008 เอสแอล โฉมที่ 5 ก็ได้ยุติการผลิตลง
รุ่นต่างๆ ของโฉมที่ห้า
รุ่น | ปี | ชนิดเครื่องยนต์ | กำลัง | แรงบิด |
---|---|---|---|---|
SL 350 | 2006–2008 | 3,498 cubic centimetres (213.5 cu in) V6 (M272) | 272 PS (200 kW; 268 hp)@6000 | 350 N·m (260 lb·ft) @2400–5000 |
SL 500, SL 550 | 2006–2008 | 5,461 cubic centimetres (333.3 cu in) V8 (M273) | 388 PS (285 kW; 383 hp)@6000 | 530 N·m (390 lb·ft) @2800–4800 |
SL 55 AMG | 2006–2008 | 5,439 cubic centimetres (331.9 cu in) V8 supercharged (M113) | 517 PS (380 kW; 510 hp)@6100 | 720 N·m (530 lb·ft) @2600–4000 |
SL 600 | 2006–2008 | 5,513 cubic centimetres (336.4 cu in) V12 BiTurbo (M275) | 517 PS (380 kW; 510 hp)@5000 | 830 N·m (610 lb·ft) @1900–3500 |
SL 65 AMG | 2004– | 5,980 cubic centimetres (365 cu in) V12 BiTurbo (M275 AMG) | 612 PS (450 kW; 604 hp)@4800–5100 | 1,000 N·m (740 lb·ft) @2000–4000 |
ปรับโฉม (2008-2012)
เป็นปรับโฉม (facelift) เปิดตัวในปี 2008 ในรูปลักษณ์ใหม่ ที่เห็นได้ชัดคือ ไฟหน้าที่เปลี่ยนเป็นรูปทรงตัว L แทนไฟหน้าทรงเดิมที่เป็น วงกลม 2 วงซ้อนกัน มีออปชั่น "Intelligent Light System" เพิ่มเข้ามาด้วย และมี SL63 AMG เข้ามาแทนที่ SL55 AMG ในโฉมเดิม
โฉมที่หก (2012-2020)
เปิดตัวครั้งแรกที่งาน นอร์ท อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล โชว์ ในเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2012 ใช้รหัสใหม่ว่า "R231" เป็นครั้งแรกที่ใช้ชิ้นส่วน ส่วนใหญ่มาจากอะลูมิเนียม เป็นครั้งแรกของเมอร์เซเดส ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 4.6 ลิตร V8 กับกำลังสูงสุดที่ 435 hp (324 kW) เป็นโฉมแรกในรอบ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ที่มีรุ่นเปิดประทุน นอกจากนี้ เอสแอล ตัวนี้ยังมีน้ำหนักกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ถึง 140 กิโลกรัม (ราวๆ 308 lbs)
ระบบเกียร์
รุ่น | ปี | ประเภท |
---|---|---|
SL 350 BlueEFFICIENCY | 2012- | เกียร์อัตโนมัติ 7 จัวหวะ |
SL 500 BlueEFFICIENCY | 2012- | เกียร์อัตโนมัติ 7 จัวหวะ |
SL 63 AMG | 2012- | 7 จัวหวะ (AMG SPEEDSHIFT MCT) |
SL 65 AMG | 2012- | เกียร์อัตโนมัติ 7 จัวหวะ (AMG SPEEDSHIFT PLUS) |
เครื่องยนต์
รุ่น | ปี | ชนิดเครื่องยนต์ | กำลัง&แรงบิด |
---|---|---|---|
SL 350 BlueEFFICIENCY | 2012- | 3,498 cc (213.5 cu in) V6 (M 276 DE 35) | 306 PS (225 kW; 302 hp)@6500, 370 N·m (273 lbf·ft)@3500-5250 |
SL 500 BlueEFFICIENCY | 2012- | 4,663 cc (284.6 cu in) V8 Biturbo (M 278 DE 46 AL) | 435 PS (320 kW; 429 hp)@5250, 700 N·m (516 lbf·ft)@1800-3500 |
SL 63 AMG | 2012- | 5,461 cc (333.3 cu in) V8 twin turbo (M 157 DE 55 AL) | 537 PS (395 kW; 530 hp)@5500, 800 N·m (590 lbf·ft)@2000–4500 AMG Performance Package: 564 PS (415 kW; 556 hp)@5500, 900 N·m (664 lbf·ft)@2250–3750 |
SL 65 AMG | 2012- | 5,980 cc (365 cu in) V12 twin turbo (M 279 E 60 AL) | 630 PS (463 kW; 621 hp)@4800–5400, 1,000 N·m (738 lbf·ft)@2300–4300 (จำกัดจำนวน) |
SL 400 | 2015– | 3,000 cc (183 cu in) 24V V6 biturbo (M276 DELA 30 AL Biturbo) | 329 hp (245 kW; 334 PS) at 5,250–6,000, 354 lb⋅ft (480 N⋅m) at 1,600–4,000 0–100 km/h 5.1sec |
SL 450/400 | 2017– | 3,000 cc (183 cu in) 24V V6 biturbo (M276 DELA 30 AL Biturbo) | 367 PS (270 kW; 362 bhp) at 5,500-6,000, 369 lb⋅ft (500 N⋅m) at 2,000–4,200 0–100 km/h 4.9sec |
ปรับโฉมใหม่ (2016–2020)
ปรับโฉมใหม่กับรุ่นปี 2016 และ 2017 เปิดตัวครั้งแรกที่งาน นอร์ท อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล โชว์ ช่วงต้นปี 2016 ใน California, พร้อมเปิดตัว SL400 (renamed SL450 in the US) มีเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 362 hp (367 PS) เทอร์โบคู่ V6 และเกียร์อัตโนมัติ 9-speed Mercedes-Benz 9G-Tronic PLUS.
โฉมที่เจ็ด (2021-ปัจจุบัน)
Seventh generation | |
---|---|
ภาพรวม | |
เริ่มผลิตเมื่อ | พ.ศ. 2564– |
ตัวถังและช่วงล่าง | |
แพลตฟอร์ม | Mercedes-Benz R232 |
ระบบส่งกำลัง | |
เครื่องยนต์ |
|
ระบบเกียร์ | 9-speed automatic |
ถึงแม้ Mercedes-Benz กำลังสนุกสนานกับการพัฒนารถยนต์ขนาด Compact หลากรุ่น หลากขนาด และหลากหน้าตาเพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าเศรษฐีกำเนิดใหม่เป็นหลัก แต่ทว่า Mercedes-Benz ก็ไม่นิ่งนอนใจที่จะรักษาความเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ High-End Premium ในตระกูล S-Class และ GLS
หากสังเกตข่าวสารที่เกี่ยวกับรถยนต์ Mercedes-Benz ที่ผ่านมา แทบจะไม่มีแหล่งข่าวรายใดกล้ายืนยันว่า Mercedes-Benz จะยุบ SL ออกจากสายการผลิต นั่นเป็นเพราะว่า Mercedes-Benz ยังตั้งใจที่จะเก็บรถสปอร์ตรุ่นนี้เอาไว้ให้นานที่สุด อาจเป็นเพราะว่ารถสปอร์ตตระกูล SL กำเนิดมายาวนานถึง 64 ปีแล้ว ประกอบกับ Mercedes-Benz ยังมองเห็นช่องว่างทางการของรถสปอร์ตระดับ High-End อยู่
ล่าสุด เราก็ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่า All NEW Mercedes-Benz SL จะเป็นรถสปอร์ตที่มีน้ำหนักเบาลง, วิ่งได้ไวและไกลยิ่งขึ้น เนื่องจากทีมวิศวกรรมได้นำข้อมูลที่สำคัญจาก Mercedes-AMG มาต่อยอดพัฒนาไฮไลต์สำคัญคือ All NEW Mercedes-Benz SL จะถูกสร้างขึ้นบนพื้นตัวถัง MSA (modular sports architecture) ร่วมกับ All NEW Mercedes-AMG GT ซึ่งส่งผลดีต่อการพัฒนา เพราะต้องใช้ชิ้นส่วนประกอบหลักร่วมกัน ได้แก่ ระบบส่งกำลัง, ระบบช่วงล่าง, ระบบพวงมาลัย, ระบบอิเล็กทรอนิคส์ 48 โวลต์ และระบบขับเคลื่อน Hybrid ซึ่งช่วยเพิ่มความคุ้มค่าต่อการผลิตได้เป็นอย่างดี
All NEW Mercedes-Benz SL มีให้เลือก 4 ขุมพลัง
- SL 450 EQ Boost เครื่องยนต์ 6 สูบ เบนซิน 3.0 ลิตร 365 แรงม้า พร้อมมอเตอร์สตาร์ท ISG ที่มีพละกำลังเสริมอีก 22 แรงม้า
- SL53 เครื่องยนต์ 6 สูบ เบนซิน 3.0 ลิตร Mild Hybrid 430 แรงม้า พร้อมมอเตอร์สตาร์ท ISG ที่มีพละกำลังเสริมอีก 22 แรงม้า
- SL500 EQ Boost เครื่องยนต์ V8 เบนซิน 4.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 430 แรงม้า
- SL63 เครื่องยนต์ V8 เบนซิน 4.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 600 แรงม้า พร้อม พร้อมมอเตอร์สตาร์ท ISG ที่มีพละกำลังเสริมอีก 30 แรงม้า
ทุกรุ่นเครื่องยนต์จะจับคู่เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ และในรุ่น AMG จะติดตั้ง Speedshift ที่เปลี่ยนเกียร์ได้เร็วขึ้น และจะมีระบบขับเคลื่อนล้อหลังหรือระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC ให้เลือก
ยอดจำหน่าย
ตารางปี | ยอดจำหน่ายในสหรัฐ |
---|---|
2001 | 4,217 |
2002 | 13,717 |
2003 | 13,318 |
2004 | 12,885 |
2005 | 10,080 |
2006 | 8,462 |
2007 | 6,126 |
2008 | 5,464 |
2009 | 4,025 |
2010 | 1,449 |
2011 | 4,899 |
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- Werner Oswald: Deutsche Autos 1945-1990, vol.5. Motorbuch Verlag, Stuttgart 2001, ISBN 3-613-02131-5, p. 52.
- Werner Oswald: Deutsche Autos 1945–1990, vol.5. Motorbuch Verlag, Stuttgart 2001, ISBN 3-613-02131-5, p. 165.
- Auto Katalog, 2003 edition, p. 312. Note: Figures for 2001 are for calendar year and include early R230 production. Actual Grand Total for R129 probably around 203.000 units.
- "New Mercedes SL: Topgear.com". BBC Worldwide-Topgear.com. สืบค้นเมื่อ 2011-12-18.
- "Mercedes-Benz USA Records Highest Sales in Its History. - Free Online Library". Thefreelibrary.com. 2003-01-03. สืบค้นเมื่อ 2011-02-11.
- "2004 Highest Year on Record for Mercedes-Benz USA". Theautochannel.com. สืบค้นเมื่อ 2010-03-21.
- "Mercedes-Benz Rings in the New Year with Record 2006 Sales". Theautochannel.com. สืบค้นเมื่อ 2010-03-21.
- "Mercedes-Benz USA's Sales Drop 32.1 Percent In December 2008 | eMercedesBenz - The Unofficial Mercedes-Benz Weblog". eMercedesBenz. 2009-01-05. สืบค้นเมื่อ 2010-03-21.
- "Highest Sales Month for the Year at 21,469 Brings Mercedes-Benz to an 18 Percent Increase for 2010". New Jersey: Prnewswire.com. 2011-01-04. สืบค้นเมื่อ 2011-02-11.
- "Mercedes Sales 2011 Best on Record! Strong December Sales Report Caps off 2011 with 264,460 Vehicles Sold". daveknowscars.com. 2012-01-09.