สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช (ชาติตระการโกศล)

สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช (ชาติตระการโกศล) เป็นสนามกีฬากลางประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช และเป็นหนึ่งในสนามกีฬาที่บริหารจัดการโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช

สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช (ชาติตระการโกศล)

ที่ตั้ง	ถนนราชดำเนิน ตำบลท่าวัง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
พิกัด	8°27′17″N 99°57′29″E / 8.454633°N 99.958086°E / 8.454633; 99.958086
เจ้าของ	องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช
ผู้ดำเนินการ	องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช
ความจุ	5,000
พื้นผิว	หญ้า
เปิดใช้สนาม	23 สิงหาคม พ.ศ. 2516
การใช้งาน
สโมสรฟุตบอลนครศรีฯ ยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลหญิงเอ็มเอช นครศรี

ประวัติ

สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช (ชาติตระการโกศล) มีชื่อเดิมว่า สนามกีฬาชาติตระการโกศล, สนามกีฬาประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช และสนามกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช ตามลำดับ สร้างขึ้นในพื้นที่สวนป่าเดิมของมณฑลทหารบกที่ 5 ค่ายวชิราวุธ ซึ่งในปี พ.ศ. 2411 เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินประพาสเมืองนครศรีธรรมราช ได้พระราชทานชื่อสวนป่าแห่งนี้ว่า ว่า "สวนราชฤๅดี" ต่อมาที่ดินดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และต่อมาได้เปลี่ยนกรรมสิทธิ์เป็นของจังหวัดนครศรีธรรมราช

ในปี พ.ศ. 2501 นายจันทร์ สมบูรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชในขณะนั้น ได้มีดำริสร้างสนามกีฬากลางประจำจังหวัด จึงได้ประชุมส่วนราชการและมีมตินำที่ดินสวนป่าดังกล่าวสร้างเป็นสนามกีฬา โดยมีศึกษาธิการจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นแม่งานใหญ่ และได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ องค์การส่งเสริมการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ อ.ส.ก.ท. (ปัจจุบันคือการกีฬาแห่งประเทศไทย), กรมพลศึกษา และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นต้น โดยสนามกีฬาที่สร้างใหม่นี้ ตั้งชื่อตามพลตำรวจเอก หลวงชาติตระการโกศล (เจียม ลิมปิชาติ) อดีตอธิบดีกรมตำรวจ, อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และอดีตประธานคณะกรรมการ อ.ส.ก.ท. สนามเปิดใช้งานเป็นครั้งแรกในการแข่งขันกีฬาเขตแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 7 เมื่อปี พ.ศ. 2516 ซึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นเจ้าภาพ

สนามกีฬาในความดูแลของ อบจ. นครศรีธรรมราช

เดิม อบจ. นครศรีธรรมราช ได้มอบหมายให้เทศบาลนครนครศรีธรรมราชเป็นผู้ดูแล จนกระทั่งเกิดเหตุทุจริตโครงการปรับปรุงสนาม ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ได้ชี้มูลความผิดแก่บุคคลรวม 13 คน ซึ่งรวมถึงเชาวน์วัศ เสนพงศ์ อดีตนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช และให้ชดใช้ค่าเสียหายคืนแผ่นดินเป็นจำนวน 8,242,768.24 บาท ด้วยเหตุนี้ สภา อบจ. นครศรีธรรมราช จึงได้มีมติเรียกคืนสถานที่ดังกล่าวกลับมาอยู่ในความดูแลของ อบจ. และคณะอนุกรรมการอำนวยการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับจังหวัด ซึ่งมีจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชในขณะนั้น เป็นประธาน มีมติโอนการบริหารสนามกีฬาให้กับทาง อบจ. เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 ในการนี้ อบจ. นครศรีธรรมราช ได้จัดสรรงบประมาณเข้าปรับปรุงสนามกีฬา และมีพิธีเปิดสนามที่ได้ปรับปรุงใหม่ในวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2564

การใช้งาน

สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช (ชาติตระการโกศล) ประกอบด้วย สนามกีฬากลาง สนามฝึกซ้อมฟุตบอล อาคารยินเนเซียม สนามมวย และสระว่ายน้ำ

พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงเยี่ยมราษฎร ณ สนามกีฬาแห่งนี้ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2517 เวลา 13.15 น.

นอกจากนี้ สนามกีฬาชาติตระการโกศล ยังเคยใช้จัดการแข่งขันกีฬาเขตแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 7, กีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 36 และกีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 37

ปัจจุบัน สนามกีฬาแห่งนี้เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลนครศรีฯ ยูไนเต็ด ซึ่งย้ายมาจากสนามกีฬาอีกแห่งของ อบจ.นครศรีธรรมราช ที่บ้านม่วงงาม อำเภอร่อนพิบูลย์, เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลหญิงเอ็มเอช นครศรี และยังเป็นสนามกีฬาหลักของการแข่งขันกีฬานักเรียน นักศึกษา และประชาชน จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีอีกด้วย

อ้างอิง

1. "ย้อนรอย "สนามกีฬาชาติตระการโกศล" "เป็นสมบัติชาติและสมบัติคนเมืองนครทุกคน" โดย พอพล อุบลพันธุ์ – สารนครศรีธรรมราช ปีที่ 46 ฉบับที่ 1 เดือนมกราคม 2559" (PDF). (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-06-30. สืบค้นเมื่อ 2022-04-24.
2. "นายก อบจ.นครฯ มอบชุด ATK ให้นักกีฬา-ผู้ฝึกสอนฯ ตรวจก่อนแข่งกีฬาแห่งชาติ". www.thailaemthong.com. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-01-08. สืบค้นเมื่อ 2022-04-25.
3. "สตง.ฟันยับ! ทุจริตสนามกีฬาเมืองนคร "เชาว์นวัศ" พ่วง ขรก.-ชาวบ้าน เรียกเงินคืนกว่า 8 ล." mgronline.com. 2017-06-13. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-01-08. สืบค้นเมื่อ 2022-04-24.
4. "1 ปีกับผลพวงทุจริต "สนามกีฬากลางนครศรีธรรมราช" อนุสาวรีย์ประจานใคร?!". mgronline.com. 2015-12-21. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-04-24. สืบค้นเมื่อ 2022-04-24.
5. matichon (2018-05-02). "ผู้ว่าเมืองคอนยุติปมแย้งโอนสนามกีฬากลางจังหวัดให้อบจ.ดูแล". มติชนออนไลน์. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-01-08. สืบค้นเมื่อ 2022-04-24.
6. nakhononline (2020-10-25). "อบจ.เมืองคอน ทุ่มงบกว่า 11 ล้านบาท ยกเครื่องสนามกีฬากลางจังหวัดนคร หลังสอบเทศบาลฯทุจริต 13.4 ล้าน ปิดยาว 6 ปี". #nakhononline #นครออนไลน์ (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). จากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-11-01. สืบค้นเมื่อ 2022-04-24.
7. "นายกของเรา เปิดใช้สนามกีฬากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ลู่ยางสังเคราะห์ 9 ลู่ หนึ่งเดียวในภาคใต้ พร้อมให้ประชาชนออกกำลังกาย ทางเดิน-วิ่งรอบสนามกีฬาฯ". www.nakhonsi.go.th. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-07-29. สืบค้นเมื่อ 2022-04-24.
8. "ระเบียบองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ว่าด้วยการขอใช้สนามและสถานการกีฬาขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ศ. 2562" (PDF). (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-06-28. สืบค้นเมื่อ 2022-04-29.
9. เสด็จเยี่ยมราษฎร ณ สนามกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๑๗ เวลา ๑๓.๑๕ น.^{[ลิงก์เสีย]}
10. "ชาวเมืองคอนสุดปลาบปลื้ม! ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จพระราชดำเนินเยือนถึง ๑๖ ครั้ง". mgronline.com. 2016-10-19. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-01-08. สืบค้นเมื่อ 2022-04-24.
11. . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-12-08. สืบค้นเมื่อ 2014-12-24.
12. "พิธีเปิดการแข่งขันกีฬานักเรียน นักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 37 นครศรีธรรมราชเกมส์". www.nakhonsi.go.th. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-08-02. สืบค้นเมื่อ 2022-04-24.
13. "ย้ายเข้าเมือง"มังกรแดนใต้"นครศรี ยูไนเต็ด เปลี่ยนรังเหย้า". Noksanarm Media. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-05-23. สืบค้นเมื่อ 2022-04-24.
14. "อนุมัติ!! ทีมฟุตบอลหญิงของทัพ "ด้ามขวานพิฆาต" จะใช้สนามชาติตระการโกศล เป็นรังเหย้า". 2022-02-26. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-01-08. สืบค้นเมื่อ 2022-04-24.
15. "จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดการแข่งขันกีฬา นักเรียน นักศึกษา และประชาชน ..." thainews.prd.go.th. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-09-23. สืบค้นเมื่อ 2022-04-24.