อันดับกบ
กบ เป็นอันดับของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำอันดับหนึ่ง ใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Anura (/อะ-นู-รา/)
อันดับกบ ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: จูราสสิกตอนต้น-ปัจจุบัน, 200–0Ma | |
---|---|
Paedophryne amauensis เป็นกบที่มีขนาดเล็กมาก มีความยาวเพียง 7 มิลลิเมตรเท่านั้น อาจถือได้ว่าเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำและสัตว์มีกระดูกสันหลังที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกด้วย อยู่ในวงศ์ Microhylidae | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | สัตว์ |
ไฟลัม: | สัตว์มีแกนสันหลัง |
ชั้น: | สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก |
เคลด: | Salientia |
อันดับ: | อันดับกบ |
วงศ์ | |
| |
แผนที่แสดงการกระจายพันธุ์ของกบทั่วโลก |
มีรูปร่างโดยรวม คือ เป็นสัตว์ไม่มีหาง เพราะกระดูกสันหลังส่วนหางได้เชื่อมรวมเป็นชิ้นเดียวยาวกระดูกสันหลังลดจำนวนลงมาจากสัตว์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์เพราะมีไม่เกิน 9 ปล้อง มีขาหลังยาวจากการยืดของกระดูกทิเบียกับกระดูกฟิบูลาและของกระดูกแอสทรากากัสกับกระดูกแคลลาเนียม โดยมีบางส่วนเชื่อมติดกันและเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อแข็งแรง เพื่อใช้ในการกระโดด มีส่วนหัวที่ใหญ่และแบนราบ ปากกว้างมาก
กบในระยะวัยอ่อนจะมีลักษณะแตกต่างไปจากตัวเต็มวัยอย่างชัดเจน เรียกว่า "ลูกอ๊อด" โดยมีรูปร่างคล้ายปลา มีส่วนหัวที่โตมาก มีหาง ไม่มีฟัน โดยในส่วนโครงสร้างของจะงอยปากเป็นสารประกอบเคอราติน หายใจด้วยเหงือกเหมือนซาลาแมนเดอร์ พฤติกรรมการกินอาหารของลูกอ๊อดจะแตกต่างกันไป โดยอาจจะกินแบบกรองกิน หรือกินพืช และกินสัตว์ เมื่อเปลี่ยนรูปร่างเป็นตัวเต็มวัยจึงเปลี่ยนลักษณะการกิน รวมทั้งเปลี่ยนสภาพโครงสร้างของอวัยวะระบบย่อยอาหารรวมทั้งระบบอวัยวะอย่างอื่น ซึ่งการเปลี่ยนรูปร่างของกบนั้นจะต่างจากซาลาแมนเดอร์เป็นอย่างมาก
การสืบพันธุ์ของกบนั้นมีหลากหลายมาก ส่วนการปฏิสนธิจะเกิดขึ้นภายนอกตัว โดยทั้ง 2 เพศมีพฤติกรรมกอดรัดกันระหว่างผสมพันธุ์ กบส่วนมากจะป้องกันดูแลไข่ นอกจากบางชนิดเท่านั้นที่เก็บไข่ไว้บนหลัง ที่ขา ในถุงบนหลัง หรือในช่องท้อง หรือบางชนิดวางไข่ติดไว้กับพืชน้ำที่เติบโตในน้ำหรือบนกิ่งไม้ของต้นไม้เหนือน้ำและเฝ้าไข่ไว้ การปฏิสนธิที่เกิดขึ้นภายในตัวจะพบเพียงกับกบบางชนิดเท่านั้น เช่น Ascaphus truei เป็นต้น และการเจริญของเอมบริโอภายในไข่และวัยอ่อนที่ออกจากไข่มีรูปร่างเป็นเหมือนตัวเต็มวัยเลย โดยไม่ผ่านขั้นการเป็นลูกอ๊อดเกิดขึ้นกับหลายสกุลในหลายวงศ์ อาทิ สกุล Hemiphractus และStefania เป็นต้น
กบ เป็นสัตว์ที่ถือกำเนิดมาแล้วราว 200 ล้านปีก่อน และเป็นสัตว์ที่อยู่รอดพ้นมาได้จากการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่เมื่อ 65 ล้านปีก่อน ที่ทำให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ โดยนักวิทยาศาสตร์ที่ทำการศึกษาถึงเรื่องนี้ เชื่อว่า เพราะกบเป็นสัตว์ที่หลบซ่อนตัวอยู่ใต้ดินได้อย่างเป็นดี และเป็นสัตว์ที่ปรับตัวได้ดีให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศแบบใหม่ จากการศึกษาพบว่า กบในยุคปัจจุบันราวร้อยละ 88 เป็นกบที่มีที่มาจากอดีตที่สามารถย้อนไปไกลได้ถึง 66–150 ล้านปีก่อน โดยศึกษาจากการตรวจสอบทางพันธุกรรมและเปรียบเทียบระดับยีนและโมเลกุลระหว่างกบในยุคปัจจุบัน และซากดึกดำบรรพ์ของกบในยุคก่อนประวัติศาสตร์ โดยพบว่า กบใน 3 วงศ์ คือ Microhylidae หรืออึ่งอ่าง, Natatanura ที่พบในทวีปแอฟริกา และHyloidea ที่พบในทวีปอเมริกาใต้ เป็นกบที่สืบสายพันธุ์มาจากกบในยุคก่อนประวัติศาสตร์ และปัจจุบันได้มีการสืบสายพันธุ์และแตกแขนงทางชีววิทยาไปทั่วโลก
ปัจจุบัน ได้มีการอนุกรมวิธานกบออกเป็นวงศ์ทั้งหมด 27 วงศ์ ใน 419 สกุล ปัจจุบันพบแล้วกว่า 6,700 ชนิด นับว่าเป็นอันดับที่มีความหลากหลายมากที่สุดของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ และก็ยังคงมีการค้นพบชนิดใหม่ขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี ประมาณ 60 ชนิดต่อปี โดยกบส่วนใหญ่จะพบในเขตร้อน โดยใช้หลักการพิจารณาจาก โครงสร้างกระดูก, กล้ามเนื้อขา, รูปร่างลักษณะของลูกอ๊อด และรูปแบบการกอดรัด เป็นต้น
การจำแนก
- Ascaphidae
- Leiopelmatidae
- Bombinatoridae
- Discoglossidae
- Megophryidae
- Pelobatidae
- Pelodytidae
- Rhinophrynidae
- Pipidae
- Allophrynidae
- Brachycephalidae
- Bufonidae
- Heleophrynidae
- Leptodactylidae
- Myobatrachidae
- Sooglossidae
- Hylidae
- Pseudidae
- Centrolenidae
- Microhylidae
- Dendrobatidae
- Hemisotidae
- Arthroleptidae
- Ranidae
- Hyperoliidae
- Rhacophoridae
ความสัมพันธ์กับมนุษย์
กบ ถือเป็นสัตว์ที่ผูกพันกับมนุษย์มาอย่างยาวนานแล้ว ในฐานะของสัตว์ที่มนุษย์กินเนื้อเป็นอาหาร จนเกิดเป็นความเชื่อและอยู่ในวัฒนธรรมของชนชาติต่าง ๆ มากมาย เช่น ชนชาติไทมีความเชื่อแต่โบราณว่า ปรากฏการณ์สุริยุปราคาและจันทรุปราคาเกิดจากกบอมดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เรียกว่า "กบกินเดือน" หรือ "กบกินตะวัน" ต้องใช้การตีเกราะเคาะไม้ จึงจะยอมคาย และเป็นนิทานพื้นบ้าน ในเรื่อง "อุทัยเทวี"
ชาวจีนเชื่อว่า มีกบหรือคางคกที่มีลำตัวสีทอง และมี 3 ขา เรียกว่า "เซียมซู่" เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ และให้ผลในทางโชคลาภวาสนาแก่ผู้ที่บูชาสักการะ เช่นเดียวกับ "ปี่เซียะ" เป็นต้น ชาวจ้วง ชนพื้นเมืองทางภาคใต้ของจีนเชื่อว่า กบเป็นสัญลักษณ์ของน้ำและความอุดมสมบูรณ์ เมื่อฝนแล้ง ในพิธีขอฝน จะมีการเต้นรำด้วยการกางแขนกางขา ยกแขนสองข้างชูขึ้นฟ้า คล้ายกับกบ
ในขณะที่ในประเทศไทย กบหลายชนิดได้ถูกเลี้ยงเพาะขยายพันธุ์เพื่อการบริโภค เช่น กบนา (Hoplobatrachus rugulosus), กบทูด (Limnonectes blythii), อึ่งปากขวด (Glyphoglossus molossus) เป็นต้น ขณะที่หลายชนิดก็เลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง
อ้างอิง
- "ฮือฮาพบ "กบ" ขนาดเล็กที่สุดในโลก ตัวจิ๋วเพียง 7 มม". ผู้จัดการออนไลน์.
- "กบ". พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน.
- หน้า 7 โลกาภิวัฒน์ GLOBALIZATION, กบเป็นสัตว์ที่รอดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่เมื่อ 66 ล้านปีก่อน. "โลกโศภิณ". ไทยรัฐปีที่ 68 ฉบับที่ 21727: วันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 แรม 9 ค่ำ เดือน 8 ปีระกา
- หน้า 314-348, วิทยาสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ โดย วีรยุทธ์ เลาหะจินดา (พ.ศ. 2552) ISBN 978-616-556-016-0
- กบกินเดือน..หมายถึงอะไร ช่วยบอกที???
- "นิทานเรื่อง : อุทัยเทวี (นางพญาขี้คันคาก)". ชมรมศิลปวัฒนธรรมอีสาน.
- คางคกสามขา สัตว์นำโชคมงคล
- "กลอง–กบ". ไทยรัฐ.
- "การเพาะเลี้ยงกบทูด หรือกบภูเขา หรือเขียดแลว". เทคโนโลยีชาวบ้าน.
- "เกษตรน่ารู้ : "อึ่งปากขวด" อึ่งอ่างพันธุ์หายากใกล้สูญพันธุ์". ช่อง 7.
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: อันดับกบ |
แหล่งข้อมูลอื่น
วิกิสปีชีส์มีข้อมูลภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ Anura |