fbpx
วิกิพีเดีย

สมัยศรีสันธร

อาณาจักรเขมร มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองศรีสุนทร หรือ ศรีสอช่อ (Srei Sonthor) ตั้งแต่พ.ศ. 2136 ถึง พ.ศ. 2161 เป็นราชธานีในระยะเวลาสั้น เสมือนเป็นช่วงส่งทอดระหว่างความวุ่นวายหลังการเสียกรุงละแวก กับการตั้งหลักปักฐานใหม่ของอาณาจักรเขมรที่กรุงอุดงฦาไชย

ประวัติศาสตร์กัมพูชา
ประวัติศาสตร์ยุคแรก
อาณาจักรฟูนาน (611–1093)
อาณาจักรเจนละ (1093–1345)
จักรวรรดิเขมร (1345–1974)
ยุคมืด
สมัยจตุมุข (1974–2068)
สมัยละแวก (2068–2136)
สมัยศรีสันธร (2136–2162)
สมัยอุดง (2162–2406)
ยุครัฐในอารักขา
ไทยและเวียดนาม
อาณานิคมฝรั่งเศส (2406–2496)
ส่วนหนึ่งของอินโดจีนฝรั่งเศส
ยุคญี่ปุ่นยึดครอง (2484–2489)
หลังได้รับเอกราช
สงครามกลางเมืองกัมพูชา
(2510–2518)
รัฐประหาร พ.ศ. 2513
สาธารณรัฐเขมร
สงครามเวียดนาม พ.ศ. 2513
ยุคเขมรแดง
(2518–2519)
สงครามกัมพูชา–เวียดนาม (2518–2532)
สาธารณรัฐประชาชนกัมพูชา
(2522–2536)
การจัดการเลือกตั้งโดยสหประชาชาติ
ราชอาณาจักรกัมพูชา
(2536–ปัจจุบัน)
หลังการเลือกตั้ง พ.ศ. 2536

เหตุการณ์เสียกรุงละแวก

 
วัดนคร วัดสมัยกรุงศรีสุนทรที่จังหวัดกำปงจาม

สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกรีฑาทัพบุกเข้าตีเมืองกัมพูชาในพ.ศ. 2136 สมเด็จพระบรมราชาฯพระสัตถาพร้อมพระราชโอรสสองพระองค์ สมเด็จพระไชยเชษฐาธิราช และสมเด็จพระบรมราชาฯ เสด็จหนีไปยังเมืองศรีสุนทร และต่อมาในพ.ศ. 2137 สามกษัตริย์ได้พากันเสด็จหนีไปเมืองสเต็งตรึงของล้านช้าง สมเด็จพระสัตถาและสมเด็จพระไชยเชษฐาฯประชวรสวรรคต เหลือเพียงสมเด็จพระบรมราชาฯประทับอยู่ที่เมืองสเต็งตรึง ทางฝ่ายเมืองเขมรก็มีขุนนางระดับสูงรวมทั้งเป็นเชื้อพระวงศ์ห่างๆ พระนามว่าสมเด็จพระรามาธิบดี ครองเมืองเชิงไพร จึงเรียกว่าสมเด็จพระรามฯเชิงไพร ได้ตั้งตนเป็นผู้นำเขมรมีฐานที่มั่นที่เมืองศรีสุนทร ยกทัพเข้าขับไล่ทัพสยามของพระมหามนตรีที่ประจำการอยู่ที่เมืองสระบุรี คอยควบคุมสถานการณ์ในเขมร แต่ก็ถูกสมเด็จพระรามฯเชิงไพรขับออกไปในพ.ศ. 2138 สมเด็จพระรามฯเชิงไพรจีงเป็นเอกกษัตริย์แห่งแดนแคว้นกัมพูชา

บังเอิญฝรั่งสองนายที่สมเด็จพระบรมราชาฯพระสัตถาทรงชุบเลี้ยงไว้เป็นพระโอรสบุญธรรม คือ นายบลาสรุยซ์และนายเบลูซู ที่ได้หลบหนีกลับประเทศไปคราวเสียกรุงละแวก ได้เดินทางกลับมาหมายจะเฝ้าสมเด็จพระสัตถาฯ ปรากฏว่าพระองค์ประชวรสวรรคตไปเสียแล้ว ฝรั่งสองนายนั้นเสียใจมากและตั้งใจว่าจะทวงราชบัลลังก์มาคืนให้กับสมเด็จพระบรมราชาฯ พระโอรสของพระสัตถาที่ยังมีพระชนม์ชีพอยู่ นายบลาสรุยซ์และนายเบลูซูจึงนำทัพสเปน เดินทางมาที่เมืองศรีสุนทรเพื่อเฝ้าสมเด็จพระรามฯเชิงไพร แต่สมเด็จพระรามฯเชิงไพรทรงไม่ไว้วางพระทัยสองฝรั่งจึงวางแผนหมายจะสังหาร แต่ฝรั่งทั้งสองไหวตัวทันและชิงปลงพระชนม์สมเด็จพระรามฯเชิงไพรเสียก่อนในพ.ศ. 2139

ช่วงการปกครองของพระเทวีกษัตริย์

นายบลาสรุยซ์และนายเบลูซูจึงอัญเชิญสมเด็จพระบรมราชาฯเสด็จนิวัติกรุงศรีสุนทร ขึ้นครองราชสมบัติอีกครั้ง สมเด็จพระบรมราชาฯทรงปูนบำเน็จนายบลาสรุยซ์และนายเบลูซูรวมทั้งทหารสเปนเป็นอันมาก แต่บรรดาหัวเมืองต่างๆเจ้าปกครองท้องถิ่นยังไม่ยอมรับอำนาจของพระองค์ จึงต้องทรงไปปราบตามที่ต่างๆ ในพ.ศ. 2152 พวกแขกจามและแขกมลายูก่อกบฏที่เมืองตปุงขมุม นำโดยแขกจามชื่อโปลัดและแขกมลายูชื่อลักษมณา สมเด็จพระบรมราชาฯทรงนำทัพสเปนเข้าปราบปรามแต่ทรงถูกลอบปลงพระชนม์และทหารสเปนถูกพวกแขกสังหารไปเป็นจำนวนมาก นายบลาสรุยซ์และนายเบลูซูก็หนีกลับประเทศ

เมื่ออาณาจักรเขมรขาดผู้นำ สมเด็จพระเทวีกษัตริย์ พระราชมาตุจฉาของสมเด็จพระสัตถา (พระธิดาในสมเด็จพระบรมราชาที่ 3) ได้ทรงเข้าดูแลจัดการเรื่องราชกิจต่างๆ และให้พระอนุชาต่างพระราชมารดาของสมเด็จพระสัตถา คือ เจ้าพระยาอน ขึ้นครองราชสมบัติเป็นสมเด็จพระบรมราชาฯที่ 7 แต่ในพ.ศ. 2153 สมเด็จพระบรมราชาฯทรงใคร่ปรารถนาจะได้ภรรยาของขุนนางผู้หนึ่งชื่อพระสเถร์มาเป็นพระชายา ทั้งนางภรรยาและตัวพระสเถร์เองไม่ยอม สมเด็จพระบรมราชาฯกริ้วมีรับสั่งให้จับนางภรรยานั้นมาขังไว้ ส่วนพระสเถร์เกรงพระราชอาญาจึงหลบหนีไปแต่ด้วยความโกรธแค้นจึงหวนกลับมาปลงพระชนม์สมเด็จพระบรมราชาฯเสีย

สิ้นกษัตริย์เขมรไปอีกองค์สมเด็จพระเทวีกษัตริย์ทรงให้เจ้าพระยาโญม พระโอรสของสมเด็จพระสัตถาฯกับพระสนม เข้าปกครองแผ่นดินสถาปนาเป็นสมเด็จพระแก้วฟ้า แต่ไม่ได้ประกอบพิธีราชาภิเษกให้ ปรากฏว่าสมเด็จพระแก้วฟ้าทรงประพฤติเสเพลไม่สนใจราชกิจ เอาแต่เที่ยวป่าล่าสัตว์ สมเด็จพระเทวีกษัตริย์เกรงว่าอาณาจักรเขมรจะสูญสิ้นเพราะขาดกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชา จึงมีพระราชสาสน์ถึงสมด็จพระนเรศวรฯเมื่อพ.ศ. 2154 ขอองค์พระศรีสุพรรณมาธิราช พระอนุชาของสมเด็จพระสัตถาฯที่ถูกจับองค์กลับไปกรุงศรีอยุธยาคราวเสียกรุงละแวกนั้น กลับมาครองราชสมบัติเขมร

สมเด็จพระนเรศวรฯจึงโปรดฯให้พระศรีสุริโยพรรณนั่งเรือสำเภาใหญ่กลับมาเมืองเขมร พระศรีสุริโยพรรณขึ้นครองราชสมบัติเป็น สมเด็จพระบรมราชาฯที่ 8 พระเทวีกษัตริย์สิ้นพระชนม์ในปีเดียวกัน เมื่อสมเด็จพระบรมราชาฯพระศรีสุริโยพรรณขึ้นครองเมืองเขมร ก็ทรงพบว่าเขมรนั้นอยู่ในสภาพที่แตกแยก บรรดาเจ้าหัวเมืองต่างพากันตั้งตนเป็นอิสระไปเคารพยำเกรงพระราชอำนาจ จึงทรงต้องทำสงครามปราบปรามขุนนางท้องถื่นเหล่านั้นเพื่อรวมอาณาจักรอีกครั้ง โดยมีพระราชสาสน์ถึงสมเด็จพระเอกาทศรถ ขอองค์พระศรีไชยเชษฐา พระโอรสที่ยังอยู่ที่กรุงศรีฯ กลับมาเป็นพระมหาอุปราชเพื่อช่วยพระองค์ในการปราบกบฏ สมเด็จพระบรมราชาฯพระศรีสุริโยพรรณ ทรงทำสงครามปราบปรามเจ้าเมืองต่างๆตลอดรัชกาล จนพ.ศ. 2161 พระองค์ก็สละราชสมบัติให้พระมหาอุปราช ขึ้นครองราชสมบัติเป็นสมเด็จพระไชยเชษฐาธิราชฯ และย้ายราชธานีไปที่กรุงอุดงฦาไชย สมเด็จพระบรมราชาฯสวรรคตในปีต่อมา พ.ศ. 2162

รายพระนามกษัตริย์กรุงศรีสุนทร

1. สมเด็จพระรามาธิบดีเชิงไพร (ไม่ได้ประกอบพิธีราชาภิเษก) พ.ศ. 2136 – พ.ศ. 2139

2. พระบาทสมเด็จเสด็จพระบรมราชาธิราชรามาธิบดี หรือ สมเด็จพระบรมราชาฯที่ 6 พ.ศ. 2139 – พ.ศ. 2152

3. สมเด็จพระบรมราชาฯที่ 7 พ.ศ. 2152 – พ.ศ. 2153 (2 ปี)

4. สมเด็จพระแก้วฟ้า (ไม่ได้ประกอบพิธีราชาภิเษก) พ.ศ. 2153 – พ.ศ. 2154 (2 ปี)

5. พระบาทสมเด็จเสด็จพระบรมราชาธิราชรามาธิบดี หรือ สมเด็จพระบรมราชาฯที่ 8 หรือ พระศรีสุริโยพรรณ พ.ศ. 2154 – พ.ศ. 2161 (18 ปี) สละราชสมบัติให้แก่พระโอรส สวรรคตพ.ศ. 2162

ดูเพิ่ม

ประวัติศาสตร์กัมพูชา

อ้างอิง

  1. พงศาวดารละแวก
  2. http://www.royalark.net/Cambodia/camboa2.htm
  3. พงศาวดารเขมร
ก่อนหน้า สมัยศรีสันธร ถัดไป
ละแวก   ราชธานีกัมพูชา
(พ.ศ. 2069 - พ.ศ. 2136)
  อุดงมีชัย

สม, ยศร, นธร, อาณาจ, กรเขมร, นย, กลางอย, เม, องศร, นทร, หร, ศร, สอช, srei, sonthor, งแต, 2136, 2161, เป, นราชธาน, ในระยะเวลาส, เสม, อนเป, นช, วงส, งทอดระหว, างความว, นวายหล, งการเส, ยกร, งละแวก, บการต, งหล, กป, กฐานใหม, ของอาณาจ, กรเขมรท, กร, งอ, ดงฦาไชยประว, . xanackrekhmr misunyklangxyuthiemuxngsrisunthr hrux srisxchx Srei Sonthor tngaetph s 2136 thung ph s 2161 epnrachthaniinrayaewlasn esmuxnepnchwngsngthxdrahwangkhwamwunwayhlngkaresiykrunglaaewk kbkartnghlkpkthanihmkhxngxanackrekhmrthikrungxudnglaichyprawtisastrkmphuchaprawtisastryukhaerkxanackrfunan 611 1093 xanackrecnla 1093 1345 ckrwrrdiekhmr 1345 1974 yukhmudsmyctumukh 1974 2068 smylaaewk 2068 2136 smysrisnthr 2136 2162 smyxudng 2162 2406 yukhrthinxarkkhaithyaelaewiydnamxananikhmfrngess 2406 2496 swnhnungkhxngxinodcinfrngessyukhyipunyudkhrxng 2484 2489 hlngidrbexkrachsngkhramklangemuxngkmphucha 2510 2518 rthprahar ph s 2513satharnrthekhmrsngkhramewiydnam ph s 2513yukhekhmraedng 2518 2519 sngkhramkmphucha ewiydnam 2518 2532 satharnrthprachachnkmphucha 2522 2536 karcdkareluxktngodyshprachachatirachxanackrkmphucha 2536 pccubn hlngkareluxktng ph s 2536twelkhinwngelb hmaythung piphuththskrachdkhk enuxha 1 ehtukarnesiykrunglaaewk 2 chwngkarpkkhrxngkhxngphraethwikstriy 3 rayphranamkstriykrungsrisunthr 4 duephim 5 xangxingehtukarnesiykrunglaaewk aekikh wdnkhr wdsmykrungsrisunthrthicnghwdkapngcam smedcphranerswrmharachthrngkrithathphbukekhatiemuxngkmphuchainph s 2136 smedcphrabrmrachaphrastthaphrxmphrarachoxrssxngphraxngkh smedcphraichyechsthathirach aelasmedcphrabrmracha esdchniipyngemuxngsrisunthr aelatxmainph s 2137 samkstriyidphaknesdchniipemuxngsetngtrungkhxnglanchang smedcphrastthaaelasmedcphraichyechsthaprachwrswrrkht ehluxephiyngsmedcphrabrmrachaprathbxyuthiemuxngsetngtrung thangfayemuxngekhmrkmikhunnangradbsungrwmthngepnechuxphrawngshang phranamwasmedcphraramathibdi khrxngemuxngechingiphr cungeriykwasmedcphraramechingiphr idtngtnepnphunaekhmrmithanthimnthiemuxngsrisunthr ykthphekhakhbilthphsyamkhxngphramhamntrithipracakarxyuthiemuxngsraburi khxykhwbkhumsthankarninekhmr aetkthuksmedcphraramechingiphrkhbxxkipinph s 2138 smedcphraramechingiphrcingepnexkkstriyaehngaednaekhwnkmphuchabngexiyfrngsxngnaythismedcphrabrmrachaphrastthathrngchubeliyngiwepnphraoxrsbuythrrm khux nayblasruysaelanayeblusu thiidhlbhniklbpraethsipkhrawesiykrunglaaewk idedinthangklbmahmaycaefasmedcphrasttha praktwaphraxngkhprachwrswrrkhtipesiyaelw frngsxngnaynnesiyicmakaelatngicwacathwngrachbllngkmakhunihkbsmedcphrabrmracha phraoxrskhxngphrastthathiyngmiphrachnmchiphxyu nayblasruysaelanayeblusucungnathphsepn edinthangmathiemuxngsrisunthrephuxefasmedcphraramechingiphr aetsmedcphraramechingiphrthrngimiwwangphrathysxngfrngcungwangaephnhmaycasnghar aetfrngthngsxngihwtwthnaelachingplngphrachnmsmedcphraramechingiphresiykxninph s 2139chwngkarpkkhrxngkhxngphraethwikstriy aekikhnayblasruysaelanayeblusucungxyechiysmedcphrabrmrachaesdcniwtikrungsrisunthr khunkhrxngrachsmbtixikkhrng smedcphrabrmrachathrngpunbaencnayblasruysaelanayeblusurwmthngthharsepnepnxnmak aetbrrdahwemuxngtangecapkkhrxngthxngthinyngimyxmrbxanackhxngphraxngkh 1 cungtxngthrngipprabtamthitang inph s 2152 phwkaekhkcamaelaaekhkmlayukxkbtthiemuxngtpungkhmum naodyaekhkcamchuxopldaelaaekhkmlayuchuxlksmna smedcphrabrmrachathrngnathphsepnekhaprabpramaetthrngthuklxbplngphrachnmaelathharsepnthukphwkaekhksngharipepncanwnmak nayblasruysaelanayeblusukhniklbpraethsemuxxanackrekhmrkhadphuna smedcphraethwikstriy phrarachmatucchakhxngsmedcphrasttha phrathidainsmedcphrabrmrachathi 3 2 idthrngekhaduaelcdkareruxngrachkictang aelaihphraxnuchatangphrarachmardakhxngsmedcphrasttha khux ecaphrayaxn khunkhrxngrachsmbtiepnsmedcphrabrmrachathi 7 aetinph s 2153 smedcphrabrmrachathrngikhrprarthnacaidphrryakhxngkhunnangphuhnungchuxphrasethr 3 maepnphrachaya thngnangphrryaaelatwphrasethrexngimyxm smedcphrabrmrachakriwmirbsngihcbnangphrryannmakhngiw swnphrasethrekrngphrarachxayacunghlbhniipaetdwykhwamokrthaekhncunghwnklbmaplngphrachnmsmedcphrabrmrachaesiysinkstriyekhmripxikxngkhsmedcphraethwikstriythrngihecaphrayaoym phraoxrskhxngsmedcphrastthakbphrasnm ekhapkkhrxngaephndinsthapnaepnsmedcphraaekwfa aetimidprakxbphithirachaphieskih praktwasmedcphraaekwfathrngpraphvtiesephlimsnicrachkic exaaetethiywpalastw smedcphraethwikstriyekrngwaxanackrekhmrcasuysinephraakhadkstriythithrngphrapricha cungmiphrarachsasnthungsmdcphranerswremuxph s 2154 khxxngkhphrasrisuphrrnmathirach phraxnuchakhxngsmedcphrastthathithukcbxngkhklbipkrungsrixyuthyakhrawesiykrunglaaewknn klbmakhrxngrachsmbtiekhmrsmedcphranerswrcungoprdihphrasrisurioyphrrnnngeruxsaephaihyklbmaemuxngekhmr phrasrisurioyphrrnkhunkhrxngrachsmbtiepn smedcphrabrmrachathi 8 phraethwikstriysinphrachnminpiediywkn emuxsmedcphrabrmrachaphrasrisurioyphrrnkhunkhrxngemuxngekhmr kthrngphbwaekhmrnnxyuinsphaphthiaetkaeyk brrdaecahwemuxngtangphakntngtnepnxisraipekharphyaekrngphrarachxanac cungthrngtxngthasngkhramprabpramkhunnangthxngthunehlannephuxrwmxanackrxikkhrng odymiphrarachsasnthungsmedcphraexkathsrth khxxngkhphrasriichyechstha phraoxrsthiyngxyuthikrungsri klbmaepnphramhaxuprachephuxchwyphraxngkhinkarprabkbt smedcphrabrmrachaphrasrisurioyphrrn thrngthasngkhramprabpramecaemuxngtangtlxdrchkal cnph s 2161 phraxngkhkslarachsmbtiihphramhaxuprach khunkhrxngrachsmbtiepnsmedcphraichyechsthathirach aelayayrachthaniipthikrungxudnglaichy smedcphrabrmrachaswrrkhtinpitxma ph s 2162rayphranamkstriykrungsrisunthr aekikh1 smedcphraramathibdiechingiphr imidprakxbphithirachaphiesk ph s 2136 ph s 21392 phrabathsmedcesdcphrabrmrachathirachramathibdi hrux smedcphrabrmrachathi 6 ph s 2139 ph s 21523 smedcphrabrmrachathi 7 ph s 2152 ph s 2153 2 pi 4 smedcphraaekwfa imidprakxbphithirachaphiesk ph s 2153 ph s 2154 2 pi 5 phrabathsmedcesdcphrabrmrachathirachramathibdi hrux smedcphrabrmrachathi 8 hrux phrasrisurioyphrrn ph s 2154 ph s 2161 18 pi slarachsmbtiihaekphraoxrs swrrkhtph s 2162duephim aekikhprawtisastrkmphuchaxangxing aekikh phngsawdarlaaewk http www royalark net Cambodia camboa2 htm phngsawdarekhmr kxnhna smysrisnthr thdiplaaewk rachthanikmphucha ph s 2069 ph s 2136 xudngmichyekhathungcak https th wikipedia org w index php title smysrisnthr amp oldid 9387332, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม