fbpx
วิกิพีเดีย

เจ้าจอมมารดาทับทิม ในรัชกาลที่ 5

เจ้าจอมมารดาทับทิม (9 ธันวาคม พ.ศ. 2400 - 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2481) เป็นพระสนมเอกในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

เจ้าจอมมารดาทับทิม
ในรัชกาลที่ 5
เกิดทับทิม
9 ธันวาคม พ.ศ. 2400
สยาม
เสียชีวิต24 พฤษภาคม พ.ศ. 2481
ไทย
คู่สมรสพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
บุตรพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประเวศวรสมัย
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร
บิดามารดาพระยาอัพภันตริกามาตย์ (ดิศ โรจนดิศ)
อิ่ม โรจนดิศ
สำหรับความหมายอื่น ดูที่ เจ้าจอมทับทิม

ประวัติ

เจ้าจอมมารดาทับทิม เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2400 เป็นธิดาพระยาอัพภันตริกามาตย์ (ดิศ โรจนดิศ) ซึ่งเป็นตาของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ กับขรัวยายอิ่ม สกุลเดิมเป็นข้าหลวงทั้งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ต้นตระกูล “บุญเรือง” เป็นตำแหน่งหลวงวัง ท่านเริ่มต้นชีวิตภายในพระบรมมหาราชวังตั้งแต่อายุได้เพียง 6 ขวบ โดยเจ้าจอมมารดาเที่ยง ในรัชกาลที่ 4 ผู้เป็นพี่ใหญ่ได้พาไปฝากให้คุณท้าววรคณานันท์ (หุ่น) เป็นครูผู้ฝึกสอนการละคร และฟ้อนรำ

ในสมัยนั้น ถือกันว่าคุณท้าววรคณานันท์ (หุ่น) เป็นเจ้าสำนักที่ฝึกหัดเด็กดีที่สุด เพราะเป็นเจ้าจอมละครมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 และได้เป็นผู้ใหญ่อยู่ในพระราชวังในรัชกาลหลังๆ ต่อมาจึงทำให้เคยชินกับขนบธรรมเนียมภายในพระบรมมหาราชวังเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้จึงนับได้ว่าเจ้าจอมมารดาทับทิมได้ครูดี ได้โรงเรียนดี และได้สิ่งแวดล้อมทั้งมวลดีด้วย

ภายหลังพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์ให้หัดละครในรุ่นเล็กขึ้นใหม่ เพื่อเอาไว้ให้หนุนแทนละครชั้นใหญ่ซึ่งลดน้อยไป เพราะเหตุไปเป็นเจ้าจอมมารดาบ้าง หรือล้มตายบ้าง ท่านผู้ใหญ่ในพระราชวัง สังเกตมานานแล้วว่าเจ้าจอมมารดาทับทิมมีแววฉลาด และมีพรสวรรค์สำหรับความเป็นศิลปิน จึงแนะนำให้รับราชการเป็นละครหลวง ซึ่งทั้งนี้เจ้าจอมมารดาเที่ยงผู้เป็นพี่ก็เห็นดีด้วย ด้วยใจรักเป็นทุน เจ้าจอมมารดาทับทิมจึงตั้งหน้าฝึกหัดฟ้อนรำพร้อม ๆ กับศึกษาวิชาอื่น ๆ คู่ควบไปด้วย เมื่อละครหลวงชั้นเล็กออกโรงปลายสมัยรัชกาลที่ 4 คนทั้งปวงก็พากันชมเชยว่าเจ้าจอมมารดาทับทิมสามารถรรำได้งดงามกว่าคนอื่น ซึ่งเป็นละครชั้นเดียวกันเป็นอันมาก

เมื่อปี พ.ศ. 2411 เจ้าจอมอายุได้ 11 ปี พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคต และเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว เจ้าจอมมารดาทับทิมก็ยังเป็นละครหลวงอยู่ และมีลีลาการฟ้อนรำเป็นที่เลื่องลือกันทั่วไป จนได้ชื่อว่าเป็นนางเอกละครหลวงที่ดีที่สุดคนหนึ่งต่อมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ชุบเลี้ยงเจ้าจอมมารดาทับทิมเป็นเจ้าจอม ประจวบกับเจ้าจอมมารดาเที่ยงออกไปอยู่วังกรมหมื่นราชศักดิ์สโมสร พระองค์หญิงโสมาวดี (กรมหลวงสมรรัตน์สิริเชษฐ) พระราชธิดาองค์ใหญ่ ซึ่งครอบครองตำหนักต่อมา ทรงพระเมตตารับเจ้าจอมมารดาทับทิมจากสำนักท้าววรคณานันท์ และจัดเรือนในบริเวณตำหนักหลังหนึ่งกับทั้งคนสำหรับใช้สอย ให้ครอบครองสมกับบรรดาศักดิ์ สาเหตุที่ต้องสละการแสดงละครนั้น เพราะเหตุว่าเจ้าจอมมารดาทับทิมทรงครรภ์ พระเจ้าลูกเธอ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้พระราชทานตำหนักเจ้านายให้อยู่เป็นอิสระอย่างเจ้าจอมมารดา

ท่านมีประสูติกาลพระราชโอรสธิดาทั้งหมด 3 พระองค์ คือ

  1. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช (พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช)
  2. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประเวศวรสมัย
  3. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร (พระองค์เจ้าวุฒิชัยเฉลิมลาภ)

เจ้าจอมมารดาทับทิมมีอัธยาศัยดี เป็นที่ชอบแก่บุคคลโดยทั่วไป โดยเฉพาะกิริยามารยาทถือกันว่า เป็นแบบฉบับแห่งหญิงชาววังที่ดี ในที่สุดทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานเครื่องยศ ยกย่องขึ้นเป็นพระสนมเอก นับว่าพระราชทานเกียรติยศอย่างสูง เจ้าจอมมารดาทับทิมดำรงชีพอยู่ในพระบรมมหาราชวัง จนกระทั่งกรมหลวงนครชัยศรีสุรเดชพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ ทรงสำเร็จการศึกษาจากยุโรป กลับมาพร้อมกับกรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร พระราชโอรสพระองค์เล็ก ซึ่งเสด็จไปทรงศึกษาวิชาทหารเรือ เจ้าจอมมารดาทับทิมก็ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตออกไปพำนักอยู่ที่วังของพระราชโอรสทั้ง 2 โดยเฉลี่ยเท่า ๆ กัน บางครั้งท่านก็ไปพำนักกับพระราชธิดาพระองค์เดียว ณ ตำหนักในสวนสุนันทา เป็นต้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต เมื่อเจ้าจอมมารดาทับทิมมีอายุได้ 53 ปี หลังจากนั้นท่านก็ออกไปอาศัยอยู่กับพระราชโอรส-ธิดาเป็นการถาวรและใช้เวลาให้หมดไปกับการบำเพ็ญวัตรหาความสุข ตามสมควรแก่ฐานะบรรดาศักดิ์ เช่นฟังเทศน์ ทำบุญและให้ทาน

อย่างไรก็ตาม เจ้าจอมมารดาทับทิมก็มีสิ่งที่แปลกกว่าคนอื่นอยู่อย่างหนึ่ง คือ ชอบไปเที่ยวตามหัวเมือง ถ้าอยู่กับบ้านกับวังนาน ๆ คล้าย ๆ กับจะเจ็บป่วย แต่ถ้าได้แปรสถานไปที่อื่น กลับฟื้นมีความสบายด้วยเหตุนี้เอง เมื่อใดที่พระโอรสธิดาสังเกตเห็นว่า เจ้าจอมมารดามีอาการไม่สบายเป็นปกติ ก็มักชวนแปรสถานไปที่อื่นอย่างน้อยปีละหนหนึ่ง

ทางฝ่ายทะเล เจ้าจอมมารดาทับทิมชอบไปที่สมุทรปราการ และที่หนองแกใต้หัวหิน ซึ่งเสด็จในกรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร พระราชโอรสพระองค์เล็ก มีสวนและทรงสร้างตำหนักที่พักไว้ที่นั่นโดยเฉพาะในฤดูร้อน เจ้าจอมมารดามักแปรสถานไปอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน ๆ แทบทุกปีสำหรับการไปต่างประเทศ เจ้าจอมมารดาเคยไปเยี่ยมพระโอรสและธิดาถึงปีนัง ทั้ง ๆ ที่อายุเกือบจะ 80 อยู่แล้ว กลับชมว่าปีนังอากาศดี เลยพักอยู่ที่ตำหนักพระองค์หญิงประเวศฯ ถึง 13 เดือน

ในการฉลองอายุครบรอบ 80 ปี เจ้าจอมมารดาทับทิมไม่พอใจที่จะให้จัดทำขึ้นในกรุงเทพฯ ด้วยเหตุว่าได้เคยรับไว้กับสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสฺโส) วัดบรมนิวาสราชวรวิหาร ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่พระพรหมมุนี ซึ่งเป็นเจ้าคณะมณฑลอีสาน ว่าจะสร้างสำนักวิปัสสนาที่ในวัดสุปัฏน์ อุบล จึงปรารภว่าจะไปทำบุญฉลองอายุที่เมืองอุบลฯ แต่ยังไม่ทันถึงกำหนดงานก็มีอาการทุพพลภาพยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน เกรงว่าจะเดินทางโดยรถไฟไปไกลไม่ได้ จึงล้มความคิดจะไปทำบุญฉลองอายุที่อุบลฯ เปลี่ยนเป็นบริจาคทรัพย์ตามที่จำนวนกะไว้ อาการทุพพลภาพที่ว่านี้ เป็นการเริ่มต้นของโรคชรา หมอก็รู้ว่ายากที่จะกลับฟื้นดีได้ แต่เจ้าจอมมารดาทับทิมว่า ใคร่จะแปรสถานไปรักษาตัวที่บางปะอิน ผู้รักษาพยาบาลเห็นว่าอาการร้ายแรง ถ้าแปรสถานจะทำให้โรคกำเริบก็ทัดทานไว้ แต่ไม่สำเร็จ เจ้าจอมมารดาทับทิมได้ลงเรือไปบางปะอินในวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2480

พระราชโอรสธิดา ซึ่งรีบเสด็จมาจากปีนังเมื่อทราบเหตุ พยายามจะให้กลับกรุงเทพฯ อีก แต่ไม่เป็นผลประหลาดก็ตรงที่ว่า เจ้าจอมมารดาทับทิมอยู่ที่บางปะอินได้ถึง 79 วัน จึงได้ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2481 รวมอายุ 82 ปี

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

อ้างอิง

  1. สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร. ราชสกุลวงศ์. พิมพ์ครั้งที่ 14 , กรุงเทพฯ : สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร, 2554. 296 หน้า. หน้า 85. ISBN 978-974-417-594-6
  2. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๔๓, ตอน ๐ง, ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๙, หน้า ๓๑๑๓
  3. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลปัจจุบันฝ่ายใน, เล่ม ๒๕, ตอน ๓๙, ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๕๑, หน้า ๑๑๕๓

เจ, าจอมมารดาท, บท, ในร, ชกาลท, บทความน, งต, องการเพ, มแหล, งอ, างอ, งเพ, อพ, จน, ความถ, กต, อง, ณสามารถพ, ฒนาบทความน, ได, โดยเพ, มแหล, งอ, างอ, งตามสมควร, เน, อหาท, ขาดแหล, งอ, างอ, งอาจถ, กลบออกเจ, าจอมมารดาท, บท, นวาคม, 2400, พฤษภาคม, 2481, เป, นพระสนมเอกใน. bthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxng khunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxkecacxmmardathbthim 9 thnwakhm ph s 2400 24 phvsphakhm ph s 2481 epnphrasnmexkinphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwecacxmmardathbthiminrchkalthi 5ekidthbthim 9 thnwakhm ph s 2400syamesiychiwit24 phvsphakhm ph s 2481ithykhusmrsphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwbutrphraecabrmwngsethx krmhlwngnkhrichysrisuredchphraecabrmwngsethx phraxngkhecapraewswrsmyphraecabrmwngsethx krmhlwngsinghwikrmekriyngikrbidamardaphrayaxphphntrikamaty dis orcndis xim orcndissahrbkhwamhmayxun duthi ecacxmthbthimprawti aekikhecacxmmardathbthim ekidemuxwnphvhsbdithi 9 thnwakhm ph s 2400 epnthidaphrayaxphphntrikamaty dis orcndis sungepntakhxngsmedcphraecabrmwngsethx krmphrayadarngrachanuphaph kbkhrwyayxim skuledimepnkhahlwngthnginrchsmyphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachaelaphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw tntrakul buyeruxng epntaaehnnghlwngwng thanerimtnchiwitphayinphrabrmmharachwngtngaetxayuidephiyng 6 khwb odyecacxmmardaethiyng inrchkalthi 4 phuepnphiihyidphaipfakihkhunthawwrkhnannth hun epnkhruphufuksxnkarlakhr aelafxnrainsmynn thuxknwakhunthawwrkhnannth hun epnecasankthifukhdedkdithisud ephraaepnecacxmlakhrmatngaetsmyrchkalthi 2 aelaidepnphuihyxyuinphrarachwnginrchkalhlng txmacungthaihekhychinkbkhnbthrrmeniymphayinphrabrmmharachwngepnxyangying dwyehtunicungnbidwaecacxmmardathbthimidkhrudi idorngeriyndi aelaidsingaewdlxmthngmwldidwyphayhlngphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw miphrarachprasngkhihhdlakhrinrunelkkhunihm ephuxexaiwihhnunaethnlakhrchnihysungldnxyip ephraaehtuipepnecacxmmardabang hruxlmtaybang thanphuihyinphrarachwng sngektmananaelwwaecacxmmardathbthimmiaewwchlad aelamiphrswrrkhsahrbkhwamepnsilpin cungaenanaihrbrachkarepnlakhrhlwng sungthngniecacxmmardaethiyngphuepnphikehndidwy dwyicrkepnthun ecacxmmardathbthimcungtnghnafukhdfxnraphrxm kbsuksawichaxun khukhwbipdwy emuxlakhrhlwngchnelkxxkorngplaysmyrchkalthi 4 khnthngpwngkphaknchmechywaecacxmmardathbthimsamarthrraidngdngamkwakhnxun sungepnlakhrchnediywknepnxnmakemuxpi ph s 2411 ecacxmxayuid 11 pi phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw esdcswrrkht aelaemuxphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw esdckhunkhrxngrachyaelw ecacxmmardathbthimkyngepnlakhrhlwngxyu aelamililakarfxnraepnthieluxngluxknthwip cnidchuxwaepnnangexklakhrhlwngthidithisudkhnhnungtxma phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw kthrngphrakrunaoprdekla chubeliyngecacxmmardathbthimepnecacxm pracwbkbecacxmmardaethiyngxxkipxyuwngkrmhmunrachskdisomsr phraxngkhhyingosmawdi krmhlwngsmrrtnsiriechsth phrarachthidaxngkhihy sungkhrxbkhrxngtahnktxma thrngphraemttarbecacxmmardathbthimcaksankthawwrkhnannth aelacderuxninbriewntahnkhlnghnungkbthngkhnsahrbichsxy ihkhrxbkhrxngsmkbbrrdaskdi saehtuthitxngslakaraesdnglakhrnn ephraaehtuwaecacxmmardathbthimthrngkhrrph phraecalukethx phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw cungidphrarachthantahnkecanayihxyuepnxisraxyangecacxmmardathanmiprasutikalphrarachoxrsthidathnghmd 3 phraxngkh khux phraecabrmwngsethx krmhlwngnkhrichysrisuredch phraxngkhecacirprawtiwredch phraecabrmwngsethx phraxngkhecapraewswrsmy phraecabrmwngsethx krmhlwngsinghwikrmekriyngikr phraxngkhecawuthichyechlimlaph ecacxmmardathbthimmixthyasydi epnthichxbaekbukhkhlodythwip odyechphaakiriyamaryaththuxknwa epnaebbchbbaehnghyingchawwngthidi inthisudthrngphrakrunaoprdphrarachthanekhruxngys ykyxngkhunepnphrasnmexk nbwaphrarachthanekiyrtiysxyangsung ecacxmmardathbthimdarngchiphxyuinphrabrmmharachwng cnkrathngkrmhlwngnkhrchysrisuredchphrarachoxrsphraxngkhihy thrngsaerckarsuksacakyuorp klbmaphrxmkbkrmhlwngsinghwikrmekriyngikr phrarachoxrsphraxngkhelk sungesdcipthrngsuksawichathharerux ecacxmmardathbthimkkhxphrarachthanphrabrmrachanuyatxxkipphankxyuthiwngkhxngphrarachoxrsthng 2 odyechliyetha kn bangkhrngthankipphankkbphrarachthidaphraxngkhediyw n tahnkinswnsunntha epntn phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwesdcswrrkht emuxecacxmmardathbthimmixayuid 53 pi hlngcaknnthankxxkipxasyxyukbphrarachoxrs thidaepnkarthawraelaichewlaihhmdipkbkarbaephywtrhakhwamsukh tamsmkhwraekthanabrrdaskdi echnfngethsn thabuyaelaihthanxyangirktam ecacxmmardathbthimkmisingthiaeplkkwakhnxunxyuxyanghnung khux chxbipethiywtamhwemuxng thaxyukbbankbwngnan khlay kbcaecbpwy aetthaidaeprsthanipthixun klbfunmikhwamsbaydwyehtuniexng emuxidthiphraoxrsthidasngektehnwa ecacxmmardamixakarimsbayepnpkti kmkchwnaeprsthanipthixunxyangnxypilahnhnungthangfaythael ecacxmmardathbthimchxbipthismuthrprakar aelathihnxngaekithwhin sungesdcinkrmhlwngsinghwikrmekriyngikr phrarachoxrsphraxngkhelk miswnaelathrngsrangtahnkthiphkiwthinnodyechphaainvdurxn ecacxmmardamkaeprsthanipxyuthinnepnewlanan aethbthukpisahrbkariptangpraeths ecacxmmardaekhyipeyiymphraoxrsaelathidathungpinng thng thixayuekuxbca 80 xyuaelw klbchmwapinngxakasdi elyphkxyuthitahnkphraxngkhhyingpraews thung 13 eduxninkarchlxngxayukhrbrxb 80 pi ecacxmmardathbthimimphxicthicaihcdthakhuninkrungethph dwyehtuwaidekhyrbiwkbsmedcphramhawirwngs xwn tis os wdbrmniwasrachwrwihar khnadarngsmnskdithiphraphrhmmuni sungepnecakhnamnthlxisan wacasrangsankwipssnathiinwdsuptn xubl cungprarphwacaipthabuychlxngxayuthiemuxngxubl aetyngimthnthungkahndngankmixakarthuphphlphaphyingkhunkwaaetkxn ekrngwacaedinthangodyrthifipiklimid cunglmkhwamkhidcaipthabuychlxngxayuthixubl epliynepnbricakhthrphytamthicanwnkaiw xakarthuphphlphaphthiwani epnkarerimtnkhxngorkhchra hmxkruwayakthicaklbfundiid aetecacxmmardathbthimwa ikhrcaaeprsthaniprksatwthibangpaxin phurksaphyabalehnwaxakarrayaerng thaaeprsthancathaihorkhkaeribkthdthaniw aetimsaerc ecacxmmardathbthimidlngeruxipbangpaxininwnthi 6 minakhm ph s 2480phrarachoxrsthida sungribesdcmacakpinngemuxthrabehtu phyayamcaihklbkrungethph xik aetimepnphlprahladktrngthiwa ecacxmmardathbthimxyuthibangpaxinidthung 79 wn cungidthungaekxsykrrmemuxwnxngkharthi 24 phvsphakhm ph s 2481 rwmxayu 82 pi 1 ekhruxngrachxisriyaphrn aekikhph s 2469 ekhruxngrachxisriyaphrnculcxmekla chnthi 1 pthmculcxmekla p c fayin 2 ehriyyrtnaphrn rchkalthi 5 chnthi 2 3 ehriyyrtnaphrn rchkalthi 6 chnthi 2 ph s 2462 ehriyyrtnaphrn rchkalthi 6 chnthi 2 w p r 2 xangxing aekikh sankwrrnkrrmaelaprawtisastr krmsilpakr rachskulwngs phimphkhrngthi 14 krungethph sankwrrnkrrmaelaprawtisastr krmsilpakr 2554 296 hna hna 85 ISBN 978 974 417 594 6 rachkiccanuebksa phrarachthanekhruxngrachxisriyaphrn elm 43 txn 0ng 26 phvscikayn ph s 2469 hna 3113 rachkiccanuebksa phrarachthanehriyyrtnaphrn rchkalpccubnfayin elm 25 txn 39 27 thnwakhm ph s 2451 hna 1153ekhathungcak https th wikipedia org w index php title ecacxmmardathbthim inrchkalthi 5 amp oldid 9408098, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม