สามารถ พยัคฆ์อรุณ
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
สามารถ พยัคฆ์อรุณ แชมป์โลกมวยสากลอาชีพคนที่ 10 ของไทย และอดีตยอดนักมวยไทยชื่อดัง
สามารถ พยัคฆ์อรุณ | |
---|---|
ชื่อจริง | สามารถ ทิพย์ท่าไม้ (เดิม) สามารถ ภพธีรธรรม |
ฉายา | เพชฌฆาตหน้าหยก |
รุ่น | พินเวท (มวยไทย) ไลท์ฟลายเวท (มวยไทย) ซูเปอร์แบนตัมเวท เฟเธอร์เวท |
เกิด | 5 ธันวาคม พ.ศ. 2505 (58 ปี) จังหวัดฉะเชิงเทรา ประเทศไทย |
ชกทั้งหมด | 23 (เฉพาะมวยสากล) |
ชนะ | 21 |
ชนะน็อก | 12 |
แพ้ | 2 ( แพ้น็อก 2 ) |
ประวัติ
สามารถ มีชื่อจริงว่า สามารถ ทิพย์ท่าไม้ เกิดเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2505 ที่ตำบลคลองเขต (ปัจจุบันอยู่ในตำบลท่าข้าม) อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นบุตรของนายสมนึก กับนางเมค ทิพย์ท่าไม้ เริ่มหัดมวยไทยตั้งแต่อายุ 11 ขวบ โดยใช้ชื่อว่า "สามารถ ลูกคลองเขต"
โดยสามารถมีพี่ชายแท้ ๆ ซึ่งเป็นอดีตนักมวยไทยชื่อดังด้วยคือ ก้องธรณี พยัคฆ์อรุณ ก้องธรณีเคยชกมวยสากลเหมือนสามารถ ได้มีโอกาสชิงแชมป์โลกถึง 2 ครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ โดยครั้งที่ 2 ได้ชิงแชมป์กับแชมป์โลกชาวไทยด้วยกันเองคือ เขาทราย แกแล็คซี่
มวยไทย
สามารถชกมวยไทยครั้งแรกที่จังหวัดชลบุรีเมื่อ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2517 ชนะคะแนนเพชรอรุณ ศิษย์นิมิต จากนั้นตระเวนชกในแถบจังหวัดภาคตะวันออกถึงร้อยกว่าครั้ง จึงได้เดินทางมาชกในกรุงเทพฯ ในปี พ.ศ. 2522 ที่สนามมวยเวทีลุมพินี โดยอยู่ในการดูแลของโปรโมเตอร์ชื่อดัง ทรงชัย รัตนสุบรรณ
สามารถถือเป็นนักมวยชั้นเชิงแพรวพราว สายตาดี ชกได้สนุก ชนะใจคนดู และประสบความสำเร็จอย่างมากในการชกมวยไทย โดยได้แชมป์ของสนามมวยเวทีลุมพินีถึง 4 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ รุ่นพินเวท (105 ปอนด์) ชนะคะแนนก้องสมุทร ชูวัฒนะเมื่อ 14 มีนาคม พ.ศ. 2523 รุ่นจูเนียร์ฟลายเวท (108 ปอนด์) ชนะคะแนนพูนลาภ ศักดิ์นิรันดร์ เมื่อ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2523 รุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวท (115 ปอนด์) ชนะคะแนน สิงห์ทอง ประสพชัย เมื่อ 31 มีนาคม พ.ศ. 2524 และรุ่นเฟเธอร์เวท (126 ปอนด์) ชนะคะแนน สมิงหนุ่ม สิทธิบุญธรรม เมื่อ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2524
มวยสากลอาชีพ
สามารถ พยัคฆ์อรุณ เริ่มหันมาชกมวยสากลอาชีพโดยได้รับการสนับสนุนจากบุคคลหลายฝ่าย เช่น ทรงชัย รัตนสุบรรณ ผู้จัดการและโปรโมเตอร์ สหสมภพ ศรีสมวงศ์ และสุชาติ เกิดเมฆ สามารถชกมวยสากลครั้งแรกเมื่อ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2526 ชนะคะแนน เนตรน้อย ศ.วรสิงห์ จากนั้น ชกชนะน็อคอีก 9 ครั้ง โดยชนะนักมวยฝีมือดีหลายคนเช่น ช่อ ห้าพลัง ทองเบิ้ม ลูกมาตุลี จากนั้นจึงได้ชิงแชมป์โลกครั้งแรกของสภามวยโลก (WBC) ในรุ่นซูเปอร์แบนตัมเวท (122 ปอนด์) กับมักมวยชาวเม็กซิกัน กัวดาลูเป ปินตอร์ ผลการชก สามารถชนะน็อกแชมป์โลกไปได้ในยกที่ 5 กลายเป็นแชมป์โลกคนที่ 10 ของไทย
หลังจากได้แชมป์โลกแล้ว สามารถไปชกนอกรอบที่ฝรั่งเศส เมื่อ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2529 ชนะคะแนน ราฟาเอล กันดาริลญา จากนั้นจึงชกป้องกันตำแหน่งอีกครั้ง ป้องกันตำแหน่งกับ ฆวน คิด เมซา นักมวยชาวเม็กซิกัน ซึ่งเป็นอดีตแชมป์โลกรุ่นนี้ ผลปรากฏว่า สามารถก็เอาชนะทีเคโอไปในยกที่ 12 การชกกับฆวน คิด เมซา ได้รับการกล่าวขานถึงเป็นอย่างมาก เพราะสามารถพิงเชือกโยกหลบหมัดของผู้ท้าชิงด้วยสายตาอันว่องไวนับสิบ ๆ หมัด (ประมาณกันว่า 20 หมัด) และชกสวนหมัดตรงเข้าปลายคางไปเพียงหมัดเดียว ก็เอาชนะทีเคโอผู้ท้าชิงไปได้อย่างน่าประทับใจ โดยการชกครั้งนี้เป็นการชกร่วมรายการเดียวกับ สด จิตรลดา ป้องกันตำแหน่งแชมป์โลก WBC รุ่นฟลายเวท กับกาบริเอล เบร์นัล ด้วย
หลังจากได้แชมป์โลก สามารถกลายเป็นนักมวยเจ้าสำราญ ฟิตซ้อมไม่เต็มที่และเริ่มมีปัญหาน้ำหนักตัว ในที่สุดเมื่อสามารถเดินทางไปป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 2 เป็นการป้องกันตำแหน่งนอกบ้านถึงประเทศออสเตรเลีย กับนักมวยเจ้าถิ่น เจฟฟ์ เฟเนค (ซึ่งต่อมาเป็นนักมวยชื่อดังระดับโลก เป็นแชมป์โลก 3 รุ่น) การชกครั้งนี้สามารถประสบปัญหาน้ำหนักตัวซึ่งต้องลดอย่างมาก จึงถูกเฟเนคเดินหน้าบุกชกจนเป็นฝ่ายแพ้ทีเคโอในยกที่ 4 อย่างหมดรูป กระนั้นยังมีผู้ตั้งข้อสงสัยว่า สามารถล้มมวยเพราะไม่เชื่อว่าฟอร์มการชกก่อนหน้านั้น 2 ครั้ง จะทำให้สามารถแพ้อย่างง่ายดายเช่นนี้ ซึ่งสามารถได้พิสูจน์ความจริงใจของตนเองด้วยพิธีสาบานที่วัดพระแก้วจนเป็นข่าวครึกโครมในช่วงนั้น และไปบวชอยู่ระยะหนึ่ง
หลังเสียแชมป์โลกแล้ว สามารถยังคงชกมวยสากลต่ออีก 2 ครั้งจึงกลับมาชกมวยไทย ซึ่งก็ประสบความสำเร็จด้วยการชนะนักมวยชั้นนำในสมัยนั้นหลายคน เช่น เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง เป็นต้น จนใน พ.ศ. 2531 สามารถ พยัคฆ์อรุณ ได้รับรางวัลนักมวยไทยยอดเยี่ยม จากสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬา โดยชกชนะรวดในปีนั้น ชนะทั้งพนมทวนเล็ก ศ.สิรินันท์ สำราญศักดิ์ เมืองสุรินทร์ นำพล หนองกี่พาหุยุทธ เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง แต่ต่อมาหลังชกแพ้วังจั่นน้อย ส.พลังชัยไปอย่างบอบช้ำ สามารถก็ประกาศเลิกชกมวยไทยไป
สามารถ พยัคฆ์อรุณ กลับมาชกมวยสากลอีกครั้งใน พ.ศ. 2536 โดยมี ทรงชัย รัตนสุบรรณ เป็นผู้สนับสนุนอีกเช่นเคย สามารถชกอุ่นเครื่องชนะรวด 5 ครั้ง จึงได้ชิงแชมป์โลกของ WBA ในรุ่นเฟเธอร์เวท กับ เอลอย โรฮัส นักมวยชาวเวเนซุเอลา ในปี พ.ศ. 2537 ที่จังหวัดตรัง ผลการชกคือ สามารถแพ้ทีเคโอไปอย่างสิ้นสภาพในยกที่ 8 ปิดฉากชีวิตในแบบนักมวยทันที
วงการบันเทิง
ด้วยความเป็นคนหนุ่มหน้าตาดี มีบุคลิกที่โดดเด่น ประกอบกับมีนิสัยเจ้าสำราญ ทำให้มีบุคคลชักชวนเข้าสู่วงการบันเทิง ซึ่งก็ประสบความสำเร็จไม่แพ้ในวงการมวยเลยทีเดียว สามารถมีผลงานในวงการบันเทิงครั้งแรกโดยการออกเทปกับบริษัทแกรมมี่ ในชื่อชุด "ร็อกเหน่อ ๆ" มีเพลงดังที่รู้จักกันดีในยุคนั้นคือเพลง "อ่อนซ้อม" โดยเป็นการล้อเลียนการซ้อมมวยของสามารถเอง ซึ่งมักถูกกล่าวว่าเป็นมวยซ้อมน้อย และได้ออกอัลบั้มชุดต่อ ๆ มาอีกหลายชุด ไม่เพียงเท่านั้น สามารถยังได้ถ่ายแบบ แสดงหนัง ละคร หลายต่อหลายเรื่อง สามารถกลายเป็นดาราชื่อดังชั้นแนวหน้าในระยะเวลาไม่นาน และประสบความสำเร็จในวงการบันเทิงโดยได้รับรางวัลตุ๊กตาทองจากภาพยนตร์เรื่อง "ขยี้" ร่วมกับลิขิต เอกมงคล ในปี พ.ศ. 2534 เป็นครั้งแรกของไทยจวบจนถึงปัจจุบันนี้ ที่มีนักแสดงนำชายที่ได้รับรางวัลนี้พร้อมกันถึง 2 คน
ซึ่งในระหว่างที่ยังมีชื่อเสียงอยู่นั้น สามารถมีข่าวคราวว่าคบหาอยู่กับ กันตา ดานาว นักแสดงสาวที่แสดงเรื่องขยี้อยู่ด้วยกัน
ในปี พ.ศ. 2558 สามารถกลับมาแสดงภาพยนตร์อีกครั้ง โดยเป็นภาพยนตร์สารคดีชีวประวัติของตัวเอง ในเรื่อง มาดพยัคฆ์ ซึ่งสามารถทำหน้าที่เล่าเรื่องด้วยตนเอง โดยภาพยนตร์เรื่องนี้จัดสร้างโดย นาวสตูดิโอ ในเครือเนชั่น และมีการนำมาตัดเป็นตอน ๆ จำนวน 5 ตอน ออกอากาศทางช่อง นาว 26 ตั้งแต่วันที่ 15 - 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
ผลงานแสดงภาพยนตร์
- นักเลง (2533)
- โหด (2533)
- โอวตี่ 2 (2533)
- สงครามเพลงแผน 2 (2533)
- พยัคฆ์สาวเห่าไฟ (2533)
- บ้านผีดุ (2533)
- ตี๋ใหญ่ 2 (2533)
- ตะบันเพลิง (2533)
- คู่เดือด (2533)
- คนพันธุ์ดุ (2533)
- ขยี้ (2533)
- เชือดหน่อๆ (2533)
- เพชฌฆาตเหล็ก (2533)
- สองผู้ยิ่งใหญ่ (2533)
- เพื่อนคู่โหด (2534)
- มันขึ้นมาจากโลง (2534)
- มือขวาอาถรรพ์ (2534)
- ลำหักลำโค่น (2534)
- สารวัตรแดนตาย (2534)
- กะหัง (2534)
- พยัคฆ์ภูผา (2534)
- ทะลุฟ้ามาเกิด (2534)
- คัมภีจ้าวนักเลง (2534)
- ระห่ำ 100% (2534)
- เจ้าทรงปืน (2534)
- บ้าเกินพิกัด (2534)
- ขุนพลเพลงนักเลงปืน (2534)
- ทะนง (ระห่ำสะท้านโลก) (2534)
- แบ๊งค์เถื่อน (2534)
- ยุ่งดะมะด๊อง (2535)
- ล้างเมืองคนดุ (2535)
- ไม่นิ่มไม่เชือด (2535)
- 90840 จับตาย (2535)
- เพชรเหนือเสือ (2535)
- จับกังกรรมกรเบอร์ 1 (2536)
- หนุ่มมอเตอร์ไซค์ หวานใจสาวโรงงาน (2536)
- หม่ำ ผจญกระหัง ปะทะปอบ (2536)
- นักรบภูผาเดือด (2536)
- บ้าทะลุโลก (2536)
- ลำเพลินลำปืน (2536)
- เพลงรักข้ามคลอง (2536)
- หาดรักเพลงสวรรค์ (2537)
- มือปืนพเนจร (2537)
- หน่วยรบสติแตก (2538)
- หัวใจนางหัวเธอ (2543)
- สุริโยไท (2544)
- ผีหัวขาด (2545)
- 7 ประจัญบาน (2545)
- เสือตุ๋ยต๊ะติ๊งโหน่ง (2545)
- ดึก ดำ ดึ๋ย (2546)
- ฆ่าโบกปูน (2546)
- คนปีมะ (2546)
- พยัคฆ์ร้าย 3 สลึง (2546)
- หักศอก มัจจุราช (2546)
- คู่เสี่ยวหมัดสั่ง (2547)
- บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม (2547)
- 7 ประจัญบาน 2 (2548)
- คนไฟบิน (2549)
- หญิงแกร่งเมื่องถลาง (2549)
- แซ่บ (2549)
- ไชยา (2550)
- เวิ้งปีศาจ (2550)
- มาดพยัคฆ์ (2558)
- คืนรัง (2562)
- หลวงพี่กะอีปอบ (2563)
- มนต์รักดอกผักบุ้ง เลิกคุยทั้งอำเภอ (2563)
ผลงานละคร
- เจ้าสาวในชุดสีดำ (2532) ช่อง 7
- ยอดพธู (2532) ช่อง 5
- ตะกายดาว ตอน ระวังดาว (2533) ช่อง 9
- ไผ่แดง (2534) ช่อง 7
- ละครสั้นปากกาทอง เรื่อง คู่เก่าเมียรัก (2535) ช่อง 7
- ช่างมันฉันไม่แคร์ (2536) ช่อง 5
- นักเรียนตรง (2537) ช่อง 3
- เหตุเกิดที สน ตอนบุญมีคนซื่อ(2537) ช่อง 7
- นายขนมต้ม (2539) รับบท ดำ ช่อง 7
- สวัสดีคุณครู (2541) ช่อง 7
- อัศจรรย์ใจไทยแลนด์ (2541) ช่อง 5
- เพชรตาแมว (2542) ช่อง 5
- กองร้อย 501(2542)ช่อง 7
- ตี๋ใหญ่ (2543) รับบท นายโชติ ช่อง 3
- อตีตา (2544) ช่อง 7
- นายฮ้อยทมิฬ (2544) รับบท ทิดถึก ช่อง 7
- ทองพูน โคกโพ ราษฎรเต็มขั้น (2544) รับบท ประสิทธิ์ (ดุ้ย) ช่อง 3
- กองร้อย 501 ตอนแผ่นดินข้าใครอย่าแตะ (2544) ช่อง 7
- ส่วย สะท้านแผ่นดิน (2544) ช่อง ไอทีวี
- จอมคนปล้นผ่าโลก (2545) ช่อง 7
- สืบตำรวจโทบุญถึง (2546) ช่อง 7
- อุทัยเทวี (2546) ช่อง 7
- สะใภ้ภูธร (2547) ช่อง 3
- รวมพลก้นบาตร ตอน นักโทษแหกคุก (2547) ช่อง 7
- บอดี้การ์ดแดดเดียว (2548) ช่อง 3
- ทางหลวงทางรัก (2548) ช่อง 3
- เพื่อนรักเพื่อนร้าย (2549) รับบท กระทิง ช่อง 7
- โก๊ะจ๋า ป่านะโก๊ะ (2549) รับบท ทองใบ ช่อง 7
- ดิน น้ำ ลม ไฟ (2552) ช่อง 3
- หยกเลือดมังกร (2555) รับบท คมทวน ช่อง 7
- สุภาพบุรุษบ้านทุ่ง (2556) รับบท กำนันเจิม ช่อง 7
- แม่ค้า (2556) รับบท ฟ้าคำรณ ช่อง 7
- ลูกผู้ชายหัวใจเข้ม (2557) รับบท ครูเขต ช่อง 7
- เนตรนาคราช (2557) รับบท ลุงหิน ช่อง 7 (รับเชิญ)
- จับกัง (2558) รับบท ลุงอ่าง ช่อง 7
- เพื่อน-แพง (2558) รับบท ผู้ใหญ่ผาด ช่อง 7
- สิงห์รถบรรทุก (2558) ช่อง 7
- ฉันทนาสามช่า (2559) รับบท ทวิป ช่อง 7
- ข้ามาคนเดียว (2559) รับบท คำม่วน ช่อง 7
- มือเหนือเมฆ (2560) รับบท ลุงแบน ช่อง 7
- มือปืนพ่อลูกติด (2560) ช่อง 7 (รับเชิญ)
- นายฮ้อยทมิฬ (2560) รับบท ทิดจันทา ช่อง 7
- มหาหิน (2560) ช่อง 7
- หัวใจลูกผู้ชาย (2562) รับบท จ่าเฉื่อย ช่อง 7
- เสียงเอื้อนสะเทือนดาว (2562) รับบท ทองก้อน ทวีวงษ์ (ก้อน) ช่องวัน (รับเชิญ)
- 4 เทพผู้พิทักษ์ (2562) รับบท หมอโชค ช่องวัน
- คนเหนือฅน (2563) รับบท เสือผ่าน ช่อง 7 (รับเชิญ)
- แด่คุณพ่อด้วยแข้งขวา (2564) รับบท ครูเทียน ไทยรัฐทีวี
- ทะเลเดือด (2564) รับบท ทองดี ช่อง 7
- เผาขน (2564) รับบท ผู้พัน ช่อง 7 (รับเชิญ)
- เวราอาฆาต (2564) รับบท แผน ช่อง 8 (รับเชิญ)
ผลงานเพลง
- ร็อกเหน่อ ๆ (2533)
- อารมณ์ดี (2533)
- โลกสวยด้วยมือเรา (2534)
- คันไม้ คันไมค์ (2535)
- รวมฮิต หมัดเด็ด (2539)
- สามตะกร้า (สามารถ พยัคฆ์อรุณ, ทอม ดันดี และ กษาปณ์ จำปาดิบ) (2541)
- ยกที่ 6 (2541)
- สี่เหน่อผู้ยิ่งใหญ่ (ร่วมกับ จรัล มโนเพ็ชร, ทอม ดันดี และ ชาย เมืองสิงห์) (2543)
- 3 หมัด สะบัดไมค์ (ร่วมกับ สมรักษ์ คำสิงห์ และเขาทราย แกแล็คซี่) (2546)
ผลงานคอนเสิร์ต
- คอนเสิร์ต บิลลี่ เข้มล่วงหน้า 1999 (2533)
- คอนเสิร์ต Earth Day (2534)
- คอนเสิร์ต Earth Day 2 (2535)
- คอนเสิร์ต ละครอินคอนเสิร์ต (2543)
ซิงเกิ้ล
- ปริญญาผ้าใบ (2558)
- เมียพี่ไม่รู้ (นำทำนองจากเพลง เมียพี่มีชู้ ของ ชาย เมืองสิงห์ โดยมี สมรักษ์ คำสิงห์ และเขาทราย แกแล็คซี่ ร่วมร้องในส่วนของบทพูด) (2559)
- วันนี้ต้องฉลอง (ร่วมร้องกับ ชูษี เชิญยิ้ม และ เหลือเฟือ มกจ๊ก) (2563)
ผลงานโฆษณา
- รถจักรยานยนต์ คาวาซากิ AR125 (2529)
- ฮอนด้า บางเขน
- เอสโซ่ ซูเปอร์ ดีเซล
พิธีกร
โทรทัศน์
- 25 : ทุกวัน เวลา น. ทางช่อง
ออนไลน์
- 2564 : - สามารถ VS ฉมวกเพชร กลับมาแก้แค้นแทนเพื่อนรัก ทางช่อง YouTube:มอสทะเล Channel
ปัจจุบัน
ปัจจุบัน สามารถยังอยู่ในวงการบันเทิง มีผลงานออกมาเป็นระยะ ๆ และในวงการมวยมีค่ายมวยเป็นของตัวเอง และบางครั้งเดินทางไปต่างประเทศเพื่อเป็นเทรนเนอร์มวยไทยด้วย ปัจจุบันสามารถเปิดค่ายมวย "สามารถ พยัคฆ์อรุณ ยิม" อยู่ที่ซอยสายไหม 31 กรุงเทพฯ และเขายังเป็นกรรมการฝ่ายต่างประเทศ สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งเป็นนายกสมาคมกีฬามวยไทยนายขนมต้มอีกด้วย
สามารถ พยัคฆ์อรุณ มีบุตรธิดากับภรรยาเก่า 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน บุตรคนที่ 2 คือ กวิน ทิพย์ท่าไม้ และลูกสาวคนเล็ก อาศัยอยู่กับมารดาที่สหรัฐอเมริกา ส่วนบุตรคนโตช่วยงานเป็นครูสอนมวยไทยอยู่ที่สามารถพยัคฆ์อรุณยิม และหย่ากับวลัยทิพย์ ภพธีรธรรม(หญิง)แล้ว
ปัจจุบันคบหาดูใจกับ “น้องมอส” ธิดารา เป็นลูกสาวของ เรืองชัย ไทยรุ่งเรือง (ร่วมค่ายยุคเดียวกับ เริงชัย ไทยรุ่งเรือง) อดีตนักมวยไทยรุ่นน้องสามารถ
สถิติการชก
- ชกอุ่นเครื่อง และ ชกนอกรอบ (เฉพาะมวยสากล)
- 24 สิงหาคม พ.ศ. 2525 ชนะคะแนน 10 ยก เนตรน้อย ศ.วรสิงห์ ที่ สนามมวยเวทีลุมพินี
- 24 เมษายน พ.ศ. 2527 ชนะคะแนน 10 ยก ฮวนนิโต้ ปาวิล่า ( ฟิลิปปินส์) ที่ สนามมวยเวทีลุมพินี
- 12 มิถุนายน พ.ศ. 2527 ชนะน็อกยก 1 โม โน้ด ( อินโดนีเซีย) ที่ สนามมวยเวทีลุมพินี
- 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2527 ชนะน็อกยก 7 เนปตาลี อลามัก (ฟิลิปปินส์) ที่ สนามมวยเวทีลุมพินี
- 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2527 ชนะน็อกยก 4 ฟาลิด กาลูซ ( ฝรั่งเศส) ที่ สนามมวยเวทีลุมพินี
- 6 มกราคม พ.ศ. 2528 ชนะคะแนน 10 ยก เอกลักษณ์ สิงห์นครหลวง ที่ เวทีมวยช่อง 7 สี
- 22 มิถุนายน พ.ศ. 2528 ชนะคะแนน 10 ยก ไฮเม่ เอนริเกวซ (ฟิลิปปินส์) ที่ อาคารกีฬานิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ
- 15 กันยายน พ.ศ. 2528 ชนะน็อกยก 6 ช่อ ห้าพลัง ที่ เวทีมวยช่อง 7 สี
- 13 ตุลาคม พ.ศ. 2528 ชนะน็อกยก 8 ทองเปิ้ม ลูกมาตุลี ที่ เวทีมวยช่อง 7 สี
- 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2528 ชนะน็อกยก 6 ปาร์ค บวง ชู ( เกาหลีใต้) ที่ เวทีมวยช่อง 7 สี
- 20 มิถุนายน พ.ศ. 2529 ชกนอกรอบ ชนะคะแนน 10 ยก ราฟาเอล กันดาริญญ่า ( สหรัฐ) ที่ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
- 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2530 ชนะน็อกยก 8 โฮกัน โนกูจิ ( ญี่ปุ่น) ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา
- 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 ชนะน็อกยก 4 เฮคเตอร์ เคอร์เตส (สหรัฐอเมริกา) ที่ เวทีมวยสยามอ้อมน้อย
- 8 สิงหาคม พ.ศ. 2536 ชนะคะแนน 10 ยก รูดี้ คาบิเลส (ฟิลิปปินส์) ที่ เวทีมวยชั่วคราวลานโลกดนตรี ททบ.5
- 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536 ชนะน็อกยก 5 อิกนาโซ่ ฮาโคเม่ (เม็กซิกัน) ที่ เวทีมวยชั่วคราวลานโลกดนตรี ช่อง 5
- 23 มกราคม พ.ศ. 2537 ชนะคะแนน 10 ยก ไทเกอร์ อาริ (ฟิลิปปินส์) ที่ เวทีมวยชั่วคราวจังหวัดสุราษฎร์ธานี :
- 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2537 ชนะคะแนน 10 ยก โบเอ็ด แอนดาเรส (ฟิลิปปินส์) ที่ เวทีมวยชั่วคราวจังหวัดฉะเชิงเทรา :
- 10 เมษายน พ.ศ. 2537 ชนะน็อกยก 5 เจอร์รี่ วิลลาคอร์เต้ (ฟิลิปปินส์) ที่ เวทีมวยชั่วคราวจังหวัดสมุทรปราการ :
- แชมป์โลก WBC รุ่นซูเปอร์แบนตัมเวท
- ชิง 18 มกราคม พ.ศ. 2529 ชนะน็อกยก 5 ลูเป ปินตอร์ ( เม็กซิโก) ที่ อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก
- ป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 1 : 10 ธันวาคม พ.ศ. 2529 ชนะทีเคโอยก 12 ฆวน เมซา (เม็กซิโก) ที่ อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก
- เสียแชมป์ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2530 แพ้ทีเคโอยก 4 เจฟฟ์ เฟเนค ( ออสเตรเลีย) ที่ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เซ็นเตอร์ เมืองซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์
- เคยชิงแชมป์ต่อไปนี้แต่ไม่สำเร็จ
- 11 กันยายน พ.ศ. 2537 : ชิงแชมป์โลก WBA รุ่นเฟเธอร์เวท, แพ้ทีเคโอยก 8 เอลอย โรฮัส ( เวเนซุเอลา) ที่ โรงแรมเรือรัษฎา จังหวัดตรัง ประเทศไทย
อ้างอิง
- The Global-Thai Backbone. กองบรรณาธิการ. THE COMPANY. ปีที่ 14 ฉบับที่ 166. กันยายน 2554. เลิฟแอนด์ลิฟเพรส. หน้า 104
- ↑ ชายพจน์. มวยดังไทยแลนด์ในอดีต: พยัคฆ์หน้าหยก สามารถ พยัคฆ์อรุณ แชมป์โลกคนที่ 10 ของไทย. นิตยสารมวยโลก. ปีที่ 11 เล่มที่ 866 11-17 เมษายน พ.ศ. 2544 หน้า 41-43
- "สามารถ พยัคฆ์อรุณ สมฉายา เพชฌฆาตหน้าหยก โยกหลบหมัด 20 หมัด". ยูทิวบ์. 22 July 2014. สืบค้นเมื่อ 25 August 2015.
- นิตยสารคนเด็ดฉบับพิเศษ. 22 แชมป์โลกชาวไทย โดย สำนักพิมพ์ดวงตา (กรุงเทพ, พ.ศ. 2538)
- "สามารถ พยัคฆ์อรุณ Vs เอลอย โรฮัส". ยูทูบ. 27 July 2009. สืบค้นเมื่อ 25 August 2015.
- "มาดพยัคฆ์". เอ็มไทยดอตคอม. 24 August 2015. สืบค้นเมื่อ 25 August 2015.
- Playlist มาดพยัคฆ์
- รายนามคณะกรรมการสมาคมกีฬ่ามวยอาชีพแห่งประเทศไทย,
แหล่งข้อมูลอื่น
- สถิติการชก
- คลิปวิดีโอการชกกับ ฆวน เมซา