ไฮอะซินท์
ไฮอะซินท์ | |
---|---|
Hyacinthus orientalis | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Plantae |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Angiosperms |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Monocots |
อันดับ: | Asparagales |
วงศ์: | Asparagaceae |
วงศ์ย่อย: | Scilloideae |
สกุล: | Hyacinthus Tourn. ex. L. |
Species | |
Hyacinthus litwinowii |
ไฮอะซินท์ (อังกฤษ: hyacinth) หรือ ไฮอะซินทัส (อังกฤษ: hyacinthus) เป็นพืชในสกุลพืชมีหัวขนาดเล็ก เป็นพืชหลายปีออกดอกในฤดูใบไม้ผลิ เป็นพืชดอกมีกลิ่นหอมที่อยู่ในวงศ์หน่อไม้ฝรั่ง วงศ์ย่อย Scilloideae พืชสกุลนี้มีต้นกำเนิดบริเวณทางตะวันออกของบริเวณเมดิเตอร์เรเนียน จากทางเหนือของประเทศบัลแกเรียไปจนถึงตอนเหนือของภูมิภาคปาเลสไตน์
พวกคลัสเตอร์ลิลลี่, สคิลลา และพืชอื่น ๆ หลายชนิดที่แต่เดิมเคยถูกจัดอยู่ในวงศ์ลิลลี่ และมีดอกเป็นกลุ่มอยู่ตามก้านช่อดอกโดดยังถูกเรียกรวม ๆ ว่า "ไฮอะซินท์" ด้วย โดยไม่ควรสับสนพืชสกุลนี้กับสกุลมัสคารีหรือไฮอะซินท์พวงองุ่น
คำอธิบาย
ไฮอะซินท์เจริญขึ้นจากหัว แต่ละหัวจะสร้างใบหอกสี่ถึงหกใบและช่อเชิงลด (spike) หรือช่อกระจะ (raceme) ของดอกหนึ่งถึงสามช่อ ในสปีชีส์ไฮอะซินท์ป่า ดอกจะมีระยะห่างอย่างกว้างอย่างน้อยหนึ่งถึงสองดอกต่อช่อกระจะใน Hyacinthus litwinowii และหกถึงแปดดอกใน Hyacinthus orientalis ซึ่งมีความสูงได้ 15–20 ซม. (6–8 นิ้ว) ส่วน H. orientalis พันธุ์ปลูก จะมีความหนาแน่นของช่อเชิงลดดอกน้อยกว่าและโดยทั่วไปแล้วจะทนทานกว่า
อนุกรมวิธาน
ชื่อสกุล Hyacinthus น่าจะมาจากโฌเซฟ ปิตตง เดอ ตูร์เนอฟอร์ตซึ่งถูกนำมาใช้โดยคาโรลัส ลินเนียสในปี ค.ศ. 1753 โดยชื่อมาจาก ὑάκινθος (hyákinthos, ฮากินโทส) ชื่อพืชในภาษากรีกโดยโฮเมอร์ ซึ่งเป็นดอกไม้ที่คาดว่าน่าจะขึ้นจากเลือดของเด็กหนุ่มในชื่อเดียวกันนี้ เนื่องจากถูกเทพเซไฟร์สังหาร โดยพืชป่าแต่เดิมที่รู้จักในชื่อฮากินโทสของโฮเมอร์นั้น คือ Scilla bifolia ท่ามกลางพืชที่เป็นไปได้อื่น ๆ ลินเนียสนิยามว่าสกุล Hyacinthus นั้นประกอบด้วยสปีชีส์ที่ปัจจุบันนี้อยู่ในสกุลของวงศ์ย่อย Scilloideae เช่น Muscari (เช่น Hyacinthus botryoides) และ Hyacinthoides (เช่น Hyacinthus non-scriptus)
Hyacinthus แต่เดิมถูกแยกไปเป็นสกุลของวงศ์ Hyacinthaceae ก่อนที่ภายหลังจะถูกจัดเข้าไปไว้ในวงศ์ลิลลี่
สปีชีส์
สกุลไฮอะซินท์ประกอบด้วยสามสปีขีส์:
- Hyacinthus litwinovii
- Hyacinthus orientalis - ไฮอะซินท์ดัตช์หรือไฮอะซินท์สวน
- Hyacinthus transcaspicus
หน่วยงานบางแห่งยังจัดให้ H. litwonovii และ H. transcaspicus อยู่ในสกุล Hyacinthella ด้วย ซึ่งจะทำให้ไฮอะซินท์กลายเป็นสกุลมีชนิดเดียว (monotypic)
การกระจาย
สกุลไฮอะซินท์มีที่มาอยู่ในบริเวณเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก ประกอบด้วย ประเทศตุรกี ประเทศเติร์กเมนิสถาน ประเทศอิหร่าน ประเทศอิรัก ประเทศเลบานอน และประเทศอิสราเอล นอกจากนี้ยังมีการนำไปปลูกตามธรรมชาติอย่างกว้างขวางในพื้นที่อื่น ๆ ได้แก่ ทวีปยุโรป (ประเทศเนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส ซาร์ดิเนีย อิตาลี ซิซิลี โครเอเชีย เซอร์เปีย มอนเตเนโกร บัลแกเรีย นอร์ทมาซีโดเนีย แอลเบเนีย กรีซ และไซปรัส), ประเทศเกาหลี, ทวีปอเมริกาเหนือ (สหรัฐและแคนาดา) และตอนกลางของประเทศเม็กซิโก คิวบา และเฮติ
การเพาะปลูก
ไฮอะซินท์ดัตช์หรือไฮอะซินท์บ้าน (H. orientalis มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้) เป็นที่นิยมในศตวรรษที่ 18 โดยมีการนำไปปลูกในประเทศเนเธอร์แลนด์มากกว่า 2,000 พันธุ์ปลูกเพื่อการค้าขายเชิงพาณิชย์ ไฮอะซินท์นี้มีดอกที่มีกลิ่นหอมที่มีช่อเชิงลดหนาแน่น ตัวดอกมีสีแดง น้ำเงิน ขาว ส้ม ชมพู ม่วง หรือเหลือง รูปแบบที่พบได้ทั่วไป คือ ไฮอะซินท์ที่มีความทนน้อยกว่า ดอกสีน้ำเงินที่มีขนาดเล็กกว่าหรือมีกลีบดอกสีขาว คือ ไฮอะซินท์โรมัน (Roman hyacinth) ไม้ดอกพวกนี้ต้องการแสงทางอ้อมและควรรดน้ำในระดับปานกลาง
ความเป็นพิษ
หัวไฮอะซินท์มีพิษ ซึ่งส่วนหัวนั้นประกอบด้วยกรดออกซาลิก การสัมผัสหัวไฮอะซินท์ด้วยมือนั้นอาจทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนังเล็กน้อย จึงแนะนำให้สวมถุงมือเพื่อป้องกัน
พืชบางชนิดในวงศ์ย่อย Scilloideae ซึ่งโดยทั่วไปเรียกว่า ไฮอะซินท์ แต่ไม่ได้เป็นสมาชิกของสกุลไฮอะซินท์ นั้นกินได้ เช่น ไฮอะซินท์พู่ (Leopoldia comosa) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาหารในบางประเทศแถบเมดิเตอร์เรเนียน
วัฒนธรรม
ไฮอะซินท์มักเกี่ยวข้องกับฤดูใบไม้ผลิและการเกิดใหม่ ดอกไฮอะซินท์ถูกใช้ในการจัดโต๊ะฮาร์ฟชินเพื่อเฉลิมฉลองปีใหม่ของชาวเปอร์เซีย หรือ วันโนวรุซซึ่งจัดขึ้นในวิษุวัตช่วงเดือนมีนาคม โดยในภาษาเปอร์เซียเรียกไฮอะซินท์ว่า سنبل (ซันบัล)
ในธรรมเนียมของโรมันคาทอลิก ไฮอะซินท์บ้านแสดงถึงความรอบคอบ ความมั่นคง และความปรารถนาของสวรรค์ และความสงบของจิตใจ และยังเป็นเรื่องราวของไฮอะซินทัส ผู้ซึ่งมีดอกไม้ผลิออกมาหลังความตายด้วย ตำนานกรีก วันหนึ่งอะพอลโลโดนลงโทษตากซุสให้ไปรับใช้บนโลกมนุษย์เป็นเวลา 1 ปี ในวันนั้น อะพอลโล ได้พบเห็นเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารัก เป็นเจ้าชายแห่งสปาต้า มีนามว่า ไฮยาซินทัส มีข่าวลือในเมืองสปาต้าว่าไฮยาซินทัสมีหน้าตาเหมือนกุลสตรีหญิงแก่ก็เลยตกหลุมรัก แต่มีเทพอีกองค์นึงมีนามว่าเซฟีรัสอยู่ด้วย แต่เขากับอิจฉาเพราะว่า เด็กหนุ่มคนนี้นั้นได้เล่นกับอะพอลโลเล่นในช่วงนั้นที่อะพอลโลได้สอนต่างๆ จนมาถึงการสอนกีฬาคือการขว้างจาน แต่ไฮยาซินทัสทำได้ดีมาก จนเขาเกิดความโกรธและเขาก็เลยต้องเป่าลมใส่ เลือกกำจัด อะพอลโล แต่บังเอิญไปโดนไฮยาซินทัส จนหัวคว่ำกับหินบาดเจ็บสาหัส แต่อะพอลโลจะพยายามช่วยแล้วแต่ไม่มีผลเพราะว่าไฮยาซินทัสได้สิ้นใจตาย และอะพอลโล เสียใจและน้ำตาของเขาจึงหยดออกมา เป็นดอกไม้ที่สวยงาม มีทั้งสีม่วง สีน้ำเงินม่วง และ สีแดง นี่คือตำนานดอกไม้ไฮยาซินเป็นอนุสรณ์แก่ความรักของ อะพอลโล และ ไฮยาซินทัส มาจนถึงทุกวันนี้
ระเบียบภาพ
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: ไฮอะซินท์ |
ไฮอะซินท์พันธุ์ปลูกในเทศกาลฟลอริเอดที่แคนเบอร์รา
ไฮอะซินท์พันธุ์ปลูกในเทศกาลฟลอริเอดที่แคนเบอร์รา
ไฮอะซินท์พันธุ์ปลูกสีขาวและสีม่วงในดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน
สี
สีของดอกไฮอะซินท์สีน้ำเงินนั้นหลากหลายกันไปตั้งแต่ "น้ำเงินกลาง" สีคราม และสีม่วงน้ำเงิน ในช่วงสีนี้สามารถพบสี Persenche ได้ ซึ่งเป็นชื่อสี hyacinth hue ของอเมริกา การวิเคราะห์ของสี Persenche นี้ คือ สีกรมท่า 73% สีแดง 9% และสีขาว 18%
อ้างอิง
- https://homeguides.sfgate.com/hyacinths-perennials-63933.html
- https://www.gardenguides.com/12446829-are-hyacinths-perennials.html
- Stevens, P.F. "Angiosperm Phylogeny Website: Asparagales: Scilloideae". Mobot.org. สืบค้นเมื่อ 7 November 2017.
- ↑ "Hyacinthus". World Checklist of Selected Plant Families. Royal Botanic Gardens, Kew. สืบค้นเมื่อ 2016-10-28.
- Beckett, K., บ.ก. (1993), Encyclopaedia of Alpines : Volume 1 (A–K), Pershore, UK: AGS Publications, ISBN 978-0-900048-61-6 pp. 656–657.
- Hyam, R.; Pankhurst, R.J. (1995), Plants and their names : a concise dictionary, Oxford: Oxford University Press, ISBN 978-0-19-866189-4 Unknown parameter
|name-list-style=
ignored (help) - Lindsell, Alice, Was Theocritus a botanist? in Raven, John E. (2000), Plants and Plant Lore in Ancient Greece, Oxford: Leopard's Head Press, ISBN 978-0-904920-40-6, p. 68
- "Hyacinthus botryoides", World Checklist of Selected Plant Families, Royal Botanic Gardens, Kew, สืบค้นเมื่อ 2013-03-20
- "Hyacinthus non-scriptus", World Checklist of Selected Plant Families, Royal Botanic Gardens, Kew, สืบค้นเมื่อ 2013-03-20
- Hyacinthaceae, Tolweb.org, สืบค้นเมื่อ 2011-03-20
- World Checklist of Selected Plant Families, The Board of Trustees of the Royal Botanic Gardens, Kew, สืบค้นเมื่อ 2011-10-07, search for "Hyacinthus" and its species
- , North Carolina State University Horticulture Information, คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2013-04-04, สืบค้นเมื่อ 2013-03-20
- "Signs and Symbols". catholictradition.org. สืบค้นเมื่อ 2019-01-22.
- Mathew, Brian (1987), The Smaller Bulbs, London: B.T. Batsford, ISBN 978-0-7134-4922-8
- . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2015-09-17. สืบค้นเมื่อ 2015-09-24.
- Funk & Wagnell's New Standard Dictionary (1942), under spectrum color list.
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ ไฮอะซินท์