ไวยากรณ์ภาษาฮังการี
ไวยากรณ์ภาษาฮังการี เป็นไวยากรณ์ของภาษาฮังการี ภาษาในตระกูลฟินโน-อูกริกที่มีผู้ใช้ส่วนใหญ่ในประเทศฮังการีและประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 7 ประเทศ (ในเขตแดนของราชอาณาจักรฮังการีที่ถูกแบ่งหลังสนธิสัญญาทรียานงเมื่อปี ค.ศ. 1920)
ภาษาฮังการีเป็นภาษาคำติดต่อ (agglutinative language) เป็นภาษาที่ใช้หน่วยคำเติม (affix) จำนวนมาก โดยเฉพาะหน่วยคำเติมท้าย (suffix) หลังคำแต่ละคำในประโยค เพื่อเปลี่ยนความหมายของคำ รวมถึงใช้แสดงให้เห็นว่าคำคำนั้นมีหน้าที่ทางไวยากรณ์ใดในประโยค (เช่น เป็นประธาน, เป็นกรรม) โดยหน่วยคำเติมท้ายสามารถเปลี่ยนรูปไปได้หลายแบบเพื่อความไพเราะและความสะดวกในการออกเสียงตามหลักการสอดคล้องกลมกลืนของสระ (vowel harmony) ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับภาษาฮังการี
คำกริยาในภาษาฮังการีสามารถใช้วางหน่วยคำเติมไว้ด้านหน้าและด้านหลังเพื่อเปลี่ยนความหมายของคำกริยาได้ ซึ่งจะแสดงความชี้เฉพาะ (definiteness) ว่าเป็นคำกริยาที่เจาะจงการกระทำไปที่วัตถุใดวัตถุหนึ่งเป็นพิเศษ หรือการกระทำไม่ได้มีการเจาะจงว่าต้องเป็นวัตถุชิ้นนั้น ๆ, แสดงกาล (tense) ว่ากริยานี้เกิดขึ้นในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต, แสดงบุรุษ (person) ว่าคำกริยานั้นมีใครเป็นประธาน (ฉัน เธอ เขา พวกฉัน พวกเธอ พวกเขา), แสดงมาลา (mood) ของคำกริยานั้น ๆ และแสดงพจน์หรือจำนวน (number) ได้
นามในภาษาฮังการีสามารถผันโดยใช้หน่วยคำเติมท้ายแสดงการก (case) ทั้งหมด 18 หน่วยคำ ส่วนใหญ่สอดคล้องกับคำบุพบทในภาษาอังกฤษ
รูปแบบการเรียงลำดับคำในประโยคของภาษาฮังการีนั้นไม่ได้มีการจำกัดไว้อย่างตายตัวอย่างภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษที่มีโครงสร้างแบบประธาน-กริยา-กรรม กำหนดไว้โดยหลักการทางภาษา โดยไม่สามารถสลับประธาน–กริยา–กรรมในประโยคได้ แตกต่างจากภาษาฮังการีซึ่งสามารถเรียงประโยคได้อย่างค่อนข้างอิสระ วางประธาน–กริยา–กรรมสลับกันได้ ภาษาฮังการีเป็นภาษาเน้นหัวข้อ (topic-prominent language) กล่าวคือ การเรียงลำดับคำในประโยคภาษาฮังการีจะเน้นไปที่หัวข้อ (topic) ในประโยคที่ผู้พูดอยากให้ความสำคัญในการสื่อสารเป็นหลัก การเรียงประโยคต่างกันก็จะมีการเน้นความสำคัญกับสิ่งที่ต้องการสื่อสารต่างกันไป
ลำดับคำ
ประโยคภาษาฮังการีที่เป็นกลาง (ไม่มีการเน้นความสำคัญสิ่งใดในประโยคเลย) จะมีลำดับคำแบบประธาน–กริยา–กรรมเหมือนภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ภาษาฮังการีเป็นภาษาที่ไม่จำเป็นต้องระบุหัวเรื่องอย่างชัดเจน และไม่จำเป็นต้องมีการเรียงตามที่หลักภาษากำหนด แต่จะมีการเรียงตามลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องการพูดในประโยคแทน โดยจะวางคำที่ต้องการให้เป็นจุดสำคัญของประโยคไว้หน้าคำกริยาแท้ (finite verb)
ประโยคฮังการีมักจะแบ่งได้เป็น 4 ส่วน ได้แก่ หัวข้อ (topic), จุดสำคัญ (focus), คำกริยา (verb) และข้อความส่วนที่เหลือ แต่ก็ไม่จำเป็นว่าในทุกประโยคจะต้องมีครบทั้งสี่อย่าง ในหนึ่งประโยค หัวข้อและข้อความส่วนที่เหลือจะมีกี่วลีก็ได้ แต่จุดสำคัญสามารถมีได้เพียงวลีเดียวเท่านั้น
การเน้นความสำคัญของคำในประโยค
ตารางด้านล่างแสดงให้เห็นคุณสมบัติการเรียงคำแบบสลับกัน เพื่อเน้นความสำคัญของสิ่งที่ผู้พูดต้องการสื่อในภาษาฮังการี โดยประโยคด้านล่างมาจากประโยคที่เป็นกลางว่า János tegnap elvitt két könyvet Péternek. ("ยาโนชเอาหนังสือ 2 เล่มไปให้เปแตร์เมื่อวาน") ประโยคนี้มีวลีหลัก ๆ อยู่ 4 วลี ได้แก่ János ("ยาโนช" เป็นชื่อบุคคลชาย), Péternek ["เปแตร์" เป็นชื่อบุคคลชาย; -nek คือหน่วยคำเติมท้ายที่แสดงว่าเป็นผู้ที่ประธาน (ยาโนช) เอาสิ่งของให้"], két könyvet ("หนังสือ 2 เล่ม"; ตัว -et ข้างหลังหมายความว่าหนังสือ 2 เล่มนี้เป็นกรรม) และ tegnap ("เมื่อวาน")
หัวข้อ | จุดสำคัญ | คำกริยา | ข้อความส่วนที่เหลือ | ความหมายพิเศษที่แฝงไว้ในประโยค | |
---|---|---|---|---|---|
János | tegnap | ∅ | elvitt | két könyvet Péternek. | ยาโนชเอาหนังสือสองเล่มไปให้เปแตร์เมื่อวานนี้ (กิจกรรมนี้เสร็จสมบูรณ์แล้วและไม่มีการเน้นอะไรในประโยคเป็นพิเศษ) |
János | tegnap | két könyvet | vitt el | Péternek. | สิ่งที่ยาโนชเอาไปให้เปแตร์เมื่อวานนี้คือ หนังสือ 2 เล่ม โดยเน้นว่าสิ่งที่เอาไปให้คือหนังสือ 2 เล่มจริง ๆ |
János | ∅ | tegnap | vitt el | két könyvet Péternek. | เมื่อวานนี้ คือเวลาที่ยาโนชเอาหนังสือสองเล่มไปให้เปแตร์ |
∅ | ∅ | János | vitt el | tegnap két könyvet Péternek. | ยาโนช คือคนที่เอาหนังสือไปให้เปแตร์เมื่อวานนี้ |
∅ | ∅ | Péternek | vitt el | tegnap János két könyvet. | เปแตร์ คือคนที่ยาโนชเอาหนังสือไปให้เมื่อวานนี้ |
János | tegnap | Péternek | vitt el | két könyvet. | เมื่อวานนี้ยาโนชหยิบหนังสือสองเล่มมาให้กับเปแตร์โดยเฉพาะ ไม่ได้เอาไปให้ใครอื่น |
∅ | ∅ | ∅ | Elvitt | János tegnap két könyvet Péternek. | ยาโนชเอาหนังสือสองเล่มไปให้เปแตร์เมื่อวานนี้ (การดำเนินการเสร็จสิ้นและตอนนี้หนังสืออยู่ที่บ้านของเปแตร์แล้ว) |
Két könyvet | tegnap | ∅ | elvitt | János Péternek. | ยาโนชเอาหนังสือสองเล่มไปให้เปแตร์ (บางทีอาจเอาของอย่างอื่นไปให้เขาด้วย อย่างไรก็ตามหนังสือทั้งสองเล่มอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด ตัวอย่างเช่น ยาโนชอาจทิ้งเอกสารของเปแตร์ไว้ที่บ้าน) |
∅ | ∅ | Két könyvet | vitt el | János tegnap Péternek. | ยาโนชเอาเพียงหนังสือ 2 เล่มไปให้เปแตร์ โดยไม่ได้เอาอย่างอื่นไปให้ด้วย |
ถ้าในประโยคใดมีจุดสำคัญปรากฏอยู่ หน่วยคำเติมหน้า (prefix) ที่อยู่หน้าคำกริยา เช่น el ใน elvitt จะย้ายไปอยู่ด้านหลังคำกริยาแทน กล่าวคือ พูดหรือเขียนเป็น vitt el แทนที่จะเป็น elvitt นับเป็นคุณสมบัติของภาษาฮังการีโดยเฉพาะ ปัญหาก็คือว่า ในกรณีประโยคนั้นใช้คำกริยาที่ไม่มีหน่วยคำเติมหน้า หากมีคำคำหนึ่งเรียงอยู่หน้าคำกริยา ก็จะเกิดความกำกวมว่าคำคำนั้นเป็นหัวข้อหรือเป็นจุดสำคัญ เช่นในประโยค Éva szereti a virágokat. ("เอวอชอบดอกไม้") คำว่า Éva ("เอวอ" เป็นชื่อบุคคลหญิง) อาจเป็นหัวข้อของประโยค และประโยคนี้เป็นประโยคแบบไม่มีจุดสำคัญ หรือคำว่า Éva อาจเป็นจุดสำคัญของประโยคซึ่งเน้นประโยคนี้ว่า "เอวอคือคนที่ชอบดอกไม้ (และไม่ใช่คนอื่น)"
ประโยค | การตีความ |
---|---|
Éva szereti a virágokat. | เอวอชอบดอกไม้ |
Szereti Éva a virágokat. | เอวอชอบดอกไม้ (ถึงแม้คนอื่นอาจจะไม่คิดแบบนั้นก็ตาม) |
Éva szereti a virágokat. | เอวอชอบดอกไม้ (และไม่ใช่คนอื่นที่ชอบดอกไม้) |
Éva a virágokat szereti. | เอวอชอบดอกไม้ (และไม่ใช่อย่างอื่น) |
A virágokat Éva szereti. | คนที่ชอบดอกไม้ก็คือเอวอ (ไม่ใช่คนอื่น ส่วนคนอื่นอาจจะชอบอย่างอื่น) |
A virágokat szereti Éva. | สิ่งที่เอวอชอบคือดอกไม้ (และไม่ชอบอย่างอื่นแล้ว) |
ระบบหน่วยคำ
ภาษาฮังการีเป็นภาษาคำติดต่อ ข้อมูลต่าง ๆ ในภาษาฮังการีนั้นเกือบทั้งหมดจะใช้หน่วยคำเติมท้ายในการบอกเล่า เช่น "อยู่บนโต๊ะ" = asztalon (หน่วยคำเติมท้ายบ่งบอกพื้นที่), เมื่อ 5 โมง = öt órakor (หน่วยคำเติมท้ายบ่งบอกเวลา) เป็นต้น แต่ก็ยังมีหน่วยคำเติมหน้าอยู่ 1 หน่วยคำ คือ leg- ซึ่งใช้บ่งบอกว่าสิ่งนี้คือที่สุด (superlative)
ตัวอย่างการวางหน่วยคำเติมท้ายในภาษาฮังการี
ในภาษาฮังการี มีการใช้เสียงเฉพาะเจาะจง (case/preposition) ลงท้ายที่แตกต่างกันสำหรับคำสรรพนามแต่ละตัว มีอยู่ทั้งหมด 8 แบบ สำหรับคำสรรพนามบุรุษที่ 1, 2 และ 3 (ฉัน เธอ เขา พวกเรา พวกเธอ พวกเขา คุณ พวกคุณ) โดยสามารถต่อกับคำสรรพนามเพื่อเปลี่ยนเป็นกรรมของประโยค (accusative), ต่อคำปัจฉบท (postposition) เพื่อเปลี่ยนบุคคลที่พูดถึง, ต่อคำนามเพื่อเปลี่ยนเป็นกรรม แสดงความเป็นเจ้าของ หรือเปลี่ยนเป็นพหูพจน์, และต่อกับคำกริยา เพื่อเปลี่ยนประธานผู้กระทำ และเปลี่ยนคำกริยาให้เป็นแบบชี้เฉพาะหรือไม่ชี้เฉพาะ
คำสรรพนาม | คำปัจฉบท | คำนาม | คำกริยา | ส่วนมูลฐาน ที่ใช้เติมข้างท้าย | |||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ประธาน | กรรม | + หน่วยคำเติมท้าย แสดงบุคคล | + หน่วยคำเติมท้าย แสดงบุคคล | + หน่วยคำเติมท้าย แสดงความเป็นเจ้าของ | กริยาปัจจุบัน แบบไม่ชี้เฉพาะ | กริยาปัจจุบัน แบบชี้เฉพาะ | |
ผู้กระทำ (เช่น ฉันตีเขา) | ผู้ถูกกระทำ (เช่น เขาตีฉัน) | อยู่ที่ฉัน (เช่น ปากกาอยู่ที่ฉัน) | อยู่ข้างใต้ฉัน | หอพักของฉัน | ฉันเห็นมัน (สิ่งไม่ชี้เฉพาะ เช่น หมาตัวหนึ่ง) | ฉันเห็นมัน (สิ่งชี้เฉพาะ เช่น หมาตัวนั้น) | |
én ("ฉัน") | engem | nálam | alattam | lakásom | látok | látom | -m โดยใช้สระเชื่อม -o/(-a)/-e/-ö หรือ -a/-e ตามหลักการสอดคล้องกลมกลืนของสระ |
te ("เธอ") | téged | nálad | alattad | lakásod | látsz | látod | -d โดยใช้สระเชื่อม -o/(-a)/-e/-ö หรือ -a/-e ตามหลักการสอดคล้องกลมกลืนของสระ |
ő ("เขา, มัน") | őt | nála | alatta | lakása | lát | látja | -a/-e |
mi ("พวกเรา") | minket | nálunk | alattunk | lakásunk | látunk | látjuk | -nk โดยใช้สระเชื่อม -u/-ü ตามหลักการสอดคล้องกลมกลืนของสระ |
ti ("พวกเธอ") | titeket | nálatok | alattatok | lakásotok | láttok | látjátok | -tok/-tek/-tök |
ők ("พวกมัน") | őket | náluk | alattuk | lakásuk | látnak | látják | -k |
สรรพนาม "คุณ, ท่าน" (ทางการ) | Maga ใช้สำหรับผู้ใหญ่พูดกับผู้น้อย เช่น หัวหน้าพูดกับพนักงาน, คนแก่พูดกับเด็ก Ön ใช้สำหรับผู้น้อยพูดกับผู้ใหญ่ เช่น พนักงานพูดกับหัวหน้า, เด็กพูดกับคนแก่ แต่หากสนิทกันแล้ว อาจเรียกกันโดยใช้คำสรรพนามที่ไม่เป็นทางการได้ | ||||||
Ön, Maga ("คุณ") | Önt Magát | Önnél Magánál | Ön alatt Maga alatt | az Ön lakása a Maga lakása | Ön lát Maga lát | Ön látja Maga látja | (-a/-e) |
Önök, Maguk ("พวกคุณ") | Önöket Magukat | Önöknél Maguknál | Önök alatt Maguk alatt | az Önök lakása a Maguk lakása | Önök látnak Maguk látnak | Önök látják Maguk látják | (-k) |
การใช้หน่วยคำเติมท้ายตามหลักการสอดคล้องกลมกลืนของสระ
เปิด | กลาง | ปิด | ||
ต่ำ | a á | o ó | u ú | |
สูง | ปากไม่ห่อ | e é | i í | |
ปากห่อ | ö ő | ü ű |
การเลือกหน่วยคำเติมท้ายในการต่อหลังคำในภาษาฮังการี ต้องใช้หลักการสอดคล้องกลมกลืนของสระต่ำ (low vowel) และสระสูง (high vowel) และหน่วยคำเติมท้ายบางตัวก็ยังแยกระหว่างสระปากไม่ห่อ (unrounded vowel ประกอบด้วย e, é, i, í) กับสระปากห่อ (rounded vowel ประกอบด้วย ö, ő, ü, ű)
หน่วยคำเติมท้ายคำต่อท้ายทั้งหมดในภาษาฮังการีสำหรับการกระจายคำกริยา (ให้เป็นกริยาแบบชี้เฉพาะและกริยาแบบไม่ชี้เฉพาะ), สำหรับแสดงความเป็นเจ้าของ, สำหรับการต่อคำบุพบทเพื่อเปลี่ยนบุคคลที่พูดถึง, และคำต่อท้ายที่เป็นเจ้าของ มีรูปแบบการใช้โดยใช้ "เสียงสระ" ของคำในการตัดสินว่าจะใช้หน่วยคำเติมท้ายเสียงใดในการต่อ ซึ่งตามหลักภาษาฮังการีสามารถแบ่งสระได้เป็น 6 แบบ (สระต่ำ, สระสูง, สระเสียงยาว, สระเสียงสั้น, สระปากห่อ และสระปากไม่ห่อ)