กองพลทหารราบที่ 5
กองพลทหารราบที่ 5 (อักษรย่อ: พล.ร.๕.) เป็นกองพลทหารราบของกองทัพบกไทย ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพภาคที่ 4 หน่วยนี้ประกอบด้วยกรมทหารราบที่ 5, กรมทหารราบที่ 15 และกรมทหารราบที่ 25
กองพลทหารราบที่ 5 | |
---|---|
เครื่องหมายหน่วย | |
ประเทศ | ไทย |
รูปแบบ | ทหารราบ |
บทบาท | ทหารราบ |
กำลังรบ | กองพลทหารราบ |
กองบัญชาการ | ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ประเทศไทย |
ปฏิบัติการ สำคัญ | สงครามโลกครั้งที่สอง
|
ประวัติ
ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง ที่จะเกิดขึ้นในญี่ปุ่น ที่ตอนนั้นเป็นมหาอำนาจในเอเชีย ทรัพยากรของพันธมิตรเป็นวัตถุดิบในการขยายอำนาจทางทหาร รัฐบาลซึ่งนำโดยจอมพล แปลก พิบูลสงคราม ผู้เป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย เห็นว่าพื้นที่ทางภาคใต้ใกล้อันตราย และไม่มีหน่วยทหารที่จะปกป้องอธิปไตย จอมพล ผิน ชุณหะวัณ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารบกไทยในขณะนั้น ได้ขอขยายหน่วยทหารราบและกองพันทหารปืนใหญ่ในภาคใต้ของประเทศไทย โดยพิจารณาการตั้งหน่วยจากเหนือจรดใต้ตามยุทธศาสตร์ ได้แก่
- กองพันทหารราบที่ 38 ในจังหวัดชุมพร
- กองพันทหารราบที่ 39 ในจังหวัดนครศรีธรรมราช
- กองพันทหารราบที่ 40 ในจังหวัดตรัง
- กองพันทหารราบที่ 41 ในจังหวัดสงขลา
- กองพันทหารราบที่ 42 ในจังหวัดปัตตานี
- กองพันปืนใหญ่ที่ 13 ในจังหวัดสงขลา
สงครามฝรั่งเศส-ไทย (พ.ศ. 2483–2484)
นายกรัฐมนตรีอนุมัติให้มีการจัดตั้งหน่วยทหารหลักแห่งแรกแยกออกจากกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 จังหวัดเพชรบุรี เดินทางไปยังสถานที่ปฏิบัติงานที่ค่ายคอหงส์ (ค่ายเสนาณรงค์) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2482 และปีต่อ ๆ ไป ครั้นปี พ.ศ. 2484 ที่สงครามฝรั่งเศส-ไทย กองทัพได้สั่งกองพันในภาคใต้ให้เป็นหน่วยสำรอง ในภาคตะวันออก, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ จนกระทั่งสิ้นสุดภารกิจกลับมา
การบุกครองไทยของญี่ปุ่น (พ.ศ. 2484)
ในปี พ.ศ. 2484 เมื่อสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นถูกไทยโจมตีขณะไปยังพม่าและมาเลเซียเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2484 โดยกองทหารขึ้นฝั่งทางฝั่งตะวันออกของจังหวัดต่าง ๆ ได้แก่ นครศรีธรรมราช, สงขลา และปัตตานี ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก การต่อต้านของไทยได้เกิดวีรกรรมของทหารที่เสียชีวิตในสนามรบ และได้สร้างอนุสาวรีย์ให้แก่วีรบุรุษเหล่านั้น เช่น เจ้าพ่อจ่าดำ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช, ขุนอิงคยุทธบริหาร ที่จังหวัดปัตตานี และขุนนันทเสนีย์ เสนาณรงค์ ที่จังหวัดสงขลา ฯลฯ จากการทำศึกในครั้งดังกล่าว ญี่ปุ่นไม่ประสบความสำเร็จในการยกพลขึ้นบก และไทยป้องกันญี่ปุ่นบุกพม่า และมาเลเซีย
ประเทศไทยมีทหารที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีจำนวน 26,500 นาย พร้อมกับกองกำลังสำรองซึ่งทำให้กองทัพมีจำนวนมากถึง 50,000 นาย
กองทัพบกไทยเริ่มจัดตั้งหน่วยทหารใหม่ในคาบสมุทรกระรวมถึง:
- เทศบาลเมืองชุมพร
- กองพันทหารราบที่ 38 ประจำการที่บ้านนาเนียน ตำบลวังใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร (9 กม. จากศาลากลางจังหวัด)
- เทศบาลนครนครศรีธรรมราช
- กองพันทหารราบที่ 39 ประจำการที่ตำบลปากพูน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
- กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 15 ประจำการอยู่ที่ตำบลปากพูน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
- กองบัญชาการกองพลที่หก ที่ตำบลปากพูน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
- เทศบาลนครตรัง
- กองพันทหารราบที่ 40
- เทศบาลนครสงขลา
- กองพันทหารราบที่ 5 ประจำการที่ตำบลเขาค้อหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งโอนย้ายจากบางซื่อมาที่หาดใหญ่โดยรถไฟทหารเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2483 โดยเป็นหน่วยแรกที่กรีธาทัพสู่ทางใต้
- กองพันทหารราบที่ 41 ประจำการที่สวนตูล ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
- กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 13 ประจำการที่สวนตูล ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
- จังหวัดปัตตานี
- กองพันทหารราบที่ 42 ประจำการที่ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี
วิกฤตการณ์มาลายา (พ.ศ. 2491–2503)
ในปี พ.ศ. 2492 ประเทศไทยและมาเลเซียร่วมปฏิบัติการต่อสู้กองโจรคอมมิวนิสต์มาลายา ในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา
การก่อการกำเริบคอมมิวนิสต์ในประเทศมาเลเซีย และการก่อการกำเริบคอมมิวนิสต์ในประเทศไทย (พ.ศ. 2508–2532)
ในปี พ.ศ. 2508 ยุคคอมมิวนิสต์ภายใต้การนำของจีนมีอิทธิพลอย่างกว้างขวางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยเป็นเป้าหมายสำคัญในฐานะทฤษฎีโดมิโน ในขณะที่กองทัพบกไทยมีการวิเคราะห์ภัยคุกคามถลำลึกของประเทศไทย 1–2 ทศวรรษ ในกรณีคัดค้านกองทหารต่างชาติ ที่อาจยกทัพไปตามชายฝั่ง จึงมีการขยายหน่วยทหารในภาคใต้ของประเทศไทย อันเป็นหน่วยระดับกองพล และในวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2518 กองพลทหารราบที่ 5 ได้จัดตั้งขึ้น เพื่อควบคุมหน่วยสองกรมผสม ครั้งแรกในอำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งต่อมาได้ย้ายกองบัญชาการกองพลไปยังค่ายเสนาณรงค์ อำเภอหาดใหญ่ เพื่อปราบปรามโจรคอมมิวนิสต์มลายาเป็นเวลาสี่ปี โดยประเทศไทยได้สูญเสียกองทัพและยุทโธปกรณ์เป็นจำนวนมาก กระทั่งวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2522 ก็ได้ย้ายกองบัญชาการกองพลไปยังค่ายเทพสตรีศรีสุนทร อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช จวบจนปัจจุบัน
องค์กร
กองบัญชาการกองพลทหารราบที่ 5
- กองพลทหารราบที่ 5
- กรมทหารราบที่ 5
- กองพันทหารราบที่ 1
- กองพันทหารราบที่ 2
- กองพันทหารราบที่ 3
- กรมทหารราบที่ 15
- กองพันทหารราบที่ 1
- กองพันทหารราบที่ 2
- กองพันทหารราบที่ 4
- กรมทหารราบที่ 25
- กองพันทหารราบที่ 1
- กองพันทหารราบที่ 2
- กองพันทหารราบที่ 3
- กรมทหารปืนใหญ่ที่ 5
- กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 5
- กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 15
- กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 25
- กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 105
- กองพันทหารม้าที่ 16
- กองพันทหารช่างที่ 5
- กองพันทหารสื่อสารที่ 5
- กองพันเสนารักษ์ที่ 5
- กรมทหารราบที่ 5
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- ↑ 45 ปี กองพลทหารราบที่ 5 จาก …ปราบปรามคอมมิวนิสต์มาลายา สู่...ความมั่นคง ด้ามขวานยัน ปัญหาชายแดนใต้
- ↑ กรมทหารราบที่ 5 จัดทำโครงการ “คนไทยไม่ทิ้งกัน” - กองทัพบก
- ↑ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 เยี่ยมการฝึกทหารใหม่ พร้อมกำชับครูฝึกห้ามใช้ความรุนแรง
- ↑ ผบ.พล.ร.5 ยันไร้ 'โรฮีนจา' หลบหนีเข้าไทย
- ↑ ประวัติและความเป็นมา - กองพลทหารราบที่ 5
- "สงครามมหาเอเซียบูรพา – ก่อนจะถึงวันวีรไทย". samphan. I See History dot com. September 2009. สืบค้นเมื่อ 8 August 2010.
- Chin Peng, pp.479–80
- NIE report
- กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 105 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 5 ราชาแห่งสนามรบ
- สุดฮือฮา!! ทหารหนุ่มแห่ขันหมาก 99 ขันแต่งเมีย - สยามรัฐ
- กองพันทหารช่างที่ 5 จัดพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง
- กองทัพภาพที่ 4 ส่งทหารกองพันทหารสื่อสารที่ 5 ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ประกาศเขตภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) ในพื้นที่ 4 อำเภอ
- ผบ.พล.ร.5 สั่งเบิกตัว 'จ่าจำปา' ไปเยี่ยมแม่ที่ตรังแล้ว - Thai Post
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์ทางการ
- กองพลทหารราบที่ 5 ที่เฟซบุ๊ก