วัฒนธรรมหงชาน
วัฒนธรรมหงชาน (จีน: 红山文化, อังกฤษ: Hongshan Culture) เป็นวัฒนธรรม ยุคหินใหม่ ในลุ่มแม่น้ำ เหลียว แหล่งโบราณคดี Hongshan พบในพื้นที่ที่ทอดยาวจาก มองโกเลียใน ถึง เหลียวหนิง และมีช่วงอายุตั้งแต่ 4,700 ถึง 2,900 ปีก่อนคริสตกาล
ชื่อภาษาท้องถิ่น | 红山文化 |
---|---|
ภูมิภาค | มองโกเลียใน และ เหลียวหนิง , ประเทศจีน |
สมัย | ยุคหินใหม่ |
ช่วงเวลา | 4,700 ถึง 2,900 ปีก่อนคริสตกาล |
ก่อนหน้า | วัฒนธรรม Xinglongwa (6,200 – 5,400 ปีก่อนคริสตกาล) วัฒนธรรม Xinle (5,300 – 4,800 ปีก่อนคริสตกาล) วัฒนธรรม Zhaobaogou (5,400 – 4,500 ปีก่อนคริสตกาล) |
ถัดไป | ยุคสำริด |
วัฒนธรรมนี้ตั้งชื่อตามหงชานโฮ่ว ( จีน: 红山后, Hongshanhou) ซึ่งเป็นแหล่งโบราณคดีที่อยู่ใน เขตหงชาน ฉือเฟิง แหล่งโบราณคดีหงชานโฮ่ว ถูกค้นพบโดย Torii Ryūzō นักโบราณคดีชาวญี่ปุ่นในปี 1908 และถูกขุดสำรวจขนานใหญ่ในปี 1935 โดย Kōsaku Hamada และ Mizuno Seiichi
บริบททางประวัติศาสตร์
ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนก่อนหน้าวัฒนธรรมหงชาน คือ วัฒนธรรม Xinglongwa (6,200 – 5,400 ปีก่อนคริสตกาล) วัฒนธรรม Xinle (5,300 – 4,800 ปีก่อนคริสตกาล) วัฒนธรรม Zhaobaogou (5,400 – 4,500 ปีก่อนคริสตกาล) และ ทั้งนี้วัฒนธรรม Hongshan อาจร่วมสมัยกับ Xinle และที่แกิดหลังจากนั้นเล็กน้อย
วัฒนธรรมหย่างเฉา ที่กินอาณาบริเวณขนาดใหญ่ อยู่ร่วมสมัยกับวัฒนธรรมหงชาน (ดูแผนที่) วัฒนธรรมทั้งสองนี้มีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
พันธุศาสตร์และเอกลักษณ์ชาติพันธุ์
การศึกษาโดย Yinqiu Cui et al. ในปีพ.ศ. 2556 พบว่าร้อยละ 63 ของกลุ่มตัวอย่างพันธุศาสตร์ที่คละกันจากแหล่งโบราณคดีต่าง ๆ ของวัฒนธรรมหงชาน ถูกระบุเป็นพันธุกรรมแบบ subclade N1 (xN1a, N1c) ของ กลุ่ม haplogroup N-M231 (แฮ็ปโลกรุ๊ป N - พันธุกรรมเด่นที่พบในมนุษย์จากการถ่ายทอดผ่านทางฝ่ายชาย ส่วนมากใช้ชีวิตในแถบยูเรเชียตอนเหนือ) จากการคำนวณ N (ค่าบ่งชี้หลักของพันธุกรรมแฮ็ปโลกรุ๊ป N) สูงถึงร้อยละ 89 ซึ่งโดดเด่นออกจากชาติพันธุ์อื่น ๆ ในภูมิภาค (เอเชียตะวันออก) ในช่วงยุคหินใหม่ และพบว่าอัตราส่วน N จะค่อย ๆ ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ปัจจุบันมนุษย์ที่มีพันธุกรรม แฮ็ปโลกรุ๊ป N นี้พบมากที่สุดใน ฟินแลนด์ รัฐบอลติก และในกลุ่มชาติพันธุ์ทางเหนือของไซบีเรียเช่น ยาคุทส์ (Yakuts)
กลุ่มพันธุกรรมอื่น ๆ ที่ถูกระบุในการศึกษา ได้แก่ C และ O2a (O2a2) ซึ่งทั้งสองกลุ่มพันธุกรรมนี้มีอิทธิพลเหนือประชากรในปัจจุบัน
รายงานการศึกษาปี 2563 โดย เนลสันและคณะ พยายามเชื่อมโยงวัฒนธรรมหงชาน กับบริบททางภาษา “ Transeurasian” (ดู ถาษา Altaic )
โบราณวัตถุ
ศิลปวัตถุของวัฒนธรรมหงชานที่ถูกฝังใต้ดิน ได้แก่ ตัวอย่างงาน หยก เป็นที่รู้จักมากที่สุด วัฒนธรรมหงซานเป็นที่รู้จักกว้างขวางในเรื่องศิลปกรรมหินหยกรูป มังกรหมู (หรือ ทารกมังกร) นอกจากนี้ยังพบตุ๊กตาดินเผา รูปตุ๊กดาหญิงตั้งครรภ์ทั่วพื้นที่วัฒนธรรมหงซาน ยังมีการขุดพบแหวนทองแดงขนาดเล็กด้วย[ต้องการอ้างอิง]
จี้ หยก รูปคล้าย กีบ วัฒนธรรมหงชานใน เหลียวหนิง ที่ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีน ปักกิ่ง
มังกรหมู จัดแสดงใน บริติชมิวเซียม
ศาสนา
แหล่งโบราณคดีที่ Niuheliang เป็นสถานที่ประกอบศาสนพิธีที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมหงชาน นักสำรวจโบราณคดีได้ค้นพบวิหารใต้ดินขนาดใหญ่ใน Niuheliang ซึ่งสำรวจพบ แท่นบูชา และ สถูปกองหิน นักโบราณคดีตั้งชื่อว่า วิหารเทพธิดา เนื่องจากมีการค้นพบดินปั้นรูปศีรษะของหญิงที่มีดวงตาฝังประดับด้วย หยก โครงสร้างวิหารนี้ เป็นแบบวิหารใต้ดินซึ่งลึก 1 เมตร ประกอบขึ้นด้วยแท่นหินและผนังเที่มีภาพวาดจิตรกรรมฝาผนัง
โบราณวัตถุที่ตั้งอยู่ภายใน วิหารเทพธิดา คือ ประติมากรรมดินที่มีขนาดใหญ่ถึงสามเท่าของขนาดมนุษย์จริง รูปแกะสลักที่มีขนาดใหญ่มากนี้สันนิษฐานว่าอาจเป็นรูปเคารพของ เทพ ซึ่งไม่ได้ปรากฏในศาสนา และ วัฒนธรรมจีน อื่น ๆ
การมีอยู่ของเครือข่ายการค้าที่ซับซ้อนและอนุสรณ์สถาน(ทางศาสนา) เช่น เนินสุสาน[ต้องการอ้างอิง] และ วิหารเทพธิดา อาจบ่งชี้ถึงนัยยะของการดำรงอยู่ของ "อาณาจักร" ในชุมชน ก่อนประวัติศาสตร์ เหล่านี้
นอกจากนี้ยังมีการค้นพบ เครื่องปั้นดินเผา เขียนสีภายในวิหาร และขุดพบสุสานในบริเวณใกล้เคียงกว่า 60 แห่ง ทั้งหมดสร้างด้วยหินและปิดทับด้วยกองหินซึ่งมักรวมถึงสศิลปวัตถุจากหยกด้วย สถูปกองหิน สองกองถูกค้นพบบนยอดเนินสองแห่งที่อยู่ใกล้ ๆ โดยมีกลุ่มหลุมฝังศพทรงกลมหรือสี่เหลี่ยมจัตุรัสซึ่งทำจากหินปูนซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ด้านในมีการฝ้งรูปแกะสลักของ มังกร และ เต่า
มีการสันนิษฐานว่า อาจเริ่มมีการพลีกรรมทางศาสนาในวัฒนธรรมหงชาน
ฮวงจุ้ย
ตามข้อสันนิษฐานด้วยหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคติเรื่อง ฮวงจุ้ย ในยุคแรก ๆ นอกจากที่พบในแหล่ง วัฒนธรรมหย่างเฉา แล้ว ยังพบในแหล่งวัฒนธรรมหงชานอีกด้วย การปรากฏขึ้นของทั้งรูปทรงกลมและสี่เหลี่ยมที่อนุสรณ์สถานทางศาสนา แสดงให้เห็นถึงการปรากฏตัวของจักรวาลแบบ gaitian ("สวรรค์ทรงกลม, โลกสี่เหลี่ยม")
ฮวงจุ้ยในยุคแรกอาศัยดาราศาสตร์เพื่อค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับจักรวาล
พัฒนาการของอารยธรรมจีน
นักโบราณคดีจีนบางคน เช่น กัวต้าชุน มองว่าวัฒนธรรมหงชานเป็นขั้นสำคัญของพัฒนาการของอารยธรรมจีนยุคแรก ไม่ว่าความสัมพันธ์ทางภาษาของผู้คนในสมัยโบราณนั้นจะเป็นอย่างไร แต่เชื่อกันว่าวัฒนธรรมหงชานมีอิทธิพลอย่างมากต่อการพัฒนาอารยธรรมจีนในยุคแรก ๆ และยังมีส่วนในการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานบนคาบสมุทรเกาหลีในสมัยโบราณ
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- Hamada, Kosaku and Mizuno Seiichi. "Chifeng Hongshanhou," Archaeologia Orientalis, ser. A, No. 6. Far-Eastern Archaeology Society of Japan, (1938).
- "Iindustries include ... copper." Encyclopedia of Prehistory: Volume 3: East Asia and Oceania, Ed.: Peter N. Peregrine, Melvin Ember, Springer Science & Business Media, 2001, p. 79
- ↑ Le cartel précise : Liaoning Provincial Institute of Cultural Relics and Archaeology
- Objet similaire in : China. 5000 years : Innovation and Transformation in the Arts, Selected by Sherman Lee, Guggenheim museum 1998. page Jade : 1
- Notice du Musée Guimet pour cet objet
- . Appellation chinoise traditionnelle : pièce jue. L'objet est vraisemblablement originaire de la région de Hongshan. Réf. แม่แบบ:Harvsp . Notice 7. "Amulette en forme de larve au museau vaguement porcin" : Roberto Ciarla : แม่แบบ:Harvsp.
- ↑ Please refer to Niuheliang.
- ↑ Sites of Hongshan Culture: The Niuheliang Archaeological Site, the Hongshanhou Archaeological Site, and Weijiawopu Archaeological Site unesco.org
- [1] University of Pittsburgh, Pennsylvania: Regional Lifeways and Cultural Remains in the Northern Corridor: Chifeng International Collaborative Archaeological Research Project. Cited references: Drennan 1995; and Earle 1987, 1997.
- Sarah M. Nelson, Rachel A. Matson, Rachel M. Roberts, Chris Rock and Robert E. Stencel: Archaeoastronomical Evidence for Wuism at the Hongshan Site of Niuheliang, 2006.
- Sun, X. (2000) Crossing the Boundaries between Heaven and Man: Astronomy in Ancient China. In H. Selin (ed.), Astronomy Across Cultures: The History of Non-Western Astronomy. 423–454. Kluwer Academic.
- Guo, Da-Shun 1995. Hongshan and related cultures. In: The archaeology of Northeast China: beyond the Great Wall. Nelson, Sarah M. ed. 21–64. London and New York: Routledge.
- [3] Roger Blench(2004), Stratification in the peopling of China: how far does the linguistic evidence match genetics and archaeology? p.9
- Kwang-chih Chang and Sarah Allan, The Formation of Chinese Civilization: An Archaeological Perspective, p. 65
- [4] Keith Pratt(2006), Everlasting Flower, p.30.
อ่านเพิ่มเติม
- Allan, Sarah (ed), การก่อตัวของอารยธรรมจีน: มุมมองทางโบราณคดี, ISBN 0-300-09382-9
- จาง, กฺวางจื่อ . โบราณคดีของจีนโบราณ ISBN 0-300-03784-8
- Nelson, Sarah Milledge (ed), The Archaeology of Northeast China: Beyond the Great Wall, ISBN 0-415-11755-0