พระยาชลยุทธโยธินทร์ (อองเดร ดู เปลซี เดอ ริเชอลิเออ)
พลเรือโท พระยาชลยุทธโยธินทร์ (อองเดร ดู เปลซี เดอ รีเชอลีเออ) หรือ กัปตันริเชอลิเออ (ฝรั่งเศส: André du Plessis de Richelieu หรือ Andreas du Plessis de Richelieu, 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2395 - 25 มีนาคม พ.ศ. 2476) อดีตผู้บัญชาการทหารเรือของกองทัพเรือสยาม เป็นรองผู้บัญชาการการรบของไทยในวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2436 และเป็นผู้ออกแบบป้อมพระจุลจอมเกล้า
พระยาชลยุทธโยธินทร์ (อองเดร ดูว์ เปลซี เดอ รีเชอลีเยอ) | |
---|---|
เกิด | 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2395 |
เสียชีวิต | 25 มีนาคม พ.ศ. 2476 (81 ปี) |
ตำแหน่ง | ผู้บัญชาการทหารเรือแห่งราชนาวีสยาม |
วาระ | 16 มกราคม พ.ศ. 2443 - 29 มกราคม พ.ศ. 2444 |
ผู้ดำรงตำแหน่งก่อน | นายพลเรือตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม |
ผู้สืบตำแหน่ง | จอมพลเรือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช |
ศาสนา | ศาสนจักรเดนมาร์ก (ลูเทอรัน) |
คู่สมรส | คุณหญิงชลยุทธโยธินทร์ (ดัคมาร์ เลิช) |
ในเอกสารของฝ่ายไทยมีการสะกดชื่อของท่านไว้หลายแบบ เช่น ริเชลิว ริชลิว ริเชอลิเออ เป็นต้น
ประวัติการทำงาน
กัปตันริเชอลิเออ เป็นชาวเดนมาร์ก เชื้อสายฝรั่งเศส โดยสืบเชื้อสายมาจากพระคาร์ดินัล อาร์ม็อง ฌ็อง ดูว์ เปลซี เดอ รีเชอลีเยอ (Armand Jean du Plessis de Richelieu) อัครเสนาบดีและที่ปรึกษาของพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 แห่งฝรั่งเศส เข้ามารับราชการในกองทัพเรือตั้งแต่ปี พ.ศ. 2418 เป็นผู้บังคับกองเรือ พิทยัมรณยุทธ (Regent) ที่ภูเก็ต กระทั่งวันอังคาร เดือนห้า ขึ้นสามค่ำ ปีมะแม เบญจศก จุลศักราช 1245 ตรงกับปี พ.ศ. 2426 กัปตันริเชลิเออขณะมีบรรดาศักดิ์เป็น "หลวงชลยุทธโยธินทร์" ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น "พระชลยุทธโยธินทร์" ถือศักดินา 800
ในปี พ.ศ. 2428 กัปตันริเชอลิเออเป็นผู้ออกแบบและควบคุมงานก่อสร้างป้อมพระจุลจอมเกล้าบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ใช้ป้อมปืนแบบทันสมัยล่าสุดจากประเทศอังกฤษ ที่มีชื่อว่า "ปืนเสือหมอบ" ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2436 ทำการทดลองยิงครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2436 ก่อนวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 เพียงเดือนเศษ
ในปี พ.ศ. 2430 กัปตันริเชอลิเออ ร่วมหุ้นกับ กัปตันอัลเฟรด จอห์น ลอฟตัส หรือ พระนิเทศชลธีเปิดบริษัททำการเดินรถราง เป็นครั้งแรก เส้นทางจากตำบลบางคอแหลม ผ่านถนนเจริญกรุง ไปสิ้นสุดที่ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร เป็นรถรางสายแรกในเอเชีย ต่อมาในปี พ.ศ. 2437 ได้พัฒนาเป็นรถรางเดินด้วยไฟฟ้า เริ่มเดินรถครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2437 ก่อตั้งบริษัทไฟฟ้าสยาม ทำการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า นอกจากนี้ท่านยังก่อตั้งบริษัทรถไฟปากน้ำซึ่งเปิดดำเนินการ รถไฟ สาย กรุงเทพ-สมุทรปราการ (ทางรถไฟสายปากน้ำ) ขนส่งผู้โดยสารและสินค้า ระยะทาง 21 กิโลเมตร เป็นสายแรก เมื่อ พ.ศ. 2436
ในช่วงวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 กัปตันริเชอลิเออ เป็นผู้นำทหารเรือชาวเดนมาร์กเข้าร่วมรบต่อสู้กับกองเรือฝรั่งเศสที่ปากน้ำ ทั้งที่กงสุลเดนมาร์กมีคำสั่งไม่ให้ชาวเดนมาร์กเข้ายุ่งเกี่ยวในการศึกครั้งนี้ ขณะนั้นท่านมียศเป็นพลเรือจัตวา ตำแหน่งรองผู้บัญชาการทหารเรือ ภายหลังการรบท่านได้รับพระราชทานยศเป็น พลเรือตรี พระยาชลยุทธโยธินทร์ และต่อมาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารเรือ ดำรงตำแหน่งระหว่างวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2443 - 29 มกราคม พ.ศ. 2444 กราบบังคมทูลลาออกจากราชการ เพื่อเดินทางกลับประเทศเดนมาร์ก นับเป็นผู้บัญชาการทหารเรือคนแรกและคนเดียวที่เป็นชาวต่างประเทศ
อีกเรื่องหนึ่งที่ได้รับมอบหมาย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้มีการหล่อพระพุทธชินราช (จำลอง) ขึ้นที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก โปรดเกล้าให้พระยาชลยุทธโยธินทร์ อัญเชิญนำขึ้นแพ ล่องเรือมาคุมองค์และแต่งที่กรมทหารเรือ โดยเป็นผู้ควบคุมการแต่งองค์พระ เสร็จแล้วเชิญลงเรือมณฑปแห่ไปประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ปีเดียวกัน
เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสยุโรป พระยาชลยุทธโยธินทร์รับหน้าที่กัปตันเรือพระที่นั่งทุกครั้ง
ชีวิตส่วนตัว
พระยาชลยุทธโยธินทร์ สมรสกับนางสาวดัคมาร์ เลิช (Dagmar Lousie Lerche) ธิดานายเอฟ. เลิช ผู้พิพากษาชาวเดนมาร์ก มีบุตรธิดา 3 คน คือ
- Mr. Louis de Richelieu
- Mr. Helge de Richelieu
- Madame Schestede Juul
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
เดนมาร์ก
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์แดนเนอบรอก ชั้น Chamberlain และชั้นที่ 2 (Knight Grand Cross)
สยาม
- พ.ศ. 2424 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 3 ตริตาภรณ์ช้างเผือก (ต.ช.)
- พ.ศ. 2433 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 2 ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.)
- พ.ศ. 2444 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)
- ประถมาภรณ์มงกฏสยาม
- ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ
- เหรียญดุษฎีมาลา
- เหรียญจักรมาลา
- พ.ศ. 2444 - เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 5 ชั้นที่ 1 (จ.ป.ร.1)
ประเทศอื่นๆ
- เครื่องอิสริยาภรณ์เลฌียงดอเนอร์ (France)
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์เซ็นต์ซาเวีย (กรีซ)
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์มงกุฎอิตาลี ชั้นที่ 2
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์มงกุฎ ชั้นที่ 2 (ปรัสเซีย)
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์นักบุญสตานิสเลาส์ ชั้นที่ 1 (จักรวรรดิรัสเซีย)
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์ดาบ (สวีเดน)
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์เมจีดีเย ชั้นที่ 2 (จักรวรรดิออตโตมัน)
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์ฟรานซ์โจเซฟ (ออสเตรีย-ฮังการี)
สิ่งสืบเนื่อง
- หินริเชลิว (Richelieu Rock) ปะการังใต้น้ำบริเวณอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา มาจากชื่อของกัปตันริเชอลิเออ
ยศและบรรดาศักดิ์
- หลวงชลยุทธโยธินทร์
- พ.ศ. 2426 พระชลยุทธโยธินทร์
- พ.ศ. 2431 พลเรือจัตวา
- 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2434 พระยาชลยุทธโยธินทร์ ถือศักดินา 2000
- 4 เมษายน พ.ศ. 2440 พลเรือตรี
อ้างอิง
- พระราชทานสัญญาบัตร (หน้า 313)
- สำเนาสัญญาบัตร ปีจออัฐศก
- พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งตำแหน่งผู้รั้งผู้บัญชาการกรมทหารเรือ
- http://www.exnavalcadet.com/sara/view.php?No=50101
- สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และ หม่อมเจ้าหญิง จงจิตรถนอม ดิศกุล. จดหมายถึงหญิงใหญ่ (ฉบับชำระใหม่). กรุงเทพ : สถาพรบุ๊คส์, 2551. ISBN 9789741665358
- ↑ พระราชทานพระบรมราชานุญาตเครื่องราชอิศริยาภรณ์ต่างประเทศ
- พระราชทานตราเครื่องราชอิสริยยศ (หน้า 543)
- พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ ฝ่ายหน้า และฝ่ายใน
- พระราชทานสัญญาบัตรข้าราชการฝ่ายทหารและพลเรือน
- พระราชทานสัญญาบัตร
- พระราชทานสัญญาบัตร (หน้า 38-39)
บรรณานุกรม
- ณัฐนันท์ สอนพรินทร์ (2550). เจาะลึก สมาคมลับ กับการปฏิวัติโลก. อมรินทร์บุ๊ค. ISBN 9789747489880. Check date values in:
|year=
(help)
ก่อนหน้า | พระยาชลยุทธโยธินทร์ (อองเดร ดู เปลซี เดอ ริเชอลิเออ) | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
นายพลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม | ผู้บัญชาการกรมทหารเรือ (16 มกราคม พ.ศ. 2443 - 29 มกราคม พ.ศ. 2444) | จอมพลเรือ สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช |