fbpx
วิกิพีเดีย

ฐานันดรศักดิ์เจ้านายฝ่ายเหนือ

ฐานันดรศักดิ์เจ้านายฝ่ายเหนือ หมายถึง ระบบชั้น และชั้นยศของเจ้านายประเทศราชฝ่ายเหนือ ซึ่งประกอบด้วยนครเชียงใหม่ นครลำปาง นครลำพูน นครน่าน และนครแพร่

สมัยอาณาจักรล้านนา

ในสมัยอาณาจักรล้านนา เจ้าผู้ครองนครรัฐต่าง ๆ มีฐานันดรแตกต่างกันดังนี้

  • พญา เช่น พญามังรายผู้ครองนครเชียงใหม่ พญาญี่บาผู้ครองนครลำพูน
  • ขุน เช่น ขุนเจืองผู้ครองเมืองพะเยา ขุนเครือผู้ครองเมืองพร้าว
  • ท้าว เช่น ท้าวน้ำท่วมผู้ครองเมืองฝางและเมืองเชียงตุง ท้าวช้อยผู้ครองเมืองฝาง ท้าวลกผู้ครองเมืองพร้าว

เจ้านายฝ่ายหญิง มีพระอิสริยยศ ดังนี้

สมัยเข้าเป็นประเทศราชของสยาม

พระเป็นเจ้าทั้งสาม

ชาวยวนตั้งแต่สมัยอาณาจักรล้านนาเรียกเจ้าผู้ครองนครว่าพญา (พงศาวดารสยามสะกดว่าพระยา) ต่อมาจึงมีตำแหน่งพระมหาอุปราชเรียกว่าเจ้าหอหน้า

ปี พ.ศ. 2325 เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชขึ้นครองราชย์ พระยากาวิละเจ้าเมืองนครลำปางได้พาพี่น้องลงมาเข้าเฝ้าสวามิภักดิ์ จึงโปรดเกล้าฯ เลื่อนพระยากาวิละขึ้นเป็นพระยาวชิรปราการเจ้าเมืองนครเชียงใหม่ พร้อมทั้งตั้งเจ้าธรรมลังกาเป็นพระยาอุปราชนครเชียงใหม่ และเจ้าคำฟั่นเป็นพระยารัตนหัวเมืองแก้ว "ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่" เรียกเจ้านายทั้งสามพระองค์นี้ว่าพระเป็นเจ้าทั้ง 3 พระองค์พี่น้อง โดยพระยาอุปราชเป็นวังหน้าและพระยารัตนะหัวเมืองแก้วเป็นวังหลัง

เจ้าขันห้าใบ

ในปี พ.ศ. 2366 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยจึงโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งพระยาเมืองแก้วประจำนครเชียงใหม่เป็นครั้งแรก ถึงปี พ.ศ. 2369 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงตั้งตำแหน่งพระยาเมืองแก้วและพระยาราชบุตรขึ้นสำหรับนครลำปางและนครลำพูน ทำให้เกิดตำแหน่ง "เจ้าขันห้าใบ" ขึ้นเป็นครั้งแรกในนครลำปางและนครลำพูน ต่อมาปี พ.ศ. 2386 จึงทรงตั้งเจ้าขันทั้งห้าสำหรับเมืองพะเยาด้วย

ในปี พ.ศ. 2398 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงเลื่อนยศเจ้าขันห้าของเมืองประเทศราชอันใหญ่ ได้แก่ นครเชียงใหม่ นครลำปาง และนครลำพูน จากพระยาขึ้นเป็นเจ้าทั้ง 3 เมือง ส่วนเมืองขึ้นให้คงเป็นพระยาอยู่ตามเดิม และปีต่อมาเจ้าขันห้าของนครน่านก็ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นเจ้าด้วย

เจ้าขันห้าใบ ประกอบด้วยเจ้าห้าตำแหน่งคือ

  1. เจ้านคร เจ้าหลวง หรือ เจ้าหอคำ หมายถึงเจ้าผู้ครองนคร มีอำนาจเฉกเช่นพระมหากษัตริย์ มีพานทองคำกลมเครื่องพร้อมเป็นเครื่อยศ เจ้าหลวงที่ทรงอำนาจมากจะเรียกว่า เจ้ามหาชีวิต ดังข้าราชการอังกฤษที่เดินทางมาติดต่อกับเจ้านายล้านนาพบว่า เจ้าหลวงนั้นเป็น"...ผู้นำอิสระที่มีอำนาจเหนือคนในบังคับของตนและเหนือทรัพย์สินรายได้ เป็นผู้สร้างและบังคับใช้กฎหมาย ควบคุมวัดวาอารามและมีพระสงฆ์เป็นผู้รับใช้ ไม่มีกองทัพบกหรือกองทัพเรือ แต่ถ้ามีก็จะอยู่ภายใต้อำนาจพระองค์..."
  2. เจ้าอุปราช หรือ เจ้าหอหน้า มีพานทองคำเหลี่ยมเครื่องพร้อมเป็นเครื่องยศ เป็นเจ้านายที่ทรงอิทธิพลมากกว่าเจ้านายองค์อื่น ๆ บางครั้งเจ้าหอหน้าบางองค์ มีอิทธิพลเหนือเจ้าหลวงด้วย ในยามที่เจ้าหลวงไม่ได้ประทับในนครหลวง ประชวร หรือถึงแก่พิราลัย ระหว่างรอการแต่งตั้งเจ้าหลวงองค์ใหม่ เจ้าหอหน้าจะทำหน้าที่แทน ชาวต่างประเทศที่มาติดต่อกับล้านนาต้องเข้าพบเจ้าหอหน้าก่อนที่จะพบกับเจ้าหลวง เจ้าหอหน้าบางองค์ สามารถเพิกถอนโองการของเจ้าหลวงได้
  3. เจ้าราชวงศ์ มักเป็นอนุชาในเจ้าหลวงองค์ที่อยู่ในราชสมบัติ หรือเป็นโอรสในเจ้าหลวงองค์ก่อน มีพานเงินกลีบบัวถมยาดำเป็นเครื่องยศ
  4. เจ้าบุรีรัตน์ หรือที่ก่อนรัชกาลที่ 4 เรียกว่า เจ้าหอเมืองแก้ว มักเป็นโอรสในเจ้าหลวงองค์ก่อน หรือเป็นโอรสในเจ้าห้าขันเดิม มีพานเงินกลีบบัวกลมเป็นเครื่องยศ
  5. เจ้าราชบุตร เป็นโอรสในเจ้าหลวงองค์ที่อยู่ในราชสมบัติ มีพานเงินกลีบบัวกลมเป็นเครื่องยศ หากเจ้าหลวงถึงแก่พิราลัยแล้วผู้อื่นได้ขึ้นเป็นเจ้าหลวงแทน เจ้าหลวงองค์ใหม่จะเลื่อนเจ้าราชบุตรขึ้นเป็นเจ้าบุรีรัตน์หรือเจ้าราชวงศ์

นายโฮลต์ ฮัลเลต์ นักสำรวจชาวอังกฤษ ได้เคยเขียนบันทึกระบุถึงเจ้าห้าขันไว้ว่า

...ที่ดินทั้งหมดเปนของเจ้าผู้ทรงอำนาจสูงสุดทั้งห้าคน ซึ่งประกอบกันเปนรัฐบาล เขาทั้งหลายให้ที่ดินแก่เจ้านายแลขุนนาง... ซึ่งจะได้รับข้าวหนึ่งตระกร้า...เป็นภาษีที่ดินหรือค่าเช่าที่ดิน...— มิสเตอร์ โฮลต์ ฮัลเลต์

เจ้าตำแหน่งรองและตำแหน่งพิเศษ

เจ้าตำแหน่งรองเป็นตำแหน่งเจ้านายระดับรองลงมาจากเจ้าขันห้า ประกอบด้วย

  • เจ้าราชภาคิไนย
  • เจ้าราชสัมพันธวงศ์
  • เจ้าราชภาติกวงษ์
  • เจ้าไชยสงคราม
  • เจ้าอุตรการโกศล

เฉพาะตำแหน่งเจ้าราชภาคิไนยที่เริ่มตั้งในรัชกาลที่ 4 ตำแหน่งที่เหลือเริ่มตั้งในรัชกาลที่ 5

ในรัชกาลที่ 5 นั้นยังมีการตั้งเจ้าตำแหน่งพิเศษอื่นขึ้นอีก ได้แก่

  • เจ้าสุริยวงศ์
  • เจ้าราชดนัย (มีเฉพาะนครน่าน)
  • เจ้าทักษิณนิเขตน์/ทักษิณเกษตร
  • เจ้านิเวศน์อุดร

สำหรับบางนคร โปรดเกล้าฯ ให้เพิ่ม

  • เจ้าประพันธ์พงษ์
  • เจ้าวรญาติ (ตำแหน่งที่ 1 ถึง 6 ส่วนมากมีเฉพาะนครเชียงใหม่มีพบบ้างในเมืองอื่นแต่น้อยมาก)
  • เจ้าวรวงศ์ (มีเฉพาะนครลำปาง)
  • เจ้าไชยวรเชษฐ์

นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งเจ้าระดับรองเป็น พระ ประกอบด้วย 15 ตำแหน่ง คือ

  1. พระสุริยะจางวาง
  2. พระเมืองราชา
  3. พระอุตรการโกศล
  4. พระไชยสงคราม
  5. พระอินทราชา
  6. พระจันทราชา
  7. พระอินทวิไชย
  8. พระวิไชยราชา
  9. พระไชยราชา (เจ้าตำแหน่งที่ 1 ถึง 9 สามารถเลื่อนขึ้นไปเป็นเจ้าขันห้าได้)
  10. พระวังขวา (นครน่าน ได้เป็นพระยาวังขวา)
  11. พระวังซ้าย (นครน่าน ได้เป็นพระยาวังซ้าย)
  12. พระเมืองไชย
  13. พระเมืองแก่น
  14. พระถาง
  15. พระคำลือ (เจ้าตำแหน่งที่ 10 ถึง 15 ไม่สามารถเลื่อนขึ้นไปตำแหน่งที่ 1 ถึง 9 และเจ้าขันห้าได้)

ในการสถาปนาฐานันดรศักดิ์ เป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์แห่งสยาม ที่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสัญญาบัตรให้แก่เจ้านาย ตามที่เจ้าประเทศราชขอกราบบังคมทูลเสนอมา

เจ้าระดับรองของนครแพร่ ถึงแม้จะมีตำแหน่งเป็นชั้น พระ แต่ภายในล้านนาหรือในนครแพร่เองก็จะได้รับการยอมรับว่ามีฐานันดรศักดิ์สูงกว่ากลุ่มขุนนางเค้าสนามหลวงที่มาจากไพร่และเจ้าผู้ครองนครเป็นผู้แต่งตั้ง เพราะเจ้าระดับรองลงมาเหล่านี้ล้วนสืบเชื้อสายมาจากเจ้าผู้ครองนครแพร่ หรืออาจเป็นขุนนางเป็นคหบดีที่ได้เสกสมรสกับราชธิดานัดดาของเจ้าผู้ครองนครแพร่ ซึ่งมักเรียกกันว่า เจ้าพระ


เจ้านายฝ่ายหญิง

เจ้านายฝ่ายหญิง มีอิสริยยศ ดังนี้

  • มหาเทวี หมายถึง พระมารดาในเจ้าหลวงองค์ที่อยู่ในราชสมบัติ และเป็นพระชายาในเจ้าหลวงองค์ก่อน นิยมเรียกว่าแม่เจ้าเฒ่า หรือแม่เจ้าหลวงเฒ่า
  • ราชเทวี หมายถึง พระชายาเอกในเจ้าหลวงองค์ที่อยู่ในราชสมบัติ นิยมเรียกว่าแม่เจ้า หรือแม่เจ้าหลวง
  • เทวี หมายถึง พระชายารองในเจ้าหลวงองค์ที่อยู่ในราชสมบัติ นิยมเรียกว่าแม่เจ้า

อนึ่งการสืบตำแหน่งเจ้าหลวง หรือสืบความเป็นเจ้าของล้านนาสามารถสืบทางฝ่ายหญิงได้เพราะวัฒนธรรมล้านนานั้นนับถือผีบรรพบุรุษ (ผีปู่ย่า) ซึ่งเป็นผีฝ่ายผู้หญิง วิถีชีวิตของเจ้านายล้านนาจึงแตกต่างจากเจ้านายสยามอย่างสิ้นเชิง เพราะผู้หญิงสามารถสืบทอดเชื้อสายวงศ์ตระกูล และมีการตรากฎหมายรองรับชัดเจนในสมัยพระเจ้าสุทโธธัมมราชา (King Thalun) (คัดลอกจากบทความของอ.ชัยวุฒิ ไชยชนะ) การสืบทอดผ่านทางผีปู่ย่าของฝ่ายหญิงไม่ว่าเจ้านายผู้หญิงจะแต่งงานกับเจ้าที่ต่ำศักดิ์ หรือแต่งงานกับไพร่ บุตรธิดาที่เกิดมาจะมีความเป็นเจ้าโดยปริยาย แต่หากเจ้านายผู้ชายแต่งงานกับไพร่ บุตรธิดาที่เกิดมาจะเป็นไพร่ธรรมดาสามัญหากผีฝ่ายหญิงไม่ปรากฏชัด โดยเฉพาะส่วนใหญ่ถูกกล่าวหาว่าหญิงไพร่มีเชื้อผีกะหรือผีปอบ ในทางกลับกันลูกทาสที่ถือผีคุ้มหลวงอาจมีสถานะเหนือกว่าทั้งนี้เป็นเพราะผีปู่ย่าของฝ่ายหญิงนั้นสำคัญมากต้องมีการสืบให้รู้ ดังเช่น

1.พระยาเทพวงศ์ ขึ้นเจ้าผู้ครองนครแพร่ องค์ที่ 1 สืบผ่านทางราชเทวีคือแม่เจ้าสุชาดา ราชธิดาในพระยาศรีสุริยวงศ์ เจ้าผู้ครองนครแพร่สมัยธนบุรี กับราชเทวี

2.พระยาพิมพิสารราชา ขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองนครแพร่ องค์ที่ 3 สืบผ่านทางพระมารดาคือแม่เจ้าปิ่นแก้ว ราชธิดาในพระยาเทพวงศ์ เจ้าผู้ครองนครแพร่ องค์ที่ 1 กับแม่เจ้าสุชาดาราชเทวี ซึ่งมีบิดาเป็นเพียงพระวังขวา

3.พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์ ขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 6 สืบผ่านทางราชเทวีคือแม่เจ้าอุษา ราชธิดาในพระเจ้ามโหตรประเทศ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 5 กับแม่เจ้าสุวรรณคำแผ่นราชเทวี ซึ่งมีตำแหน่งเดิมเป็นพระยาเมืองแก้ว (พระยาบุรีรัตน์)

4.พระเจ้าอินทวิชยานนท์ ขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 7 สืบผ่านทางราชเทวีคือแม่เจ้าทิพเกสร ราชธิดาองค์โตในพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์ กับแม่เจ้าอุษาราชเทวี เป็นโอรสในพระยาราชวงศ์ (มหาพรหมคำคง)

5.หรือการขึ้นรั้งตำแหน่งเจ้าผู้ครองนครลำปางของเจ้าราชบุตร (แก้วเมืองพวน ณ ลำปาง) โดยการอ้างสิทธิ์ของเจ้าศรีนวล ณ ลำปาง ราชธิดาในเจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต กับแม่เจ้าเมืองชื่นราชเทวี ซึ่งโดยหลักการแล้วการแต่งตั้งเจ้าผู้ครองนคร สมควรจะแต่งตั้งจากเจ้าขันห้าใบ ที่ดำรงฐานันดรชั้นสูงกว่า กล่าวคือ สมควรจะแต่งตั้งเจ้าราชวงศ์ (แก้วปราบเมรุ ณ ลำปาง) ซึ่งดำรงฐานันดรเป็น "เจ้าราชวงศ์"

อ้างอิง

เชิงอรรถ
  1. พงศาวดารโยนก, หน้า 267
  2. พงศาวดารโยนก, หน้า 267
  3. ตำนานวังน่า, หน้า 1
  4. พงศาวดารโยนก, หน้า 425
  5. ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ฉบับ เชียงใหม่ 700 ปี, หน้า 126
  6. ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ฉบับ เชียงใหม่ 700 ปี, หน้า 134
  7. พงศาวดารเมืองนครเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองลำพูนไชย, หน้า 91-92
  8. พงศาวดารเมืองนครเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองลำพูนไชย, หน้า 99
  9. พงศาวดารเมืองนครเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองลำพูนไชย, หน้า 104
  10. พงศาวดารเมืองนครเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองลำพูนไชย, หน้า 109-112
  11. เจ้านายฝ่ายเหนือ และตำนานรักมะเมียะ, หน้า 43
  12. เจ้านายฝ่ายเหนือ และตำนานรักมะเมียะ, หน้า 84-85
  13. U.K., Hilderbrand's Report. F.O. 625/10/157. 15 Febuary. 1875.
  14. Carl Bock. Temple and Elephant: Travels in Siam in 1881-1882. p. 226.
  15. Holt Hallet. A Thousand Miles on an Elephant in the Shan States. p. 411.
  16. เจ้านายฝ่ายเหนือ และตำนานรักมะเมียะ, หน้า 96
  17. ภูเดช แสนสา. หัวเมืองในล้านนายุคราชวงศ์เจ้าเจ็ดตน (ทิพจักราธิวงศ์) ช่วงเป็นประเทศราชของสยาม พ.ศ. ๒๓๑๗ - ๒๔๔๒
  18. เชื้อสายเจ้าหลวงเมืองแพร่ ๔ สมัย, หน้า ๖๗ และ ๑๑๐
บรรณานุกรม
  • ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา. ตำนานวังน่า. พระนคร : โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร, 2462. [พิมพ์แจกในงานศพนางสุ่น ชาติโอสถ ปีมะแม พ.ศ. 2462]
  • ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ฉบับ เชียงใหม่ 700 ปี. เชียงใหม่ : ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ สถาบันราชภัฏเชียงใหม่, 2538. 496 หน้า. ISBN 974-8150-62-3
  • บัวผิว วงศ์พระถาง และคณะ, เชื้อสายเจ้าหลวงเมืองแพร่ ๔ สมัย, (แพร่ : แพร่ไทยอุตสาหการพิมพ์, ๒๕๓๗).
  • ประชากิจกรจักร (แช่ม บุนนาค), พระยา. พงศาวดารโยนก. นนทบุรี : ศรีปัญญา, 2557. 496 หน้า. ISBN 978-616-7146-62-1
  • พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) และเอกสารอื่น. นนทบุรี : ศรีปัญญา, 2553. 800 หน้า. ISBN 978-616-7146-08-9
  • มหาอำมาตยาธิบดี (หรุ่น ศรีเพ็ญ), พระยา. พงศาวดารเมืองนครเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองลำพูนไชย. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์พระจันทร์, 2505.
  • วรชาติ มีชูบท. เจ้านายฝ่ายเหนือ และตำนานรักมะเมียะ. กรุงเทพฯ : สร้างสรรค์บุ๊คส์, 2556. 428 หน้า. ISBN 978-616-220-054-0
  • สุริยพงษ์ผริตเดช, พระเจ้า. ประชุมพงษาวดารภาคที่ ๑๐ เรื่องราชวงษปกรณ์ พงษาวดารเมืองน่าน ฉบับพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช พระเจ้านครน่านยังให้แต่งไว้สำหรับบ้านเมือง. พระนคร : โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร, 2461.

ฐาน, นดรศ, กด, เจ, านายฝ, ายเหน, หมายถ, ระบบช, และช, นยศของเจ, านายประเทศราชฝ, ายเหน, งประกอบด, วยนครเช, ยงใหม, นครลำปาง, นครลำพ, นครน, าน, และนครแพร, เน, อหา, สม, ยอาณาจ, กรล, านนา, สม, ยเข, าเป, นประเทศราชของสยาม, พระเป, นเจ, าท, งสาม, เจ, าข, นห, าใบ, เจ, า. thanndrskdiecanayfayehnux hmaythung rabbchn aelachnyskhxngecanaypraethsrachfayehnux sungprakxbdwynkhrechiyngihm nkhrlapang nkhrlaphun nkhrnan aelankhraephr enuxha 1 smyxanackrlanna 2 smyekhaepnpraethsrachkhxngsyam 2 1 phraepnecathngsam 2 2 ecakhnhaib 2 3 ecataaehnngrxngaelataaehnngphiess 2 4 ecanayfayhying 3 xangxingsmyxanackrlanna aekikhinsmyxanackrlanna ecaphukhrxngnkhrrthtang mithanndraetktangkndngni phya echn phyamngrayphukhrxngnkhrechiyngihm phyayibaphukhrxngnkhrlaphun 1 khun echn khunecuxngphukhrxngemuxngphaeya khunekhruxphukhrxngemuxngphraw thaw echn thawnathwmphukhrxngemuxngfangaelaemuxngechiyngtung thawchxyphukhrxngemuxngfang thawlkphukhrxngemuxngphrawecanayfayhying miphraxisriyys dngni mhaethwi hmaythung smedcphrarachchnniphnpihlwng echn mhaethwicirprapha ethwi hmaythung smedcphrarachini echn phranangysunthraethwismyekhaepnpraethsrachkhxngsyam aekikhphraepnecathngsam aekikh chawywntngaetsmyxanackrlannaeriykecaphukhrxngnkhrwaphya phngsawdarsyamsakdwaphraya 2 txmacungmitaaehnngphramhaxupracheriykwaecahxhna 3 pi ph s 2325 emuxphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachkhunkhrxngrachy phrayakawilaecaemuxngnkhrlapangidphaphinxnglngmaekhaefaswamiphkdi cungoprdekla eluxnphrayakawilakhunepnphrayawchirprakarecaemuxngnkhrechiyngihm phrxmthngtngecathrrmlngkaepnphrayaxuprachnkhrechiyngihm aelaecakhafnepnphrayartnhwemuxngaekw 4 tananphunemuxngechiyngihm eriykecanaythngsamphraxngkhniwaphraepnecathng 3 phraxngkhphinxng 5 odyphrayaxuprachepnwnghnaaelaphrayartnahwemuxngaekwepnwnghlng 6 ecakhnhaib aekikh inpi ph s 2366 phrabathsmedcphraphuththelishlanphalycungoprdekla ihtngphrayaemuxngaekwpracankhrechiyngihmepnkhrngaerk 7 thungpi ph s 2369 phrabathsmedcphranngeklaecaxyuhwcungtngtaaehnngphrayaemuxngaekwaelaphrayarachbutrkhunsahrbnkhrlapangaelankhrlaphun 8 thaihekidtaaehnng ecakhnhaib khunepnkhrngaerkinnkhrlapangaelankhrlaphun txmapi ph s 2386 cungthrngtngecakhnthnghasahrbemuxngphaeyadwy 9 inpi ph s 2398 phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwcungthrngeluxnysecakhnhakhxngemuxngpraethsrachxnihy idaek nkhrechiyngihm nkhrlapang aelankhrlaphun cakphrayakhunepnecathng 3 emuxng swnemuxngkhunihkhngepnphrayaxyutamedim 10 aelapitxmaecakhnhakhxngnkhrnankidrboprdekla ihepnecadwy 11 ecakhnhaib prakxbdwyecahataaehnngkhux 12 ecankhr ecahlwng hrux ecahxkha hmaythungecaphukhrxngnkhr mixanacechkechnphramhakstriy miphanthxngkhaklmekhruxngphrxmepnekhruxys ecahlwngthithrngxanacmakcaeriykwa ecamhachiwit dngkharachkarxngkvsthiedinthangmatidtxkbecanaylannaphbwa ecahlwngnnepn phunaxisrathimixanacehnuxkhninbngkhbkhxngtnaelaehnuxthrphysinrayid epnphusrangaelabngkhbichkdhmay khwbkhumwdwaxaramaelamiphrasngkhepnphurbich immikxngthphbkhruxkxngthpherux aetthamikcaxyuphayitxanacphraxngkh 13 ecaxuprach hrux ecahxhna miphanthxngkhaehliymekhruxngphrxmepnekhruxngys epnecanaythithrngxiththiphlmakkwaecanayxngkhxun bangkhrngecahxhnabangxngkh mixiththiphlehnuxecahlwngdwy inyamthiecahlwngimidprathbinnkhrhlwng prachwr hruxthungaekphiraly rahwangrxkaraetngtngecahlwngxngkhihm ecahxhnacathahnathiaethn chawtangpraethsthimatidtxkblannatxngekhaphbecahxhnakxnthicaphbkbecahlwng ecahxhnabangxngkh samarthephikthxnoxngkarkhxngecahlwngid 14 ecarachwngs mkepnxnuchainecahlwngxngkhthixyuinrachsmbti hruxepnoxrsinecahlwngxngkhkxn miphanenginklibbwthmyadaepnekhruxngys ecaburirtn hruxthikxnrchkalthi 4 eriykwa ecahxemuxngaekw mkepnoxrsinecahlwngxngkhkxn hruxepnoxrsinecahakhnedim miphanenginklibbwklmepnekhruxngys ecarachbutr epnoxrsinecahlwngxngkhthixyuinrachsmbti miphanenginklibbwklmepnekhruxngys hakecahlwngthungaekphiralyaelwphuxunidkhunepnecahlwngaethn ecahlwngxngkhihmcaeluxnecarachbutrkhunepnecaburirtnhruxecarachwngsnayohlt hlelt nksarwcchawxngkvs idekhyekhiynbnthukrabuthungecahakhniwwa thidinthnghmdepnkhxngecaphuthrngxanacsungsudthnghakhn sungprakxbknepnrthbal ekhathnghlayihthidinaekecanayaelkhunnang sungcaidrbkhawhnungtrakra epnphasithidinhruxkhaechathidin 15 misetxr ohlt hlelt ecataaehnngrxngaelataaehnngphiess aekikh ecataaehnngrxngepntaaehnngecanayradbrxnglngmacakecakhnha prakxbdwy 16 ecarachphakhiiny ecarachsmphnthwngs ecarachphatikwngs ecaichysngkhram ecaxutrkarokslechphaataaehnngecarachphakhiinythierimtnginrchkalthi 4 taaehnngthiehluxerimtnginrchkalthi 5inrchkalthi 5 nnyngmikartngecataaehnngphiessxunkhunxik idaek 17 ecasuriywngs ecarachdny miechphaankhrnan ecathksinniekhtn thksinekstr ecaniewsnxudrsahrbbangnkhr oprdekla ihephim 16 ecapraphnthphngs ecawryati taaehnngthi 1 thung 6 swnmakmiechphaankhrechiyngihmmiphbbanginemuxngxunaetnxymak ecawrwngs miechphaankhrlapang ecaichywrechsthnxkcakniyngmitaaehnngecaradbrxngepn phra prakxbdwy 15 taaehnng khux phrasuriyacangwang phraemuxngracha phraxutrkaroksl phraichysngkhram phraxinthracha phracnthracha phraxinthwiichy phrawiichyracha phraichyracha ecataaehnngthi 1 thung 9 samartheluxnkhunipepnecakhnhaid phrawngkhwa nkhrnan idepnphrayawngkhwa phrawngsay nkhrnan idepnphrayawngsay phraemuxngichy phraemuxngaekn phrathang phrakhalux ecataaehnngthi 10 thung 15 imsamartheluxnkhuniptaaehnngthi 1 thung 9 aelaecakhnhaid inkarsthapnathanndrskdi epnphrarachxanackhxngphramhakstriyaehngsyam thicathrngphrakrunaoprdekla phrarachthansyyabtrihaekecanay tamthiecapraethsrachkhxkrabbngkhmthulesnxmaecaradbrxngkhxngnkhraephr thungaemcamitaaehnngepnchn phra aetphayinlannahruxinnkhraephrexngkcaidrbkaryxmrbwamithanndrskdisungkwaklumkhunnangekhasnamhlwngthimacakiphraelaecaphukhrxngnkhrepnphuaetngtng ephraaecaradbrxnglngmaehlanilwnsubechuxsaymacakecaphukhrxngnkhraephr hruxxacepnkhunnangepnkhhbdithiidesksmrskbrachthidanddakhxngecaphukhrxngnkhraephr sungmkeriykknwa ecaphra 18 ecanayfayhying aekikh ecanayfayhying mixisriyys dngni mhaethwi hmaythung phramardainecahlwngxngkhthixyuinrachsmbti aelaepnphrachayainecahlwngxngkhkxn niymeriykwaaemecaetha hruxaemecahlwngetha rachethwi hmaythung phrachayaexkinecahlwngxngkhthixyuinrachsmbti niymeriykwaaemeca hruxaemecahlwng ethwi hmaythung phrachayarxnginecahlwngxngkhthixyuinrachsmbti niymeriykwaaemecaxnungkarsubtaaehnngecahlwng hruxsubkhwamepnecakhxnglannasamarthsubthangfayhyingidephraawthnthrrmlannannnbthuxphibrrphburus phipuya sungepnphifayphuhying withichiwitkhxngecanaylannacungaetktangcakecanaysyamxyangsineching ephraaphuhyingsamarthsubthxdechuxsaywngstrakul aelamikartrakdhmayrxngrbchdecninsmyphraecasuthoththmmracha King Thalun khdlxkcakbthkhwamkhxngx chywuthi ichychna karsubthxdphanthangphipuyakhxngfayhyingimwaecanayphuhyingcaaetngngankbecathitaskdi hruxaetngngankbiphr butrthidathiekidmacamikhwamepnecaodypriyay aethakecanayphuchayaetngngankbiphr butrthidathiekidmacaepniphrthrrmdasamyhakphifayhyingimpraktchd odyechphaaswnihythukklawhawahyingiphrmiechuxphikahruxphipxb inthangklbknlukthasthithuxphikhumhlwngxacmisthanaehnuxkwathngniepnephraaphipuyakhxngfayhyingnnsakhymaktxngmikarsubihru dngechn1 phrayaethphwngs khunecaphukhrxngnkhraephr xngkhthi 1 subphanthangrachethwikhuxaemecasuchada rachthidainphrayasrisuriywngs ecaphukhrxngnkhraephrsmythnburi kbrachethwi2 phrayaphimphisarracha khunepnecaphukhrxngnkhraephr xngkhthi 3 subphanthangphramardakhuxaemecapinaekw rachthidainphrayaethphwngs ecaphukhrxngnkhraephr xngkhthi 1 kbaemecasuchadarachethwi sungmibidaepnephiyngphrawngkhwa3 phraecakawiolrssuriywngs khunepnecaphukhrxngnkhrechiyngihm xngkhthi 6 subphanthangrachethwikhuxaemecaxusa rachthidainphraecamohtrpraeths ecaphukhrxngnkhrechiyngihm xngkhthi 5 kbaemecasuwrrnkhaaephnrachethwi sungmitaaehnngedimepnphrayaemuxngaekw phrayaburirtn 4 phraecaxinthwichyannth khunepnecaphukhrxngnkhrechiyngihm xngkhthi 7 subphanthangrachethwikhuxaemecathipheksr rachthidaxngkhotinphraecakawiolrssuriywngs kbaemecaxusarachethwi epnoxrsinphrayarachwngs mhaphrhmkhakhng 5 hruxkarkhunrngtaaehnngecaphukhrxngnkhrlapangkhxngecarachbutr aekwemuxngphwn n lapang odykarxangsiththikhxngecasrinwl n lapang rachthidainecabuywathywngsmanit kbaemecaemuxngchunrachethwi sungodyhlkkaraelwkaraetngtngecaphukhrxngnkhr smkhwrcaaetngtngcakecakhnhaib thidarngthanndrchnsungkwa klawkhux smkhwrcaaetngtngecarachwngs aekwprabemru n lapang sungdarngthanndrepn ecarachwngs xangxing aekikhechingxrrth phngsawdaroynk hna 267 phngsawdaroynk hna 267 tananwngna hna 1 phngsawdaroynk hna 425 tananphunemuxngechiyngihm chbb echiyngihm 700 pi hna 126 tananphunemuxngechiyngihm chbb echiyngihm 700 pi hna 134 phngsawdaremuxngnkhrechiyngihm emuxngnkhrlapang emuxnglaphunichy hna 91 92 phngsawdaremuxngnkhrechiyngihm emuxngnkhrlapang emuxnglaphunichy hna 99 phngsawdaremuxngnkhrechiyngihm emuxngnkhrlapang emuxnglaphunichy hna 104 phngsawdaremuxngnkhrechiyngihm emuxngnkhrlapang emuxnglaphunichy hna 109 112 ecanayfayehnux aelatananrkmaemiya hna 43 ecanayfayehnux aelatananrkmaemiya hna 84 85 U K Hilderbrand s Report F O 625 10 157 15 Febuary 1875 Carl Bock Temple and Elephant Travels in Siam in 1881 1882 p 226 Holt Hallet A Thousand Miles on an Elephant in the Shan States p 411 16 0 16 1 ecanayfayehnux aelatananrkmaemiya hna 96 phuedch aesnsa hwemuxnginlannayukhrachwngsecaecdtn thiphckrathiwngs chwngepnpraethsrachkhxngsyam ph s 2317 2442 echuxsayecahlwngemuxngaephr 4 smy hna 67 aela 110 brrnanukrmdarngrachanuphaph smedcphraecabrmwngsethx krmphraya tananwngna phrankhr orngphimphosphnphiphrrththnakr 2462 phimphaeckinngansphnangsun chatioxsth pimaaem ph s 2462 tananphunemuxngechiyngihm chbb echiyngihm 700 pi echiyngihm sunywthnthrrmcnghwdechiyngihm sthabnrachphtechiyngihm 2538 496 hna ISBN 974 8150 62 3 bwphiw wngsphrathang aelakhna echuxsayecahlwngemuxngaephr 4 smy aephr aephrithyxutsahkarphimph 2537 prachakickrckr aechm bunnakh phraya phngsawdaroynk nnthburi sripyya 2557 496 hna ISBN 978 616 7146 62 1 phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbphncnthnumas ecim aelaexksarxun nnthburi sripyya 2553 800 hna ISBN 978 616 7146 08 9 mhaxamatyathibdi hrun sriephy phraya phngsawdaremuxngnkhrechiyngihm emuxngnkhrlapang emuxnglaphunichy krungethph orngphimphphracnthr 2505 wrchati michubth ecanayfayehnux aelatananrkmaemiya krungethph srangsrrkhbukhs 2556 428 hna ISBN 978 616 220 054 0 suriyphngsphritedch phraeca prachumphngsawdarphakhthi 10 eruxngrachwngspkrn phngsawdaremuxngnan chbbphraecasuriyphngsphritedch phraecankhrnanyngihaetngiwsahrbbanemuxng phrankhr orngphimphosphnphiphrrththnakr 2461 ekhathungcak https th wikipedia org w index php title thanndrskdiecanayfayehnux amp oldid 9165873, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม