fbpx
วิกิพีเดีย

ชาขาว

กันยายน 25, 2021

ชาขาว เป็นชาชนิดหนึ่ง ผลิตจากตูมและยอดอ่อนของต้นชา แหล่งเพาะปลูกชาขาวที่มีชื่อเสียงอยู่ที่มณฑลฝูเจี้ยน ทางตอนใต้ของประเทศจีน กรรมวิธีผลิตชาขาวเริ่มจากการเลือกเก็บยอดอ่อนชาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ จากนั้นนำยอดชาที่เก็บได้มาผ่านกระบวนการทำแห้งในระยะเวลาที่รวดเร็ว ด้วยวิธีธรรมชาติโดยอาศัย ลม แสงแดด หรือความร้อนซึ่งจะแตกต่างจากกรรมวิธีผลิตชาประเภทอื่น ๆ (ชาเขียว ชาดำ ชาแดง ชาอู่หลง) ที่ผ่านกระบวนการทำแห้งด้วยความร้อนหรือไอน้ำและผ่านกระบวนการหมักสำหรับชาบางประเภท ทำให้ปริมาณสารต่อต้านอนุมูลอิสระและคุณค่าทางโภชนาการของชาขาวยังคงไว้ได้มาก รวมทั้งกลิ่นและรสชาติของชาขาวที่ยังคงความสดชื่นและนุ่มนวล ชาขาวจึงเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพสูง

ยอดชาขาว

ต้นกำเนิดชาขาว

การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร Plantae
ส่วน Magnolipphyta
ชั้น Magnoliopsida
อันดับ Theales
วงศ์ Theacee
สกุล Camellia sinensis

ประเทศจีนเป็นแหล่งผลิตดั้งเดิมของใบชา ชาขาวมีชื่อเดิมตามภาษาท้องถิ่นจีนว่า หยินเซน (แปลว่าเข็มเงิน) ชาวจีนดื่มชาขาวมานานกว่า 1,500 ปี ในปีคริสต์ศักราช 618-907 สมัยราชวงศ์ถังเป็นยุคสมัยของประวัติศาสตร์ชา รูปแบบของชาและวิธีในการเตรียมจะมีความแตกต่างจากปัจจุบัน การผลิตชาขาวในสมัยนั้น ชาขาวจะถูกเก็บตูมชาภายใน 48 ชั่วโมงนับตั้งแต่วินาทีที่ตูมชาแรกผลิออกมา การเก็บเกี่ยวจะต้องทำอย่างพิถีพิถัน โดยจะเก็บเกี่ยวด้วยมือเท่านั้นและเลือกเก็บเฉพาะในช่วงวันแรกของฤดูใบไม้ผลิ จากนั้นตูมชาจะถูกทำให้แห้งและอัดรวมเป็นก้อน ส่วนการชงชานั้นจะนำใบชาบางส่วนจากก้อนชามาใส่ในน้ำเดือดที่อยู่ในภาชนะเคลือบดินเผาจึงได้น้ำชา ในช่วงสมัยราชวงศ์ซ่ง ระหว่างปี 960-1279 การผลิตและวิธีเตรียมชาทั้งหมดในสมัยนั้นมีการเปลี่ยนแปลง รูปแบบชาในสมัยนั้น ส่วนมากจะอยู่ในลักษณะตูมชาแห้งที่ไม่มีการอัด (loose-leaf styles) และมีการเกิดชารูปแบบใหม่เกิดขึ้น คือ ชาผง กระบวนการผลิตชาเริ่มจากตูมชาจะถูกเก็บและนำมาผ่านกระบวนการอบไอน้ำในระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อรักษากลิ่นและรสชาติเฉพาะตัว หลังจากนั้นผ่านกระบวนการทำแห้งและบดเป็นผงละเอียด ทำให้เกิดเครื่องดื่มลักษณะใส สีเหลืองอ่อน เมื่อดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ในช่วงสมัยราชวงศ์ซ่งนี้ได้จักรพรรดิ Hui Zhong ได้กล่าวว่า “ชาขาวเป็นชาที่ดีที่สุดในบรรดาชาทั้งหมด” และได้เกิดชาขาวขึ้นหลายชนิด เนื่องจากชาขาวเป็นชาที่มีรสชาติเป็นที่พึงพอใจของสังคมชั้นสูง มีกลิ่นหอม รสชาติ และคุณสมบัติดี หายากและมีราคาแพง จึงถือเป็นชาชั้นสูงสำหรับพระเจ้าแผ่นดิน

แหล่งเพาะปลูกชาขาว

ชาเป็นพืชกึ่งร้อน สามารถขึ้นได้ดีในเขตอบอุ่นและมีฝน ชาปลูกได้ดีในพื้นที่สูง (200–2,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) ความลาดชันไม่เกิน 45 องศา ความชื้นสัมพัทธ์ประมาณ 70-90% ปริมาณน้ำฝน 1,500-2,500 มิลลิเมตร การปลูกชาสามารถปลูกได้ทั่วไปบนภูเขาสูง แต่แหล่งผลิตชาขาวที่มีชื่อเสียงของประเทศจีนอยู่ที่มณฑลฟูเจี้ยน (Fujian) เนื่องจากเป็นพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเล 400-1,000 เมตร สภาพภูมิอากาศและผืนดินอุดมด้วยแร่ธาตุสมบูรณ์เหมาะสมแก่การปลูกชาขาว สามารถให้ผลผลิตชาขาวที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ยังพบการปลูกชาขาวทางตอนใต้ของจีนที่มณฑลหูหนาน (Hunan) มณฑลกว่างซี (Guangxi) และในประเทศญี่ปุ่น ส่วนในประเทศอินเดียและทวีปแอฟริกามีการเพาะปลูกชาขาวได้แต่มีปริมาณน้อย แม้ว่าปริมาณผลผลิตชาขาวจะมีน้อยแต่การดื่มชาขาวกลับได้รับความนิยมในหลายประเทศ โดยการส่งออกชาขาวของประเทศจีนเริ่มต้นตั้งแต่ปี 1891 และปัจจุบันส่งออกไปยังประเทศเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ อินโดนีเซีย สิงค์โปร์ มาเลเซีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง และมาเก๊า

กรรมวิธีในการผลิต

ชาขาวเป็นพืชตามฤดูกาลโดยสามารถเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูใบไม้ผลิ การเก็บใบชาเพื่อนำมาทำชาขาวนั้นจะคัดเลือกเฉพาะยอดอ่อนที่มีความสมบูรณ์เต็มที่ในฤดูใบไม้ผลิ ตูมชาที่มีรูปลักษณ์เหมือนเข็มและมีขนสีขาวประกายเงินปกคลุมอยู่ รวมไปถึงยอดอ่อน 2 ยอดแรกของต้นชาจะถูกเก็บ จึงเป็นที่มาของชื่อ “ชาขาว” หลังจากนั้นตูมชาที่ถูกเก็บมาจะถูกทำให้แห้งโดยวิธีธรรมชาติ ด้วยการตากแดดหรือผึ่งให้แห้งสนิท เมื่อชงชาขาวกับน้ำร้อนจะให้สีเหลืองอ่อน รสชาติหวาน นุ่มนวล กลมกล่อมและมีกลิ่นหอมเฉพาะ ชาขาวจึงกลายเป็นของที่หายาก และมีราคาแพง ซึ่งการผลิตสามารถทำได้ในทุกช่วงยกเว้นฤดูหนาว อย่างไรก็ดีชาขาวที่ผลิตในฤดูใบไม้ผลิเป็นชาขาวที่มีคุณภาพดีที่สุด ถัดมาเป็นชาขาวที่ผลิตในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และฤดูร้อนเป็นลำดับสุดท้าย ชาส่วนใหญ่ในโลกนี้มาจากต้นชาตระกูลเดียวกัน คือ สกุล Camellia แต่ต่างกันในขั้นตอน กรรมวิธีการผลิต และอายุของใบชา

ประเภทชาขาว

เนื่องจากความแตกต่างของมาตรฐานการเก็บและคัดสรรใบชา รวมทั้งความแตกต่างของสายพันธุ์และถิ่นที่ปลูก สามารถแยกประเภทของชาขาวได้ ดังนี้

  • ชาไป๋ห่าวหยินเซน (Bai Hao Yinzhen) แปลว่า เข็มเงิน (silver needle) ทำจากตูมชาที่มีรูปลักษณ์เหมือนเข็มซึ่งปกคลุมด้วยขนเล็ก ๆ สีขาว เป็นชาขาวที่มีคุณภาพดีที่สุด ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเก็บอยู่ระหว่าง 15 มีนาคมถึง 10 เมษายนของทุกปี และจะต้องเก็บด้วยมือภายในระยะเวลาไม่เกิน 48 ชั่วโมง แหล่งเพาะปลูกที่มณฑลฟูเจี้ยน ประเทศจีน
  • ชาไป๋มู่ตาน (Bai Mu Dan/Pai Mu Tan) แปลว่า ดอกโบตั๋นขาว (white peony) ชาไป๋มู่ตานมีคุณภาพเป็นอันดับสอง รองลงจากชาไป๋ห่าวหยินเซน เนื่องจากผลิตจากยอดและใบอ่อนชา แหล่งเพาะปลูกที่มณฑลฟูเจี้ยน ประเทศจีน
  • ชากงเหมย (Gong Mei) แปลว่า คิ้ว (tribute eyebrow) ตามลักษณะของใบชา ชากงเหมย ผลิตจากใบอ่อนชามีคุณภาพเป็นอันดับสาม รองลงจากชาไป๋มู่ตาน แหล่งเพาะปลูกที่มณฑลฟูเจี้ยน ประเทศจีน
  • ชาโซวเหมย ทำจากยอดชาและใบอ่อน มีกลิ่นและรสแรงกว่าชาขาวประเภทอื่น ๆ มีคุณภาพดีเป็นอันดับสี่ รองลงจากชากงเหมยตามลำดับ ปลูกมากแถบมณฑลกว่างซีและมณฑลฟูเจี้ยน ประเทศจีน
  • ชาขาวผู่เอ๋อร์ ชาที่ปลูกทางภาคใต้ของมณฑลหยุนหนาน เก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ผลิ ชาขาวผู่เอ๋อร์เป็นชาขาวที่มีคุณภาพ มีกลิ่นหอม รสชาติดี
  • ชาขาวซีลอน มีกลิ่นแอลกอฮอล์อ่อน ๆ ผสมกับกลิ่นสนและกลิ่นน้ำผึ้ง ปลูกในประเทศศรีลังกา
  • ชาขาวดาร์จีลิง มีรสนิ่มนวล กลิ่นหอมอ่อน ๆ ปลูกในรัฐดาร์จีลิง ประเทศอินเดีย
  • ชาขาวอัสสัม มีกลิ่นหอมเฉพาะคล้ายข้าวมอลต์ (malty) ปลูกในรัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย
  • ชาขาวแอฟริกัน คล้ายชาไป๋ห่าวหยินเซน แต่มีกลิ่นและรสชาติที่แรง รวมทั้งมีปริมาณคาเฟอีนสูงกว่าชาจีน ปลูกในประเทศมาลาวีและเคนย่า

สารสำคัญในชาขาวที่มีประโยชน์

ชานั้นถือว่ามีประโยชน์ในร่างกายเพราะประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน แร่ธาตุ อัลคาลอยด์ กรดอะมิโน น้ำมันหอมระเหย (volatile oil) และน้ำ จากกรรมวิธีการผลิตชาขาวที่ผ่านกระบวนการเพียงเล็กน้อย ทำให้ชาขาวยังคงสารที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าชาชนิดอื่น อีกทั้งส่วนประกอบต่าง ๆ ของชาขาวยังส่งผลต่อกลิ่น รสชาติ และบ่งบอกถึงคุณภาพของชา

สารต้านอนุมูลอิสระ

สารต้านอนุมูลอิสระที่พบในชาขาวส่วนใหญ่เป็นสารโพลีฟีนอล (polyphenol) จำพวกสารคาเทชิน (catechin) ซึ่งพบมากถึง 70% ของปริมาณสารโพลีฟีนอลทั้งหมดที่มีในชาขาว มีคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพ คือ ต้านอนุมูลอิสระ ต้านมะเร็ง ลดระดับของคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ในเลือด กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ต้านแบคทีเรีย ไวรัส และป้องกันฟันผุ เมื่อเปรียบเทียบปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระจากการบริโภคชาขาวหนึ่งแก้ว พบว่าการบริโภคชาขาวได้รับสารปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าการบริโภคผักและผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น ผักโขม บร๊อคโคลี่ สตรอเบอรี่ ในสัดส่วนการบริโภคที่เท่ากัน จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยคิงสตัน (Kingston University) ประเทศอังกฤษซึ่งได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับคุณสมบัติและสารอาหารจากพืชผักชนิดต่าง ๆ กว่า 21 ชนิดและสารสกัดจากสมุนไพรประเภทต่าง ๆ ว่ามีประโยชน์อย่างไรต่อร่างกายมนุษย์ พบว่า สารอาหารที่มีประโยชน์ในชาขาวมีปริมาณมากกว่าพืชและสารสกัดจากสมุนไพรชนิดอื่น ๆ การดื่มชาขาวจึงมีผลดีต่อสุขภาพมาก

สารคาเทชิน

สารคาเทชินประกอบไปด้วย Epigallocatechin (EGC), Epicatechin (EC), Catechin (C), Epigallocatechin -3-gallate (EGCG), Epicatechin-3-gallate (ECG) และ Gallocatechin (GC) สารโพลีฟีนอลเหล่านี้ สารที่พบมากที่สุด คือ EGCG พบประมาณ 50% ของประมาณสารต้านอนุมูลอิสระในชาขาว สาร EGCG เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงมากกว่าวิตามินเอและวิตามินซีถึง 100 เท่า ทำให้มีคุณสมบัติในการช่วยยับยั้งการสร้างไนโตรซามีน (nitrosamine) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง รุนแรงได้ดีกว่าวิตามินซีมาก เพราะทำปฏิกิริยาได้เร็วและแรงกว่า นอกจากนั้น EGCG ยังสามารถยับยั้งการเปลี่ยนแปลงของเบสในดีเอ็นเอของเซลล์มะเร็ง (Hela cell) ยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นของไขมันเลว (low-density lipoprotein /LDL) ซึ่งทำความเสียหายให้เซลล์ที่ผนังเส้นเลือดมากมาย และเป็นสาเหตุนำไปสู่โรคท่อเลือดแดงและหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis)

ตารางที่ 1 ชื่อสารคาเทชินชนิดต่าง ๆ ในชา

ชื่อสาร R1 R2 R3 R4
(+) -catechin OH H OH H
(–) -epicatechin H OH OH H
(+) -gallocatechin OH H OH OH
(–) -epigallocatechin H OH OH OH
(–) -epicatechin gallate H galloyl OH H
(–) -epigallocatechin gallate H galloyl OH OH
(–) -epiafzelechin gallate H galloyl H H

ฟลาโวนอยด์

ชาขาวมีปริมาณของฟลาโวนอยด์ที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับชาชนิดอื่น โดยชาขาวมีปริมาณฟลาโวนอยด์ซึ่งเป็นสารประกอบ ของฟลาโวนอยด์มากกว่าชาชนิดอื่นถึง 14.2-21.4 เท่า ซึ่งฟลาโวนอยด์มีประสิทธิภาพสูงสุดในการต้านสารอนุมูลอิสระ สามารถช่วยป้องกันการถูกทำลายของเซลล์และเนื้อเยื่อของร่างกายจากอนุมูลอิสระและออกซิเจน

สารคาเฟอีน

ประโยชน์อื่น ๆ ของการดื่มชาขาวคือ มีปริมาณคาเฟอีน ที่ต่ำกว่าชาชนิดอื่นโดยมีประมาณ 15 มิลลิกรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภคของชา ซึ่งน้อยกว่าชาเขียวและชาดำที่มีปริมาณคาเฟอีน 20 มิลลิกรัม และ 40 มิลลิกรัม ตามลำดับ ทั้งนี้ สารตัวนี้เป็นที่ถกเถียงกันในวงการแพทย์ว่ามีประโยชน์ หรือ โทษกันแน่ แต่โดยทั่วไปยอมรับกันว่าถ้าดื่มไม่เกินวันละ 200 มิลลิกรัม ก็ไม่มีผลเสียต่อร่างกาย

กรดอะมิโน

ชาขาวมีคุณสมบัติช่วยผ่อนคลายได้เนื่องจากมีกรดอะมิโนไทอามีน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่พบได้ตามธรรมชาติ ที่ช่วยให้รู้สึกสงบผ่อนคลายโดยที่ไม่ทำให้ง่วง

ประโยชน์ของชาขาวต่อสุขภาพ

ชาขาวถูกใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพ ซึ่งชาขาวถือว่ามีประโยชน์มาทางด้านนี้ เพราะมีสารโพลีฟีอลประเภท EGCG สูงทำให้มีประโยชน์มากกว่าชาชนิดอื่น อีกทั้งชาขาวยังมีคุณสมบัติในการต่อต้านโรคเรื้อรัง การต้านสารก่อมะเร็ง (anticarcinogenicity) การต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant activity) และการยับยั้งการเจริญของเชื้อจุลินทรีย์ (antimicrobial activity) ชาขาวกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกาและยุโรป

คุณสมบัติต้านมะเร็ง

เป็นที่ทราบกันว่า ชาเขียวมีคุณสมบัติในการต้านสารก่อมะเร็ง เพราะชาเขียวมีปริมาณสารคาเทชินและสารโพลีฟีนอลอื่น ๆ มาก ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างไรก็ดี จากการศึกษาปริมาณและคุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระเปรียบเทียบระหว่างชาขาวและชาเขียวของ มหาวิทยาลัยโอไฮโอเซาเทิร์น (Ohio University Southern) ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า ชาขาวมีปริมาณสารโพลีฟีนอลสูงกว่าชาเขียว การดื่มชาขาวจึงน่าจะมีประโยชน์และมีประสิทธิภาพในการต้านโรคมะเร็งที่ดีกว่าชาเขียวหรือชาชนิดอื่น โดยหากอ้างอิงจากคุณสมบัติของชาเขียวที่ช่วยป้องกันมะเร็งหลายชนิด ทั้งมะเร็งปอด ต่อมลูกหมาก เต้านม ลำไส้ใหญ่ ตับ ผิวหนัง และกระเพาะอาหาร ชาขาวก็ย่อมมีประสิทธิภาพในการยับยั้งมะเร็งชนิดต่าง ๆ ได้ดีกว่า เพราะประกอบไปด้วย EGCG ที่มากกว่า ทั้งนี้ข้อมูลวิจัยของมหาวิทยาลัยคิงสตัน ประเทศอังกฤษ เปิดเผยว่า ในชาขาวจะมีสารต้านอนุมูลอิสระ และตัวต้านการเกิดปฏิกิริยาของสารอื่น ๆ กับออกซิเจนทำสามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งและโรคเกี่ยวกับหัวใจ

มะเร็งผิวหนัง

จากการทดลองของมหาวิทยาลัยโคเปนไฮเกน (University of Copenhagen) ประเทศเดนมาร์คร่วมกับ Stephens & Associates Inc ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า สารสกัดชาขาวสามารถยับยั้งและป้องกันการถูกทำลายของสารพันธุกรรม (DNA) ในเซลล์หลังการสัมผัสแดด เพราะฉะนั้นสารต้านอนุมูลอิสระในชาขาว จะช่วยปกป้องผิวจากภายใน โดยป้องกันการสูญเสียโปรตีนในชั้นผิวจากกระบวนการออกซิเดชั่น มีส่วนในการปกป้องเซลล์ผิว ทำให้สามารถปกป้องผิวจากมลภาวะและแสงแดด อันเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยหรือจุดด่างดำ พัฒนาระบบภูมิคุ้มกันผิว ยับยั้งอนุมูลอิสระที่มีสาเหตุมาจากรังสียูวี ซึ่งหากระบบภูมิคุ้มกันของเซลล์ผิวยังทำงานได้อย่างปกติ ถือเป็นส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดโรคมะเร็งผิวหนัง และช่วยให้ต่อมน้ำเหลืองขจัดสารพิษออกจากผิว ทำให้ผิวไม่แห้งกร้าน และยังสามารถเสริมสร้างความแข็งแรงของเซลล์ผิวหนัง ช่วยในด้านความยืดหยุ่น ของผิวหนังให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น ส่งผลให้การทำงานของปอด เส้นเลือด เส้นเอ็นต่าง ๆ และผิวหนังทำงานได้ดี

มะเร็งลำไส้ใหญ่

จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยออริกอนสเตท (Oregon State University) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า ชาขาวมีประโยชน์ในการป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยงานวิจัยยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ชาขาวมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับการใช้ยาซูลินแด เพื่อยับยั้งและป้องการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งในลำไส้ใหญ่ของสัตว์ทดลองที่มีปัจจัยทางพันธุกรรมที่ทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็ง นอกจากนี้สารในชาขาวยังช่วยให้แบคทีเรียที่มีประโยชน์ในลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น ช่วยลดคลอเรสเตอรอลชนิด LDL หรือไขมันเลว และเพิ่มปริมาณคลอเรสเตอรอล HDL หรือไขมันดี ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไขมันอุดตันหลอดเลือด

คุณสมบัติป้องกันโรคหัวใจ

ข้อมูลการศึกษาจาก Internal Medicine and Public Health ประเทศอิตาลี พบว่า การทดลองให้สัตว์ทดลองบริโภคสารฟลาโวนอยด์เป็นประจำสามารถชะลอการเกิดการสะสมไขมันที่หลอดเลือดแดงได้ ซึ่งสัมพันธ์กับข้อมูลการบริโภคชากับการป้องกันการเกิดโรคหัวใจ สารฟลาโวนอยด์ในชาสามารถลดการเสื่อมสภาพของกล้ามเนื้อหัวใจซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดโรคท่อเลือดแดงและหลอดเลือดแดงแข็งได้ โดยเฉพาะสาร EGCG ในชา สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ โดยฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ การเพิ่มของไนตริกออกไซด์ในปฏิกิริยา superoxide production (ROS) และช่วยควบคุมความดันโลหิตสูง โดยไปยับยั้ง angiotensis-I converting enzyme (ACE) นอกจากนี้ยังพบว่าสารโพลีฟีนอลในชา สามารถช่วยลดการเกิดออกซิเดชั่นของ LDL และช่วยลดการดูดซึมคลอเลสเตอรอลเข้าสู่ระบบน้ำเหลือง ทำให้ปริมาณ LDL, very low-density lipoprotein (VLDL) และไตรกลีเซอไรด์ลดลง รวมทั้งสามรถเพิ่มปริมาณ HDL ในกระแสเลือด ซึ่งการมีปริมาณที่ไตรกลีเซอไรด์ต่ำและ HDL สูงนี้สะท้อนถึงสุขภาพของระบบหัวใจที่ดี

คุณสมบัติต้านโรคเบาหวาน

การศึกษาในหนูทดลองพบว่า สารโพลีฟีนอลสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดของหนูที่เป็นเบาหวาน โดยยับยั้งการทำงานของอะไมเลสซึ่งเป็นเอนไซม์ย่อยแป้งให้เปลี่ยนเป็นน้ำตาล โดยยับยั้งการทำงานของอะไมเลสทั้งในน้ำลายและลำไส้ ซึ่งผลที่เกิดขึ้น คือ แป้งจะถูกย่อยช้าลง ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของน้ำตาลในเลือดเป็นไปอย่างช้า ๆ ซึ่งสัมพันธ์กับอัตราการดูดซึมกลูโคส มีผลทำให้การทำงานของ glucose transporter ในลำไส้ลดลงและอัตราการดูดซึมกลูโคสเข้าสู่ร่างกาย ลดลงด้วยนอกจากนี้สารโพลีฟีนอล ประเภท EGCG ยังช่วยเพิ่มความไวต่อสิ่งกระตุ้นของอินซูลิน (insulin sensitivity) และ สารที่มีหน้าที่คล้ายอินซูลิน (insulin-like activity) รวมทั้งเพิ่มการป้องกันการทำงานของตับและตับอ่อนซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคเบาหวาน

คุณสมบัติต้านจุลินทรีย์

สารโพลีฟีนอลมีคุณสมบัติในการต้านแบคทีเรีย โดยเชื่อกันว่า สารโพลีฟีนอลสามารถทำลายเยื่อหุ้มเซลล์ของแบคทีเรีย จากการศึกษาของ Dyson College of Arts and Sciences มหาวิทยาลัยเพซ (Pace University) ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า ชาขาวสามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อจุลินทรีย์ได้ดีกว่าชาเขียว โดยการวิจัยพบว่า ชาขาวสกัด (white tea extract) อาจสามารถใช้ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดที่เกิดจากเชื้อ Staphylococcus, Streptococcus นอกจากนี้ชาขาวมีประสิทธิภาพที่ดีในการหยุดการทำงานของไวรัสและเชื้อรา จากผลการทดลองที่พบทำให้คาดว่า ชาขาวสกัดสามารถต้านไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคในมนุษย์ได้ และชาขาวสกัดสามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อราประเภท Penicillium chrysogenum และ Saccharomyces cerevisiae ซึ่งปัจจุบัน ชาขาวสกัด ถูกใส่ลงไปในยาสีฟันหลายยี่ห้อที่ประเทศจีนและสหรัฐอเมริกาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยับยั้งแบคทีเรียและเชื้อรา

คุณสมบัติป้องกันฟันผุ

สารในชาขาวมีฤทธิ์เป็นสารปฏิชีวนะที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียหลายชนิดจึงสามารถลดอาการอักเสบและติด เชื้อในช่องปากได้ โดยสารโพลีฟีนอลสามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องปาก ซึ่งมีทั้งแบคทีเรียที่ก่อโรคในช่องปาก Porphyromonas gingivilis และ แบคทีเรียที่ทำให้ฟันผุ Streptococcus mutans นอกจากนี้สารโพลีฟีนอลยังสามารถยับยั้งการทำงานของเอนไซม์อะไมเลสในน้ำลายช่วยให้การผลิตกลูโคสและมอลโตสน้อยลง ลดปริมาณอาหารของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดฟันผุ

คุณสมบัติต้านโรคอ้วน

สรรพคุณของชาขาวประการหนึ่ง คือ การช่วยลดน้ำหนัก เนื่องจากสารคาเฟอีนและสารคาเทชินในชาขาว ช่วยให้ระบบเมตาบอลิซึมในร่างกายดีขึ้น เผาผลาญพลังงานได้มาก เป็นผลทำให้น้ำหนักตัวลดลง โดยที่ไม่มีผลกระทบต่ออัตราการเต้นของหัวใจ มีผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์มากมายยืนยันประสิทธิภาพของสารต้านอนุมูลอิสระและสารสกัดทางธรรมชาติเกี่ยวกับคุณสมบัติต้านไขมันและโรคอ้วน สารต้านอนุมูลอิสระจำพวกโพลีฟีนอล สามารถยับยั้ง catechol-O-methyl transferase จึงช่วยกระตุ้นการสร้างความร้อนของร่างกาย ซึ่งช่วยเผาผลาญพลังงานและช่วยจัดการกับโรคอ้วน ทั้งยังมีคุณสมบัติในการชะลอการปล่อยกลูโคสสู่กระแสเลือด ดังที่กล่าวมาแล้วในเรื่องคุณสมบัติต้านโรคเบาหวาน ซึ่งทำให้ชะลอการสร้าง อินซูลินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ส่งเสริมให้ร่างกายสะสมไขมัน ดังนั้น ร่างกายจึงเผาผลาญไขมันแทนที่จะสะสมไขมัน

ในการทดลองประสิทธิภาพของสารต้านอนุมูลอิสระในชาขาวและชาเขียวต่อการยับยั้งเอมไซม์ pancreatic lipase ซึ่งเอมไซม์ชนิดนี้มีหน้าที่ในการย่อยกรดไขมันให้มีขนาดเล็กและสามารถดูดซึมเข้าสู่ลำไส้เล็กได้ ชาขาวแสดงประสิทธิภาพในการยับยั้งการทำงานของเอมไซม์ pancreatic lipase สูงกว่าชาเขียว พิจารณาได้จากปฏิกิริยาการต้านสารอนุมูลอิสระจากค่า EC50 (Median Effective Concentration) พบว่า ค่า EC50 ของชาขาวมีค่าอยู่ที่ 22 µg GAE/ml ซึ่งน้อยกว่าค่า EC50 ของชาเขียวที่ 35 µg GAE/ml แสดงถึง ประสิทธิภาพของชาขาวในการต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีสูงกว่าชาเขียวในการการยับยั้งการทำงานของเอมไซม์ pancreatic lipase ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกที่มีผลต่อโรคอ้วน นอกจากนี้สารต้านอนุมูลอิสระยังมีการเหนี่ยวนำการเกิดกระบวนการทำลายเซลล์ (apoptosis), การลดลงของกระบวนการสะสมไขมันและกระตุ้นกระบวนการทำลายไขมันในเซลล์ในสัตว์ทดลอง มีการศึกษาผลการออกฤทธิ์ของสารสกัดชาขาวต่อเซลล์ไขมัน (pre-adipocytes and adipocytes) ในกระบวนการสร้างเซลล์ไขมัน (adipogenesis) และกระบวนการสลายไขมันในเซลล์ (lipolysis) พบว่า สารสกัดจากชาขาวมีประสิทธิภาพในการลดปริมาณการสร้างเซลล์ไขมัน และสามารถทำลายไขมันในเซลล์ไขมันได้ โดยที่สารสกัดชาขาวสามารถเหนี่ยวนำให้เกิดการเกิดการแสดงออกที่ลดลงของยีนส์ SIR1 ซึ่งเกี่ยวข้องกับเจริญเติบโตของเซลล์ไขมัน และมีผลต่อขั้นตอนการรวมตัวของไตรกลีเซอไรด์ในกระบวนการสร้างเซลล์ไขมันระหว่างกระบวนการเปลี่ยนแปลงเซลล์ จาก pre-adipocytes ไปสู่ adipocytes ซึ่งทำให้มีผลต่อจำนวนเซลล์ไขมันที่มีความสามารถในการเจริญเติบโตได้และในขณะเดียวกันก็มีกระตุ้นกระบวนการสลายไขมันซึ่งเก็บสะสมไว้ในเซลล์โดยเพิ่มกระบวนการเปลี่ยนแปลงไตรกลีเซอไรด์ไปเป็น กรดไขมันและกลีเซอรอล การดื่มชาขาวเป็นประจำจึงอาจเป็นวิธีทางธรรมชาติซึ่งสามารถลดโอกาสที่จะเป็นสาเหตุของโรคอ้วนซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจได้อีกด้วย

คุณสมบัติเพิ่มภูมิคุ้มกัน

ตูมชาขาวมีสารโพลีฟีนอลอยู่มากที่เป็นสิ่งทรงพลัง ช่วยพัฒนากระบวนการล้างสารพิษและสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย จึงช่วยป้องกันเซลล์ของร่างกายจาก การเสื่อมสภาพและถูกทำลายก่อนวัยอันควร ซึ่งเป็นขั้นตอนหนึ่งในระบบภูมิคุ้มกันทางธรรมชาติและปรับสภาพอนุมูลอิสระให้เป็นกลาง จากข้อมูลในวารสารวิทยาภูมิคุ้มกันทางการแพทย์และโรคภูมิแพ้ ฉบับประจำเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2546 ระบุว่าสารคาเทชินในชาขาว โดยเฉพาะ EGCG มีสรรพคุณป้องการติดเชื้อเอชไอวีผลจากการทดลองแสดงให้เห็นว่า ชาขาวเข้มข้นช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสเอชไอทีจับตัวกับเซลล์เม็ดเลือดขาว ชนิดที่มีความสำคัญต่อภูมิคุ้มกันในร่างกายที่เรียกว่า “ ทีเซลล์ ” (T Cells) ซึ่งเป็นด่านแรกที่ทำให้มีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีได้

คุณสมบัติชะลอความแก่

ชาขาวมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระสูงมากและยังสามารถช่วยชะลอความแก่ เซลล์ผิวหนังจะถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระภายใต้ภาวะกดดันในการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidative stress) ทำให้เกิดริ้วรอยและจุดด่างดำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้มลภาวะและแสงแดดแดด จากการศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยคิงสตัน (Kingston University) ประเทศอังกฤษ ในการใช้สารสกัดจากชาขาวต่อการปกป้องโครงสร้างโปรตีนอีลาสตินและคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง พบว่าสารที่สกัดจากชาขาวสามารถปกป้องการทำงานของเอนไซม์ที่ทำลายอีลาสตินและคอลลาเจน ซึ่งจะทำให้เกิดริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นทำให้เกิดผลดีต่อโครงสร้างของผิวหนัง คือ เสริมสร้างความแข็งแรงของเซลล์ผิวหนัง ช่วยในด้านความยืดหยุ่นของผิวหนังให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น รวมทั้งส่งผลต่อการทำงานของปอด เส้นเลือด เส้นเอ็นต่าง ๆ และผิวหนังทำงานได้ดีด้วย

อ้างอิง

  1. ↑ Keiser J., “White Tea: Culmination of Elegance” Retrieved from http://www.teamuse.com/article_010601.html
  2. กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (2552) “การศึกษาความเป็นไปได้ของการผลิตชาเขียวและชาอูหลงแบบซองในจังหวัดเชียงราย” (http://boc.dip.go.th/download/report3.pdf 2014-09-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
  3. ↑ Ho CT., Lin JK., and Shahidi F. (2008) “Tea and Tea Products Chemistry and Health-Promoting Properties” New York: CRC Press. ISBN 978-0-8493-8082-2 (http://issuu.com/crcpress-taylor-and-francis/docs/crc_catspc_k00165)
  4. แดนศิลป์ ธ. (2545) “เสน่หาแห่งชา” กรุงเทพ: อีกหนึ่งสำนักพิมพ์ ISBN 974-90377-7-4
  5. ตรีวานิช ส., (2551) “ชาขาวกับชาเขียว... เหมือนหรือต่างกันอย่างไร” Retrieved from http://knowledgesharing.thaiportal.net/บทความ/tabid/93/articleType/ArticleView/articleId/72/-.aspx
  6. ↑ School of Life Sciences, Kingston University “Anti-collagenase, anti-elastase and anti-oxidant ctivities of extracts from 21 plants.” (http://www.biomedcentral.com/1472-6882/9/27) BMC Complementary and Alternative Medicine. 9:27
  7. The Antioxidants in White Tea (2007) Retrieved from http://www.whiteteacentral.com/antioxidants.html 2010-07-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
  8. Bhimani, R.S., Troll, W., Gruberger, D. and Frenkel, K. 1993. “Inhibition of oxidative stress in HeLa-cells by chemopreventive agents”. (http://cancerres.aacrjournals.org/content/53/19/4528.short) Cancer Res. 53: 4528-33
  9. Miura, S., Watanabe, J., Sano, M., Tomita, T., Osawa, T., Hara, Y. and Tomita, I. 1995. “Effects of various natural antioxidants on the Cu2+-mediated oxidative modification of low density lipoprotein.” (http://www.springerlink.com/content/x3g67g65184q2111/[ลิงก์เสีย]) Biol. Pharm. Bull. 18: 1-4
  10. Hilal Y., and Engelhardt U. (2007) “Characterisation of white tea – Comparison to green and black tea” (http://www.springerlink.com/content/pr77v52vk7285887/[ลิงก์เสีย]) Braunschweig University, Germany
  11. ↑ American Society For Microbiology (2004). “White Tea Beats Green Tea In Fighting Germs.” ScienceDaily. Retrieved from http://www.sciencedaily.com /releases/2004/05/040526070934.htm
  12. Comparison of white tea, green tea, epigallocatechin-3-gallate, and caffeine as inhibitors of PhIP-induced colonic aberrant crypts: (http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/17571968) Nutr. Cancer
  13. ↑ Kingston University (2009). “White Tea Could Keep You Healthy And Looking Young”. ScienceDaily. Retrieved from http://www.sciencedaily.com¬ /releases/2009/08/090810085312.htm
  14. Schutt E. (2003) “White tea extract: a tea less processed” Retrieved from http://findarticles.com/p/articles/mi_m3289/is_9_172/ai_108051746/
  15. Health Benefits of White Tea (n.d.) Retrieved from http://www.pacificcollege.edu/acupuncture-massage-news/articles/532-health-benefits-of-white-tea.html 2010-10-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
  16. Grassi, D., and et al. (2008). “Tea, flavonoids, and nitric oxide-mediated vascular reactivity”. (http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/18641206) Journal of Nutrition, 38, 1554S–1560S.
  17. Kao, Y. H., and et al. (2006). “Tea, obesity, and diabetes. Molecular Nutrition & Food Research” (http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/16416476) 50, 188–210.
  18. Gondoin A., and et al. (2010) “White and green tea polyphenols inhibit pancreatic lipase in vitro” (http://www.sciencedirect.com/science?_ob=ArticleURL&_udi=B6T6V-501FPH9-1&_user=10&_coverDate=06%2F30%2F2010&_rdoc=1&_fmt=high&_orig=search&_origin=search&_sort=d&_docanchor=&view=c&_searchStrId=1493898431&_rerunOrigin=google&_acct=C000050221&_version=1&_urlVersion=0&_userid=10&md5=a2805e1ab405f7d3f85bb1b21a218370&searchtype=a)
  19. ↑ Söhle J., and et al. (2009) “White Tea extract induces lipolytic activity and inhibits adipogenesis in human subcutaneous (pre) -adipocytes.” (http://www.nutritionandmetabolism.com/content/6/1/20) Nutrition & Metabolism
  20. Elements Of Green Tea Prevent HIV From Binding To Human T Cells. Retrieved from http://www.sciencedaily.com/releases/2003/11/031113065933.htm

แหล่งข้อมูลอื่น

กันยายน 25, 2021
ชาขาว, งก, ามภาษา, ในบทความน, ไว, ให, านและผ, วมแก, ไขบทความศ, กษาเพ, มเต, มโดยสะดวก, เน, องจากว, เด, ยภาษาไทยย, งไม, บทความด, งกล, าว, กระน, ควรร, บสร, างเป, นบทความโดยเร, วท, เป, นชาชน, ดหน, ผล, ตจากต, มและยอดอ, อนของต, นชา, แหล, งเพาะปล, กท, อเส, ยงอย, มณฑล. lingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisudchakhaw epnchachnidhnung phlitcaktumaelayxdxxnkhxngtncha aehlngephaaplukchakhawthimichuxesiyngxyuthimnthlfueciyn thangtxnitkhxngpraethscin krrmwithiphlitchakhawerimcakkareluxkekbyxdxxnchainchwngvduibimphli caknnnayxdchathiekbidmaphankrabwnkarthaaehnginrayaewlathirwderw dwywithithrrmchatiodyxasy lm aesngaedd hruxkhwamrxnsungcaaetktangcakkrrmwithiphlitchapraephthxun chaekhiyw chada chaaedng chaxuhlng thiphankrabwnkarthaaehngdwykhwamrxnhruxixnaaelaphankrabwnkarhmksahrbchabangpraephth thaihprimansartxtanxnumulxisraaelakhunkhathangophchnakarkhxngchakhawyngkhngiwidmak rwmthngklinaelarschatikhxngchakhawthiyngkhngkhwamsdchunaelanumnwl chakhawcungepnekhruxngdumthimipraoychntxsukhphaphsungyxdchakhaw enuxha 1 tnkaenidchakhaw 2 aehlngephaaplukchakhaw 3 krrmwithiinkarphlit 3 1 praephthchakhaw 4 sarsakhyinchakhawthimipraoychn 4 1 sartanxnumulxisra 4 2 sarkhaethchin 4 3 flaownxyd 4 4 sarkhaefxin 4 5 krdxamion 5 praoychnkhxngchakhawtxsukhphaph 5 1 khunsmbtitanmaerng 5 1 1 maerngphiwhnng 5 1 2 maernglaisihy 5 2 khunsmbtipxngknorkhhwic 5 3 khunsmbtitanorkhebahwan 5 4 khunsmbtitanculinthriy 5 5 khunsmbtipxngknfnphu 5 6 khunsmbtitanorkhxwn 5 7 khunsmbtiephimphumikhumkn 5 8 khunsmbtichalxkhwamaek 6 xangxing 7 aehlngkhxmulxuntnkaenidchakhaw aekikhkarcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Plantaeswn Magnolipphytachn Magnoliopsidaxndb Thealeswngs Theaceeskul Camellia sinensispraethscinepnaehlngphlitdngedimkhxngibcha chakhawmichuxedimtamphasathxngthincinwa hyinesn aeplwaekhmengin chawcindumchakhawmanankwa 1 500 pi inpikhristskrach 618 907 smyrachwngsthngepnyukhsmykhxngprawtisastrcha rupaebbkhxngchaaelawithiinkaretriymcamikhwamaetktangcakpccubn 1 karphlitchakhawinsmynn chakhawcathukekbtumchaphayin 48 chwomngnbtngaetwinathithitumchaaerkphlixxkma karekbekiywcatxngthaxyangphithiphithn odycaekbekiywdwymuxethannaelaeluxkekbechphaainchwngwnaerkkhxngvduibimphli caknntumchacathukthaihaehngaelaxdrwmepnkxn swnkarchngchanncanaibchabangswncakkxnchamaisinnaeduxdthixyuinphachnaekhluxbdinephacungidnacha inchwngsmyrachwngssng rahwangpi 960 1279 karphlitaelawithietriymchathnghmdinsmynnmikarepliynaeplng rupaebbchainsmynn swnmakcaxyuinlksnatumchaaehngthiimmikarxd loose leaf styles 1 aelamikarekidcharupaebbihmekidkhun khux chaphng krabwnkarphlitchaerimcaktumchacathukekbaelanamaphankrabwnkarxbixnainrayaewlasn ephuxrksaklinaelarschatiechphaatw hlngcaknnphankrabwnkarthaaehngaelabdepnphnglaexiyd thaihekidekhruxngdumlksnais siehluxngxxn emuxdumaelwrusuksdchun kraprikraepra inchwngsmyrachwngssngniidckrphrrdi Hui Zhong idklawwa chakhawepnchathidithisudinbrrdachathnghmd aelaidekidchakhawkhunhlaychnid enuxngcakchakhawepnchathimirschatiepnthiphungphxickhxngsngkhmchnsung miklinhxm rschati aelakhunsmbtidi hayakaelamirakhaaephng cungthuxepnchachnsungsahrbphraecaaephndinaehlngephaaplukchakhaw aekikhchaepnphuchkungrxn samarthkhuniddiinekhtxbxunaelamifn chaplukiddiinphunthisung 200 2 000 emtrehnuxradbnathael khwamladchnimekin 45 xngsa khwamchunsmphththpraman 70 90 primannafn 1 500 2 500 milliemtr 2 karplukchasamarthplukidthwipbnphuekhasung aetaehlngphlitchakhawthimichuxesiyngkhxngpraethscinxyuthimnthlfueciyn Fujian enuxngcakepnphunthisungcakradbnathael 400 1 000 emtr sphaphphumixakasaelaphundinxudmdwyaerthatusmburnehmaasmaekkarplukchakhaw samarthihphlphlitchakhawthimikhunphaph nxkcakniyngphbkarplukchakhawthangtxnitkhxngcinthimnthlhuhnan Hunan mnthlkwangsi Guangxi aelainpraethsyipun swninpraethsxinediyaelathwipaexfrikamikarephaaplukchakhawidaetmiprimannxy aemwaprimanphlphlitchakhawcaminxyaetkardumchakhawklbidrbkhwamniyminhlaypraeths odykarsngxxkchakhawkhxngpraethscinerimtntngaetpi 1891 aelapccubnsngxxkipyngpraethseyxrmni enethxraelnd switesxraelnd xinodniesiy singkhopr maelesiy yipun hxngkng aelamaeka 3 krrmwithiinkarphlit aekikhchakhawepnphuchtamvdukalodysamarthekbekiywinchwngvduibimphli karekbibchaephuxnamathachakhawnncakhdeluxkechphaayxdxxnthimikhwamsmburnetmthiinvduibimphli tumchathimiruplksnehmuxnekhmaelamikhnsikhawprakayenginpkkhlumxyu rwmipthungyxdxxn 2 yxdaerkkhxngtnchacathukekb cungepnthimakhxngchux chakhaw hlngcaknntumchathithukekbmacathukthaihaehngodywithithrrmchati dwykartakaeddhruxphungihaehngsnith emuxchngchakhawkbnarxncaihsiehluxngxxn rschatihwan numnwl klmklxmaelamiklinhxmechphaa chakhawcungklayepnkhxngthihayak aelamirakhaaephng sungkarphlitsamarththaidinthukchwngykewnvduhnaw xyangirkdichakhawthiphlitinvduibimphliepnchakhawthimikhunphaphdithisud thdmaepnchakhawthiphlitinchwngvduibimrwng aelavdurxnepnladbsudthay 3 chaswnihyinolknimacaktnchatrakulediywkn khux skul Camellia aettangkninkhntxn krrmwithikarphlit aelaxayukhxngibcha 4 praephthchakhaw aekikh enuxngcakkhwamaetktangkhxngmatrthankarekbaelakhdsrribcha rwmthngkhwamaetktangkhxngsayphnthuaelathinthipluk samarthaeykpraephthkhxngchakhawid dngni chaiphawhyinesn Bai Hao Yinzhen aeplwa ekhmengin silver needle thacaktumchathimiruplksnehmuxnekhmsungpkkhlumdwykhnelk sikhaw epnchakhawthimikhunphaphdithisud chwngewlathiehmaasminkarekbxyurahwang 15 minakhmthung 10 emsaynkhxngthukpi aelacatxngekbdwymuxphayinrayaewlaimekin 48 chwomng 5 aehlngephaaplukthimnthlfueciyn praethscin chaipmutan Bai Mu Dan Pai Mu Tan aeplwa dxkobtnkhaw white peony chaipmutanmikhunphaphepnxndbsxng rxnglngcakchaiphawhyinesn enuxngcakphlitcakyxdaelaibxxncha aehlngephaaplukthimnthlfueciyn praethscin chakngehmy Gong Mei aeplwa khiw tribute eyebrow tamlksnakhxngibcha chakngehmy phlitcakibxxnchamikhunphaphepnxndbsam rxnglngcakchaipmutan aehlngephaaplukthimnthlfueciyn praethscin chaoswehmy thacakyxdchaaelaibxxn miklinaelarsaerngkwachakhawpraephthxun mikhunphaphdiepnxndbsi rxnglngcakchakngehmytamladb plukmakaethbmnthlkwangsiaelamnthlfueciyn praethscin chakhawphuexxr chathiplukthangphakhitkhxngmnthlhyunhnan ekbekiywinvduibimphli chakhawphuexxrepnchakhawthimikhunphaph miklinhxm rschatidi chakhawsilxn miklinaexlkxhxlxxn phsmkbklinsnaelaklinnaphung plukinpraethssrilngka chakhawdarciling mirsnimnwl klinhxmxxn plukinrthdarciling praethsxinediy chakhawxssm miklinhxmechphaakhlaykhawmxlt malty plukinrthxssm praethsxinediy chakhawaexfrikn khlaychaiphawhyinesn aetmiklinaelarschatithiaerng rwmthngmiprimankhaefxinsungkwachacin plukinpraethsmalawiaelaekhnyasarsakhyinchakhawthimipraoychn aekikhchannthuxwamipraoychninrangkayephraaprakxbipdwysartanxnumulxisra witamin aerthatu xlkhalxyd krdxamion namnhxmraehy volatile oil aelana 3 cakkrrmwithikarphlitchakhawthiphankrabwnkarephiyngelknxy thaihchakhawyngkhngsarthimikhunpraoychntxrangkaymakkwachachnidxun xikthngswnprakxbtang khxngchakhawyngsngphltxklin rschati aelabngbxkthungkhunphaphkhxngcha sartanxnumulxisra aekikh sartanxnumulxisrathiphbinchakhawswnihyepnsarophlifinxl polyphenol caphwksarkhaethchin catechin sungphbmakthung 70 khxngprimansarophlifinxlthnghmdthimiinchakhaw 3 mikhunsmbtithiditxsukhphaph khux tanxnumulxisra tanmaerng ldradbkhxngkhxelsetxrxl aelaitrkliesxirdineluxd kratunrabbphumikhumkn tanaebkhthieriy iwrs aelapxngknfnphu emuxepriybethiybprimansartanxnumulxisracakkarbriophkhchakhawhnungaekw phbwakarbriophkhchakhawidrbsarprimansartanxnumulxisrasungkwakarbriophkhphkaelaphlimthimisartanxnumulxisrasung echn phkokhm brxkhokhli strxebxri insdswnkarbriophkhthiethakn cakphlkarwicykhxngmhawithyalykhingstn Kingston University praethsxngkvssungidthakarwicyekiywkbkhunsmbtiaelasarxaharcakphuchphkchnidtang kwa 21 chnidaelasarskdcaksmuniphrpraephthtang wamipraoychnxyangirtxrangkaymnusy phbwa sarxaharthimipraoychninchakhawmiprimanmakkwaphuchaelasarskdcaksmuniphrchnidxun kardumchakhawcungmiphlditxsukhphaphmak 6 sarkhaethchin aekikh sarkhaethchinprakxbipdwy Epigallocatechin EGC Epicatechin EC Catechin C Epigallocatechin 3 gallate EGCG Epicatechin 3 gallate ECG aela Gallocatechin GC sarophlifinxlehlani sarthiphbmakthisud khux EGCG phbpraman 50 khxngpramansartanxnumulxisrainchakhaw sar EGCG epnsartanxnumulxisrathimiprasiththiphaphsungmakkwawitaminexaelawitaminsithung 100 etha 7 thaihmikhunsmbtiinkarchwyybyngkarsranginotrsamin nitrosamine sungepnsarkxmaerng runaerngiddikwawitaminsimak ephraathaptikiriyaiderwaelaaerngkwa nxkcaknn EGCG yngsamarthybyngkarepliynaeplngkhxngebsindiexnexkhxngesllmaerng Hela cell 8 ybyngkarekidptikiriyaxxksiedchnkhxngikhmnelw low density lipoprotein LDL 9 sungthakhwamesiyhayihesllthiphnngesneluxdmakmay aelaepnsaehtunaipsuorkhthxeluxdaedngaelahlxdeluxdaedngaekhng Atherosclerosis tarangthi 1 chuxsarkhaethchinchnidtang incha 10 chuxsar R1 R2 R3 R4 catechin OH H OH H epicatechin H OH OH H gallocatechin OH H OH OH epigallocatechin H OH OH OH epicatechin gallate H galloyl OH H epigallocatechin gallate H galloyl OH OH epiafzelechin gallate H galloyl H Hflaownxyd aekikh chakhawmiprimankhxngflaownxydthisungthisudemuxethiybkbchachnidxun odychakhawmiprimanflaownxydsungepnsarprakxb khxngflaownxydmakkwachachnidxunthung 14 2 21 4 etha sungflaownxydmiprasiththiphaphsungsudinkartansarxnumulxisra 3 samarthchwypxngknkarthukthalaykhxngesllaelaenuxeyuxkhxngrangkaycakxnumulxisraaelaxxksiecn sarkhaefxin aekikh praoychnxun khxngkardumchakhawkhux miprimankhaefxin thitakwachachnidxunodymipraman 15 millikrmtxhnunghnwybriophkhkhxngcha sungnxykwachaekhiywaelachadathimiprimankhaefxin 20 millikrm aela 40 millikrm 3 tamladb thngni sartwniepnthithkethiyngkninwngkaraephthywamipraoychn hrux othsknaen aetodythwipyxmrbknwathadumimekinwnla 200 millikrm kimmiphlesiytxrangkay krdxamion aekikh chakhawmikhunsmbtichwyphxnkhlayidenuxngcakmikrdxamionithxamin sungepnkrdxamionthiphbidtamthrrmchati thichwyihrusuksngbphxnkhlayodythiimthaihngwngpraoychnkhxngchakhawtxsukhphaph aekikhchakhawthukichpraoychnthangkaraephthyaelasukhphaph sungchakhawthuxwamipraoychnmathangdanni ephraamisarophlifixlpraephth EGCG sungthaihmipraoychnmakkwachachnidxun xikthngchakhawyngmikhunsmbtiinkartxtanorkheruxrng kartansarkxmaerng anticarcinogenicity 3 kartanxnumulxisra antioxidant activity aelakarybyngkarecriykhxngechuxculinthriy antimicrobial activity 11 chakhawkalngidrbkhwamniymmakkhuneruxy thnginpraethsshrthxemrikaaelayuorp khunsmbtitanmaerng aekikh epnthithrabknwa chaekhiywmikhunsmbtiinkartansarkxmaerng ephraachaekhiywmiprimansarkhaethchinaelasarophlifinxlxun mak sungepnsartanxnumulxisra xyangirkdi cakkarsuksaprimanaelakhunsmbtikhxngsartanxnumulxisraepriybethiybrahwangchakhawaelachaekhiywkhxng mhawithyalyoxihoxesaethirn Ohio University Southern praethsshrthxemrika phbwa chakhawmiprimansarophlifinxlsungkwachaekhiyw 12 kardumchakhawcungnacamipraoychnaelamiprasiththiphaphinkartanorkhmaerngthidikwachaekhiywhruxchachnidxun odyhakxangxingcakkhunsmbtikhxngchaekhiywthichwypxngknmaernghlaychnid thngmaerngpxd txmlukhmak etanm laisihy tb phiwhnng aelakraephaaxahar chakhawkyxmmiprasiththiphaphinkarybyngmaerngchnidtang iddikwa ephraaprakxbipdwy EGCG thimakkwa thngnikhxmulwicykhxngmhawithyalykhingstn praethsxngkvs epidephywa inchakhawcamisartanxnumulxisra aelatwtankarekidptikiriyakhxngsarxun kbxxksiecnthasamarthchwypxngknkarekidorkhmaerngaelaorkhekiywkbhwic 13 maerngphiwhnng aekikh cakkarthdlxngkhxngmhawithyalyokhepnihekn University of Copenhagen praethsednmarkhrwmkb Stephens amp Associates Inc praethsshrthxemrika phbwa sarskdchakhawsamarthybyngaelapxngknkarthukthalaykhxngsarphnthukrrm DNA inesllhlngkarsmphsaedd 3 ephraachannsartanxnumulxisrainchakhaw cachwypkpxngphiwcakphayin odypxngknkarsuyesiyoprtininchnphiwcakkrabwnkarxxksiedchn miswninkarpkpxngesllphiw thaihsamarthpkpxngphiwcakmlphawaaelaaesngaedd xnepnsaehtukhxngkarekidriwrxyhruxcuddangda phthnarabbphumikhumknphiw ybyngxnumulxisrathimisaehtumacakrngsiyuwi sunghakrabbphumikhumknkhxngesllphiwyngthanganidxyangpkti thuxepnswnchwyinkarpxngknkarekidorkhmaerngphiwhnng 14 aelachwyihtxmnaehluxngkhcdsarphisxxkcakphiw thaihphiwimaehngkran aelayngsamarthesrimsrangkhwamaekhngaerngkhxngesllphiwhnng chwyindankhwamyudhyun khxngphiwhnngihmiprasiththiphaphdikhun sngphlihkarthangankhxngpxd esneluxd esnexntang aelaphiwhnngthanganiddi maernglaisihy aekikh caknganwicykhxngmhawithyalyxxrikxnsetth Oregon State University sungepnmhawithyalychnnaaehnghnunginpraethsshrthxemrika phbwa chakhawmipraoychninkarpxngknmaernglaisihy odynganwicyyngklawephimetimwa chakhawmiprasiththiphaphechnediywkbkarichyasulinaed 3 15 ephuxybyngaelapxngkarecriyetibotkhxngesllmaernginlaisihykhxngstwthdlxngthimipccythangphnthukrrmthithaihmioxkasepnmaerng nxkcaknisarinchakhawyngchwyihaebkhthieriythimipraoychninlaisthanganiddikhun chwyldkhlxersetxrxlchnid LDL hruxikhmnelw aelaephimprimankhlxersetxrxl HDL hruxikhmndi sungchwyldkhwamesiyngkhxngkarekidorkhikhmnxudtnhlxdeluxd khunsmbtipxngknorkhhwic aekikh khxmulkarsuksacak Internal Medicine and Public Health praethsxitali phbwa karthdlxngihstwthdlxngbriophkhsarflaownxydepnpracasamarthchalxkarekidkarsasmikhmnthihlxdeluxdaedngid sungsmphnthkbkhxmulkarbriophkhchakbkarpxngknkarekidorkhhwic sarflaownxydinchasamarthldkaresuxmsphaphkhxngklamenuxhwicsungepnsaehtusakhyinkarekidorkhthxeluxdaedngaelahlxdeluxdaedngaekhngid 16 odyechphaasar EGCG incha samarthldkhwamesiynginkarekidorkhhlxdeluxdhwic odyfunfukarthangankhxngklamenuxhwic karephimkhxngintrikxxkisdinptikiriya superoxide production ROS aelachwykhwbkhumkhwamdnolhitsung odyipybyng angiotensis I converting enzyme ACE nxkcakniyngphbwasarophlifinxlincha samarthchwyldkarekidxxksiedchnkhxng LDL aelachwyldkardudsumkhlxelsetxrxlekhasurabbnaehluxng thaihpriman LDL very low density lipoprotein VLDL aelaitrkliesxirdldlng rwmthngsamrthephimpriman HDL inkraaeseluxd sungkarmiprimanthiitrkliesxirdtaaela HDL sungnisathxnthungsukhphaphkhxngrabbhwicthidi khunsmbtitanorkhebahwan aekikh karsuksainhnuthdlxngphbwa sarophlifinxlsamarthldradbnatalineluxdkhxnghnuthiepnebahwan odyybyngkarthangankhxngxaimelssungepnexnismyxyaepngihepliynepnnatal odyybyngkarthangankhxngxaimelsthnginnalayaelalais sungphlthiekidkhun khux aepngcathukyxychalng thaihekidkarephimkhunkhxngnatalineluxdepnipxyangcha sungsmphnthkbxtrakardudsumkluokhs miphlthaihkarthangankhxng glucose transporter inlaisldlngaelaxtrakardudsumkluokhsekhasurangkay ldlngdwynxkcaknisarophlifinxl praephth EGCG yngchwyephimkhwamiwtxsingkratunkhxngxinsulin insulin sensitivity aela sarthimihnathikhlayxinsulin insulin like activity rwmthngephimkarpxngknkarthangankhxngtbaelatbxxnsungepnxwywathisakhythiekiywkhxngkbkarekidorkhebahwan 17 khunsmbtitanculinthriy aekikh sarophlifinxlmikhunsmbtiinkartanaebkhthieriy odyechuxknwa sarophlifinxlsamarththalayeyuxhumesllkhxngaebkhthieriy cakkarsuksakhxng Dyson College of Arts and Sciences mhawithyalyephs Pace University praethsshrthxemrika phbwa chakhawsamarthybyngkarecriykhxngechuxculinthriyiddikwachaekhiyw 3 odykarwicyphbwa chakhawskd white tea extract xacsamarthichybyngkarecriyetibotkhxngechuxculinthriythikxihekidthiekidcakechux Staphylococcus Streptococcus nxkcaknichakhawmiprasiththiphaphthidiinkarhyudkarthangankhxngiwrsaelaechuxra cakphlkarthdlxngthiphbthaihkhadwa chakhawskdsamarthtaniwrsthikxihekidorkhinmnusyid aelachakhawskdsamarthybyngkarecriykhxngechuxrapraephth Penicillium chrysogenum aela Saccharomyces cerevisiae 3 sungpccubn chakhawskd thukislngipinyasifnhlayyihxthipraethscinaelashrthxemrikaephuxephimprasiththiphaphinkarybyngaebkhthieriyaelaechuxra khunsmbtipxngknfnphu aekikh sarinchakhawmivththiepnsarptichiwnathisamarthybyngkarecriyetibotkhxngaebkhthieriyhlaychnidcungsamarthldxakarxkesbaelatid echuxinchxngpakid odysarophlifinxlsamarthchwyybyngkarecriyetibotkhxngaebkhthieriyinchxngpak sungmithngaebkhthieriythikxorkhinchxngpak Porphyromonas gingivilis aela aebkhthieriythithaihfnphu Streptococcus mutans 11 nxkcaknisarophlifinxlyngsamarthybyngkarthangankhxngexnismxaimelsinnalaychwyihkarphlitkluokhsaelamxlotsnxylng ldprimanxaharkhxngaebkhthieriythithaihekidfnphu khunsmbtitanorkhxwn aekikh srrphkhunkhxngchakhawprakarhnung khux karchwyldnahnk enuxngcaksarkhaefxinaelasarkhaethchininchakhaw chwyihrabbemtabxlisuminrangkaydikhun ephaphlayphlngnganidmak epnphlthaihnahnktwldlng odythiimmiphlkrathbtxxtrakaretnkhxnghwic miphlkarsuksathangwithyasastrmakmayyunynprasiththiphaphkhxngsartanxnumulxisraaelasarskdthangthrrmchatiekiywkbkhunsmbtitanikhmnaelaorkhxwn sartanxnumulxisracaphwkophlifinxl samarthybyng catechol O methyl transferase cungchwykratunkarsrangkhwamrxnkhxngrangkay sungchwyephaphlayphlngnganaelachwycdkarkborkhxwn 6 thngyngmikhunsmbtiinkarchalxkarplxykluokhssukraaeseluxd dngthiklawmaaelwineruxngkhunsmbtitanorkhebahwan sungthaihchalxkarsrang xinsulinsungepnhxromnthisngesrimihrangkaysasmikhmn dngnn rangkaycungephaphlayikhmnaethnthicasasmikhmn inkarthdlxngprasiththiphaphkhxngsartanxnumulxisrainchakhawaelachaekhiywtxkarybyngexmism pancreatic lipase 18 sungexmismchnidnimihnathiinkaryxykrdikhmnihmikhnadelkaelasamarthdudsumekhasulaiselkid chakhawaesdngprasiththiphaphinkarybyngkarthangankhxngexmism pancreatic lipase sungkwachaekhiyw phicarnaidcakptikiriyakartansarxnumulxisracakkha EC50 Median Effective Concentration phbwa kha EC50 khxngchakhawmikhaxyuthi 22 µg GAE ml sungnxykwakha EC50 khxngchaekhiywthi 35 µg GAE ml aesdngthung prasiththiphaphkhxngchakhawinkartxtanxnumulxisrathimisungkwachaekhiywinkarkarybyngkarthangankhxngexmism pancreatic lipase sungepnhnunginklikthimiphltxorkhxwn nxkcaknisartanxnumulxisrayngmikarehniywnakarekidkrabwnkarthalayesll apoptosis karldlngkhxngkrabwnkarsasmikhmnaelakratunkrabwnkarthalayikhmninesllinstwthdlxng mikarsuksaphlkarxxkvththikhxngsarskdchakhawtxesllikhmn pre adipocytes and adipocytes 19 inkrabwnkarsrangesllikhmn adipogenesis aelakrabwnkarslayikhmninesll lipolysis phbwa sarskdcakchakhawmiprasiththiphaphinkarldprimankarsrangesllikhmn aelasamarththalayikhmninesllikhmnid odythisarskdchakhawsamarthehniywnaihekidkarekidkaraesdngxxkthildlngkhxngyins SIR1 sungekiywkhxngkbecriyetibotkhxngesllikhmn aelamiphltxkhntxnkarrwmtwkhxngitrkliesxirdinkrabwnkarsrangesllikhmnrahwangkrabwnkarepliynaeplngesll cak pre adipocytes ipsu adipocytes sungthaihmiphltxcanwnesllikhmnthimikhwamsamarthinkarecriyetibotidaelainkhnaediywknkmikratunkrabwnkarslayikhmnsungekbsasmiwinesllodyephimkrabwnkarepliynaeplngitrkliesxirdipepn krdikhmnaelakliesxrxl 19 kardumchakhawepnpracacungxacepnwithithangthrrmchatisungsamarthldoxkasthicaepnsaehtukhxngorkhxwnsungepnpccyesiyngihekidorkhhlxdeluxdaelahwicidxikdwykhunsmbtiephimphumikhumkn aekikh tumchakhawmisarophlifinxlxyumakthiepnsingthrngphlng chwyphthnakrabwnkarlangsarphisaelasingskprkxxkcakrangkay cungchwypxngknesllkhxngrangkaycak karesuxmsphaphaelathukthalaykxnwyxnkhwr sungepnkhntxnhnunginrabbphumikhumknthangthrrmchatiaelaprbsphaphxnumulxisraihepnklang cakkhxmulinwarsarwithyaphumikhumknthangkaraephthyaelaorkhphumiaeph chbbpracaeduxnphvscikayn ph s 2546 rabuwasarkhaethchininchakhaw odyechphaa EGCG misrrphkhunpxngkartidechuxexchixwiphlcakkarthdlxngaesdngihehnwa chakhawekhmkhnchwypxngknimihechuxiwrsexchixthicbtwkbesllemdeluxdkhaw chnidthimikhwamsakhytxphumikhumkninrangkaythieriykwa thiesll T Cells sungepndanaerkthithaihmioxkastidechuxexchixwiid 20 khunsmbtichalxkhwamaek aekikh chakhawmikhunsmbtiinkartanxnumulxisrasungmakaelayngsamarthchwychalxkhwamaek esllphiwhnngcathukthalayodyxnumulxisraphayitphawakddninkarekidptikiriyaxxksiedchn Oxidative stress thaihekidriwrxyaelacuddangda odyechphaaxyangyingphayitmlphawaaelaaesngaeddaedd 3 cakkarsuksawicykhxngmhawithyalykhingstn Kingston University praethsxngkvs inkarichsarskdcakchakhawtxkarpkpxngokhrngsrangoprtinxilastinaelakhxllaecninchnphiwhnng phbwasarthiskdcakchakhawsamarthpkpxngkarthangankhxngexnismthithalayxilastinaelakhxllaecn sungcathaihekidriwrxyaelarxyehiywynthaihekidphlditxokhrngsrangkhxngphiwhnng khux esrimsrangkhwamaekhngaerngkhxngesllphiwhnng chwyindankhwamyudhyunkhxngphiwhnngihmiprasiththiphaphdikhun rwmthngsngphltxkarthangankhxngpxd esneluxd esnexntang aelaphiwhnngthanganiddidwy 13 xangxing aekikh 1 0 1 1 Keiser J White Tea Culmination of Elegance Retrieved from http www teamuse com article 010601 html krmsngesrimxutsahkrrm 2552 karsuksakhwamepnipidkhxngkarphlitchaekhiywaelachaxuhlngaebbsxngincnghwdechiyngray http boc dip go th download report3 pdf Archived 2014 09 03 thi ewyaebkaemchchin krmsngesrimxutsahkrrm 3 00 3 01 3 02 3 03 3 04 3 05 3 06 3 07 3 08 3 09 3 10 3 11 Ho CT Lin JK and Shahidi F 2008 Tea and Tea Products Chemistry and Health Promoting Properties New York CRC Press ISBN 978 0 8493 8082 2 http issuu com crcpress taylor and francis docs crc catspc k00165 aednsilp th 2545 esnhaaehngcha krungethph xikhnungsankphimph ISBN 974 90377 7 4 triwanich s 2551 chakhawkbchaekhiyw ehmuxnhruxtangknxyangir Retrieved from http knowledgesharing thaiportal net bthkhwam tabid 93 articleType ArticleView articleId 72 aspx 6 0 6 1 School of Life Sciences Kingston University Anti collagenase anti elastase and anti oxidant ctivities of extracts from 21 plants http www biomedcentral com 1472 6882 9 27 BMC Complementary and Alternative Medicine 9 27 The Antioxidants in White Tea 2007 Retrieved from http www whiteteacentral com antioxidants html Archived 2010 07 29 thi ewyaebkaemchchin Bhimani R S Troll W Gruberger D and Frenkel K 1993 Inhibition of oxidative stress in HeLa cells by chemopreventive agents http cancerres aacrjournals org content 53 19 4528 short Cancer Res 53 4528 33 Miura S Watanabe J Sano M Tomita T Osawa T Hara Y and Tomita I 1995 Effects of various natural antioxidants on the Cu2 mediated oxidative modification of low density lipoprotein http www springerlink com content x3g67g65184q2111 lingkesiy Biol Pharm Bull 18 1 4 Hilal Y and Engelhardt U 2007 Characterisation of white tea Comparison to green and black tea http www springerlink com content pr77v52vk7285887 lingkesiy Braunschweig University Germany 11 0 11 1 American Society For Microbiology 2004 White Tea Beats Green Tea In Fighting Germs ScienceDaily Retrieved from http www sciencedaily com releases 2004 05 040526070934 htm Comparison of white tea green tea epigallocatechin 3 gallate and caffeine as inhibitors of PhIP induced colonic aberrant crypts http www ncbi nlm nih gov pubmed 17571968 Nutr Cancer 13 0 13 1 Kingston University 2009 White Tea Could Keep You Healthy And Looking Young ScienceDaily Retrieved from http www sciencedaily com releases 2009 08 090810085312 htm Schutt E 2003 White tea extract a tea less processed Retrieved from http findarticles com p articles mi m3289 is 9 172 ai 108051746 Health Benefits of White Tea n d Retrieved from http www pacificcollege edu acupuncture massage news articles 532 health benefits of white tea html Archived 2010 10 03 thi ewyaebkaemchchin Grassi D and et al 2008 Tea flavonoids and nitric oxide mediated vascular reactivity http www ncbi nlm nih gov pubmed 18641206 Journal of Nutrition 38 1554S 1560S Kao Y H and et al 2006 Tea obesity and diabetes Molecular Nutrition amp Food Research http www ncbi nlm nih gov pubmed 16416476 50 188 210 Gondoin A and et al 2010 White and green tea polyphenols inhibit pancreatic lipase in vitro http www sciencedirect com science ob ArticleURL amp udi B6T6V 501FPH9 1 amp user 10 amp coverDate 06 2F30 2F2010 amp rdoc 1 amp fmt high amp orig search amp origin search amp sort d amp docanchor amp view c amp searchStrId 1493898431 amp rerunOrigin google amp acct C000050221 amp version 1 amp urlVersion 0 amp userid 10 amp md5 a2805e1ab405f7d3f85bb1b21a218370 amp searchtype a 19 0 19 1 Sohle J and et al 2009 White Tea extract induces lipolytic activity and inhibits adipogenesis in human subcutaneous pre adipocytes http www nutritionandmetabolism com content 6 1 20 Nutrition amp Metabolism Elements Of Green Tea Prevent HIV From Binding To Human T Cells Retrieved from http www sciencedaily com releases 2003 11 031113065933 htmaehlngkhxmulxun aekikhLinus Pauling Institute Micronutrient Information Center http lpi oregonstate edu infocenter phytochemicals tea http jn nutrition org cgi content full 133 10 3285S White Tea for Hair and Skin care http www cosmetochem ch upload docs publications rooibos pdf Archived 2012 04 17 thi ewyaebkaemchchin ekhathungcak https th wikipedia org w index php title chakhaw amp oldid 9622131, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม