ออมนิทริกซ์

ออมนิทริกซ์ (อังกฤษ: Omnitrix) เป็นอุปกรณ์ของมนุษย์ต่างดาว จากการ์ตูนทีวีแอนิเมชันของประเทศสหรัฐอเมริกาเรื่องเบ็นเท็น มีลักษณะคล้ายๆกับกำไลข้อมือ ซึ่งเบ็น ตัวเอกของเรื่องหรือตัวละครอื่นๆในเรื่อง ใช้มันเปลี่ยนร่างเป็นเอเลี่ยนที่ถูกเก็บอยู่ข้างใน ซึ่งนิสัยมักจะนึกคิดของตัวเองอยู่เสมอ

ประวัติ

ในภาพยนตร์ Secret of the Omitrix ได้เปิดเผยว่าออมนิทริกซ์ถูกสร้างโดยแอซมัท (ชนเผ่ากัลวิ่น) โดยมีผู้ช่วยชื่อไมแอกซ์ (ชนเผ่า Chimera Sui Genesis (บ้านเกิดของวิวแก็กซ์)) มีเอเลี่ยนในออมนิทริกซ์มากกว่า 1 ล้านตัว แต่มีอยู่ 1,000,903 ตัว ที่พร้อมใช้ โดยจุดประสงค์ในการสร้างก็เพื่อให้ผู้สวมใส่สามารถเปลี่ยนร่างเป็นเอเลี่ยนพันธุ์อื่นๆ เพื่อใช้เชื่อมความสัมพันธุ์กันระหว่างเอเลี่ยนแต่ละพันธุ์ ในตอน War of the worlds:Part 1 ในเบ็นเท็น: พลังเอเลี่ยน แอสมัสได้กล่าวไว้ ที่จริงออมนิทริกซ์เปรียบเสมือนเรือโนอาร์ และออมนิทริกซ์ถูกสร้างขึ้นเพื่อไม่ให้เผ่าพันธุ์ต่างๆในจักรวาลสูญพันธุ์ไปเพราะไฮบรีด

ลักษณะเฉพาะ

 

ออมนิทริกซ์

ออมนิทริกซ์มีลักษณะทรงกระบอกคล้ายๆกับกำไลข้อมือ มีหน้าปัดที่มีสัญลักษณ์คล้ายๆกับนาฬิกาทรายอยู่ตรงกลาง และมีปุ่มรอบๆอยู่สี่ปุ่ม เมื่อถูกใช้งานสัญลักษณ์ตรงกลางจะถูกเปลี่ยนเป็นสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดและจะมีเงาของเอเลี่ยนอยู่ข้างใน โดยเมื่อถูกใช้งานโดยกดปุ่มทั้งสองข้าง หน้าปัดจะถูกยกขึ้นและผู้ใช้สามารถหมุนเพื่อเลือกเอเลี่ยนได้ตามต้องการ และเมื่อกดมันกลับคืนก็จะสามารถเปลี่ยนผู้ใช้เป็นเอเลี่ยนตัวนั้นๆได้ ปุ่มสี่ปุ่มที่อยู่รอบๆหน้าปัดทำหน้าที่เป็นตัวใส่รหัส และเมื่อใส่ถูกต้องก็จะสามารถปลดล็อกเอเลี่ยนพันธุ์ใหม่ออกมา ออมนิทริกซ์มีสีการทำงานห้าสี คือ สีเขียวหมายถึงพร้อมใช้งาน สีแดงหมายถึงอยู่ในระหว่างชาร์จพลังงาน สีเหลืองหมายถึงกำลังเพิ่มเอเลี่ยนพันธ์ใหม่เข้าไปในออมนิทริกซ์ สีส้มหมายถึงออมนิทริกซ์เปิดระบบทำลายตนเอง (ตอนแรกจะปรากฏสีส้มบริเวณขอบของหน้าปัดรูปนาฬิกาทรายก่อน แล้วจะค่อยๆเพิ่มมาเรื่อยๆตามเวลา เวลาจะเพิ่มเร็วขึ้นเมื่อมีการแปลงร่าง) และสีน้ำเงินหมายถึงออมนิทริกซ์กำลังแปลงสภาพ (จะปรากฏขึ้นในภาคเบ็นเท็น: พลังเอเลี่ยน)

หลังจากที่หน้าปัดถูกกดลงไป ออมนิทริกซ์จะปลดปล่อยพันธุกรรมของเอเลี่ยนตัวนั้นๆให้กับผู้ใส่ ทำให้ผู้ใส่เปลี่ยนร่างเป็นเอเลี่ยนตัวนั้นๆแค่เฉพาะร่างกาย, เสียง และความสามารถบางส่วน (เช่น ทนไฟ, ประสาทการดมกลิ่น) รวมถึงสูญเสียความสามารถบางอย่าง (ขนาดร่างกาย, การมองเห็น) ในการทำงานของออมนิทริกซ์ในแต่ละครั้งจะมีเวลาใช้งานประมาณ 10 นาที

ในตอน "Back with a Vengeance" เบ็นบังเอิญปลดล็อกความสามารถในการเปลี่ยนร่างเป็นเอเลี่ยนได้นานเท่าไรก็ได้และยังสามารถเปลี่ยนเอเลี่ยนตัวอื่นได้โดยไม่ต้องแตะออมนิทริกซ์ (ใช้แค่ความคิด) แต่ถึงในตอนนี้วิวแก็กซ์ได้ถอดออมนิทริกซ์ออก และเมื่อออมนิทริกซ์กลับมาติดข้อมือเบ็นเช่นเดิม ความสามารถนี้จึงถูกรีเซ็ทออกไปแล้ว แต่ต่อมาเบ็น เท็นทาวนด์ซัน ในตอน "Ben 10,000" ก็มีความสามารถนี้ แสดงให้เห็นว่าระบบนี้สามารถปลดล็อกใหม่ได้ในอนาคต

ออมนิทริกซ์นั้นมีพันธุกรรมของเผ่าพันธุ์เอเลี่ยนต่างๆทั่วจักรวาล ดังนั้นในบางครั้งจะมีตัวละครที่เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับเอเลี่ยนที่อยู่ในออมิทริกซ์ เช่น เทแทร็กซ์ (เพโทรซาเปียน) ไทนี่ (เททรามานด์) อีกทั้งในภาพยนตร์ Secret of the Omitrix ในช่วงที่เบ็นบุกเข้าไปในเรือนจำอินคาสซิคอน จะเห็นว่ามีเอเลี่ยนสายพันธุ์เดียวกับในออมนิทริกซ์ปรากฏมา มีตั้งแต่กัลวานิคเมคโคมอร์ฟ (อัพเกรด),เลพิดอบเทอร์ราน (สติงก์ฟลาย),เททรามานด์ (โฟร์อาร์มส์),ฟลอร่าฟอน่า (ไวล์ดไวน์),พิซซิส โวลานน์ส (ริพจอว์) และ กัลวิ่น (เกรย์ แมตเทอร์) ก็ปรากฏตัวมาในช่วงท้ายของเรื่อง

เหล่าเอเลี่ยนในออมนิทริกซ์นั้นจะมีบุคลิกภาพอยู่ข้างใน เช่น โกสท์ฟรีค (บุคลิกภาพถูกขังไว้ในออมนิทริกซ์) และในตอน "And Then There Were 10" ที่เบ็นบอกว่าเมื่อเขากลายร่างรู้สึกมีอีกคนอยู่ข้างใน หรือในหลายๆตอนจะพบว่าเบ็นมีการเปลี่ยนแปลงในอุปนิสัยเล็กน้อยเมื่อเปลี่ยนร่าง

โดยพื้นฐานแล้วไม่ว่าใครก็ตามที่ใช้ออมนิทริกซ์จะเปลี่ยนสภาพตามเอเลี่ยนนั้นๆ แต่จะมีรายละเอียดบางส่วนที่ยังคงไว้ตามที่ผู้ใส่เป็น ดังเห็นจากตอน "Gwen 10" จะพบว่าฮีทบลาสท์ของเบ็นกับของเกวนจะมีลักษณะคล้ายๆกัน แต่ของเกวนจะมีสรีระที่เป็นผู้หญิง รวมทั้งไดมอนด์เฮดของเบ็นกับเกวนจะพบว่า ของเกวนจะมีขนาดร่างกายที่เรียวกว่าและไม่มีเพชรตรงด้านหลังเหมือนของเบ็น รวมทั้งเกรย์แมตเตอร์และโฟร์อาร์มส์ ที่ของเกวนจะมีเส้นผมและใส่เสื้อผ้าของเธอเอง ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารายละเอียดปลีกย่อยของเอเลี่ยนจะเปลี่ยนไปตามผู้ใช้ นอกจากนั้นในตอน "Ben 10,000" เอเลี่ยนของเบ็นในอนาคตจะดูมีพลังและแกร่งมากกว่าในปัจจุบัน ซึ่งเป็นเพราะอายุของเบ็นและความชำนาญของเขาก็เป็นได้

ต่อมาในฤดูกาลที่ 3 ได้เปิดเผยถึงระบบเพิ่ม DNA ของเอเลี่ยน โดยเมื่อเอเลี่ยนที่ยังไม่มีข้อมูลในออมนิทริกซ์สัมผัสกับออมนิทริกซ์ ออมนิทริกซ์จะถูกเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและหมุนรอบๆระยะหนึ่ง จากนั้นกลับมาสีเขียวเหมือนเดิม แสดงให้เห็นว่าได้ทำการดูดกลืน DNA มาแล้ว

คุณสมบัติอื่นๆ

ในภาพยนตร์ Secret of the Omitrix ได้เปิดเผยถึงระบบอื่นๆของออมิทริกซ์ ได้แก่

• ระบบทำลายตัวเอง เมื่อระบบทำลายตัวเองถูกทำงานขึ้นหน้าปัดจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแดงและจะมีแถบสีมากขึ้นเรื่อยๆเหมือนเป็นการนับถอยหลัง ทุกครั้งที่มีการใช้งานออมนิทริกซ์ หลังจากเปลี่ยนกลับปรกติ ออมนิทริกซ์จะปล่อยพลังงานออกมา และปล่อยออกมามากขึ้นเรื่อยๆจนสามารถทำลายทั้งจักรวาลได้
• ระบบนำทางกลับบ้าน ออมนิทริกซ์สามารถชี้ทางไปหาผู้สร้างของมันได้ โดยตอนแรกหน้าปัดจะหมุนคล้ายๆเข็มทิศ และเมื่อเข้าใกล้มากพอก็จะยิงลำแสงไปยังสถานที่ที่ผู้สร้างอยู่ คุณสมบัติอีกอย่าง
• ระบบซ่อมแซมดีเอ็นเอ จะปรากฏอยู่ในเบ็นเท็น: พลังเอเลี่ยน ใช้ซ่อมแซมดีเอ็นเอที่ถูกแทรกแซงหรือที่เสียหาย ให้กลับมากลายเป็นมนุษย์หรือเผ่าพันธุ์นั้นๆอย่างเดิม
• คุณสมบัติการแปรสภาพ ปรากฏอยู่ในเบ็นเท็น: พลังเอเลี่ยน ในการเปลี่ยนสภาพของออมนิทริกซ์ หน้าปัดจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้า แล้วทำการเปลี่ยนสภาพ ในภาคแรก ออมนิทริกซ์ในตอนนั้นจะใหญ่กว่านาฬิกาปกตินิดหน่อย ในภาคต่อมา ออมนิทริกซ์จะคล้ายนาฬิกา ภาพเอเลี่ยนจะเป็นโฮโลแกรมสีเขียว

ร่างของเอเลี่ยน

เบ็นเท็น

ร่างพื้นฐาน

ในฤดูกาลแรกออมนิทริกซ์สามารถเปลี่ยนร่างได้เพียง 10 ร่าง มีดังนี้

ฮีทบลาสท์

ไวลด์มัทท์

ไดมอนด์เฮด

เอ็กซาลาเรท

เกรย์ แมทเทอร์

โฟร์อาร์มส์

สติงก์ฟลาย

ริพจอว์

อัพเกรด

โกสท์ฟรีค

ฮีทบลาสท์
ชื่อภาษาอังกฤษ
Heatblast
ข้อมูล
ฮีทบลาสท์เป็นชนเผ่าไพโรไนท์ (มาจากคำว่า Pyro แปลว่าไฟ) มาจากดาวชื่อไพรอส ร่างฮีทบลาสท์เป็นร่างที่ถูกสร้างมาจากไฟ จึงมีความสามารถทนต่อพลังไฟทุกชนิด นอกจากนั้นยังสามารถควบคุมไฟได้ แต่เมื่อเกิดเป็นหวัดขึ้นมา ฮีทบลาสท์จะเปลี่ยนจากการควบคุมไฟมาเป็นน้ำแข็งแทน ฮีทบลาสท์ในด้านบน คือฮีทบลาสท์ในเบ็นเท็น ส่วนฮีทบราสท์ในด้านล่าง คือฮีทบลาสท์ในเบ็นเท็น: อัลติเมทเอเลี่ยน
ปรากฏตัวครั้งแรก
ตอน "And Then There Were 10" ซึ่งเบ็นเปลี่ยนร่างโดยบังเอิญขณะพยายามถอดออมิทริกซ์
จุดเด่น
ทนต่อพลังไฟทุกชนิด สามารถควบคุม ยิง และดูดพลังไฟจากตรงไหนก็ได้ในร่างกาย สามารถยืนบนไฟและใช้มันในการเดินทางได้ กระโดดได้สูงและไกลโดยการปล่อยไฟใส่พื้นอย่างรุนแรง สร้างม่านควัน เดินทางได้อย่างรวดเร็วผ่านหลุมไฟ
จุดด้อย
เมื่อไฟถูกดับ, อุณหภูมิตก เขาจะตาย (แต่ถ้าไม่ เขาก็สามารถจุดไฟขึ้นใหม่ได้) ร่างกายมีอุณหภูมิสูงตลอดเวลา โดยที่เขาเองก็ควบคุมไม่ได้ ไม่สามารถหยิบจับสิ่งของที่ไม่ทนไฟได้ (ไฟไหม้นั่นเอง)
อื่นๆ
เมื่อเป็นหวัดจะควบคุมน้ำแข็งแทน ร่างของเกวนจะคล้ายๆของเบ็น ยกเว้นจะมีสรีระแบบผู้หญิง ร่างของเบ็นในอนาคต จะมีร่างกายที่กำยำกว่า และมีไฟบริเวณไหล่ ในตอนDr.Animo and the mutant ray ฮีทบลาสต์ผสมกับริพจอว์ จึงกลายเป็น "ฮีทจอว์" ในเกมส์เบ็นเท็น10 ฮีทบลาสจะผสมกับXLR8(XLRบลาส)

ไวลด์มัทท์
ชื่อภาษาอังกฤษ
Wildmutt
ข้อมูล
ไวลด์มัทท์เป็นชนเผ่าไวพลิแมนเซอร์จากดาววูพลิน (มาจากคำว่า Vulpine แปลว่าสุนัขจิ้งจอก) เมื่อยู่ในร่างไวลด์มัทท์ เบ็นจะสูญเสียประสาททางสายตาไป แต่จะทดแทนด้วยประสาทดมกลิ่นที่อยู่ข้างๆปากของไวลด์มัท์ ร่างไวลด์มัทท์เป็นร่างที่มีความคล่องตัวและประสาทสัมผัสสูง
ปรากฏตัวครั้งแรก
ตอน "And Then There Were 10" ซึ่งเบ็นทดสอบออมิทริกซ์ นับเป็นการเปลี่ยนร่างอย่างตั้งใจครั้งแรก
จุดเด่น
มีความคล่องตัวสูง มีประสาทสัมผัสทางเสียง, กลิ่นและรสสูงมาก สัมผัสมนุษย์ที่อยู่ไกลออกไปได้ ยิงหนามออกจากด้านหลังได้ กระโดดเก่ง
จุดด้อย
มีผลกระทบต่อเสียงดังและกลิ่นแรงๆ ไม่มีตา จึงใช้การดมกลิ่นเอา ถ้ารูจมูกถูกปิดจะมองไม่เห็น (ช่วงเป็นหวัด) ไม่ได้พูดภาษามนุษย์ จึงสื่อสารกับคนอื่นไม่ได้
อื่นๆ
ร่างของเบ็นในอนาคตจะดูเหมือนไวพลิแมนเซอร์มากกว่าร่างในปัจจุบัน อัลติเมทไวลด์มัท สามารถพูดได้

ไดมอนด์เฮด
ชื่อภาษาอังกฤษ
Dimondhead
ข้อมูล
ไดมอนด์เฮดเป็นชนเผ่าเพโทรซาเปียน (มาจากคำว่า Petro แปลว่าปิโตรเลียมและ Sapien เป็นศัพท์วิทยาศาสตร์ใช้เรียกเผ่าพันธุ์ที่ใกล้เคียงมนุษย์) มาจากดาวเพโทรเปีย ซึ่งปกคลุมด้วยคริสตัล ร่างของเพโทรซาเปียนทำจากคริสตัลและเป็นร่างที่แตกหักได้ แต่ร่างจะสามารถฟื้นคืนสภาพได้ (จะมีขีดจำกัดในการคืนสภาพด้วย) และแปรสภาพได้หลากหลายรูปแบบเพราะทำจากคริสตัลร่างนี้จึงสามารถสะท้อนหรือหักเหการโจมตีด้วยลำแสงทุกชนิด ไดมอนด์เฮดด้านบนคือไดมอนด์เฮดในเบ็นเท็น ส่วนด้านล่าง คือไดมอนด์เฮดในเบ็นเท็น: พลังเอเลี่ยน และ เบ็นเท็น: อัลติเมทเอเลี่ยน
ปรากฏตัวครั้งแรก
ตอน "And Then There Were 10" เมื่อเบ็นต้องแปลงร่างเป็นไดมอนด์เฮดเพื่อทำลายหุ่นของวิวแก็กซ์
จุดเด่น
ป้องกันการโจมตีได้ทุกรูปแบบ มีร่างกายที่แข็งดั่งเพชร เปลี่ยนร่างให้เป็นอาวุธหรือเครื่องมือที่แหลมคมได้ สะท้อนลำแสงทุกชนิด แปรสภาพได้หลากหลายรูปแบบ ดวงตามีสีเหลืองทั้ง 2 ข้าง ยิงแท่งคริสตัลออกจากร่างกาย สร้างแท่งคริสตัลได้ ฟื้นร่างกายที่เสียหายได้
จุดด้อย
ร่างกายจะร้าวถ้าโดนคลื่นเสียงความถี่สูง ร่างกายสามารถแตกหักได้
อื่นๆ
ร่างของเกวนจะไม่มีคริสตัลข้างหลังและมือกับแขนกับขาก็ไม่ใหญ่เท่าแบบของเบ็นและเสื้อจะเป็นสีน้ำเงินเข้มกับนำเงินจางๆ ในตอน Dr. Animo and the Mutant Ray ไดมอนด์เฮดผสมกับเกรย์ แมตเตอร์ กลายเป็น "ไดมอนด์ แมตเตอร์" ไดมอนด์เฮดของ เบ็นเท็น: พลังเอเลี่ยน สูทของไดมอนด์เฮดจะเปลี่ยนไปโดยด้านบนจะเป็นแถบสีดำ และด้านล่างจะเป็นแถบสีขาว ดาวเพโทรเปีย ปกคลุมด้วยคริสตัล ดวงดาวไม่ได้เป็นทรงกลม แต่มีลักษณะเป็นแนวตั้ง มีดาวบริวาร 1 ดวง

เอ็กซาลาเรท
ชื่อภาษาอังกฤษ
XLR8
ข้อมูล
เอ็กซาลาเรทเป็นชนเผ่าคิเนเซเลอราน จากดาวเคราะห์คิเนท (จากคำว่า Kinetic แปลว่าพลังงานจลน์) ซึ่งเป็นชนเผ่าที่เกี่ยวข้องกับความเร็วเสมอๆ ร่างเอ็กซาลาเรทนั้นเป็นร่างที่มีความเร็วสูงและร่างนี้ไม่ใช่ร่างที่แข็งแกร่งพอจะต่อสู้ได้ เบ็นมักจะใช้ร่างนี้ในการวิ่งหลบหลีก, วิ่งไปให้ถึงเป้าหมาย หรือใช้ในการถ่วงเวลาศัตรู นอกจากนั้นร่างนี้ยังมีอุปกรณ์ที่ป้องกันการเกิดไฟฟ้าสถิตด้วย เบ็นในอนาคตเมื่อเปลี่ยนร่างแล้ว ร่างจะเป็นสีขาวต่างจากตอนเด็ก และวิ่งได้เร็วมากๆ (เร็วกว่าเสียง) วิธีการอ่านชื่อของร่างนี้คือ เอ็ก (X) +แอล (L) ได้คำว่า เอ็กซา+อาร์ (R) ได้คำว่า เอ็กซาลา (ร์) +เอด (8) ได้คำว่า เอ็กซาลาเรท
ปรากฏตัวครั้งแรก
ตอน "And Then There Were 10" ซึ่งเบ็นแปลงเป็นร่างนี้เพื่อใช้แก้แค้น "แคชกับเจที" ที่เป็นคู่อริกัน
จุดเด่น
วิ่งเร็วมาก (สามารถวิ่งบนน้ำได้) การตอบสนองของร่างกายเร็วขึ้น สร้างพายุโดยการวิ่งเป็นวงกลม มีมือกรรไกรที่ตัดวัตถุได้โดยผนวกเข้ากับความเร็ว
จุดด้อย
อ่อนแอต่อแม่เหล็ก ไม่แข็งแกร่งมากนัก วิ่งบนน้ำแข็งได้ไม่ดี วิ่งบนที่ไร้แรงดึงดูดไม่ได้
อื่นๆ
ในตอน Ben 10,000 เอ็กซาลาเรทจะเปลี่ยนลายจากสีฟ้าเป็นขาวและจะวิ่งเร็วกว่าเดิม (เร็วกว่าเสียง) ในเกมส์เบ็นเท็น10 ฮีทบลาสจะผสมกับXLR8(XLRบลาส)

เกรย์ แมตเตอร์
ชื่อภาษาอังกฤษ
Gray Matter
ข้อมูล
เกรย์แมตเตอร์เป็นชนเผ่ากัลวิ่น (มาจากคำว่า Galvanization แปลว่าชุบสังกะสี) จากดาวเคราะห์กัลวิ่นไพรม์ (แต่ในตอน War of the worlds Part 1 ดาวดวงนี้ถูกทำลายโดยไฮบรีด จึงมีการสร้างใหม่แล้วใช้ชื่อว่า กัลวิ่นมาร์ค 2) เกรย์แมตเตอร์เป็นชนเผ่าตัวเล็ก แต่ก็เป็นชนเผ่าที่ฉลาดที่สุดในจักรวาลและเพราะความฉลาดนั้นเองทำให้ร่างนี้เหมาะแก่การวิเคราะห์และหาจุดอ่อนคู่ต่อสู้ แต่ในหลายๆครั้งที่เบ็นเองก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่ตนเองพูด และเพราะร่างนี้ไม่ใช่ร่างสำหรับต่อสู้ บ่อยครั้งในเรื่องจะมีมุขตลกที่เมื่อเบ็นต้องการเปลี่ยนเป็นร่างสำหรับต่อสู้ (เช่น โฟร์อาร์มส์) เบ็นมักจะได้กลายเป็นร่างนี้แทนอยู่บ่อยครั้ง
ปรากฏตัวครั้งแรก
ในตอน Washington B.C. เบ็นเปลี่ยนเป็นร่างนี้เพื่อหาการ์ดทองคำของซูโม่ สแลมเมอร์ในกล่องธัญพืช
จุดเด่น
มีความฉลาดสูงมาก สามารถวิเคราะห์จุดอ่อนคู่ต่อสู้ได้ ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ตัวเล็ก จึงวิ่งผ่านที่เล็กๆได้ และหลบซ้อนศัตรูได้ดี ร่างกายที่บางและเหนียวสามารถเกาะไต่กำแพงได้ ดวงตาทั้ง 2 ข้างเป็นสีเขียว กระโดดได้ค่อนข้างสูง (เทียบกับขนาด) ฟันคม
จุดด้อย
อ่อนแอ ไม่สามารถใช้ต่อสู้ได้ ถ้าแปลงร่างโดยไม่ได้ตั้งใจจะเกิดอาการเอ๋อ (ไม่เข้าใจที่ตัวเองพูด)
อื่นๆ
ร่างของเกวนจะมีผมและเสื้อจะเป็นสีน้ำเงินเข้มกับนำเงินจางๆ เป็นตัวที่โดนใช้งานอย่างไม่ตั้งใจเป็นประจำ เผ่าพันธุ์ของเกรย์แมตเตอร์เป็นผู้สร้างออมนิทริกซ์ ในตอน Dr. Animo and the Mutant Ray ไดมอนด์เฮดผสมกับเกรย์ แมตเตอร์ กลายเป็น "ไดมอนด์ แมตเตอร์"

โฟร์ อาร์มส์
ชื่อภาษาอังกฤษ
Four arms
ข้อมูล
โฟร์อาร์มเป็นชนเผ่าเททรามานด์ (Tetra แปลว่า สี่, และ Mand แปลว่า แขน) จากดาวคอรอส ถิ่นกำเนิดเดิมนั้นเททรามานด์อยู่ในสภาพที่ต้องเอาตัวรอด ทำให้ร่างโฟร์อาร์มนี้มีพลังและความแข็งแกร่งสูงและมีกล้ามแขนขนาดใหญ่สี่ข้าง ที่ใช้ต่อกรกับศัตรูได้ทุกรูปแบบ เป็นร่างที่เบ็นใช้มากที่สุด เป็นร่างที่แข็งแรงมากที่สุด พลังกายมหาศาล ภาพด้านบนคือ โฟร์อาร์มในเบ็นเท็น ส่วนภาพด้านล่างคือโฟร์อาร์มในเบ็นเท็น: อัลติเมทเอเลี่ยน
ปรากฏตัวครั้งแรก
ตอน Washington B.C. เบ็นเปลี่ยนร่างนี้เพื่อสู้กับช้างแมมมอธยักษ์ที่ดร.แอนิโม่ชุบชีวิตขึ้นมา
จุดเด่น
แข็งแรง เกราะหนา มีพลังอึดและพลังกายสูง มีแขน 4 แขน กระโดดระยะไกล สร้างคลื่นเสียงถ้าปรบมือสี่ข้างพร้อมกัน มีดวงตา 4 ดวง
จุดด้อย
ร่างกายใหญ่เกินไปทำให้ความคล่องตัวลดลงและมีปัญหากับที่แคบๆ เมื่อเป็นหวัดจะส่งผลต่อต่อมกลิ่นใต้วงแขน
อื่นๆ
ร่างของเกวนจะมีผม และ เสื้อจะเป็นสีน้ำเงินเข้มกับน้ำเงินจางๆ ในตอน Dr. Animo and the Mutant Ray โฟร์อาร์มผสมกับสติงฟลาย กลายเป็น "สติงอาร์ม" (เกวนเป็นคนพูดชื่อนี้ออกมา) ในตอน Ben 10,000 สัญลักษณ์ของ ออมนิทริกซ์ จะไปอยู่ที่อก โฟร์อาร์มส์ใน เบ็นเท็น: อัลติเมทเอเลี่ยนร่างจะตัวใหญ่ขึ้น และใส่ที่คาดบริเวณลำตัวแทนการใส่เสื้อ และมีผมที่ท้ายทอย

สติงก์ฟลาย
ชื่อภาษาอังกฤษ
Stinkfly
ข้อมูล
สติงก์ฟลายเป็นชนเผ่าเลพิดอบเทอร์ราน จากดาวเคราะห์เลพิดอบเทอร์ร่า (มาจากคำว่า lepidoptera ซึ่งเป็นศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ของผีเสื้อ) สติงก์ฟลายเป็นร่างสำหรับบิน จึงมีปีกและเสาอากาศความถี่สูง สามารถบินได้อย่างรวดเร็วและพ่นพิษออกมาได้ ปีกของสติงก์ฟลายค่อนข้างอ่อนแอและแตกหักง่าย นอกจากนั้นสติงก์ฟลายต้องขยับปีกตลอดเวลาเพราะร่างนี้ไม่ค่อยถนัดบนพื้นเท่าไหร่นัก
ปรากฏตัวครั้งแรก
ในตอน Washington B.C. ซึ่งเบ็นเปลี่ยนร่างนี้เพื่อช่วยเกวนที่ตกจากอนุสาวรีย์วอชิงตัน
จุดเด่น
บินได้ แบกวัตถุหนักกว่าร่างกายตัวเองได้ หางแหลมและขาหกขา มีดวงตา 4 ดวง มองรอบด้านได้ 360 องศา พ่นสารพิษออกจากปากได้ เกาะพื้นผิวต่างๆได้
จุดด้อย
แพ้ก๊าซและน้ำ มีกลิ่นที่เหม็นมากๆ เมื่อปีกโดนน้ำ จะบินไม่ได้ ปีกค่อนข้างอ่อนแอ และแตกหักง่าย
อื่นๆ ในตอน Dr. Animo and the Mutant Ray โฟร์อาร์มผสมกับสติงฟลาย กลายเป็น "สติงอาร์ม" (เกวนเป็นคนพูดชื่อนี้ออกมา) ในตอน Ben 10,000 ร่างของสติงก์ฟลายจะเหมือนเลพิดอบเทอร์รานมากกว่าปัจจุบัน ในเบ็นเท็นรีบูท สติงฟลายจะเปลี่ยนไป ค่อนข้างมาก

ริพจอว์
ชื่อภาษาอังกฤษ
Ripjaw
ข้อมูล
ริพจอวเป็นชนเผ่าพิซซิส โวลานน์จากดาวเคราะห์พิสซิส (มาจากคำว่า Pisces แปลว่า ปลา ในภาษาละติน หรือ ราศีมีน) ดาวนี้เคยปรากฏในเบ็นเท็น: อัลติเมทเอเลี่ยน ตอน Deep มีส่วนประกอบที่เป็นน้ำ 98% ใจกลางดาวมีวัตถุที่สร้างแรงดึงดูดของดาว ริพจอวส์เป็นปลาจึงต้องอาศัยอยู่ในน้ำและมีความสามารถในการต่อสู้ด้วย และเพราะร่างนี้ต้องอยู่ในน้ำทำให้เบ็นไม่ค่อยแปลงเป็นร่างนี้เท่าไหร่นัก ริพจอว์ในด้านบน คือริพจอว์ในเบ็นเท็น ส่วนริพจอว์ในด้านล่าง คือริพจอว์ในเบ็นเท็น: อัลติเมทเอเลี่ยน
ปรากฏตัวครั้งแรก
ในตอน The Krakken ซึ่งเบ็นต้องเปลี่ยนเป็นร่างนี้เพื่อเอาไข่ของแเครกเคนมาจากโจนาห์
จุดเด่น
หายใจใต้น้ำได้ เปลี่ยนขาเป็นหางและครีบช่วยในการว่ายน้ำ ว่ายน้ำได้รวดเร็ว ฟันและเขี้ยวที่แหลมคม ดำน้ำเก่ง มองเห็นในที่มืดได้
จุดด้อย
ต้องการน้ำอยู่ตลอดเวลา ไม่งั้นจะหายใจไม่ออก เป็นตัวหนึ่งที่กดแปลงร่างยากที่สุด สังเกตได้ในตอน A Small Problem และในตอน Benwolf ในตอนDr.Animo and the mutant ray ฮีทบลาสต์ผสมกับริพจอว์ จึงกลายเป็น "ฮีทจอว์"

อัพเกรด
ชื่อภาษาอังกฤษ
Upgrade
ข้อมูล
อัพเกรดเป็นชนเผ่ากัลวานิคเมคโคมอร์ฟ (มาจากคำว่า Galvanization, Mecha แปลว่าเครื่องจักรและ Morph แปลว่า การเปลี่ยนสภาพ) จากดาวเคราะห์กัลวาน B ซึ่งเป็นดวงจันทร์ของกัลวานไพรม์ ชนเผ่ากัลวาน (เกรย์แมตเตอร์) ได้ทำการขุดเหมือนบนดวงจันทร์และใช้นาโนเทคโนโลยี ทำให้อัพเกรดมีชีวิตขึ้นมาโดยบังเอิญ ร่างอัพเกรดเป็นร่างที่ผสมระหว่างพลังงานกับของเหลว ร่างนี้สามารถรวมร่างตัวเองเข้ากับเทคโนโลยีและเครื่องจักร์ (รถ, คอมพิวเตอร์, เครื่องออกกำลังกาย, เรือดำน้ำ, เครื่องบิน, เครื่องดูดฝุ่น, โทรทัศน์, เฮลิคอปเตอร์) และจะสามารถควบคุมเทคโนโลยีและเครื่องจักรนั้นๆได้อย่างสมบูรณ์แบบรวมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีนั้นๆได้ นอกจากนั้นร่างนี้ยังมีความยืดหยุ่นสูงและแทบไม่ได้รับผลจากการโจมตีใดๆ (เพราะมีส่วนประกอบของน้ำ)
ปรากฏตัวครั้งแรก
ในตอน Permanent Retirement ซึ่งเบ็นให้ร่างนี้หยุดโจรปล้นตู้ถอนเงินอัตโนมัติ
จุดเด่น
สามารถรวมตัวเองเข้ากับอุปกรณ์เทคโนโลยีทุกชนิด สามารถพัฒนาหรือดัดแปลงอุปกรณ์เทคโนโลยีได้ ยิงแสงพลาสม่าออกจากตาได้ สามารถสร้างพลังงานในรูปของของแข็งได้ ร่างกายที่ยืดหยุ่น เดินผ่านวัตถุที่มีผิวเป็นเหล็กได้
จุดด้อย
แพ้กรด แพ้ไฟฟ้าและแม่เหล็กไฟฟ้า ยิ่งเทคโนโลยีมีประสิทธิภาพมากขึ้น ก็ยากที่จะควบคุมมากขึ้น
อื่นๆ
อัพเกรดของแม็กซ์จะตัวอ้วนกว่าของเบ็นเล็กน้อย เควินมีอัพเกรดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

โกสท์ฟรีค
ชื่อภาษาอังกฤษ
Ghostfreak
ข้อมูล
โกสท์ฟรีคเป็นชนเผ่าเอคโตนิวไรท์ (เอคโตมาจากคำว่า Ectoplasm แปลว่าสสารของผี) จากดาวเคราะห์ เอเนอร์ แฟธอส (มาจากคำว่า แฟนธอม Phantom แปลว่าผี) ชนเผ่านี้มักจะไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักในจักรวาล แต่อย่างไรก็ดีพวกเขาก็มีลักษณะเหมือนผี ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาที่น่ากลัวและอาการแพ้แสงแดด ร่างกายของโกสท์ฟรีคจะโปร่งใสทำให้หลบเลี่ยงการต่อสู้ได้ทุกชนิดและทะลุผ่านวัตถุได้ ร่างของเบ็นนั้นจะมีผิวหนังชั้นนอกเคลือบอยู่ทำให้อยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์ได้ โกสท์ฟรีคหลุดออกมาจากออมนิทริกซ์และเผยร่างที่แท้จริงในตอน Ghostfreaked Out และเบ็นก็สามารถทำลายเขาลงได้ ทำให้ร่างนี้หายออกไปจากออมนิทริกซ์ จนกระทั่งใน เบ็นเท็น: พลังเอเลี่ยน เบ็นได้จับโกสท์ฟรีคไปขังไว้ในออมนิทริกซ์อีกครั้งในตอน Ghost town จึงทำให้โกสท์ฟรีค กลับมาอยู่ในออมนิทริกซ์อีกครั้งตั้งแต่นั้นมา
ปรากฏตัวครั้งแรก
ในตอน Permanent Retirement เบ็นแปลงเป็นโกสท์ฟรีคเมื่อต้องการหนีจากป้าวีร่า
จุดเด่น
ผ่านวัตถุได้ทุกชนิด ล่องหนได้ ลอยได้ มีลักษณะเหมือนผี ลำตัวมีสีเทา มีตาดวงเดียว สามารถย้ายลูกตาไว้ในตรงไหนก็ได้ของร่างกาย ทำให้สามารถเห็นภาพโดยรอบ สามารถถอดผิวชั้นนอกได้ มีพลังจิตเล็กน้อย สิงร่างผู้อื่นได้ (ยกเว้นคนที่ตายแล้ว) สามารถยิงลำแสงคอโรเดียมได้ (มีผลแค่ร่างที่ถอดผิวชั้นนอกออกแล้วเท่านั้น แต่จะต้องอยู่ในสถานที่ที่มืดมากเท่านั้นเช่นอวกาศ) ไม่ต้องการออกซิเจน ทำให้สามารถอยู่ในอวกาศได้ ฟื้นคืนชีพได้หากได้รับพลังงานจากคอโรเดียม บินได้ แต่ไม่ดีเท่าสติงก์ฟลาย เพราะบินช้า
จุดด้อย
อ่อนแอต่อสารเคมีทุกชนิด แพ้แสงจนถึงตายถ้าผิวชั้นนอกถูกถอดออก ไม่แข็งแรงเท่าร่างอื่น ไม่สามารถสิงร่างของมนุษย์ต่างดาวได้ (คาดว่าเป็นผลจากออมนิทริกซ์) หากโดนสารเคมีอย่างหนึ่งที่ทำให้จับต้องตัวโกสต์ฟรีคได้ จะโดนโจมตีได้ง่าย ควบคุมนิสัยตัวเองไม่ได้
อื่นๆ
โกสต์ฟรีคของเบ็นมีชื่อที่แท้จริงว่า ซัส'สเคย์ยะ (Zs'skayr) เควินมีพลังของโกสต์ฟรีคแต่ก็ใช้ไม่ได้

ร่างที่เพิ่มเข้ามาในฤดูกาลที่สอง

ในฤดูกาลที่สอง เบ็นจะได้รับร่างใหม่โดยบังเอิญสองร่าง

• แคนนอนโบลท์
• ไวลด์ไวน์

แคนนอนโบลท์
ชื่อภาษาอังกฤษ
Cannonbolt
ข้อมูล
แคนนอนโบลท์มาจากดาว Aburia เค้าเป็นชนเผ่าอาร์บูเรียน เพลาโรต้า (มาจากคำว่า pelota ภาษาสเปน แปลว่า ลูกบอล และ rota (te) แปลว่า การหมุน) ซึ่งชนเผ่านี้สูญพันธุ์ไปแล้ว ร่างแคนนอนโบลท์สามารถเปลี่ยนร่างตัวเองเป็นลูกบอลเพื่อใช้กลิ้ง ซึ่งจะกระเด้งได้เมื่อชนกับวัตถุอื่น ในฤดูกาลที่สาม ภาพของแคนนอนโบลท์จะมาแทนที่โกสท์ฟรีค (ในเพลงอินโทร) แคนนอนโบลท์ในด้านบน คือแคนนอนโบลท์ในเบ็นเท็น ส่วนแคนนอนโบลท์ในด้านล่าง คือแคนนอนโบลท์ในเบ็นเท็น: พลังเอเลี่ยน และเบ็นเท็น: อัลติเมทเอเลี่ยน
ปรากฏตัวครั้งแรก
ในตอน The Big Tick โดยเกวนเป็นคนกดออมนิทริกซ์เพื่อให้เบ็นเปลี่ยนร่างเป็นเอคเซลลาเร้ท ทำให้เกิดร่างนี้โดยบังเอิญ
จุดเด่น
มีเกราะที่แข็งเกร็งและสะท้อนการโจมตีได้ หมุนตัวเป็นลูกบอลได้ ตอนที่หมุนตัวสามารถเอาคนเข้าไปข้างในได้ หมุนตัวได้อย่างรวดเร็ว กระเด้งกับวัตถุอื่นได้
จุดด้อย
ร่างที่ไม่ได้เป็นลูกบอลจะเชื่องช้า ต้องมีการสร้างแรงก่อนที่จะกลิ้ง หยุดได้ยากถ้ากลิ้งเร็วเกินไป ทรงตัวไม่อยู่

ไวลด์ไวน์
ชื่อภาษาอังกฤษ
Wildvine
ข้อมูล
ไวลด์ไวน์เป็นเอเลี่ยนประเภทพืชเผ่าพันธุ์ฟลอร่าฟอน่า (มาจากคำว่า Flora หมายถึงการอยู่ร่วมกันของพืช และ Fauna หมายถึงการอยู่ร่วมกันของสัตว์) มาจากดาวเคราะห์ฟลอรส์เวอร์เดนซ์ (มาจากคำว่า flora และ verdens ภาษาละตินแปลว่าสีเขียว) มีห้าขาและกงเล็บสี่นิ้ว ร่างนี้มีความสามารถในยืดอวัยวะทุกส่วนในร่างกาย มีกระเปาะอยู่ตรงหลังที่สามารถหยิบออกมาใช้เป็นระเบิด, ระเบิดยาสลบและระเบิดควันอย่างไม่จำกัด อีกทั้งบริเวณหัวยังมีลักษณะคล้ายกับต้นไม้กินแมลงที่จะปิดเพื่อใช้ป้องกันตัวเองได้และใช้จู่โจมโดยการจับฝ่ายตรงข้ามแล้วควงสว่านดำดินได้อีกด้วย
ปรากฏตัวครั้งแรก
ในตอน Camp Fear เบ็นเปลี่ยนเป็นร่างนี้โดยบังเอิญขณะกำลังถูกจับโดยเอเลี่ยนพืชที่คุกคามค่ายอยู่
จุดเด่น
สื่อสารกับพวกพืชบนโลกและต่างดาว (มีผลแค่ร่างนี้เท่านั้น) สามารถยืดทุกส่วนของร่างกายได้ มีลำตัวสีเขียว มีกงเล็บ 4 นิ้ว มีกงเล็บที่สามารถเกาะได้ทุกพื้นผิว มีกระเปาะงอกจากหลังที่สามารถหยิบเป็นระเบิดได้ไม่จำกัด มี 5 ขา กระโดดได้ค่อนข้างไกล ทรงพลังมากเมื่อได้รับแสงแดด บริเวณหัวมีที่ปิด-เปิด (คล้ายต้นไม้กินแมลง) ไว้ป้องกันได้ บริเวณที่ปิด-เปิดที่หัวมีหนามสีเหลือง สามารถดำดินได้ สามารถรวมตัวเข้ากับต้นไม้ได้
จุดด้อย
แพ้ไฟ แพ้พิษและยาฆ่าเชื้อ

ร่างที่เพิ่มเข้ามาในฤดูกาลที่สาม

ในฤดูกาลที่สามเบ็นจะได้รับร่างเอเลี่ยนเพิ่มเติมจากการดูด DNA ของเอเลี่ยนและการปลดล็อกเข้ามาได้แก่

• บริ๊ทวูฟเฟอร์ (เบ็นวูลฟ์)
• สแนร์-โอ(เบ็นมัมมี่)
• แฟรงเก็นสไตร์ค(เบ็นวิคเตอร์)
• อัพชัค

บริ๊ทวูฟเฟอร์
ชื่อภาษาอังกฤษ
Blitzwolfer
ข้อมูล
บริ๊ทวูฟเฟอร์(เบ็นวูลฟ์)เป็นเอเลี่ยนเผ่าพันธุ์โลโบน (มาจากคำว่า Lobo ภาษาสเปนแปลว่าหมาป่า) มาจากดาวลูนาโลโบ (ภาษาสเปนแปลว่า หมาป่าดวงจันทร์ ซึ่งหมายถึงมนุษย์หมาป่า) โดยร่างนี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับมนุษย์หมาป่า ความสามารถโดยทั่วไปคล้ายคลึงกับไวลดมัทท์ นั่นคือมีประสาทสัมผัส, ความคล่องตัวและว่องไว, การดมกลิ่น, และพลังกายที่สูงมาก การโจมตีหลักๆของร่างนี้คือการใช้กงเล็บและเขี้ยวและยังสามารถปล่อยคลื่นเสียงออกมาได้อีกด้วย
ปรากฏตัวครั้งแรก
ในตอน Benwolf โดยเบ็นถูกเอเลี่ยนเผ่าพันธุ์โลโบน ซึ่งชาวเมืองเรียกว่าเยนาดูชีข่วนออมนิทริกซ์
จุดเด่น
ประสาทสัมผัสดี ความคล่องตัวและความไวสูง มีความสามารถในการดมกลิ่น แข็งแรง มีรูปร่างลักษณะคล้ายคลึงกับมนุษย์หมาป่า ดวงตาทั้ง 2 ข้างมีสีเขียว มีกงเล็บใช้ต่อสู้ มีเขี้ยวใช้ต่อสู้ สามารถแยกปากเป็นสี่แฉกได้ เมื่อแยกปากแล้วสามารถยิงลำเสียงโซนิกได้
จุดด้อย
ตาบอดสี
อื่นๆ
เบ็นเปลี่ยนชื่อจาก "เบ็นวูลฟ์" เป็น "บริ๊ทวูฟเฟอร์" ในภาค เบ็นเท็น: ออมนิเวอร์ส

สแนร์-โอ
ชื่อภาษาอังกฤษ
Snare-oh
ข้อมูล
สแนร์-โอ(เบ็นมัมมี่)เป็นเอเลี่ยนชนเผ่าเธพ-คูฟาน จากดาวเคราะห์เอเนอร์คูฟอส (มาจากคำว่าคูฟู ในภาษาอียิปต์โบราณ) สแนร์-โอเป็นเอเลี่ยนที่มีรูปร่างคล้ายคลึงกับมัมมี่ ข้อมูลพื้นฐานของเอเลี่ยนชนิดนี้ยังไม่ได้รับการเปิดเผย และเพราะเบ็นมัมมี่เป็นร่างที่เป็นลักษณะของมัมมี่ ร่างกายจึงทำจากผ้าลีนิน จึงสามารถยืดหยุ่นร่างกายได้ และเพราะร่างกายทำมาจากผ้าใยบางบาง จึงฉีกขาดได้ง่ายและน้ำหนักเบามาก
ปรากฏตัวครั้งแรก
เบ็นได้รับร่างนี้เพิ่มเข้ามาและจะใช้งานในตอน Under Wrapsตอนที่เบ็นโดนจับแล้วโดนผ้าของ เบ็นมัมมี่ พันออมนิทริกซ์ แต่ไปใช้จริงในตอน The Returns
จุดเด่น
สามารถยืดทุกส่วนของร่างกายได้ มีรูปร่างคล้ายคลึงกับมัมมี่ ดวงตาทั้ง 2 ข้างมีสีเขียว ถึงร่างกายจะอ่อนแอ แต่สามารถพื้นฟูสภาพร่างกายได้
จุดด้อย
เพระร่างกายทำจากผ้า จึงฉีกขาดได้ง่าย ร่างกายเบามาก จึงถูกโยนหรือถูกลมพัดได้โดยง่าย
อื่นๆ
ชื่อ "เบ็นมัมมี่" จริงๆแล้วเบ็นไม่ได้ตั้งเอง แต่เป็นชื่อที่ทางคนสร้างตั้งขึ้นเพราะไม่มีชื่อให้เรียก แต่ในภาค เบ็นเท็น: ออมนิเวอร์ส ได้มีชื่ออย่างเป็นทางการแล้วคือ "สแนร์-โอ"

แฟรงเก็นสไตร์ค
ชื่อภาษาอังกฤษ
Frankenstrike
ข้อมูล
แฟรงเก็นสไตร์ค(เบ็นวิคเตอร์)เป็นเอเลี่ยนชนเผ่าทรานไซเลี่ยน จากดาวเคราะห์ เอเนอร์ ทรานซี แฟรงเก็นสไตร์คมีรูปร่างคล้ายกับแฟรงเกนสไตน์ เขาสามารถใช้พลังไฟฟ้าได้ แฟรงเก็นสไตร์คได้มาจากดร.วิคเตอร์ ลูกน้องของโกสท์ฟรีคซึ่งได้มาในตอนที่กำลังต่อสู้กับ ดร.วิคเตอร์ แล้วดร.วิคเตอร์เผลอไปโดนออมนิทริกซ์เข้า จึงทำให้ออมนิทริกซ์เก็บDNAของดร.วิคเตอร์ไว้
ปรากฏตัวครั้งแรก
ในตอน Be Afraid of the Dark ตอนที่เบ็นโดน ดร.วิกเตอร์จับทุ่ม
จุดเด่น
ปล่อยกระแสไฟฟ้าออกจากร่างกายแล้วโจมตีใส่คู่ต่อสู้ได้ สามารถเดินอยุ่บนที่ไร้น้ำหนักได้เพราะพลังแม่เหล็กไฟฟ้า ปลั๊กที่อยุ่ด้านหลังสามารถต่อกับอุปกรณ์ได้หลายชนิด เพื่อเพิ่มพลังหรือเปิดประตูวาร์ปไปที่อื่นได้
จุดด้อย
ไม่สามารถต้านพลังลำแสงคอโรเดียมที่เป็นอาวุธของชนเผ่าเอ็กโตนิวไรท์ (โกสต์ฟรีค) ได้ เมื่อใช้พลังไฟฟ้าไปมากจะทำให้ร่างกายอ่อนแรง
อื่นๆ
ชื่อ "เบ็นวิกเตอร์" นั้นก็เหมือนกับกรณของสแนร์-โอ (เบ็นมัมมี่)โดยในภาค เบ็นเท็น: ออมนิเวอร์ส ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "แฟรงเก็นสไตร์ค"

อัพชัค
ชื่อภาษาอังกฤษ
Upchuck
ข้อมูล
อัพชัคเป็นเอเลี่ยนชนเผ่ากรูมานด์ (มาจากคำว่ากรูเม่ ภาษาฝรั่งเศสแปลว่าตะกละ) มาจากดาวเคราะห์เพพโทส IX (Peptos เป็นภาษากรีกแปลว่า การปรุงอาหาร หรือ การย่อยอาหาร) อัพชัคเป็นเอเลี่ยนสีเขียว ตัวเล็ก มีลิ้นที่เหนียวมากๆ 4 ลิ้น และสามารยืดได้ไกลๆ มีปากและท้องที่สามารถขยายได้เมื่อกินของใหญ่กว่าตัวเอง ซึ่งเวลาต่อสู้ต้องกินของอะไรก็ได้เข้าไปแล้วจึงคายออกมาเป็นอาวุธโจมตี อัพชัคในด้านบน คืออัพชัคในเบ็นเท็น ส่วนอัพชัคในด้านล่าง คืออัพชัคในเบ็นเท็น: พลังเอเลี่ยน และเบ็นเท็น: อัลติเมทเอเลี่ยน
ปรากฏตัวครั้งแรก
ในตอน The visitor โดยเซลีนเป็นคนปลดล็อกอัพชัดเพื่อให้เบ็นสู้กับหุ่นดรอยด์เพื่อช่วยแม็กซ์
จุดเด่น
สามารถกินวัตถุได้ทุกชนิด เมื่อกินแล้วสามารถพ่นเป็นสารเคมีได้ มีลิ้น 4 ลิ้น ที่เหนียวมากๆและสามารถยืดได้ไกล ยิ่งเป็นของกินที่ใหญ่หรือเป็นพวกแกนพลังงานเวลาคายออกมาพลังทำลายจะมหาศาลอย่างมาก ตัวเล็ก และมีสีเขียว ในเบ็นเท็น: พลังเอเลี่ยนอัพชักสามารถพ่นสารเคมีออกมาได้โดยไม่ต้องกิน
จุดด้อย
ต้องกินของก่อนปล่อยพลังทำให้เสียเวลา ร่างกายไม่แข็งแกร่ง ไม่สามารถกินอาหารปกติได้

ร่างที่เพิ่มเข้ามาในฤดูกาลที่สี่

ในฤดูกาลที่สี่เบ็นจะได้รับร่างเอเลี่ยนเพิ่มเติมเพราะความบังเอิญและการปลดล็อกเอเลี่ยนเพิ่มเติมเข้ามาได้แก่

• ดิทโต้
• อายกาย
• เวย์บิ๊ก

ดิทโต้
ชื่อภาษาอังกฤษ
Ditto
ข้อมูล
ดิตโต้เป็นชาวดาว Splixson (สปลิกซัน) มาจากดาว Hathor (ฮาเธอร์) ดิปโต้เป็นเอเลี่ยนที่มาจากหลุมดำและกาแล็คซี่ที่มีดาวเคระขาว (ดวงอาทิตย์) ที่แยกร่างกับอัพเกรด และ อัพชัค
ปรากฏตัวครั้งแรก
ในตอน Divided we stand เบ็นตั้งใจจะแปลงร่างเป็นสติงฟลาย แต่กลับได้ร่างนี้มาโดยบังเอิญ
จุดเด่น
สามารถแยกร่างได้ไม่จำกัด มีดวงตาสีเขียวทั้ง 2 ข้าง
จุดด้อย
เมื่อแยกร่างออกไปแล้วมักจะมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน จึงทะเลาะกันเองเป็นประจำ ร่างที่แยกออกไปจะเชื่อมต่อความรู้สึกด้วยกัน เมื่อร่างใหนใหนถูกโจมตี ทุกๆร่างจะรู้สึกเจ็บไปด้วย เมื่อร่างใดร่างหนึ่งถูกจับแยกออกไป เมื่อออมนิทริกซ์หมดเวลา จะไม่สามารถคืนร่างได้ (ในการคืนร่าง ร่างทุกตัวต้องอยู่ครบและรวมตัวกันเท่านั้น) ในการล้มศัตรู จำเป็นต้องแยกร่างเป็นจำนวนมากถึงจะเอาอยู่

อายกาย
ชื่อภาษาอังกฤษ
Eye Guy
ข้อมูล
อายกายเป็นเอเลี่ยนที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับมนุษย์ แต่ว่ามีตาอยู่ทั่วตัว ซึ่งอายกายสามารถใช้ตาทำอะไรได้หลายอย่าง ซึ่งตัวนี้มีตามากถึง 32 ดวงโดยมีส่วนประกอบดังนี้ ตาที่แขนสองข้างรวม 16 ดวง หน้าอก 1 ดวง หลัง 11 ดวง และไหล่ 4 ดวง ซึ่งข้อมูลทั้งหมดยังไม่ได้เปิดเผย
ปรากฏตัวครั้งแรก
ในตอน Ben 10 vs. Negative 10 Part 2 ซึ่งเขาใช้สู้กับเหล่าวายร้าย และ ตอน Secrets of the Omnitrix 2
จุดเด่น
มีดวงตาสีเขียว 32 ดวงอยู่ทั่วตัว สามารถมองเห็นได้ 360 องศา สามารถรวมตาได้ สามารถยิงลำแสงออกจากตาได้ สามารถยิงน้ำแข็งออกจากตาได้
จุดด้อย
ไม่สามารถมองเห็นในที่มืดสนิทได้

เวย์บิ๊ก
ชื่อภาษาอังกฤษ
Waybig
ข้อมูล
เวย์บิ๊กตัวสูง 200 ฟุต สูงจากพื้นดิน 302 ฟุต มีดวงตาสีเหลืองทั้ง 2 ข้าง เป็นเอเลี่ยนที่ตัวใหญ่ที่สุด ในบรรดาเอเลี่ยนทั้งหมด

เอเลี่ยนในอนาคต

ในตอน "Ben 10,000" เบ็นในอนาคตสามารถเปลี่ยนร่างได้ถึง 10,000 แบบ ซึ่งมีบางตัวที่ยังไม่ปรากฏในตอนปัจจุบันได้แก่

• บัซช๊อค (Buzzshock) เอเลี่ยนพันธุ์เดียวกับเมก้าวัตต์ เอเลี่ยนที่ใช้พลังไฟฟ้าที่ปรากฏตัวในตอน Tourist Trap
• สปิตเตอร์(Spitter) เป็นเอเลี่ยนปลาที่มีขาและและไม่ต้องอยู่ในน้ำ สามารถพ่นเมือกสีเขียวออกมา
• อาร์คติคกัวน่า(Articguana) เอเลี่ยนกิ้งก่าที่ตัวเย็น มีลำตัวสีฟ้า ใช้พลังน้ำแข็ง (แรกเริ่มเบ็นผู้ใหญ่จะให้เรียกว่าแอบโซลูทซีโร่ (Absolute Zero)

ในตอน "Ken 10" มีเอเลี่ยนของเค็นที่ถูกเอ่ยถึงแต่ไม่ได้ปรากฏตัว ได้แก่

• เสนคพิท (Snakepit) เป็นเอเลี่ยนรูปร่างคล้ายงู มี 5 หัว
• แซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) เป็นเอเลี่ยนทราย รูปร่างคล้ายอัพเกรด
• เชลล์เฮด (Shellhead) เอเลี่ยนเต่า ยืนได้ มีเล็บสีดำ
• โทพิค (Toepick)
• อะตอมมิกซ์ (Atomix) รอบตัวจะเปล่งแสงสีเขียวออกมา

เอเลี่ยนพิเศษ

ร็อกส์ และ สควิดสตริคเตอร์ (ชื่อภาษาอังกฤษ Rocks และ Squidstrictor) ปรากฏตัวครั้งแรกในการแสดง Ben 10: Power of Ten

• ร็อกส์
• บอร์ก

เอเลี่ยนในเบ็นเท็น: พลังเอเลี่ยน

ในตอน War of the World (1-2) และตอนต่อมาในฤดูหลังจากนั้นได้มีการใช้เอเลี่ยนจากภาคแรก เช่น แคนนอนโบลท์ อัพชัค ไดม่อนเฮด และเวย์บิ๊ก ฯลฯ มาต่อกรกับกองทัพไฮบรีด และใช้ต่อสู้กับเอเลี่ยนตัวอื่นๆ หลังจากนั้น

ร่างพื้นฐาน

• สวอมป์ไฟร์
• เอคโค่เอคโค่
• ฮิวมังกาซอร์
• เจ็ทเรย์
• บิ๊กชิลล์
• โครม่าสโตน
• เบรนสตอร์ม
• สไปเดอร์มังคี้
• กู๊ป
• เอเลี่ยนเอกซ์

สวอมป์ไฟร์ ( Swampfire )

สวอมป์ไฟร์เป็นเอเลี่ยนเผ่าพันธุ์มีทานอเซียน (มาจาคำว่า methane) เป็นเอเลี่ยนตัวแรกในภาคเอเลี่ยนฟอร์ซที่เบ็นเปลี่ยนเป็น

จุดเด่น

• ลักษณะรูปร่างเหมือนคน
• มีร่างกายสีเขียวเพราะทำมาจากโคลน
• แข็งแรง
• ส่วนหัวมีลวดลายเหมือนไฟ
• มีพละกำลังสูงมาก
• สามารถยิงไฟออกจากมือ
• ควบคุมไฟได้
• ปลุกชีพพืชได้
• ยิงโคลนที่ส่งกลิ่นเหม็นได้
• ใช้เท้าเป็นรากต้นไม้สำหรับยืดเกาะได้
• มีเถาวัลย์ในตัวที่ทำให้สามารถยืดและฉีกแขนออกไปใช้ และต่อกลับได้
• ร่างกายไม่ได้รับความเสียหายเพราะทำมาจากโคลน
• ชิ้นส่วนร่างกายที่มีการขาดสามารถต่อได้และสามารถขยายหรือยืดได้
• ควบคุมพืชได้

จุดด้อย

• กลิ่นตัวแรง

ปรากฏตัวครั้งแรก

• Ben 10 Returns

เอคโค่เอคโค่ (Echo echo)

เอ็คโค่ เอ็คโค่เป็นเอเลี่ยนเผ่าพันธุ์โซโนโรเซียนจากดาวเคราะห์โซโนโรเซีย (มาจากคำว่า sonarX)

จุดเด่น

• มีรูปร่างเล็ก

• ลำตัวมีสีขาว

• ร่างกายทำจากซิลิค่อน

• ส่วนหัวมีลักษณะคล้ายสวมหูฟังทำให้ไม่หนวกหูเสียงตัวเอง

• สามารถปล่อยคลื่นเสียงออกมจากปากได้

• มีเสียงดังกว่า 150 เดซิเบล

• มีถุงเก็บเสียงอยู่ข้างหลัง

• มีปากขนาดใหญ่

• สามารถแบ่งร่างได้ (แต่ไม่เชื่อมโยงกันแบบดิตโต้)

• ในการกลับเป็นเบ็น สามารถใช้ร่างที่แบ่งออกไปแล้วกลับเป็นเบ็นได้เหมือนกัน

จุดด้อย

• ค่อนข้างพูดมาก

• ชอบทำให้คนอื่นหนวกหู

• เสียงปกติก็ดังจนเขาเองควบคุมไม่ได้

• ในการกรณีที่ร่างที่แบ่งออกมาแล้วกลับไปเป็นเบ็น นิสัยของร่างที่แบ่งจะไม่เปลี่ยนแปลงจนทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดได้ (มีนิสัยพูดมากเหมือนเดิม)

• ถ้าจะเข้าร่างเดิมทุกตัวต้องอยู่ครบ

ปรากฏตัวครั้งแรกในตอน

Ben 10 Returns

ฮิวมังกาซอร์ (Humangosaur)

ฮิวมังกาซอร์เป็นเอเลี่ยนเผ่าพันธุ์วาซาซอเรียน มาจากดาวเคราะห์เทอร่าดิโน (มาจากคำว่า terra แปลว่าแผ่นดิน และ dino หมายถึงไดโนเสาร์

จุดเด่น

• รูปร่างเหมือนไดโนเสาร์

• มีพละกำลังมหาศาล

• สูง 12 ฟุตและสามารถขยายร่างให้สูงได้ถึง 60 ฟุต

• แข็งแรง

• ดวงตามีสีเขียวทั้ง 2 ข้าง

• มีผิวหนังที่แข็งแรง ทำให้บาดเจ็บได้อยาก

• เมื่อขยายร่างจะมีครีบขึ้นที่หลังเหมือนไดโนเสาร์พันธุ์สเตโกซอรัส และมีหนามที่หาง

จุดด้อย

• ร่างมีขนาดใหญ่มากทำให้ค่อนข้างเชื่องช้าจนโดนโจมตีได้ง่าย

ปรากฏตัวครั้งแรกในตอน

Ben 10 Returns Part 2

เจ็ทเรย์ (Jetray)

เจ็ทเรย์เป็นเอเลี่ยนเผ่าพันธุ์แอโร่ฟิเบียน (มาจากคำว่า aero หมายถึงอากาศ และ amphibian แปลว่าสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก) มาจากดาวเคราะห์แอโร่เพลา

จุดเด่น

• รูปร่างคล้ายคลึงกับปลากระเบน

• ลำตัวสีแดง

• มีพังผืดสีเหลือง

• มีหางสีแดง

• สามารถบินได้เร็วมาก

• ว่ายน้ำได้เร็วกว่าความเร็วเสียงและไม่มีวันจม

• ยิงลำแสงพลาสม่าออกจากตาและจากหางได้
• ขับ BMW
• ชอบแตงโม
• ชอบชาเขียว

จุดด้อย

• รวดเร็วมากจนบางครั้งหยุดไม่ได้
• เกินเยียวยา

ปรากฏตัวครั้งแรกในตอน

Everybody Talks About the Weather

บิ๊กชิลล์ (Big chill)

บิ๊กชิลล์เป็นเอเลี่ยนเผ่าพันธุ์เนโครฟริกเจี้ยน (มาจากคำว่า necro แปลว่าความตาย และ frigid แปลว่าเย็นมาก) จากดาวเคราะห์ไคล์มิสส์ (ภาษาฟินแลนด์แปลว่าความเย็น) ในตอน Save the Last Dance เปิดเผยว่าบิ๊กชิลล์เป็นเอเลี่ยนที่มีสองเพศในตัวเดียว ซึ่งสามารถวางไข่และให้กำเนิดทารกโครฟริกเจี้ยน ซึ่งเมื่อถึงช่วงเวลาวางไข่ซึ่งจะมีทุกๆ 80 ปี บิ๊กชิลล์ได้ครอบงำเบ็นเพื่อสร้างรังสำหรับวางไข่

จุดเด่น

• เป็นเอเลี่ยนรูปแบบแมลง

• มีปีกเหมือนผีเสื้อ โดยปกติ ถ้าไม่ได้บิน ก็จะเก็บปีกไว้เหมือนกับเสื้อคลุม

• ดวงตาทั้ง 2 ข้างมีสีเขียว

• มีสองเพศในตัวเดียว

• ความสามารถหลักๆของบิ๊กชิลล์คือพลังความเย็นที่สามารถแช่แข็งทุกอย่างได้

• มีความสามารถในการเปลี่ยนตัวให้กลายเป็นไอเย็นหลบหลีกการโจมตีได้

ปรากฏตัวครั้งแรกในตอนKevin's Big Score ตอนที่เบ็นไล่ตามเควินที่ขโมยรัสท์บัคเก็ทไป

โครม่าสโตน (Chromastone)

โครมาสโตนเป็นเอเลี่ยนเผ่าพันธุ์คริสตัลซาเปียน (มาจากคำว่า crystal) จากดาวเคราะห์โมโรเทซิ (ภาษาตุรกีของคำว่า อุลตร้าไวโอเล็ต) และในตอน The Secret of Chromastone ยังเปิดเผยอีกด้วยว่าเผ่าพันธุ์ของโครม่าสโตนยังเป็นผู้พิทักษ์คริสตัลอันศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย และยังเผยจุดเด่นอีกอย่างคือร่างนี้สามารถบินได้ ซึ่งเบ็นไม่เคยรู้มาก่อน

จุดเด่น

• ร่างกายทำจากแร่

• มีลำตัวสีม่วง

• ที่มือและแท่งแร่ตรงบริเวณศีรษะ อกและหลังเป็นสีบานเย็น

• มีตาดวงเดียวสีเขียวซึ่งดีต่อการเล็งศัตรู

• สามารถดูดกลืนพลังงานและยิงออกมาได้

• แทบไม่เคยพูดคำว่าเจ็บเพราะอึดมากๆ

• สามารถบินได้

จุดด้อย

• ไม่สามารถจะใช้พลังได้ เมื่ออ่อนแอมาก

ปรากฏตัวครั้งแรกในตอน

All That Glitters

เบรนสตอร์ม (Brainstorm)

เบรนสตอร์มเป็นเอลี่ยนเผ่าพันธุ์เซรีโบรครัสทาเซียน (มาจากคำว่า cerebrum หมายถึงสมองใหญ่ กับ crustacean หมายถึงสิ่งมีชีวิตประเภทปู) มาจากดาวเคราะห์เอนเซฟาโลนัส IV (เป็นการเล่นคำ encephal- ซึ่งเป็นคำที่มักใช้ประสบคำสำหรับชื่อส่วนต่างๆในสมองและเป็นเอเลี่ยนตัวแรกในเรื่องที่เบ็นแปลงร่างผิด)

จุดเด่น

• รูปร่างลักษณะปู

• มีก้ามใหญ่ใช้แทนมือ

• ฉลาดและเป็นอัจฉริยะ

• มี 6 ขา

• มีดวงตาที่เป็นสีเขียวทั้ง 2 ข้าง

• มีความสามารถในการใช้กระแสไฟฟ้าจากสมองเมื่อเปิดกะโหลกส่วนหน้าออก

• ใช้คลื่นสมองสร้างเกราะป้องกันได้

จุดด้อย

• พูดมากจนน่ารำคาญ และมักจะใช้วาจาสำบัดสำนวน

• ร่างกายเป็นปูจึงเคลื่อนที่ช้า

ปรากฏตัวครั้งแรกในตอน

Pier Pressure

สไปเดอร์มังคี้ (Spidermonkey)

สไปเดอร์มังคี้เป็นเอเลี่ยนเผ่าพันธุ์อารัคนิคชิมป์ (มาจากคำว่าarachnid หมายถึงแมงมุม และ chipmpanzee จากดาวเคราะห์อารันฮัสซิมเมีย (มาจากคำว่าว่า aranha ภาษาสเปนของคำว่าแมงมุม และ scimmia ภาษาอิตาลีของคำว่าลิง

จุดเด่น

• มีรูปร่างเหมือนลิง

• เกาะกำแพงได้

• มี 4 แขน 2 ขามี 4 ตาเหมือนแมงมุม

• มือทั้งสี่และเท้าทั้งสองมี 3 นิ้ว

• มีความรวดเร็วและคล่องตัว

• สามารถยิงใยออกจากหาง

จุดด้อย

• มีบุคลิกภาพเหมือนกับเด็ก

ปรากฏตัวครั้งแรกในตอน

What Are Little Girls Made Of?

กู๊ป (Goop)

กู๊ปเป็นเอเลี่ยนเผ่าพันธุ์โพลี่มอร์ฟ (แปลว่า หลายรูปร่าง) จากดาวเคราะห์วิสคอเซีย (มาจากคำว่า viscous แปลว่า แรงหนืด)

จุดเด่น

• ร่างกายเป็นของเหลวข้นสีเขียวและเป็นกรด

• เปลี่ยนแปลงรูปร่างได้

• มียานตัดแรงโน้มเล็กๆคอยควบคุมร่าง (ซึ่งเสียงเบ็นมาจากยานนั้น)

• ร่างกายมีความยืดหยุ่น จึงสามารถยืดร่างกายไปจับศัตรูได้

• ร่างกายเหนียว จึงสามารถรัดจับศัตรูได้ไม่หลุด

• กู๊ปนั้นสามารถเปลี่ยนรูปร่างเป็นอะไรก็ได้

จุดด้อย

• ถ้ายานตัดแรงโน้มถ่วงไม่อยู่ใกล้ร่างกายหรือถูกปิด ร่างกายนั้นก็จะกลายเป็นของเหลวที่ขยับเขยื้อนไม่ได้

ปรากฏตัวครั้งแรกในตอน

The Gauntlet

เอเลี่ยนเอกซ์ (Alien X)

เอเลี่ยนเอกซ์ เป็นเผ่าพันธุ์เซเลสเทียลซาเปียน (มาจากคำว่า celestial หมายถึงเหนือมนุษย์ กับคำว่า sapien หมายถึง ฉลาด ในภาษาละติน) มาจากด้านนอกของจักรวาล เอเลี่ยนเอกซ์ มีบุคลิกภาพแยก 3 ส่วน ในกรกระทำสิ่งต่างๆนั้น เอเลี่ยน X ต้องได้รับการอนุมัติจากบุคลิกภาพทั้ง 3 ได้แก่ เซเรน่า ตัวแทนของความรักและมิตรภาพ, เบลลิคัส ตัวแทนของความโกรธและความเกลียดชัง และ เบ็น ตัวแทนของเหตุผล และมีพลังเหมือนเลข 0

จุดเด่น

• เป็นเอเลี่ยนที่ทรงพลังมากที่สุดในจักรวาล

• แข็งแรง

• หยั่งรู้อนาคต(ถ้าแปลตรงตัว จะแปลว่า นึกก่อนจะเห็นความจริง)

• ร่างกายมีสีดำและมีลายเป็นดวงดาวเล็กๆทั่วตัว (เหมือนอวกาศ)

• ตาสีเขียว และเขาสามเขา

• สามารถแก้ไขทุกอย่างของจักรวาลได้ (เช่น ทำให้ไดโนเสาร์ยังอยู่ได้)

• สามารถหยุดเวลาและย้อนเวลาได้(เฉพาะบางส่วน)

จุดด้อย

• แปลงแล้วไม่คุ้มเพราะถ้าถกประเด็นกันกับทั้งคู่อยู่จะขยับไม่ได้

• ถ้าถกประเด็นกันไม่สำเร็จก็จะไม่สามารถคืนร่างได้

ปรากฏตัวครั้งแรกในตอน

X = Ben + 2

เอเลี่ยนตัวใหม่

• โลดส์สตาร์
• แร็บ
• นาโนเมท

นอกจากนี้ยังมีเอเลี่ยนตัวเก่า ๆ เช่น แคนนอนโบลท์ ไดมอนเฮด เวย์บิ๊ก และอัพชัค

โลดส์สตาร์ ( Lodestar )

เป็นเอเลี่ยนชาวไบโอเซอโวเชียน แต่ไม่รู้ดาวที่อยู่ของมัน

จุดเด่น

• ควบคุมสนามแม่เหล็กได้
• มีดวงตาสีเขียวทั้ง 2 ข้าง

• ปล่อยพลังสนามแม่เหล็กป้องกันตัวเอง

• สามารถทำให้เหล็ก กลายเป็นหุ่นยนต์

• ต่อให้ร่างกายสลายไป ก็สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ ด้วยหลักการแม่เหล็ก

• บินได้

จุดด้อย

• ควบคุมได้แต่เหล็กเท่านั้น

ปรากฏตัวครั้งแรกในตอน

Simple

แร็ท (RATH)

เป็นเอเลี่ยนสายพันธุ์แอพพอเพล็กเซี่ยน (มาจาก แอพโพเพล็กซี่ แปลว่า ส่วนหนึ่งของสมองที่ทำงานเกี่ยวกับความโกรธ) มาจากดาวแอพพอเพล็กเซียน สิ่งที่สามารถทำร้ายแร็ทได้ถึงตายคือคลื่นเสียงความถี่

จุดเด่น

• มีพลังเยอะ
• รูปร่างคล้ายเสือ
• แข็งแรง
• ชอบเรียกชื่อจริง และนามสกุล แทนชื่อเล่นธรรมดา

จุดด้อย

• โง่

• ชอบใช้กำลังตัดสินปัญหา

• ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เวลาโกรธเวลาที่เบ็นกลายร่างนี้มักจะชอบทำลายข้าวของ

• พูดมาก (แต่น้อยกว่าเบรนสตอร์ม)
• อาจโดนสะกดจิตได้เพราะมีลักษณะคล้ายแมว(ในเรื่องBen 10 omniverse ตอนที่ 51)

ปรากฏตัวครั้งแรกในตอน

The Con of Rath

นาโนเมท

ความไวคือจุดด้อย

• ขนาดสามารถเป็นปัญหาหากการต่อสู้ฝ่ายตรงข้ามที่มีขนาดใหญ่

ดูเพิ่ม

• อัลติเมทริกซ์

อ้างอิงผิดพลาด: มีป้ายระบุ <ref> สำหรับกลุ่มชื่อ "แหล่งอ้างอิง" แต่ไม่พบป้ายระบุ <references group="แหล่งอ้างอิง"/> ที่สอดคล้องกัน หรือไม่มีการปิด </ref>