กลไกทางประสาทของการเจริญสติ
บทความนี้ ควรจะมีแหล่งอ้างอิงทางการแพทย์เพื่อให้ตรวจสอบได้ หรือพึ่งฐานข้อมูลจากแหล่งอ้างอิงปฐมภูมิมากเกินไป2015-12) ( |
ในสาขาจิตวิทยาของชาวตะวันตก สติ (อังกฤษ: Mindfulness) ซึ่งสามารถฝึกได้โดยการเ เป็น "การเพ่งความใส่ใจของตนไปที่อารมณ์ ความคิด และความรู้สึกในกายที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยตั้งใจ โดยยอมรับ โดยไม่ตัดสิน" เป็นการปฏิบัติที่มาจากการเจริญสติในพุทธศาสนา และสร้างความนิยมในประเทศตะวันตกโดย ศ. ดร. จอน คาแบต-ซินน์ ผู้เป็นศาสตราจารย์กิตติคุณของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์ เป็นหลักปฏิบัติที่มีหลักฐานแล้วว่า มีผลดีต่อปัญหาทางจิตเวชหลายอย่าง เช่น ความเศร้าซึม และดังนั้นจึงมีการประยุกต์ใช้โปรแกรมบำบัดรักษาโดยใช้สติ ตัวอย่างของโปรแกรมเหล่านี้รวมทั้ง mindfulness-based cognitive therapy (ตัวย่อ MBCT แปลว่าการบำบัดทางประชานอาศัยการฝึกสติ), และ mindfulness-based stress reduction (ตัวย่อ MBSR แปลว่า การลดความเครียดอาศัยสติ) ความสามารถประยุกต์ใช้การเจริญสติในการบำบัดรักษา เป็นเรื่องที่มีหลักฐานชัดเจนแล้ว และก็มีงานศึกษาหลายงานที่พยายามจะแยกแยะองค์ประกอบของการเจริญสติ แต่ว่า กลไกการออกฤทธิ์ (Mechanism of action) ที่เป็นรากฐานทางสมองของการเจริญสติและมีผลต่อการบำบัดรักษา ยังเป็นเรื่องที่ยังไม่มีการศึกษาละเอียดดี
กลไกการออกฤทธิ์ของการเจริญสติ
มีการเสนอองค์ประกอบสี่อย่าง ว่าเป็นกลไกการออกฤทธิ์ของการเจริญสติ คือ การควบคุมความใส่ใจ การสำนึกในกาย การควบคุมอารมณ์ และการเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับตน (เกี่ยวกับอัตตา) ซึ่งล้วนแต่เป็นองค์ประกอบที่สืบเนื่องกัน คือ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเกิดสิ่งเร้าภายนอก การควบคุมการใส่ใจจะช่วยรักษาความมีสติไว้ จะมีสำนึกทางกายที่ดีขึ้น เช่นสำนึกถึงใจที่เต้นเร็วขึ้น ซึ่งปกติจะเป็นเหตุให้เกิดปฏิกิริยาทางอารมณ์ แต่ปฏิกิริยาทางอารมณ์จะควบคุมได้ดีขึ้น ทำให้ปฏิกิริยาไม่เกิดเป็นนิสัย แต่จะเปลี่ยนไปตามของประสบการณ์แต่ละขณะ ซึ่งในที่สุดจะนำไปสู่การเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับตน (เกี่ยวกับอัตตา)
การควบคุมการใส่ใจ
การควบคุมการใส่ใจเป็นวิธีการใส่ใจในวัตถุ โดยสำนึกและยอมรับได้เมื่อมีใจแวบไปทางอื่น แล้วกลับมาใส่ใจที่วัตถุอีกครั้งหนึ่ง หลักฐานบางส่วนเกี่ยวกับกลไกที่เป็นฐานของการควบคุมการใส่ใจระหว่างการเจริญสติ มีดังต่อไปนี้
- ผู้เจริญสติมีการทำงานใน anterior cingulate cortex ส่วนหน้า (rostral) หรือย่อว่า rACC และ medial prefrontal cortex (MPFC) ส่วนล่าง (dorsal) ซึ่งบอกเป็นนัยว่า ผู้เจริญสติสามารถประมวลสิ่งเร้าที่ไม่มีลงรอยกันหรือเป็นตัวกวนสมาธิ และควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่า แต่ว่า เมื่อผู้เจริญสติมีประสิทธิภาพในการใส่ใจได้ดีขึ้น การควบคุมก็จำเป็นน้อยลง ซึ่งในระยะยาวจะลดการทำงานของ ACC
- เนื้อเทาของเปลือกสมองในเขต ACC ส่วนล่าง (dorsal) หรือย่อว่า dACC หนากว่าในผู้ชำนาญการเจริญสติ
- มีคลื่นสมองแบบทีตาในสมองกลีบหน้าแนวกลาง (midline theta rhythm) มากขึ้น ซึ่งสัมพันธ์กับการทำงานที่ต้องมีการใส่ใจมาก และเชื่อกันว่า เป็นการแสดงการทำงานใน ACC
ACC มีหน้าที่ตรวจจับข้อมูลที่ขัดแย้งกันที่มาจากตัวกวนสมาธิ เมื่อบุคคลมีสิ่งเร้าที่ขัดแย้งกัน สมองอาจจะประมวลสิ่งเร้าได้อย่างไม่ถูกต้องในเบื้องต้น ซึ่งทำให้เกิดสัญญาณทางสมองแบบ error-related negativity (ERN) แต่ก่อนที่ ERN จะถึงระดับขีดเริ่มเปลี่ยน ส่วนสมองที่เรียกว่า frontocentral N2 จะตรวจจับความขัดแย้งกันได้ และเมื่อแก้ข้อมูลที่ประมวลผิดแล้ว ACC ส่วนหน้า (rostral) ก็จะทำงาน จึงเกิดความใส่ใจในสิ่งเร้าอย่างถูกต้อง ดังนั้น การเจริญสติอาจจะใช้รักษาโรคที่เกี่ยวกับความใส่ใจเช่น สมาธิสั้นและโรคอารมณ์สองขั้วได้
ความสำนึกในกาย
ความสำนึกในกาย หมายถึงการพุ่งความสนไปที่สิ่งที่รับรู้หรือภารกิจภายในกาย เช่น การหายใจ ผู้เจริญสติ 10 ท่านให้คำตอบในการสัมภาษณ์เชิงคุณภาพ เป็นตัวอย่างดังต่อไปนี้
- "ถ้ากำลังเดินอยู่ ฉันจะตั้งใจสังเกตความรู้สึกการเคลื่อนไหวของกาย"
- "ฉันจะสังเกตว่า อาหารและเครื่องดื่มมีผลต่อความคิด ความรู้สึกทางกาย และต่ออารมณ์ของฉันอย่างไร"
กลไกการสำนึกรู้ในกายที่เป็นไปได้สองอย่าง ของผู้เจริญสติ มีดังต่อไปนี้
- ผู้เจริญสติมีเปลือกสมองที่หนากว่า และมีเนื้อเทาที่หนากว่าใน anterior insular cortex ซีกขวา
- โดยนัยที่ต่างกัน ผู้เริ่มเจริญสติเพียงแค่ 8 อาทิตย์ไม่มีความแตกต่างของเนื้อเทาใน insula แต่มีเนื้อเทาที่หนาเพิ่มขึ้นใน temporo-parietal junction
insula มีหน้าที่เกี่ยวกับการสำนึกรู้สิ่งเร้า และความหนาของเนื้อเทามีสหสัมพันธ์กับความแม่นยำในการตรวจจับสิ่งเร้าของระบบประสาท เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานเชิงปริมาณที่แสดงว่า การเจริญสติมีผลต่อการสำนึกรู้ทางกาย เรื่องนี้จึงยังไม่เข้าใจกันดี
การควบคุมอารมณ์
อารมณ์สามารถควบคุมได้โดยทางประชานหรือทางพฤติกรรม การควบคุมทางประชาน (cognitive regulation) โดยนัยของการเจริญสติ หมายถึงการควบคุมการให้ความใส่ใจกับสิ่งเร้าหนึ่ง ๆ หรือหมายถึงการเปลี่ยนการตอบสนองต่อสิ่งเร้านั้น ๆ ความเปลี่ยนแปลงทางประชานนี้ทำโดย reappraisal (การประเมินใหม่) คือการมองสิ่งเร้าในทางบวก และ extinction (การระงับ) คือการเปลี่ยนการตอบสนองต่อสิ่งเร้าไปในทางตรงกันข้าม ส่วนการควบคุมทางพฤติกรรม (behavioral regulation) หมายถึงการห้ามการแสดงออกของพฤติกรรมบางอย่างเพื่อตอบสนองต่อสิ่งเร้า งานวิจัยบอกเป็นนัยว่า มีกลไกสองอย่างที่การเจริญสติมีอิทธิพลต่อการตอบสนองทางอารมณ์ต่อสิ่งเร้า
- การเจริญสติควบคุมอารมณ์โดยเพิ่มการทำงานของคอร์เทกซ์กลีบหน้าผากส่วนหน้าส่วนล่างด้านใน (dorso-medial PFC) และ rACC
- การทำงานเพิ่มขึ้นของคอร์เทกซ์กลีบหน้าผากส่วนหน้าส่วนบนด้านข้าง (ventrolateral PFC) สามารถควบคุมอารมณ์โดยลดการทำงานของอะมิกดะลา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่พยากรณ์โดยงานศึกษาหนึ่ง ที่ตามสังเกตผลของการเจริญสติต่อพื้นอารมณ์/ทัศนคติ (mood/attitude) และการทำงานในสมอง
คอร์เทกซ์กลีบหน้าผากส่วนหน้าด้านข้าง (Lateral prefrontal cortex ตัวย่อ lPFC) สำคัญต่อการใส่ใจแบบคัดเลือก ในขณะที่คอร์เทกซ์กลีบหน้าผากส่วนบน (ventral prefrontal cortex ตัวย่อ vPFC) มีหน้าที่ระงับการตอบสนอง และดังที่กล่าวมาแล้วว่า ACC มีส่วนในการรักษาความใส่ใจที่สิ่งเร้า และอะมิกดะลามีหน้าที่ทำให้เกิดอารมณ์ ดังนั้น จึงเชื่อกันว่า การเจริญสติสามารถควบคุมความคิดเชิงลบ และลดระดับการตอบสนองทางอารมณ์ โดยผ่านเขตต่าง ๆ ของสมองเหล่านี้ ความบกพร่องในการควบคุมอารมณ์ จะเห็นได้ในโรคบางอย่างเช่น ความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่ง และโรคซึมเศร้า และโรคหลายอย่างเช่นนี้ สัมพันธ์กับ PFC ที่ทำงานลดลง และกับอะมิกดะลาที่ทำงานสูงขึ้น ดังนั้น การเจริญสติอาจจะช่วยทำให้โรคดีขึ้น
การประยุกต์ใช้การเจริญสติ
การลดความเจ็บปวด
รู้กันแล้วว่าความเจ็บปวดจะกระตุ้นให้เขตสมองเหล่านี้ทำงาน คือ ACC, insula cortex ด้านหน้าและหลัง (anterior/posterior), Somatosensory cortex ทั้งระดับปฐมภูมิและทุติยภูมิ, และทาลามัส การเจริญสติอาจจะมีกลไกหลายอย่างที่ช่วยให้บุคคลสามารถควบคุมความเจ็บปวดเหนือสำนึกได้
- งานวิจัยในปี ค.ศ. 2010 พบว่า การเจริญสติลดการคาดหวังว่าจะเจ็บ ในสมองกลีบข้างซีกขวา และ mid-cingulate cortex และเพิ่มการทำงานของ ACC และ ventromedial-prefrontal cortex (vm-PFC) และเพราะว่า vm-PFC มีหน้าที่ระงับการตอบสนองทางอารมณ์ต่อสิ่งเร้า จึงสรุปว่า การคาดหวังความเจ็บปวดได้ลดลง เพราะการควบคุมทางประชานและทางอารมณ์
- ส่วนงานวิจัยอีกงานหนึ่งในปี ค.ศ. 2010 พบว่า ผู้กำลังเจริญสติ มีการทำงานในระดับที่สูงกว่าใน insula, ทาลามัส, และ mid-cingulate cortex และการทำงานในระดับที่ลดลงในเขตสมองที่มีหน้าที่ควบคุมอารมณ์คือ medial-PFC, OFC, และอะมิกดะลา เชื่อกันว่า ผู้เจริญสติมีสถานะทางใจ ที่ช่วยให้ใส่ใจอย่างจดจ่อต่อข้อมูลประสาทสัมผัสที่ได้จากสิ่งเร้า และในขณะเดียวกัน ก็ช่วยระงับการประเมินและการตอบสนองทางอารมณ์อีกด้วย
งานศึกษาแรกพบว่า ผู้เจริญสติไม่แตกต่างในความไวต่อความเจ็บปวด แต่ต่างกันที่การคาดหวังความเจ็บปวด แต่งานศึกษาที่สองแสดงว่า ผู้เจริญสติประสบความเจ็บปวดน้อยกว่า ผลงานศึกษาที่ขัดแย้งกันนี้อาจแสดงว่า กลไกการทำงานของการเจริญสติ อาจขึ้นอยู่กับระดับความชำนาญหรือเทคนิคการเจริญสติ
การตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน
มีหลักฐานที่แสดงว่า การทำงานในระดับที่สูงกว่าของสมองส่วนหน้า (anterior) ซีกซ้าย อาจมีสหสัมพันธ์กับภูมิคุ้มกันที่ดีกว่า วัดโดยการทำงานของเซลล์ NK (Natural killer cell) และก็มีหลักฐานด้วยที่แสดงว่า ชีวิตที่เคร่งเครียดจะมีผลลบต่อระดับ Antibody titer ซึ่งเป็นระดับสารภูมิต้านทาน (antibody) ในร่างกายที่เป็นการตอบสนองต่อสารแปลกปลอม และเนื่องจากว่า โปรแกรมการเจริญสติหลายโปรแกรม มีจุดหมายเพื่อลดความเครียด จึงมีการศึกษาผลของสติต่อการตอบสนองของภูมิคุ้มกันด้วย
- ในงานศึกษากับคนไข้ที่เข้าร่วมโปรแกรมการเจริญสติเป็นเวลา 8 อาทิตย์ พบว่า ผู้เจริญสติมีระดับ antibody titer เป็นปฏิกิริยาต่อวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่สูงกว่า และเนื่องจากสมองส่วนหน้า (anterior) ซีกซ้ายทำงานในระดับที่สูงกว่า จึงอาจเป็นเหตุของระดับ antibody titer ที่สูงขึ้น
อ้างอิง
- แปลตามความหมายที่ใช้ได้ว่า "ความเป็นผู้มีสติ" "สติ" และ "การเจริญสติ" ดังที่พบใน Black, David S. (n.d.), A Brief Definition of Mindfulness (PDF)
- ↑ Zgierska, A; Rabago, D; Chawla, N; Kushner, K; Koehler, R; Marlatt, A (2009), "Mindfulness meditation for substance use disorders: a systematic review", Subst Abus (Systematic review), 30 (4): 266–94, doi:10.1080/08897070903250019, PMC 2800788, PMID 19904664CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- ↑ Holzel, B. K.; Lazar, S. W.; Gard, T.; Schuman-Olivier, Z.; Vago, D. R.; Ott, U. (2011). "How Does Mindfulness Meditation Work? Proposing Mechanisms of Action From a Conceptual and Neural Perspective". Perspectives on Psychological Science. 6 (6): 537–559. doi:10.1177/1745691611419671.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- ↑ Hölzel, B.K; Ott, U; Hempel, H; Hackl, A; Wolf, K; Stark, R; Vaitl, D (2007). "Differential engagement of anterior cingulate cortex and adjacent medial frontal cortex in adept meditators and nonmeditators". Neuroscience Letters. 421: 16–21.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- Brefczynski-Lewis, J.A; Lutz, A; Schaefer, H.S; Levinson, D.B; Davidson, R.J (2007). "Neural correlates of attentional expertise in long-term meditation practitioners". Proceedings of the National Academy of Sciences of the United States of America. 104: 11483–11488.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- ↑ Grant, J.A; Courtemanche, J; Duerden, E.G; Duncan, G.H; Rainville, P (2010). "Cortical thickness and pain sensitivity in Zen meditators". Emotion. 10: 43–53.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- Asada, H; Fukuda, Y; Tsunoda, S; Yamaguchi, M; & Tonoike, M (1999). "Frontal midline theta rhythms reflect alternative activation of prefrontal cortex and anterior cingulate cortex in humans". Neuroscience Letters. 274: 29–32.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- van Veen, V.; Carter, C.S (2002). "The anterior cingulate as a conflict monitor: FMRI and ERP studies". Physiology & Behavior. 77: 477–482.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- Hölzel, B.K; Ott, U; Hempel, H; Stark, R (2006-05), "Wie wirkt Achtsamkeit? Eine Interviewstudie mit erfahrenen Meditierenden" [How does mindfulness work? An interview study with experienced meditators], Paper presented at the 24th Symposium of the Section for Clinical Psychology and Psychotherapy of the German Society for Psychology, Würzburg, Germany Check date values in:
|date=
(help)CS1 maint: multiple names: authors list (link) - Lazar, S.W; Kerr, C.E; Wasserman, R.H; Gray, J.R; Greve, D.N;Treadway, M.T; ...; Fischl, B (2005). "Meditation experience is associated with increased cortical thickness". NeuroReport. 16: 1893–1897.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- Hölzel, B.K; Ott, U; Gard, T; Hempel, H; Weygandt, M; Morgen,K; Vaitl, D (2008). "Investigation of mindfulness meditation practitioners with voxel-based morphometry". Social Cognitive and Affective Neuroscience. 3: 55–61.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- Hölzel, B.K; Carmody, J; Vangel, M; Congleton, C; Yerramsetti, S.M; Gard, T; Lazar, S.W (2011). "Mindfulness practice leads to increases in regional brain gray matter density". Psychiatry Research. 191: 36–43.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- Craig, A.D (2003). "Interoception: The sense of the physiological condition of the body". Current Opinion in Neurobiology. 13: 500–505.
- Critchley, H.D; Wiens, S; Rotshtein, P; Ohman, A; Dolan, R.J. (2004). "Neural systems supporting interoceptive awareness". Nature Neuroscience. 7: 189–195.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- Harenski, C.L.; Hamann, S (2006). "Neural correlates of regulating negative emotions related to moral violations". NeuroImage. 30: 313–324.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- Beauregard, M; Levesque, J; Bourgouin, P (2001). "Neural correlates of conscious self-regulation of emotion". Journal of Neuroscience. 21. RC165.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- Schaefer, S.M; Jackson, D.C; Davidson, R.J; Aguirre, G.K; Kimberg, D.Y; Thompson-Schill, S.L (2002). "Modulation of amygdalar activity by the conscious regulation of negative emotion". Journal of Cognitive Neuroscience. 14: 913–921.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- Creswell, J.D; Way, B.M; Eisenberger, N.I; & Lieberman, M.D (2007). "Neural correlates of dispositional mindfulness during affect labeling". Psychosomatic Medicin. 69: 560–565.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- Silbersweig, D; Clarkin, J.F; Goldstein, M; Kernberg, O.F; Tuescher, O; Levy, K.N; . . . Rauch, S.L (2007). "Failure of frontolimbic inhibitory function in the context of negative emotion in borderline personality disorder". American Journal of Psychiatry. 164: 1832–1841.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- Abercrombie, H.C; Schaefer, S.M; Larson, C.L; Oakes, T.R; Lindgren,K.A; Holden, J.E; . . . Davidson, R.J (1998). "Metabolic rate in the right amygdala predicts negative affect in depressed patients". NeuroReport. 9: 3301–3307.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- ↑ Zeidan, F; Grant, J. A; Brown, C. A; McHaffie, J. G; Coghill, R. C (2012). "Mindfulness meditation-related pain relief: Evidence for unique brain mechanisms in the regulation of pain". Neuroscience Letters. 520 (2): 165–173. doi:10.1016/j.neulet.2012.03.082.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- Brown, C.A.; Jones, A.K (2010-09-3). "Meditation experience predicts less negative appraisal of pain: electrophysiological evidence for the involvement of anticipatory neural responses". Pain. 150: 428–438. Check date values in:
|date=
(help)CS1 maint: multiple names: authors list (link) - Kang, DH; Davidson, RJ; Coe, CL; Wheeler, RW; Tomarken, AJ; Ershler, WB (1991). "Frontal brain asymmetry and immune function". Behav Neurosci. 105: 860–869.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- Kiecolt-Glaser, JK; Glaser, R; Gravenstein, S; Malarkey, WB; Sheridan, J. (1996). "Chronic stress alters the immune response to influenza virus vaccine in older adults". Proc Natl Acad Sci USA. 93: 3043–7.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- Davidson, R. J; Kabat-Zinn, J; Schumacher, J; Rosenkranz, M; Muller, D; Santorelli, S. F; . . . Sheridan, J. F (2003). "Alterations in brain and immune function produced by mindfulness meditation". Psychosomatic Medicine. 65 (4): 564–570. doi:10.1097/01.psy.0000077505.67574.e3.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
แหล่งข้อมูลอื่น
- Black, David S. (n.d.), A Brief Definition of Mindfulness (PDF)
- Mindfulness Meditation: Jon Kabat-Zinn
- Mindfulness Meditation Pt. 1
- Mindfulness Meditation Pt. 2