โบอิง 747-400
โบอิง 747-400 เป็นเครื่องบินรุ่นรองล่าสุดของ โบอิง 747 ถูกแทนที่โดยโบอิง 747-8 ที่ปรับปรุงแล้ว ผลิตโดยฝ่ายผลิตเครื่องบินพาณิชย์โบอิง และเคยเป็นเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดจนกระทั่งการให้บริการของแอร์บัส เอ 380
เครื่องบินโบอิง 747-400D ของเจแปนแอร์ไลน์JA8904 ทาสีใหม่เป็นลายฉลองครบรอบ 50 ปี ถ่ายหลังจากเกิดเหตุการณ์ | |
บทบาท | อากาศยานลำตัวกว้าง |
---|---|
ชาติกำเนิด | สหรัฐอเมริกา |
บริษัทผู้ผลิต | เครื่องบินพาณิชย์โบอิง |
บินครั้งแรก | 29 เมษายน พ.ศ. 2531 |
เริ่มใช้ | 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2532 โดยนอร์ทเวสต์แอร์ไลน์ |
สถานะ | ออกจากการผลิต, ในประจำการ |
ผู้ใช้งานหลัก | บริติช แอร์เวย์ ลุฟต์ฮันซา เคแอลเอ็ม ควอนตัส |
ช่วงการผลิต | รุ่นผู้โดยสาร: พ.ศ. 2531-2548 รุ่นขนส่งสินค้า: พ.ศ. 2536-2552 รุ่น Combi: พ.ศ. 2532-2545 |
จำนวนที่ผลิต | 694 ลำ |
มูลค่า | 747-400/-400ER: 234–266.5 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (พ.ศ. 2550) 747-400F/-400ERF: 238–268ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (พ.ศ. 2550) |
พัฒนามาจาก | โบอิง 747-300 |
แบบอื่น | โบอิง YAL-1 โบอิง 747LCF |
โบอิงเปิดตัว 747-400 อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2528 โดยเครื่องบินลำแรกสร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2531 และเริ่มทดสอบการบินครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2531 จนกระทั่งในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2532 จึงได้มีการส่งมอบ 747-400 ลำแรกให้กับนอร์ธเวสต์แอร์ไลน์ ทั้งนี้การผลิตเครื่องบินรุ่น 747-400 สิ้นสุดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2550 พร้อมกับการยกเลิกคำสั่งซื้อของฟิลิปปินส์แอร์ไลน์ (ซึ่งเปลี่ยนเป็น 777-300ER แทน) เครื่องลำสุดท้ายส่งมอบให้กับไชน่าแอร์ไลน์ เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2548
โบอิง 747-400 ยังเคยให้บริการที่ เกาะอัสเซนชัน โดยสายการบิน Atlas airways และ ราโรตองกา โดยสารการบิน Air New zealand airways
รุ่น
747-400
747-400 ขยายความกว้างของปีกอีก 2 เมตร (6 ฟุต) รวมถึงติดตั้งวิงเล็ตอีก 2 เมตร (6 ฟุต) เมื่อเทียบกับรุ่น -300 และยังขยายความยาวพื้นที่ของชั้นสองเพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้แม้ว่าความยาวของปีกจะเพิ่ม แต่น้ำหนักของปีกลดลง เนื่องจากใช้วัสดุคอมโพสิตและอะลูมิเนียมอัลลอย
การผลิตของ 747-400 สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2550 โดยผู้สั่งซื้อลำสุดท้ายเป็นของไชน่าแอร์ไลน์เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2545 และส่งมอบเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2550
747-400F
747-400F (Freighter) เป็นเครื่องบินขนส่งสินค้า ซึ่งใช้ลำตัวเครื่องจาก 747-200F และแตกต่างจาก -400 ที่เป็นเครื่องบินโดยสาร ตรงที่ความยาวของชั้นสองสั้นกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยเริ่มทดสอบการบินครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2536 และเริ่มให้บริการครั้งแรกโดยคาร์โกลักซ์ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536 และมีลูกค้าหลักอย่างโกเรียนแอร์, คาร์โกลักซ์, ไชน่าแอร์ไลน์, โพลาร์แอร์คาร์โก, นิปปอนคาร์โกแอร์ไลน์, สิงคโปร์แอร์ไลน์ และแอตลาสแอร์
ทั้งนี้กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา ได้สั่งซื้อ 747-400F ไป 7 ลำ และดัดแปลงใหม่เป็นเครื่องบิน Airborne Laser โดยติดตั้งเครื่องยิงแสงเลเซอร์ไว้ที่ปลายจมูกเครื่องบิน และให้ชื่อเรียกว่า โบอิง YAL-1A
โบอิงยังมีคำสั่งซื้อ -400F ที่ยังไม่ได้ส่งมอบอีก 18 ลำ
747-400M
747-400M (Combi) เป็นเครื่องบินผสมระหว่างเครื่องบินโดยสาร และเครื่องบินขนส่งสินค้า โดยมีประตูขนถ่ายสินค้าที่ด้านท้ายลำตัวเครื่อง -400M เริ่มทดสอบการบินครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2532 และเริ่มให้บริการครั้งแรกโดยเคแอลเอ็ม เมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2532
747-400D
747-400D (Domestic) เป็นความต้องการพิเศษจากเจแปนแอร์ไลน์ ที่ต้องการให้บริการเที่ยวบินระยะสั้นภายในประเทศ โดยจัดผังที่นั่งใหม่ สามารถจุผู้โดยสารได้สูงสุด 568 ที่นั่งสำหรับการจัดแบบ 3 ชั้นบิน และ 660 ที่นั่งสำหรับการจัดแบบที่นั่งชั้นประหยัดเพียงอย่างเดียว โดย -400D จะไม่เพิ่มความยาวของปีกและวิงเล็ตเหมือนรุ่นอื่นๆ เพราะไม่มีความจำเป็นสำหรับเที่ยวบินระยะสั้น และมีจำนวนเที่ยวบินที่ขึ้นลงบ่อยครั้ง ทั้งนี้ -400D สามารถปรับเปลี่ยนให้รุ่นที่มีพิสัยบินระยะไกลได้เมื่อต้องการ
747-400D เริ่มทดสอบการบินครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2534 และเริ่มให้บริการครั้งแรกโดยเจแปนแอร์ไลน์ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2534
747-400ER
747-400ER (Extended range) ปรับปรุงให้สามารถบินได้ไกลกว่าเดิม 805 กิโลเมตร หรือสามารถบรรทุกสินค้าได้มากกว่าเดิม 6,800 กิโลกรัม และมีการตกแต่งภายในแบบเดียวกับ 777 ซึ่งรู้จักกันโดยทั่วไปว่า เป็นการตกแต่งที่เป็นสัญลักษณ์ของโบอิง (Boeing Signature Interior) พร้อมเพิ่มทางเลือกการเพิ่มขนาดถังเชื้อเพลิง 3,240 แกลลอน 1 หรือ 2 ถัง ไว้ในส่วนห้องเก็บสินค้าด้านหน้าอีกด้วย
747-400ER เปิดตัวเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 และส่งมอบครั้งแรกให้กับแควนตัสเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2545
747-400ERF
747-400ERF เป็นรุ่นขนส่งสินค้าของ -400ER โดยสามารถบรรทุกได้สูงสุด 112,760 กิโลกรัม (248,600 ปอนด์) มากกว่ารุ่น -400F อยู่ 9,980 กิโลกรัม (22,000 ปอนด์) ที่น้ำหนักสูงสุดเมื่อนำเครื่องขึ้นเท่ากัน ทั้งนี้ -400ERF มีพิสัยบินสูงสุด 9,200 กิโลเมตร ไกลกว่า -400F อยู่ประมาณ 525 กิโลเมตร ทั้งนี้รุ่นขนส่งสินค้าของ 747-8 จะสามารถบรรทุกสินค้าได้มากกว่า แต่มีพิสัยบินใกล้กว่า -400ERF
747-400BCF
747-400BCF (Boeing Converted Freighter) หรือเดิมคือ 747-400SF (Special Freighter) เป็นรุ่นที่ปรับเปลี่ยนจากเครื่องบินโดยสาร 747-400 มาเป็นเครื่องบินขนส่งสินค้า โดยเริ่มโครงการนี้เมื่อปีพ.ศ. 2547 และเครื่องลำแรกที่ได้ปรับเปลี่ยนแล้วส่งมอบให้กับคาเธย์แปซิฟิกคาร์โก เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2548
747LCF dreamlifter
747 Large Cargo Freighter ปรับเปลี่ยนมาจากเครื่องบิน 747-400 เป็นเครื่องบินขนส่งสินค้าขนาดใหญ่กว่าปกติ เพื่อใช้สำหรับการขนส่งชิ้นส่วนของโบอิง 787มายังโรงงานผลิตเครื่องบินที่เอเวอร์เร็ตต์ รัฐวอชิงตัน ซึ่งช่วยย่นระยะเวลาการขนส่งชิ้นส่วนกว่าการขนส่งทางเรือมาก โดยลำตัวเครื่องบินของ LCF จะคล้ายกับซุปเปอร์กัปปี และแอร์บัส เบลูกา ออกแบบโดยสำนักงานโบอิงที่มอสโก โดยเครื่องรุ่นนี้จะให้บริการโดย เอเวอร์กรีนอินเตอร์เนชั่นเนลแอร์ไลน์ และโบอิงจะไม่ผลิตเครื่องรุ่นนี้ออกขายให้กับลูกค้ารายอื่น และโบอิงจะใช้สำหรับการขนส่งพิเศษของโบอิงเอง
ข้อมูลจำเพาะ
รุ่น | 747-400 | 747-400ER |
---|---|---|
นักบิน | 2 | |
ความจุผู้โดยสาร | 416 (จัดแบบ 3 ชั้นบิน) | |
ความยาว | 70.6 เมตร (231 ฟุต 10 นิ้ว) | |
ความกว้างของปีก | 64.4 เมตร (211 ฟุต 5 นิ้ว) | |
ความสูง | 19.4 เมตร (63 ฟุต 8 นิ้ว) | |
น้ำหนักบรรทุกเปล่า | 178,756 กิโลกรัม (393,263 ปอนด์) | 164,382 กิโลกรัม (361,640 ปอนด์) |
น้ำหนักสูงสุดเมื่อนำเครื่องขึ้น | 396,890 กิโลกรัม (875,000 ปอนด์) | 412,775 กิโลกรัม (910,000 ปอนด์) |
ความเร็วปกติ | 0.85 มัค (491 น็อต, 910 กม./ชม.) | 0.855 มัค (493 น็อต, 913 กม./ชม.) |
ความเร็วสูงสุด | 0.92 มัค (1,000 กม./ชม.) | |
พิสัยบิน เมื่อบรรทุกเต็มลำ | 13,450 กิโลเมตร (7,260 ไมล์ทะเล) | 14,205 กิโลเมตร (7,670 ไมล์ทะเล) |
ปริมาณเชื้อเพลิงสูงสุด | 216,840 ลิตร (57,285 แกลลอน) | 241,140 ลิตร (63,705 แกลลอน) |
ปริมาณเชื้อเพลิง/พิสัยบิน เมื่อบรรทุกเต็มลำ | 16.1 ลิตร/กิโลเมตร | 17.0 ลิตร/กิโลเมตร |
เครื่องยนต์ (4x) | PW 4062 GE CF6-80C2B5F RR RB211-524H | PW 4062 GE CF6-80C2B5F |
แรงผลักดัน (4x) | 63,300 ปอนด์ฟอร์ซ PW 62,100 ปอนด์ฟอร์ซ GE 59,500 ปอนด์ฟอร์ซ RR | 63,300 ปอนด์ฟอร์ซ PW 62,100 ปอนด์ฟอร์ซ GE |
เครื่องบินที่ใกล้เคียงกัน
รุ่นที่ใกล้เคียงกัน
- โบอิง YAL-1
- โบอิง อี-4
- VC-25 Air Force One
- Shuttle Carrier Aircraft
- โบอิง 747-8
เครื่องบินที่คล้ายกัน
อ้างอิง
- ข้อมูลของรุ่น 747
- ↑ ข่าวการยกเลิกการผลิต 747-400 จาก Seattlepi.com เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2550
- โบอิงขนส่งปีกของ 787 โดย 747LCF จากเว็บไซต์โบอิง เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2550
- การพัฒนาของโบอิง 747LCF จากเว็บไซ์โบอิง เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548
แหล่งข้อมูลอื่น
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: โบอิง 747 |
- ข้อมูล 747-400 ในเว็บไซต์โบอิง (อังกฤษ)