ศุภะ สุขะ ไจนะ
"ศุภะ สุขะ ไจนะ" (ฮินดี: शुभ सुख चैन) เป็นชื่อเพลงชาติ (อูรดู: قومی ترانہ, Qaumī Tarānah) ของรัฐบาลชั่วคราวแห่งอินเดียอิสระ (Arzi Hukumat-e-Azad Hind เรียกโดยย่อ Azad Hind) เพลงนี้มีพื้นฐานมาจากบทกวี ชนะ คณะ มนะ ซึ่งเป็นบทกวีภาษาเบงกอลดัดแปลงเป็นภาษาสันสกฤต ผลงานของรพินทรนาถ ฐากูร หลังจากย้ายการเคลื่อนไหวจากเยอรมนีมาสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี ค.ศ. 1943 สุภาษ จันทระ โพส โดยความช่วยเหลือของมุมตัซ ฮุสเซ็น (Mumtaz Hussain) นักเขียนประจำสถานีวิทยุอินเดียอิสระ และพันเอกอะบิด ฮะซัน ซัฟฟรานี (Abid Hassan Saffrani) แห่งกองทัพแห่งชาติอินเดีย เขาได้เขียนเพลงชนะ คณะ มนะ ของฐากูรขึ้นใหม่เป็นภาษาฮินดูสตานี ในชื่อ "ศุภะ สุขะ ไจนะ" เพื่อใช้เป็นเพลงชาติ
เนตาชี (ฉายาของสุภาษ จันทระ โพส) ให้ความสำคัญกับบทเพลงไว้ในฐานะที่มาของพลังในในการเตรียมใจสู้จนถึงที่สุด เขาได้ลงมายังสถานีวิทยุกระจายเสียงกองทัพแห่งชาติอินเดีย ณ อาคารคาเธย์บิลดิ้ง ในประเทศสิงคโปร์ และให้ร้อยเอกราม สิงห์ ฐากูร (Ram Singh Thakur) ประพันธ์ทำนองสำหรับใช้กับเพลงที่ได้แปลมาจากผลงานต้นฉบับภาษาเบงกอลของรพินทรนาถ ฐากูร โดยขอให้เขาแต่งเป็นทำนองมาร์ชซึ่งไม่ทำให้คนฟังแล้วหลับ แต่ปลุกคนที่หลับอยู่ให้ตื่นขึ้นมาแทน ต่อมาอินเดียได้รับเอกราชเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1947 ในวันถัดมา ชวาหระลาล เนห์รู ได้ชักธงติรังคะขึ้นเหนื้อเชิงเทินป้อมแดงเมืองเดลลี และกล่าวคำปราศรัยต่อประชาชาติ ในโอกาสนี้ ร้อยเอกราม สิงห์ ฐากูร ได้รับเชิญให้เล่นทำนอง "เพลงชาติ" (Qaumi Tarana) ของกองทัพแห่งชาติอินเดียพร้อมกับวงออร์เคสตร้าของเขาเป็นกรณีพิเศษ
ประวัติ
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 บทเพลงวันเท มาตะรัม เป็นบทเพลงซึ่งถูกขับร้องในการชุมชุมประท้วงอยู่บ่อยครั้ง ในการประกาศจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวแห่งอินเดียอิสระที่สิงคโปร์ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1943 ฝูงชนได้ร้องเพลงวันเท มาตะรัม อย่างไรก็ตาม ชาวมุสลิมกลับรู้สึกไม่สะดวกใจนัก เพราะเพลงนี้ใช้การอุปมาด้วยสัญลักษณ์ในศาสนาฮินดู และไม่พอใจในนิยายที่มีเนื้อหาโน้มเอียงไปทางต่อต้านมุสลิมเรื่อง "อานันทมฐะ" ("มหาวิหารแห่งสวรรค์") ซึ่งได้ตีพิมพ์บทเพลงนี้เอาไว้เป็นที่แรกอีกด้วย บรรดาผู้นำของกองทัพแห่งชาติอินเดียในสิงคโปร์ล้วนตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว และหวังว่าสุภาษ จันทระ โพส ผู้นำของกองทัพและรัฐบาลเฉพาะกาลจะแก้ปัญหานี้ได้ ลักษมี สหคัล (Lakshmi Sahgal) สมาชิกกองทัพฝ่ายปฏิบัติการ สนับสนุนให้เลือกเพลงชนะ คณะ มนะ ซึ่งเป็นผลงานการประพันธ์ของรพินทรนาถ ฐากูร และได้ขับร้องในการประชุมของสภาคองเกรสแห่งชาติอินเดียอยู่หลายครั้งมาใช้ เธอได้เรียบเรียงเพลงขึ้นเพื่อใช้ร้องในการประชุมสตรีซึ่งจัดขึ้นโดยโพส โพสได้เลือกเอาเพลงนี้ด้วยเห็นว่าเป็นตัวแทนของชาติได้อย่างแท้จริง แม้กระนั้น เขาก็ไม่พอใจกับข้อเท็จจริงที่ว่าเนื้อเพลงดังกล่าวเป็นภาษาเบงกอลที่ได้รับอิทธิพลภาษาสันสกฤตสูงมาก และได้สั่งให้ดำเนินการถอดความหมายโดยอิสระออกเป็นภาษาฮินดูสตานีแทน
บทแปลซึ่งมีชื่อว่า "ศุภะ สุขะ ไจนะ" จึงถูกเขียนขึ้นโดยร้อยเอกอะบิด อะลี ส่วนทำนองสำหรับเนื้อดังกล่าวได้ประพันธ์ขึ้นโดย ร้อยเอกราม สิงห์ ฐากูร เพลงนี้ได้เข้ามาแทนที่เพลงวันเท มาตะรัม ในฐานะเพลงชาติอย่างเป็นทางการของรัฐบาลเฉพาะกาล และได้นำไปใช้ขับร้องในการประชุมทุกครั้ง อันรวมถึงการประชุมครั้งสุดท้ายก่อนที่โพสจะจากไปด้วย ในบางครั้งมักถือว่าเป็นบทร้องฉบับภาษาฮินดีของเพลงชาติอินเดีย "ชนะ คณะ มนะ" แม้ความหมายของเพลง "ศุภะ สุขะ ไจนะ" จะผิดแผกจากเพลงต้นฉบับอยู่บ้างก็ตาม ไม่อาจถือว่าเป็นการแปลความหมายอย่างแท้จริงได้
ในวันที่ 24 มกราคม ค.ศ. 1950 ดร.ราเชนทระ ปราสาท ผู้ซึ่งเป็นประธานาธิบดีอินเดียในเวลาต่อมา ได้ประกาศคำวินิจฉัยขั้นสุดท้ายให้เพลง "ชนะ คณะ มนะ" เป็นเพลงชาติของประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นตัวเลือกเดียวกันกับที่เนตาชี สุภาษ จันทระ โพส ได้เลือกไว้เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 1941 และได้เล่นในฐานะเพลงชาติอินเดียอิสระเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1942 ณ เมืองฮัมบวร์ค ประเทศเยอรมนี
บทร้อง
อักษรเทวนาครี | ถ่ายเสียงด้วยอักษรโรมัน | รูปปริวรรตอักษรไทย |
|
|
|
ความหมาย
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
- ความสุขที่ได้ศุภชัยมงคลแห่งชาติของเรา
- จงเป็นภารตะแห่งภราดรภาพเถิด
- ทั้งปัญจาบ สินธุ มีคุชราต และมราฐา (มหาราษฏระ)
- รัฐทราวิฑ อุตกัล (โอริศา) พังคะ (เบงกอล)
- เมืองจังจัล สาคร มีเทือกวินธัย และหิมาลัย
- สีฟ้านั่นคือแม่น้ำชมุนา และคงคาอันกระจ่าง
- ท่านคือคุณธรรมแห่งเสรี
- จงนำชีวีสู่ท่านของเรา
- ความหวังนี้คือผู้ศรัทธาแห่งผองใจ
- จงเป็นเอกภาพแห่งสุริยา (ดวงอาทิตย์) ที่ประกายเป็นดวงดาว
- ขอให้พระนามของภารตะว่า
- จงมีชัยชนะ จงมีชัย จงมีชัย
- ชโย ชโย ชโย จงไชโย!
- เราขอตั้งใจทำงานอันเข้มแข็ง
- ขออ้อนวิงวอนไป
- แห่งสรรพสิ่ง จงเป็นรัฐแห่งความเป็นมานี้
- จงปราณีต่อพระคุณ
- จะลบหลู่ศัตรูที่แตกต่างไปในทางลบ
- จะให้ปวงประชาชาติให้โดยท่านเทอญ
- ขอมาลารักข้าเถิด
- จงเป็นเอกภาพแห่งสุริยา (ดวงอาทิตย์) ที่ประกายเป็นดวงดาว
- ขอให้พระนามของภารตะว่า
- จงมีชัยชนะ จงมีชัย จงมีชัย
- ชโย ชโย ชโย จงไชโย!
- ศุภเจ้า พระองค์แห่งความปิติยินดี
- จงเจ้ามีความคุณธรรมแห่งความสรรเสริญ
- ก็ว่าเหลือเพียงการหายใจครั้งสุดท้าย
- ขอให้ชีวิตคือพลัง
- เราจะร่วมเอกราชด้วยการพร้อมเพรียง
- ชัยชนะแห่งความเป็นไทคือคำอธิษฐานของเรา
- ประเทศแห่งความสามัคคี
- จงเป็นเอกภาพแห่งสุริยา (ดวงอาทิตย์) ที่ประกายเป็นดวงดาว
- ขอให้พระนามของภารตะว่า
- จงมีชัยชนะ จงมีชัย จงมีชัย
- ชโย ชโย ชโย จงไชโย!
ดูเพิ่ม
- ชนะ คณะ มนะ, เพลงชาติอินเดีย
- วันเท มาตะรัม, เพลงประจำชาติอินเดีย
- อามาร์ โชนาร์ บังกลา, เพลงชาติบังกลาเทศ
- กองทัพแห่งชาติอินเดีย
อ้างอิง
- "The Morning Song of India". wordpress.com. สืบค้นเมื่อ 2010-11-03.
- "Capt. Ram Singh Thakur's interview". Rediff on NET.
- ↑ "A tribute to the legendary composer of National Anthem", The Tribune, 2002-05-04, สืบค้นเมื่อ 2008-11-10,
Snippet: ... Capt Ram Singh would be remembered for his composition of Jana Gana Mana, the original script of which was a little different. It was Sukh Chain Kee Barkha Barse, Bharat Bagiya Hai Jaga. ...
- Fay, Peter Ward (1995), The Forgotten Army: India's Armed Struggle for Independence 1942-1945, Ann Arbor: University of Michigan Press, ISBN 0-472-08342-2, pp. 230-234
- Fay, Peter Ward (1995), The Forgotten Army: India's Armed Struggle for Independence 1942-1945, Ann Arbor: University of Michigan Press, ISBN 0-472-08342-2, p. 380
- Volume XII. Tuesday, 24 January 1950. Online Transcript, Constituent Assembly Debates
- शुभ सुख चैन की बरखा बरसे, สืบค้นเมื่อ 2014-10-12
- The INA Heroes: Autobiographies of Maj. Gen. Shahnawaz, Col. Prem K. Sahgal and Col. Gurbax Singh Dhillon of the Azad Hind Fauj, Hero Publications, 6, Lower Mall, Lahore, India, 1946, สืบค้นเมื่อ 2008-11-09