ราชอาณาจักรเวือร์ทเทิมแบร์ค
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
ราชอาณาจักรเวือร์ทเทิมแบร์ค (เยอรมัน: Königreich Württemberg) คือรัฐประเทศที่ใช้ชื่ออย่างเป็นทางการของ "รัฐบาเดิน-เวือร์ทเทิมแบร์ค ประเทศเยอรมนี" ในยุคปัจจุบัน เคยเป็นราชอาณาจักรหนึ่งของจักรวรรดิเยอรมัน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1806 - ค.ศ. 1918 ปัจจุบันอยู่ในเขตของรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทิมแบร์ค ประเทศเยอรมนี
Königreich Württemberg เคอนิจไรช์ เวือร์ทเทิมแบร์ค | |||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ค.ศ. 1806–ค.ศ. 1918 | |||||||||||
'เพลงชาติ: '"Württemberger Hymne" | |||||||||||
ราชอาณาจักรเวือร์ทเทิมแบร์คภายในจักรวรรดิเยอรมัน | |||||||||||
สถานะ | ราชอาณาจักร | ||||||||||
เมืองหลวง | ชตุทท์การ์ท | ||||||||||
ภาษาทั่วไป | ภาษาเยอรมัน | ||||||||||
การปกครอง | ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ | ||||||||||
พระเจ้าแผ่นดินแห่งเวือร์ทเทิมแบร์ค | |||||||||||
• ค.ศ. 1806-1816 | พระเจ้าฟรีดริชที่ 1 (องค์แรก) | ||||||||||
• ค.ศ. 1891-1918 | พระเจ้าวิลเฮล์มที่ 2 (องค์สุดท้าย) | ||||||||||
ประวัติศาสตร์ | |||||||||||
• ก่อตั้ง | ค.ศ. 1806 | ||||||||||
• การรวมตัวของ สาธารณรัฐไวมาร์ | ค.ศ. 1918 | ||||||||||
พื้นที่ | |||||||||||
ค.ศ. 1910 | 19,508 ตารางกิโลเมตร (7,532 ตารางไมล์) | ||||||||||
ประชากร | |||||||||||
• ค.ศ. 1910 | 2437574 | ||||||||||
|
ภูมิศาสตร์
เส้นเขตแดนของราชอาณาจักรเวือร์ทเทิมแบร์คถูกปักปันในปี ค.ศ. 1813 ตามตำแหน่งพิกัดทางภูมิศาสตร์ระหว่าง 47°34' และ 49°35' เหนือ และ 8°15' และ 10°30' ตะวันออก ช่วงยาวที่สุดระหว่างเหนือ-ใต้ คือ 225 กิโลเมตร ช่วงที่กว้างที่สุดระหว่างตะวันออก-ตะวันตก คือ 160 กิโลเมตร เส้นเขตแดนรวมยาวทั้งหมด 1800 กิโลมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 19,508 ตารางกิโลเมตร มีการแบ่งปันเขตแดนฝั่งตะวันออกกับราชอาณาจักรบาวาเรียและอีกสามส่วนกับราชรัฐบาเดิน ยกเว้นเขตแดนทางด้านทิศใต้ที่ติดกับรัฐโฮเฮนซอลเลิร์นและทะเลสาบคอนสตันซ์
ประวัติศาสตร์
วันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1806 ดุ๊กฟรีดริชที่ 2 ที่ขณะที่ครองราชสมบัติเทียบเทียมกับพระเจ้าฟรีดริชที่ 1 ทรงเพิกถอนรัฐธรรมนูญที่ผูกราชอาณาจักรเวือร์ทเทิมแบร์คเก่าและใหม่เข้าไว้ด้วยกัน และภายหลังได้ทรงบริหารทรัพย์สมบัติของโบสถ์ภายใต้การควบคุมของพระองค์ ในปี ค.ศ. 1806 ทรงได้นำราชอาณาจักรเข้าร่วมกับสมาพันธรัฐแห่งลุ่มแม่น้ำไรน์ และทรงได้รับอาณาเขตรวมถึงได้รับประชากรเพิ่มเติมอีก 160,000 คนภายหลังจากเข้าร่วมสหพันธ์ได้ไม่นานจากอาณาเขตและประชากรส่วนหนึ่งของเวียนนาในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1809 จากเดิมที่มีประชากรภายใต้การปกครองของพระองค์ 110,000 คน ต่อมาพระองค์ได้ทรงให้ความช่วยเหลือแก่ นโปเลียน โบนาปาร์ต ทำสงครามกับราชอาณาจักรปรัสเซีย จักรวรรดิออสเตรีย และจักรวรรดิรัสเซีย โดยการส่งพลทหารของพระองค์เข้าร่วมทัพกับนโปเลียน 16,000 คน แต่มีเพียงแค่ไม่กี่ร้อยคนที่สามารถเดินทัพกลับมาจากการไปร่วมรบที่มอสโก ต่อมาที่สมรภูมิแห่งไลพ์ซิก (Battle of Leipzig) (ตุลาคม ค.ศ. 1813) พระเจ้าฟรีดริชทรงได้ทำลายความฝันอันซีดเผือกของจักรพรรดิแห่งฝรั่งเศส นโปเลียน โบนาปาร์ต ลง จากการทำสนธิสัญญากับเมทเทอร์นิช ที่ฟัลดา ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1813 พระองค์ทรงปกป้องสิทธิอันชอบธรรมในการขึ้นครองราชสมบัติและการครอบครองอาณาเขตที่พระองค์พึ่งทรงยึดมาได้เมื่อไม่นานมานี้ ในขณะที่กองทัพและพันธมิตรของพระองค์เดินทัพไปยังฝรั่งเศส ต่อมาในปีค.ศ. 1815 ก็ทรงได้เข้าร่วมกับสหพันธรัฐเยอรมันแต่รัฐสภาแห่งเวียนนาได้ทำให้การเข้าร่วมสหพันธรัฐในครั้งนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการถือครองอาณาเขตเพิ่มเติม ในปีเดียวกันพระองค์ทรงปล่อยวางการเมืองของอาณาจักร ก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรจะร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่สุดท้ายก็ล้มเลิกไป ท่ามกลางความตื่นตกใจ พระเจ้าฟรีดริชก็สวรรคตในวันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ. 1816