สตาร์คราฟต์
สตาร์คราฟต์ เป็นวิดีโอเกมประเภทวางแผนเรียลไทม์และบันเทิงคดีวิทยาศาสตร์การทหาร พัฒนาและจัดจำหน่ายโดยบลิซซาร์ด เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ออกบนระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์ วินโดวส์เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2541 ต่อมา เกมขยายเป็นแฟรนไชส์ และเป็นเกมแรกของซีรีส์สตาร์คราฟต์ รุ่นแมคโอเอสออกในเดือนมีนาคม 2542 และรุ่นดัดแปลงนินเทนโด 64 ซึ่งพัฒนาร่วมกับแมสมีเดีย ออกในวันที่ 13 มิถุนายน 2543 การพัฒนาเกมนี้เริ่มขึ้นไม่นานหลังวอร์คราฟต์ 2: ไทด์สออฟดาร์กเนส ออกในปี 2538 สตาร์คราฟต์เปิดตัวในงานอี3 ปี 2539 ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบน้อยกว่าวอร์คราฟต์ 2 ฉะนั้น โครงการจึงถูกพลิกโฉมทั้งหมดแล้วแสดงต่อสาธารณะในต้นปี 2540 ซึ่งได้รับการตอบรับดีกว่ามาก
ผู้พัฒนา | วินโดวส์, แมกโอเอส บลิซซาร์ดเอนเตอร์เทนเมนต์ นินเทนโด 64 นินเทนโด |
---|---|
ผู้ออกแบบ | คริส เมตเซน เจมส์ พินนีย์ |
เกมมีฉากท้องเรื่องในเส้นเวลาสมมติระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 25 ของโลก โดยมุ่งไปยังสามสปีชีส์ที่แก่งแย่งชิงความเป็นใหญ่ในส่วนห่างไกลของดาราจักรทางช้างเผือก ซึ่งเรียก ภาคคอปรูลู (Koprulu Sector) สามสปีชีส์นั้นได้แก่ เทอร์แรน (Terran) มนุษย์ซึ่งถูกเนรเทศจากโลก และมีทักษะการปรับตัวเข้ากับทุกสถานการณ์, เซิร์ก (Zerg) เผ่าพันธุ์คล้ายแมลงต่างดาวที่แสวงความสมบูรณ์ของพันธุกรรม และหมกมุ่นกับการกลืนกินเผ่าพันธุ์อื่น และโพรทอส (Protoss) เผ่าพันธุ์คล้ายมนุษย์ซึ่งมีเทคโนโลยีล้ำหน้าและความสามารถพลังจิต โดยพยายามรักษาอารยธรรมของพวกตนและวิถีชีวิตปรัชญาเคร่งครัดจากพวกเซิร์ก
นักหนังสือพิมพ์ของอุตสาหกรรรมวิดีโอเกมจำนวนมากยกย่อง สตาร์คราฟต์ ว่าเป็นเกมที่ดีที่สุด และสำคัญที่สุดตลอดกาลเกมหนึ่ง และว่าได้ยกระดับการพัฒนาเกมวางแผนเรียลไทม์ สตาร์คราฟต์เป็นเกมคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลขายดีที่สุดเกมหนึ่ง โดยจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2552 สามารถขายได้ 11 ล้านแผ่นทั่วโลก เกมยังได้รับการยกย่องจากการบุกเบิกการใช้กลุ่มแยกมีเอกลักษณ์ในการเล่นวางแผนเรียลไทม์ และเรื่องที่เร้าความสนใจ รูปแบบหลายผู้เล่นของสตาร์คราฟต์ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งผู้เล่นและทีมร่วมการแข่งขันอาชีพ ได้รับการสนับสนุน และแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ที่ถ่ายทอดทางโทรทัศน์ สตาร์คราฟต์มีการดัดแปลงและขยายแนวเรื่องผ่านชุดนวนิยาย ภาคเสริม (expansion pack) สตาร์คราฟต์: บรูดวอร์ และตัวเสริม (add-on) ที่ได้รับอนุญาตอีกสองตัว อีก 12 ปีให้หลัง ภาคต่อ สตาร์คราฟต์ 2: วิงส์ออฟลิเบอร์ตี ออกในเดือนกรกฎาคม 2553
การเล่น
การที่บลิซซาร์ดเอ็นเตอร์เทนเมนต์ใช้สามเผ่าพันธุ์แยกกันในสตาร์คราฟต์ ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นการปฏิวัติเกมประเภทวางแผนเรียลไทม์ ทุกยูนิต (unit) มีเฉพาะเผ่าพันธุ์ของตน แม้ว่าสามารถเปรียบเทียบระหว่างยูนิตประเภทต่าง ๆ ในต้นไม้เทคโนโลยี (technology tree) อย่างหยาบ ๆ ได้ แต่ทุกยูนิตปฏิบัติการต่างกันและผู้เล่นต้องใช้กลยุทธ์ต่างกันเพื่อบรรลุเป้าหมาย
เผ่าพันธุ์โพรทอสอันลึกลับเข้าถึงยูนิตและจักรกลทรงพลัง และเทคโนโลยีล้ำหน้า เช่น โล่พลังงานและสมรรถนะวาร์พ (warp) เฉพาะที่ โดยได้พลังงานจากลักษณะพลังจิตของพวกเขา อย่างไรก็ดี กำลังของโพรทอสมีกระบวนการผลิตนานและแพง กระตุ้นให้ผู้เล่นดำเนินยุทธศาสตร์ที่คุณภาพของยูนิตเหนือกว่าปริมาณ เผ่าพันธุ์เซิร์กคล้ายแมลงนั้นประกอบด้วยยูนิตและสิ่งปลูกสร้างที่เป็นสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ซึ่งสามารถผลิตได้อย่างรวดเร็วและมีราคาทรัพยากรถูกกว่ามาก แต่ยูนิตก็อ่อนแอกว่าตามไปด้วย โดยอาศัยปริมาณมากและความเร็วเพื่อเอาชนะข้าศึก ส่วนเทอร์แรนอยู่กึ่งกลางระหว่างอีกสองเผ่าพันธุ์ โดยมียูนิตอเนกประสงค์และยืดหยุ่น พวกเขาสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและจักรกลทหารที่เน้นโจมตีระยะไกลมากกว่า เช่น รถถังและอาวุธนิวเคลียร์
แม้แต่ละเผ่าพันธุ์มีองค์ประกอบเป็นเอกลักษณ์ แต่ไม่มีเผ่าพันธุ์ใดได้เปรียบเหนือเผ่าพันธุ์อื่นโดยกำเนิด แต่ละเผ่าพันธุ์ถูกดุลให้มีจุดแข็ง พลังและความสามารถ ความแข็งแกร่งโดยรวมพอ ๆ กัน นอกจากนี้ บลิซซาร์ดยังออกแพทช์ (อัปเดตเกม) เพื่อปรับสมดุลนาน ๆ ครั้ง
สตาร์คราฟต์ มีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ที่มีความยากแตกต่างกัน แต่ผู้เล่นไม่สามารถเปลี่ยนระดับความยากในยุทธการ (campaign) ผู้เล่นคนเดียวได้ แต่ละยุทธการเริ่มด้วยศัตรูที่ดำเนินงานเอไอภาวะง่าย แล้วค่อยทวีความยากขึ้นตามลำดับตลอดระยะของยุทธการจนเอไอภาวะยากสุด ในตัวตัดต่อด่าน (level editor) ซึ่งให้มากับเกม นักออกแบบเข้าถึงความยากของเอไอสี่ระดับ ได้แก่ "ง่าย" "ปานกลาง" "ยาก" และ "บ้า" (insane) โดยการตั้งค่าแต่ละระดับจะอนุญาตให้เอไอเข้าถึงยูนิตและเทคโนโลยีแตกต่างกัน และขอบเขตของการวางแผนทางยุทธวิธีและยุทธศาสตร์ของเอไอ ยุทธการผู้เล่นคนเดียวประกอบด้วยสามสิบด่าน แบ่งเป็นเผ่าพันธุ์ละสิบด่าน
การจัดการทรัพยากร
ทุกเผ่าพันธุ์อาศัยทรัพยากรสองชนิดเพื่อดำรงเศรษฐกิจในเกมและเพื่อสร้างกำลังของตน คือ แร่ (mineral) และแก๊สเวสปีน (vespene gas) แร่นั้นจำเป็นต่อยูนิตและสิ่งปลูกสร้างทุกชนิด และได้มาโดยใช้ยูนิตคนงานไปเก็บโดยตรงจากแหล่งแร่ที่กระจายอยู่ทั่วแผนที่ ผู้เล่นต้องใช้แก๊สเวสปีนสร้างยูนิตและสิ่งปลูกสร้างขั้นสูง และได้มาโดยการสร้างโรงกลั่นเหนือกีย์เซอร์ (geyser) และใช้ยูนิตคนงานแยกแก๊สออกมา นอกจากนี้ ผู้เล่นยังต้องวางระเบียบกำลังบำรุง (supply) สำหรับกำลังของตนเพื่อประกันว่าสามารถสร้างยูนิตได้ตามจำนวนที่ต้องการ แม้ลักษณะของกำลังบำรุงจะแตกต่างกันตามเผ่าพันธุ์ คือ เทอร์แรนใช้กำลังบำรุงกายภาพที่เก็บในคลัง โปรทอสใช้ส่วนเชื่อมต่อพลังจิต และเซิร์กควบคุมโดยจำนวนยูนิตโอเวอร์ลอร์ด (overlord) ที่มี แต่กลไกกำลังบำรุงทำงานเหมือนกันสำหรับทุกเผ่าพันธุ์ คือ ให้ผู้เล่นสร้างยูนิตใหม่เมื่อมีทรัพยากรเพื่อคงไว้เพียงพอ
การสร้างฐาน
การสร้างสิ่งปลูกสร้างของโพรทอสและเซิร์กจำกัดเฉพาะบางที่เท่านั้น คือ สิ่งปลูกสร้างของโพรทอสจำต้องเชื่อมกับสายส่งพลังงาน ขณะที่สิ่งปลูกสร้างของเซิร์กแทบทั้งสิ้นต้องอยู่บนพรมชีวมวล เรียกว่า "ครีพ" (creep) ซึ่งผลิตจากสิ่งปลูกสร้างบางอย่าง สิ่งปลูกสร้างของเทอร์แรนมีความจำกัดน้อยกว่ามาก โดยสิ่งปลูกสร้างฐานที่สำคัญบางอย่างมีความสามารถทะยานและบินอย่างช้า ๆ ไปที่ใหม่ได้ อย่างไรก็ดี สิ่งปลูกสร้างของเทอร์แรนต้องให้ยูนิตคนงานก่อสร้างอาคารเรื่อย ๆ จนเสร็จ เช่นเดียวกัน เมื่ออาคารของเทอร์แรนได้รับความเสียหายถึงระดับหนึ่ง อาคารจะติดไฟจนสุดท้ายจะทำให้อาคารพังลงโดยศัตรูไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม สามารถป้องกันเหตุการณ์นี้โดยให้ยูนิตคนงานซ่อม ในทางกลับกัน โพรทอสเพียงต้องใช้ยูนิตคนงานเริ่มกระบวนการขนส่งอาคารมายังยุทธบริเวณโดยการวาร์พ และโล่ของอาคารพวกเขาสามารถฟื้นฟูได้ แต่มิใช่ตัวอาคารเอง ยูนิตคนงานของเซิร์กเปลี่ยนแปลงทางกายภาพไปเป็นสิ่งปลูกสร้างที่สร้างขึ้น ซึ่งมีความสามารถรักษาตนเองอย่างช้า ๆ
หลายผู้เล่น
เกมหลายผู้เล่นของสตาร์คราฟต์ ได้รับการสนับสนุนผ่านบริการอินเทอร์เน็ตแบตเทิล.เน็ตของบลิซซาร์ดเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ผู้เล่นสูงสุดแปดคนสามารถแข่งขันในเกมหลายภาวะ รวมถึงโหมดทำลายผู้เล่นอื่นทั้งหมดในแผนที่ (ซึ่งอาจเป็นการแข่งขัน อย่างในการเล่นแลดเดอร์ (Ladder, การไต่เต้า) หรือไม่จัดอันดับ อย่างในการเล่นเมเล (melee) ไปจนถึงเกมที่เน้นวัตถุประสงค์ ราชาแห่งขุนเขา (king of the hill) และยึดธง นอกจากนี้ เกมยังรวมฉากที่สร้างเป็นพิเศษสำหรับเกมแต่ละประเภท เช่น การจำลองเกมอเมริกันฟุตบอล การใช้ยูนิตโฮเวอร์ไบค์ของเทอร์แรนแข่งขันจักรยานยนต์ หรือการจัดการแข่งขันการล่าเซิร์ก เป็นต้น สตาร์คราฟต์ยังเป็นหนึ่งในไม่กี่เกมที่รวมการติดตั้งแบบวางไข่ (spawn installation) ซึ่งอนุญาตระบบหลายผู้เล่นจำกัด คือ เกมจะต้องติดตั้งจากดิสก์ และต้องใช้กุญแจผลิตภัณฑ์ (product key) เพื่อให้ทำงานเหมือนรุ่นสมบูรณ์ อย่างไรก็ดี กุญแจผลิตภัณฑ์หนึ่งสามารถรองรับการติดตั้งแบบวางไข่ได้สูงสุดแปดครั้งโดยสามารถเข้าถึงแบตเทิล.เน็ตได้ ข้อจำกัดของการติดตั้งแบบวางไข่รวมการไม่สามารถเล่นด่านผู้เล่นคนเดียว สร้างเกมหลายผู้เล่นหรือใช้ตัวตัดต่อยุทธการได้ การออกเกมครั้งหลัง ๆ ซึ่งหาได้ผ่านแบตเทิล.เน็ตหรือดิสก์ที่รวมป้ายวินโดวส์ วิสตาไม่รองรับการติดตั้งแบบวางไข่
เรื่องย่อ
ฉากเนื้อเรื่อง
สตาร์คราฟต์ดำเนินเรื่องในจักรวาลบันเทิงคดีวิทยาศาสตร์ที่คริส เมทเซน (Chris Metzen) และเจมส์ ฟินนีย์ (James Phinney) สร้างให้บลิซซาร์ดเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ตามเรื่องที่นำเสนอในคู่มือเกม จากที่ประชากรล้นโลกในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 21 ทำให้รัฐบาลระหว่างประเทศเนรเทศเผ่าพันธุ์มนุษย์บางส่วน เช่น อาชญากร พวกที่เสริมไซเบอร์เนติกส์ (cybernetically enhanced) และสายพันธุ์กลายไปตั้งนิคมในที่ไกลโพ้นของดาราจักร ความพยายามตั้งนิคมในระบบสุริยะใกล้เคียงเกิดผิดพลาด ส่งผลให้มนุษยชาติมาถึงภาคคอปรูลู ในภาคคอปรูลูของดาราจักรอันห่างไกล ผู้ถูกเนรเทศตั้งรัฐบาลขึ้นจำนวนมาก ทว่าไม่นานก็เกิดความขัดแย้งกัน สุดท้าย คอนเฟเดอราซีออฟแมน (Confederacy of Man, สมาพันธ์มนุษย์) รัฐบาลหนึ่ง ผงาดขึ้นเป็นกลุ่มแยกที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ธรรมชาติอันกดขี่และวิธีการปราบผู้เห็นแย้งอย่างป่าเถื่อนจุดชนวนการต่อต้านของกบฏครั้งใหญ่ในรูปกลุ่มก่อการร้าย ชื่อ ซันส์ออฟคอร์ฮอล (Sons of Korhal) ไม่นานก่อนเริ่มเกม ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2499 เผ่าพันธุ์ต่างดาวซึ่งมีเทคโนโลยีล้ำหน้าและพลังจิต โพรทอส ติดต่อมนุษยชาติครั้งแรกโดยทำลายโลกอาณานิคมของคอนเฟเดอราซีดวงหนึ่งโดยปราศจากการเตือนล่วงหน้าใด ๆ จากนั้นไม่นาน เทอร์แรนพบว่าเผ่าพันธุ์ต่างดาวที่สอง คือ เซิร์กคล้ายแมลง ลอบบุกรุกพื้นผิวของอาณานิคมเทอร์แรนหลายแห่ง และโพรทอสกำลังทำลายดาวเคราะห์เพื่อป้องกันมิให้เซิร์กลุกลาม คอนเฟเดอราซีที่ถูกคุกคามโดยสองเผ่าพันธุ์ต่างดาวและการกบฏภายในเริ่มพังทลาย
ตัวละคร
ผู้เล่นสวมบทบาทตัวละครนิรนามสามคนตลอดเกม ในองก์แรก ผู้เล่นเป็นพนักงานปกครองของสมาพันธ์แห่งมาร์ซารา (Mar Sara) โลกอาณานิคมอันห่างไกล ซึ่งถูกทั้งเซิร์กและโพรทอสคุกคาม และถูกเหตุการณ์บังคับให้เข้ากับกบฏ ซันส์ออฟคอร์ฮอล ภายใต้ผู้นำ อาร์กทูรัส เมงสก์ (Arcturus Mengsk) การทัพของเมงสก์ มีจิม เรย์เนอร์ (Jim Raynor) เจ้าพนักงานบังคับกฎหมายที่มีสำนึกศีลธรรมจากมาร์ซารา และซาราห์ เคอร์ริแกน (Sarah Kerrigan) มือสังหารพลังจิตและรองผู้บัญชาการของเมงสก์ ร่วมด้วย ภาคที่สองของเกม ผู้เล่นเป็นเซเรเบรท (cerebrate) ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาในเซิร์กสวอร์ม (Zerg Swarm, ฝูง-) ผู้เล่นถูกเซิร์กโอเวอร์มายด์ (Zerg Overmind) ปกครอง โอเวอร์มายด์นี้เป็นการแสดงซึ่งพิชาน (consciousness) รวมแห่งสวอร์ม และปฏิปักษ์หลักของเกม และได้รับคำแนะนำจากเซเรเบรทอื่นที่มียศและสถานภาพสูงกว่าระหว่างทำภารกิจเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์แห่งสวอร์ม ในส่วนสุดท้ายของสตาร์คราฟต์ ผู้เล่นเป็นเอ็กซีคิวเตอร์ (Executor, ผู้ปฏิบัติงาน) ในกองทัพโปรทอส รายงานต่ออัลดาริส (Aldaris) ผู้แทนของรัฐบาลโพรทอส อัลดาริสหมางใจกับเจ้าของตำแหน่งของผู้เล่นคนก่อน ทัสซาดาร์ (Tassadar) จากการสมาคมกับเซราตูล (Zeratul) สมาชิกกลุ่มมิจฉาทิฐิ ชื่อ ดาร์คเทมพลาร์ (dark templar, นักรบมืด)
โครงเรื่อง
เรื่องสตาร์คราฟต์นำเสนอผ่านคู่มือคำสั่ง บทสรุปย่อแต่ละด่านและบทสนทนาในด่านเอง ร่วมกับการใช้คัตซีนฉากที่จุดสำคัญ ตัวเกมแบ่งเป็นสามภาค ภาคหนึ่งผู้เล่นจะได้บังคับเผ่าพันธุ์หนึ่ง ในส่วนแรกของเกม ผู้เล่นและจิม เรย์เนอร์พยายามควบคุมอาณานิคมมาร์ซาราในห้วงที่เซิร์กโจมตีโลกเทอร์แรนอื่น หลังคอนเฟเดอราซีจับกุมเรย์เนอร์ฐานทำลายทรัพย์สินของสมาพันธ์ แม้ข้อเท็จจริงว่ามันถูกเซิร์กรังควาญแล้วก็ตาม ผู้เล่นเข้าร่วมกับอาร์กทูรัส เมงสก์และซันส์ออฟคอร์ฮอล เรย์เนอร์ซึ่งทหารของเมงสก์ปล่อยเป็นอิสระ ก็เข้าด้วยและร่วมทำภารกิจกับผู้เล่นบ่อย ๆ จากนั้น เมงสก์เริ่มใช้เทคโนโลยีของสมาพันธ์ที่ยึดได้บนมาร์ซาราล่อให้เซิร์กมายังที่ตั้งของสมาพันธ์และเดินหน้าเป้าหมายของเขาเอง หลังบีบให้เอ็ดมุนด์ ดุค (Edmund Duke) นายพลของสมาพันธ์ เข้ากับตนแล้ว เมงสก์สละรองผู้บัญชาการของเขา ซาราห์ เคอร์ริแกน เพื่อประกันการทำลายคอนเฟเดอเรซีโดยการล่อให้เซิร์กไปทาร์โซนิส (Tarsonis) เมืองหลวงของสมาพันธ์ เรย์เนอร์โกรธกับเป้าหมายที่แท้จริงของเมงสก์ในการได้มาซึ่งอำนาจไม่ว่าจ่ายราคาและสละเท่าใดก็ตาม และพากองทัพอดีตทหารอาสาสมัครอาณานิคมมาร์ซาราขนาดเล็กไปกับเขาด้วย เมงสก์จัดระเบียบประชากรเทอร์แรนที่เหลือใหม่เป็นเทอร์แรนโดมินเนียน (Terran Dominion, ราชอาณาจักรเทอร์แรน) และปราบดาภิเษกตนเป็นจักรพรรดิ
การทัพที่สองนั้นเปิดเผยว่า เคอร์ริแกนมิได้ถูกเซิร์กฆ่า แต่ถูกจับและติดเชื้อในความพยายามรวมลักษณะทางจิตของเธอเข้ากับยีนพูลของเซิร์ก เธอกำเนิดโดยมีพลังจิตและความแข็งแกร่งทางกายภาพสูงกว่าเดิมมาก ดีเอ็นเอถูกเปลี่ยนโดยสมบูรณ์ ขณะเดียวกัน ทัสซาดาร์ ผู้บัญชาการโพรทอส พบว่าเซเรเบรทของเซิร์กไม่สามารถถูกสังหารด้วยวิธีการปกติ แต่จะถูกทำลายได้ด้วยพลังที่ดาร์คเทมพลาร์อันมีมิจฉาทิฐิมีอยู่ ทัสซาดาร์เป็นพันธมิตรกับดาร์คเทมพลาร์สูงศักดิ์ เซราตูล ผู้ลอบสังหารซาร์ซ (Zasz) เซเรเบรทหนึ่งของเซิร์กในกลุ่มรังบนดาวชาร์ (Char) มรณะของเซเรเบรทส่งผลให้กองกำลังของมันวิ่งอาละวาดทั่วรังของเซิร์ก แต่เชื่อมโยงจิตของเซราตูลกับเซิร์กโอเวอร์มายด์ครู่หนึ่ง ทำให้โอเวอร์มายด์ทราบที่ตั้งของดาวบ้านเกิดเมืองนอนของโพรทอส ไอเออร์ (Aiur) ซึ่งโอเวอร์มายด์แสวงมาหลายสหัสวรรษ ในที่สุด สวอร์มเซิร์กหลักบุกครองไอเออร์ทันที ขณะที่เคอร์ริแกนถูกส่งไปรับมือกับทัสซาดาร์ และแม้โพรทอสจะต้านทานอย่างหนัก แต่โอเวอร์มายด์ก็สามารถฝังตัวเองเข้ากับเปลือกดาวเคราะห์ได้
ในภาคสุดท้ายของเกม อัลดาริสและรัฐบาลโพรทอสตีตราทัสซาดาร์ว่าเป็นผู้ทรยศและคนนอกรีตที่สมคบกับดาร์คเทมพลาร์ เดิมผู้เล่นรับใช้อัลดาริสในการป้องกันไอเออร์จากการบุกครองของเซิร์ก แต่ระหว่างภารกิจไปจับกุมทัสซาดาร์ ผู้เล่นกลับเข้ากับเขาแทน สงครามกลางเมืองโพรทอสอุบัติขึ้น ซึ่งทำให้ทัสซาดาร์ เซราตูลและพันธมิตรของพวกเขาติดพันกับกลุ่มผู้ทรงอำนาจโพรทอส ดาร์คเทมพลาร์พิสูจน์คุณค่าแห่งตนเมื่อใช้พลังงานฆ่าเซเรเบรทเซิร์กอีกสองตนบนดาวไอเออร์ และที่ประชุมปรองดองกับพวกเขา โพรทอส ด้วยการสนับสนุนโดยกองกำลังของเรย์เนอร์ ผู้เข้าร่วมกับทัสซาดาร์บนชาร์ เจาะผ่านการป้องกันที่ถูกทำให้อ่อนแอลงของโอเวอร์มายด์และทำลายเปลือกชั้นนอกของโอเวอร์มายด์ได้ แต่ก็ได้รับความสูญเสียอย่างหนักเช่นกัน ทัสซาดาร์ส่งพลังจิตของเขารวมกับพลังของดาร์คเทมพลาร์ผ่านลำยานบัญชาการของเขา แล้วชนใส่โอเวอร์มายด์ สละชีพตนเพื่อทำลายมัน
การพัฒนา
บลิซซาร์ดเอ็นเตอร์เทนเมนต์เริ่มการพัฒนาสตาร์คราฟต์ในปี 2538 ไม่นานหลังออกวอร์คราฟต์ 2: ไทด์สออฟดาร์คเนสที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง สตาร์คราฟต์เปิดตัวในงานอี3 ปี 2539 โดยใช้เกมเอนจินของไทด์สออฟดาร์คเนสเป็นฐาน รุ่นดังกล่าวของเกมที่ประกอบโดยบ็อบ ฟิทช์ หัวหน้าโปรแกรมเมอร์ ซึ่งถูกจัดแสดง ได้รับการตอบรับค่อนข้างอ่อนจากงาน และถูกหลายคนวิจารณ์ว่าเป็น "วอร์คราฟต์ในอวกาศ" ผลคือ มีการยกเครื่องใหม่ทั้งโครงการ โดยนำความสนใจมายังการสร้างสามสปีชีส์แยกกัน บิล โรเปอร์ (Bill Roper) ผู้ผลิตเกมคนหนึ่ง แถลงว่า นี่จะเป็นการเบี่ยงเบนครั้งสำคัญจากแนวการเข้าสู่วอร์คราฟต์ โดยเทียบสองฝั่งเท่ากันกับหมากรุก และแถลงว่า สตาร์คราฟต์จะให้ผู้เล่น "พัฒนายุทธศาสตร์เอกลักษณ์ขึ้นอยู่กับว่ากำลังเล่นสปีชีส์อะไร และจะกำหนดให้ผู้เล่นต้องคิดยุทธศาสตร์ต่าง ๆ เพื่อต่อสู้กับอีกสองสปีชีส์" ต้นปี 2540 มีการเปิดตัวสตาร์คราฟต์รุ่นใหม่ ซึ่งได้รับการตอบรับดีกว่ารุ่นแรกมาก
กระนั้น เกมยังประสบอุปสรรคทางเทคนิค ฉะนั้นบ็อบ ฟิทช์ จึงออกแบบเอนจินวอร์คราฟต์ 2 ใหม่ทั้งหมดในสองเดือนเพื่อประกันว่าคุณลักษณะจำนวนมากที่นักออกแบบต้องการ เช่น ความสามารถชอนไช (burrow) และอำพรางของยูนิต สามารถทำให้เกิดผลได้ การปรับปรุงเกมภายหลังรวมถึงสไปรท์ (sprite) และพื้นหลังก่อนให้แสงและเงา ซึ่งสร้างโดยใช้ 3ดี สตูดิโอแม็กซ์ มีการนำมุมมองสมมิติในเกมมาใช้เช่นกัน ตรงข้ามกับทัศนมิติ 3/4เอส เบิดส์อาย (3/4s birdseye perspective) ของวอร์คราฟต์ 2 ยิ่งไปกว่านั้น เกมยังใช้ดนตรีคุณภาพสูง ซึ่งประพันธ์โดยคีตกวีประจำของบลิซซาร์ด และมีการจ้างนักพากย์เสียงอาชีพ
แม้ความคืบหน้าเหล่านี้ สตาร์คราฟต์ก็ยังออกช้า ความล่าช้าต่อเนื่องจูงใจให้กลุ่มแฟนสตาร์คราฟต์กลุ่มหนึ่งบนฟอรัมอย่างเป็นทางการที่ตั้งชื่อตนเองว่า "Operation: Can't Wait Any Longer" (ปฏิบัติการ: รอต่อไปไม่ไหวแล้ว) เขียนชุดเรื่องบันเทิงคดีซึ่งสมาชิกของกลุ่มดังกล่าวพยายามนำสตาร์คราฟต์รุ่นบีตาจากสำนักงานใหญ่ของบลิซซาร์ดในเมืองเออร์ไวน์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อแสดงความเคารพต่อการมีกลุ่มนี้ในฟอรัมและความกระตือรือร้นกับเกมของพวกเขา ต่อมาบลิซซาร์ดเอ็นเตอร์เทนเมนต์รวมชื่อกลุ่มดังกล่าวเข้าในสตาร์คราฟต์โดยเป็นสูตรโกงเกมที่เร่งการสร้างยูนิต และกล่าวขอบคุณกลุ่มดังกล่าวในเครดิตของเกม ตัวเกมออกสำหรับระบบปฏิบัติการวินโดวส์เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2541 โดยรุ่นแมคโอเอสออกมาในปีต่อมา คือ ปี 2542 การพัฒนาสตาร์คราฟต์ 64 ซึ่งเป็นรุ่นสำหรับนินเทนโด 64 เริ่มต้นในปี 2542 ซึ่งแปลงจากคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลโดยแมสมีเดียอินเตอร์แอ็คทีฟเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของทีเอชคิว และวางจำหน่ายโดยนินเทนโด สตาร์คราฟต์ 64 ออกในสหรัฐอเมริกาและทวีปยุโรปในวันที่ 13 มิถุนายน 2543 และยังออกในประเทศออสเตรเลียเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2544
เสียง
โน้ตดนตรีในสตาร์คราฟต์ประพันธ์โดยคีตกวีในองค์กรของบลิซซาร์ดเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ดีเรก ดุ๊ก และเกล็นน์ สตัฟฟอร์ดประพันธ์เพลงในรายการเลือกและเพลงในเกม ขณะที่เจสัน เฮยส์ประพันธ์เพลงที่ใช้ในคัตซีนฉาก เทรซี ดับเบิลยู. บุช ให้การสนับสนุนการประพันธ์เพลงเพิ่มเติม เพลงของเกมได้รับเสียงตอบรับดีจากนักวิจารณ์ ผู้อธิบายว่า "ไพเราะกับมืดมนอย่างเหมาะสม" และ "น่าประทับใจ" โดยมีนักวิจารณ์คนหนึ่งชี้ว่า บางเพลงได้รับแรงบันดาลใจมาจากเพลงภาพยนตร์เอเลียนของเจอร์รี โกลด์สมิธ ซาวแทร็กแรกของเกมอย่างเป็นทางการ สตาร์คราฟต์: เกมมิวสิก วอลุม 1 ซึ่งออกในปี 2543 ซึ่งประกอบด้วยเพลงจากทั้งสตาร์คราฟต์และบรูดวอร์ เช่นเดียวกับเพลงรีมิกซ์และดนตรีที่ได้แรงบันดาลใจจากสตาร์คราฟต์ สร้างสรรค์โดยดีเจชาวเกาหลีใต้หลายคน เน็ตวิชชันเอ็นเตอร์เทนเมนต์เป็นผู้แจกจ่ายซาวแทร็ก ในเดือนกันยายน 2551 บลิซซาร์ดเอ็นเตอร์เทนเมนต์ประกาศว่า ซาวแทร็กที่สอง สตาร์คราฟต์ออริจินัลซาวแทร็ก ออกทางไอทูนส์แล้ว ซาวแทร็กนี้ประกอบด้วยเพลงจากสตาร์ฟคราต์และบรูดวอร์ทั้งหมด ทั้งจากธีมในเกมจนถึงเพลงที่ใช้ในคัตซีนฉาก
รายชื่อเพลงใน StarCraft: Game Music Vol. 1 | ||
---|---|---|
ลำดับ | ชื่อเพลง | ยาว |
1. | "Prologue: Requiem" (composed by Blizzard Entertainment) | 2:13 |
2. | "Rescue The Marines (Remix)" (composed by "Honey Family") | 3:47 |
3. | "Nuclear Attack" (composed by Jung Dana) | 4:11 |
4. | "12th Area (Terran Theme)" (composed by "Jijix") | 4:29 |
5. | "Zerg Are Coming (Zerg Theme)" (composed by Shin Hae Chul) | 4:37 |
6. | "Kerrigan" (composed by Blizzard Entertainment) | 4:14 |
7. | "I Felt It Was You" (composed by "Mina") | 3:39 |
8. | "John's Prediction" (composed by "MC Sniper") | 5:08 |
9. | "Overmind Theme" (composed by Nam Koong Yun) | 3:55 |
10. | "For Adun (Protoss Theme)" (composed by "Novasonic") | 2:46 |
11. | "Rescue The Marines (Radio Version)" (composed by "Honey Family") | 3:32 |
12. | "Epilogue" (composed by Blizzard Entertainment) | 5:04 |
13. | "Nonstop Remix" (composed by Blizzard Entertainment) | 6:53 |
ความยาวทั้งหมด: | 56:49 |
รายชื่อเพลงใน StarCraft Original Soundtrack | ||
---|---|---|
ลำดับ | ชื่อเพลง | ยาว |
1. | "StarCraft Main Title" | 2:26 |
2. | "First Contact" | 1:56 |
3. | "Terran One" | 4:56 |
4. | "Terran Ready Room" | 0:45 |
5. | "Terran Two" | 3:56 |
6. | "Terran Defeat" | 0:50 |
7. | "Terran Three" | 4:24 |
8. | "The Death of the Overmind" | 1:49 |
9. | "Protoss One" | 4:44 |
10. | "Protoss Ready Room" | 1:26 |
11. | "Protoss Two" | 4:51 |
12. | "Protoss Defeat" | 1:00 |
13. | "Protoss Three" | 5:03 |
14. | "Zerg Ready Room" | 0:31 |
15. | "Zerg One" | 4:40 |
16. | "Zerg Defeat" | 0:24 |
17. | "Zerg Two" | 5:07 |
18. | "Zerg Victory" | 0:34 |
19. | "Zerg Three" | 5:06 |
20. | "Brood War: Aria" | 2:06 |
21. | "Funeral for a Hero" | 0:32 |
22. | "Terran Victory" | 0:52 |
23. | "Dearest Helena" | 0:54 |
24. | "The Ascension" | 0:52 |
25. | "Char Falls Under Directorate Control" | 0:43 |
26. | "Fury of the Xel'Naga" | 3:07 |
ความยาวทั้งหมด: | 63:34 |
ภาคเสริมและรุ่น
ภาคเสริมคอมพิวเตอร์
ไม่นานก่อนสตาร์คราฟต์ออกวางจำหน่าย บลิซซาร์ดเอ็นเตอร์เทนเมนนต์พัฒนาการทัพเกมเดโมแชร์แวร์ออกมาตัวหนึ่ง ชื่อว่า ลูมิงส์ (Loomings) ซึ่งประกอบด้วยสามภารกิจและสอนเล่น (tutorial) เนื้อเรื่องเป็นเรื่องก่อนหน้าเกตุการณ์ในสตาร์คราฟต์ โดยเกิดขึ้นในอาณานิคมของสมาพันธ์แห่งหนึ่งระหว่างที่ถูกเซิร์กบุก ในเดือนตุลาคม 2542 บลิซซาร์ดเอ็นเตอร์เทนเมนต์ได้สร้างเป็นการทัพแผนที่ตามสั่ง (custom map) ในเกมตัวเต็ม โดยเพิ่มอีกสองภารกิจและตั้งไว้บนแบตเทิล.เน็ต นอกเหนือจากนี้ การวางจำหน่ายสตาร์คราฟต์ตัวเต็มยังรวมการทัพอันดับรอง ชื่อ เอ็นสเลฟเวอร์ส (Enslavers) ประกอบด้วยห้าภารกิจที่เล่นเป็นทั้งเทอร์แรนและโปรทอส เอ็นสเลฟเวอร์สมีฉากท้องเรื่องในการทัพที่สองในสตาร์คราฟต์ และติดตามเรื่องของผู้ลักลอบเทอร์แรนที่สามารถควบคุมเซเรเบรทของเซิร์กได้ และถูกตามล่าจากทั้งโปรตอสและเทอร์แรนโดมินเนียน เอ็นสเลฟเวอร์สใช้เป็นการทัพผู้เล่นคนเดียวตวอย่างสำหรับตัวออกแบบด่านของเกม โดยเน้นวิธีใช้คุณลักษณะของโปรแกรม
ภาคเสริมแรกของสตาร์คราฟต์ อินเซอร์เร็กชัน (Insurrection) ออกบนวินโดวส์เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2541 แอซเท็กนิวมีเดียพัฒนาภาคเสริมดังกล่าว และบลิซซาร์ดเอ็นเตอร์เทนเมนต์อนุญาต เรื่องมุ่งไปยังอาณานิคมสมาพันธ์แยกแห่งหนึ่งซึ่งมีพาดพิงในคู่มือสตาร์คราฟต์ ติดตามกลุ่มผู้อยู่ในนิคมเทอร์แรนหนึ่งและกองยานโปรตอสในการต่อสู้กับเซิร์กและการก่อการกำเริบท้องถิ่นที่กำลังมีขึ้น กระแสตอบรับของอินเซอร์เร็กชันไม่ค่อยดี โดยผู้ทบทวนวิจารณ์ว่าขาดคุณภาพของเกมต้นฉบับ อีกหลายเดือนให้หลังมีภาคเสริมที่สองตามมา คือ เรทริบิวชัน (Retribution) พัฒนาโดย สตาร์ด็อค จัดจำหน่ายโดย วิซาร์ดเวิคส์ซอฟต์แวร์ และบลิซซาร์ดเอ็นเตอร์เทนเมนต์อนุญาต เรทริบิวชันติดตามทั้งสามเผ่าพันธุ์ซึ่งพยายามควบคุมคริสตัลทรงพลังหนึ่งในอาณานิคมอาณาจักรเทอร์แรน ภาคเสริมนี้ไม่ได้รับการต้อนรับด้วยการสนับสนุนสำคัญ แต่ถูกมองว่าปานกลางแต่อย่างน้อยยังน่าท้าทายอยู่ หลังการออกเรทริบิวชัน บลิซซาร์ดเอ็นเตอร์เทนเมนต์ออกชุดภาคเสริมอย่างเป็นทางการใหม่ซึ่งจะต่อเรื่องของสตาร์คราฟต์ จึงมีการสร้างสตาร์คราฟต์: บรูดวอร์ พัฒนาร่วมกันโดยบลิซซาร์ดเอ็นเตอร์เทนเมนต์และซาฟไฟร์ บรูดวอร์ต่อเรื่องสตาร์คราฟต์ตั้งแต่หลายวันหลังบทสรุป และออกสำหรับทั้งวินโดวส์และแม็กโอเอสและได้คำสรรเสริญอย่างสำคัญเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2541 ในสหรัฐอเมริกา และในเดือนมีนาคม 2542 ในทวีปยุโรป
ก่อนอินเซอร์เร็กชัน มีการจัดจำหน่ายชุดภาคเสริมไม่ได้รับอนุญาต เรียก สเตลลาร์ฟอร์ซิส โดยไมโครสตาร์ แต่ถูกเรียกคืนหลายสัปดาห์ให้หลังเมื่อบลิซซาร์ดชนะคดีในศาลต่อไมโครสตาร์ ชุดดังกล่าวประกอบด้วยแผนที่ผู้เล่นคนเดียว 22 แผนที่ และแผนที่หลายผู้เล่น 32 แผนที่ ซึ่งถูกมองว่าค่อนข้างเรียบ ๆ
รุ่นนินเทนโด 64
ในปี 2543 สตาร์คราฟต์ 64 ออกสำหรับนินเทนโด 64 ซึ่งพัฒนาโดยบลิซซาร์ดเอ็นเตอร์เทนเมนต์และบริษัทแมสมีเดียร่วมกัน และจัดจำหน่ายโดยนินเทนโด เกมมีทุกภารกิจจากทั้งสตาร์คราฟต์ และภาคเสริม บรูดวอร์ เช่นเดียวกับภารกิจเฉพาะที่เพิ่มมาบ้าง เช่น แผนที่สอนเล่น (tutorial) สองแผนที่และภารกิจลับใหม่ เรซะเร็กชัน 4 (Resurrection IV) เรซะเร็กชัน 4 มีฉากท้องเรื่องหลังบทสรุปของบรูดวอร์ และติตดามจิม เรย์เนอร์กำลังมุ่งหน้าไปภารกิจกู้ตัวละครบรูดวอร์ อะเล็กเซย์ ซตูคอฟ (Alexei Stukov) พลเรือจัตวาจากโลกที่ถูกเซิร์กจับไป ภารกิจบรูดวอร์ต้องใช้เอกซ์แพนชันแพก (Expansion Pak) นินเทนโด 64 ในการเล่น นอกจากนี้ สตาร์คราฟต์ 64 ยังมีภาวะร่วมมือแบ่งจอภาพ ทำให้ผู้เล่นสองคนควบคุมกำลังหนึ่งในเกมได้ ซึ่งต้องการเอกซ์แพนชันแพกเช่นกัน สตาร์คราฟต์ 64 ไม่เป็นที่นิยมเท่ารุ่นพีซี และขาดสมรรถภาพออนไลน์และคำพูดในคำสั่งละเอียดภารกิจ ยิ่งไปกว่านั้น ยังย่นคัตซีนด้วย บลิซซาร์ดเอ็นเตอร์เทนเมนต์เคยพิจารณาพอร์ตเพลย์สเตชันของเกม แต่ตัดสินใจว่าเกมควรออกบนนินเทนโด 64 แทน
สตาร์คราฟต์ 64 มีแผนออกในทวีปยุโรปในฤดูใบไม้ร่วงปี 2543 แต่สุดท้ายถูกยกเลิก รุ่น PAL ออกเฉพาะในประเทศออสเตรเลีย
ผลกระทบทางวัฒนธรรม
การตอบรับ
การตอบรับ | ||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| ||||||||||||||||||||||||||
|
สตาร์คราฟต์ ออกทั่วโลกเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2541 และเป็นเกมพีซีขายดีที่สุดในปีนั้น ขายได้กว่า 1.5 ล้านชุดทั่วโลก ในทศวรรษถัดมา สตาร์คราฟต์ ขายได้กว่า 9.5 ล้านชุดทั่วโลก ในจำนวนนี้ 4.5 ล้านชุดขายได้ในประเทศเกาหลีใต้ ตั้งแต่ออกสตาร์คราฟต์ ทีแรก บลิซซาร์ดเอนเตอร์เทนเมนต์รายงานว่า บริการหลายผู้เล่นออนไลน์ แบตเทิลดอตเน็ต ของบริษัทฯ เติบโตกว่าร้อยละ 800 สตาร์คราฟต์ ยังเป็นเกมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของโลกเกมหนึ่ง
โดยทั่วไป นักวิจารณ์ตอบรับสตาร์คราฟต์อย่างดี โดยนักวิจารณ์ร่วมสมัยจำนวนมากสังเกตว่า แม้เกมอาจมิได้เบี่ยงบนจากสถานะเดิมของเกมวางแผนเรียลไทม์ส่วนใหญ่อย่างสำคัญ แต่เป็นเกมที่ดีที่สุดเกมหนึ่งที่ประยุกต์สูตรนั้น นอกจากนี้ นักวิจารณ์ยกย่องการบุกเบิกการใช้สามเผ่าพันธุ์ที่แตกต่าง มีเอกลักษณ์และสมดุลแทนสองฝ่ายเท่ากันของสตาร์คราฟต์ โดยเกมสปอตออกความเห็นว่า อย่างนี้ช่วยให้เกม "เลี่ยงปัญหาที่ระบาดเกมอื่น ๆ ในประเภทนี้" นักวิจารณ์จำนวนมากยังยกย่องความเข้มแข็งของเรื่องประกอบเกม โดยนักวิจารณ์บางคนประทับใจวิธีที่เรื่องเปิดเผยออกมาเป็นเกมการเล่นอย่างดี โดยเฉพาะการให้เสียงของเกมได้รับการสรรเสริญ ต่อมา เกมสปอตเชิดชูว่างานเสียงในเกมว่ายอดเยี่ยมหนึ่งในสิบในอุตสาหกรรมเกมขณะนั้น ส่วนหลายผู้เล่นของเกมได้รับการตอบรับทางบวกพอ ๆ กัน สตาร์คราฟต์ ได้หลายรางวัล รวมถึงได้รับการเสนอชื่อเป็นหนึ่งในเกมยอดเยี่ยมตลอดกาลโดยเกมสปอต ไอจีเอ็นและเกมอินฟอร์เมอร์ ตามข้อมูลของบลิซซาร์ด เอนเตอร์เทนเมนต์ สตาร์คราฟต์ คว้า 37 รางวัล และได้รับดาวบนพื้นของเมทรีออน (Metreon) เป็นส่วนหนึ่งของวอล์กออฟเกมในซานฟรานซิสโกเมื่อต้นปี 2549
แม้นักวิจารณ์ยกย่องกราฟิกส์และเสียงของสตาร์คราฟต์ ในเวลานั้น แต่บทปฏิทัศน์ภายหลังสังเกตว่า กราฟิกส์ไม่เทียบกับเกมทันสมัยกว่า สมรรถภาพของปัญญาประดิษฐ์ของเกมในการนำยูนิตไปจุดระหว่างทางยังเผชิญการวิจารณ์อย่างหนักบ้าง โดยพีซีโซนแถลงว่า ความไร้สามารถของผู้พัฒนาในการสร้างระบบหาเส้นทางทรงประสิทธิภาพเป็น "ส่วนน่าโมโหที่สุดหนึ่งของประเภทวางแผนเรียลไทม์" นอกจากนี้ นักวิจารณ์หลายคนยังแสดงความกังวลต่อความคล้ายกันบ้างระหว่างโครงสร้างยูนิตของแต่ละเผ่าพันธุ์ ตลอดจนความไม่สมดุลที่อาจเกิดขึ้นของผู้เล่นที่ใช้ยุทธวิธีรุดเช้าในเกมหลายผู้เล่น บลิซซาร์ดเอ็นเตอร์เทนเมนต์บากบั่นดุลยุทธวิธีรุดในอัปเดตหลัง ๆ นักทบทวนตอบรับรุ่นนินเทนโด 64 ของเกมไม่ในทางบวก และวิจารณ์ว่า มีกราฟิกส์เลวเมื่อเทียบกับรุ่นพีซี ทว่า นักวิจารณ์ยกย่องเกมและแมสมีเดียสำหรับการใช้การควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพบนเกมแพด (gamepad) และคงเสียงคุณภาพสูง
มรดก
เกมสปอตอธิบายสตาร์คราฟต์ว่า "เกมนิยามของประเภทมัน มันเป็นมาตรฐานซึ่งตัดสินเกมวางแผนเรียลไทม์ทุกเกม" ไอจีเอ็นแถลงว่า สตาร์คราฟต์ "มอบเกมวางแผนเรียลไทม์ดีที่สุดหรือหนึ่งในที่ดีที่สุดที่เคยสร้าง" สตาร์คราฟต์ รวมอยู่ในการจัดอันดับเกมยอดเยี่ยมของอุตสาหกรรมเกมบ่อยครั้ง ตัวอย่างเช่น เกมอยู่ในอันดับที่ 37 ของสุดยอด 100 เกมตลอดกาลของเอดจ์ สตาร์คราฟต์ ยังถูกนำขึ้นอวกาศ เมื่อแดเนียล บาร์รีนำเกมก๊อปปีหนึ่งไปกับเขาบนภารกิจกระสวยอวกาศ STS-96 ในปี 2542 ความนิยมของสตาร์คราฟต์ ส่งผลให้บันทึกสถิติโลกกินเนสส์ให้เกมได้สถิติโลกสี่อย่าง รวมถึง "เกมวางแผนพีซีขายดีที่สุด" "รายได้สูงสุดในเกมอาชีพ" และ "ผู้ชมมากสุดสำหรับการแข่งขันเกม" เมื่อแฟน 120,000 คนเข้าชมรอบชิงชนะเลิศสกายโปรลีกฤดูกาล 2548 ในปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ นักวิจัยได้แสดงว่าผู้ชมเกมสตาร์คราฟต์ มีหลากหลายและสตาร์คราฟต์ ใช้กรณีตัวอย่างอสมมาตรสารสนเทศเพื่อสร้างเกมให้บันเทิงสำหรับผู้ชมยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น สตาร์คราฟต์ ยังเป็นหัวข้อคอร์สวิชาการ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์เปิดคอร์สบทนำที่นักเรียนจัดการในเรื่องทฤษฎีและยุทธศาสตร์ในฤดูใบไม้ผลิปี 2552 กริยา "to zerg" มาพบใช้ทั่วไปเป็นศัพท์เกม หมายถึง ยุทธวิธีเซิร์ก คือ รุดคู่แข่งด้วยกองทัพยูนิตอ่อนแอขนาดใหญ่มาก
หลังออก สตาร์คราฟต์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศเกาหลีใต้ จนได้เป็นอีสปอร์ตแห่งชาติของประเทศหลังสถาปนาซีนเกมอาชีพสำเร็จ เกมเมอร์อาชีพในประเทศเกาหลีใต้เป็นผู้มีชื่อเสียงในสื่อ และมีการถ่ายทอดเกมสตาร์คราฟต์ ทางสามช่องโทรทัศน์ซึ่งอุทิศให้ซีนเกมอาชีพ เกมเมอร์อาชีพในประเทศเกาหลีใต้ได้สัญญาโทรทัศน์ ผู้สนับสนุนและรางวัลทัวร์นาเมนต์ จนทำให้ผู้เล่นที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่ง ลิม โย-ฮวัน ได้แฟนคลับกว่าครึ่งล้านคน ลี ยุน-ยอล ผู้เล่นคนหนึ่ง มีรายงานรายได้ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2548 (241,506 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2558)
ในปี 2557 มีรุ่นอย่างไม่เป็นทางการสำหรับแพนโดรามือถือและสถาปัตยกรรม ARM โดยการแปลโปรแกรมใหม่สภิตและวิศวกรรมกลับของรุ่นเอกซ์86 ดั้งเดิม
สินค้า
โครงเรื่องสตาร์คราฟต์ถูกดัดแปลงเป็นนวนิยายหลายเล่ม นวนิยายเล่มแรก อัปไรซิง (Uprising) เขียนโดย มิกกี นีลสัน ลูกจ้างบลิซซาร์ด และจัดพิมพ์ในเดือนธันวาคม 2543 ซึ่งเป็นเสมือนงานก่อนเหตุการณ์ในสตาร์คราฟต์ นวนิยายอื่น ได้แก่ ลิเบอร์ตีส์ครูเสด (Liberty's Crusade) โดย เจฟฟ์ กรับบ์ (Jeff Grubb) และควีนออฟเบลดส์ (Queen of Blades) ของอารอน โรเซนเบิร์ก (Aaron Rosenberg) เล่านิยายเกมจากทัศนมิติต่าง ๆ ในบลิซซ์คอน 2007 ผู้สร้างสตาร์คราฟต์ คริส เมตเซน แถลงว่า เขาหวังจะดัดแปลงสตาร์คราฟต์และภาคเสริม บรูดวอร์ ทั้งหมดเป็นนิยายลายลักษณ์แน่นอน นวนิยายต่อมา เช่น ชาโดว์ออฟเดอะเซลนากา (Shadow of the Xel'Naga) และเดอะดาร์กเทมพลาร์ซากาของคริสตี โกลเดน ขยายโครงเรื่องไปอีก สร้างฉากท้องเรื่องแก่สตาร์คราฟต์ 2
ทอยคอมผลิตหุ่นแอ็กชัน (action figure) และรูปปั้นสะสมจำนวนหนึ่งซึ่งยึดตัวละครและยูนิตในสตาร์คราฟต์ นอกจากนี้ อะคาเดมีฮ็อบบีโมเดลคิตส์ยังผลิตชุดแบบจำลอง (model kit) ซึ่งแสดงรุ่นสัดส่วน 1/30 ของนาวิกโยธิน (marine) และไฮดราลิสก์ (hydralisk) นอกจากนี้ บลิซซาร์ดเอ็นเตอร์เทนเมนต์ยังร่วมมือกับแฟนตาซีไฟลต์เกมส์สร้างเกมกระดานซึ่งมีประติมากรรมละเอียดของตัวละครเกม บลิซซาร์ดเอ็นเตอร์เทนเมนต์ยังอนุญาตให้วิซาดส์ออฟเดอะโคสต์ผลิตเกมยึดแอลเทอร์นิตี ชื่อ สตาร์คราฟต์แอดเวนเจอส์
อ้างอิง
- ↑ "StarCraft's 10-Year Anniversary: A Retrospective". Blizzard Entertainment. สืบค้นเมื่อ 2008-03-31. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "releasedate" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน - ↑ "StarCraft 64". IGN. สืบค้นเมื่อ 2008-04-19.
- ↑ "Top 100 Games". Edge. 2007-07-02. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2008-02-02. สืบค้นเมื่อ 2008-05-21. Italic or bold markup not allowed in:
|publisher=
(help) อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ<ref>
ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "Edge" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน - "The 52 Most Important Video Games". GamePro. สืบค้นเมื่อ 2008-05-21.
- ↑ "The Greatest Games of All Time". GameSpot. 1998. สืบค้นเมื่อ 2008-09-01. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "GspotAward" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน - Kris Graft (2009-02-11). "Blizzard Confirms One "Frontline Release" for '09". Edge. สืบค้นเมื่อ 2009-05-12.
- ↑ Chick, Tom (2000-06-02). "StarCraft". IGN. สืบค้นเมื่อ 2006-08-19.
- ↑ Dulin, Ron (April 15, 1998). "StarCraft for PC Review". GameSpot. สืบค้นเมื่อ 2008-01-09.
- ↑ Cho, Kevin (2006-01-15). "Samsung, SK Telecom, Shinhan Sponsor South Korean Alien Killers". Bloomberg.com. สืบค้นเมื่อ 2006-08-18.
- Kasavin, Greg. "StarCraft Strategy Guide: The Protoss Conclave - Units and Structures". GameSpot. สืบค้นเมื่อ 2008-04-18.
- Kasavin, Greg. "StarCraft Strategy Guide: The Zerg Swarm - Units and Structures". GameSpot. สืบค้นเมื่อ 2008-04-18.
- Kasavin, Greg. "StarCraft Strategy Guide: The Terran Dominion - Units and Structures". GameSpot. สืบค้นเมื่อ 2008-04-18.
- "Blizzard Support: StarCraft". Blizzard Entertainment. 2008-01-16. สืบค้นเมื่อ 2008-04-18.
- ↑ "StarCraft - StarEdit Tutorial". CreepColony.com. 2007-06-24. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2001-07-07. สืบค้นเมื่อ 2008-04-16.
- "General Strategy: Resources". Battle.net. Blizzard Entertainment. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2007-10-30. สืบค้นเมื่อ 2008-04-18.
- "Terran Basics". Battle.net. Blizzard Entertainment. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2007-10-11. สืบค้นเมื่อ 2008-04-16.
- "Protoss Basics". Battle.net. Blizzard Entertainment. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2007-10-24. สืบค้นเมื่อ 2008-04-16.
- "Zerg Basics". Battle.net. Blizzard Entertainment. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2007-10-11. สืบค้นเมื่อ 2008-04-16.
- Underwood, Peter (1999). "Multiplayer Games: Spawned Games". StarCraft (manual). Blizzard Entertainment. p. 11. Unknown parameter
|coauthors=
ignored (|author=
suggested) (help) - "Spawn Version FAQ". Blizzard Entertainment. 2012-08-15. สืบค้นเมื่อ 2012-11-11.
- Underwood, Peter (1998). "Terran: History". StarCraft (manual). Blizzard Entertainment. pp. 26–28. Unknown parameter
|coauthors=
ignored (|author=
suggested) (help) - Underwood, Peter (1998). "Terran: History". StarCraft (manual). Blizzard Entertainment. pp. 30–33. Unknown parameter
|coauthors=
ignored (|author=
suggested) (help) - "The Story So Far: Part 1: StarCraft". Blizzard Entertainment. 2007-11-21. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2007-11-23. สืบค้นเมื่อ 2007-11-22.
- Bailey, Kat. "Why We Play: StarCraft". 1UP.com. สืบค้นเมื่อ December 21, 2011.
- "The Evolution of StarCraft". sclegacy.com. September 28, 2007. Archived from the original on October 17, 2007. Check date values in:
|date=
(help) - Keighley, Geoff. "Eye Of The Storm: Behind Closed Doors At Blizzard". GameSpot. สืบค้นเมื่อ 2006-08-19.
- Dulin, Ron (1996-05-01). "StarCraft Preview". GameSpot. สืบค้นเมื่อ 2008-04-18.
- "Bob: StarCraft!". 10th Anniversary Celebration. Blizzard Entertainment. สืบค้นเมื่อ 2008-01-08.
- Giovetti, Al (1997-01-01). "Interview with Bill Roper". The Computer Show.com. สืบค้นเมื่อ 2006-08-19.
- "The Official CWAL FAQ". Operation CWAL. 2004-02-20. สืบค้นเมื่อ 2006-08-21.
- Kasavin, Greg. "StarCraft Strategy Guide: Cheat Codes - The Spoils of War". GameSpot. สืบค้นเมื่อ 2008-04-16.
- Underwood, Peter (1998). "Credits". StarCraft (manual). Blizzard Entertainment. p. 95. Unknown parameter
|coauthors=
ignored (|author=
suggested) (help) - "StarCraft for MAC". GameSpot. สืบค้นเมื่อ 2008-04-18.
- "Mass Media Interactive Entertainment official company site". คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2008-01-14. สืบค้นเมื่อ 2008-04-19.
- "StarCraft 64 Preview". GameSpot. 1999-06-16. สืบค้นเมื่อ 2008-04-19.
- "StarCraft". Soundtrack Collector. สืบค้นเมื่อ 2008-04-22.
- ↑ "Review: StarCraft for N64". GamePro. November 24, 1999. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2009-01-03. สืบค้นเมื่อ 2008-01-10.
- ↑ Olafson, Peter (November 24, 2000). "Review: StarCraft for PC". GamePro. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2008-10-21. สืบค้นเมื่อ 2008-01-09.
- "StarCraft: Game Music Vol. 1". Game OST. สืบค้นเมื่อ 2008-04-22.
- "Blizzard Entertainment Soundtracks Now On iTunes". Blizzard Entertainment. 2008-09-04. สืบค้นเมื่อ 2008-09-30.
- "StarCraft - PC Demo". Blizzard Entertainment. สืบค้นเมื่อ 2010-05-05.
- "StarCraft - Mac Demo". Blizzard Entertainment. สืบค้นเมื่อ 2010-05-05.
- "Map Archives: Precursor Campaign". Battle.net. Blizzard Entertainment. 1999-10-13. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2007-10-11. สืบค้นเมื่อ 2008-04-19.
- Underwood, Peter; Roper, Bill; Metzen, Chris; Vaughn, Jeffrey (1998). "The Campaign Editor". StarCraft (manual). Blizzard Entertainment. p. 24.
- "Insurrection: Campaigns for StarCraft for PC". GameSpot. สืบค้นเมื่อ 2007-11-29.
- ↑ "Official StarCraft FAQ at Battle.net". คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2007-12-13. สืบค้นเมื่อ 2007-07-19.
- Kasavin, Greg (August 26, 1998). "Insurrection: Campaigns for StarCraft for PC review". GameSpot. สืบค้นเมื่อ 2007-11-29.
- "PC Game Reviews: StarCraft: Retribution". GameGenie. สืบค้นเมื่อ 2007-11-29.
- Chen, Jeffrey (June 7, 2002). "StarCraft: Brood War review". IGN. สืบค้นเมื่อ 2007-11-04.
- Saggeran, Vik (December 23, 1998). "StarCraft: Brood War for PC review". GameSpot. สืบค้นเมื่อ 2007-11-04.
- "StarCraft: Brood War for MAC". GameSpot. สืบค้นเมื่อ 2007-11-29.
- Blizzard Wins in Starcraft Case - PC News at IGN
- Stellar Forces for Windows (1998) - MobyGames
- ↑ Fielder, Joe (June 12, 2000). "StarCraft 64 for Nintendo 64 Review". GameSpot. สืบค้นเมื่อ 2008-01-10.
- "StarCraft Needs Some Expansion". IGN. 1999-11-16. สืบค้นเมื่อ 2006-08-19.
- "StarCraft 64 Preview". IGN. 2000-06-08. สืบค้นเมื่อ 2008-10-06.
- "StarCraft on PlayStation?". IGN. 1998-04-06. สืบค้นเมื่อ 2006-08-19.
- ↑ House, Michael L. "StarCraft: Review". Allgame. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2009-04-13. สืบค้นเมื่อ 2008-04-18.
- ↑ "StarCraft Review". Game Revolution. April 1998. สืบค้นเมื่อ 2008-01-09.
- ↑ Boulding, Aaron (June 9, 2000). "StarCraft 64 Review". สืบค้นเมื่อ 2008-01-10.
- ↑ "StarCraft: PC 1998 Reviews". MetaCritic. สืบค้นเมื่อ 2008-01-09.
- ↑ "StarCraft review". PC Zone. August 13, 2001. สืบค้นเมื่อ 2008-01-09.[ลิงก์เสีย]
- "StarCraft N64 2000 Reviews". MetaCritic. สืบค้นเมื่อ 2008-01-10.
- "StarCraft Reviews". Game Rankings. สืบค้นเมื่อ 2008-01-09.
- "StarCraft 64 Reviews". Game Rankings. สืบค้นเมื่อ 2008-01-12.
- "StarCraft for Windows". MobyGames. สืบค้นเมื่อ 2008-01-09.
- "StarCraft for Nintendo 64". MobyGames. สืบค้นเมื่อ 2008-04-18.
- ↑ "Developer Awards". Blizzard Entertainment. 2006-01-01. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2006-08-14. สืบค้นเมื่อ 2006-08-19.
- "StarCraft Named #1 Seller in 1998". IGN. 1999-01-20. สืบค้นเมื่อ 2006-08-19.
- Olsen, Kelly (2007-05-21). "South Korean gamers get a sneak peek at 'StarCraft II'". USA Today. สืบค้นเมื่อ 2008-01-09.
- "Blizzard's Battle.net Remains Largest Online Game Service in the World; Battle.net Dominates Online Gaming Industry With 2.1 Million Active Users; Korea Becomes World's No. 1 Market". Business Wire. 1999-02-04. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2012-05-29. สืบค้นเมื่อ 2008-07-20.
- ↑ Rossignol, Jim (2005-04-01). "Sex, Fame and PC Baangs: How the Orient plays host to PC gaming's strangest culture". PC Gamer UK. สืบค้นเมื่อ 2006-08-20.
- Schiesel, Seth (2007-05-21). "To the Glee of South Korean Fans, a Game's Sequel Is Announced". New York Times. สืบค้นเมื่อ 2008-01-09.
- Cheung, James. "The Best Voice Acting in Games: StarCraft". GameSpot. สืบค้นเมื่อ 2008-09-15.
- ↑ "IGN's Top 100 Games". IGN. 2005-01-01. สืบค้นเมื่อ 2006-08-18.
- "IGN's Top 100 Games". IGN. 2003-01-01. สืบค้นเมื่อ 2006-08-18.
- "Game Informer's Top 100 Games Of All Time (Circa Issue 100)". Game Informer. 2009-11-16. สืบค้นเมื่อ 2013-11-24.
- "StarCraft in Space". Blizzard Entertainment. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2008-03-13. สืบค้นเมื่อ 2008-04-23.
- Guinness World Records Gamer's Edition. Hit Entertainment. 2008. ISBN 978-1-904994-20-6.
- "Starcraft from the Stands: Understanding the Game Spectator" (PDF). ACM CHI. สืบค้นเมื่อ 2011-01-30. Italic or bold markup not allowed in:
|publisher=
(help) - Cavalli, Earnest (2009-01-29). "U.C. Berkeley Now Offers StarCraft Class". Wired News. สืบค้นเมื่อ 2009-03-25.
- Crecente, Brian (2009-01-28). "Competitive StarCraft Gets UC Berkeley Class". Kotaku. สืบค้นเมื่อ 2009-03-25.
- Ki-tae, Kim (2005-03-20). "Will StarCraft Survive Next 10 Years?". The Korea Times. สืบค้นเมื่อ 2007-04-26.
- Evers, Marco (2006-02-06). "The boys with the flying fingers: South Korea Turns PC Gaming into a Spectator Sport". Der Spiegel. สืบค้นเมื่อ 2006-08-19.
- Totilo, Stephen (2006-06-21). "Playa Rater: The 10 Most Influential Video Gamers of All Time". MTVNews.com. สืบค้นเมื่อ 2006-08-31.
- Steinlechner, Peter (2014-03-10). "Starcraft für ARM-Handheld kompiliert" (ภาษาเยอรมัน). golem.de. สืบค้นเมื่อ 2014-03-25.
- notaz (2014-03-04). "StarCraft". openpandora.org. สืบค้นเมื่อ 2014-03-26.
- "StarCraft: Uprising (eBook)". Simon & Schuster. สืบค้นเมื่อ 2007-12-02.
- "StarCraft: Liberty's Crusade (Mass Market Paperback)". Simon & Schuster. สืบค้นเมื่อ 2007-12-02.
- "StarCraft: Queen of Blades (Mass Market Paperback)". Simon & Schuster. สืบค้นเมื่อ 2007-12-02.
- "StarCraft: Shadow of the Xel'Naga (Mass Market Paperback)". Simon & Schuster. สืบค้นเมื่อ 2007-12-02.
- "StarCraft: The Dark Templar Saga trilogy interview with Christie Golden". Blizzplanet. 2 April 2007. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2010-01-17. สืบค้นเมื่อ 2007-12-02.
- "Blizzard tackles toys". IGN. September 1998. สืบค้นเมื่อ 2007-07-08.
- "1/30 scale Terran marine model by Academy". Hobby Outlet. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2005-12-13. สืบค้นเมื่อ 2007-07-08.
- "1/30 scale Zerg hydralisk model by Academy". Hobby Outlet. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2005-12-31. สืบค้นเมื่อ 2007-07-08.
- Wilson, Kevin (2006-06-13). "Playtest in Minneapolis at the Source on 6/16/06". Boardgame Geek. สืบค้นเมื่อ 2006-08-19.
แหล่งข้อมูลอื่น
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: สตาร์คราฟต์ |
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ สตาร์คราฟต์
- สตาร์คราฟต์ บนแบตเทิลดอตเน็ต