ฤดูหนาวในประเทศไทย พ.ศ. 2561–2562
ในวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2561 ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของทิศทางลมชั้นบนระดับล่าง ได้เปลี่ยนเป็นลมตะวันออกหรือตะวันออกเฉียงเหนือ และลมชั้นบนระดับบนได้เปลี่ยนเป็นลมตะวันตก รวมถึงเกณฑ์ของอุณหภูมิและปริมาณฝนในตอนบนของประเทศได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง
ฤดูหนาวทางดาราศาสตร์ | 21 ธันวาคม – 20 มีนาคม |
---|---|
ฤดูหนาวทางอุตุนิยมวิทยา | 27 ตุลาคม – 21 กุมภาพันธ์ |
สำหรับฤดูหนาวทางดาราศาสตร์ เป็นฤดูกาลทางดาราศาสตร์ เมื่อตำแหน่งของวงโคจรโลกรอบดวงอาทิตย์ เคลื่อนเข้าสู่จุดอายัน (จุดหยุด กล่าวคือจุดที่ดวงอาทิตย์โคจรไปถึงใต้สุดหรือเหนือสุด) และจุดวิษุวัต (กลางคืนและกลางวันมีเวลาเท่ากัน) สำหรับปีนี้ ฤดูหนาวทางดาราศาสตร์เริ่มต้นในวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2561 (วันอายันเดือนธันวาคม พ.ศ. 2561) และไปสิ้นสุดในวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2562 (วันวิษุวัตเดือนมีนาคม พ.ศ. 2562)
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศการเข้าสู่ฤดูร้อน ทำให้ฤดูหนาว พ.ศ. 2561–2562 สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ
ภูมิหลัง
ฤดูของประเทศไทยแบ่งเป็น 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน (กลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม), ฤดูฝน (กลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม) และฤดูหนาว (กลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์) ซึ่งฤดูหนาวเริ่มขึ้นเมื่อมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดเข้าปกคลุมประเทศไทย โดยเริ่มต้นอากาศจะแปรปรวน ไม่แน่นอน อาจมีอากาศเย็น หรือฝนฟ้าคะนอง โดยเฉพาะภาคกลางตอนล่าง
มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีแหล่งกำเนิดจะบริเวณความกดอากาศสูงในซีกโลกเหนือแถบประเทศมองโกเลียและจีน ซึ่งจะพัดพาเอามวลอากาศเย็นและแห้งเข้ามาในประเทศไทย ทำให้ท้องฟ้าปลอดโปร่ง อากาศจะหนาวเย็นและแห้งโดยทั่วไปในประเทศไทยตอนบน แต่จะทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกเนื่องจากนำเอาความชื้นจากอ่าวไทยเข้าไปในพื้นที่
ในภาคกลาง, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ อุณหภูมิจะแตกต่างกันมากในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาว ซึ่งในฤดูหนาวอุณหภูมิต่ำสุดในตอนเช้าจะอยู่เกณฑ์หนาวถึงหนาวจัดในเดือนธันวาคมถึงมกราคม ซึ่งอุณหภูมิอาจลดลงได้จนต่ำกว่าจุดเยือกแข็งในพื้นที่ที่มีภูมิประเทศเป็นเทือกเขาหรือยอดเขาสูงของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลมพื้นผิวโดยมากเป็นลมฝ่ายเหนือและลมตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนความชื้นสัมพัทธ์จะลดลงอย่างชัดเจน
อุณหภูมิต่ำที่สุดในประเทศไทยที่เคยวัดได้ในระหว่างปี พ.ศ. 2494 ถึง พ.ศ. 2558 คือ -1.4 องศาเซลเซียส ที่สถานีอากาศเกษตร (สกษ.) สกลนคร จังหวัดสกลนคร ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2517
ส่วนอุณหภูมิต่ำสุดของภาคอื่น ๆ มีดังนี้
- ภาคเหนือวัดได้ 0.8 องศาเซลเซียส ที่อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2542
- ภาคกลางวัดได้ 5.2 องศาเซลเซียส ที่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2536
- ภาคตะวันออกวัดได้ 7.6 องศาเซลเซียส ที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2506
- ภาคใต้ฝั่งตะวันออกวัดได้ 6.4 องศาเซลเซียส ที่สถานีอากาศเกษตรหนองพลับ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2542
- ภาคใต้ฝั่งตะวันตกวัดได้ 13.7 องศาเซลเซียส ที่อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง เมื่อวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2499
ส่วนกรุงเทพมหานครวัดได้ 9.9 องศาเซลเซียส ที่สถานีตรวจอากาศเฉลิมพระเกียรติ แขวงคลองเตย เขตคลองเตย เมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2498
การพยากรณ์ฤดูกาล
ประเภทอากาศหนาว | |
---|---|
อุณหภูมิ | ความหมาย |
18.0–22.9 | อากาศเย็น |
16.0–17.9 | อากาศค่อนข้างหนาว |
8.0–15.9 | อากาศหนาว |
≤7.9 | อากาศหนาวจัด |
ประเภทอากาศร้อน | |
อุณหภูมิ | ความหมาย |
35.0–39.9 | อากาศร้อน |
≥40.0 | อากาศร้อนจัด |
วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2561 กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศ การคาดหมายลักษณะอากาศช่วงฤดูหนาวของประเทศไทย พ.ศ. 2561–2562 โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายว่า อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยจะสูงกว่าค่าปกติ 0.1 ถึง 1.1°ซ (ที่ประมาณ 20–21°ซ) ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ตอนบนของภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอุณหภูมิต่ำสุดจะอยู่ที่ 6–7°ซ ส่วนอุณหภูมิต่ำสุดของกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะอยู่ที่ 15–16°ซ โดยช่วงที่หนาวเย็นที่สุดจะอยู่ในช่วงครึ่งหลังของเดือนธันวาคม พ.ศ. 2561 ถึงช่วงปลายเดือนมกราคม พ.ศ. 2562 สำหรับภาคใต้ตอนบนอาจมีอากาศเย็นบางวัน และจะมีฝนตกชุกตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป
ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนพฤศจิกายน จะมีอากาศเย็นเกือบทั่วไป บางแห่งมีอากาศหนาวได้ในบางวัน มีหมอกในตอนเช้า และยังจะมีฝนฟ้าคะนองอยู่เล็กน้อย ต่อมาในเดือนธันวาคมถึงปลายเดือนมกราคม จะมีอากาศหนาวเย็นทั่วไป มีอากาศหนาวจัดได้บางแห่งแถบจังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดเชียงราย จังหวัดพะเยา จังหวัดน่าน จังหวัดเลย จังหวัดสกลนครและจังหวัดนครพนม บางพื้นที่อาจมีหมอกหนา และบนยอดเขาสามารถเกิดน้ำค้างแข็งได้ ซึ่งต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ อากาศจะอุ่นขึ้นและเริ่มมีอากาศร้อน
ในภาคกลางและภาคตะวันออก ปลายเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนพฤศจิกายน หลายพื้นที่ในตอนบนของภาคจะมีอากาศเย็น มีหมอกในตอนเช้า รวมถึงยังมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อยอยู่ ต่อมาในเดือนธันวาคมถึงมกราคม อากาศจะเย็นเกือบทั่วไป มีอากาศหนาวได้ในบางพื้นที่ในตอนบนของภาคและตามภูเขา โดยในเดือนกุมภาพันธ์ อากาศจะอุ่นขึ้น หลายพื้นที่มีอากาศร้อน แต่ตอนบนจะยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้าอยู่ ส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน จะมีอากาศเย็นบางแห่งบางวัน และมีฝนได้ถึงร้อยละ 30 เดือนธันวาคมถึงมกราคม อากาศจะเย็นในหลายพื้นที่ มีอากาศหนาวได้บางแห่งบางวัน ส่วนในเดือนกุมภาพันธ์ อากาศจะแปรปรวน อุณหภูมิอุ่นขึ้น อาจมีอากาศเย็นตอนเช้าในบางวัน ในตอนกลางวันอากาศร้อน
ส่วนภาคใต้ จะมีฝนชุกหนาแน่น อาจมีฝนได้ถึงร้อยละ 80 ในภาคใต้ฝั่งตะวันออก ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป และร้อยละ 60 สำหรับภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยตั้งแต่ช่วงประมาณปลายเดือนมกราคม ภาคใต้ฝั่งตะวันออกฝนจะลดลง ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันตกฝนจะลดลงในช่วงเดือนธันวาคม โดยในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม มักมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ก่อตัวในทะเลจีนใต้ และทวีกำลังขึ้นเป็นพายุหมุนเขตร้อน และเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ หรือเคลื่อนลงสู่อ่าวไทย ซึ่งอาจทำให้มีฝนตกเป็นบริเวณกว้างได้
ภาค | พฤศจิกายน 2561 | ธันวาคม 2561 | มกราคม 2562 | กุมภาพันธ์ 2562 | ||
---|---|---|---|---|---|---|
ครึ่งแรก | ครึ่งหลัง | |||||
ภาคเหนือ | ตอนบน | 18–20°ซ | 14–16°ซ | 14–16°ซ | 15–17°ซ | 17–19°ซ |
ตอนล่าง | 20–22°ซ | 16–18°ซ | 16-18°ซ | 17–19°ซ | 19–21°ซ | |
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | ตอนบน | 19–21°ซ | 16–18°ซ | 16–18°ซ | 16–18°ซ | 18-20°ซ |
ตอนล่าง | 21–23°ซ | 18–20°ซ | 18–20°ซ | 18–20°ซ | 20–22°ซ | |
ภาคกลาง | 22–24°ซ | 20–22°ซ | 20–22°ซ | 22–24°ซ | 23–25°ซ | |
ภาคตะวันออก | 23–25°ซ | 21–23°ซ | 21–23°ซ | 22–24°ซ | 23–25°ซ | |
ภาคใต้ | ฝั่งตะวันออก | 23–25°ซ | 22–24°ซ | 21–23°ซ | 22–24°ซ | |
ฝั่งตะวันตก | 23–25°ซ | 22–24°ซ | 22–24°ซ | 22–24°ซ | ||
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล | 23–25°ซ | 21–23°ซ | 21–23°ซ | 23–25°ซ | 24–26°ซ |
ภาคและจังหวัด | อุณหภูมิต่ำสุดคาดหมาย | อุณหภูมิต่ำสุดฤดูกาลก่อน | |||
---|---|---|---|---|---|
ธันวาคม 2561 | มกราคม 2562 | ธันวาคม 2560 | มกราคม 2561 | ||
ภาคเหนือ | เชียงราย | 6–8°ซ | 7–9°ซ | 6.0°ซ | 9.7°ซ |
เชียงใหม่ | 9–11°ซ | 10–12°ซ | 9.6°ซ | 12.5°ซ | |
พิษณุโลก | 12–14°ซ | 15–17°ซ | 12.5°ซ | 16.6°ซ | |
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | เลย | 6–8°ซ | 7–9°ซ | 6.7°ซ | 12.0°ซ |
นครพนม | 6–8°ซ | 7–9°ซ | 6.0°ซ | 9.6°ซ | |
นครราชสีมา | 12–14°ซ | 13–15°ซ | 12.8°ซ | 14.9°ซ | |
อุบลราชธานี | 12–14°ซ | 13–15°ซ | 12.2°ซ | 14.1°ซ | |
ภาคกลาง | นครสวรรค์ | 12–14°ซ | 14–16°ซ | 11.5°ซ | 15.9°ซ |
สุพรรณบุรี | 14–16°ซ | 15–17°ซ | 14.4°ซ | 16.4°ซ | |
กาญจนบุรี | 13–15°ซ | 15–17°ซ | 13.9°ซ | 16.9°ซ | |
กรุงเทพมหานคร | 15–17°ซ | 15–17°ซ | 14.8°ซ | 18.0°ซ | |
ภาคตะวันออก | สระแก้ว | 12–14°ซ | 14–16°ซ | 12.9°ซ | 15.6°ซ |
ชลบุรี | 15–17°ซ | 15–17°ซ | 15.9°ซ | 18.5°ซ | |
ภาคใต้ | ประจวบคีรีขันธ์ | 17–19°ซ | 18–20°ซ | 17.8°ซ | 19.0°ซ |
ภูเก็ต | 20–22°ซ | 19–21°ซ | 20.5°ซ | 19.5°ซ |
เหตุการณ์
เดือนตุลาคม
- วันที่ 27 ตุลาคม ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ ตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา
เดือนธันวาคม
ความกดอากาศสูงกำลังแรง 13-17 ธันวาคม
วันที่ 13 ธันวาคม กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศว่าในบริเวณภาคเหนืออุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณเทือกเขาสูงในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด โดยมีอุณหภูมิต่ำสุด 5-11 องศาเซลเซียส ส่วนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิอาจลดลงได้ 1-3 องศาเซลเซียส
ความกดอากาศสูงกำลังแรง 27 ธันวาคม-2 มกราคม
วันที่ 24 ธันวาคม กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศว่า วันที่ 27 ธันวาคมถึง 2 มกราคม บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจะลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน รวมถึงจะมีคลิ่นกระแสลมตะวันตกปกคลุมภาคเหนือ ทำให้จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้น จากนั้นอุณหภูมิจะลดลงได้ 5-7 องศาเซลเซียส เริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อนและตามด้วยบริเวณอื่นของประเทศไทยตอนบน
วันที่ 25 ธันวาคม ภาคเหนือมีอากาศเย็นลง โดยอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์มีเหมยขาบเกิดขึ้น มีอุณหภูมิต่ำสุดบริเวณยอดดอย 6 องศาเซลเซียส ส่วนที่จุดชมวิวกิ่วแม่ปานมีอุณหภูมิ 2 องศาเซลเซียส
วันที่ 27 ธันวาคม บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงลงมาปกคลุมถึงตอนบนของประเทศเวียดนาม โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าบริเวณความกดอากาศสูงจะลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงกลางคืน และจะปกคลุมประเทศไทยตอนบนตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม และอากาศหนาวเย็นลงในวันที่ 29 ธันวาคม
สถิติอุณหภูมิต่ำที่สุด
ภาคและจังหวัด | อุณหภูมิต่ำที่สุดระหว่าง พ.ศ. 2494 ถึง 2560 | อุณหภูมิต่ำสุดฤดูกาลนี้ | |||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
พฤศจิกายน | ธันวาคม | มกราคม | กุมภาพันธ์ | พฤศจิกายน 2561 | ธันวาคม 2561 | มกราคม 2562 | กุมภาพันธ์ 2562 | ||||||||||||||
อุณหภูมิ | วันที่ | ปี | อุณหภูมิ | วันที่ | ปี | อุณหภูมิ | วันที่ | ปี | อุณหภูมิ | วันที่ | ปี | อุณหภูมิ | วันที่ | อุณหภูมิ | วันที่ | อุณหภูมิ | วันที่ | อุณหภูมิ | วันที่ | ||
ภาคเหนือ | เชียงราย | 5.0°ซ | 21 | 2514 | 1.5°ซ | 25 | 2542 | 1.5°ซ | 2 | 2517 | 6.5°ซ | 11 | 2506 | 12.5°ซ | 27 | 11.2°ซ | 26/27 | 10.5°ซ | 26 | 9.3°ซ | 6 |
เชียงใหม่ | 6.0°ซ | 21 | 2514 | 3.8°ซ | 25 | 2542 | 3.7°ซ | 2 | 2517 | 7.3°ซ | 3 | 2517 | 16.8°ซ | 27/28 | 14.9°ซ | 27/28 | 15.6°ซ | 3/4/20 | 14.3°ซ | 8/9 | |
พิษณุโลก | 12.1°ซ | 29 | 2526 | 8.9°ซ | 26 | 2542 | 7.5°ซ | 13 | 2498 | 10.0°ซ | 9 | 2559 | 18.2°ซ | 2 | 16.7°ซ | 27/28 | 16.7°ซ | 27/28 | 17.6°ซ | 5 | |
ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ | เลย | 5.6°ซ | 30 | 2499 | 2.2°ซ | 31 | 2516 2518 | 0.1°ซ | 2 | 2517 | 6.2°ซ | 1 | 2506 | 16.0°ซ | 26 | 15.0°ซ | 26 | 12.9°ซ | 27 | 15.4°ซ | 7 |
นครพนม | 7.2°ซ | 23 | 2498 | 4.1°ซ | 30 | 2518 | 1.8°ซ | 12 | 2498 | 8.0°ซ | 13 | 2517 | 14.7°ซ | 1 | 12.5°ซ | 31 | 13.1°ซ | 1 | 17.1°ซ | 1 | |
นครราชสีมา | 9.1°ซ | 30 | 2499 | 6.2°ซ | 31 | 2518 | 4.9°ซ | 12 | 2498 | 10.6°ซ | 21 | 2498 | 17.9°ซ | 1/2 | 16.9°ซ | 31 | 16.8°ซ | 27/28 | 19.4°ซ | 1/2 | |
อุบลราชธานี | 12.5°ซ | 22 | 2497 | 8.5°ซ | 30 | 2518 | 7.6°ซ | 12 | 2498 | 11.5°ซ | 8 11 | 2559 2520 | 17.9°ซ | 1 | 16.3°ซ | 31 | 15.8°ซ | 23 | 19.2°ซ | 1 | |
ภาคกลาง | นครสวรรค์ | 11.9°ซ | 28 19 29 | 2499 2514 2526 | 7.7°ซ | 25 | 2542 | 6.1°ซ | 13 | 2498 | 10.4°ซ | 9 | 2559 | 19.4°ซ | 1/2 | 18.1°ซ | 26 | 17.7°ซ | 28 | 20.6°ซ | 1 |
สุพรรณบุรี | 14.5°ซ | 30 18 | 2499 2514 | 10.0°ซ | 31 | 2518 | 9.2°ซ | 13 | 2498 | 12.0°ซ | 6 | 2500 | 17.8°ซ | 1 | 19.8°ซ | 26 | 17.3°ซ | 28/28 | 20.9°ซ | 1 | |
กาญจนบุรี | 11.6°ซ | 17 | 2514 | 6.8°ซ | 31 | 2518 | 5.5°ซ | 13 | 2498 | 12.1°ซ | 13 | 2517 | 18.6°ซ | 1 | 20.2°ซ | 27 | 18.5°ซ | 27 | 21.6°ซ | 1 | |
กรุงเทพมหานคร | 14.2°ซ | 17 | 2514 | 10.5°ซ | 30 | 2518 | 9.9°ซ | 12 | 2498 | 14.9°ซ | 13 | 2517 | 21.2°ซ | 1 | 21.5°ซ | 31 | 20.2°ซ | 24 | 24.1°ซ | 11 | |
ภาคตะวันออก | สระแก้ว | 14.7°ซ | 6 | 2543 | 9.0°ซ | 24 | 2542 | 11.4°ซ | 12 | 2552 | 13.0°ซ | 8 | 2559 | 20.9°ซ | 26/27 | 19.0°ซ | 31 | 18.5°ซ | 24 | 22.5°ซ | 1 |
ชลบุรี | 14.2°ซ | 16 | 2514 | 12.0°ซ | 29 | 2518 | 9.9°ซ | 12 | 2498 | 16.0°ซ | 8 | 2559 | 22.5°ซ | 1 | 21.1°ซ | 31 | 21.0°ซ | 1 | 24.7°ซ | 18/19 | |
ภาคใต้ | ประจวบคีรีขันธ์ | 13.0°ซ | 22 | 2497 | 11.4°ซ | 31 | 2499 | 10.5°ซ | 19 | 2506 | 12.2°ซ | 6 | 2500 | 21.9°ซ | 1 | 21.2°ซ | 26 | 20.0°ซ | 28/29 | 22.0°ซ | 19 |
ภูเก็ต | 19.3°ซ | 23 | 2497 | 18.4°ซ | 1 | 2525 | 17.4°ซ | 4 | 2500 | 18.6°ซ | 18 | 2526 | 23.8°ซ | 19 | 22.4°ซ | 28 | 23.5°ซ | 5 | 24.2°ซ | 9 | |
อ้างอิงข้อมูล | การคาดหมายลักษณะอากาศช่วงฤดูหนาวของกรมอุตุนิยมวิทยา สถิติอุณหภูมิต่ำที่สุดช่วงฤดูหนาวของประเทศไทยคาบ 67 ปี พ.ศ. 2494–2560 | ระบบตรวจอากาศอัตโนมัติ กรมอุตุนิยมวิทยา |
อ้างอิง
- ↑ (PDF). www.tmd.go.th. กรมอุตุนิยมวิทยา. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561. สืบค้นเมื่อ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561. Check date values in:
|accessdate=, |archivedate=
(help) - ↑ . http://www.metoffice.gov.uk/. Met Office. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561. สืบค้นเมื่อ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561. Check date values in:
|accessdate=, |archivedate=
(help); External link in|website=
(help) - "Meteorological Versus Astronomical Summer—What's the Difference?". https://www.ncdc.noaa.gov/. NOAA. สืบค้นเมื่อ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559. Check date values in:
|accessdate=
(help); External link in|website=
(help) - (PDF). www.tmd.go.th. กรมอุตุนิยมวิทยา. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562. สืบค้นเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562. Check date values in:
|accessdate=, |archivedate=
(help) - "ฤดูกาลของประเทศไทย". http://www.tmd.go.th/. กรมอุตุนิยมวิทยา. สืบค้นเมื่อ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559. Check date values in:
|accessdate=
(help); External link in|website=
(help) - ↑ (PDF). http://www.tmd.go.th/. กรมอุตุนิยมวิทยา. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559. สืบค้นเมื่อ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559. Check date values in:
|accessdate=, |archivedate=
(help); External link in|website=
(help) - (PDF). http://www.tmd.go.th/. กรมอุตุนิยมวิทยา. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559. สืบค้นเมื่อ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559. Check date values in:
|accessdate=, |archivedate=
(help); External link in|website=
(help) - (PDF). http://www.tmd.go.th/. กรมอุตุนิยมวิทยา. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559. สืบค้นเมื่อ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559. Check date values in:
|accessdate=, |archivedate=
(help); External link in|website=
(help) - ↑ . https://archive.org/web/. กรมอุตุนิยมวิทยา. สืบค้นเมื่อ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561. Check date values in:
|accessdate=
(help); External link in|website=
(help) - (PDF). www.tmd.go.th. กรมอุตุนิยมวิทยา. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561. สืบค้นเมื่อ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561. Check date values in:
|accessdate=, |archivedate=
(help) - (PDF). www.tmd.go.th. กรมอุตุนิยมวิทยา. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561. สืบค้นเมื่อ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561. Check date values in:
|accessdate=, |archivedate=
(help) - . www.tmd.go.th. ไทยรัฐ. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561. สืบค้นเมื่อ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561. Check date values in:
|accessdate=, |archivedate=
(help) - (PDF). www.tmd.go.th. กรมอุตุนิยมวิทยา. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561. สืบค้นเมื่อ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561. Check date values in:
|accessdate=, |archivedate=
(help) - (PDF). http://www.tmd.go.th/. กรมอุตุนิยมวิทยา. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561. สืบค้นเมื่อ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561. Check date values in:
|accessdate=, |archivedate=
(help); External link in|website=
(help) - Thai Meteorological Department Automatic Weather System