fbpx
วิกิพีเดีย

ปราสาทเคอนิชส์แบร์ค

ปราสาทเคอนิชส์แบร์ค (เยอรมัน: Königsberger Schloss; รัสเซีย: Кёнигсбергский замок) คือปราสาทในเมืองเคอนิชส์แบร์ค เยอรมนี (คาลีนินกราด สหพันธรัฐรัสเซีย ในปัจจุบัน) และเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของเมือง ซึ่งในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของจังหวัดปรัสเซียตะวันออก (แคว้นคาลีนินกราด ในปัจจุบัน)

ปราสาทเคอนิชส์แบร์ค พ.ศ. 2438
ปราสาทเคอนิชส์แบร์คฝั่งทิศตะวันออก พ.ศ. 2453

ประวัติศาสตร์

แต่เดิมบริเวณที่ตั้งของปราสาทเคยเป็นป้อมปราการปรัสเซียเก่านามว่า ทูวังสเตอ (Tuwangste) ใกล้กับแม่น้ำเพรเกิล ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญในการเดินทางสัญจรของปรัสเซีย ใกล้กันนั้นเคยเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวปรัสเซียที่ภายหลังรู้จักกันในนาม เลอเบนิชท์, ซัคไฮม์ และทรักไฮม์ ต่อมาเหล่าอัศวินทิวทอนิกได้ร่วมกันสร้างป้อมปราการจากดินและไม้ขึ้น ภายหลังจากการรุกรานดินแดนบริเวณดังกล่าวได้สำเร็จในปี พ.ศ. 1798 และหลังจากนั้นในปี พ.ศ. 1800 จึงได้มีการสร้างปราสาทออร์เดนบูร์กขึ้นจากหิน มีการขยายพื้นปราสาทให้ใหญ่ขึ้น รวมทั้งต่อเติมอีกหลายครั้งตลอดช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 ถึง 18 ในภายหลัง ป้อมปราการดังกล่าวถูกตั้งให้เป็นที่พำนักของขุนนางศักดินาชั้นแกรนด์มาสเตอร์ในระบอบทิวทอนิก ก่อนที่จะกลายมาเป็นที่พำนักของผู้ปกครองแห่งดัชชีปรัสเซียในที่สุด

ใน สารานุกรมบริตานิกา พ.ศ. 2358 กล่าวถึงปราสาทไว้ว่า "ปราสาทอันงดงามที่ซึ่งท้องพระโรงยาว 83.5 เมตร และกว้าง 18 เมตร โดยปราศจากเสาค้ำยัน พร้อมหอสมุดอันเลิศเลอ ส่วนหอคอยแบบกอทิกก็สูงมาก (100 เมตร) และมีขั้นบันไดสู่จุดยอดจำนวน 284 ขั้น จึงสามารถมองเห็นบริเวณอันห่างไกลได้จากที่แห่งนี้" ทั้งนี้อาคารส่วนขยายอื่น ๆ ของปราสาทเรียงตัวกันเป็นจัตุรัสรูปสี่เหลี่ยมและตั้งอยู่ใกล้กันกับใจกลางของเมือง ซึ่งที่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของระบอบทิวทอนิกในอดีต ต่อจากนั้นในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ถึง 18 ปราสาทถูกปรับเปลี่ยนและต่อเติมอีก ปีกด้านตะวันตกของปราสาทเป็นที่ตั้งของโบสถ์พระราชวัง ชลอสส์เคียร์เคอ (Schloßkirche) อันเป็นสถานที่ที่พระเจ้าฟรีดริชที่ 1 ใช้ประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกในปี พ.ศ. 2244 เช่นเดียวกับจักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 1 ในปี พ.ศ. 2404 ตามผนังและเสาค้ำยันประดับด้วยตราอาร์มของเครืองราชอิสริยาภรณ์เหยี่ยวดำของปรัสเซีย ส่วนบริเวณเหนือโบสถ์คือห้องโถงมอสโกวิเทอร์-ซาลขนาดยาว 83 เมตร สูง 18 เมตร นับว่าเป็นห้องโถงที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในจักรวรรดิเยอรมัน

ส่วนที่พำนักของราชวงศ์โฮเฮนซอลเลิร์นและพิพิธภัณฑ์ปรัสเซีย (ปีกด้านทิศเหนือ) เปิดให้ประชาชนทุกคนเข้าชมได้ทุกวัน เป็นปกติเช่นนี้เรื่อยไปจนกระทั่งช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สองที่มีการปิดไม่ให้เข้าชมอีกต่อไป โดยในช่วงเวลาก่อนหน้านั้น พิพิธภัณฑ์จัดแสดงงานนิทรรศการ ชุดสะสมของปรัสเซีย (Prussian collection) กว่า 240,000 รายการ ซึ่งเป็นชุดสะสมที่เก็บรวบรวมโดยกอสมุดแห่งรัฐและมหาวิทยาลัยเคอนิชส์แบร์ค เช่นเดียวกับภาพวาดโดยศิลปินโลวิส โครินธ์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2469 ฟรีดริช ลาห์ส ได้นำขุดสำรวจบริเวณลานกว้างของปราสาท และในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง งานศิลปะหลายชิ้นที่ยึดมาได้จากรัสเซียถูกนำมาเก็บรักษาไว้ที่นี้ คาดว่างานศิลปะบางส่วนในจำนวนนั้นถูกยึดมาจากห้องอำพันด้วย รวมถึงชุดสะสมของจังหวัดปรัสเซียตะวันออกก็ถูกเก็บรักษาไว้ที่นี่ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ภายในอาณาบริวเณของปราสาทยังเป็นที่ตั้งของ บลุทเกอริชท์ (Blutgericht) โรงเตี๊ยมจำหน่ายไวน์ และมีการใช้รูปของฮันส์ ฟอน ซากาน เป็นเครื่องวัดทิศทางลมอีกด้วย

ต่อมาในในปี พ.ศ. 2487 กองทัพอากาศสหราชอาณาจักรปฏิบัติการทิ้งระเบิดในเคอนิชส์แบร์ค ส่งผลให้ไฟไหม้ปราสาทเสียหายทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ส่วนของกำแพงหินที่หนาทึบรอดพ้นการถูกทำลายจากทั้งการทิ้งระเบิดทางอากาศและการระดมยิงปืนใหญ่ของฝ่ายโซเวียตมาได้ เช่นเดียวกับการสู้รบในเขตเมืองเคอนิชส์แบร์คช่วงเดือนเมษายน พ.ศ. 2488 ช่วยปกป้องไม่ให้ซากปรักหักพังของปราสาทถูกทำลายไปมากกว่าเดิม จนในที่สุดเมืองเคอนิชส์แบร์คที่ถูกทำลายล้างจากสงครามก็ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต และถูกเปลี่ยนชื่อเป็นคาลีนินกราดในปี พ.ศ. 2489 มาจนถึงปัจจุบัน

 
ลานกว้างและโบสถ์ภายในปราสาท

คาลีนินกราดถูกสร้างขึ้นมาใหม่โดยหวังให้เป็นเมืองต้นแบบ แต่ไม่หลงเหลือไว้ซึ่งความเป็นเยอรมันในอดีตอยู่เลย ต่อมาเลโอนิด เบรจเนฟ ออกคำสั่งให้ทำลายซากปรักหักพังที่ยังคงหลงเหลืออยู่ของปราสาท เพื่อไม่ให้เป็นที่ย้ำเตือนถึง "ลัทธิทหารนิยมของปรัสเซีย" ในอดีต ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากบรรดานักศึกษาและนักวิชาการในคาลีนินกราด ในที่สุดซากที่เหลืออยู่จึงถูกระเบิดทำลายในปี พ.ศ. 2511 อย่างไรก็ตาม ซากปรักหักพังของมหาวิหารเคอนิชส์แบร์คที่อยู่บริเวณใกล้เคียงและเป็นที่ฝังศพของอิมมานูเอล คานต์ ไม่ได้ถูกทำลายไปด้วย แต่ถูกคงไว้เช่นนั้นไปจนกระทั่งปลายคริสต์ทศวรรษที่ 1990 คาบเกี่ยวช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 21 มหาวิหารจึงถูกบูรณะปฏิสังขรณ์และฟื้นฟูขึ้นมาใหม่

ปัจจุบัน

ในปัจจุบัน จัตุรัสกลางเมืองของคาลีนินกราดถูกสร้างขึ้นบนบริเวณที่เคยเป็นที่ตั้งของปราสาท ซึ่งแม้ว่าจะชื่อจัตุรัสกลางเมืองแต่แท้จริงแล้วตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของใจกลางเมือง ติดกันกับจัตุรัสคือที่ตั้งของ "บ้านโซเวียต" (House of Soviets) ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นแนวคูเมืองมาก่อนที่จะถูกถมกลบ เดิมทีในปี พ.ศ. 2503 รัฐบาลต้องการใช้ให้เป็นอาคารที่ทำการของฝ่ายปกครองกลาง แต่แผนพัฒนาดังกล่าวต้องหยุดชะงักลงในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1980 เมื่ออาคารขนาดใหญ่ทั้งหลังเริ่มจมลงสู่พื้นดินทีละเล็กทีละน้อย เนื่องจากรากฐานของตึกไม่มั่นคงมากพอ อันเป็นผลมาจากการถล่มของอุโมงค์ใต้ดินที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นชั้นใต้ดินของปราสาท ผู้คนจำนวนมากเรียกเหตุการณ์นี้ว่า "การแก้แค้นของชาวปรัสเซีย" หรือ "ปีศาจร้าย" อย่างไรก็ตาม งานโยธาภายนอกของอาคารก่อสร้างจนเสร็จสมบูรณ์ในที่สุด พร้อมกับการมาเยี่ยมชมของประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูตินในปี พ.ศ. 2548 ในขณะที่งานด้านในตัวอาคารยังคงก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ

หน่วยงานราชการของเมืองคาลีนินกราดชุดปัจจุบันถกเถียงกันว่าควรนำงบประมาณที่ได้รับสนับสนุนจากสำนักงานวัฒนธรรมของรัสเซียมาสร้างปราสาทขึ้นใหม่หรือไม่ ซึ่งการบูรณะปราสาทขึ้นมาใหม่นี้แตกต่างจากการบูรณะมหาวิหารเคอนิชส์แบร์ค เนื่องจากต้องทำการสร้างปราสาทขึ้นมาใหม่หมดทั้งหลังเพราะไม่มีเศษซากใดของตัวอาคารเก่าหลงเหลืออยู่เลย ดังนั้นแผนดังกล่าวจงตกไปชั่วขณะ และเปลี่ยนไปเป็นแผนการปูพื้นหินให้กับจัตุรัสของเมืองแทน

ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2553 รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมประจำภูมิภาค มีฮาอิล อันเดรเยฟ ประกาศว่าจะจัดการลงประชามติในประเด็นการสร้างปราสาทขึ้นมาใหม่ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 ซึ่งก่อนหน้าแต่ตั้งใจจะจัดขึ้นมาตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2553 แล้ว แต่ด้วยแรงกดดันจากเรื่องงบประมาณทำให้การลงประชามติดังกล่าวต้องเลื่อนออกไป

ตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ. 2544 นิตยสารเยอรมัน แดร์ ชปีเกิล (Der Spiegel) ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่การขุดค้นบริเวณส่วนที่เคยเป็นห้องใต้ดินของปราสาท ดำเนินการโดยพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะคาลีนินกราด ซึ่งคาดว่าจะมีการค้นพบสมบัติที่ถูกฝังอยู่หลายชิ้นรวมไปถึงส่วนที่เหลือของห้องอำพัน และเมื่อขุดค้นก็พบสิ่งของนับพันชิ้นอยู่จริง ๆ จนในเดือนมิถุนายนปี พ.ศ. 2548 มีการขุดพบหีบศพสีเงินอันลึกลับพร้อมกับเหรียญโลหะและเครื่องรางของขลังจำนวนหนึ่ง สร้างความตื่นเต้นในหมู่ผู้เชี่ยวชาญอย่างมาก ทั้งนี้มีการวางแผนไว้ว่าเมื่อการขุดค้นสิ้นสุดลงจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมห้องใต้ดินบางส่วนของปราสาทในลักษณะพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งต่อไป

ดูเพิ่ม

  • ความตกลงพ็อทซ์ดัม

อ้างอิง

  1. Isabel Denny,The fall of Hitler's fortress city: the battle for Königsberg, 1945. MBI Publishing Company, 2007, p.163.
  2. http://kaliningrad.kp.ru/online/news/681098/
  3. http://www.klops.ru/news/23509.html

ปราสาทเคอน, ชส, แบร, เยอรม, königsberger, schloss, สเซ, Кёнигсбергский, замок, อปราสาทในเม, องเคอน, ชส, แบร, เยอรมน, คาล, นกราด, สหพ, นธร, ฐร, สเซ, ในป, จจ, และเป, นหน, งในสถานท, สำค, ญของเม, อง, งในอด, ตเคยเป, นเม, องหลวงของจ, งหว, ดปร, สเซ, ยตะว, นออก, แคว, . prasathekhxnichsaebrkh eyxrmn Konigsberger Schloss rsesiy Kyonigsbergskij zamok khuxprasathinemuxngekhxnichsaebrkh eyxrmni khalininkrad shphnthrthrsesiy inpccubn aelaepnhnunginsthanthisakhykhxngemuxng sunginxditekhyepnemuxnghlwngkhxngcnghwdprsesiytawnxxk aekhwnkhalininkrad inpccubn prasathekhxnichsaebrkh ph s 2438 prasathekhxnichsaebrkhfngthistawnxxk ph s 2453 enuxha 1 prawtisastr 2 pccubn 3 duephim 4 xangxingprawtisastr aekikhaetedimbriewnthitngkhxngprasathekhyepnpxmprakarprsesiyekanamwa thuwngsetx Tuwangste iklkbaemnaephrekil sungepnaemnasaysakhyinkaredinthangsycrkhxngprsesiy iklknnnekhyepnthitngkhxnghmubanchawprsesiythiphayhlngruckkninnam elxebnichth skhihm aelathrkihm txmaehlaxswinthiwthxnikidrwmknsrangpxmprakarcakdinaelaimkhun phayhlngcakkarrukrandinaednbriewndngklawidsaercinpi ph s 1798 aelahlngcaknninpi ph s 1800 cungidmikarsrangprasathxxrednburkkhuncakhin mikarkhyayphunprasathihihykhun rwmthngtxetimxikhlaykhrngtlxdchwngkhriststwrrsthi 16 thung 18 inphayhlng pxmprakardngklawthuktngihepnthiphankkhxngkhunnangskdinachnaekrndmasetxrinrabxbthiwthxnik kxnthicaklaymaepnthiphankkhxngphupkkhrxngaehngdchchiprsesiyinthisudin saranukrmbritanika ph s 2358 klawthungprasathiwwa prasathxnngdngamthisungthxngphraorngyaw 83 5 emtr aelakwang 18 emtr odyprascakesakhayn phrxmhxsmudxneliselx swnhxkhxyaebbkxthikksungmak 100 emtr aelamikhnbnidsucudyxdcanwn 284 khn cungsamarthmxngehnbriewnxnhangiklidcakthiaehngni thngnixakharswnkhyayxun khxngprasatheriyngtwknepnctursrupsiehliymaelatngxyuiklknkbicklangkhxngemuxng sungthiaehngniekhyepnthitngkhxngrabxbthiwthxnikinxdit txcaknninkhriststwrrsthi 16 thung 18 prasaththukprbepliynaelatxetimxik pikdantawntkkhxngprasathepnthitngkhxngobsthphrarachwng chlxssekhiyrekhx Schlosskirche xnepnsthanthithiphraecafridrichthi 1 ichprakxbphrarachphithirachaphieskinpi ph s 2244 echnediywkbckrphrrdiwilehlmthi 1 inpi ph s 2404 tamphnngaelaesakhaynpradbdwytraxarmkhxngekhruxngrachxisriyaphrnehyiywdakhxngprsesiy swnbriewnehnuxobsthkhuxhxngothngmxsokwiethxr salkhnadyaw 83 emtr sung 18 emtr nbwaepnhxngothngthiihythisudaehnghnunginckrwrrdieyxrmnswnthiphankkhxngrachwngsohehnsxlelirnaelaphiphithphnthprsesiy pikdanthisehnux epidihprachachnthukkhnekhachmidthukwn epnpktiechnnieruxyipcnkrathngchwngplaysngkhramolkkhrngthisxngthimikarpidimihekhachmxiktxip odyinchwngewlakxnhnann phiphithphnthcdaesdngngannithrrskar chudsasmkhxngprsesiy Prussian collection kwa 240 000 raykar sungepnchudsasmthiekbrwbrwmodykxsmudaehngrthaelamhawithyalyekhxnichsaebrkh echnediywkbphaphwadodysilpinolwis okhrinth txmainpi ph s 2469 fridrich lahs idnakhudsarwcbriewnlankwangkhxngprasath aelainchwngsngkhramolkkhrngthisxng ngansilpahlaychinthiyudmaidcakrsesiythuknamaekbrksaiwthini khadwangansilpabangswnincanwnnnthukyudmacakhxngxaphndwy rwmthungchudsasmkhxngcnghwdprsesiytawnxxkkthukekbrksaiwthinidwyechnkn nxkcakniphayinxanabriwenkhxngprasathyngepnthitngkhxng bluthekxrichth Blutgericht orngetiymcahnayiwn aelamikarichrupkhxnghns fxn sakan epnekhruxngwdthisthanglmxikdwytxmaininpi ph s 2487 kxngthphxakasshrachxanackrptibtikarthingraebidinekhxnichsaebrkh sngphlihifihmprasathesiyhaythnghmd 1 xyangirktam swnkhxngkaaephnghinthihnathubrxdphnkarthukthalaycakthngkarthingraebidthangxakasaelakarradmyingpunihykhxngfayosewiytmaid echnediywkbkarsurbinekhtemuxngekhxnichsaebrkhchwngeduxnemsayn ph s 2488 chwypkpxngimihsakprkhkphngkhxngprasaththukthalayipmakkwaedim cninthisudemuxngekhxnichsaebrkhthithukthalaylangcaksngkhramkthukphnwkekhaepnswnhnungkhxngshphaphosewiyt aelathukepliynchuxepnkhalininkradinpi ph s 2489 macnthungpccubn lankwangaelaobsthphayinprasath khalininkradthuksrangkhunmaihmodyhwngihepnemuxngtnaebb aetimhlngehluxiwsungkhwamepneyxrmninxditxyuely txmaeloxnid ebrcenf xxkkhasngihthalaysakprkhkphngthiyngkhnghlngehluxxyukhxngprasath ephuximihepnthiyaetuxnthung lththithharniymkhxngprsesiy inxdit thamklangesiyngkhdkhancakbrrdanksuksaaelankwichakarinkhalininkrad inthisudsakthiehluxxyucungthukraebidthalayinpi ph s 2511 xyangirktam sakprkhkphngkhxngmhawiharekhxnichsaebrkhthixyubriewniklekhiyngaelaepnthifngsphkhxngximmanuexl khant imidthukthalayipdwy aetthukkhngiwechnnnipcnkrathngplaykhristthswrrsthi 1990 khabekiywchwngtnkhriststwrrsthi 21 mhawiharcungthukburnaptisngkhrnaelafunfukhunmaihmpccubn aekikhinpccubn ctursklangemuxngkhxngkhalininkradthuksrangkhunbnbriewnthiekhyepnthitngkhxngprasath sungaemwacachuxctursklangemuxngaetaethcringaelwtngxyuthangthistawnxxkechiyngitkhxngicklangemuxng tidknkbcturskhuxthitngkhxng banosewiyt House of Soviets thikhrnghnungekhyepnaenwkhuemuxngmakxnthicathukthmklb edimthiinpi ph s 2503 rthbaltxngkarichihepnxakharthithakarkhxngfaypkkhrxngklang aetaephnphthnadngklawtxnghyudchangklnginchwngkhristthswrrsthi 1980 emuxxakharkhnadihythnghlngerimcmlngsuphundinthilaelkthilanxy enuxngcakrakthankhxngtukimmnkhngmakphx xnepnphlmacakkarthlmkhxngxuomngkhitdinthikhrnghnungekhyepnchnitdinkhxngprasath phukhncanwnmakeriykehtukarnniwa karaekaekhnkhxngchawprsesiy hrux pisacray xyangirktam nganoythaphaynxkkhxngxakharkxsrangcnesrcsmburninthisud phrxmkbkarmaeyiymchmkhxngprathanathibdiwladimir putininpi ph s 2548 inkhnathingandanintwxakharyngkhngkxsrangimaelwesrchnwynganrachkarkhxngemuxngkhalininkradchudpccubnthkethiyngknwakhwrnangbpramanthiidrbsnbsnuncaksanknganwthnthrrmkhxngrsesiymasrangprasathkhunihmhruxim sungkarburnaprasathkhunmaihmniaetktangcakkarburnamhawiharekhxnichsaebrkh enuxngcaktxngthakarsrangprasathkhunmaihmhmdthnghlngephraaimmiesssakidkhxngtwxakharekahlngehluxxyuely dngnnaephndngklawcngtkipchwkhna aelaepliynipepnaephnkarpuphunhinihkbcturskhxngemuxngaethnineduxnmithunayn ph s 2553 rthmntrikrathrwngwthnthrrmpracaphumiphakh mihaxil xnedreyf prakaswacacdkarlngprachamtiinpraednkarsrangprasathkhunmaihmineduxnminakhm ph s 2554 sungkxnhnaaettngiccacdkhunmatngaeteduxntulakhm ph s 2553 aelw aetdwyaerngkddncakeruxngngbpramanthaihkarlngprachamtidngklawtxngeluxnxxkip 2 3 tngaeteduxnknyayn ph s 2544 nitysareyxrmn aedr chpiekil Der Spiegel ihkarsnbsnunthangkarenginaekkarkhudkhnbriewnswnthiekhyepnhxngitdinkhxngprasath daeninkarodyphiphithphnthprawtisastrsilpakhalininkrad sungkhadwacamikarkhnphbsmbtithithukfngxyuhlaychinrwmipthungswnthiehluxkhxnghxngxaphn aelaemuxkhudkhnkphbsingkhxngnbphnchinxyucring cnineduxnmithunaynpi ph s 2548 mikarkhudphbhibsphsienginxnluklbphrxmkbehriyyolhaaelaekhruxngrangkhxngkhlngcanwnhnung srangkhwamtunetninhmuphuechiywchayxyangmak thngnimikarwangaephniwwaemuxkarkhudkhnsinsudlngcaepidihprachachnekhachmhxngitdinbangswnkhxngprasathinlksnaphiphithphnthklangaecngtxipduephim aekikhkhxmmxns miphaphaelasuxekiywkb prasathekhxnichsaebrkhkhwamtklngphxthsdmxangxing aekikh Isabel Denny The fall of Hitler s fortress city the battle for Konigsberg 1945 MBI Publishing Company 2007 p 163 http kaliningrad kp ru online news 681098 http www klops ru news 23509 htmlekhathungcak https th wikipedia org w index php title prasathekhxnichsaebrkh amp oldid 9242476, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม